ตอนแรกๆ ก็คิดว่าเป็นเด็กวัยรุ่นคุยกันยามเช้าแบบปกติธรรมดาทั่วไป ที่ชอบคุยกันแบบเสียงดัง
แต่นานๆเข้าหน่อยนึง มันก็มีเสียงของกระจาย ดังพลั่กๆ เสียงรถล้ม
ตอนนั้น ใครไม่ตื่นก็ต้องตื่นแหละเพราะเสียงดังจนน่ารำคาญ (ผมอยู่ห้องเช่าชั้น 3 ในซอยเล็กๆ แถวๆวัดพระหฤทัย)
ก็เดินงัวเงียขี้ตา มาดูที่หน้าต่างที่อยู่ฝากถนนเล็กๆในซอยที่ผมอยู่ เพื่อมาสำรวจต้นเหตุของเสียงดัง อันเป็นการรบกวนเวลาอันแสนสบายของผมอยู่นั้น
เลยเจอเหตุการณ์ทะเลาะระหว่างสามีภรรยา (วัยรุ่นประมาณนักศึกษา สวยหล่อทั้งคู่) ที่ฝ่ายแฟนสาวนั้น ยื้อยุด ฉุดและรั้งขาของเขากลางถนนในซอยเล็กๆไว้ เพื่อไม่ให้ฝ่ายสามีจากไป (เหมือนละครเล๊ย)
ผมเองดูเหตุการณ์อยู่ข้างบนชั้น3 และก็ไม่ค่อยเคยเห็นเหตุการณ์นี้บ่อยเท่าไหร่นักในชีวิตก็เลยดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง .. ในตอนแรกก็คิดว่าเรื่องของผัวๆเมียๆทะเลาะกัน(แบบ softๆ) เพื่อจะลาจาก เลิกลากันธรรมดาทั่วๆไป เดี๋ยวก็สงบเอง
แต่ไม่เลยเมื่อฝ่ายหญิงไม่ยอมซะขนาดนั้น ยื้อยุด ฉุดตัวเข้าไว้ ... ฝ่ายชายดูจะอารมณ์เสียมากๆ เมื่อฝ่ายหญิงไม่ยอมซะขนาดนั้น ก็เลยต้องลงไม้ลงมือกันหน่อย
เซ็นเซอร์คำนิดนึง เพื่อเข้าถึงอารมณ์
"อย่าไปเลยนะตัวขอร้อง ตัวอย่าไปเลย ฮือๆ

ฝ่ายชาย "Muung ไม่ปล่อย Goo ใช่ไหม๊ ได้...

พร้อมกับใช้กำปั้นกระหนั่มทุบตีคู่รัก ที่ไม่รักอีกต่อไปแล้ว อย่างไม่ออมมือทั้งทางใบหน้า ท้อง พร้อมกับจิกหัว พลักเธอไปมา
แต่ฝ่ายหญิงก็ยังอดกลั้นไม่อ่อนแอและอ่อนข้อ ยังดื้อที่จะตื้อเค้าอยู่
"อย่าไปเลยนะตัว เราขอร้อง เราขอโทษ

ฝ่ายชายเห็นดังนั้น ก็เลยพลักเธอลงไปพร้อมกับพูดว่า
"Goo ไม่รัก Muung แล้ว Muung ปล่อย Goo เดี๋ยวนี้" พร้อมกับพูดว่า "Goo ไม่รัก Muung แล้ว"ๆๆๆ พร้อมกับเตะไม่ยั้ง ผสานกับจังหวัดคำและการเตะ เธอก็ได้แต่ร้องโอดโอย

"ตัวอย่าทำรุนแรงกับเค้าเลย ขอร้อง...เค้ากลัวแล้วๆ ฮือๆ

ตอนนั้นผมเองตัวสั่นเครือด้วยความโกรธ จนทนไม่ไหวแล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ด้วยความที่อ่อนเพลียจากการเพิ่งตื่นนอน และไม่ได้เป็นคนที่มีร่างกายกำยำอะไรสักเท่าไหร่ ... แต่ก็อยากไปห้าม และไปช่วยเหลือผู้ถูกกระทำอยู่นั้น แต่ก็ยังคิดว่าถ้าผมไปช่วยเหลือเค้าคนนั้นผมต้องแพ้ราบคาบแน่ๆ สู้ไม่ไหวหรอก (ยังโทษตัวเองถึงตอนนี้เลย ทำไมไม่กล้าหาญพอนะ ... แม้แต่ตะโกนก็ไม่กล้า) ขณะนั้นชาวบ้านบางบ้านก็โผล่หน้าออกมาดูกันหลายคนเหมือนกัน...หลายคนก็ตะโกนห้าม แต่สามีคนนั้นแน่นอนว่าไม่ฟังใครอยู่แล้ว "เรื่องของผัวเมียอย่า s + เอือก".. ผมก็เลยทำเท่าที่ทำได้ก็คือ สวดภาวนาบทข้าแต่พระบิดา วันทามารีอา พร้อมน้ำตาไหวพลั่กๆ (ทั้งสงสารเค้า และสงสารตัวเองที่ไปช่วยเหลือเค้าไม่ได้มาก) เสียงเตะเสียงตบก็ยังดังอยู่ในขณะสวดภาวนา ทำให้การสวดนี้ขนลุกน่าสะพรึงกลัว และศักดิ์สิทธิ์ไปพร้อมๆกัน (ใครไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอกนะ)
หลังจากสวดได้สักระยะหนึ่งเสร็จ ได้ยินเค้าพูดว่า "Muung ไปเก็บกระเป๋ามา...." พร้อมกับฝ่ายแฟนสาวนั้นรีบเดินไปหยิบกระเป๋าที่ตกอยู่ไกลๆโน้น เดินไปหยิบกระเป๋าพร้อมกับเหลียวหลังไปตลอดเพื่อคอยจับตาดูฝ่ายชายไม่ให้คลาดสายตา "อย่าหนีเค้าไปไหนนะ เค้าไปหยิบให้นะ" แล้วฝ่ายชายก็วิ่งขึ้นไปคล่อมรถมอเตอร์ไซค์พร้อมสตาร์ทเครื่อง ฝ่ายหญิงก็รีบวิ่งแจ้นกลับมาหาแฟนขณะที่ไปได้ถึงกลางทาง "เอ้...Goo บอกให้ไปหยิบกระเป๋ามา"เมื่อแผนกะจะชิ่งหนีไม่ได้ผล ก็เลยลงมาจากรถ มาซ้อมต่อ คราวนี้ซ้อมหนักไปมาก(ไม่หน่อย) แฟนสาวสลบเลย ... และฝ่ายชายเห็นดังนั้นก็จะขี่รถหนีไปแล้ว
ไม่ไหวแล้ว ...ผมก็เลยรีบกด 191 ทันที บอกตำรวจไปว่ามีสามี(หรือแฟน)ทะเลาะกันเกินกว่าเหตุ ฝ่ายหญิงสลบอยู่ข้างถนน เลยขอแจ้งความไว้ก่อน
ด้วยความที่ไม่เคยกดโทรแจ้งความ 191 (ไม่รวมโทรเล่นตอนเด็ก) นั้นก็ไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ว่าแค่ยกหูปั๊บ ทำไมตำรวจมันรู้ว่าเราอยู่ที่ไหน ... ทั้งที่ใช้มือถืออ้อ คงใช้ GPRS มั้ง เค้าก็เลยรู้แบบคร่าวๆว่าเราอยู่ไหน เสร็จสรรพเค้าก็แจ้งสายตรวจไปให้ .... พอไปดูที่หน้าต่างอีกที มันก็ลากฝ่ายแฟนสาว ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไปอย่างยากลำบาก (คงเปลี่ยนใจและกลัวความผิดกระมัง เลยเอาไปด้วย)
น่าสงสารเธอจริงๆ ... แต่ตำรวจก็มาช้าไปแล้ว เค้าไปได้สัก 10 นาทีแล้ว ก็เลยบอกตำรวจไปว่า ใส่เสื้อสีอะไรขับรถอะไรไปเพื่อเป็นข้อมูล...เผื่อว่าคนๆนั้นจะสิ้นคิด ทำอะไรเกินไปจนถึงขั้นเสียชีวิตขึ้นมา
ผมเลยถามตัวเองและเพื่อนๆว่า สิทธิของคู่สามีภรรยานั้น อยู่ถึงแค่ไหนที่ผู้ช่วยเหลืออื่นสามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้
แต่ผมคิดว่าที่ฝ่ายชายกระทำลงไปนี้นั้น เค้าล่วงเกินความเป็นมนุษยชนมากๆ โดยใช้ฐานะที่เคยเป็นหรือที่เป็นอยู่มาอ้างว่า "เป็นเรื่องของผัวเมีย อย่ายุ่ง"