อยากทราบว่า ศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลาม มีอะไรเกี่ยวข้องกันหรอครับ

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
_Tetsuka_
โพสต์: 96
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ เม.ย. 20, 2008 9:43 pm

ศุกร์ พ.ค. 09, 2008 10:00 pm

ช่วยรบกวนบอกทีหะ   


เขาบอกว่าถ้าแปล  คัมภีร์อัลกุรอ่าน  มา  ก้จะเหมือนไบเบิล  บางส่วน  และ  คำสอนบางอย่างยังเหมือนกันแป๊ะ  แล้วอิสลามเขานับถือพระเยซูเป็นนบีละครับ 
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

ศุกร์ พ.ค. 09, 2008 10:12 pm

ถ้าอธิบายเชิงวิชาการผมไม่มีความสามารถ

เอาเป็นว่า
อับราฮัม(ท่านศาสดาอิบรอฮิม คำว่านบีแปลว่าศาสดาอะนะ)
มีลูก2คน
1.อิชมาเอล(ศาสดาอิสมาอีล)
2.อิสอัค(ศาสดาอิสฮ๊าก)
ชาวอาหรับมีเชื้อสายมาจากอิชมาเอล(แล้วน่าตกใจชาวอารยันในอินเดีย ก็มีต้นมาจากอิชมาเอล น่าสังเกตว่าเป็นไปได้ที่ท่านศาสดาพุทธเจ้า อาจมีเชื้อสายอับราฮัม)
ชาวยิวและหลายๆเชื้อชาติในตะวันออกกลางมีเชื้อสายมาจากอิสอัค
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

เสาร์ พ.ค. 10, 2008 12:08 am

เปนพี่น้องร่วมความเชือ่ครับ

เค้าเรียกสามศาสนา (ยิว คริสต์ อิสลาม) ว่าชาวคัมภีร์

พื้นเพเดียวกัน

พ่อองค์เดียวกัน

พระคัมภีร์ก้อมีหลายๆฉบับนะเปนเล่มเดียวกัน

^ ^
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

เสาร์ พ.ค. 10, 2008 12:16 am

Like_a_Heaven เขียน:
เค้าเรียกสามศาสนา (ยิว คริสต์ อิสลาม) ว่าชาวคัมภีร์
อันนี้เคยถามลุง
เฉพาะยิวกับคริสต์ครับที่เรียก อะฮฺลุ้ลกิตาบ(ชาวคิมภีร์)
ส่วนอิสลามจะเรียกศาสนิกว่ามุสลิม แปลว่าผู้จำนนต่ออัลลอฮฺ ประมาณนั้น
และในอิสลามยังมีคำว่ามุอฺมีน แปลว่าผู้ศรัทธา ดังนั้นจึงมีมุสลิมที่ไม่ใช่มุอฺมีน
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

เสาร์ พ.ค. 10, 2008 2:51 pm

ว้าว

ความรู้ใหม่
:: ทั่ น เ บ เ น ดิ๊ ก โ ต ::
โพสต์: 574
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
ติดต่อ:

เสาร์ พ.ค. 10, 2008 3:35 pm

น่าสนใจครับ อยากรู้
ลี วูจิน
โพสต์: 331
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ค. 01, 2005 4:57 pm
ที่อยู่: Thailand
ติดต่อ:

เสาร์ พ.ค. 10, 2008 9:16 pm

น่าสนใจครับ
Sebastian
โพสต์: 11
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 07, 2008 7:13 pm

เสาร์ พ.ค. 10, 2008 10:58 pm

อิสลาม....มีอาดัม  ไล่จนมาถึงมูฮัมมัด ....แต่คริสต์  มีอาดัม จมแค่ พระเยซู ........ต้นตอมีความคล้ายคลึงกันมาก 
ยกตัวอย่าง  พระแม่มารีย์  อิสลามเรียก พระนางมัรยัม  (ลองพูดมารีย์เร็วๆดูแล้วจะคล้ายกัน)  ของคริสต์ พระเยซูได้ เกิดจากการปฏิสนธิโดยพระจิต 
ของอิสลามพระเยซูก็เกิดจากอำนาจของอัลเลาะห์ (พระเยซูไม่มีพ่อที่เป็นกายเนื้อหนัง)    อิสลามเรียกโมเสส ว่ามูซา และมูซานี่เองก็ได้ขึ้นไปรับบัญญัติสิบประการลงมาจากภูเขาซีนาย  เหมือนกับโมเสส ไม่มีผิด...... ดังนั้น  อิสลาม กับคริสต์ ถือได้ว่าเป็นพี่น้องกัน  ต่างกันที่ ความเชื่อบางประการ...ย้ำว่าในทฤษฎีมีความแตกต่างกันน้อยมาก  แต่ในทางปฏิบัติอาจแตกต่างกันมาก.......เพิ่มเติม ...อิสลามกับคริสต์ ไม่ถูกกับชาวยิว (ยาฮูดี)
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 12:01 am

แตกต่างกันเยอะค่ะ   ที่ต่างสุด ๆ คือ

อิสลามบอกว่า พระเจ้าให้มีคนที่หน้าเหมือนพระเยซูไปถูกตรึงกางเขนตายแทน  ไม่ใช่พระเยซู

ซึ่งความเชื่อนี้คือจุดสำคัญที่สุดของชาวคริสต์ 
เราได้รับความรอดจากการตายของพระเยซู
ถ้าพระเยซูไม่ตายบนกางเขน  แล้วเราได้รับการไถ่ยังงัย

เราเชื่อว่า  บัดนี้ เราเป็นลูกของพระเจ้า  พระเยซูทรงสอนเราให้เรียกพระเจ้าว่าบิดา
อิสลามบอกว่า สถานะของพระเจ้ากับมนุษย์ คือ นาย กับ บ่าว 

เราเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า  ในพระตรีเอกภาพ
แต่อิสลามเชื่อว่าพระเยซูเป็นแค่นบีองค์หนึ่ง  และด้อยว่า นบีมูฮัมมัด 

เรายึดถือไบเบิ้ล
อิสลามยึดกุรอาน  ซึ่งไบเบิ้ลอ่านได้  แต่ถูกสุด ๆ ต้องกุรอาน

เรื่องชื่อ   ถ้าจะพูดกันตรง ๆ เราคล้ายกับยิวสุด ๆ ค่ะ
พระแม่มารีย์  ยิวเรียก  มีเรียม  เรียกเร็วๆ  แล้ว ฟังคล้ายกว่านะคะ  คล้ายกว่า  มัรยัม
พระเยซู    ยิวเรียก  โยชัว       ยิ่งเรียกเร็วๆ  แล้ว ฟังคล้ายกว่าคล้ายกว่า   อิซา     ::017::   


ฯลฯ

ต่างกันอีกเพียบเลยคะ  อย่าให้ลงลึกเลย  ร่ายกันไม่หมด

แต่ถ้าจะเอาแบบถูกหลักวิชาการ  ก็รอพี่ ๆ มาตอบให้แล้วกันค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 12:14 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 12:32 am

สรุปแบบง่ายๆ

500ปีหลังพระเยซูเสด็จขึ้นสวรรค์

ชายคนหนึ่งชื่อ มะหะหมัด กล่าวอ้างว่าตนเองได้รับสารจากทูตสวรรค์กาเบียรลว่า ให้เป็นศาสดาใหม่

โดยเขียนคัมภีร์ใหม่ชื่อ อัลกรุอ่าน โดยรวมคัมภีร์พระธรรมเดิมของยิว และพระธรรมใหมใของคริสต์เข้าด้วยกันแต่เขียนใหม่ กล่าวหาว่า พระธรรมเดิมของยิว และพระธรรมใหม่ของคริสต์ถูกบิดเบือน ไม่จริงหมด100% และ กล่าวอ้างว่า เทวดากาเบียรลบอกข้อความให้เขียนกรุอ่านแบบคำต่อคำ ดังนั้นไม่มีที่ผิดแน่นอน

จึงมีหลายเรื่องที่คล้ายยิวและคริสต์ และหลายเรื่องที่คล้ายแต่ไม่เหมือนเลย(อย่าเพิ่งงง)

ในส่วนพระธรรมใหม่

เช่น

-การปฏิเสธการเป็นพระเจ้าของพระเยซู โดยกล่าวหาว่า การกล่าวอ้างว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าตลอดทั้งไบเบิ้ลพระธรรมใหม่นั้น เป็นการสร้างกุเรื่องขึ้นเองของบรรดาอัครสาวก

-พระเยซูไม่ได้ตายบนกางเขน ดังนั้นจึงไม่เคยกลับคืนชีพ และไม่มีการไถ่บาป และไม่มีบาปกำเนิด ดังนั้น การไถ่บาปของอิสลามจึงกระทำตามแบบพระธรรมเดิมของยิวคือการเฉือดสัตว์เผาบูชา

-ไม่ยอมรับการมีพระเจ้า1เดียว3พระบุคคล โดยมองว่าเป็นเรื่องของพระเจ้าหลายองค์ และปฏิเสธการมีตัวตนของพระจิตเจ้า ไม่ยอมรับการที่พระเจ้าจะมีบุตร ดังนั้นพระเยซูไม่ใช่พระบุตรพระเจ้า และไม่ใช่พระเจ้า ดังนั้นผู้เชื่อทุกคนไม่มีวันมีฐานะเป็นบุตรได้ การเรียกพระเจ้าเป็นพ่อ ถือเป็นการจาบจ้วงพระเจ้าอย่างไม่บังควร และผู้ศรัทธาทุกคน ถือเป็น บ่าว ของอัลเลาะห์ ไม่มีทางเป็น ลูก ไปได้

ในส่วนพระธรรมเดิม

เช่น

-คนที่ถูกอับราฮัมเอาไปถวายบูชาคืออิชมาแอล ไม่ใช่อิสอัค

-งูไม่ได้มาหลอกเอวา แต่มาหลอกอาดัมโดยตรงเลย

-ลูกของโนอาห์ตายหมดตอนน้ำท่วมโลก

ฯลฯ
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 11:19 am

ตามที่น้องจิงจิงได้ว่าไว้ครับ ศาสนาคริสต์ ใกล้เคียงกับศาสนายิว หรือศาสนายูดาย ของชาวยิวมากที่สุดแล้วครับ(ไม่ว่าจะคาทอลิก หรือโปรแตสแตนด์) ในส่วนของคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกนั้น มีการผสมแนวคิดของนักคิด ชาวกรีก และชาวโรมัน ไปด้วยในคำสอน(และการอธิบายคำสอน)บางส่วน หากจำไม่ผิด วิหารเทพจูปีเตอร์(ใจกลางกรุงโรม หรือวาติกัน ผมไม่แน่ใจ) ก็เปลี่ยนมาเป็นวิหารโรมันคาทอลิก ในสมัยยุคปลายของอาณาจักรโรมันฯ

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 1:40 pm

เรื่องความเหมือน ก็มีอย่างที่พี่ๆบอกไปแล้ว

แต่ความต่างแน่นอนว่าถ้าไม่ต่างมันคงเป็นศาสนาเดียวกันแล้ว
คนที่ถูกตรึงกางเขนคือยูดาส อิสคาริโอท ที่อัลลอฮฺได้ทำให้เขาหน้าเหมือนนบีอีซา อลัยฮิสลาม

แต่ลองวิเคราะห์ เขาอาจจะเข้าใจคริสต์ในมุมมองของยิว
เพราะตอนนั้นเมืองมะดีนะฮฺเต็มไปด้วยยิว(ตอนที่ศาสดามุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮฺอลัยฮิวัสลาม อพยพจากเมืองมักกะฮฺไปมะดีนะฮฺ เพราะชาวมักกะฮฺที่บูชารูปเคารพไม่ต้อนรับและจ้องจะฆ่า อยู่ต่อไปจะมีคนตายเป็นชะฮีดหรือมรณสักขีมากขึ้น)
เพราะยิวตอนนั้นเรียกคริสต์ว่า นาซารีน อิสลามเรียกนัศรอนีย์

แต่คริสต์ที่ใช้ภาษาอาหรับ จะเรียกตัวเองว่า
มะซีฮฺย์ยะฮฺ หรือ มะซียัต
مسيحية
(ป.ล.สะกดยากมาก มีตัว [ม] ตัว [ซ] และตัว [ย.]ที่ทำหน้าที่สระอี แล้วตัว [ฮ] แล้ว [ย] 2ตัวเพราะมีสัญลักษณ์ซ้ำอักษร แล้วตัวที่ได้ทั้ง [ฮ] และ [ต]
เผอิญไม่เก่งไวยากรณือาหรับเลยไม่รู้ว่าจะข้ามไปสะกดตัวไหนได้)
มาจาก เมสสิยาห์นี่เอง

และสัญญาณวันสิ้นโลก ศาสดามุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮฺอลัยฮิวัสลาม ได้ยอมรับว่าศาสดาอีซา อลัยฮิสลามจะกลับมาอีกครั้ง
ตามมุมมองแนวอะฮฺลุ้ลบัยตฺ(ชีอะฮฺ) บอกว่าเมื่อวันนั้นอิมามมะฮิดีจะปรากฏ แล้วนบีอีซากับอิมามมะฮฺดีจะร่วมมือกันสร้างรัฐบาลโลก
อิมามมะฮฺดีตามแนวอะฮฺลุลบัยตฺคือบุคคลที่สืบเชื้อสายศาสดามุฮัมมัดมาทางท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ เป็นอิมามคนที่12
แต่เนื่องจากอิมามทั้ง11คนก่อนหน้านี้(อิมามที่เป็นผู้นำหลังศาสดา ทางสายอะฮฺลุสสุนนะฮฺไม่ยอมรับเรื่องนี้)ถูกสังหารหมด
เมื่ออิมามคนที่12เกิด อัลลอฮฺจึงปกป้องเขาไว้ไม่ให้ใครเห็น หรือติดต่อ อาจอยู่ที่ใดที่หนึ่งในโลก โดยมีชีวิตอยู่ยาวนานโดยที่อัลลอฮฺได้รักษาเขาไว้

ส่วนวันสิ้นโลกของเรา->อ่านวิวรณ์ ละเอียด และชัดที่สุด

แล้วเขา(อิสลาม)อ้างว่ายิวกับคริสต์เปลี่ยนแปลงพระคัมภีร์และคำสอนมาตลอดจนถึงปัจจุบัน

ป.ล.2ข้อมูลมาจากน้องชาวญาติห่างๆที่เป็นมุสลิมอ่ะนะ มันเล่าให้ฟัง
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 1:49 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 6:05 pm

งั้นถามคุณแมวสีน้ำตาลเพิ่มนะครับ ในสมัยที่ศาสดาโมฮัมหมัด ประกาศข่าวดีเรื่องอัลเลาะ ตอนแรกก็ถูกคุกคามสารพัด(แม้กระทั่งเรื่องชีวิต)ใช่ไหมครับ จนต้องลี้ภัยไปอยู่เมืองเมดินา และจากเมืองนั้นการประกาศศาสนาประสบความสำเร็จ และสามารถรวบรวมชนชาติเร่ร่อนต่างๆมารับอิสลาม และรวมกันจนเป็นกองกำลังที่เข็มแข็ง หลังจากนั้นศาสดาโมฮัมหมัดก็นำไพร่พลทั้งหมด โจมตีเมืองเม็กกะใช่ไหมครับ มีการทุบทำลายรูปเจว็ต(รูปปฎิมาในภาษาคริสตัง รูปเคารพในภาษาคริสเตียน)ใช่ไหมครับ หากผมจำไม่ผิดนั้น รูปปั้นที่ถูกทำลายต่างๆ เป็นเทวรูปที่สร้างในสมัยอาณาจักรบาบิโลนเรื่องอำนาจใช่ไหมครับ(พวกเทพเจ้าต่างๆในนิยายของพวกสุมาเรียน อัสซีเรียน) บวกด้วยเทวรูปที่สร้างในสมัยที่อาราเบีย อยู่ภายใต้อิทธิของกรีกด้วยใช่ไหมครับ(พวกเทวรูป เทพเจ้ากรีก) เรื่องศาสนาไม่ขอวิจารณนะครับ แต่น่าเสียดายเกี่ยวกับปฎิมากรรม ที่ไม่หลงเหลือเลยในยุคปัจจุบันด้วยเหตุผลทางความเชื่อในศาสนา เพราะในดินแดนอาราเบียนั้น เป็นแหล่งอารยธรรมของโลกเลยก็ว่าได้ การสืบเสาะความเป็นไปในประวัติศาสตร์ ก็ต้องอาศัยงานปฎิมากรรมในยุคนั้นเป็นตัวบอก แต่..........เรียบ

อ้อ เห็นชาวมุสสิม เวลาไปแสวงบุญที่เมกกะ จะต้องใช้หินปาไปที่ " เสาแห่งความชั่วร้าย" ซี่งปัจจุบันก็เป็นเสาใหม่ที่ทำขึ้น(คาดว่าเสาดั่งเดิมคงกุดไปแล้ว ตั้งแต่มีศาสนาอิสลาม) ที่มาก็เสาดังกล่าว คือเสาชัย ที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชของอาณาจักรกรีก เคยสร้างไว้ในอาราเบีย ในยุคที่อาณาจักรกรีกเรื่องอำนาจใช่ไหมครับ(คล้ายกับว่าเป็นเสาที่สร้างขึ้นเพื่อบ่งบอกว่าอำนาจกรีกมาถึงนี้) อันนี้ต้องให้คุณแมวสีน้ำตาลอธิบายเพิ่มครับผม

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 7:11 pm

ฮะ

ก่อนอื่นขอบอกว่าข้อมูลมาจากลุงกับลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งเค้าเป็นสายชีอะฮฺ(เมืองไทยส่วนใหญ่เป็นสุนหนี่)

และที่ผมเรียกว่าศาสดา เพราะเหตุที่ว่า
นบี ถ้าแปลเราๆก็คือศาสดา (โดยความหมายคนที่ได้รับโองการมา)
ร่อซู้ล ถ้าแปลแบบเราคือ ประกาศก หรือผู้เผยพระวจนะ (เมื่อได้รับโองการมาแล้วมาเผยแผ่)
ร่อซู้ลทุกคนเป็นนบี แต่นบีทุกคนไม่จำเป็นต้องเป็นร่อซูล

ดังนั้นผมจึงเรียกเขาว่าศาสดา ผู้เผยแผ่ศาสนาของเขาแต่ไม่ใช่ฐานะประกาศก

ก่อนอื่นขอตอบตามความเชื่อเค้านะ
1.ในการประกาศศาสนาช่วงแรก เริ่มจากในบรรดาครอบครัว คนแรกที่เข้ารับอิสลามคืออะลีย์ ลูกเขยของท่านศาสดา ที่แต่งงานกับท่านหญิงฟะฏิมะฮฺ(ฟาฏิมะฮฺเป็นลูกของท่านศาสดากับท่านหญิงคอดิยะฮฺ ภรรยาคนแรก) และท่านศาสดายังรับอะลียฺมาเป็นลูกบุญธรรม (ร่ายมายาวเกี่ยวอะไรกันไหมนี่) ยุคแรกโดนต่อต้านจากชาวมักกะฮฺ(ลุงบอกให้ออกเสียง มั๊กก๊ะฮฺ)มากๆ บางเวลาท่านศาสดาเดินๆโดนเอารกอูฐสิ่งประฏิกูลเทลงใส่ศาสดา บางทีจับมุสลิมมาฆ่าหน้ารูปปั้นตัวใหญ่ที่สุดบ้าง สถานการณ์เลวร้ายลง ท่านศาสดา(ซ.ล.)จึงอพยพไปเมืองมะดีนะฮฺ และในผู้ที่ตายเป็นชะฮีด(มรณสักขี)มีคนหนึ่งเป้นสตรีแต่จำชื่อไม่ได้แล้ว ปีแรกที่เดินทางอพยพไปมะดีนะฮฺนับเป็นศักราชฮิจญ์เราะหฺที่1(ป.ล.อย่าเอาไปเทียบเองเพราะปีอิสลามมีแค่354วันตามจันทรคติ ปัจจุบัน ณ วันนี้ เป็นปี ฮ.ศ.1429 เรื่องคำนวนปฏิทินอิสลามอย่าไปสนใจดีกว่า ยาก)

2.เมื่อถึงมะดีนะฮฺ ซึ่งแถวนั้นยิวเยอะ แรกๆยิวรับฟังแล้วกำลังคิดว่าอาจเป็นพระเมสสิยาหฺแต่เมื่อสืบๆแล้วไม่ใช่ลูกหลานของอิสอัคจึงปฏิเสธ จึงมีคำเรียกว่ามุกนาฟิก แปลว่าผู้กลับกรอก แต่ใช้กรณีคือ ผู้ที่ไม่ศรัทธาแสร้งมาเป็นผู้ศรัทธา เมื่อเข้มแข็งก็ยกทัพกลับมาตีเมืองมักกะฮฺ ตามความเชื่อของเขา เมืองนี้คือที่ที่อับราฮัมสรางที่สักการะบูชาพระเจ้าครั้งแรก และหลังจากตีสำเร็จ ได้ทำลายรูปเคารพทั้งหมด แล้วประกาศเมืองมักกะฮฺให้เป็นเมืองต้องห้าม(หะร็อม) คือห้ามนำรูปเคารพเข้ามา ห้ามมีสิ่งที่ผิดบัญญัติศาสนาเข้ามา แล้วปัจจุบันที่ซาอุฯห้ามมีการนมัสการศาสนาอื่นของจากอิสลาม

3.เรื่องรายละเอียดรูปเคารพ ผมไม่ทราบจริงๆ แต่มีชื่อในอัลกุรอาน "อัลล๊าต"(ซึ่งมีคนเข้าใจเป็นอัลลอฮฺ แท้จริงแล้วในอัลกุรอ่านได้กล่าวถึงรูปเคารพนี้ และมีการประนามอยู่)
ในอัลกุรอานยังกล่าวถึงคนกลุ่มหนึ่งไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เลิกบูชารูปเคารพจึงมีซูเราะฮฺหนึ่งชื่อ อัลกาฟิรูน(โอ้หมู่มวลผู้ไร้ศรัธา) ซูเราะฮฺที่109
รูปภาพ
บิสมิ้ลลาฮี้รเราะฮฺมานี้รเราะฮฺฮีม (ในพระนามอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาและปราณีเสมอ)
1.กุลยาอัยยุฮ้าลกาฟิรูน (โอ้หมู่มวลผู้ไร้ศรัทธาเอ๋ย)
2.ลาอฺบุดูนมาตะอฺบุดูน (ฉันจะไม่เคารพภักดีสิ่งที่พวกเธอเคารพบูชาอยู่)
3.ว่ะ ลาอันตุ้ม อ้าบิดุวนะ ม้าอ่ะอฺบูด (และพวกเธอก็ไม่ใช่เป็นผู้เคารพภักดีพระเจ้าที่ฉันเคารพภักดี)
4.ว่ะ ลาอ่ะน้า อ้าบิดุมม้า อ้าบัตตุ้ม (และฉันก็มิใช่เป็นผู้เคารพบูชาสิ่งที่พวกเธอเคารพบูชา)
5.ว่ะ ลาอันตุ้ม อ้าบิดุวนะ ม้าอ่ะอฺบูด (และพวกเธอก็มิใช่เป็นผู้เคารพภักดีพระเจ้าที่ฉันเคารพภักดี)
6.ล่ะกุ้ม ดีนุกุ้ม วาลีย่ะดีน (สำหรับพวกเธอก็คือศาสนาของพวกเธอ และสำหรับฉันก็คือศาสนาของฉัน[ไม่เกี่ยวกัน])

4.เรื่องทำฮัจญ์ ขอบอกว่าแต่ละมัซฮับก็ทำไม่เหมือนกัน สุนหนี่มี4มัซฮับ(สำนักกฏหมายหรือนิกายย่อย) ชาฟิอี(เมืองไทยใช้มัซฮับนี้),ฮัมบาลี(มีมากในตะวันออกกลาง),มาลิกี,ฮานาฟี ชีอะฮฺไม่แยกมัซฮับจึงมีมัซฮับเดียว และผมไม่มีความรู้เรื่องทำฮัจญ์เลย รู้แค่การขว้างเสาหินแปลว่าเปHนการตัดขาดจากบาป แ]h;หลังไปจากการทำฮัจญ์ ไม่มีตำแหน่งหรืออะไรแต่อย่างใด เขาก็เป็นมุสลิมเท่ากันเหมือนคนอื่นๆ เป็นค่านิยมท้องถิ่นกันเองที่เรียกคนไปทำฮัจญ์แล้วว่าฮัจญีหรือฮัจญะฮฺ  แต่ที่พอรู้คือเมื่อท่านศาสดากลับจากอะไรซักอย่างจะทำแบบนี้ตลอด เดินเวียนรอบบัยตุลลอฮฺ7รอบ รายละเอียดบอดตามตรงคือไม่รู้= =ฮะ

ถ้าศึกษาเลยใช้เวปนี้สิฮะ www.siamic.com

พระเจ้าอวยพรเช่นกันฮะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jack Sparrow
โพสต์: 353
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am

อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 7:54 pm

เขาเอาความเชื่อเดิมของยิวกับของคริสต์มาเขียนขึ้นใหม่ครับ
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 8:28 pm

ความรู้ๆๆๆ

กระทู้นี้เอาไปเลยเต็มสิบ
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 8:39 pm

ขอบคุณ คุณแมวสีน้ำตาลมากครับ สำหรับความรู้เพิ่มเติมครับผม

ขอพระอวยพรคุณและทุกท่านครับผม
Sebastian
โพสต์: 11
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 07, 2008 7:13 pm

จันทร์ พ.ค. 12, 2008 12:15 am

เรื่องความเหมือน ก็มีอย่างที่พี่ๆบอกไปแล้ว

แต่ความต่างแน่นอนว่าถ้าไม่ต่างมันคงเป็นศาสนาเดียวกันแล้ว
คนที่ถูกตรึงกางเขนคือยูดาส อิสคาริโอท ที่อัลลอฮฺได้ทำให้เขาหน้าเหมือนนบีอีซา อลัยฮิสลาม

แต่ลองวิเคราะห์ เขาอาจจะเข้าใจคริสต์ในมุมมองของยิว
เพราะตอนนั้นเมืองมะดีนะฮฺเต็มไปด้วยยิว(ตอนที่ศาสดามุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮฺอลัยฮิวัสลาม อพยพจากเมืองมักกะฮฺไปมะดีนะฮฺ เพราะชาวมักกะฮฺที่บูชารูปเคารพไม่ต้อนรับและจ้องจะฆ่า อยู่ต่อไปจะมีคนตายเป็นชะฮีดหรือมรณสักขีมากขึ้น)
เพราะยิวตอนนั้นเรียกคริสต์ว่า นาซารีน อิสลามเรียกนัศรอนีย์

แต่คริสต์ที่ใช้ภาษาอาหรับ จะเรียกตัวเองว่า
มะซีฮฺย์ยะฮฺ หรือ มะซียัต
مسيحية
(ป.ล.สะกดยากมาก มีตัว [ม] ตัว [ซ] และตัว [ย.]ที่ทำหน้าที่สระอี แล้วตัว [ฮ] แล้ว [ย] 2ตัวเพราะมีสัญลักษณ์ซ้ำอักษร แล้วตัวที่ได้ทั้ง [ฮ] และ [ต]
เผอิญไม่เก่งไวยากรณือาหรับเลยไม่รู้ว่าจะข้ามไปสะกดตัวไหนได้)
มาจาก เมสสิยาห์นี่เอง

และสัญญาณวันสิ้นโลก ศาสดามุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮฺอลัยฮิวัสลาม ได้ยอมรับว่าศาสดาอีซา อลัยฮิสลามจะกลับมาอีกครั้ง
ตามมุมมองแนวอะฮฺลุ้ลบัยตฺ(ชีอะฮฺ) บอกว่าเมื่อวันนั้นอิมามมะฮิดีจะปรากฏ แล้วนบีอีซากับอิมามมะฮฺดีจะร่วมมือกันสร้างรัฐบาลโลก
อิมามมะฮฺดีตามแนวอะฮฺลุลบัยตฺคือบุคคลที่สืบเชื้อสายศาสดามุฮัมมัดมาทางท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ เป็นอิมามคนที่12
แต่เนื่องจากอิมามทั้ง11คนก่อนหน้านี้(อิมามที่เป็นผู้นำหลังศาสดา ทางสายอะฮฺลุสสุนนะฮฺไม่ยอมรับเรื่องนี้)ถูกสังหารหมด
เมื่ออิมามคนที่12เกิด อัลลอฮฺจึงปกป้องเขาไว้ไม่ให้ใครเห็น หรือติดต่อ อาจอยู่ที่ใดที่หนึ่งในโลก โดยมีชีวิตอยู่ยาวนานโดยที่อัลลอฮฺได้รักษาเขาไว้

ส่วนวันสิ้นโลกของเรา->อ่านวิวรณ์ ละเอียด และชัดที่สุด

แล้วเขา(อิสลาม)อ้างว่ายิวกับคริสต์เปลี่ยนแปลงพระคัมภีร์และคำสอนมาตลอดจนถึงปัจจุบัน

ป.ล.2ข้อมูลมาจากน้องชาวญาติห่างๆที่เป็นมุสลิมอ่ะนะ มันเล่าให้ฟัง


ขออนุญาติแก้ไวยกรณ์อาหรับ ตรงที่บอกว่าمسيحية    มะซียัต  อันที่จริงต้องบอกว่ามะซียะห์  เพราะ ตัวตาตัวสุดท้าย เป็นตัวสะกด  จะกลายเป็นตัวฮา(ใหญ่) เพราะฉะนั้นจะออกเสียงว่ามะซียะห์
Sebastian
โพสต์: 11
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 07, 2008 7:13 pm

จันทร์ พ.ค. 12, 2008 12:17 am

  จากการคาดเดาของผม  อิสลามน่าจะ ก๊อบปี้ ไบเบิ้ลเป็นรากฐานในการสร้างอลกุรอ่าน 

ปล. ผมอ่านอัลกุรอ่านได้ .....แต่ตอนนี้เป็นคริสตเตียนแล้ว  คริคริ มีอารายถามได้ค้าบๆๆๆๆ
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

จันทร์ พ.ค. 12, 2008 3:05 am

Sebastian เขียน:   จากการคาดเดาของผม  อิสลามน่าจะ ก๊อบปี้ ไบเบิ้ลเป็นรากฐานในการสร้างอลกุรอ่าน   

ปล. ผมอ่านอัลกุรอ่านได้ .....แต่ตอนนี้เป็นคริสตเตียนแล้ว  คริคริ มีอารายถามได้ค้าบๆๆๆๆ

ดีเลยครับ เพราะมีคำถามมากมาย จริงๆแล้วถามอดีดอิสลาม ที่เป็นคริสเตียนปัจจุบัน น่าจะปลอดภัยกว่าไปถามอิสลามจริงๆโดยตรง หรือศึกษาจากความรู้ตะวันตก(ซึ่งมีการบิดเบือนและขาดความเข้าใจ)ในอิสลาม มีผู้ใหญ่เขาสอนผมไว้ว่า " อยู่กับคน มันต้องเข้าใจคน" ใช่ไหมครับ

ขอพระอวยพรคุณครับผม
JPSWOW
โพสต์: 3
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ค. 08, 2008 1:39 pm

จันทร์ พ.ค. 12, 2008 7:43 am

ครับได้ลองอ่านแบบคร่าวๆแล้ว...เกรงว่าหากคนที่เป็นอิสลามเข้ามาอ่านแล้วจะทำให้เกิดมีความขัดแย้งกันไหม?  และเมื่อเขาอ่านแล้วหากเป็นความจริง  เขาจะยอมรับด้วยดี หรือยังเกิดความขัดแย้งที่รับไม่ได้ในใจหรือเปล่า...เพราะความเชื่อเป็นเรื่องละอียดอ่อนมาก ถ้าคิดในแง่เชิงวิชาการก็เป็นการศึกษา แต่หากในแง่ของความเชื่อเค้าจะมองว่าเป็นการโจมตี  ชีวิตช่างสลับซับซ้อนเสียจริงๆ...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อังคาร พ.ค. 13, 2008 11:43 am

สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างที่เห็นได้ชัดในคำสอนคือ
Pry-Kaew
โพสต์: 959
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 29, 2005 3:03 pm
ติดต่อ:

อังคาร พ.ค. 13, 2008 11:52 am

[quote="Immanuel (MichaelPaul)"]
สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างที่เห็นได้ชัดในคำสอนคือ
Sebastian
โพสต์: 11
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 07, 2008 7:13 pm

อังคาร พ.ค. 13, 2008 5:57 pm

Pry-Kaew เขียน:
Sebastian เขียน:   จากการคาดเดาของผม  อิสลามน่าจะ ก๊อบปี้ ไบเบิ้ลเป็นรากฐานในการสร้างอลกุรอ่าน   

ปล. ผมอ่านอัลกุรอ่านได้ .....แต่ตอนนี้เป็นคริสตเตียนแล้ว  คริคริ มีอารายถามได้ค้าบๆๆๆๆ

ดีเลยครับ เพราะมีคำถามมากมาย จริงๆแล้วถามอดีดอิสลาม ที่เป็นคริสเตียนปัจจุบัน น่าจะปลอดภัยกว่าไปถามอิสลามจริงๆโดยตรง หรือศึกษาจากความรู้ตะวันตก(ซึ่งมีการบิดเบือนและขาดความเข้าใจ)ในอิสลาม มีผู้ใหญ่เขาสอนผมไว้ว่า " อยู่กับคน มันต้องเข้าใจคน" ใช่ไหมครับ

ขอพระอวยพรคุณครับผม

ผมไม่เข้าใจคำถามค้าบ ขออีกรอบ
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

อังคาร พ.ค. 13, 2008 9:45 pm

[quote="Immanuel (MichaelPaul)"]
สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างที่เห็นได้ชัดในคำสอนคือ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

อังคาร พ.ค. 13, 2008 11:30 pm

[quote="อันตน"]
[quote="Immanuel (MichaelPaul)"]
สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างที่เห็นได้ชัดในคำสอนคือ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พุธ พ.ค. 14, 2008 12:35 am

ระวัง ครูเสดยุค 2008 ด้วยนะจ้า

แสดงความเห็นโดยสันตินะจ้า 

เตือนไว้ก่อน  กลัวไฟจะลุกจ้า
  ::005::
ลี วูจิน
โพสต์: 331
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ค. 01, 2005 4:57 pm
ที่อยู่: Thailand
ติดต่อ:

พุธ พ.ค. 14, 2008 3:23 pm

~@Little lamb@~ เขียน: ระวัง ครูเสดยุค 2008 ด้วยนะจ้า

แสดงความเห็นโดยสันตินะจ้า 

เตือนไว้ก่อน  กลัวไฟจะลุกจ้า
   ::005::
นั่นจิ น่ากลัวเน้อ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Mobster
โพสต์: 1623
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 30, 2007 8:02 pm
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ พ.ค. 14, 2008 5:35 pm

เอ่อไม่ได้อะไรนะ

การตีความอัลกุรอ่าน
1.ห้ามตีความกันเอง ต้องมีผู้รู้ช่วยตีความ(โดยเฉพาะสายของชีอะฮฺต้องศรัทธาในอิมามะหรือภาวะการกำหนดแต่งตั้งผู้นำ)
2.ห้ามตีความจากภาษาอื่นนอกจากภาษาต้นฉบับ(อาหรับ)
3.ต้องมีหลักฐานอ้างอิงประกอบเช่น อัลฮะดิษ(บันทึกเรื่องราวของศาสดามุฮัมมัด ถ้าดูดีๆ ก็ไดอารี่ที่เขียนถึงมุฮัมมัดนั่นแหละ) ซึ่งแต่ละนิกายจะใช้ไม่เหมือนกัน

ดังนั้นจึงไม่พบอิสลามนิกายไหนที่ที่ยึดหลักกีตาบุลลอฮฺ(หลักของอัลกุรอาน)อย่างเดียว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

พุธ พ.ค. 14, 2008 11:49 pm

^
^
^
มะรุ้จิแต่ที่ผมเอามาโพสต์รวมถึงการตีความผมเอามาจากมุสลิมในเว็ปบบอร์ดพันทึบน่ะ เค้ามาตีความบทนี้ให้ฟังน่ะ  ::010:: เห็นว่าพอดีกะกระทุ้นี้พอดีเลยเอามาให้อ่านกันน่ะจ้า ลำพังตัวผมเองไม่มีปัญญาจะไปตีความคัมภีร์ใครหรอกขนาดไบเบิ้ลยังจะไม่รอด  ::008::
ตอบกลับโพส