อยากทราบว่า ศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลาม มีอะไรเกี่ยวข้องกันหรอครับ
ถ้าอธิบายเชิงวิชาการผมไม่มีความสามารถ
เอาเป็นว่า
อับราฮัม(ท่านศาสดาอิบรอฮิม คำว่านบีแปลว่าศาสดาอะนะ)
มีลูก2คน
1.อิชมาเอล(ศาสดาอิสมาอีล)
2.อิสอัค(ศาสดาอิสฮ๊าก)
ชาวอาหรับมีเชื้อสายมาจากอิชมาเอล(แล้วน่าตกใจชาวอารยันในอินเดีย ก็มีต้นมาจากอิชมาเอล น่าสังเกตว่าเป็นไปได้ที่ท่านศาสดาพุทธเจ้า อาจมีเชื้อสายอับราฮัม)
ชาวยิวและหลายๆเชื้อชาติในตะวันออกกลางมีเชื้อสายมาจากอิสอัค
เอาเป็นว่า
อับราฮัม(ท่านศาสดาอิบรอฮิม คำว่านบีแปลว่าศาสดาอะนะ)
มีลูก2คน
1.อิชมาเอล(ศาสดาอิสมาอีล)
2.อิสอัค(ศาสดาอิสฮ๊าก)
ชาวอาหรับมีเชื้อสายมาจากอิชมาเอล(แล้วน่าตกใจชาวอารยันในอินเดีย ก็มีต้นมาจากอิชมาเอล น่าสังเกตว่าเป็นไปได้ที่ท่านศาสดาพุทธเจ้า อาจมีเชื้อสายอับราฮัม)
ชาวยิวและหลายๆเชื้อชาติในตะวันออกกลางมีเชื้อสายมาจากอิสอัค
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
เปนพี่น้องร่วมความเชือ่ครับ
เค้าเรียกสามศาสนา (ยิว คริสต์ อิสลาม) ว่าชาวคัมภีร์
พื้นเพเดียวกัน
พ่อองค์เดียวกัน
พระคัมภีร์ก้อมีหลายๆฉบับนะเปนเล่มเดียวกัน
^ ^
เค้าเรียกสามศาสนา (ยิว คริสต์ อิสลาม) ว่าชาวคัมภีร์
พื้นเพเดียวกัน
พ่อองค์เดียวกัน
พระคัมภีร์ก้อมีหลายๆฉบับนะเปนเล่มเดียวกัน
^ ^
อันนี้เคยถามลุงLike_a_Heaven เขียน:
เค้าเรียกสามศาสนา (ยิว คริสต์ อิสลาม) ว่าชาวคัมภีร์
เฉพาะยิวกับคริสต์ครับที่เรียก อะฮฺลุ้ลกิตาบ(ชาวคิมภีร์)
ส่วนอิสลามจะเรียกศาสนิกว่ามุสลิม แปลว่าผู้จำนนต่ออัลลอฮฺ ประมาณนั้น
และในอิสลามยังมีคำว่ามุอฺมีน แปลว่าผู้ศรัทธา ดังนั้นจึงมีมุสลิมที่ไม่ใช่มุอฺมีน
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
ว้าว
ความรู้ใหม่
ความรู้ใหม่
-
- โพสต์: 574
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
- ติดต่อ:
น่าสนใจครับ อยากรู้
น่าสนใจครับ
อิสลาม....มีอาดัม ไล่จนมาถึงมูฮัมมัด ....แต่คริสต์ มีอาดัม จมแค่ พระเยซู ........ต้นตอมีความคล้ายคลึงกันมาก
ยกตัวอย่าง พระแม่มารีย์ อิสลามเรียก พระนางมัรยัม (ลองพูดมารีย์เร็วๆดูแล้วจะคล้ายกัน) ของคริสต์ พระเยซูได้ เกิดจากการปฏิสนธิโดยพระจิต
ของอิสลามพระเยซูก็เกิดจากอำนาจของอัลเลาะห์ (พระเยซูไม่มีพ่อที่เป็นกายเนื้อหนัง) อิสลามเรียกโมเสส ว่ามูซา และมูซานี่เองก็ได้ขึ้นไปรับบัญญัติสิบประการลงมาจากภูเขาซีนาย เหมือนกับโมเสส ไม่มีผิด...... ดังนั้น อิสลาม กับคริสต์ ถือได้ว่าเป็นพี่น้องกัน ต่างกันที่ ความเชื่อบางประการ...ย้ำว่าในทฤษฎีมีความแตกต่างกันน้อยมาก แต่ในทางปฏิบัติอาจแตกต่างกันมาก.......เพิ่มเติม ...อิสลามกับคริสต์ ไม่ถูกกับชาวยิว (ยาฮูดี)
ยกตัวอย่าง พระแม่มารีย์ อิสลามเรียก พระนางมัรยัม (ลองพูดมารีย์เร็วๆดูแล้วจะคล้ายกัน) ของคริสต์ พระเยซูได้ เกิดจากการปฏิสนธิโดยพระจิต
ของอิสลามพระเยซูก็เกิดจากอำนาจของอัลเลาะห์ (พระเยซูไม่มีพ่อที่เป็นกายเนื้อหนัง) อิสลามเรียกโมเสส ว่ามูซา และมูซานี่เองก็ได้ขึ้นไปรับบัญญัติสิบประการลงมาจากภูเขาซีนาย เหมือนกับโมเสส ไม่มีผิด...... ดังนั้น อิสลาม กับคริสต์ ถือได้ว่าเป็นพี่น้องกัน ต่างกันที่ ความเชื่อบางประการ...ย้ำว่าในทฤษฎีมีความแตกต่างกันน้อยมาก แต่ในทางปฏิบัติอาจแตกต่างกันมาก.......เพิ่มเติม ...อิสลามกับคริสต์ ไม่ถูกกับชาวยิว (ยาฮูดี)
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
แตกต่างกันเยอะค่ะ ที่ต่างสุด ๆ คือ
อิสลามบอกว่า พระเจ้าให้มีคนที่หน้าเหมือนพระเยซูไปถูกตรึงกางเขนตายแทน ไม่ใช่พระเยซู
ซึ่งความเชื่อนี้คือจุดสำคัญที่สุดของชาวคริสต์
เราได้รับความรอดจากการตายของพระเยซู
ถ้าพระเยซูไม่ตายบนกางเขน แล้วเราได้รับการไถ่ยังงัย
เราเชื่อว่า บัดนี้ เราเป็นลูกของพระเจ้า พระเยซูทรงสอนเราให้เรียกพระเจ้าว่าบิดา
อิสลามบอกว่า สถานะของพระเจ้ากับมนุษย์ คือ นาย กับ บ่าว
เราเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า ในพระตรีเอกภาพ
แต่อิสลามเชื่อว่าพระเยซูเป็นแค่นบีองค์หนึ่ง และด้อยว่า นบีมูฮัมมัด
เรายึดถือไบเบิ้ล
อิสลามยึดกุรอาน ซึ่งไบเบิ้ลอ่านได้ แต่ถูกสุด ๆ ต้องกุรอาน
เรื่องชื่อ ถ้าจะพูดกันตรง ๆ เราคล้ายกับยิวสุด ๆ ค่ะ
พระแม่มารีย์ ยิวเรียก มีเรียม เรียกเร็วๆ แล้ว ฟังคล้ายกว่านะคะ คล้ายกว่า มัรยัม
พระเยซู ยิวเรียก โยชัว ยิ่งเรียกเร็วๆ แล้ว ฟังคล้ายกว่าคล้ายกว่า อิซา ::017::
ฯลฯ
ต่างกันอีกเพียบเลยคะ อย่าให้ลงลึกเลย ร่ายกันไม่หมด
แต่ถ้าจะเอาแบบถูกหลักวิชาการ ก็รอพี่ ๆ มาตอบให้แล้วกันค่ะ
อิสลามบอกว่า พระเจ้าให้มีคนที่หน้าเหมือนพระเยซูไปถูกตรึงกางเขนตายแทน ไม่ใช่พระเยซู
ซึ่งความเชื่อนี้คือจุดสำคัญที่สุดของชาวคริสต์
เราได้รับความรอดจากการตายของพระเยซู
ถ้าพระเยซูไม่ตายบนกางเขน แล้วเราได้รับการไถ่ยังงัย
เราเชื่อว่า บัดนี้ เราเป็นลูกของพระเจ้า พระเยซูทรงสอนเราให้เรียกพระเจ้าว่าบิดา
อิสลามบอกว่า สถานะของพระเจ้ากับมนุษย์ คือ นาย กับ บ่าว
เราเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า ในพระตรีเอกภาพ
แต่อิสลามเชื่อว่าพระเยซูเป็นแค่นบีองค์หนึ่ง และด้อยว่า นบีมูฮัมมัด
เรายึดถือไบเบิ้ล
อิสลามยึดกุรอาน ซึ่งไบเบิ้ลอ่านได้ แต่ถูกสุด ๆ ต้องกุรอาน
เรื่องชื่อ ถ้าจะพูดกันตรง ๆ เราคล้ายกับยิวสุด ๆ ค่ะ
พระแม่มารีย์ ยิวเรียก มีเรียม เรียกเร็วๆ แล้ว ฟังคล้ายกว่านะคะ คล้ายกว่า มัรยัม
พระเยซู ยิวเรียก โยชัว ยิ่งเรียกเร็วๆ แล้ว ฟังคล้ายกว่าคล้ายกว่า อิซา ::017::
ฯลฯ
ต่างกันอีกเพียบเลยคะ อย่าให้ลงลึกเลย ร่ายกันไม่หมด
แต่ถ้าจะเอาแบบถูกหลักวิชาการ ก็รอพี่ ๆ มาตอบให้แล้วกันค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 12:14 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
สรุปแบบง่ายๆ
500ปีหลังพระเยซูเสด็จขึ้นสวรรค์
ชายคนหนึ่งชื่อ มะหะหมัด กล่าวอ้างว่าตนเองได้รับสารจากทูตสวรรค์กาเบียรลว่า ให้เป็นศาสดาใหม่
โดยเขียนคัมภีร์ใหม่ชื่อ อัลกรุอ่าน โดยรวมคัมภีร์พระธรรมเดิมของยิว และพระธรรมใหมใของคริสต์เข้าด้วยกันแต่เขียนใหม่ กล่าวหาว่า พระธรรมเดิมของยิว และพระธรรมใหม่ของคริสต์ถูกบิดเบือน ไม่จริงหมด100% และ กล่าวอ้างว่า เทวดากาเบียรลบอกข้อความให้เขียนกรุอ่านแบบคำต่อคำ ดังนั้นไม่มีที่ผิดแน่นอน
จึงมีหลายเรื่องที่คล้ายยิวและคริสต์ และหลายเรื่องที่คล้ายแต่ไม่เหมือนเลย(อย่าเพิ่งงง)
ในส่วนพระธรรมใหม่
เช่น
-การปฏิเสธการเป็นพระเจ้าของพระเยซู โดยกล่าวหาว่า การกล่าวอ้างว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าตลอดทั้งไบเบิ้ลพระธรรมใหม่นั้น เป็นการสร้างกุเรื่องขึ้นเองของบรรดาอัครสาวก
-พระเยซูไม่ได้ตายบนกางเขน ดังนั้นจึงไม่เคยกลับคืนชีพ และไม่มีการไถ่บาป และไม่มีบาปกำเนิด ดังนั้น การไถ่บาปของอิสลามจึงกระทำตามแบบพระธรรมเดิมของยิวคือการเฉือดสัตว์เผาบูชา
-ไม่ยอมรับการมีพระเจ้า1เดียว3พระบุคคล โดยมองว่าเป็นเรื่องของพระเจ้าหลายองค์ และปฏิเสธการมีตัวตนของพระจิตเจ้า ไม่ยอมรับการที่พระเจ้าจะมีบุตร ดังนั้นพระเยซูไม่ใช่พระบุตรพระเจ้า และไม่ใช่พระเจ้า ดังนั้นผู้เชื่อทุกคนไม่มีวันมีฐานะเป็นบุตรได้ การเรียกพระเจ้าเป็นพ่อ ถือเป็นการจาบจ้วงพระเจ้าอย่างไม่บังควร และผู้ศรัทธาทุกคน ถือเป็น บ่าว ของอัลเลาะห์ ไม่มีทางเป็น ลูก ไปได้
ในส่วนพระธรรมเดิม
เช่น
-คนที่ถูกอับราฮัมเอาไปถวายบูชาคืออิชมาแอล ไม่ใช่อิสอัค
-งูไม่ได้มาหลอกเอวา แต่มาหลอกอาดัมโดยตรงเลย
-ลูกของโนอาห์ตายหมดตอนน้ำท่วมโลก
ฯลฯ
500ปีหลังพระเยซูเสด็จขึ้นสวรรค์
ชายคนหนึ่งชื่อ มะหะหมัด กล่าวอ้างว่าตนเองได้รับสารจากทูตสวรรค์กาเบียรลว่า ให้เป็นศาสดาใหม่
โดยเขียนคัมภีร์ใหม่ชื่อ อัลกรุอ่าน โดยรวมคัมภีร์พระธรรมเดิมของยิว และพระธรรมใหมใของคริสต์เข้าด้วยกันแต่เขียนใหม่ กล่าวหาว่า พระธรรมเดิมของยิว และพระธรรมใหม่ของคริสต์ถูกบิดเบือน ไม่จริงหมด100% และ กล่าวอ้างว่า เทวดากาเบียรลบอกข้อความให้เขียนกรุอ่านแบบคำต่อคำ ดังนั้นไม่มีที่ผิดแน่นอน
จึงมีหลายเรื่องที่คล้ายยิวและคริสต์ และหลายเรื่องที่คล้ายแต่ไม่เหมือนเลย(อย่าเพิ่งงง)
ในส่วนพระธรรมใหม่
เช่น
-การปฏิเสธการเป็นพระเจ้าของพระเยซู โดยกล่าวหาว่า การกล่าวอ้างว่าพระเยซูเป็นพระเจ้าตลอดทั้งไบเบิ้ลพระธรรมใหม่นั้น เป็นการสร้างกุเรื่องขึ้นเองของบรรดาอัครสาวก
-พระเยซูไม่ได้ตายบนกางเขน ดังนั้นจึงไม่เคยกลับคืนชีพ และไม่มีการไถ่บาป และไม่มีบาปกำเนิด ดังนั้น การไถ่บาปของอิสลามจึงกระทำตามแบบพระธรรมเดิมของยิวคือการเฉือดสัตว์เผาบูชา
-ไม่ยอมรับการมีพระเจ้า1เดียว3พระบุคคล โดยมองว่าเป็นเรื่องของพระเจ้าหลายองค์ และปฏิเสธการมีตัวตนของพระจิตเจ้า ไม่ยอมรับการที่พระเจ้าจะมีบุตร ดังนั้นพระเยซูไม่ใช่พระบุตรพระเจ้า และไม่ใช่พระเจ้า ดังนั้นผู้เชื่อทุกคนไม่มีวันมีฐานะเป็นบุตรได้ การเรียกพระเจ้าเป็นพ่อ ถือเป็นการจาบจ้วงพระเจ้าอย่างไม่บังควร และผู้ศรัทธาทุกคน ถือเป็น บ่าว ของอัลเลาะห์ ไม่มีทางเป็น ลูก ไปได้
ในส่วนพระธรรมเดิม
เช่น
-คนที่ถูกอับราฮัมเอาไปถวายบูชาคืออิชมาแอล ไม่ใช่อิสอัค
-งูไม่ได้มาหลอกเอวา แต่มาหลอกอาดัมโดยตรงเลย
-ลูกของโนอาห์ตายหมดตอนน้ำท่วมโลก
ฯลฯ
ตามที่น้องจิงจิงได้ว่าไว้ครับ ศาสนาคริสต์ ใกล้เคียงกับศาสนายิว หรือศาสนายูดาย ของชาวยิวมากที่สุดแล้วครับ(ไม่ว่าจะคาทอลิก หรือโปรแตสแตนด์) ในส่วนของคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกนั้น มีการผสมแนวคิดของนักคิด ชาวกรีก และชาวโรมัน ไปด้วยในคำสอน(และการอธิบายคำสอน)บางส่วน หากจำไม่ผิด วิหารเทพจูปีเตอร์(ใจกลางกรุงโรม หรือวาติกัน ผมไม่แน่ใจ) ก็เปลี่ยนมาเป็นวิหารโรมันคาทอลิก ในสมัยยุคปลายของอาณาจักรโรมันฯ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
เรื่องความเหมือน ก็มีอย่างที่พี่ๆบอกไปแล้ว
แต่ความต่างแน่นอนว่าถ้าไม่ต่างมันคงเป็นศาสนาเดียวกันแล้ว
คนที่ถูกตรึงกางเขนคือยูดาส อิสคาริโอท ที่อัลลอฮฺได้ทำให้เขาหน้าเหมือนนบีอีซา อลัยฮิสลาม
แต่ลองวิเคราะห์ เขาอาจจะเข้าใจคริสต์ในมุมมองของยิว
เพราะตอนนั้นเมืองมะดีนะฮฺเต็มไปด้วยยิว(ตอนที่ศาสดามุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮฺอลัยฮิวัสลาม อพยพจากเมืองมักกะฮฺไปมะดีนะฮฺ เพราะชาวมักกะฮฺที่บูชารูปเคารพไม่ต้อนรับและจ้องจะฆ่า อยู่ต่อไปจะมีคนตายเป็นชะฮีดหรือมรณสักขีมากขึ้น)
เพราะยิวตอนนั้นเรียกคริสต์ว่า นาซารีน อิสลามเรียกนัศรอนีย์
แต่คริสต์ที่ใช้ภาษาอาหรับ จะเรียกตัวเองว่า
มะซีฮฺย์ยะฮฺ หรือ มะซียัต
مسيحية
(ป.ล.สะกดยากมาก มีตัว [ม] ตัว [ซ] และตัว [ย.]ที่ทำหน้าที่สระอี แล้วตัว [ฮ] แล้ว [ย] 2ตัวเพราะมีสัญลักษณ์ซ้ำอักษร แล้วตัวที่ได้ทั้ง [ฮ] และ [ต]
เผอิญไม่เก่งไวยากรณือาหรับเลยไม่รู้ว่าจะข้ามไปสะกดตัวไหนได้)
มาจาก เมสสิยาห์นี่เอง
และสัญญาณวันสิ้นโลก ศาสดามุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮฺอลัยฮิวัสลาม ได้ยอมรับว่าศาสดาอีซา อลัยฮิสลามจะกลับมาอีกครั้ง
ตามมุมมองแนวอะฮฺลุ้ลบัยตฺ(ชีอะฮฺ) บอกว่าเมื่อวันนั้นอิมามมะฮิดีจะปรากฏ แล้วนบีอีซากับอิมามมะฮฺดีจะร่วมมือกันสร้างรัฐบาลโลก
อิมามมะฮฺดีตามแนวอะฮฺลุลบัยตฺคือบุคคลที่สืบเชื้อสายศาสดามุฮัมมัดมาทางท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ เป็นอิมามคนที่12
แต่เนื่องจากอิมามทั้ง11คนก่อนหน้านี้(อิมามที่เป็นผู้นำหลังศาสดา ทางสายอะฮฺลุสสุนนะฮฺไม่ยอมรับเรื่องนี้)ถูกสังหารหมด
เมื่ออิมามคนที่12เกิด อัลลอฮฺจึงปกป้องเขาไว้ไม่ให้ใครเห็น หรือติดต่อ อาจอยู่ที่ใดที่หนึ่งในโลก โดยมีชีวิตอยู่ยาวนานโดยที่อัลลอฮฺได้รักษาเขาไว้
ส่วนวันสิ้นโลกของเรา->อ่านวิวรณ์ ละเอียด และชัดที่สุด
แล้วเขา(อิสลาม)อ้างว่ายิวกับคริสต์เปลี่ยนแปลงพระคัมภีร์และคำสอนมาตลอดจนถึงปัจจุบัน
ป.ล.2ข้อมูลมาจากน้องชาวญาติห่างๆที่เป็นมุสลิมอ่ะนะ มันเล่าให้ฟัง
แต่ความต่างแน่นอนว่าถ้าไม่ต่างมันคงเป็นศาสนาเดียวกันแล้ว
คนที่ถูกตรึงกางเขนคือยูดาส อิสคาริโอท ที่อัลลอฮฺได้ทำให้เขาหน้าเหมือนนบีอีซา อลัยฮิสลาม
แต่ลองวิเคราะห์ เขาอาจจะเข้าใจคริสต์ในมุมมองของยิว
เพราะตอนนั้นเมืองมะดีนะฮฺเต็มไปด้วยยิว(ตอนที่ศาสดามุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮฺอลัยฮิวัสลาม อพยพจากเมืองมักกะฮฺไปมะดีนะฮฺ เพราะชาวมักกะฮฺที่บูชารูปเคารพไม่ต้อนรับและจ้องจะฆ่า อยู่ต่อไปจะมีคนตายเป็นชะฮีดหรือมรณสักขีมากขึ้น)
เพราะยิวตอนนั้นเรียกคริสต์ว่า นาซารีน อิสลามเรียกนัศรอนีย์
แต่คริสต์ที่ใช้ภาษาอาหรับ จะเรียกตัวเองว่า
มะซีฮฺย์ยะฮฺ หรือ มะซียัต
مسيحية
(ป.ล.สะกดยากมาก มีตัว [ม] ตัว [ซ] และตัว [ย.]ที่ทำหน้าที่สระอี แล้วตัว [ฮ] แล้ว [ย] 2ตัวเพราะมีสัญลักษณ์ซ้ำอักษร แล้วตัวที่ได้ทั้ง [ฮ] และ [ต]
เผอิญไม่เก่งไวยากรณือาหรับเลยไม่รู้ว่าจะข้ามไปสะกดตัวไหนได้)
มาจาก เมสสิยาห์นี่เอง
และสัญญาณวันสิ้นโลก ศาสดามุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮฺอลัยฮิวัสลาม ได้ยอมรับว่าศาสดาอีซา อลัยฮิสลามจะกลับมาอีกครั้ง
ตามมุมมองแนวอะฮฺลุ้ลบัยตฺ(ชีอะฮฺ) บอกว่าเมื่อวันนั้นอิมามมะฮิดีจะปรากฏ แล้วนบีอีซากับอิมามมะฮฺดีจะร่วมมือกันสร้างรัฐบาลโลก
อิมามมะฮฺดีตามแนวอะฮฺลุลบัยตฺคือบุคคลที่สืบเชื้อสายศาสดามุฮัมมัดมาทางท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ เป็นอิมามคนที่12
แต่เนื่องจากอิมามทั้ง11คนก่อนหน้านี้(อิมามที่เป็นผู้นำหลังศาสดา ทางสายอะฮฺลุสสุนนะฮฺไม่ยอมรับเรื่องนี้)ถูกสังหารหมด
เมื่ออิมามคนที่12เกิด อัลลอฮฺจึงปกป้องเขาไว้ไม่ให้ใครเห็น หรือติดต่อ อาจอยู่ที่ใดที่หนึ่งในโลก โดยมีชีวิตอยู่ยาวนานโดยที่อัลลอฮฺได้รักษาเขาไว้
ส่วนวันสิ้นโลกของเรา->อ่านวิวรณ์ ละเอียด และชัดที่สุด
แล้วเขา(อิสลาม)อ้างว่ายิวกับคริสต์เปลี่ยนแปลงพระคัมภีร์และคำสอนมาตลอดจนถึงปัจจุบัน
ป.ล.2ข้อมูลมาจากน้องชาวญาติห่างๆที่เป็นมุสลิมอ่ะนะ มันเล่าให้ฟัง
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อาทิตย์ พ.ค. 11, 2008 1:49 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
งั้นถามคุณแมวสีน้ำตาลเพิ่มนะครับ ในสมัยที่ศาสดาโมฮัมหมัด ประกาศข่าวดีเรื่องอัลเลาะ ตอนแรกก็ถูกคุกคามสารพัด(แม้กระทั่งเรื่องชีวิต)ใช่ไหมครับ จนต้องลี้ภัยไปอยู่เมืองเมดินา และจากเมืองนั้นการประกาศศาสนาประสบความสำเร็จ และสามารถรวบรวมชนชาติเร่ร่อนต่างๆมารับอิสลาม และรวมกันจนเป็นกองกำลังที่เข็มแข็ง หลังจากนั้นศาสดาโมฮัมหมัดก็นำไพร่พลทั้งหมด โจมตีเมืองเม็กกะใช่ไหมครับ มีการทุบทำลายรูปเจว็ต(รูปปฎิมาในภาษาคริสตัง รูปเคารพในภาษาคริสเตียน)ใช่ไหมครับ หากผมจำไม่ผิดนั้น รูปปั้นที่ถูกทำลายต่างๆ เป็นเทวรูปที่สร้างในสมัยอาณาจักรบาบิโลนเรื่องอำนาจใช่ไหมครับ(พวกเทพเจ้าต่างๆในนิยายของพวกสุมาเรียน อัสซีเรียน) บวกด้วยเทวรูปที่สร้างในสมัยที่อาราเบีย อยู่ภายใต้อิทธิของกรีกด้วยใช่ไหมครับ(พวกเทวรูป เทพเจ้ากรีก) เรื่องศาสนาไม่ขอวิจารณนะครับ แต่น่าเสียดายเกี่ยวกับปฎิมากรรม ที่ไม่หลงเหลือเลยในยุคปัจจุบันด้วยเหตุผลทางความเชื่อในศาสนา เพราะในดินแดนอาราเบียนั้น เป็นแหล่งอารยธรรมของโลกเลยก็ว่าได้ การสืบเสาะความเป็นไปในประวัติศาสตร์ ก็ต้องอาศัยงานปฎิมากรรมในยุคนั้นเป็นตัวบอก แต่..........เรียบ
อ้อ เห็นชาวมุสสิม เวลาไปแสวงบุญที่เมกกะ จะต้องใช้หินปาไปที่ " เสาแห่งความชั่วร้าย" ซี่งปัจจุบันก็เป็นเสาใหม่ที่ทำขึ้น(คาดว่าเสาดั่งเดิมคงกุดไปแล้ว ตั้งแต่มีศาสนาอิสลาม) ที่มาก็เสาดังกล่าว คือเสาชัย ที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชของอาณาจักรกรีก เคยสร้างไว้ในอาราเบีย ในยุคที่อาณาจักรกรีกเรื่องอำนาจใช่ไหมครับ(คล้ายกับว่าเป็นเสาที่สร้างขึ้นเพื่อบ่งบอกว่าอำนาจกรีกมาถึงนี้) อันนี้ต้องให้คุณแมวสีน้ำตาลอธิบายเพิ่มครับผม
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
อ้อ เห็นชาวมุสสิม เวลาไปแสวงบุญที่เมกกะ จะต้องใช้หินปาไปที่ " เสาแห่งความชั่วร้าย" ซี่งปัจจุบันก็เป็นเสาใหม่ที่ทำขึ้น(คาดว่าเสาดั่งเดิมคงกุดไปแล้ว ตั้งแต่มีศาสนาอิสลาม) ที่มาก็เสาดังกล่าว คือเสาชัย ที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชของอาณาจักรกรีก เคยสร้างไว้ในอาราเบีย ในยุคที่อาณาจักรกรีกเรื่องอำนาจใช่ไหมครับ(คล้ายกับว่าเป็นเสาที่สร้างขึ้นเพื่อบ่งบอกว่าอำนาจกรีกมาถึงนี้) อันนี้ต้องให้คุณแมวสีน้ำตาลอธิบายเพิ่มครับผม
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ฮะ
ก่อนอื่นขอบอกว่าข้อมูลมาจากลุงกับลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งเค้าเป็นสายชีอะฮฺ(เมืองไทยส่วนใหญ่เป็นสุนหนี่)
และที่ผมเรียกว่าศาสดา เพราะเหตุที่ว่า
นบี ถ้าแปลเราๆก็คือศาสดา (โดยความหมายคนที่ได้รับโองการมา)
ร่อซู้ล ถ้าแปลแบบเราคือ ประกาศก หรือผู้เผยพระวจนะ (เมื่อได้รับโองการมาแล้วมาเผยแผ่)
ร่อซู้ลทุกคนเป็นนบี แต่นบีทุกคนไม่จำเป็นต้องเป็นร่อซูล
ดังนั้นผมจึงเรียกเขาว่าศาสดา ผู้เผยแผ่ศาสนาของเขาแต่ไม่ใช่ฐานะประกาศก
ก่อนอื่นขอตอบตามความเชื่อเค้านะ
1.ในการประกาศศาสนาช่วงแรก เริ่มจากในบรรดาครอบครัว คนแรกที่เข้ารับอิสลามคืออะลีย์ ลูกเขยของท่านศาสดา ที่แต่งงานกับท่านหญิงฟะฏิมะฮฺ(ฟาฏิมะฮฺเป็นลูกของท่านศาสดากับท่านหญิงคอดิยะฮฺ ภรรยาคนแรก) และท่านศาสดายังรับอะลียฺมาเป็นลูกบุญธรรม (ร่ายมายาวเกี่ยวอะไรกันไหมนี่) ยุคแรกโดนต่อต้านจากชาวมักกะฮฺ(ลุงบอกให้ออกเสียง มั๊กก๊ะฮฺ)มากๆ บางเวลาท่านศาสดาเดินๆโดนเอารกอูฐสิ่งประฏิกูลเทลงใส่ศาสดา บางทีจับมุสลิมมาฆ่าหน้ารูปปั้นตัวใหญ่ที่สุดบ้าง สถานการณ์เลวร้ายลง ท่านศาสดา(ซ.ล.)จึงอพยพไปเมืองมะดีนะฮฺ และในผู้ที่ตายเป็นชะฮีด(มรณสักขี)มีคนหนึ่งเป้นสตรีแต่จำชื่อไม่ได้แล้ว ปีแรกที่เดินทางอพยพไปมะดีนะฮฺนับเป็นศักราชฮิจญ์เราะหฺที่1(ป.ล.อย่าเอาไปเทียบเองเพราะปีอิสลามมีแค่354วันตามจันทรคติ ปัจจุบัน ณ วันนี้ เป็นปี ฮ.ศ.1429 เรื่องคำนวนปฏิทินอิสลามอย่าไปสนใจดีกว่า ยาก)
2.เมื่อถึงมะดีนะฮฺ ซึ่งแถวนั้นยิวเยอะ แรกๆยิวรับฟังแล้วกำลังคิดว่าอาจเป็นพระเมสสิยาหฺแต่เมื่อสืบๆแล้วไม่ใช่ลูกหลานของอิสอัคจึงปฏิเสธ จึงมีคำเรียกว่ามุกนาฟิก แปลว่าผู้กลับกรอก แต่ใช้กรณีคือ ผู้ที่ไม่ศรัทธาแสร้งมาเป็นผู้ศรัทธา เมื่อเข้มแข็งก็ยกทัพกลับมาตีเมืองมักกะฮฺ ตามความเชื่อของเขา เมืองนี้คือที่ที่อับราฮัมสรางที่สักการะบูชาพระเจ้าครั้งแรก และหลังจากตีสำเร็จ ได้ทำลายรูปเคารพทั้งหมด แล้วประกาศเมืองมักกะฮฺให้เป็นเมืองต้องห้าม(หะร็อม) คือห้ามนำรูปเคารพเข้ามา ห้ามมีสิ่งที่ผิดบัญญัติศาสนาเข้ามา แล้วปัจจุบันที่ซาอุฯห้ามมีการนมัสการศาสนาอื่นของจากอิสลาม
3.เรื่องรายละเอียดรูปเคารพ ผมไม่ทราบจริงๆ แต่มีชื่อในอัลกุรอาน "อัลล๊าต"(ซึ่งมีคนเข้าใจเป็นอัลลอฮฺ แท้จริงแล้วในอัลกุรอ่านได้กล่าวถึงรูปเคารพนี้ และมีการประนามอยู่)
ในอัลกุรอานยังกล่าวถึงคนกลุ่มหนึ่งไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เลิกบูชารูปเคารพจึงมีซูเราะฮฺหนึ่งชื่อ อัลกาฟิรูน(โอ้หมู่มวลผู้ไร้ศรัธา) ซูเราะฮฺที่109
บิสมิ้ลลาฮี้รเราะฮฺมานี้รเราะฮฺฮีม (ในพระนามอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาและปราณีเสมอ)
1.กุลยาอัยยุฮ้าลกาฟิรูน (โอ้หมู่มวลผู้ไร้ศรัทธาเอ๋ย)
2.ลาอฺบุดูนมาตะอฺบุดูน (ฉันจะไม่เคารพภักดีสิ่งที่พวกเธอเคารพบูชาอยู่)
3.ว่ะ ลาอันตุ้ม อ้าบิดุวนะ ม้าอ่ะอฺบูด (และพวกเธอก็ไม่ใช่เป็นผู้เคารพภักดีพระเจ้าที่ฉันเคารพภักดี)
4.ว่ะ ลาอ่ะน้า อ้าบิดุมม้า อ้าบัตตุ้ม (และฉันก็มิใช่เป็นผู้เคารพบูชาสิ่งที่พวกเธอเคารพบูชา)
5.ว่ะ ลาอันตุ้ม อ้าบิดุวนะ ม้าอ่ะอฺบูด (และพวกเธอก็มิใช่เป็นผู้เคารพภักดีพระเจ้าที่ฉันเคารพภักดี)
6.ล่ะกุ้ม ดีนุกุ้ม วาลีย่ะดีน (สำหรับพวกเธอก็คือศาสนาของพวกเธอ และสำหรับฉันก็คือศาสนาของฉัน[ไม่เกี่ยวกัน])
4.เรื่องทำฮัจญ์ ขอบอกว่าแต่ละมัซฮับก็ทำไม่เหมือนกัน สุนหนี่มี4มัซฮับ(สำนักกฏหมายหรือนิกายย่อย) ชาฟิอี(เมืองไทยใช้มัซฮับนี้),ฮัมบาลี(มีมากในตะวันออกกลาง),มาลิกี,ฮานาฟี ชีอะฮฺไม่แยกมัซฮับจึงมีมัซฮับเดียว และผมไม่มีความรู้เรื่องทำฮัจญ์เลย รู้แค่การขว้างเสาหินแปลว่าเปHนการตัดขาดจากบาป แ]h;หลังไปจากการทำฮัจญ์ ไม่มีตำแหน่งหรืออะไรแต่อย่างใด เขาก็เป็นมุสลิมเท่ากันเหมือนคนอื่นๆ เป็นค่านิยมท้องถิ่นกันเองที่เรียกคนไปทำฮัจญ์แล้วว่าฮัจญีหรือฮัจญะฮฺ แต่ที่พอรู้คือเมื่อท่านศาสดากลับจากอะไรซักอย่างจะทำแบบนี้ตลอด เดินเวียนรอบบัยตุลลอฮฺ7รอบ รายละเอียดบอดตามตรงคือไม่รู้= =ฮะ
ถ้าศึกษาเลยใช้เวปนี้สิฮะ www.siamic.com
พระเจ้าอวยพรเช่นกันฮะ
ก่อนอื่นขอบอกว่าข้อมูลมาจากลุงกับลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งเค้าเป็นสายชีอะฮฺ(เมืองไทยส่วนใหญ่เป็นสุนหนี่)
และที่ผมเรียกว่าศาสดา เพราะเหตุที่ว่า
นบี ถ้าแปลเราๆก็คือศาสดา (โดยความหมายคนที่ได้รับโองการมา)
ร่อซู้ล ถ้าแปลแบบเราคือ ประกาศก หรือผู้เผยพระวจนะ (เมื่อได้รับโองการมาแล้วมาเผยแผ่)
ร่อซู้ลทุกคนเป็นนบี แต่นบีทุกคนไม่จำเป็นต้องเป็นร่อซูล
ดังนั้นผมจึงเรียกเขาว่าศาสดา ผู้เผยแผ่ศาสนาของเขาแต่ไม่ใช่ฐานะประกาศก
ก่อนอื่นขอตอบตามความเชื่อเค้านะ
1.ในการประกาศศาสนาช่วงแรก เริ่มจากในบรรดาครอบครัว คนแรกที่เข้ารับอิสลามคืออะลีย์ ลูกเขยของท่านศาสดา ที่แต่งงานกับท่านหญิงฟะฏิมะฮฺ(ฟาฏิมะฮฺเป็นลูกของท่านศาสดากับท่านหญิงคอดิยะฮฺ ภรรยาคนแรก) และท่านศาสดายังรับอะลียฺมาเป็นลูกบุญธรรม (ร่ายมายาวเกี่ยวอะไรกันไหมนี่) ยุคแรกโดนต่อต้านจากชาวมักกะฮฺ(ลุงบอกให้ออกเสียง มั๊กก๊ะฮฺ)มากๆ บางเวลาท่านศาสดาเดินๆโดนเอารกอูฐสิ่งประฏิกูลเทลงใส่ศาสดา บางทีจับมุสลิมมาฆ่าหน้ารูปปั้นตัวใหญ่ที่สุดบ้าง สถานการณ์เลวร้ายลง ท่านศาสดา(ซ.ล.)จึงอพยพไปเมืองมะดีนะฮฺ และในผู้ที่ตายเป็นชะฮีด(มรณสักขี)มีคนหนึ่งเป้นสตรีแต่จำชื่อไม่ได้แล้ว ปีแรกที่เดินทางอพยพไปมะดีนะฮฺนับเป็นศักราชฮิจญ์เราะหฺที่1(ป.ล.อย่าเอาไปเทียบเองเพราะปีอิสลามมีแค่354วันตามจันทรคติ ปัจจุบัน ณ วันนี้ เป็นปี ฮ.ศ.1429 เรื่องคำนวนปฏิทินอิสลามอย่าไปสนใจดีกว่า ยาก)
2.เมื่อถึงมะดีนะฮฺ ซึ่งแถวนั้นยิวเยอะ แรกๆยิวรับฟังแล้วกำลังคิดว่าอาจเป็นพระเมสสิยาหฺแต่เมื่อสืบๆแล้วไม่ใช่ลูกหลานของอิสอัคจึงปฏิเสธ จึงมีคำเรียกว่ามุกนาฟิก แปลว่าผู้กลับกรอก แต่ใช้กรณีคือ ผู้ที่ไม่ศรัทธาแสร้งมาเป็นผู้ศรัทธา เมื่อเข้มแข็งก็ยกทัพกลับมาตีเมืองมักกะฮฺ ตามความเชื่อของเขา เมืองนี้คือที่ที่อับราฮัมสรางที่สักการะบูชาพระเจ้าครั้งแรก และหลังจากตีสำเร็จ ได้ทำลายรูปเคารพทั้งหมด แล้วประกาศเมืองมักกะฮฺให้เป็นเมืองต้องห้าม(หะร็อม) คือห้ามนำรูปเคารพเข้ามา ห้ามมีสิ่งที่ผิดบัญญัติศาสนาเข้ามา แล้วปัจจุบันที่ซาอุฯห้ามมีการนมัสการศาสนาอื่นของจากอิสลาม
3.เรื่องรายละเอียดรูปเคารพ ผมไม่ทราบจริงๆ แต่มีชื่อในอัลกุรอาน "อัลล๊าต"(ซึ่งมีคนเข้าใจเป็นอัลลอฮฺ แท้จริงแล้วในอัลกุรอ่านได้กล่าวถึงรูปเคารพนี้ และมีการประนามอยู่)
ในอัลกุรอานยังกล่าวถึงคนกลุ่มหนึ่งไม่ว่าอย่างไรก็ไม่เลิกบูชารูปเคารพจึงมีซูเราะฮฺหนึ่งชื่อ อัลกาฟิรูน(โอ้หมู่มวลผู้ไร้ศรัธา) ซูเราะฮฺที่109
บิสมิ้ลลาฮี้รเราะฮฺมานี้รเราะฮฺฮีม (ในพระนามอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาและปราณีเสมอ)
1.กุลยาอัยยุฮ้าลกาฟิรูน (โอ้หมู่มวลผู้ไร้ศรัทธาเอ๋ย)
2.ลาอฺบุดูนมาตะอฺบุดูน (ฉันจะไม่เคารพภักดีสิ่งที่พวกเธอเคารพบูชาอยู่)
3.ว่ะ ลาอันตุ้ม อ้าบิดุวนะ ม้าอ่ะอฺบูด (และพวกเธอก็ไม่ใช่เป็นผู้เคารพภักดีพระเจ้าที่ฉันเคารพภักดี)
4.ว่ะ ลาอ่ะน้า อ้าบิดุมม้า อ้าบัตตุ้ม (และฉันก็มิใช่เป็นผู้เคารพบูชาสิ่งที่พวกเธอเคารพบูชา)
5.ว่ะ ลาอันตุ้ม อ้าบิดุวนะ ม้าอ่ะอฺบูด (และพวกเธอก็มิใช่เป็นผู้เคารพภักดีพระเจ้าที่ฉันเคารพภักดี)
6.ล่ะกุ้ม ดีนุกุ้ม วาลีย่ะดีน (สำหรับพวกเธอก็คือศาสนาของพวกเธอ และสำหรับฉันก็คือศาสนาของฉัน[ไม่เกี่ยวกัน])
4.เรื่องทำฮัจญ์ ขอบอกว่าแต่ละมัซฮับก็ทำไม่เหมือนกัน สุนหนี่มี4มัซฮับ(สำนักกฏหมายหรือนิกายย่อย) ชาฟิอี(เมืองไทยใช้มัซฮับนี้),ฮัมบาลี(มีมากในตะวันออกกลาง),มาลิกี,ฮานาฟี ชีอะฮฺไม่แยกมัซฮับจึงมีมัซฮับเดียว และผมไม่มีความรู้เรื่องทำฮัจญ์เลย รู้แค่การขว้างเสาหินแปลว่าเปHนการตัดขาดจากบาป แ]h;หลังไปจากการทำฮัจญ์ ไม่มีตำแหน่งหรืออะไรแต่อย่างใด เขาก็เป็นมุสลิมเท่ากันเหมือนคนอื่นๆ เป็นค่านิยมท้องถิ่นกันเองที่เรียกคนไปทำฮัจญ์แล้วว่าฮัจญีหรือฮัจญะฮฺ แต่ที่พอรู้คือเมื่อท่านศาสดากลับจากอะไรซักอย่างจะทำแบบนี้ตลอด เดินเวียนรอบบัยตุลลอฮฺ7รอบ รายละเอียดบอดตามตรงคือไม่รู้= =ฮะ
ถ้าศึกษาเลยใช้เวปนี้สิฮะ www.siamic.com
พระเจ้าอวยพรเช่นกันฮะ
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
เขาเอาความเชื่อเดิมของยิวกับของคริสต์มาเขียนขึ้นใหม่ครับ
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
ความรู้ๆๆๆ
กระทู้นี้เอาไปเลยเต็มสิบ
กระทู้นี้เอาไปเลยเต็มสิบ
ขอบคุณ คุณแมวสีน้ำตาลมากครับ สำหรับความรู้เพิ่มเติมครับผม
ขอพระอวยพรคุณและทุกท่านครับผม
ขอพระอวยพรคุณและทุกท่านครับผม
เรื่องความเหมือน ก็มีอย่างที่พี่ๆบอกไปแล้ว
แต่ความต่างแน่นอนว่าถ้าไม่ต่างมันคงเป็นศาสนาเดียวกันแล้ว
คนที่ถูกตรึงกางเขนคือยูดาส อิสคาริโอท ที่อัลลอฮฺได้ทำให้เขาหน้าเหมือนนบีอีซา อลัยฮิสลาม
แต่ลองวิเคราะห์ เขาอาจจะเข้าใจคริสต์ในมุมมองของยิว
เพราะตอนนั้นเมืองมะดีนะฮฺเต็มไปด้วยยิว(ตอนที่ศาสดามุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮฺอลัยฮิวัสลาม อพยพจากเมืองมักกะฮฺไปมะดีนะฮฺ เพราะชาวมักกะฮฺที่บูชารูปเคารพไม่ต้อนรับและจ้องจะฆ่า อยู่ต่อไปจะมีคนตายเป็นชะฮีดหรือมรณสักขีมากขึ้น)
เพราะยิวตอนนั้นเรียกคริสต์ว่า นาซารีน อิสลามเรียกนัศรอนีย์
แต่คริสต์ที่ใช้ภาษาอาหรับ จะเรียกตัวเองว่า
มะซีฮฺย์ยะฮฺ หรือ มะซียัต
مسيحية
(ป.ล.สะกดยากมาก มีตัว [ม] ตัว [ซ] และตัว [ย.]ที่ทำหน้าที่สระอี แล้วตัว [ฮ] แล้ว [ย] 2ตัวเพราะมีสัญลักษณ์ซ้ำอักษร แล้วตัวที่ได้ทั้ง [ฮ] และ [ต]
เผอิญไม่เก่งไวยากรณือาหรับเลยไม่รู้ว่าจะข้ามไปสะกดตัวไหนได้)
มาจาก เมสสิยาห์นี่เอง
และสัญญาณวันสิ้นโลก ศาสดามุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮฺอลัยฮิวัสลาม ได้ยอมรับว่าศาสดาอีซา อลัยฮิสลามจะกลับมาอีกครั้ง
ตามมุมมองแนวอะฮฺลุ้ลบัยตฺ(ชีอะฮฺ) บอกว่าเมื่อวันนั้นอิมามมะฮิดีจะปรากฏ แล้วนบีอีซากับอิมามมะฮฺดีจะร่วมมือกันสร้างรัฐบาลโลก
อิมามมะฮฺดีตามแนวอะฮฺลุลบัยตฺคือบุคคลที่สืบเชื้อสายศาสดามุฮัมมัดมาทางท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ เป็นอิมามคนที่12
แต่เนื่องจากอิมามทั้ง11คนก่อนหน้านี้(อิมามที่เป็นผู้นำหลังศาสดา ทางสายอะฮฺลุสสุนนะฮฺไม่ยอมรับเรื่องนี้)ถูกสังหารหมด
เมื่ออิมามคนที่12เกิด อัลลอฮฺจึงปกป้องเขาไว้ไม่ให้ใครเห็น หรือติดต่อ อาจอยู่ที่ใดที่หนึ่งในโลก โดยมีชีวิตอยู่ยาวนานโดยที่อัลลอฮฺได้รักษาเขาไว้
ส่วนวันสิ้นโลกของเรา->อ่านวิวรณ์ ละเอียด และชัดที่สุด
แล้วเขา(อิสลาม)อ้างว่ายิวกับคริสต์เปลี่ยนแปลงพระคัมภีร์และคำสอนมาตลอดจนถึงปัจจุบัน
ป.ล.2ข้อมูลมาจากน้องชาวญาติห่างๆที่เป็นมุสลิมอ่ะนะ มันเล่าให้ฟัง
ขออนุญาติแก้ไวยกรณ์อาหรับ ตรงที่บอกว่าمسيحية มะซียัต อันที่จริงต้องบอกว่ามะซียะห์ เพราะ ตัวตาตัวสุดท้าย เป็นตัวสะกด จะกลายเป็นตัวฮา(ใหญ่) เพราะฉะนั้นจะออกเสียงว่ามะซียะห์
แต่ความต่างแน่นอนว่าถ้าไม่ต่างมันคงเป็นศาสนาเดียวกันแล้ว
คนที่ถูกตรึงกางเขนคือยูดาส อิสคาริโอท ที่อัลลอฮฺได้ทำให้เขาหน้าเหมือนนบีอีซา อลัยฮิสลาม
แต่ลองวิเคราะห์ เขาอาจจะเข้าใจคริสต์ในมุมมองของยิว
เพราะตอนนั้นเมืองมะดีนะฮฺเต็มไปด้วยยิว(ตอนที่ศาสดามุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮฺอลัยฮิวัสลาม อพยพจากเมืองมักกะฮฺไปมะดีนะฮฺ เพราะชาวมักกะฮฺที่บูชารูปเคารพไม่ต้อนรับและจ้องจะฆ่า อยู่ต่อไปจะมีคนตายเป็นชะฮีดหรือมรณสักขีมากขึ้น)
เพราะยิวตอนนั้นเรียกคริสต์ว่า นาซารีน อิสลามเรียกนัศรอนีย์
แต่คริสต์ที่ใช้ภาษาอาหรับ จะเรียกตัวเองว่า
มะซีฮฺย์ยะฮฺ หรือ มะซียัต
مسيحية
(ป.ล.สะกดยากมาก มีตัว [ม] ตัว [ซ] และตัว [ย.]ที่ทำหน้าที่สระอี แล้วตัว [ฮ] แล้ว [ย] 2ตัวเพราะมีสัญลักษณ์ซ้ำอักษร แล้วตัวที่ได้ทั้ง [ฮ] และ [ต]
เผอิญไม่เก่งไวยากรณือาหรับเลยไม่รู้ว่าจะข้ามไปสะกดตัวไหนได้)
มาจาก เมสสิยาห์นี่เอง
และสัญญาณวันสิ้นโลก ศาสดามุฮัมมัด ศ็อลลอลลอฮฺอลัยฮิวัสลาม ได้ยอมรับว่าศาสดาอีซา อลัยฮิสลามจะกลับมาอีกครั้ง
ตามมุมมองแนวอะฮฺลุ้ลบัยตฺ(ชีอะฮฺ) บอกว่าเมื่อวันนั้นอิมามมะฮิดีจะปรากฏ แล้วนบีอีซากับอิมามมะฮฺดีจะร่วมมือกันสร้างรัฐบาลโลก
อิมามมะฮฺดีตามแนวอะฮฺลุลบัยตฺคือบุคคลที่สืบเชื้อสายศาสดามุฮัมมัดมาทางท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ เป็นอิมามคนที่12
แต่เนื่องจากอิมามทั้ง11คนก่อนหน้านี้(อิมามที่เป็นผู้นำหลังศาสดา ทางสายอะฮฺลุสสุนนะฮฺไม่ยอมรับเรื่องนี้)ถูกสังหารหมด
เมื่ออิมามคนที่12เกิด อัลลอฮฺจึงปกป้องเขาไว้ไม่ให้ใครเห็น หรือติดต่อ อาจอยู่ที่ใดที่หนึ่งในโลก โดยมีชีวิตอยู่ยาวนานโดยที่อัลลอฮฺได้รักษาเขาไว้
ส่วนวันสิ้นโลกของเรา->อ่านวิวรณ์ ละเอียด และชัดที่สุด
แล้วเขา(อิสลาม)อ้างว่ายิวกับคริสต์เปลี่ยนแปลงพระคัมภีร์และคำสอนมาตลอดจนถึงปัจจุบัน
ป.ล.2ข้อมูลมาจากน้องชาวญาติห่างๆที่เป็นมุสลิมอ่ะนะ มันเล่าให้ฟัง
ขออนุญาติแก้ไวยกรณ์อาหรับ ตรงที่บอกว่าمسيحية มะซียัต อันที่จริงต้องบอกว่ามะซียะห์ เพราะ ตัวตาตัวสุดท้าย เป็นตัวสะกด จะกลายเป็นตัวฮา(ใหญ่) เพราะฉะนั้นจะออกเสียงว่ามะซียะห์
Sebastian เขียน: จากการคาดเดาของผม อิสลามน่าจะ ก๊อบปี้ ไบเบิ้ลเป็นรากฐานในการสร้างอลกุรอ่าน
ปล. ผมอ่านอัลกุรอ่านได้ .....แต่ตอนนี้เป็นคริสตเตียนแล้ว คริคริ มีอารายถามได้ค้าบๆๆๆๆ
ดีเลยครับ เพราะมีคำถามมากมาย จริงๆแล้วถามอดีดอิสลาม ที่เป็นคริสเตียนปัจจุบัน น่าจะปลอดภัยกว่าไปถามอิสลามจริงๆโดยตรง หรือศึกษาจากความรู้ตะวันตก(ซึ่งมีการบิดเบือนและขาดความเข้าใจ)ในอิสลาม มีผู้ใหญ่เขาสอนผมไว้ว่า " อยู่กับคน มันต้องเข้าใจคน" ใช่ไหมครับ
ขอพระอวยพรคุณครับผม
ครับได้ลองอ่านแบบคร่าวๆแล้ว...เกรงว่าหากคนที่เป็นอิสลามเข้ามาอ่านแล้วจะทำให้เกิดมีความขัดแย้งกันไหม? และเมื่อเขาอ่านแล้วหากเป็นความจริง เขาจะยอมรับด้วยดี หรือยังเกิดความขัดแย้งที่รับไม่ได้ในใจหรือเปล่า...เพราะความเชื่อเป็นเรื่องละอียดอ่อนมาก ถ้าคิดในแง่เชิงวิชาการก็เป็นการศึกษา แต่หากในแง่ของความเชื่อเค้าจะมองว่าเป็นการโจมตี ชีวิตช่างสลับซับซ้อนเสียจริงๆ...
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างที่เห็นได้ชัดในคำสอนคือ
[quote="Immanuel (MichaelPaul)"]
สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างที่เห็นได้ชัดในคำสอนคือ
สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างที่เห็นได้ชัดในคำสอนคือ
Pry-Kaew เขียน:Sebastian เขียน: จากการคาดเดาของผม อิสลามน่าจะ ก๊อบปี้ ไบเบิ้ลเป็นรากฐานในการสร้างอลกุรอ่าน
ปล. ผมอ่านอัลกุรอ่านได้ .....แต่ตอนนี้เป็นคริสตเตียนแล้ว คริคริ มีอารายถามได้ค้าบๆๆๆๆ
ดีเลยครับ เพราะมีคำถามมากมาย จริงๆแล้วถามอดีดอิสลาม ที่เป็นคริสเตียนปัจจุบัน น่าจะปลอดภัยกว่าไปถามอิสลามจริงๆโดยตรง หรือศึกษาจากความรู้ตะวันตก(ซึ่งมีการบิดเบือนและขาดความเข้าใจ)ในอิสลาม มีผู้ใหญ่เขาสอนผมไว้ว่า " อยู่กับคน มันต้องเข้าใจคน" ใช่ไหมครับ
ขอพระอวยพรคุณครับผม
ผมไม่เข้าใจคำถามค้าบ ขออีกรอบ
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
[quote="อันตน"]
[quote="Immanuel (MichaelPaul)"]
สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างที่เห็นได้ชัดในคำสอนคือ
[quote="Immanuel (MichaelPaul)"]
สิ่งที่แตกต่างอีกอย่างที่เห็นได้ชัดในคำสอนคือ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ระวัง ครูเสดยุค 2008 ด้วยนะจ้า
แสดงความเห็นโดยสันตินะจ้า
เตือนไว้ก่อน กลัวไฟจะลุกจ้า
แสดงความเห็นโดยสันตินะจ้า
เตือนไว้ก่อน กลัวไฟจะลุกจ้า
นั่นจิ น่ากลัวเน้อ~@Little lamb@~ เขียน: ระวัง ครูเสดยุค 2008 ด้วยนะจ้า
แสดงความเห็นโดยสันตินะจ้า
เตือนไว้ก่อน กลัวไฟจะลุกจ้า ::005::
เอ่อไม่ได้อะไรนะ
การตีความอัลกุรอ่าน
1.ห้ามตีความกันเอง ต้องมีผู้รู้ช่วยตีความ(โดยเฉพาะสายของชีอะฮฺต้องศรัทธาในอิมามะหรือภาวะการกำหนดแต่งตั้งผู้นำ)
2.ห้ามตีความจากภาษาอื่นนอกจากภาษาต้นฉบับ(อาหรับ)
3.ต้องมีหลักฐานอ้างอิงประกอบเช่น อัลฮะดิษ(บันทึกเรื่องราวของศาสดามุฮัมมัด ถ้าดูดีๆ ก็ไดอารี่ที่เขียนถึงมุฮัมมัดนั่นแหละ) ซึ่งแต่ละนิกายจะใช้ไม่เหมือนกัน
ดังนั้นจึงไม่พบอิสลามนิกายไหนที่ที่ยึดหลักกีตาบุลลอฮฺ(หลักของอัลกุรอาน)อย่างเดียว
การตีความอัลกุรอ่าน
1.ห้ามตีความกันเอง ต้องมีผู้รู้ช่วยตีความ(โดยเฉพาะสายของชีอะฮฺต้องศรัทธาในอิมามะหรือภาวะการกำหนดแต่งตั้งผู้นำ)
2.ห้ามตีความจากภาษาอื่นนอกจากภาษาต้นฉบับ(อาหรับ)
3.ต้องมีหลักฐานอ้างอิงประกอบเช่น อัลฮะดิษ(บันทึกเรื่องราวของศาสดามุฮัมมัด ถ้าดูดีๆ ก็ไดอารี่ที่เขียนถึงมุฮัมมัดนั่นแหละ) ซึ่งแต่ละนิกายจะใช้ไม่เหมือนกัน
ดังนั้นจึงไม่พบอิสลามนิกายไหนที่ที่ยึดหลักกีตาบุลลอฮฺ(หลักของอัลกุรอาน)อย่างเดียว
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
^
^
^
มะรุ้จิแต่ที่ผมเอามาโพสต์รวมถึงการตีความผมเอามาจากมุสลิมในเว็ปบบอร์ดพันทึบน่ะ เค้ามาตีความบทนี้ให้ฟังน่ะ เห็นว่าพอดีกะกระทุ้นี้พอดีเลยเอามาให้อ่านกันน่ะจ้า ลำพังตัวผมเองไม่มีปัญญาจะไปตีความคัมภีร์ใครหรอกขนาดไบเบิ้ลยังจะไม่รอด
^
^
มะรุ้จิแต่ที่ผมเอามาโพสต์รวมถึงการตีความผมเอามาจากมุสลิมในเว็ปบบอร์ดพันทึบน่ะ เค้ามาตีความบทนี้ให้ฟังน่ะ เห็นว่าพอดีกะกระทุ้นี้พอดีเลยเอามาให้อ่านกันน่ะจ้า ลำพังตัวผมเองไม่มีปัญญาจะไปตีความคัมภีร์ใครหรอกขนาดไบเบิ้ลยังจะไม่รอด