กม.หนังดุห้ามมีฉากร่วมเพศฉายในไทยเล็งออก7เรตหนัง
โพสต์แล้ว: เสาร์ พ.ค. 31, 2008 1:39 am
กม.หนังดุห้ามมีฉากร่วมเพศฉายในไทยเล็งออก7เรตหนัง
โดย คม ชัด ลึก วัน ศุกร์ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 00:00 น.
วธ.จัดทัพรอ กม.หนังคลอด 2 มิ.ย. ตั้ง สำนักภาพยนตร์และวีดีทัศน์ เตรียมคนทำงานเกือบ 100 คน ของบกลาง 70 ล้านบาทจัดระเบียบหนัง - โรงหนังทั่วประเทศ ระดมอัยการ กฤษฏีกาให้แนวทางทุกจังหวัด 31 พ.ค. นี้ ด้านปลัดวธ. เผยเตรียมคลอด 7 เรตหนัง ห้ามฉายหนังมีฉากร่วมเพศ ชี้ผิดศีลธรรมอันดีของไทย
เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเมื่อวันที่ 30 พ.ค. นายปรีชา กันธิยะ เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวในฐานะหน่วยงานปฎิบัติที่รองรับ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดีทัศน์แห่งชาติ พ.ศ. 2551 ซึ่งจะประกาศใช้ในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ว่า จากการที่ วธ. จะมีการรับมอบภารกิจตามพ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ จากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในวันที่ 2 มิ.ย.นี้
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ได้มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ทั้งในส่วนสำนักภาพยนตร์และวีดีทัศน์ที่ตั้งขึ้นใหม่ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เปิดรับบุคลากร เจ้าหน้าที่เพื่อตรวจภาพยนตร์เกือบ 100 คน ส่วนงบประมาณได้ทำเรื่องเสนอต่อนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อขอรับงบบริหารงานภาพยนตร์ 2 ทาง คือ เสนอของบกลางจากคณะรัฐมนตรีปีแรก 70 ล้านบาท หรือเรียกเก็บจากค่าธรรมเนียมให้บริการ โดยจะหัก 50 % เพื่อนำมาบริหารงาน เบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ที่ออกตรวจภาพยนตร์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้
เลขาธิการ กวช. กล่าวอีกว่า ในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ สวช. จะทราบว่าภาระกิจการดูแลงานภาพยนตร์และวีดิทัศน์มีอะไรบ้าง โดยทาง สตช. จะนำรายชื่อภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์ และงานอื่นๆ มามอบให้กับ สวช. รับทราบและศึกษาข้อมูลเพื่อเข้าสู่การปฎิบัติงานจริงภายใน 90 วัน อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วง 90 วันต่อจากนี้ไปจะเป็นช่วงเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อมูลและแนวทางปฎิบัติงาน
หากมีผู้ฝ่าฝืนหรือทำผิดกฎหมายโดยไม่เจตนา สวช.จะต้องเข้าไปตักเตือนและทำความเข้าใจเท่านั้น ยังไม่มีการลงโทษรุนแรง ยกเว้นผู้ที่ตั้งใจหลีกเลี่ยงไม่ทำตามกฎหมาย เช่น ลักลอบผลิตขายภาพยนตร์ทั้งในรูปแบบซีดี ดีวีดี นั้นแม้จะอยู่ในช่วง 90 วัน แต่ถือว่ากระทำความผิดในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา มีความผิดและรับโทษหนักเช่นกัน รวมไปถึงบรรดาโรงภาพยนตร์ที่ไม่มีใบอนุญาตฉาย หรือมีแต่ไม่แสดงให้เห็น มีโทษเช่นกัน
"แต่ผมคิดว่าการประกอบธุรกิจโรงภาพยนตร์ถือเป็นธุรกิจใหญ่ น่าจะมีใบอนุญาตทุกแห่ง ยกเว้นโรงภาพยนตร์ชั้น 2 ที่อาจจะไม่ได้ต่ออายุใบอนุญาตฉายมานาน หาก สวช. ตรวจพบจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันทีไม่มีละเว้น แม้จะอยู่ในช่วง 90 วันก็ตาม เพราะถ้าหากผมไม่ดำเนินคดีจะถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่ จึงขอให้โรงภาพยนตร์ทุกแห่งที่ไม่มีใบอนุญาตฉายรีบดำเนินขอใบอนุญาตให้ถูกต้องด้วย" เลขาธิการ กวช. กล่าว
นายวีระ โรจนพจนรัตน์ ปลัด วธ. เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานการประชุมพิจารณาร่างกฎหมายอนุบัญญัติ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 เกี่ยวกับ หลักเกณฑ์การขออนุญาตประกอบกิจการโรงภาพยนตร์ เปิดร้านเช่า แลกเปลี่ยน และจำหน่ายวีดิทัศน์ ตลอดจนการขอใบอนุญาตต่างๆ นอกจากนี้ทีประชุมยังได้หยิบยกปัญหาเรตติ้ง โดยเฉพาะเรตที่ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ชมภาพยนตร์ที่มีฉากการร่วมเพศ ยาเสพติด หรือแม้แต่ฉากอาชญากรรมรุนแรง ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการ และผู้ประกอบการมีความเห็นต่างกัน อย่างไรก็ตาม ข้อเถียงดังกล่าวจะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ทีมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอีกครั้ง
"การที่จะให้มีฉากร่วมเพศเกิดขึ้นกับภาพยนตร์ฉายในประเทศไทย ซึ่งผมเห็นว่า เป็นไปได้ยาก เพราะขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อีกทั้งพ.ร.บ.ดังกล่าวจัดทำขึ้นมาเพื่อคุ้มครองเด็กและเยาวชน แต่ทางผู้ประกอบการก็มีความเห็นต่างว่า บางฉากสื่อถึงความเป็นศิลปะ ดังนั้น ผู้ที่ตัดสินว่าความเหมาะสมอยู่จุดใด คือ กรรมการชุดใหญ่" ปลัดวธ.กล่าว
นายวีระ กล่าวอีกว่า ส่วนเรตติ้งภาพยนตร์ คณะกรรมการพิจารณาร่างกฏหมายอนุบัญญัติฯได้เตรียมเสนอในการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ มีทั้งหมด 7 ระดับ ได้แก่
1.ภาพยนตร์ที่ควรส่งเสริมให้ชม (ส.)
2.ภาพยนตร์ที่สามารถชมได้ทั่วไป (ท)
3. ภาพยนตร์ที่แนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีขึ้นไปชม (น.13+)
4.ภาพยนตร์ที่แนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีขึ้นไปชม(น.15+)
5.ภาพยนตร์ที่แนะนำให้เด็กต่ำกว่า 18 ปีขึ้นไปชม(น.18+)
6.ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะกับผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีชม (ฉ) และ
7.ภาพยนตร์ที่ห้ามฉายในราชอาณาจักรไทย(ห)
ทั้งนี้การจัดทำเรตติ้ง กฏเกณฑ์ ต่างๆจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 90 ภายหลังพ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้
ปลัดวธ. กล่าวอีกว่า ในวันที่ 31 พ.ค. - 1 มิ.ย. นี้ สวช. จะจัดการประชุมชี้แจงแนวทางปฎิบัติของนายทะเบียนประจำจังหวัด เกี่ยวกับวิธีปฎิบัติทางปกครองและอาญาตามพ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 ที่โรงแรมแม็กซ์ ถนนพระราม 9 กรุงเทพฯ มีนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน เพื่อเป็นแนวทางปฎิบัติการจัดเก็บค่าธรรมเนียม การเชื่อมข้อมูลส่วนกลาง และภูมิภาคแก่วัฒนธรรมจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดทุกจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรมทุกเขตในกรุงเทพฯ และข้าราชการ สวช. จำนวน 300 คน
ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการบรรยายเรื่อง พ.ร.บ.ภาพยนตร์ โดยนายสงขลา วิชัยขัทคะ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฏีกา วิธีปฎิบัติตามประมวลกฎหมาย โดยผู้แทนสำนักอัยการสูงสุด รวมไปถึงการให้ความรู้ เรื่อง วิธีปฎิบัติเกี่ยวกับพระราชบัญญัติวิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 และพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิด พ.ศ. 2539
http://www.komchadluek.net/
โดย คม ชัด ลึก วัน ศุกร์ ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 00:00 น.
วธ.จัดทัพรอ กม.หนังคลอด 2 มิ.ย. ตั้ง สำนักภาพยนตร์และวีดีทัศน์ เตรียมคนทำงานเกือบ 100 คน ของบกลาง 70 ล้านบาทจัดระเบียบหนัง - โรงหนังทั่วประเทศ ระดมอัยการ กฤษฏีกาให้แนวทางทุกจังหวัด 31 พ.ค. นี้ ด้านปลัดวธ. เผยเตรียมคลอด 7 เรตหนัง ห้ามฉายหนังมีฉากร่วมเพศ ชี้ผิดศีลธรรมอันดีของไทย
เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเมื่อวันที่ 30 พ.ค. นายปรีชา กันธิยะ เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวในฐานะหน่วยงานปฎิบัติที่รองรับ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดีทัศน์แห่งชาติ พ.ศ. 2551 ซึ่งจะประกาศใช้ในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ว่า จากการที่ วธ. จะมีการรับมอบภารกิจตามพ.ร.บ.ภาพยนตร์ฯ จากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ในวันที่ 2 มิ.ย.นี้
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ได้มีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ทั้งในส่วนสำนักภาพยนตร์และวีดีทัศน์ที่ตั้งขึ้นใหม่ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เปิดรับบุคลากร เจ้าหน้าที่เพื่อตรวจภาพยนตร์เกือบ 100 คน ส่วนงบประมาณได้ทำเรื่องเสนอต่อนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เพื่อขอรับงบบริหารงานภาพยนตร์ 2 ทาง คือ เสนอของบกลางจากคณะรัฐมนตรีปีแรก 70 ล้านบาท หรือเรียกเก็บจากค่าธรรมเนียมให้บริการ โดยจะหัก 50 % เพื่อนำมาบริหารงาน เบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่ที่ออกตรวจภาพยนตร์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆนี้
เลขาธิการ กวช. กล่าวอีกว่า ในวันที่ 2 มิ.ย.นี้ สวช. จะทราบว่าภาระกิจการดูแลงานภาพยนตร์และวีดิทัศน์มีอะไรบ้าง โดยทาง สตช. จะนำรายชื่อภาพยนตร์ โรงภาพยนตร์ และงานอื่นๆ มามอบให้กับ สวช. รับทราบและศึกษาข้อมูลเพื่อเข้าสู่การปฎิบัติงานจริงภายใน 90 วัน อย่างไรก็ตาม แม้ในช่วง 90 วันต่อจากนี้ไปจะเป็นช่วงเรียกทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อมูลและแนวทางปฎิบัติงาน
หากมีผู้ฝ่าฝืนหรือทำผิดกฎหมายโดยไม่เจตนา สวช.จะต้องเข้าไปตักเตือนและทำความเข้าใจเท่านั้น ยังไม่มีการลงโทษรุนแรง ยกเว้นผู้ที่ตั้งใจหลีกเลี่ยงไม่ทำตามกฎหมาย เช่น ลักลอบผลิตขายภาพยนตร์ทั้งในรูปแบบซีดี ดีวีดี นั้นแม้จะอยู่ในช่วง 90 วัน แต่ถือว่ากระทำความผิดในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญา มีความผิดและรับโทษหนักเช่นกัน รวมไปถึงบรรดาโรงภาพยนตร์ที่ไม่มีใบอนุญาตฉาย หรือมีแต่ไม่แสดงให้เห็น มีโทษเช่นกัน
"แต่ผมคิดว่าการประกอบธุรกิจโรงภาพยนตร์ถือเป็นธุรกิจใหญ่ น่าจะมีใบอนุญาตทุกแห่ง ยกเว้นโรงภาพยนตร์ชั้น 2 ที่อาจจะไม่ได้ต่ออายุใบอนุญาตฉายมานาน หาก สวช. ตรวจพบจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันทีไม่มีละเว้น แม้จะอยู่ในช่วง 90 วันก็ตาม เพราะถ้าหากผมไม่ดำเนินคดีจะถือว่าไม่ปฏิบัติหน้าที่ จึงขอให้โรงภาพยนตร์ทุกแห่งที่ไม่มีใบอนุญาตฉายรีบดำเนินขอใบอนุญาตให้ถูกต้องด้วย" เลขาธิการ กวช. กล่าว
นายวีระ โรจนพจนรัตน์ ปลัด วธ. เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานการประชุมพิจารณาร่างกฎหมายอนุบัญญัติ พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 เกี่ยวกับ หลักเกณฑ์การขออนุญาตประกอบกิจการโรงภาพยนตร์ เปิดร้านเช่า แลกเปลี่ยน และจำหน่ายวีดิทัศน์ ตลอดจนการขอใบอนุญาตต่างๆ นอกจากนี้ทีประชุมยังได้หยิบยกปัญหาเรตติ้ง โดยเฉพาะเรตที่ห้ามผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ชมภาพยนตร์ที่มีฉากการร่วมเพศ ยาเสพติด หรือแม้แต่ฉากอาชญากรรมรุนแรง ซึ่งยังไม่ได้ข้อยุติ เนื่องจากคณะกรรมการซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการ และผู้ประกอบการมีความเห็นต่างกัน อย่างไรก็ตาม ข้อเถียงดังกล่าวจะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการภาพยนตร์และวีดิทัศน์แห่งชาติ ทีมีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานอีกครั้ง
"การที่จะให้มีฉากร่วมเพศเกิดขึ้นกับภาพยนตร์ฉายในประเทศไทย ซึ่งผมเห็นว่า เป็นไปได้ยาก เพราะขัดต่อขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อีกทั้งพ.ร.บ.ดังกล่าวจัดทำขึ้นมาเพื่อคุ้มครองเด็กและเยาวชน แต่ทางผู้ประกอบการก็มีความเห็นต่างว่า บางฉากสื่อถึงความเป็นศิลปะ ดังนั้น ผู้ที่ตัดสินว่าความเหมาะสมอยู่จุดใด คือ กรรมการชุดใหญ่" ปลัดวธ.กล่าว
นายวีระ กล่าวอีกว่า ส่วนเรตติ้งภาพยนตร์ คณะกรรมการพิจารณาร่างกฏหมายอนุบัญญัติฯได้เตรียมเสนอในการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ มีทั้งหมด 7 ระดับ ได้แก่
1.ภาพยนตร์ที่ควรส่งเสริมให้ชม (ส.)
2.ภาพยนตร์ที่สามารถชมได้ทั่วไป (ท)
3. ภาพยนตร์ที่แนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีขึ้นไปชม (น.13+)
4.ภาพยนตร์ที่แนะนำให้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีขึ้นไปชม(น.15+)
5.ภาพยนตร์ที่แนะนำให้เด็กต่ำกว่า 18 ปีขึ้นไปชม(น.18+)
6.ภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะกับผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีชม (ฉ) และ
7.ภาพยนตร์ที่ห้ามฉายในราชอาณาจักรไทย(ห)
ทั้งนี้การจัดทำเรตติ้ง กฏเกณฑ์ ต่างๆจะต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 90 ภายหลังพ.ร.บ.ฉบับนี้มีผลบังคับใช้
ปลัดวธ. กล่าวอีกว่า ในวันที่ 31 พ.ค. - 1 มิ.ย. นี้ สวช. จะจัดการประชุมชี้แจงแนวทางปฎิบัติของนายทะเบียนประจำจังหวัด เกี่ยวกับวิธีปฎิบัติทางปกครองและอาญาตามพ.ร.บ.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ พ.ศ.2551 ที่โรงแรมแม็กซ์ ถนนพระราม 9 กรุงเทพฯ มีนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธาน เพื่อเป็นแนวทางปฎิบัติการจัดเก็บค่าธรรมเนียม การเชื่อมข้อมูลส่วนกลาง และภูมิภาคแก่วัฒนธรรมจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดทุกจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรมทุกเขตในกรุงเทพฯ และข้าราชการ สวช. จำนวน 300 คน
ทั้งนี้ ภายในงานจะมีการบรรยายเรื่อง พ.ร.บ.ภาพยนตร์ โดยนายสงขลา วิชัยขัทคะ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฏีกา วิธีปฎิบัติตามประมวลกฎหมาย โดยผู้แทนสำนักอัยการสูงสุด รวมไปถึงการให้ความรู้ เรื่อง วิธีปฎิบัติเกี่ยวกับพระราชบัญญัติวิธีปฎิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 และพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิด พ.ศ. 2539
http://www.komchadluek.net/