Belong to the Truth Jesus Christ

คืออยากทราบว่า คริสตชนเราสามารถวาง "ดอกไม้จัน" (เขียนงี้เปล่าหว่า) ในงานเผาศพของชาวพุทธได้หรือไม่ คือพอทราบมาว่าในงานสวดศพเราสามารถไหว้ศพได้ แต่ว่าเรื่องการวางดอกไม้จันในวันเผาเนี่ย ผมเองก็ไม่รู้ความหมายว่าการวางดอกไม้จันมันหมายความว่ายังไงเลยอยาทราบว่า เราสามารถวางดอกไม้จันในงานเผาศพได้หรือไม่ (หากมีใครทราบความหมายของการวางดอกไม้จันรบกวนบอกทีครับ)

จะไปงานวันจันทร์แล้วรบกวนตอบด้วยค้าบบบบบบ

Immanuel (MichaelPaul) เขียน: คืออยากทราบว่า คริสตชนเราสามารถวาง "ดอกไม้จัน" (เขียนงี้เปล่าหว่า) ในงานเผาศพของชาวพุทธได้หรือไม่ คือพอทราบมาว่าในงานสวดศพเราสามารถไหว้ศพได้ แต่ว่าเรื่องการวางดอกไม้จันในวันเผาเนี่ย ผมเองก็ไม่รู้ความหมายว่าการวางดอกไม้จันมันหมายความว่ายังไงเลยอยาทราบว่า เราสามารถวางดอกไม้จันในงานเผาศพได้หรือไม่ (หากมีใครทราบความหมายของการวางดอกไม้จันรบกวนบอกทีครับ)

จะไปงานวันจันทร์แล้วรบกวนตอบด้วยค้าบบบบบบ

ตอนนั้น ผมอยู่โบสถ์โปรฯ

แล้วคุณตาเสีย..ด้วยโรคมะเร็ง..

ที่งานศพ(พุทธ) ผมก็ไม่ได้ไหว้ศพนะ...งง ไหว้ได้ด้วยหรอ...

แต่ดอกไม้จันทร์ผมก็วางนะ    เพราะ ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร แล้วก็ไม่ได้คิดถึงการเคารพศพหนะ

ส่วนท่าทีในงาน ก็วางตัวลำบากเหมือนกัน .... แต่ผมก็ทำหน้าที่เก็บภาพงาน และก็สงบเสงี่ยมเจียมตัว เพราะเป็นคริสต์อยู่คนเดียวเอง.. :emotion_057:

การไหว้ศพเป็นเหมือนการให้ความเคารพต่อผู้ตายครับผม ^^ รวมถึงปลอบประโลมวิญญาณผู้ตายด้วยครับ (แล้วแต่เจตนารมณ์) แต่จะไม่ได้ไปไหว้พระพุทธรูปนะครับ

ไหว้ได้เเน่นอนค่ะ อันนี้มายืนยัน เพราะเคยได้ยินครูคำสอนพูดอยู่
-ดอกไม้จันทร์ เท่าที่เคยทราบ เค้าว่าเป็นไม้หอมสมัยก่อนใช้มันกลบกลิ่นศพ ฯลฯ ถึงจะมีธูปเทียนติดอยู่เเต่ก็ไม่น่าจะเป็นอะไรค่ะ

ไหว้ได้อยู่แล้วครับ เราทำเพื่อให้เกียรติผู้ตายครับ

เราไม่ได้ไปไหว้พระอื่นนี่เนอะ

ตอนงานศพอิทธิ พลางกูร ก็มีดอกไม้จันทน์

แต่สำแดงความเป็นคริสตชนผ่านการเปลี่ยนเป็นดอกกุหลาบ 

เราเอาดอกกุหลาบไปวางเองเหรอ หรือคเทดอกไม้จันเป็นรูปกุหลาบอ่ะ

ขอโทษนะคะที่ตอบช้า อาจไม่ทันเวลาแล้ว แต่...เผื่อต้องไปร่วมพิธีเผาศพครั้งหน้าแล้วกันนะคะ

แนวทางปฏิบัติของคริสตชนคาทอลิก ในพิธีการเกี่ยวกับผู้ตายของพุทธศาสนา
พิธีแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ
การสวดอภิธรรมมีพิธีการดังต่อไปนี้
     
      1. เมื่อเข้าสู่พิธีการเจ้าภาพและลูกหลานหรือเจ้าหน้าที่ของวัด จะเป็นผู้จัดการจุดธูปเทียนที่โต๊ะหมู่บูชาและที่ตู้พระอภิธรรม (ตู้เก็บพระไตรปิฎก)
สำหรับคริสตชนคาทอลิกสามารถมีส่วนร่วมกับเจ้าภาพ โดยการจุดธูปเคารพศพด้วยท่าทีที่เคารพ
      2. พิธีสวดพระอภิธรรมและการรับศีลแบบพุทธ
คริสตชนคาทอลิกควรอยู่ในท่าทีสำรวม
      3. การถวายเครื่องไทยทานปัจจัย ซึ่งจะกระทำหลังการสวดพระอภิธรรม
คริสตชนคาทอลิกหากถูกเชิญ ควรหาผู้กระทำแทน
      4. การกรวดนำ้
คริสตชนคาทอลิกควรหาผู้กระทำแทน

การฌาปนกิจมีพิธีการดังต่อไปนี้

      1. พระธรรมเทศนาโดยพระภิกษุจะเป็นผู้เทศน์
คริสตชนคาทอลิกเข้าร่วมฟังด้วยความสุภาพ
      2. การถวายภัตตาหารเพล
คริสตชนคาทอลิกไม่ควรเป็นผู้ประเคนโดยตรง แต่อาจช่วยจัดเตรียมภัตตาหารได้
      3. การเคลื่อนศพตั้งบนเมรุ ปกติจะเป็นเจ้าหน้าที่ของทางวัดหรือบุคคลที่เจ้าภาพจัดไว้อยู่แล้ว
คริสตชนคาทอลิกสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้ ด้วยการเดินอย่างสำรวม
      4. พระภิกษุสวดมาติกาบังสุกุล (ทอดผ้าบังสุกุล) ในกรณีที่มีการถวายปัจจัย(เงินใส่ซอง)และการกรวดนำ้
คริสตชนคาทอลิกที่เจ้าภาพเชิญให้ถวายปัจจัยและกรวดนำ้ ควรบอกกับเจ้าภาพอย่างสุภาพ ให้หาคนอื่นทำแทน
      5. พิธีทอดผ้าบนเมรุ
คริสตชนคาทอลิกควรหาผู้อื่นทำหน้าที่แทน
      6. การวางดอกไม้จันทน์ประชุมเพลิง
คริสตชนคาทอลิก สามารถขึ้นไปวางไม้จันทน์ได้

เป็นคาทอลิกครับ แต่ทางฝั่งคุณแม่นับถือพุทธ และจะมีการทำบุญให้คุณตาที่เสียไปแล้วทุกปี

1.เวลาที่คนอื่นก้มลงกราบเบญจางค์ฯ3ทีตอนสาธุ แล้วเรายกมือไหว้ปลายนิ้วจรดปลายจมูก

2.เคยรับน้ำมนต์จากพระภิกษุเวลาท่านเดินพรมให้พร

3.เคยช่วยประเคนภัตตาหารถวายแด่พระภิกษุ เนื่องจากเราเป็นหลานชาย ถ้าไม่ช่วยอาจจะโดนญาติผู้ใหญ่ฝั่งแม่ตำหนิเอาได้

4.เวลากรวดน้ำแล้วมีการจับกันเป็นทอดๆผมก้อจะจับคุณแม่ซึ่งเป็นคนที่กรวดน้ำให้

ถ้าเราทำสิ้งเหล่านี้ปีละครั้ง/2ครั้งจะเป็นอะไรมั้ยครับ ต้องไปแก้บาปมั้ยอ่า ถามคุณพ่อผมซึ่งนับถือคาทอลิก(คริสตังนอน) ท่าก้อบอกว่าไม่เป็นอะไรอ่าครับ ถือว่าเป็นญาติกัน

ผมเคยเป็นพุทธนะครับ และทุกปี วันสงกรานต์ญาติๆจะทำบุญกระดูก(บังสุกุล) ผมก็ไปแต่
1. ผมช่วยยกของ เตรียมของทุกอย่าง
2. เวลาพระสวด ผมก็จะอยู่ได้แต่นั่งอย่างสำรวม หรือ แยกตัวออกมาจากตรงนั้น
3. เวลากรวดน้ำผมก็จะรอเอาน้ำไปเททิ้ง(เทลงโคนต้นไม้เพื่อไม่ให้พี่น้องเสียความรู้สึก)
4. เวลาทำบุญบ้านผมก็ช่วยยกของแต่ไม่ได้ประเคน และ เวลาพรมน้ำมนต์ผมก็แยกตัวออกมาครับ

ปล. ขอบคุณ คุณ ignatius มากครับผม

ครับเดิมทีคุณพ่อของผมท่านก้อเป็นคริสตังนอนย่านบางนกแขวก แต่เลิกเข้าวัดมาได้30กว่าปีแล้ว จะไปวัดเฉพาะงานแต่ง งานศพญาติ งานเสกป่าช้า

เท่านั้นครับ แต่ท่านตั้งศาลพระภูมิ ศาลเจ้าที่ในบ้าน ไหว้พระพุทธ ถวายน้ำ+พวงมาลัยทุกวันเลยอ่า แถมตอนพี่ชายผมบวชก้อเห็นท่านช่วยถือตาละปัต

รให้อ่ะคับ ก้อเคยชวนท่านไปวัดคาทอลิกเหมือนกัน แต่ท่านไม่ค่อยไปเท่าไหร่ เวลาไปก้อไม่เห็นท่านเคยแก้บาป หรือรับศีลเลย แต่ก้อไม่ได้เปลี่ยน

เป็นพุทธนะคับ เวลาไปงานทางพุทธกับญาติฝั่งแม่บางทีถามท่านว่าทำอะไนได้หรือไม่ได้ ท่านก้อจะบอกว่าทำไปเถอะ ไม่เป็นไรหรอก .... ผมว่าอาจ

จะเป็นปัญหาสำคัญของคริสตังนอนเลยหละครับ เพราะญาติคริสตังบางคนก้อยังตักบาตร ทอดผ้าป่าอยู่เนืองๆเลยอ่า

Immanuel (MichaelPaul) เขียน: เราเอาดอกกุหลาบไปวางเองเหรอ หรือคเทดอกไม้จันเป็นรูปกุหลาบอ่ะ

กรณีอิทธิพลางกูร ครอบครัวเขาเป็นเจ้าภาพเอง

แค่ยกตัวอย่างมาเฉยๆ

Immanuel (MichaelPaul) เขียน: ผมเคยเป็นพุทธนะครับ และทุกปี วันสงกรานต์ญาติๆจะทำบุญกระดูก(บังสุกุล) ผมก็ไปแต่
1. ผมช่วยยกของ เตรียมของทุกอย่าง
2. เวลาพระสวด ผมก็จะอยู่ได้แต่นั่งอย่างสำรวม หรือ แยกตัวออกมาจากตรงนั้น
3. เวลากรวดน้ำผมก็จะรอเอาน้ำไปเททิ้ง(เทลงโคนต้นไม้เพื่อไม่ให้พี่น้องเสียความรู้สึก)
4. เวลาทำบุญบ้านผมก็ช่วยยกของแต่ไม่ได้ประเคน และ เวลาพรมน้ำมนต์ผมก็แยกตัวออกมาครับ

โห เพื่อนร่วมอุดมการณ์ ผมก็ทำแบบเดียวกับเอกเลยครับ

เพื่อให้สบายใจในการปฎิบัติ ข้อที่มีผู้ยกตัวอย่างและอธิบายอย่างละเอียดนั้น นำมาจากหนังสือซึ่ง
คุณพ่อไพศาลมีส่วนร่วมจัดทำ และได้พิมพ์เป็นที่ระลึกในพิธีปลงศพของท่านครับ ทั้งนี้
หนังสือเล่มนี้ได้อธิบายอย่างละเอียดว่า ที่มา ความคิด ความเชื่อเกี่ยวกับประเพณีวัฒนธรรมไทย
มีที่มาอย่างไร และเราคาทอลิกควรจะวางตัวอย่างไรเมื่อต้องร่วม โดยได้มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน
ร่วมกันจัดทำขึ้น จึงสามารถยึดเป็นหลักในการปฎิบัติได้อย่างถูกต้องครับ

อย่างไรก็ตาม หากมีความเข้าใจในเรื่องของประเพณี พิธีการ และความหมายของการ ไหว้ เคารพ คำนับ คารวะ นมัสการแล้ว
การปฎิบัติต่างๆของเราก็สามารถกระทำได้โดยมีความเข้าใจอย่างดี เหมือนกรณีต่างๆทีเคยมีผู้ถามกันบ่อยๆ เช่น การไหว้ครู
ถวายบังคม ไปร่วมงานบวช  เป็นต้นคับ

ชื่อหนังสือว่าอะไรเหรอครับจะไปหาซื้อติดบ้านไว้เผื่อลูกเผื่อหลาน อิอิ

ขอตอบสนอง พี่พ่อปลัด ที่อ้างากหนังสือพ่อไพศาล   (คู่มือสีเขียว คร้าบ ราคาเล่มล่ะ 30 บาท 3 เล่ม 100 บาท 555 )


พิธีเผาศพ (และการบวชหน้าไฟ)

ความเป็นมา

พิธีกรรมเริ่มด้วยการสวดพระอภิธรรม  คือพิธีกรรมการสวดหน้าศพในแต่ละคืน โดย
เจ้าภาพจะกำหนดสวดหลายคืน แต่ที่นิยมกันคือ 3,5 หรือ 7 คืน ซึ่งงานศพมักเลือกเป็นเลขคี่และนิมนต์พระมาสวดอภิธรรม 4 รูป ถ้านับรวมกับพระพุทธรูปในพิธีหนึ่งองค์ รวมแป็น5 ชาวพุทธที่มาในงานจะเข้าไปเคารพศพโดยการจุดธูป 1 ดอก เพื่ออธิษฐานถึงผู้ตายให้ไปสู่สุขคติหรืออโหสิกรรมต่อกัน และกราบโดยไม่แบมือ 1 ครั้ง เมื่อพระมาถึงมัคาทยกจะนิมนต์พระมานั่งที่อาสนะ  และกล่าวเชิญชวนผู้มาในงานสมาทานศีล  และอาราธนา  พระจะทำการสวดพระอภิธรรมให้ โดยมีการโยงสายสิญจน์จากโลงออกมา ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของร่างศพ เพื่อให้พระพิจารณากัมมัฎฐาน  (พิจารณาอารมณ์ เกิด แก่ เจ็บ ตาย)

พิธีฌาปนกิจ  เป็นพิธีที่กำหนดไว้ในวันรุ่งขึ้น ช่วงเช้าจะมีการชักศพ คือ การเคลื่อนศพขึ้นเมรุเพื่อเตรียมสำหรับพิธีฌาปนกิจในตอนเย็น ส่วนตอนเช้าเจ้าภาพจะถวายภัตตาหาร (เลี้ยงอาหารพระ) ทั้งวัดตามอัตภาพรวมมื้อเพลด้วยถือเป็นการทำบุญให้ผู้ตาย และ พิธีการเผาศพ จะใช้ช่วงตั้งแต่สามโมงเย็นเป็นต้นไป พระที่มาร่วมพิธีจะอยู่บริเวณเมรุ และพระที่นิมนต์มาสวดในพิธี มีเพียง 4 รูปเท่านั้น เหมือนกับตอนที่สวดหน้าศพ และจะมีแขกผู้มีเกียรติที่เจ้าภาพกำหนดขึ้นทอดผ้าไตรบนเมรุที่ได้จัดไว้ จากนั้นก็อาราธนาพระขึ้นพิจารณาผ้าไตรดังกล่าวกระทำก่อนพิธีเผา ต่อไปก็เป็นการประชุมเพลิง หมายถึงการร่วมกันเผาศพ โดยประธานนำดอกไม้จันทร์ไปวางไว้ที่เชิงตะกอน ประธานจะเป็นพระหรือฆราวาสก็ได้ ผู้มาร่วมพิธีขึ้นวางดอกไม้จันทร์ตามลำดับ ให้พระขึ้นก่อนแล้สจึงต่อด้วยฆราวาส เมื่อพิธีวางดอกไม้จันทร์เสร็จสิ้นแล้ว เจ้าหน้าที่เคลื่อนหีบศพเข้าเตาเผาทำการเผาจริงต่อไป ส่วนกระดูกลูกหลานจะเก็บใส่โกศเพื่อเก็บไว้บูชา บรรจุเจดีย์ฝังดิน หรือนำไปลอยอังคารที่แม่น้ำซึ่งหมายว่าให้ดวงวิญญาณมีความสุขและเยือกเย็นเสมือนน้ำ

การบวชหน้าไฟ พุทธศาสนิกชนจะแสดงออกถึงความกตัญญูรู้คุณต่อบุพการีผู้ให้กำเนิด โดยให้บุตรชายบวชเณร ในโอกาสสำคัญดังกล่าวด้วย


แนวทางการปฏิบัติของคริสตชนคาทอลิก

พิธีเผาศพ และการบวชหน้าไฟ


พิธีการเกี่ยวกับผู้ตายแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ

การสวดพระอภิธรรม มีพิธีการดังต่อไปนี้

1. เมื่อเข้าสู่พิธีการเจ้าภาพและลูกหลานหรือเจ้าหน้าที่ของวัดจะเป็นผู้จัดการธูปเทียนที่ โต๊ะหมู่บูชาและที่ตู้พระอภิธรรม สำหรับคริสตชนคาทอลิกสามารถมีส่วนร่วมกับเจ้าภาพโดยการจุดธูปเทียนสำหรับไหว้ศพด้วยท่าทีที่เคารพ

2. พิธีสวดพระอภิธรรมและการรับศีลแบบพุทธ คริสตชนคาทอลิกควรอยู่ในท่าทีสำรวม

3. การถวายเครื่องไทยทานปัจจัย ซึ่งจะกระทำหลังจากการสวดพระอภิธรรม คริสตชน
คาทอลิกหากถูกเชิญ ควรหาผู้กระทำแทน

4. การกรวดน้ำ คริสตชนคาทอลิกควรหาผู้กระทำแทน

การฌาปนกิจ มีพิธีการดังต่อไปนี้

1. พระธรรมเทศนาโดยพระภิกษุจะเป็นผู้เทศน์ คริสตชนคาทอลิกเข้าร่วมฟังด้วยความ
สุภาพ

2. การถวายภัตตาหารเพล คริสตชนคาทอลิกไม่ควรเป็นผู้ประเคนโดยตรง แต่อาจช่วย
จัดเตรียมภัตตาหารได้

3. การเคลื่อนศพตั้งบนเมรุ ปกติจะเป็นเจ้าหน้าที่ของทางวัดหรือบุคคลที่เจ้าภาพจัดไว้อยู่
แล้ว คริสตชนคาทอลิกสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้         

4. พระภิกษุสวดมาติกาบังสุกุล (ทอดผ้าบังสุกุล) ในกรณีที่มีการถวายปัจจัยและการ
กรวดน้ำ คริสตชนคาทอลิกที่เจ้าภาพเชิญให้ถวายปัจจัยและกรวดน้ำ ควรบอกกับเจ้าภาพอย่างสุภาพ ให้หาคนอื่นทำแทน

5. พิธีทอดผ้าบนเมรุ คริสตชนคาทอลิกควรหาผู้อื่นทำหน้าที่แทน

6. การวางดอกไม้จันทร์ประชุมเพลิง คริสตชนคาทอลิกสามารถขึ้นไปวางดอกไม้จันทร์ได้

การบวชหน้าไฟ

กรณี การบวชหน้าไฟ ชาวพุทธมักให้บุตรชายบวชให้แก่บิดามารดาที่ถึงแก่ความตาย เด็กชายที่รับศีลล้างบาปแล้วไม่สามารถจะบวชหน้าไฟได้ เพราะในพิธีนั้นมีการแสดงถึงความเป็นพุทธมามกะต้องรับไตรสรณคมณ์ ซึ่งเป็นการประกาศตนเป็นพุทธศาสนิกชนอย่างชัดเจน จึงเป็นหน้าที่ของชาวพุทธ


พิธีการถวายผ้าบังสุกุล (ทอดผ้าบังสุกุล)ความเป็นมา

ผ้าบังสุกุล คือ ผ้าห่อศพที่พระภิกษุทางพุทธศาสนานำมาเป็นเครื่องนุ่งห่ม สำหรับที่ผู้ออก
บวชในพระบวรพุทศาสนานั้นจะต้องถือเป็นปัจจัยสี่เลี้ยงชีพอย่างเคร่งครัด หนึ่งในนั้นได้แก่จีวร 
การถวายผ้าบังสุกุล เป็นการถวายผ้าสามอย่างแก่พระภิกษุก่อนที่จะมีการประชุมเพลิง
ได้แก่ จีวร สบง  สังฆาฏิ  ซึ่งผ้าเหล่านี้ใช้ในการครองของพระภิกษุสงฆ์

สมัยพุทธกาล พระภิกษุสงฆ์ที่ออกบวชเป็นพระธุดงค์ที่จำศีลบำเพ็ญตนอยู่ในป่า การที่จะหาผ้ามาทำเป็นสบง จีวรนุ่งห่มนั้นค่อนข้างยากจึงต้องใช้ผ้าห่อศพมาซักและย้อมสีจากเปลือกไม้ แล้วนำมาทำเป็นสบงใช้นุ่งและจีวรใช้ครอง ที่ทำเช่นนี้เนื่องจากสมัยก่อนผ้าหายาก การออกบวชนั้นเป็นการบอกถึงการละแล้วซึ่งกิเลสจึงไม่จำเป็นต้องคำนึงว่าจะต้องเป็นผ้าแบบไหน นำมาจากที่ใด แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาก้าวหน้าผ้าสำหรับพระสงฆ์ใช้ก็หาง่าย ดังนั้นผู้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานศพจึงได้จัดเตรียมทั้งสามอย่างนี้ หรืออย่างใดอย่างหนึ่งไว้ เพื่อที่จะทอดให้กับพระภิกษุที่มาทำพิธี ซึ่งเราเรียกว่าการทอดผ้าบังสุกุล
ในการทอดผ้าบังสุกุลนี้ เจ้าภาพจะเชิญแขกสำหรับที่มาในงาน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารส่วนตำบล ครูใหญ่ ฯลฯ เป็นตัวแทนของครอบครัวผู้ตายไปทอดผ้าถือว่าเป็นเกียรติแก่เจ้าภาพ และให้เกียรติแก่ดวงวิญญาณของผู้ที่จากไป

แนวทางการปฏิบัติของคริสตชนคาทอลิก พิธีเผาศพ และการบวชหน้าไฟ

พิธีการเกี่ยวกับผู้ตายแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ

การสวดอภิธรรม มีพิธีการดังต่อไปนี้

1.เมื่อเข้าสู่พิธีการเจ้าภาพและลูกหลานหรือเจ้าหน้าที่ของวัดจะเป็นผู้จัดการจุดธูปเทียนที่โต๊ะหมู่บูชาและที่ตู้อภิธรรม สำหรับคริสตชนคาทอลิกสามารถมีส่วนร่วมกับเจ้าภาพโดยการจุดธูปเทียนสำหรับไหว้ศพด้วยท่าทีที่เคารพ
2.พิธีสวดอภิธรรมและการรับศีลแบบพุทธ คริสตชนคาทอลิกควรอยู่ในท่าทีสำรวม
3.การถวายเครื่องไทยทานปัจจัย ซึ่งจะกระทำหลังการสวดพระอภิธรรม คริสตชนคาทอลิกหากถูกเชิญ ควรหาผู้กระทำแทน
4.การกรวดน้ำ คริสตชนคาทอลิกควรหาผู้กระทำแทน

การฌาปนกิจ มีพิธีการดังต่อไปนี้

1.พระธรรมเทศนาโดยพระภิกษุจะเป็นผู้เทศน์ คริสตชนคาทอลิกเข้าร่วมฟังด้วยความสุภาพ
                2.การถวายภัตตาหารเพล คริสตชนคาทอลิกไม่ควรเป็นผู้ประเคนโดยตรง แต่อาจช่วยจัดเตรียมภัตตาหารได้
3.การเคลื่อนศพตั้งบนเมรุ ปกติจะเป็นเจ้าหน้าที่ของทางวัดหรือบุคคลที่เจ้าภาพจัดไว้แล้ว คริสตชนคาทอลิกสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมได้
4.พระภิกษุสวดมาติกาบังสุกุล (ทอดผ้าบังสุกุล) ในกรณีที่มีการถวายปัจจัยและการกรวดน้ำ คริสตชนคาทอลิกที่เจ้าภาพเชิญให้ถวายปัจจัยและกรวดน้ำ ควรบอกกับเจ้าภาพอย่างสุภาพ ให้หาคนอื่นทำแทน
5.พิธีทอดผ้าบนเมรุ คริสตชนคาทอลิกควรหาผู้อื่นทำหน้าที่แทน
6.การวางดอกไม้จันทน์ประชุมเพลิง คริสตชนคาทอลิกสามารถขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์ได้


              การบวชหน้าไฟ
กรณี การบวชหน้าไฟ ชาวพุทธมักให้บุตรชายบวชให้แก่บิดาหรือมารดาที่ถึงแก่ความตาย เด็กชายที่รับศีลล้างบาปแล้วไม่สามารถจะบวชหน้าไฟได้ เพราะในพิธีนั้นมีการแสดงถึงความเป็นพุทธมามกะต้องรับไตรสรณคมน์ ซึ่งเป็นการประกาศตนเป็นพุทธศาสนิกชนอย่างชัดเจน จึงเป็นหน้าที่ของชาวพุทธ

( ต่อ )

พิธีการถวายผ้าบังสุกุล (ทอดผ้าบังสุกุล)

ความเป็นมา

ผ้าบังสุกุล  คือ ผ้าห่อศพที่พระภิกษุทางพุทธศาสนานำมาเป็นเครื่องนุ่งห่ม สำหรับผู้ที่ออกบวชในพระบวรพุทธศาสนานั้นจะต้องถือเป็นปัจจัยสี่เลี้ยงชีพอย่างเคร่งครัด หนึ่งในนั้นได้แก่ จีวร 

การถวายผ้าบังสุกุลเป็นการถวายผ้าสามอย่างแก่พระภิกษุก่อนที่จะมีการประชุมเพลิง ได้แก่ จีวร สบง  สังฆาฏิ  ซึ่งผ้าเหล่านี้ใช้ในการครองของพระภิกษุสงฆ์

สมัยพุทธกาล พระภิกษุสงฆ์ที่ออกบวชเป็นพระธุดงค์ที่จำศีลบำเพ็ญตนอยู่ในป่า การที่จะหาผ้ามาทำเป็นสบง จีวรนุ่งห่มนั้นค่อนข้างยากจึงต้องใช้ผ้าห่อศพมาซักและย้อมสีจากเปลือกไม้ แล้วนำมาทำเป็นสบงใช้นุ่งและจีวรใช้ครอง ที่ทำเช่นนี้เนื่องจากสมัยก่อนผ้าหายาก  การออกบวชนั้นเป็นการบอกถึงการละแล้วซึ่งกิเลสซึ่งไม่จำเป็นต้องคำนึงว่าจะต้องเป็นผ้าแบบไหน นำมาจากที่ใด แต่ปัจจุบันมีการพัฒนาก้าวหน้าผ้าสำหรับพระสงฆ์ใช้ก็หาง่าย ดังนั้นผู้เป็นเจ้าภาพในการจัดงานศพจึงได้จัดเตรียมผ้าทั้งสามอย่างนี้ หรืออย่างใดอย่างหนึ่งไว้ เพื่อที่จะทอดให้กับพระภิกษุที่มาทำพิธี ซึ่งเราเรียกว่า การทอดผ้าบังสุกุล

ในการทอดผ้าบังสุกุลนี้ เจ้าภาพจะเชิญแขกสำคัญที่มาในงาน เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน องค์การบริหารส่วนตำบล ครูใหญ่ ฯลฯ เป็นตัวแทนของครอบครัวผู้ตายไปทอดผ้าถือว่าเป็นเกียรติแก่เจ้าภาพ และให้เกียรติแก่ดวงวิญญาณของผู้ที่จากไป

แนวทางการปฏิบัติของคริสตชนคาทอลิก พิธีการถวายผ้าบังสุกุล (ทอดผ้าบังสุกุล)

ในปัจจุบันคริสตชนคาทอลิกที่มีตำแหน่งหน้าที่การงาน หลายท่านจำเป็นต้องเข้าร่วมงานกับพี่น้องพุทธศาสนาและได้รับเชิญให้เป็นตัวแทนทำหน้าที่สำคัญๆ คริสตชนคาทอลิกพึงปฏิบัติดังนี้คือ

การทอดผ้าอาจแยกออกเป็น 2 ช่วง

1.การสวดพระอภิธรรม ในระหว่างก่อนทำการเผาศพจะเป็น 3 หรือ 7 วันก็ตาม ซึ่งเป็นการสวดพระอภิธรรมในเวลากลางคืนเจ้าภาพหรือเจ้าหน้าที่ของวัดจะทำพิธีการจุดธูปเทียนที่โต๊ะหมู่บูชาที่ตู้พระอภิธรรม ส่วนการไหว้ศพนั้นคาทอลิกสามารถเข้ามีส่วนร่วมได้ ส่วนการทอดผ้าบังสุกุล คริสตชนควรให้ผู้อื่นทำแทน

2.การทอดผ้าในวันเผาศพ ในช่วงนี้ผู้เป็นบาทหลวง นักบวชชาย-หญิง หรือคริสตชนคาทอลิกทั่วไปสามารถเข้าร่วมพิธีได้ โดยวางท่าทีสำรวมตามแบบคริสตชนในกรณีที่ถูกเชิญทอดผ้าบังสุกุล คาทอลิกควรให้ผู้อื่นทำแทน

Immanuel (MichaelPaul) เขียน: ชื่อหนังสือว่าอะไรเหรอครับจะไปหาซื้อติดบ้านไว้เผื่อลูกเผื่อหลาน อิอิ

สวัสดีคะ คุณ Immanuel (MichaelPaul) ลองไปอ่านที่
www.newmana.com/yabb/index.php?
PHPSESSID=2a81b9049a27399761a3b7bd50fc75b7&topic=7831.0

จะมีเบอร์โทรศัพท์ที่สามารถสั่งหนังสือเล่มสีเขียวได้คะ ถ้ายังไม่หมดก่อน...