สุสาน พุทธ กับ คริสต์ ทำไมถึงต่างกัน
-
- โพสต์: 1042
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
- ที่อยู่: Ether23@hotmail.com
ผมอะ เดินผ่านสุสานคริสต์ ไม่ค่อยกลัวเเลยนะ พอไปของพุทธ อะ น่ากัวจัง
ยิ่งป่าช้า ไม่กล้าเหยียบเลยคับท่าน กัว
ยิ่งป่าช้า ไม่กล้าเหยียบเลยคับท่าน กัว
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ยังไม่เข้าใจเลยว่าถามอะไร
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
แป่กๆ อาราย ก็คนตั้งกระทู้มักตั้งกระทู้งง ๆ แบบนี้ประจำนี่ :emotion_057:blue_sky เขียน:มีคำถามแบบนี้ด้วยหรอว๊าาา แป่กๆBatholomew เขียน: ยังไม่เข้าใจเลยว่าถามอะไร
-
- โพสต์: 1042
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
- ที่อยู่: Ether23@hotmail.com
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ดูหนังผีไทยมากไปหน่อย
ทำให้กลัวมากกว่าปกติมั๊งคะ
ทำให้กลัวมากกว่าปกติมั๊งคะ
- Ring A Bell
- โพสต์: 28
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 27, 2008 6:50 pm
- ที่อยู่: 263 ถ.ศรีธรรมโศก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ในถานะคนที่ยังต้องเข้าวัดบ่อยๆเพราะไปส่งคุณย่าซึ่งท่านเป็นคนพุทธ
แล้วก็พ่อเราที่เสียไปแล้วก็เป็นคนพุทธเราเลยต้องไปสุสานพุทธ
ที่สุสานพุทธก็คงเพราะเห็นรูปของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว แบบว่าพอเห็นแล้วขนลุกทุกที่เหมือนถูกมองตลอด
ส่วนสุสานคริสต์บนหลุมศพมักจะจารึกชื่อ และพอมองไม้กางเขนบนหลุมศพก็ไม่รู้สึกน่ากลัวเลยนี่นา
แล้วก็พ่อเราที่เสียไปแล้วก็เป็นคนพุทธเราเลยต้องไปสุสานพุทธ
ที่สุสานพุทธก็คงเพราะเห็นรูปของผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว แบบว่าพอเห็นแล้วขนลุกทุกที่เหมือนถูกมองตลอด
ส่วนสุสานคริสต์บนหลุมศพมักจะจารึกชื่อ และพอมองไม้กางเขนบนหลุมศพก็ไม่รู้สึกน่ากลัวเลยนี่นา
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ถึงรู้ว่าคำถามพี่วินมักจะงี่เง่า แต่ก็อยากตอบ
1. ที่ต่างกันเพราะคนละความเชื่อ
2.สุสานคริสต์ ไม่น่ากลัว เพราะวิญญาณไปเฝ้าพระบิดบนสวรรค์หมดแล้ว จึงไม่มีใครรบกวน
3.วิญญาณยังงงว่าตรูจะไปไหนดี พอดีมีคนขี้กลัว อยู่เยอะ เลยเล่นหลอกผีเสียเลย
1. ที่ต่างกันเพราะคนละความเชื่อ
2.สุสานคริสต์ ไม่น่ากลัว เพราะวิญญาณไปเฝ้าพระบิดบนสวรรค์หมดแล้ว จึงไม่มีใครรบกวน
3.วิญญาณยังงงว่าตรูจะไปไหนดี พอดีมีคนขี้กลัว อยู่เยอะ เลยเล่นหลอกผีเสียเลย
เพราะในคำถามก็แฝงคำตอบไว้คะ
พุทธ ก็ พุทธ คริสต์ ก็ คริสต์ไง
ล้อเล่นน่า...ตามความเข้าใจและความรู้สึกของพี่นะ
คือสุสานพุทธ ที่ชาวบ้านมักเรียกว่าป่าช้า ยิ่งถ้าอยู่ในเขตต่างจังหวัด
มักจะมีอายุมากๆเป็นป่าช้าของหมู่บ้าน การดูแล ย่อมไม่ทั่วถึง
จึงดูโทรมน่ากลัว มองแค่สายตานะ ไม่นับความวัวเวงเพิ่มอีก
ส่วนสุสานคริสต์หรือศานติคามส่วนใหญ่จะมีคนดูแล ปลูกต้นไม้ดอกไม้
มองไปทางไหนก็ทำให้นึกถึงผู้ที่เป็นที่รักที่นอนอยู่ มีกางเขน
มีรูปปั้นเทวดาน้อยๆ ทำให้เกิดความสงบมากกว่าความกลัว
แต่แฮะแฮะ ลองไปดูสุสานคริสต์ที่ยุโรปซิจ๊ะ ก็เย็นเยือกเหมือนกันแหละ
ยิ่งเป็นศานติคามของเมืองนั้นนะ....
คำตอบอีกอย่างคือ อยู่ที่การมองและไปกระทบใจมากกว่าคะ
พุทธ ก็ พุทธ คริสต์ ก็ คริสต์ไง
ล้อเล่นน่า...ตามความเข้าใจและความรู้สึกของพี่นะ
คือสุสานพุทธ ที่ชาวบ้านมักเรียกว่าป่าช้า ยิ่งถ้าอยู่ในเขตต่างจังหวัด
มักจะมีอายุมากๆเป็นป่าช้าของหมู่บ้าน การดูแล ย่อมไม่ทั่วถึง
จึงดูโทรมน่ากลัว มองแค่สายตานะ ไม่นับความวัวเวงเพิ่มอีก
ส่วนสุสานคริสต์หรือศานติคามส่วนใหญ่จะมีคนดูแล ปลูกต้นไม้ดอกไม้
มองไปทางไหนก็ทำให้นึกถึงผู้ที่เป็นที่รักที่นอนอยู่ มีกางเขน
มีรูปปั้นเทวดาน้อยๆ ทำให้เกิดความสงบมากกว่าความกลัว
แต่แฮะแฮะ ลองไปดูสุสานคริสต์ที่ยุโรปซิจ๊ะ ก็เย็นเยือกเหมือนกันแหละ
ยิ่งเป็นศานติคามของเมืองนั้นนะ....
คำตอบอีกอย่างคือ อยู่ที่การมองและไปกระทบใจมากกว่าคะ
สุสานน่ากลัวแตกต่างกันครับ ถูกแล้ว แค่เดินไปใกล้ ก็เกิดความรู้สึกน่ากลัวแล้วก็จิตนาการได้ว่าอาจจะมีผีโผล่ออกมาจากตรงนู้นตรงนี้ ส่วนสุสานคริสต์เข้าไปแล้วรู้สึกเฉยๆ ไม่น่ากลัว ไม่รู้สึกจินตนาการได้เลยว่ามีอะไรโผล่ออกมา พี่คิดว่าบางคนก็อาจมีซิกซิกซ์สัมผัสได้ ตอนแรกพี่ก็ไม่เชื่อ แต่ว่ามีหลายหนที่พี่ประหลาดใจ พี่ไปต่างจังหวัดแล้วมีความรู้สึกว่ามีรูปแม่พระตั้งอยู่ตรงนั้น พอเดินเข้าไปดู อ้าว รูปแม่ตั้งอยู่ตรงนั้นพระจริงๆ งง เลยครับ มันเป็นไปได้ยังไงเหลือเชื่อ เป็นหลายครั้งเลยครับ ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อประหลาดใจจริงๆ เลย ดังนั้นก็อาจเป็นได้ว่าคนเรามีเซ้นซ์ที่สัมผัสอะไรบางอย่างเหนือกว่าสายตาที่เรามองเห็น ก็คงคล้ายๆ ลมนั่นแหละ เราไม่เห็นแต่ว่าเราก็รู้สึกสัมผัสได้ ว่ามันพัดไปทางไหน บางทีเข้าไปในสุสานแล้วถ้าไม่รู้สึกอะไรก็แล้วไป แต่ถ้ารู้สึกว่ามีใครบางคนอยู่อยู่ใต้ต้นไม้ตรงนั้น แต่มองไม่เห็นมีอะไรแต่รู้สึกได้ว่ามี หรือมีใครกำลังจ่องมองเราอยู่ นั่นก็อาจไม่ใช่ความรู้สึกก็ได้ อาจจะเป็นเซ้นซ์ของเราที่ไปสัมผัสได้กับจิตวิญญาณตรงนั้น จบเรื่องของความ น่ากลัว และไม่น่ากลัว.
ที่นี้ก็เข้ามาสู่ที่ว่า ทำไมสุสาน คริสต์ถึงไม่มีผี ทำไมสุสานพุทธถึงมีผี ก็อย่างที่พี่เคยตอบไปแล้วในครั้งก่อนๆ
คนที่เป็นคริสต์หรือรับศีลล้างบาป เมื่อตายไปแล้ววิญญาณจะไปอยู่ที่ เพอร์กาทอรี่(Purgatory) หรือไฟชำระ ส่วนคนบาปมากๆ ที่ไม่กลับใจก็ไปนรก ดังนั้นคนคนที่เชื่อพระเจ้า หรือรับศีลล้างบาปแล้ววิญญาณจะไม่สามารถกลับมาบนโลกนี้ได้ ถ้าพระเจ้าไม่อนุญาติ เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาปรากฏกายบนโลกใบนี้ได้
ส่วนคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า เมื่อตายแล้ว วิญญาณจะไม่ได้ไป เพอร์กาทอรี่(Purgatory) หรือไฟชำระ แต่ว่าจะไปอยู่ใต้บาดานแล้วก็มีหลายชั้นลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งชั้นล่างสุดคือ นรก ที่เป็นไฟตลอดเวลา แล้วพวกที่อยู่ชั้นบนสุดคือแดนวิญญาณที่ติดผิวโลกเรามากที่สุด แดนที่เรียกว่า ลิมโบ้(Limbo) พวกนี้อยู่ใกล้โลกมากที่สุด ดังนั้นพวกนี้จึงสามารถเดินขึ้นเดินลงได้ เดินมาบนโลกนี้มาหาใครต่อใคร หรือเข้าฝันใครต่อใครได้ แต่ด้วย ลิมโบ้ มีฤทธิ์ที่อ่อนมาก มันจึงปรากฏกายให้คนเห็นได้ลำบากมาก ดังนั้นที่พวกลิมโบ้จะติดต่อกับคนเป็นได้ง่ายที่สุดคือในความฝัน พวกลิมโบ้ สามารถเข้าฝันเราได้ ให้หวยเราได้ครับ ลิมโบ้ไม่ใช่วิญญาณที่เลวมากจึงอยู่ผิวบนสุดของดินแดนแห่งความตาย ไม่ว่าใครก็ตามที่จะเข้าดินแดนแห่งความตายก็ต้องผ่านแดนลิมโบ้ก่อน
นอกจากลิมโบ้แล้วก็มี โกสต์(Ghost) จะเรียกว่าผี ของภาษาไทยก็ตรงบ้างบางส่วนเพราะคำว่าผี ของไทยมันกว้างกว่า Ghost แม้กระทั่งศพเดินได้อย่างซอมบี้ของพวกลัทธิวูดูคนไทยยังเรียกผีเลย พวก โกสต์ คือวิญญาณที่ไม่ได้ไปไหนยังผูกติดกับโลกนี้อยู่ เช่นติดกับบ้าน ติดกับที่ที่เขาเคยอยู่ มันก็เดินไปเดินมาเวลานั้นทุกคืน คือก่อนตายเขาทำอะไรไว้เมื่อตายแล้วเขาก็จะทำอย่างนั้นซ้ำๆ ดังนั้นเวลาคนไปพักบ้านนั้นที่นั้นก็มักจะได้ยินเสียแปลกๆ แต่ทั้งโกสต์ และ ลิมโบ้ ไม่มีฤทธิ์มากพอที่ทำอันตรายคน บางทีคนเราเห็นก็กลัวไปเอง แต่จริงๆ แล้วฤทธิ์เขาไม่มีเลย เขาจะปรากฏกายให้เราเห็นก็ลำบากมากใช่ว่าเขาอยากจะปรากฏกายให้เราเห็นก็ปรากฏได้ดังใจ เขาไม่ค่อยมีฤทธิ์หรอกครับ ดังนั้นเราจึงไม่ต้องกลัวผี เพราะผีมันทำร้ายเราไม่ได้ แล้วมันก็ไม่ได้คิดที่จะมาจ้องทำร้ายเรา ถ้าไม่ถูกสั่งมาหรือปังคับมา
หลายครั้งคนอาจติดจากหนังผีเอเซียมากไปว่าผีอาฆาตแค้น พยาบาท หมายจะเอาชีวิตให้ได้ ถ้าเป็นผีจริงๆ มันทำไม่ได้หรอกครับ ที่ทำอย่างนั้นคือพวก ปีศาจ (Devil หรือพวก Demon) พวกนั้นแหละครับที่ทำให้เกินความน่ากลัว ให้ผีดู ดุ เฮี้ยน ผีมาเข้าสิงคนให้ทำอย่างนู้นอย่างนี้ มาหักคอคน หรือฆ่าคนด้วยภัยต่างๆ อย่างในหนังนำมาสร้างก็ไม่ผิด มันเป็นได้เช่นนั้นจริงๆ แต่ว่ามันไม่ใช่วิญญาณคนตาย วิญญาณคนตายไม่ได้คิดที่จะฆ่าคน หรือมาแลมลิ้น เอาลูกตาออกมาให้เราดู หรือมาทำอะไรโดยมีจุดประสงค์ให้เรากลัวเล่นๆ เราจะรู้ว่าที่ปรากฏกายนั้นเป็นวิญญาณคนตาย หรือ ปีศาจปลอมกายมาหลอก ก็ตองดูด้วยว่า จุดมุ่งหมายของเขาที่มาปรากฏกายต่อเราเพื่ออะไร ถ้ามาเพื่อหลอก หรือมาเพื่อให้เรากลัวเล่นๆ โดยไม่มีประโยชน์อะไรต่อวิญญาณเขาเลย นั่นก็คือไม่ใช่คนตาย เพราะคนตายอย่างที่บอกฤทธิ์น้อยมาก แค่จะปรากฏกายก็ยากพออยู่แล้ว แล้วจะมาหลอกเราสนุกๆ พี่ว่าคนเป็นพวกปีศาจมากกว่า
หลายครั้งปีศาจก็หลอกเราเพื่อให้เรากลัว แล้วก็ให้เราบูชามันอะไรต่อมิอะไรมากมาย เราก็กราบไหว้บูชามันเพราะความกลัว แต่เมื่อไรที่เราไม่ไหว้ตามที่มันสั่งมันก็จะมา บีบคอ มาทับให้หายใจไม่ออก หรือยังไม่ยอมทำตามมันก็จะให้เกิดภัยพิบัติขึ้นกับตัวเรา นี่คือการกระทำของปีศาจแน่นอนครับ
สรุปออกมากว่า ผี มีแต่ว่าไม่เป็นภัย แล้ก็ไม่ได้คิดจะหลอกเรา แล้วก็ไม่มีฤทธิ์ที่จะทำร้ายใครต่อใคร แต่ที่มาหลอกเรา หรือมาทำร้ายเรานั้น มันไม่ใช่ ผี แต่ว่ามันเป็น ปีศาจ หรือลูกน้อง ลูซิเฟอร์ อดีตทูตสวรรค์ที่เคยกบฏครั้งก่อนนั้นเอง
ที่นี้ก็เข้ามาสู่ที่ว่า ทำไมสุสาน คริสต์ถึงไม่มีผี ทำไมสุสานพุทธถึงมีผี ก็อย่างที่พี่เคยตอบไปแล้วในครั้งก่อนๆ
คนที่เป็นคริสต์หรือรับศีลล้างบาป เมื่อตายไปแล้ววิญญาณจะไปอยู่ที่ เพอร์กาทอรี่(Purgatory) หรือไฟชำระ ส่วนคนบาปมากๆ ที่ไม่กลับใจก็ไปนรก ดังนั้นคนคนที่เชื่อพระเจ้า หรือรับศีลล้างบาปแล้ววิญญาณจะไม่สามารถกลับมาบนโลกนี้ได้ ถ้าพระเจ้าไม่อนุญาติ เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาปรากฏกายบนโลกใบนี้ได้
ส่วนคนที่ไม่เชื่อพระเจ้า เมื่อตายแล้ว วิญญาณจะไม่ได้ไป เพอร์กาทอรี่(Purgatory) หรือไฟชำระ แต่ว่าจะไปอยู่ใต้บาดานแล้วก็มีหลายชั้นลงไปเรื่อยๆ จนกระทั่งชั้นล่างสุดคือ นรก ที่เป็นไฟตลอดเวลา แล้วพวกที่อยู่ชั้นบนสุดคือแดนวิญญาณที่ติดผิวโลกเรามากที่สุด แดนที่เรียกว่า ลิมโบ้(Limbo) พวกนี้อยู่ใกล้โลกมากที่สุด ดังนั้นพวกนี้จึงสามารถเดินขึ้นเดินลงได้ เดินมาบนโลกนี้มาหาใครต่อใคร หรือเข้าฝันใครต่อใครได้ แต่ด้วย ลิมโบ้ มีฤทธิ์ที่อ่อนมาก มันจึงปรากฏกายให้คนเห็นได้ลำบากมาก ดังนั้นที่พวกลิมโบ้จะติดต่อกับคนเป็นได้ง่ายที่สุดคือในความฝัน พวกลิมโบ้ สามารถเข้าฝันเราได้ ให้หวยเราได้ครับ ลิมโบ้ไม่ใช่วิญญาณที่เลวมากจึงอยู่ผิวบนสุดของดินแดนแห่งความตาย ไม่ว่าใครก็ตามที่จะเข้าดินแดนแห่งความตายก็ต้องผ่านแดนลิมโบ้ก่อน
นอกจากลิมโบ้แล้วก็มี โกสต์(Ghost) จะเรียกว่าผี ของภาษาไทยก็ตรงบ้างบางส่วนเพราะคำว่าผี ของไทยมันกว้างกว่า Ghost แม้กระทั่งศพเดินได้อย่างซอมบี้ของพวกลัทธิวูดูคนไทยยังเรียกผีเลย พวก โกสต์ คือวิญญาณที่ไม่ได้ไปไหนยังผูกติดกับโลกนี้อยู่ เช่นติดกับบ้าน ติดกับที่ที่เขาเคยอยู่ มันก็เดินไปเดินมาเวลานั้นทุกคืน คือก่อนตายเขาทำอะไรไว้เมื่อตายแล้วเขาก็จะทำอย่างนั้นซ้ำๆ ดังนั้นเวลาคนไปพักบ้านนั้นที่นั้นก็มักจะได้ยินเสียแปลกๆ แต่ทั้งโกสต์ และ ลิมโบ้ ไม่มีฤทธิ์มากพอที่ทำอันตรายคน บางทีคนเราเห็นก็กลัวไปเอง แต่จริงๆ แล้วฤทธิ์เขาไม่มีเลย เขาจะปรากฏกายให้เราเห็นก็ลำบากมากใช่ว่าเขาอยากจะปรากฏกายให้เราเห็นก็ปรากฏได้ดังใจ เขาไม่ค่อยมีฤทธิ์หรอกครับ ดังนั้นเราจึงไม่ต้องกลัวผี เพราะผีมันทำร้ายเราไม่ได้ แล้วมันก็ไม่ได้คิดที่จะมาจ้องทำร้ายเรา ถ้าไม่ถูกสั่งมาหรือปังคับมา
หลายครั้งคนอาจติดจากหนังผีเอเซียมากไปว่าผีอาฆาตแค้น พยาบาท หมายจะเอาชีวิตให้ได้ ถ้าเป็นผีจริงๆ มันทำไม่ได้หรอกครับ ที่ทำอย่างนั้นคือพวก ปีศาจ (Devil หรือพวก Demon) พวกนั้นแหละครับที่ทำให้เกินความน่ากลัว ให้ผีดู ดุ เฮี้ยน ผีมาเข้าสิงคนให้ทำอย่างนู้นอย่างนี้ มาหักคอคน หรือฆ่าคนด้วยภัยต่างๆ อย่างในหนังนำมาสร้างก็ไม่ผิด มันเป็นได้เช่นนั้นจริงๆ แต่ว่ามันไม่ใช่วิญญาณคนตาย วิญญาณคนตายไม่ได้คิดที่จะฆ่าคน หรือมาแลมลิ้น เอาลูกตาออกมาให้เราดู หรือมาทำอะไรโดยมีจุดประสงค์ให้เรากลัวเล่นๆ เราจะรู้ว่าที่ปรากฏกายนั้นเป็นวิญญาณคนตาย หรือ ปีศาจปลอมกายมาหลอก ก็ตองดูด้วยว่า จุดมุ่งหมายของเขาที่มาปรากฏกายต่อเราเพื่ออะไร ถ้ามาเพื่อหลอก หรือมาเพื่อให้เรากลัวเล่นๆ โดยไม่มีประโยชน์อะไรต่อวิญญาณเขาเลย นั่นก็คือไม่ใช่คนตาย เพราะคนตายอย่างที่บอกฤทธิ์น้อยมาก แค่จะปรากฏกายก็ยากพออยู่แล้ว แล้วจะมาหลอกเราสนุกๆ พี่ว่าคนเป็นพวกปีศาจมากกว่า
หลายครั้งปีศาจก็หลอกเราเพื่อให้เรากลัว แล้วก็ให้เราบูชามันอะไรต่อมิอะไรมากมาย เราก็กราบไหว้บูชามันเพราะความกลัว แต่เมื่อไรที่เราไม่ไหว้ตามที่มันสั่งมันก็จะมา บีบคอ มาทับให้หายใจไม่ออก หรือยังไม่ยอมทำตามมันก็จะให้เกิดภัยพิบัติขึ้นกับตัวเรา นี่คือการกระทำของปีศาจแน่นอนครับ
สรุปออกมากว่า ผี มีแต่ว่าไม่เป็นภัย แล้ก็ไม่ได้คิดจะหลอกเรา แล้วก็ไม่มีฤทธิ์ที่จะทำร้ายใครต่อใคร แต่ที่มาหลอกเรา หรือมาทำร้ายเรานั้น มันไม่ใช่ ผี แต่ว่ามันเป็น ปีศาจ หรือลูกน้อง ลูซิเฟอร์ อดีตทูตสวรรค์ที่เคยกบฏครั้งก่อนนั้นเอง
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อังคาร ก.ค. 08, 2008 4:44 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
นึกได้เลยเสริมอีกนิด เรื่องของความมืดในพระคัมภีร์ ความมืดหมายถึงอะไร ทำไมเราทุกคนต้องกลัวความมืด ถึงไม่มีผีเราก็ยังกลัว แต่มันก็มีผี อ่านดูใน ปชญ. 17 "ความมืดทรมานคนต่างชาติ แต่ชนชาติของพระเจ้าจะได้รับความสว่าง"
"แม้ที่หลบซ่อนภายในบ้าน ก็ไม่อาจทำให้พ้นความหวาดกลัวไปได้ เพราะมีเสียงน่ากลัวอยู่รอบด้าน ภูตผีที่น่ากลัวปรากฏตัวมาหลอกหลอน"(ปชญ.17:4)
คนต่างชาติอยู่ใต้อำนาจของความกลัว ใต้อำนาจของภูมิผี และใต้อำนาจของความมืด คนของพระเจ้ามีชัย
"ความสว่างส่องเข้ามาในความมืด และความมืดหาได้ชนะความสว่างไม่" (ยน.1:5)
แล้วเจ้าแห่งความมืดคือใคร ก็คือซาตาน
"แม้ที่หลบซ่อนภายในบ้าน ก็ไม่อาจทำให้พ้นความหวาดกลัวไปได้ เพราะมีเสียงน่ากลัวอยู่รอบด้าน ภูตผีที่น่ากลัวปรากฏตัวมาหลอกหลอน"(ปชญ.17:4)
คนต่างชาติอยู่ใต้อำนาจของความกลัว ใต้อำนาจของภูมิผี และใต้อำนาจของความมืด คนของพระเจ้ามีชัย
"ความสว่างส่องเข้ามาในความมืด และความมืดหาได้ชนะความสว่างไม่" (ยน.1:5)
แล้วเจ้าแห่งความมืดคือใคร ก็คือซาตาน
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อังคาร ก.ค. 08, 2008 6:18 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เท่าที่ทราบคนพุทธไทยจะเผา ดังนั้นพวกผีไม่มีญาติ ไม่มีใครทำพิธีให้ เขาจึงจะเอาไปฝังในสุสาน ดังนั้นพวกฝังจึงเป็นพวกที่ไม่ได้ทำพิธีถูกต้องสมบูรณ์ทางศาสนาตน เป็นธรรมดาที่ดูแล้วจะน่ากลัวโดยปริยาย ยิ่งไปกว่านั้นไม่มีใครสนใจ นานๆทีล้างป่าช้าเอามาเผารวมกันที ส่วนวิญญาณเหล่านั้น ก็ไม่รู้หรอกว่าเขาไปไหน อาจอยู่แถวนั้นไหม ไม่รู้
ต่างกับสุสานคริสต์ที่การฝังเป็นพิธีทางศาสนาอยู่แล้ว ศพในสุสานทุกแห่งผ่านการทำพิธีมิซซา และเสกป่าช้าทุกปี วิญญาณเหล่านี้จึงมีผู้นำทางไปยังที่ๆจัดไว้แน่นนอน สุสานของเราจึงดูเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์มากกว่าน่ากลัว
ต่างกับสุสานคริสต์ที่การฝังเป็นพิธีทางศาสนาอยู่แล้ว ศพในสุสานทุกแห่งผ่านการทำพิธีมิซซา และเสกป่าช้าทุกปี วิญญาณเหล่านี้จึงมีผู้นำทางไปยังที่ๆจัดไว้แน่นนอน สุสานของเราจึงดูเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์มากกว่าน่ากลัว
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
หลายครั้งคนอาจติดจากหนังผีเอเซียมากไปว่าผีอาฆาตแค้น พยาบาท หมายจะเอาชีวิตให้ได้ ถ้าเป็นผีจริงๆ มันทำไม่ได้หรอกครับ ที่ทำอย่างนั้นคือพวก ปีศาจ (Devil หรือพวก Demon) พวกนั้นแหละครับที่ทำให้เกินความน่ากลัว ให้ผีดู ดุ เฮี้ยน ผีมาเข้าสิงคนให้ทำอย่างนู้นอย่างนี้ มาหักคอคน หรือฆ่าคนด้วยภัยต่างๆ อย่างในหนังนำมาสร้างก็ไม่ผิด มันเป็นได้เช่นนั้นจริงๆ แต่ว่ามันไม่ใช่วิญญาณคนตาย วิญญาณคนตายไม่ได้คิดที่จะฆ่าคน หรือมาแลมลิ้น เอาลูกตาออกมาให้เราดู หรือมาทำอะไรโดยมีจุดประสงค์ให้เรากลัวเล่นๆ เราจะรู้ว่าที่ปรากฏกายนั้นเป็นวิญญาณคนตาย หรือ ปีศาจปลอมกายมาหลอก ก็ตองดูด้วยว่า จุดมุ่งหมายของเขาที่มาปรากฏกายต่อเราเพื่ออะไร ถ้ามาเพื่อหลอก หรือมาเพื่อให้เรากลัวเล่นๆ โดยไม่มีประโยชน์อะไรต่อวิญญาณเขาเลย นั่นก็คือไม่ใช่คนตาย เพราะคนตายอย่างที่บอกฤทธิ์น้อยมาก แค่จะปรากฏกายก็ยากพออยู่แล้ว แล้วจะมาหลอกเราสนุกๆ พี่ว่าคนเป็นพวกปีศาจมากกว่า
ผมคิดว่าเรื่องผีแค้นแล้วฆ่า หรือพยาบาท หักคอ บีบคอ ทำร้าย เป็นไปได้ครับ ไม่ใช่ปีศาจอย่างเดียว ที่คุณบอกไงครับว่าวิญญาณที่เรียกว่าผีหรือโกสตจิตจะผูกพันกับโลกใบนี้ไม่ไปไหนทำอะไรซ้ำไปซ้ำมาทุกคืน ใช่แล้วนั้นคือจิตของคนตายปกติ แต่ถ้าตายไม่ปกติละครับ เช่น ถูกฆาตกรรมแล้วตายด้วยความแค้นจิตนั้นก็จะผูกพันอยู่ตรงนั้นทำอะไรซ้ำๆ อย่างที่คุณบอกแต่เป็นในรูปของความแค้น คือแค้นแบบซ้ำๆ ผูกอยู่กับที่ตรงนั้นไม่ไปไหน แล้วใครก็ตามที่เข้ามาในจุดนั้นก็จะโดนผีตนนั้นแค้นไปด้วย
ผมดูรายการตีสิบนานแล้วนะ ก็มีชายคนหนึ่งมานั่งเล่าให้ฟัง เขาเล่าว่าไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งๆ ก็มีด้วยกันสีคนนะ แล้วคืนนั้นเขาก็เล่นไพ่กันอยู่แล้วเพื่อนคนหนึ่งลุกไปเข้าห้องน้ำแล้วก็เจอผ้าห้อยลงมาเขาก็ดึงแล้วฝาช่องเพดานก็หล่นลงมาแล้วเขาก็ออกไปเอาเก้าอี้มาต่อขาหยิบฝาไปปิดแล้วเขาก็ตกใจเพราะเห็นศีรษะผู้หญิงมองจ้องเขาด้วยความแค้นดวงตาแค้นมากๆ เขาก็กลัวไม่กล้าบอกเพื่อนแต่บอกเพื่อนว่า ขอตัวลงไปข้างล่างนะ แล้วเพื่อนอีกคนก็เข้าไปในห้องน้ำแล้วก็เห็นฝาปิดเพดานหล่นอยู่ก็ขึ้นไปยืนบนเก้าอีกแล้วก็เอาฝาช่องเพดานไปใส่แล้วก็เจอผีจ้องหน้าด้วยความแค้นอีกเช่นกัน ก็เป็นเหมือนเดิมเพื่อนอีกคนก็เห็นแปลกๆ ขี้นไปดูบนช่องนั้นแล้วก็ออกจากห้อง จนถึงคนสุดท้ายก็ขึ้นไปดูก็ตกใจกลัวแล้วก็วิ่งลงมาชั้นล่างแล้วก็เล่าให้ฟังว่าเห็นศีรษะผู้หญิง ทุกคนต่างยืนยันว่าเห็นเหมือนกันหมดก็เลยตัดสินใจไม่พักโรงแรมนี้ในคืนนั้น หลังจากนั้นเพื่อนๆ ทุกคนก็ตายทีละคนฟังแล้วน่ากลัวมากๆ เลยครับ จนถึงคนสุดท้ายรู้ตัวว่าผีตามมาฆ่าก็เลยไปที่วัดแล้วเข้าไปนอนในโรงศพเมื่อเขาพันภัยแล้วก็มาเล่าในรายการตีสิบ ต่อมาก็ถูกสร้างเป็นหนังเรื่องผีช่องแอร์ไงแต่ว่าที่เขาเล่าในรายการตีสิบน่ากลัวกว่าเพราะไม่ต่อเติม ผมเชื่อว่าผีแบบนั้นเป็นเรื่องจริงครับ เพราะจูออนผีญี่ปุ่นก็แนวเดียวกันแล้วเขาก็บอกว่าสร้างจากเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นมาแล้ว ทั้งไทยทั้งญี่ปุ่นก็ยืนยันตรงกัน ผมว่าผีน่าจะเป็นแบบที่คุณโจแซฟพูดแต่ว่าเป็นในรูปของความแค้นก็น่าจะได้ด้วย
ผมเห็นว่าสุสานคริสต์เป็นป่าเร็วไม่ใช่ป่าช้า เพราะมีการทำบุญให้เร็วผีก็เลยไปเร็ว ส่วนสุสานพุทธคือป่าช้านานๆ ทีจะทำบุญให้ทีผีก็เลยไปช้าๆ มันก็เลยยังอยู่ในนั้นทำให้เป็นป่าช้าไงครับสุสาน พุทธ กับ คริสต์ ทำไมถึงต่างกัน
แก้ไขล่าสุดโดย Jack Sparrow เมื่อ เสาร์ ก.ค. 12, 2008 11:40 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
สุสานศาสนาเราที่ถนนสีลมตอนนี้ก็ย้ายไปหมดแล้วเช่นกัน เขาก่อสร้างจะปลูกอาคารอะไรก็ไม่รู้เพราะที่ตรงนั้นดีติดถนนใหญ่สายสีลมแถมซอยข้างๆ ก็ทะลุไปถนนสาธรได้อีกด้วยจัดว่าเป็นสุสานที่ตั้งตรงที่ดินที่เจริญและมีราคาแพงดังนั้นผีจึงต้องย้าย พี่ก็ไม่ได้ผ่านแถวนั้นนานแล้วไม่รู้ตอนนี้ไปถึงไหนแล้ว
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ จันทร์ ก.ค. 21, 2008 4:11 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.