Belong to the Truth Jesus Christ

บางคนอาจจะเคยอ่านมาแล้ว แต่ใครยังไม่เคยก็เชิญอ่านดูค่ะ แล้วดูซิว่าจริงมั้ย

นักบุญนิลัส (St. Nilus) ผู้อยู่ในศตวรรษที่ 3 ได้ทำนายว่า


หลังปี 1900 ประมาณกึ่งศตวรรษที่ 20 คนในสมัยนั้นจะมองไม่ออกว่าใครเป็นเพศอะไร เมื่อเวลาปรากฏตัวของอสูรผู้ต่อต้านพระคริสตเจ้า (Antichrist) มาถึง คนจะมีจิตใจมืดมัว จมอยู่ในการแสวงหาความต้องการทางเนื้อหนัง ไม่มียางอาย ป่าเถื่อน มนุษย์ทั้งโลกจะดูไม่ออกว่าใครเป็นใคร หน้าตาของคนจะเปลี่ยน ไม่อาจบอกได้ว่าใครเป็นหญิงหรือชาย เนื่องจากพวกเขาจะทำผมและแต่งกายน่าอับอายขายหน้าพวกเขาจะมีใจโหดเหี้ยมเหมือนสัตว์ป่า เด็กๆจะไม่เคารพนับถือพ่อแม่และผู้หลักผู้ใหญ่ ความรักจะหมดสิ้นไปนาย ชุมพาบาล พระสังฆราช และพระสงฆ์ จะฝักใฝ่ทางโลก ไม่สามารถให้คำปรึษาแก่สัตบุรุษว่าอะไรถูกต้องหรือผิดจริยธรรมในสมัยนั้นศีลธรรมและธรรมเนียมของคริสตชนและพระ ศาสนจักรจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ คนจะละทิ้งคุณงามความดีและมัวเมาแสวงหาความสุขทางกายจนถึงจุดอันตราย

การหลงผิดและความโลภจะเพิ่มขึ้นไม่เป็นสัดส่วน วิบัติแก่ผู้สะสมทรัพย์ตัณหา, ผิดประเวณี, รักเพศเดียวกัน, พฤติกรรมลี้ลับยามราตรี, และฆาตกรรมจะครอบงำสังคม

ในอดีตกาลสมัยนั้น เนื่องจากอิทธิพลของอาชญากรรมเหล่านั้นและการใฝ่หาความสุขทางเนื้อหนัง (pornography) คนจะไม่ได้รับพระหรรษทานจากพระจิตเจ้า (Gifts of the Holy Spirit) ซึ่งเขาได้รับขณะรับศีลล้างบาป คนจะมีมโนธรรมตายด้าน

พระศาสนจักรจะเต็มไปด้วยนายชุมพาบาล ผู้ไม่เกรงกลัวพระเป็นเจ้า วิบัติแก่คริสตชนที่มีชีวิตในโลกในเวลานั้น พวกเขาจะเสียความเชื่อเพราะเขาทั้งหลายจะไม่มีโอกาส แลเห็นแสงแห่งความรู้ดีรู้ชั่วจากใครเลยแล้วพวกเขาจะแยกตัวออกจากคนอื่นไปหลบภัยในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเสาะหาแสงสว่างส่องจิตใจอันแห้งแล้งทุกข์ทรมานของเขาทั้งหลาย แต่ทุกหนทุกแห่งพวกเขาจะพบแต่อุปสรรคและแรงผลักดันต่อต้าน ทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากความจริงที่ว่าอสูรผู้ต่อต้านพระคริสตเจ้าปรารถนาเป็นเจ้าครอบครองทุกสิ่งและปกครองทั้งจักรวาล มันจะทำอัศจรรย์และสัญลักษณ์เหนือธรรมชาติมันจะให้ปรีชาญาณที่คดในข้องอในกระดูก (การก่อการร้ายทั่วโลก การใช้ยาเสพติด การหย่าร้าง การคุมกำเนิดการฆ่าเด็กในครรภ์การฆ่าตัวตาย หรือการช่วยฆ่าตัวตายด้วยความสงสาร) ผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรง แก่คนที่ไร้ความสุข มนุษย์จะค้นพบวิธีที่คนอยู่ปลายหนึ่งของโลกสามารถติดต่อสนทนากับคนอยู่อีกปลายหนึ่งของโลก (โทรศัพท์ โทรสาร ดาวเทียม ระบบสื่อสารทางไกล อินเทอร์เนท) ในเวลานั้นมนุษย์จะเหาะเหินเดินอากาศเหมือนนก (เครื่องบิน) และดำน้ำถึงก้นบึงทะเลเหมือนปลา (เรือดำน้ำ) เมื่อเขาทั้งหลายได้บรรลุสิ่งเหล่านี้ คนที่ไร้ความสุขจะใช้ชีวิตในความสะดวกสะบาย โดยไม่รู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นกลอุบายหรือกับดักของอสูรผู้ต่อต้านพระคริสตเจ้า

มันจะทำให้วิทยาศาสตร์สมบูรณ์ไร้คุณค่า ออกนอกลู่นอกทางแห่งจริยธรรม (การผสมเทียม การรู้เพศของเด็กในครรภ์ก่อนคลอด การวิจัย stem cells จากเด็กในครรภ์ที่ถูกทำลายแล้ว เพื่อรักษาโรคนานาชนิด) และพาคนออกจากเส้นทางแห่งความเชื่อพระเป็นเจ้าตายแล้ว (God is dead.)หรือ ไม่มีพระเป็นเจ้า (There is no God.) แล้วพระเป็นเจ้า ผู้ทรงดีครบครัน จะทอดพระเนตรเห็นความล่มสะลายของมนุษยชาติ และจะทำให้วันเวลาเหล่านั้นสั้นลง เพื่อเห็นแก่คนดีๆไม่กี่คนผู้จะได้รับความรอดเพราะศัตรูปรารถนาให้คนที่ได้รับการเลือกสรรค์แพ้การประจญเมื่อเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ทันทีพระแสงยุติธรรมจะฟันลงมาจากสวรรค์และฆ่าอสูรผู้ก่อการร้ายและลูกสมุนของมัน

" ปัจจุบันนี้โลกเราอยู่ในสภาพเช่นนั้นจริง ๆ นี่คือความจริงที่ซาตานทำอยู่ แต่เราอยู่เหนือมันได้ด้วยความสว่างจากพระเยซูคริสต์เจ้า

ที่ทรงบอกเราว่าสิ่งไหนถูกผิด แล้วเราควรจะดำเนินชีวิตอย่างไร รักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง ละทิ้งบาปตามบัญญัติ 10 ประการไงค่ะ

เหลือแค่สิ่งเดียวคือ คุณเลือกที่จะทำมันหรือไม่

กระแสสังคมกำลังพากันลงเหว(นรก)

แล้วเราจะทวนกระแสเพื่อกลับไปหาพ่อที่รักแม่ที่เป็นห่วงซึ่งรอเราอยู่เบื้องบนหรือไม่

เรามาร่วมกันวอนขอพระพรจากพระองค์ในการต้านกระแสที่ผิด ๆ ต่อต้านตนเอง เพื่อนำวิญญาณให้รอดกันเถอะค่ะ "

สุดท้ายนี้ขอให้สิ่งที่เรานำมาให้อ่าน ทำให้หลาย ๆ คน นำไปคิด เพื่อจะได้รู้ทันซาตาน ว่ามันกำลังทำอะไรอยู่ และเราจะตามมันหรือไม่ก็คิดเอา

ขอบคุณค่ะ

ผมไม่รูน่ะครับ

ในฐานะที่ผม เติบโตมากับ โปรเตสแตนต์  ผมขอรับรองด้วยคนว่า กลุ่มรักร่วมเพศนั้น เป็นกลุ่มที่ต้องการรักษา และพระเจ้ารักษาเค้าให้หายได้  และจากการที่ผมทำงานรับใช้ในโบสถ์ ผมก็พบว่า เกือบทั้งหมดได้รับการรักษาและเติบโตในฝ่ายจิตวิญญาณ

ซึ่งพระคัมภีร์ก็เขียนชัดเจนถึง ชายรักชาย ชายเล่นลูกสวาท ว่าเป็นความวิบัติ

พูดอีกทีนึง ถ้าคุยกันในมุมมอง ของศิษยาภิบาลแล้ว คงอาจคิดแตกต่างจาก มุมมองในกระทู้รักร่วมเพศเก่าๆ ในบอร์ดนี้ด้วยมั้ง?!?!


-----------------------


-----------------------

30 บาทรักษาได้ไม่ทุกโรค
แต่พระเจ้ารักษาได้ทุกโรค แม้ความบาปและโรคภัยพระองค์ก็หอบไปทั้งสิ้น เมื่อมีความเชื่อ และนี่คือน้ำพระทัย

ผมว่าเท่าที่อ่านดู เหมือนยุคเรายังไงก็ไม่รู้นะครับ

Batholomew เขียน: ผมว่าเท่าที่อ่านดู เหมือนยุคเรายังไงก็ไม่รู้นะครับ

ไม่เหมือนหรอก แต่ช่ายยยยยยยเลยยยยยยยยยยยยยยยย

ใช่เลยละค่ะ

คุณน้องขา

ท่านทำนายแม้นแม่น

อยากได้ที่มาของบทความจัง

ผมว่าใช่เลยนะยุคนี้

Holy เขียน:อยากได้ที่มาของบทความจัง

เช็คเนื้อความแล้ว

มาจากประกอบกิจครับ
http://www.reocities.com/prakobkit/new2/08.html

The Prophecy of Saint Nilus

The Plight of the World and the Church during the 20th Century

By SAINT NILUS (d. circa AD 430)

After the year 1900, toward the middle of the 20th century, the people of that time will become unrecognizable. When the time for the Advent of the Antichrist approaches, people's minds will grow cloudy from carnal passions, and dishonor and lawlessness will grow stronger. Then the world will become unrecognizable.

People's appearances will change, and it will be impossible to distinguish men from women due to their shamelessness in dress and style of hair. These people will be cruel and will be like wild animals because of the temptations of the Antichrist. There will be no respect for parents and elders, love will disappear, and Christian pastors, bishops, and priests will become vain men, completely failing to distinguish the right-hand way from the left.

At that time the morals and traditions of Christians and of the Church will change. People will abandon modesty, and dissipation will reign. Falsehood and greed will attain great proportions, and woe to those who pile up treasures. Lust, adultery, homosexuality, secret deeds and murder will rule in society.

At that future time, due to the power of such great crimes and licentiousness, people will be deprived of the grace of the Holy Spirit, which they received in Holy Baptism and equally of remorse. The Churches of God will be deprived of God-fearing and pious pastors, and woe to the Christians remaining in the world at that time; they will completely lose their faith because they will lack the opportunity of seeing the light of knowledge from anyone at all. Then they will separate themselves out of the world in holy refuges in search of lightening their spiritual sufferings, but everywhere they will meet obstacles and constraints.

And all this will result from the fact that the Antichrist wants to be Lord over everything and become the ruler of the whole universe, and he will produce miracles and fantastic signs. He will also give depraved wisdom to an unhappy man so that he will discover a way by which one man can carry on a conversation with another from one end of the earth to the other.

At that time men will also fly through the air like birds and descend to the bottom of the sea like fish. And when they have achieved all this, these unhappy people will spend their lives in comfort without knowing, poor souls, that it is deceit of the Antichrist.

And, the impious one!—he will so complete science with vanity that it will go off the right path and lead people to lose faith in the existence of God in three hypostases. Then the All-good God will see the downfall of the human race and will shorten the days for the sake of those few who are being saved, because the enemy wants to lead even the chosen into temptation, if that is possible... then the sword of chastisement will suddenly appear and kill the perverter and his servants.