อยากรู้เรื่องแองกลิกัน
-
- โพสต์: 20
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 09, 2008 1:29 pm
ผมอยากรู้หลักข้อเชื่อของคณะแองกลิกันครับ (เฉพาะในประเทศไทย)ครับ เรียนเชิญท่านผู้รู้แบ่งปันครับ ขอพระเจ้าอวยพร :huh:
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
-
- .
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
มาถูกทางแล้วครับ
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
ผู้ชายหนึ่งคนมีภรรยาได้หลายคนครับนิกายนี้
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
เป็นเรื่องของผู้ชายคร้าบ ที่ชอบหาสาวๆ มาเพิ่ม พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เองก็ทรงต้องการมีภรรยาใหม่แต่พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกห้ามจึงตั้งนิกายนอกรีตขึ้นมาใหม่ ดังนั้นเขาจึงมีภรรยาได้หลายๆ คนตามที่เขาต้องการ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ข้อมูลชัวร์หรือเปล่าครับ?Jack Sparrow เขียน: ผู้ชายหนึ่งคนมีภรรยาได้หลายคนครับนิกายนี้
รูปพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8
พี่ค้นหาข้อมูลมาให้
แองกลิกันตั้งโดย พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 กษัตริย์อังกฤษผู้อื้อฉาวเนื่องจากพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ต้องการจะหย่ากับพระมเหสีเพื่อแต่งงานใหม่แต่พระสันตะปาปาที่กรุงโรมไม่ อนุญาตเพราะทางนิกายคาทอลิกนี่เขาถือว่าการแต่งงานนี่ศักดิ์สิทธิ์แต่งแล้ว หย่าไม่ได้ แต่หากผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะมีเมียน้อยก็ไม่ว่าอะไรแต่อย่าเปิดเผยมากนักก็ แล้วกัน ซึ่งสตรีที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อยากแต่งงานใหม่ด้วยนั้น ไม่ยอมเป็นเมียน้อยก็เลยต้องหย่าเสียก่อน
เมื่อพระสันตะปาปามาห้าม พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 เลยตั้งนิกายใหม่คือนิกายอังกฤษนี่แหละ โดยตั้งตัวพระองค์เป็นประมุขของศาสนจักรอีกตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผลให้พระมหากษัตริย์ (พระราชินี) ของอังกฤษเป็นทั้งประมุขของอาณาจักรควบกับประมุขของศาสนจักร 2 ตำแหน่งมาจนทุกวันนี้
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 นี่แต่งงาน 6 ครั้ง คือมีมเหสีเป็นตัวเป็นตน 6 คน ซึ่งมีประวัติดังนี้
พระ เจ้าเฮนรี่ที่ 8 ขึ้นเป็นกษัตริย์เมื่อ พ.ศ.2052 ก็ราว 60 ปี ซึ่งคนแรกก็หย่า ส่วนคนที่สองสั่งให้ตัดหัว คนที่สามคลอดโอรสแล้วตาย ส่วนคนที่สี่นี่มาแปลก พอเห็นหน้าเป็นครั้งแรกก็ไม่ชอบใจ เลยขอหย่าโดยไม่ถูกเนื้อต้องตัวกันเลย คนที่ห้าก็ถูกสั่งให้ตัดหัวอีก คนที่หกนั่นพอดีเฮนรี่ที่ 8 ตายเสียก่อน ไม่ยังงั้นไม่แน่เหมือนกัน
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 นี่สำคัญจริงๆ นะถ้าจะเอาผลงานแล้วบางทีอาจจะเป็นถึงขั้นมหาราชได้สบายๆ เลย
จากหนังสือพิมพ์มติชน
http://www.matichon.co.th/matichon/mati ... ionid=0130
ความเชื่อทางศาสนา
ศาสนา หลักของสหราชอาณาจักรคือศาสนาคริสต์นิกายแองกลิกัน โดยผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ในนิกายนี้จะเรียกว่าโปรเตสแตนส์ และถือเป็นส่วนใหญ่ของประชากรทั้งหมด และมีประชากรอีกส่วนหนึ่งที่เป็นคาธอลิค มีผู้นับถือศาสนาคริสต์ 71 % ของประชากรทั้งหมด แต่สหราชอาณาจักรก็เปิดกว้างให้อนุญาติให้ผู้คนนับถือศาสนาได้อย่างเสรี เช่น ศาสนาพุทธ ฮินดู ยิว อิสลามและซิกข์ มีประชากร 23 % ที่ไม่นับถือศาสนาใดเลย
นิกายแคทธอริคในสหราชอาณาจักร
ก่อน รัชสมัยของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อังกฤษเคยนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิคเป็นศาสนาหลัก โดยมีสำนักวาติกันในกรุงโรมเป็นผู้ให้คำแนะนำเกี่ยวเนื่องกับเรื่องศาสนา แต่เมื่อมาถึงปี 1533 พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ได้ทรงก่อตั้งนิกายแองกลิกันขึ้นเพราะสำนักวาติกันปฏิเสธไม่ให้พระองค์ทรง หย่ากับพระชายา
พัฒนาการของนิกายแองกลิกัน
พระ เจ้าเฮนรี่ที่ 8 ไม่มีพระโอรสที่จะเป็นองค์รัชทายาท เพราะในตอนนั้นพระชายาพระองค์แรกของพระองค์มีเฉพาะพระธิดาเท่านั้น เมื่อสำนักวาติกันปฏิเสธไม่ให้พระองค์ทำการหย่า พระองค์พิโรธและทรงก่อตั้งนิกายแอง
กลิกันขึ้นและตั้งพระองค์เองเป็นผู้นำนิกาย
นิกายแองกลิกันในปัจจุบัน
นิ กายคาธอลิคได้รับการรื้อฟื้นขึ้นมาในช่วงเวลาสั้น ๆ ในสมัยของพระราชินีแมรี่ (1553) แต่พระราชินีเอลิซาเบธที่ 1 ก็ได้ทรงรื้อฟื้นนิกายแองกลิกัน เชิร์ชขึ้นอีกครั้งในปี 1558 และได้กลายเป็นศาสนาประจำชาติของอังกฤษจนถึงในยุคปัจุบัน ทุกวันนี้องค์ประมุขทุกประองค์จะต้องทำการสาบานที่จะพิทักษ์และคงไว้ซึ่ง นิกายแองกลิกันและส่วนใหญ่จะต้องสมรสกับผู้ที่เป็นโปรเตสเตนท์เหมือนกัน
http://www.visitbritain.com/th/about-br ... /religion/
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ค. 31, 2008 11:03 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
กษัตรย์เฮนรี่ที่ 8 เป็นราชาที่น่าสงสารเพราะว่าเขามีมเหสีหลายองค์แล้วก็ฆ่าตายหมด เป็นคนที่สติดีหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจพระ เจ้าเฮนรี่ที่ 8 ขึ้นเป็นกษัตริย์เมื่อ พ.ศ.2052 ก็ราว 60 ปี ซึ่งคนแรกก็หย่า ส่วนคนที่สองสั่งให้ตัดหัว คนที่สามคลอดโอรสแล้วตาย ส่วนคนที่สี่นี่มาแปลก พอเห็นหน้าเป็นครั้งแรกก็ไม่ชอบใจ เลยขอหย่าโดยไม่ถูกเนื้อต้องตัวกันเลย คนที่ห้าก็ถูกสั่งให้ตัดหัวอีก คนที่หกนั่นพอดีเฮนรี่ที่ 8 ตายเสียก่อน ไม่ยังงั้นไม่แน่เหมือนกัน
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
เท่าที่ดูสารคดีมา เนื่องจากสมัยก่อน พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 นี่เคบเป้นคาทอลิค แต่ว่าอยากเปลี่ยนภรรยา ทว่าเนื่องจากกฎของคาทอลิคห้ามหย่า นอกจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตาย ก็เลยเห็นช่องว่างของกฎ เลยจัดการซะ - -"Jack Sparrow เขียน:กษัตรย์เฮนรี่ที่ 8 เป็นราชาที่น่าสงสารเพราะว่าเขามีมเหสีหลายองค์แล้วก็ฆ่าตายหมด เป็นคนที่สติดีหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจพระ เจ้าเฮนรี่ที่ 8 ขึ้นเป็นกษัตริย์เมื่อ พ.ศ.2052 ก็ราว 60 ปี ซึ่งคนแรกก็หย่า ส่วนคนที่สองสั่งให้ตัดหัว คนที่สามคลอดโอรสแล้วตาย ส่วนคนที่สี่นี่มาแปลก พอเห็นหน้าเป็นครั้งแรกก็ไม่ชอบใจ เลยขอหย่าโดยไม่ถูกเนื้อต้องตัวกันเลย คนที่ห้าก็ถูกสั่งให้ตัดหัวอีก คนที่หกนั่นพอดีเฮนรี่ที่ 8 ตายเสียก่อน ไม่ยังงั้นไม่แน่เหมือนกัน
อันที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ เป็นแค่เรื่องของชายบ้าตัณหาคนหนึ่งImmanuel (MichaelPaul) เขียน:เท่าที่ดูสารคดีมา เนื่องจากสมัยก่อน พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 นี่เคบเป้นคาทอลิค แต่ว่าอยากเปลี่ยนภรรยา ทว่าเนื่องจากกฎของคาทอลิคห้ามหย่า นอกจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะตาย ก็เลยเห็นช่องว่างของกฎ เลยจัดการซะ - -"Jack Sparrow เขียน:กษัตรย์เฮนรี่ที่ 8 เป็นราชาที่น่าสงสารเพราะว่าเขามีมเหสีหลายองค์แล้วก็ฆ่าตายหมด เป็นคนที่สติดีหรือเปล่าก็ไม่แน่ใจพระ เจ้าเฮนรี่ที่ 8 ขึ้นเป็นกษัตริย์เมื่อ พ.ศ.2052 ก็ราว 60 ปี ซึ่งคนแรกก็หย่า ส่วนคนที่สองสั่งให้ตัดหัว คนที่สามคลอดโอรสแล้วตาย ส่วนคนที่สี่นี่มาแปลก พอเห็นหน้าเป็นครั้งแรกก็ไม่ชอบใจ เลยขอหย่าโดยไม่ถูกเนื้อต้องตัวกันเลย คนที่ห้าก็ถูกสั่งให้ตัดหัวอีก คนที่หกนั่นพอดีเฮนรี่ที่ 8 ตายเสียก่อน ไม่ยังงั้นไม่แน่เหมือนกัน
ที่จริงๆ เรื่องของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 กับพระมเหสีทั้ง 6 (พระองค์เป็นกษัตริย์ที่มีพระมเหสีมากที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ) เป็นเรื่องที่สนุกมากๆ นะคะ
เริ่มจากพระมเหสีคนแรกคือ เจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งอรากอน เป็นเจ้าหญิงสเปน เดิมทีเธอเข้ามาในอังกฤษเพื่อแต่งงานกับพี่ชายของพระเจ้าเฮนรี่ค่ะ แต่แต่งงานไปได้แค่ 5 เดือน พี่ชายของพระเฮนรี่ก็สิ้นพระชนม์ และเธอก็ได้แต่งงานอีกครั้งกับพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ตอนนั้นพระเจ้าเฮนรี่ตอนนั้นอายุได้ 18 ปี แต่พระนางแคทเธอรีนอายุปาเข้าไปแล้ว 24 ปี อย่างที่รู้กันว่า พระเจ้าเฮนรี่เป็นเจ้าชู้และมีสนมลับเป็นจำนวนมาก แต่พระนางแคทเธอรีนก็ทรงอดทนและวางเฉยได้อย่างดีเยี่ยม พระนางทรงตั้งครรภ์และแท้งบุตรนับครั้งไม่ถ้วน มีพระธิดาเพียงพระองค์เดียวที่รอดชีวิต (นั่นคือพระราชินีแมรี่ที่ 1 พระราชินีองค์แรกของอังกฤษ) ซึ่งเฮนรี่ไม่ค่อยพอพระทัยนัก เพราะพระองค์อยากได้ลูกชายใจจะขาด
จุดเปลี่ยนมาถึง เมื่อแอนน์ โบลีน ผู้ทะเยอทะยานได้ก้าวเข้ามาในราชสำนัก พระองค์ทรงหลงเสน่ห์นาง และขอให้นางมาเป็นสนมลับของพระองค์ แต่แอนน์ปฏิเสธ และยืนกรานว่าจะคอยจนกว่าจะแต่งงาน (เพราะแอนน์รู้ว่า หากเฮนรี่ได้เธอเป็นสนมลับอย่างง่ายดาย อีกไม่นานก็จะทรงเบื่อหน่ายเธอ และจับเธอแต่งงานกับคนที่ไม่มีชาติตระกูล อย่างเช่นที่พระองค์ปฏิบัติกับสนมลับคนอื่นๆ) เฮนรี่จึงพยายามหาทางให้พระสันตะปาปายกเลิกการแต่งงานระหว่างพระองค์กับแคทเธอรีน โดยอ้างเรื่องการสมรสครั้งแรกของพระนางและพี่ชายของพระองค์ (ซึ่งพระนางแคทเธอรีนยืนกรานเสมอมาว่า การสมรสครั้งแรกไม่สมบูรณ์ตามพฤตินัย เพราะขณะที่แต่งงานนั้น พี่ชายของเฮนรี่ป่วยเป็นวัณโรคปอด)
พระนางแคทเธอรีนไม่ยอมแพ้ ในฐานะคาทอลิกที่ดี พระนางไม่เชื่อเรื่องการหย่า พระเจ้าเฮนรี่พยายามใช้กลอุบายทุกรูปแบบเพื่อให้พระนางทิ้งพระองค์ไป ทรงตัดขาดจากพระนางอย่างไม่เหลือเยื่อใย เมื่อแอนน์เห็นว่าเธอได้เปรียบ และโอกาสที่จะได้สมรสรออยู่เบื้องหน้า เธอจึงยอมเป็นของพระองค์ในที่สุด
โธมัส ครอมเวลล์ ขุนนางคนสนิทของพระองค์แนะนำว่า มีวิธีเดียวที่พระองค์จะได้แต่งงานกับแอนน์ ก็คือต้องเป็นอิสระจากพระสันตะปาปาโดยประกาศตนเป็นประมุขของโบสถ์อังกฤษ ตอนแรกเฮนรียังลังเล แต่แอนน์กลับตั้งครรภ์ขึ้นมา เฮนรีหวังจะได้ลูกชายและรัชทายาทจากเธอ จึงยอมแตกหักกับทางกรุงโรมในที่สุด และอนุญาตให้พระองค์เองหย่าจากพระนางแคทเธอรีน (ให้การสมรสระหว่าพระองค์กับพระนางเป็นโมฆะ อันเนื่องมากจากการสมรสครั้งแรกของพระนาง) และแต่งงานกับแอนน์
หลังจากที่พระองค์ตามตื๊อแอนน์มา 8 ปี พระองค์ก็ได้ แอนน์ โบลีน มาเป็นพระมเหสีคนที่ 2 ของพระองค์ในที่สุด (ตอนนั้นเฮนรี่อายุ 42 แอนน์อายุ 26) และพระองค์ก็หวนกลับไปเจ้าชู้ตามเดิม แต่แอนน์ไมได้อดทนเช่นเดียวกับที่พระมเหสีองค์แรงเคยกระทำ ถึงขั้นมีปากเสียงกับพระองค์ในที่สาธารณะ ยิ่งเมื่อแอนน์คลอดบุตร ซึ่งเป็นเพียงพระธิดาเท่านั้น (คือพระราชินีอลิซาเบทที่ 1) และแท้งลูกอีก 4 ครั้ง เฮนรี่ยิ่งเบื่อหน่ายเธอ ต่อมาพระองค์ไปติดพันนางกำนัลที่ชื่อเจน ซีมัวร์ ผู้เคร่งศาสนา (นางอายุ 26 ปี และยังโสดสนิท สมัยนั้นเขาถือว่าเป็น
แก้ไขล่าสุดโดย Viridian เมื่อ พฤหัสฯ. ก.พ. 12, 2009 8:18 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
^
^
ไม่เป็นไรหรอก คุณพี่กำลังไฟแรง ส่วนข้าน้อยไฟมอดแล้ว ชอบนอนอ่านหนังสือมากกว่ากระโดดอยู่บนบอร์ด
^
ไม่เป็นไรหรอก คุณพี่กำลังไฟแรง ส่วนข้าน้อยไฟมอดแล้ว ชอบนอนอ่านหนังสือมากกว่ากระโดดอยู่บนบอร์ด
หึหึหึ เเต่ผักบุ้งไฟเเดงอร่อยViridian เขียน:วัยรุ่นเอ๊าะๆ ก็อย่างนี้แหละจ๊ะ ย่อมต้องไฟแรงเป็นธรรมดาJeab Agape เขียน: ไม่เป็นไรหรอก คุณพี่กำลังไฟแรง ส่วนข้าน้อยไฟมอดแล้ว ชอบนอนอ่านหนังสือมากกว่ากระโดดอยู่บนบอร์ด
ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อ่านตรงนี้เเล้วข้าพเจ้ารู้สึกว่ามันเเปลกๆนะJoseph เขียน:
แองกลิกันตั้งโดย พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 กษัตริย์อังกฤษผู้อื้อฉาวเนื่องจากพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ต้องการจะหย่ากับพระมเหสีเพื่อแต่งงานใหม่แต่พระสันตะปาปาที่กรุงโรมไม่ อนุญาตเพราะทางนิกายคาทอลิกนี่เขาถือว่าการแต่งงานนี่ศักดิ์สิทธิ์แต่งแล้ว หย่าไม่ได้ แต่หากผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะมีเมียน้อยก็ไม่ว่าอะไรแต่อย่าเปิดเผยมากนักก็ แล้วกัน ซึ่งสตรีที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อยากแต่งงานใหม่ด้วยนั้น ไม่ยอมเป็นเมียน้อยก็เลยต้องหย่าเสียก่อน
เเละก็ผิดต่อศีลสมรสอยู่ดี...
พี่ไม่ใช่เต่าเหมือนเจนนะจ๊ะ ชอบกินผักบุ้ง+Ecclēsia เขียน:หึหึหึ เเต่ผักบุ้งไฟเเดงอร่อยViridian เขียน:วัยรุ่นเอ๊าะๆ ก็อย่างนี้แหละจ๊ะ ย่อมต้องไฟแรงเป็นธรรมดาJeab Agape เขียน: ไม่เป็นไรหรอก คุณพี่กำลังไฟแรง ส่วนข้าน้อยไฟมอดแล้ว ชอบนอนอ่านหนังสือมากกว่ากระโดดอยู่บนบอร์ด
ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แต่สมัยในสมัยก่อน กษัตริย์คาทอลิกหลายองค์ก็มีสนมลับกันนะ (โดยเฉพาะกษัตริย์ฝรั่งเศส)+Ecclēsia เขียน:อ่านตรงนี้เเล้วข้าพเจ้ารู้สึกว่ามันเเปลกๆนะJoseph เขียน:
แองกลิกันตั้งโดย พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 กษัตริย์อังกฤษผู้อื้อฉาวเนื่องจากพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ต้องการจะหย่ากับพระมเหสีเพื่อแต่งงานใหม่แต่พระสันตะปาปาที่กรุงโรมไม่ อนุญาตเพราะทางนิกายคาทอลิกนี่เขาถือว่าการแต่งงานนี่ศักดิ์สิทธิ์แต่งแล้ว หย่าไม่ได้ แต่หากผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะมีเมียน้อยก็ไม่ว่าอะไรแต่อย่าเปิดเผยมากนักก็ แล้วกัน ซึ่งสตรีที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อยากแต่งงานใหม่ด้วยนั้น ไม่ยอมเป็นเมียน้อยก็เลยต้องหย่าเสียก่อน
เเละก็ผิดต่อศีลสมรสอยู่ดี...
ก็มีกษัตริย์บางองค์เหมือนกันที่รักเดียวใจเดียว
แต่ถ้าจะมี "น้องหนูเล็กๆ" บ้าง สมัยนั้นก็มองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนะ
มาพร้อมกับหลักฐานจ๊ะ
http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Fr ... mistresses
แต่ถ้าถามว่าพระศาสนจักรในสมัยนั้นรับได้อย่างไร???
อือม...อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน...
มีใครพอจะตอบได้ไหมคะ???
http://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Fr ... mistresses
แต่ถ้าถามว่าพระศาสนจักรในสมัยนั้นรับได้อย่างไร???
อือม...อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน...
มีใครพอจะตอบได้ไหมคะ???
Viridian เขียน:แต่สมัยในสมัยก่อน กษัตริย์คาทอลิกหลายองค์ก็มีสนมลับกันนะ (โดยเฉพาะกษัตริย์ฝรั่งเศส)+Ecclēsia เขียน:อ่านตรงนี้เเล้วข้าพเจ้ารู้สึกว่ามันเเปลกๆนะJoseph เขียน:
แองกลิกันตั้งโดย พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 กษัตริย์อังกฤษผู้อื้อฉาวเนื่องจากพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ต้องการจะหย่ากับพระมเหสีเพื่อแต่งงานใหม่แต่พระสันตะปาปาที่กรุงโรมไม่ อนุญาตเพราะทางนิกายคาทอลิกนี่เขาถือว่าการแต่งงานนี่ศักดิ์สิทธิ์แต่งแล้ว หย่าไม่ได้ แต่หากผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะมีเมียน้อยก็ไม่ว่าอะไรแต่อย่าเปิดเผยมากนักก็ แล้วกัน ซึ่งสตรีที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อยากแต่งงานใหม่ด้วยนั้น ไม่ยอมเป็นเมียน้อยก็เลยต้องหย่าเสียก่อน
เเละก็ผิดต่อศีลสมรสอยู่ดี...
ก็มีกษัตริย์บางองค์เหมือนกันที่รักเดียวใจเดียว
แต่ถ้าจะมี "น้องหนูเล็กๆ" บ้าง สมัยนั้นก็มองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนะ
อันนั้นข้าพเจ้าก็พอจะเข้าใจ
เเต่ไม่อยากให้คนเข้าใจผิด กับประโยคที่ว่า
แต่หากผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะมีเมียน้อยก็ไม่ว่าอะไรแต่อย่าเปิดเผยมากนักก็ แล้วกัน
เพราะไม่ว่า จะปิดหรือไม่ปิด มันก็ผิดเหมือนกันนั่นเเหล่ะ
เเละกษัตริย์คาทอลิกที่มีสนมลับ ก็ไม่ใช่คนที่ทำตามคำสอนพระศาสนจักรเท่าไหร่นัก
ถึงมันไม่ใช่เรื่องเเปลก เเต่มันก็เป็นเรื่องที่ผิดอยู่ดี ค่า.....
อาการเดียวกับ สมัยนี้มีนักเลงตีกันเป็นเรื่องธรรมดา ไม่เเปลก เเต่ มันก็คือไม่ดี
ก็รับไม่ได้ไงคะ ถึงได้ทะเลาะกับท่านเฮนรี่ที่ 8 อยู่เนี่ยViridian เขียน: แต่ถ้าถามว่าพระศาสนจักรในสมัยนั้นรับได้อย่างไร???
อือม...อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน...
มีใครพอจะตอบได้ไหมคะ???
เหมือนกับสมัยนี้พระศาสนจักรรับเรื่องการทำเเท้งได้ไหม
ก็ต้องตอบว่ารับไม่ได้!!!!
เเต่ มันก็ยังทำกันอยู่เรื่อยๆ .............อนาถ
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ เสาร์ ส.ค. 02, 2008 2:21 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Viridian เขียน:พี่ไม่ใช่เต่าเหมือนเจนนะจ๊ะ ชอบกินผักบุ้ง+Ecclēsia เขียน:หึหึหึ เเต่ผักบุ้งไฟเเดงอร่อยViridian เขียน: วัยรุ่นเอ๊าะๆ ก็อย่างนี้แหละจ๊ะ ย่อมต้องไฟแรงเป็นธรรมดา
ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เอ่อ...น้องใหม่จ๋า...น้อง Viridian มีเต่าที่ไหนชอบกินผักบุ้งไฟแดงบ้างจ๊ะ
พาพี่ไปดู..เปิดหูเปิดตาหน่อยดิ...
แต่สมัยในสมัยก่อน กษัตริย์คาทอลิกหลายองค์ก็มีสนมลับกันนะ (โดยเฉพาะกษัตริย์ฝรั่งเศส)+Ecclēsia เขียน:อ่านตรงนี้เเล้วข้าพเจ้ารู้สึกว่ามันเเปลกๆนะJoseph เขียน:
แองกลิกันตั้งโดย พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 กษัตริย์อังกฤษผู้อื้อฉาวเนื่องจากพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ต้องการจะหย่ากับพระมเหสีเพื่อแต่งงานใหม่แต่พระสันตะปาปาที่กรุงโรมไม่ อนุญาตเพราะทางนิกายคาทอลิกนี่เขาถือว่าการแต่งงานนี่ศักดิ์สิทธิ์แต่งแล้ว หย่าไม่ได้ แต่หากผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะมีเมียน้อยก็ไม่ว่าอะไรแต่อย่าเปิดเผยมากนักก็ แล้วกัน ซึ่งสตรีที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อยากแต่งงานใหม่ด้วยนั้น ไม่ยอมเป็นเมียน้อยก็เลยต้องหย่าเสียก่อน
เเละก็ผิดต่อศีลสมรสอยู่ดี...
ก็มีกษัตริย์บางองค์เหมือนกันที่รักเดียวใจเดียว
แต่ถ้าจะมี "น้องหนูเล็กๆ" บ้าง สมัยนั้นก็มองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนะ
ก็รับไม่ได้ไงคะ ถึงได้ทะเลาะกับท่านเฮนรี่ที่ 8 อยู่เนี่ยViridian เขียน: แต่ถ้าถามว่าพระศาสนจักรในสมัยนั้นรับได้อย่างไร???
อือม...อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกัน...
มีใครพอจะตอบได้ไหมคะ???
เหมือนกับสมัยนี้พระศาสนจักรรับเรื่องการทำเเท้งได้ไหม
ก็ต้องตอบว่ารับไม่ได้!!!!
เเต่ มันก็ยังทำกันอยู่เรื่อยๆ .............อนาถ
[/quote]
ถึงว่า..2270 ชีวิตมนุษย์นั้นต้องได้รับความเคารพและปกป้องอย่างเต็มที่ ตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิ ตั้งแต่วินาทีแรกที่มีชีวิต
มนุษย์จะต้องได้รับการยอมรับว่า เขามีสิทธิของความเป็นบุคคล ซึ่งเราไม่สามารถที่จะละเมิดสิทธิของชีวิตบริสุทธิ์นั้นได้
เราได้รู้จักเจ้าก่อนที่จะสร้างร่างตัวเจ้าในครรภ์มารดา ก่อนที่เจ้าออกมาสู่แสงสว่าง เราก็ได้แต่งตั้งเจ้าไว้แล้ว( ยรม 1:15,
เทียบ โยบ 10:8-12; สดด 22:10-11)
ร่างของข้าพเจ้าไม่เป็นสิ่งลึกลับสำหรับพระองค์เลย เมื่อข้าพเจ้าถูกปั้นอย่างเงียบๆ และถูกทักทอขึ้นในส่วนลึกของแผ่นดิน(สดด 139:15)
2271 ตั้งแต่ศตวรรษแรก พระศาสนจักรยืนยันว่าการทำแท้งทุกกรณีนั้นเป็นความชั่วร้ายทางศีลธรรม คำสั่งสอนนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
และยังคงไม่เปลี่ยนแปลง การทำแท้งโดยตรง กล่าวคือ เป็นการทำแท้งโดยจงใจทั้งในด้านเป้าหมายและวิธีการ ซึ่งถือว่าเป็นการขัดต่อ
ศีลธรรมในข้อฉกรรจ์
อย่าฆ่าเด็กทารกด้วยการทำแท้ง และทำลายเขาภายหลังการเกิด (ดีดาเค 2,2)
พระเจ้าซึ่งเป็นเจ้านายชีวิต ได้มอบให้มนุษย์มีหน้าที่อันประเสริฐต้องรักษาชีวิต และมนุษย์ต้องถือหน้าที่นั้นด้วยวิธีอันเหมาะสมกับมนุษย์
เพราะฉะนั้นชีวิตต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองด้วยความเอาใจใส่ยิ่ง ตั้งแต่เวลาปฏิสนธิทีเดียว การทำแท้งและการฆ่าทารกเป็นอาชญากรรม
อันน่าเกลียดน่าชังที่สุด (พระศาสนจักรในโลกสมัยนี้ ข้อ 51,3)
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
จุ๊ๆๆ ยุคก่อน บาทหลวง ระดับพระสังฆราช หรือ ??? มีลูก เมีย เก็บไว้เยอะ ด้วย ไม่ใช่แต่กษัตริย์ นะจ๊ะViridian เขียน:
แต่สมัยในสมัยก่อน กษัตริย์คาทอลิกหลายองค์ก็มีสนมลับกันนะ (โดยเฉพาะกษัตริย์ฝรั่งเศส)
ก็มีกษัตริย์บางองค์เหมือนกันที่รักเดียวใจเดียว
แต่ถ้าจะมี "น้องหนูเล็กๆ" บ้าง สมัยนั้นก็มองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนะ
-
- โพสต์: 20
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 09, 2008 1:29 pm
กระจ่างขึ้นเยอะเลย ขอบคุณทุกท่านครับ
ใช่แล้วครับขัดต่อศีลสมรส คนเขียนเป็นพุทธเขาก็ไม่ค่อบเชียร์คาทอลิกเราเท่าไรพี่ก็ก๊อปปี๊มาวางไว้ ที่จริงหนังสือเรื่องนี้ห้องพี่ก็มีหลายเล่มแต่ขี่เกียจพิมพ์แล้วก็อ้างอิงลำบาก คาทอลิกเราแต่งงานได้ครั้งเดียวครับเลิกไม่ได้ มีเมียน้อยและไม่เปิดเผยก็ผิดอยู่ดี การมีผิดประเวณีกับใครก็ตามที่ไม่ใช่ภรรยาของเราถือว่าผิดหมด แล้วแต่งงานได้แค่หนเดียวชั่วชีวิตจนกว่าอีกฝ่ายจะจากโลกนี้ไป+Ecclēsia เขียน:อ่านตรงนี้เเล้วข้าพเจ้ารู้สึกว่ามันเเปลกๆนะJoseph เขียน:
แองกลิกันตั้งโดย พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 กษัตริย์อังกฤษผู้อื้อฉาวเนื่องจากพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ต้องการจะหย่ากับพระมเหสีเพื่อแต่งงานใหม่แต่พระสันตะปาปาที่กรุงโรมไม่ อนุญาตเพราะทางนิกายคาทอลิกนี่เขาถือว่าการแต่งงานนี่ศักดิ์สิทธิ์แต่งแล้ว หย่าไม่ได้ แต่หากผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะมีเมียน้อยก็ไม่ว่าอะไรแต่อย่าเปิดเผยมากนักก็ แล้วกัน ซึ่งสตรีที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อยากแต่งงานใหม่ด้วยนั้น ไม่ยอมเป็นเมียน้อยก็เลยต้องหย่าเสียก่อน
เเละก็ผิดต่อศีลสมรสอยู่ดี...
ที่จริงกษัตริย์หลายพระองค์ในทวีปยุโรปก็มีภรรยาเก็บแต่ไม่เปิดเผยก็เพราะว่า 1. ประชาชนไม่ยอมรับ 2. ขัดต่อคำสอนทางศาสนาที่ว่าแต่งงานได้ครั้งเดียวมีใหม่ไม่ได้ ก็มีแต่พระเจ้าเฮนรี่ที่8 นี่แหละครับที่แหกกฏออกไปมีใหม่อย่างออกหน้าออกตา
ขออภัยที่ไม่ได้ตรวจสอบให้ดี จึงผิดพลาด
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ เสาร์ ส.ค. 02, 2008 9:56 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
จุ๊ให้เบากว่านี้นิ๊ดนึง ก็จะดีค่าๆๆๆๆJeab Agape เขียน:จุ๊ๆๆ ยุคก่อน บาทหลวง ระดับพระสังฆราช หรือ ??? มีลูก เมีย เก็บไว้เยอะ ด้วย ไม่ใช่แต่กษัตริย์ นะจ๊ะViridian เขียน:
แต่สมัยในสมัยก่อน กษัตริย์คาทอลิกหลายองค์ก็มีสนมลับกันนะ (โดยเฉพาะกษัตริย์ฝรั่งเศส)
ก็มีกษัตริย์บางองค์เหมือนกันที่รักเดียวใจเดียว
แต่ถ้าจะมี "น้องหนูเล็กๆ" บ้าง สมัยนั้นก็มองว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนะ
เเต่ก่อนยังไม่มีกฎให้บาทหลวงต้องถือโสด เเต่ก็ได้รับการแก้ไขหลังจากเกิดปัญหามากมายก่ายกองเรื่องทายาท (ดังที่กล่าวมา)
โปรเตสแตนต์ ไม่มีศีลสมรสครับมีแค่ศีลจุ่มกับ ศีลมหาสนิท†Ecclēsia เขียน:อ่านตรงนี้เเล้วข้าพเจ้ารู้สึกว่ามันเเปลกๆนะJoseph เขียน:
แองกลิกันตั้งโดย พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 กษัตริย์อังกฤษผู้อื้อฉาวเนื่องจากพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ต้องการจะหย่ากับพระมเหสีเพื่อแต่งงานใหม่แต่พระสันตะปาปาที่กรุงโรมไม่ อนุญาตเพราะทางนิกายคาทอลิกนี่เขาถือว่าการแต่งงานนี่ศักดิ์สิทธิ์แต่งแล้ว หย่าไม่ได้ แต่หากผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะมีเมียน้อยก็ไม่ว่าอะไรแต่อย่าเปิดเผยมากนักก็ แล้วกัน ซึ่งสตรีที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 อยากแต่งงานใหม่ด้วยนั้น ไม่ยอมเป็นเมียน้อยก็เลยต้องหย่าเสียก่อน
เเละก็ผิดต่อศีลสมรสอยู่ดี...
และสาเหตุแท้จริงที่หญิงที่ พระเจ้าเฮนรี่ จะอภิเษกสมรสด้วยก็คือ แอนน์ โบลีน ไม่ยอมเป็นพระสนมก็เพราะ แอนนั้นเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูง อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากบิดาให้ยุยงให้ พระเจ้าเฮนรี่ ทรงหย่า เพื่อที่แอนน์จะได้ขึ้นเป็นพระราชินีแทน พระมเหสีสมัยนั้นคือ แคธอลีนแห่งเอรากอน จึงต้องหย่ากับสวามีที่รักอย่างไม่มีทางเลือก โดยถูกตั้งข้อหาว่า ประพฤติตนไม่เหมาะสม แคธอลีนผู้น่าสงสารจึงถูกปลดจากตำแหน่งครับ แต่ในไม่นานนัก แอนน์ก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของ เฮนรี่ที่ 8 อีกต่อไป อีกทั้งแอนน์ไม่มีพระโอรสให้ แอนน์จึงต้องพยายามตั้งครรภ์ให้ได้จนในที่สุดก็ตั้งครรภ์ครั้งที่สอง แต่ทว่ากลับแท้งเสียก่อน แอนน์รู้ดีว่าหากเรื่องนี้รู้ถึงเฮนรี่ จะต้องไม่เป้นที่โปรดปรานอย่างแน่นอน จึงได้พยายามจะร่วมประเวณีกับ พี่ชายของตนเอง เพื่อให้เธอตั้งครรภ์อีกครั้ง แต่ความกลับแตกเพราะ เจน พาร์คเกอร์ ภรรยาของ จอร์จ โบลีน วิสเค้านต์รอตต์ฟอร์ด(พี่ชายของแอนน์) ได้ไปบอกความจริงให้พระเจ้าเฮนรี่ทราบ แอนน์ และ จอร์จ จึงถูกประหารชีวิต และตระกูลโบลีนก็ล่มสลายไปในที่สุด
ธิดาคนเดียวของ แอนน์ โบลีน คือ พระราชินีอลิซเบธที่ 1 ที่โด่งดังนั่นเอง แต่เพราะพระราชินีอลิซเบธไม่มีทายาท ราชวงศ์ทิวเดอร์จึงล่มสลายในเวลาต่อมา แต่แท้จริงแล้ว เฮนรี่ ทิวเดอร์นั้นมีพระโอรสลับๆอีกพระองค์หนึ่ง กับ แมรี่ โบลีน น้องสาวของแอนน์ นั่นเอง ชื่อ เฮนรี่ คารี่ย์ บารอนแห่งฮันส์ดอน แม้แอนน์จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ทว่าในทาวเวอร์ออฟลอนดอน กลับมีเรื่องเล่าขานว่าในเวลากลางดึกของทุกคืน จะมีผู้พบเห็น แอนน์ ถือศีรษะที่ถูกตัด เดินไปเดินมาพร้อมกับร้องไห้ทั่วหอคอยแห่งลอนดอน ทหารยามที่พบเห็นก็ตกใจอย่างมาก แต่ทว่าในภายหลังกลับเกิดเป็นความเคยชิน จนเหมือนกับเรื่องปกติไปเสียแล้ว เพราะวิญญาณของแอนน์ออกมาปรากฎกายตลอด 400 ปี จนถึงทุกวันนี้ก็ยังมีผู้พบเห็นวิญญาณของแอนน์อยู่เสมอ