พลมารี
พลมารี คือ กลุ่มคริสตชนที่มาร่วมสวดภาวนา และ สวดลูกประคำสรรเสริญแม่พระ และประชุมปรึกษาหารือเพื่อที่จะไปเยี่ยมให้กำลังใจผู้อื่น
วันเวลาที่ประชุม พลมารีจะประชุมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เวลาที่สมาชิกว่างพร้อมกัน ใช้เวลาในการประชุม 1 ชั่วโมง 30 นาที
สถานที่ประชุม ห้องประชุมของวัด หรือ โรงเรียนที่พลมารีสังกัดอยู่
งานที่พลมารีทำ เยี่ยมคยป่วย คนชรา ครอบครัวคริสตังค์และครอบครัวคนต่างศาสนา ร่วมพิธีศพคริสต์และคนต่างสาสนาเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ที่มีปัญหา
ผู้ให้กำเนิดพลมารี บราเดอร์แฟรงค์ดั๊ฟ ประเทศไอร์แลนด์ โดยเริ่มโดยเริ่มครั้งแรกที่ที่กรุงดับบลิน เมืองหลวงของประเทศไอร์แลนด์ และขณะนี้กิจการพลมารีได้ขยายไปทั่วโลก
สมาชิกพลมารี มี 2 ประเภทคือ
1.พลมารีประจำการ จะทำหน้าที่ประชุมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สวดภวานาและเยี่ยมเยียนผู้อื่น
2.พลมารีสนันสนุน จะทำหน้าที่สวดภาวนาให้พลมารีประจำการเพื่อให้การทำงานพลมารีประสบความสำเร็จ
พลมารีประจำการ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่เพื่อทำหน้าที่นำการประชุมและสมาชิกพลมารี
เจ้าหน้าที่พลมารี ประกอบด้วย
1.จิตตาธิการ จะเป็นพระสงฆ์ หรือ นักบวช
2.ประธาน นำประชุมและมอบหมายงานให้สมาชิก
3.รองประธาน สำรวจสมาชิกที่เข้าประชุม
4.เลขานุการ บันทึกการประชุม
5.เหรัญญิก เก็บเงินและรักษาเงินเอาไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่จำที่จำเป็น
การเรียกกลุ่มพลมารี จะเรียกกลุ่มพลมารีว่า “เปรสิเดียม” ซึ่งเป็นคำเรียกมาจากภาษาลาติน และตามด้วยชื่อกลุ่มซึ่งเป็นชื่อของแม่พระ เช่น เปรสิเดียมแม่พระมหาชัย เปรสิเดียมแม่พระฟาติมา เป็นต้น สามชืกพลมารีแต่ละเปรสิเดียควรมีไม่เกิน 20 คน ถ้ามีสมาชิกมากก็ให้เพิ่มเปรสิเดียม เปรสิเดียม
หลายๆเปรสิเดียมจะมาร่วมกันเป็น“คูเรีย”และหลายๆคูเรียร่วมกันเป็น“คอมิเซียม”ทั้งเปรสิเดียม คูเรียและคอมมิเซียม จะอยู่ในสังกัดของ“เซนาตุส”
เซนาตุส เป็นสภาสูงสุดของขณะพลมารี มีที่ทำการอยู่ที่ ตึกวันทามารีย์ รพ.เซนต์หลุยส์ กรุงเทพฯ มีหน้าที่ดูแลขณะพลมารีทั่วประเทศไทย
ประธานเซนาตุสคนปัจจุบันคือ ซ.อันเยรา พรรณทิพย์ ผิวเกลี้ยง
บทบาทของพลมารีในการส่งเสริมและมีส่วนร่วมการตั้งกลุ่มคริสตชนพื้นฐาน 
1. วัตถุประสงค์ของคณะพลมารี คือช่วยให้สมาชิกเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ อาศัยการภาวนา และร่วมมือทำงานอย่างแข็งขัน ภายใต้การนำของพระศาสนจักร (หนังสือคู่มือ บทที่ 2 หน้า 4) ในขณะนี้พระศาสจักรกำลังต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการฟื้นฟูชีวิตคริสตชน โดยการจัดตั้งชุมชนคริสตชนพื้นฐานขั้นในทุกเขตวัด จึงเป็นหน้าที่พลมารี ที่ต้องทุ่มเทให้ความร่วมมือ ในงานนี้อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพราะจุดหมายของงานนี้เป็นจุดหมายเดียวกันกับงานพลมารี
2. เพื่อช่วยวิญญาณให้รอด พลมารีจึงเลียนแบบกองทัพโรมันในเรื่องความจงรักภักดี ความกล้าหาญ ความมีวินัยเคร่งครัด ความอดทนในการทำงาน (คู่มือ บทที่ 4 หน้า 6) งานจัดตั้งชุมชนคริสตชนพื้นฐาน จะประสบกับความยากลำบากและอุปสรรคต่างๆ มากมาย พลมารีต้องอาศัยกำลังจากพระมารดามารีอา ช่วยอำนวยให้พลมารี มีความอดทน พากเพียร ช่วยงานนี้ให้สำเร็จลุล่วงให้จงได้
3. ต้อง "ดำเนินกิจกรรมด้วยความรัก ดังที่พระคริสตเจ้าทรงรักพวกเรา และทรงมอบพระองค์ท่านเพื่อเรา" (อฟ. 5:2) การสร้างชุมชนคริสตชนพื้นฐาน ต้องใช้ความสัมพันธ์ติดต่อกับครอบครัวใกล้เคียง ต้องใช้ความรัก และความเห็นอกเห็นใจกัน (คู่มือ บทที่ 4 หน้า 9) ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติอย่างนุ่มนวลของพลมารี จะช่วยให้การรวมกลุ่มและการร่วมกิจกรรมดำเนินไปด้วยดี และราบรื่น พลมารีน่าจะมีบทบาทช่วยได้มาก
4. หน้าที่สำคัญของพลมารี คือ การปฏิบัติตนให้เป็นคนศักดิ์สิทธิ์ และรับใช้เพื่อนมนุษย์ (คู่มือ บทที่ 5 หน้า 13) ในชุมชนคริสตชนพื้นฐาน จึงต้องทำตนให้เป็นแบบอย่างแก่คนอื่นในด้านความศรัทธา การร่วมประชุมกัน การร่วมกิจกรรมของกลุ่ม การไปวัดแก้บาปรับศีล การภาวนา การแบ่งปันพระวาจา ตลอดถึงการมีเมตตาจิต ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น เมื่อเห็นเพื่อนบ้านมีความทุกข์ก็ไม่เมินเฉย แต่หาทางให้ความช่วยเหลือ
5. ความศรัทธาของพลมารี คือรากฐานของการแพร่ธรรมของคณะ (คู่มือ บทที่ 5 หน้า 19) ชุมชนคริสตชนพื้นฐาน เป็นกระบวนการแพร่ธรรม พลมารีพึงตระหนักว่า การเป็นแบบอย่างในความศรัทธาของตนก็เป็นการช่วยส่งเสริมการแพร่ธรรมอีกทาง หนึ่งด้วย
6. พลมารีเป็นเสมือนเครื่องมือที่พระศาสนจักรใช้สำหรับต่อสู้การผจญทางโลก เป็นองค์กรที่พระแม่มารีเรียกใช้ ตามน้ำพระทัยของพระนาง ในการช่วยวิญญาณให้รอด และทำสงครามไม่รู้จบกับการขยี้หัวงูปีศาจ (คู่มือ บทที่ 5 หน้า 21) ชุมชนคริสตชนพื้นฐาน เป็นการช่วยวิญญาณให้รอดตามคำกล่าวของพระคุณเจ้าจำเนียร สันติสุขนิรันดร์ จึงเป็นหน้าที่โดยตรงที่พลมารีจะต้องให้ความร่วมมือเต็มที่ และเต็มกำลังความสามารถ
7. คณะพลมารี คือ องค์กรแพร่ธรรม ที่แต่งรูปร่างงดงามชวนให้หลงไหล เต็มไปด้วยชีวิตชีวา จนดึงดูดคนได้มากมาย คณะนี้เป็นไปตามที่ สมเด็จพระสันตะปาปา ปีโอที่ 11 ทรงกำหนดไว้ คือ ขึ้นตรงต่อพระนางมารี พระมารดาของพระเจ้า เคร่งครัดในเรื่องคุณภาพของสมาชิก ซึ่งมีความสำคัญสู่การรวมพลัง มีเครื่องคุ้มกัน โดยอาศัยการภาวนา การพลีกรรม มีระบบที่แน่นอน และร่วมมือกับพระสงฆ์ในทุกเรื่อง คณะพลมารีจึงเป็นความมหัศจรรย์ของโลกปัจจุบัน (คู่มือ บทที่ 6 หน้า 27)
8. พลมารีเป็นขุมทรัพย์ของวัด (คู่มือ บทที่ 6 หน้า 34) ซึ่งหมายความว่า พลมารีเป็นสิ่งมีค่าของวัด นั่นคือ เป็นขุมกำลังในการช่วยเหลือพระสงฆ์ ทั้งในการแพร่ธรรม และการอภิบาลที่มีประสิทธิภาพ
9. "ฆราวาสได้รับสิทธิ และ หน้าที่เป็นผู้แพร่ธรรม จากการเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็นศีรษะ การรวมเป็นกายเดียวกันกับพระคริสตเจ้าทางศีลล้างบาป และได้รับพลังเข้มแข็งของพระคริสตเจ้าทางศีลกำลัง ฆราวาสก็ได้รับมอบจากพระคริสตเจ้าเองให้เป็นผู้แพร่ธรรม" (กฤษฎีกา เรื่องการแพร่ธรรมของฆราวาส ข้อ 3)
10. ตามที่กล่าวมาแล้วจากข้อ 1-9 แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า พลมารีทุกคนต้องมีส่วนรับผิดชอบงานก่อตั้งชุมชนคริสตชนพื้นฐาน ซึ่งเป็นทั้งงานแพร่ธรรมและงานอภิบาล พลมารีในฐานะทหารของกองทัพแม่พระ ต้องสู้รบกับความชั่วร้าย อุปสรรค ปัญหาทั้งหลาย เพื่อช่วยชิงเอาวิญญาณมามอบถวายเป็นบรรณาการแด่พระคริสตเจ้า ด้วยความเสียสละ ด้วยความอดทน แสดงตนให้เป็นเยี่ยงอย่างของสมาชิกที่ดีในชุมชนคริสตชนพื้นฐาน การกระทำเช่นนี้ ย่อมนำความยินดีปรีดามาสู่ดวงหทัยนิรมลของพระมารดามารีอาอย่างแน่นอน
บทสวดของพลมารี 
พลมารีสนับสนุนจะสวดบทภาวนาทั้งหมดนี้ทุกวัน
เมื่อสวดเป็นตอน ๆ ให้ทำเครื่องหมายกางเขน เมื่อเริ่มและจบ บทภาวนาของแต่ละตอน ถ้าสวดติดต่อกันรวดเดียว ให้ทำเครื่องหมายกางเขน เมื่อเริ่มต้นและตอนจบเท่านั้น
1. บทภาวนาเปิดประชุม
เดชะพระนามพระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน...
ก. เชิญเสด็จมา พระจิตเจ้าข้า
ร. เชิญมาสถิตในดวงใจสัตบุรุษ และบันดาลให้เร่าร้อนด้วยความรักต่อพระองค์
ก. โปรดส่งพระจิตของพระองค์ และสรรพสิ่งจะอุบัติขึ้นมา
ร. แล้วพระองค์จะนิมิตแผ่นดินขึ้นใหม่
ก. เราจงภาวนา
ข้า แต่พระเป็นเจ้า โปรดประทานพระพรของพระจิตเจ้าแก่โลก, พระองค์เคยส่งพระจิตเจ้ามาประทับอยู่กับพระศาสนจักร เมื่อเริ่มประกาศพระวรสาร : โปรดให้พระจิตเจ้ากระทำภารกิจในโลกต่อไป อาศัยความร่วมมือ ร่วมใจของบรรดาผู้ที่เชื่อในพระองค์ เดชะพระคริสตเจ้าของเรา
ร. อาแมน.
ก. ข้าแต่พระเป็นเจ้า ขอทรงเผยปากของข้าพเจ้า
ร. และลิ้นของข้าพเจ้า จะได้ร้องสรรเสริญพระองค์
ก. ข้าแต่พระเจ้า โปรดเสด็จมาช่วยข้าพเจ้า
ร. ข้าแต่พระเป็นเจ้า โปรดเร่งมาช่วยข้าพเจ้า
ก. สิริพึงมีแด่พระบิดา และพระบุตร และพระจิต
ร. เหมือนในปฐมกาล บัดนี้ และทุกเมื่อตลอดนิรันดร อาแมน.
(แล้วสวดลูกประคำ 50 เม็ด)
ก. วันทาพระราชินี
ร. พระแม่แห่งความเมตตากรุณา ท่านคือชีวิต ความอ่อนหวาน และความหวังของเรา เราขอวันทา เราลูกหลานของเอวา ผู้ถูกเนรเทศ ถอนใจใหญ่ ร้องหาท่าน พิลาปร่ำไห้ในเหวน้ำตานี้ โปรดเถิดท่านผู้เสนอของเรา โปรดทอดพระเนตรอันเมตตาของท่านมายังเรา และเมื่อชีวิตเนรเทศนี้ล่วงแล้ว โปรดแสดงให้เราเห็นองค์พระเยซู พระโอรสผู้ทรงบุญของท่าน โอ้ท่านผู้ใจกรุณา โอ้ท่านผู้ใจอารี โอ้พรหมจารีผู้ใจอ่อนหวาน.
ก. โปรดภาวนาอุทิศแก่เราเถิดพระชนนีเจ้าข้า
ร. เพื่อเราสมจะได้รับตามคำสัญญาของพระคริสตเจ้า
ก. เราจงภาวนา
ข้า แต่พระเป็นเจ้า พระเอกบุตรของพระองค์ ได้ทรงเจริญชีวิต สิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพ เพื่อให้เราได้บำเหน็จความรอดตลอดนิรันดร์ ; ชาวเรารำพึงตามเรื่องราวแห่งสายประคำศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระนางพรหมจารีมารี อานี้อยู่ โปรดเถิด ขอโปรดให้เราได้ปฏิบัติตามแนวทางที่ข้อรำพึงเหล่านี้สอน และประสบสิ่งซึ่งข้อเหล่านี้สัญญาไว้ด้วย เดชะพระคริสตเจ้าของเรา
ร. อาแมน
ก. พระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระเยซูเจ้า ร. ทรงเมตตาเทอญ
ก. ดวงหทัยนิรมลของพระนางมารีอา ร. ช่วยวิงวอนเทอญ
ก. นักบุญยอแซฟ ร. ช่วยวิงวอนเทอญ
ก. นักบุญยอห์น ผู้นิพนธ์พระวรสาร ร. ช่วยวิงวอนเทอญ
ก. นักบุญหลุยส์ มารี เดอ มงต์ฟอร์ต ร. ช่วยวิงวอนเทอญ
เดชะพระนามพระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน...
2. บทกาเตนาของคณะพลมารี (บทสายสัมพันธ์)
ใช้สวดตอนกลางประชุม และพลมารีทุกคนสวดประจำทุกวัน
ก. พระนางนั่นคือใครหนอ
ร. เสด็จมาดุจรุ่งอรุณ งามดั่งดวงจันทร์ รุ่งโรจน์ดั่งดวงอาทิตย์ และน่าเกรงขามดุจกองทัพที่เรียงรายเป็นขบวนรบ?
ก. วิญญาณข้าพเจ้า + (ทำสำคัญมหากางเขน) ถวายสดุดีแด่พระเป็นเจ้า
ร. และจิตใจข้าพเจ้าโสมนัสยินดีในพระเจ้าผู้ไถ่กู้ข้าพเจ้า
ก. เพราะพระองค์ทรงเหลียวแลความต่ำต้อยแห่งข้าบริการของพระองค์ ตั้งแต่นี้ไปมนุษย์ทุกสมัยจะเรียกข้าพเจ้าว่า เป็นผู้มีบุญ
ร. เพราะพระผู้ทรงสรรพานุภาพ บันดาลให้บังเกิดแก่ข้าพเจ้า ซึ่งเหตุการณ์อันใหญ่ยิ่ง และพระนามของพระองค์ศักดิ์สิทธิ์
ก. พระมหากรุณาของพระองค์แผ่ไปตลอดทุกกาลสมัย โปรดบรรดาผู้มีความยำเกรง
ร. พระงอค์ทรงยกพระหัตถ์ แสดงพระฤทธานุภาพ : ทรงขจัดผู้มีใจมักใหญ่ใฝ่สูงให้กระจายไป
ก. พระองค์ทรงผลักไสบรรดาทรงอำนาจออกจากบัลลังก์ : และทรงยกย่องคนใจสุภาพ
ร. พระองค์ทรงชุบเลี้ยงคนอดอยากให้อิ่มหนำด้วยโภคทรภัย์ : และทรงขับเศรษฐีให้กลับไปมือเปล่า
ก. พระองค์ทรงเกื้อกูลอิสราเอล ผู้รับใช้พระองค์ : โดยระลึกถึงพระมหากรุณา
ร. ตามที่ได้ตรัสสัญญาไว้แก่บรรพบุรุษของเรา : แก่อับราฮัม และบุตรหลานตลอดไป
ก. สิริพึงมีแด่พระบิดา และพระบุตร และพระจิต
ร. เหมือนในปฐมกาล บัดนี้ และทุกเมื่อตลอดนิรันดร อาแมน.
ก. พระนางนั่นคือใครหนอ
ร. เสด็จมาดุจรุ่งอรุณ งามดั่งดวงจันทร์ รุ่งโรจน์ดั่งดวงอาทิตย์ และน่าเกรงขามดุจกองทัพที่เรียงรายเป็นขบวนรบ?
ก. โอ้พระนางมารีอาผู้ปฏิสนธินิรมล
ร. ขอช่วยวิงวอนเพื่อเรา ผู้เข้ามาขอพึ่งด้วยเทอญ
ก. เราจงภาวนา
ข้า แต่พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์ทรงเป็นคนกลางระหว่างมนุษย์กับพระบิดา ยังทรงพอพระทัยแต่งตั้งพระนางพรหมจารีมารีอา พระมารดาของพระองค์ ให้เป็นมารดาของเรา และเป็นคนกลางระหว่างเรากับพระองค์ด้วย ขอโปรดบรรดาผู้มาขอความสงเคราะห์จากพระองค์ ให้ยินดีที่ได้รับความสงเคราะห์ทั้งหมดทางพระนางเทอญ
ร. อาแมน
3. บทภาวนาเฉพาะพลมารี
ให้สวดตอนปิดประชุม ได้วางแบบให้สวดได้ง่าย
เดชะพระนามพระบิดา และพระบุตร และพระจิต อาแมน...
ก. โอ้พระชนนีของพระเป็นเจ้า
ร. ชาวเราหลบมาพึ่งท่าน โปรดอย่าเมินเฉย ต่อคำวิงวอนในยามทุกข์ร้อนของเรา แต่โปรดช่วยเรา ให้พ้นภัยทั้งสิ้นเสมอเถิด ท่านศรีพรหมจารีผู้ทรงบุญ
ก. เมื่อประชุมเปรสิเดียมให้ออกชื่อเปรสิเดียม ถ้ามิใช่ประชุมเปรสิเดียม ให้สวดดังนี้ : ร. ช่วยวิงวอนเทอญ
ก. พระนางมารีอาผู้นิรมล คนกลางจ่ายพระหรรษทานทุกประการ ร. ช่วยวิงวอนเทอญ
ก. นักบุญมีคาแอล และนักบุญคาเบรียล ร. ช่วยวิงวอนเทอญ
ก. คณะอำนาจสวรรค์ กองพลเทวดาของพระนางมารีอา ร. ช่วยวิงวอนเทอญ
ก. นักบุญยอห์น แบปติสต์ ร. ช่วยวิงวอนเทอญ
ก. นักบุญเปโตร และเปาโล ร. ช่วยวิงวอนเทอญ
(ต่อไปนี้ ให้สวดพร้อมกันจนถึงอาแมนครั้งแรก, หลังจากนั้นพระสงฆ์ก่อ และทุกคนรับ "อาแมน")
ข้าแต่พระเจ้า
เรารับใช้อยู่ใต้ร่มธงของพระนางมารีอา
โปรดให้เรามีความเชื่อในพระองค์อย่างสมบูรณ์ และมีความไว้ใจในพระนาง,
ซึ่งจะทำให้เราชนะโลกอย่างแน่นอน
ขอประทานให้เรามีความเชื่อ พร้อมด้วยความรักอันร้อนรน
เพื่อให้เราสามารถประกอบกิจทุกอย่าง
เพราะความรักต่อพระองค์อย่างบริสุทธิ์ใจ
โดยถือว่าการรับใช้เพื่อนมนุษย์เป็นการรับใช้พระองค์เอง
โปรดให้เรามีความเชื่อมั่นคงดุจหลักศิลา
อันจะทำให้เราสงบหนักแน่น
ท่ามกลางความยากลำบาก และความไม่สมหวังในชีวิต
โปรดให้เรามีความเชื่อ กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว
ในอันที่จะกล้าคิดทำการใหญ่โต
เพื่อพระเกียรติมงคลของพระองค์ และเพื่อวิญญาณได้รอด
โปรดให้ความเชื่อนั้นเป็นดังลำไฟประจำคณะพลมารี
เพื่อนำเราเดินหน้าไปด้วยความสนิทสนมกลมเกลียว
เพื่อจุดไฟความรักต่อพระองค์ให้ลุกโพลงอยู่ทุกแห่งหน
เพื่อส่องสว่างบรรดาผู้อยู่ในความมืดและเงาแห่งความตาย
เพื่อบรรดาใจเย็นเฉยจะได้เกิดร้อนรน
เพื่อนำชีวิตกลับคืนสู่ผู้ที่จมอยู่ในบาป
ความเชื่อนั้น จะนำเราไปตามทางสันติสุข
เพื่อว่า การรณรงค์ในชีวิตผ่านพ้นไปแล้ว
คณะพลมารีของเราจะได้ร่วมกันให้พร้อมหน้า
โดยไม่มีใครขาดสูญแม้แต่คนเดียว
ในพระราชัยแห่งความรักและสิริมงคลของพระองค์ อาแมน
ก. ขอให้วิญญาณของพลมารี และสัตบุรุษที่ถึงแก่กรรมแล้ว จงประสบสุข เดชะพระเมตตาของพระเป็นเจ้าเทอญ
ร. อาแมน
Ref:
http://www.koratlourdes.com/web-k/oratl ... ivity.html
http://www.genesis.in.th/March/Legio%20 ... 0BECs.html
http://udondiocese.cbct.net/ud/index.ph ... 0&Itemid=2