แวมไพร์ มนุษย์หมาป่า ซอมบี้ พี่น้องนิวมานาคิดว่ามีจริงไหมครับ
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
ออกความคิดเห็นอันเรื่องผีแนวเอเซียมาแล้วอยากฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับผียุโรปกันบ้างครับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ไม่รู้สิ หนูไม่ใช่คนแถวนั้น จะจริงหรือไม่ ไม่ทราบ แต่หวาดเสียวดีJack Sparrow เขียน: ออกความคิดเห็นอันเรื่องผีแนวเอเซียมาแล้วอยากฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับผียุโรปกันบ้างครับ
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
แวมไพร์ใครแต่งครับsasuke เขียน: ไม่ตอบว่ามีหรือไม่มีนะครับ แต่ทุกเรื่องที่กล่าวมา เป็นตำนานที่สามารถระบุผู้แต่งและที่มาได้ชัดเจนมาก
แต่จะเก่งจะใหญ่มาจากไหน ก็ไม่เก่งไปกว่าพ่อเราบนสวรรค์หรอกครับ
หมาป่าใครแต่งครัย
ซอมบี้ใครแต่งครับ
ปล.อยากรู้ครับ
ผมชอบมนุษย์หมาป่านะ
โดยเฉพาะเจ้าGallon หรือ Jon Talbain ในเกม Dark Stalker
คือพวกปีศาจ แวมไพร์ อะไรเนี่ย มันเป็นแค่จินตนาการเท่านั้น
ปล.ทำไมกระทู้แนวผีๆปีศาจนี่เยอะจังช่วงนี้ ค่อยเก็บไว้เล่าตอนฤดูหนาว ไม่ก็ช่วงเดือน7ไม่ดีกว่าหรือ(มันส์ดี)
โดยเฉพาะเจ้าGallon หรือ Jon Talbain ในเกม Dark Stalker
คือพวกปีศาจ แวมไพร์ อะไรเนี่ย มันเป็นแค่จินตนาการเท่านั้น
ปล.ทำไมกระทู้แนวผีๆปีศาจนี่เยอะจังช่วงนี้ ค่อยเก็บไว้เล่าตอนฤดูหนาว ไม่ก็ช่วงเดือน7ไม่ดีกว่าหรือ(มันส์ดี)
- ดานุ้งพุงระเบิด
- โพสต์: 518
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
- ที่อยู่: อุบลราชธานี
แวมไพร์ถ้าจำไม่ผิด ก็คงมีจุดกำเนิดจาก Dracular ของ บราม สโตลเกอร์
เคยมีคนเปรียบไว้ว่า พวกนี้มีนัยนะ เช่น แวมไพร์ หมายถึงคนที่ชอบมาดูดพลังชีวิตคนอื่น เช่นพวกเข้าไปก้าวก่ายงานคนอื่น ทำให้คนอื่นไม่มีกำลัง ขู่ว่าจะฆ่าตัวตายหากไม่แต่งงานด้วย พวกนี้จะมาดูดพลังวิญญาณเรา นอกจากทำให้เราเหนื่อยทางกาย ยังทำให้เหนื่อยทางวิญญาณด้วย เป็นต้นอ่ะครับ
เคยมีคนเปรียบไว้ว่า พวกนี้มีนัยนะ เช่น แวมไพร์ หมายถึงคนที่ชอบมาดูดพลังชีวิตคนอื่น เช่นพวกเข้าไปก้าวก่ายงานคนอื่น ทำให้คนอื่นไม่มีกำลัง ขู่ว่าจะฆ่าตัวตายหากไม่แต่งงานด้วย พวกนี้จะมาดูดพลังวิญญาณเรา นอกจากทำให้เราเหนื่อยทางกาย ยังทำให้เหนื่อยทางวิญญาณด้วย เป็นต้นอ่ะครับ
เห็นด้วย....Gray Cat de St.Tsar NicholasII เขียน: ผมชอบมนุษย์หมาป่านะ
โดยเฉพาะเจ้าGallon หรือ Jon Talbain ในเกม Dark Stalker
คือพวกปีศาจ แวมไพร์ อะไรเนี่ย มันเป็นแค่จินตนาการเท่านั้น
ปล.ทำไมกระทู้แนวผีๆปีศาจนี่เยอะจังช่วงนี้ ค่อยเก็บไว้เล่าตอนฤดูหนาว ไม่ก็ช่วงเดือน7ไม่ดีกว่าหรือ(มันส์ดี)
สมัยก่อนตอนพี่อยู่โบสถ์คริสเตียนความหวัง พี่ก็เคยถามพี่เลี้ยงว่าผีพวกนี้มีจริงไหม พี่เลี้ยงบอกว่า เป็นปีศาจที่มาหลอกคนในรูปแบบต่างๆ แล้วครั้งหนึ่งพี่เลี้ยงเคยหยิบหนังสือเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาวหรือคนเคยเห็นจานบินมาให้ดูบอกว่านี่แหละคือน้ำมือของซาตาน แล้วบอกว่าเคยสังเกตไหมว่าทำไมทางเอเซียคนถึงเจอผีกันเยอะ แต่ทางอเมริกาคนถึงเจอมนุษย์ต่างดาวกันเยอะ ก็เพราะว่าผีมารซาตานมันรู้ไงว่าคนยุโรปหลอกผีก็คงไม่เชื่อมันก็เลยหลอกเป็นมนุษย์ต่างดาว ส่วนคนเอเซียก็หลอกเป็นผี
ดังนั้นก็สรุปได้ว่าเขาเชื่อว่ามีหมดไม่ว่า ตำนานเรื่องผีของชาติไหนๆ รวมไปถึงมนุษย์ต่างดาว อัศจรรย์ต่างๆ เขาเหมารวมหมดว่าเป็นน้ำมือของซาตานทั้งสิ้น
ดังนั้นก็สรุปได้ว่าเขาเชื่อว่ามีหมดไม่ว่า ตำนานเรื่องผีของชาติไหนๆ รวมไปถึงมนุษย์ต่างดาว อัศจรรย์ต่างๆ เขาเหมารวมหมดว่าเป็นน้ำมือของซาตานทั้งสิ้น
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ จันทร์ พ.ค. 12, 2008 8:40 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ในความเชื่อและที่มา
แวมไพร์
แวมไพร์ (Vampire) ผีชนิดหนึ่งตามความเชื่อของชาวยุโรป ในยุคกลาง เชื่อว่าเป็นผีดิบ ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่มีฟันแหลมคม ดื่มเลือดของมนุษย์ด้วยกันเป็นอาหารเพื่อหล่อเลี้ยง โดยที่แวมไพร์จะมีชีวิตเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย จะปรากฏตัวได้แต่เฉพาะเวลากลางคืน เพราะกลางวันแพ้เเสงแดด แวมไพร์จะหลบซ่อนอยู่ในโลงของตนหรือในหลุมในเวลากลางวัน สามารถแปลงร่างได้หลายแบบ เช่น ค้างคาว, นกฮูก, หมาป่า, กบ, คางคก, แมลงเม่า, งูพิษ เป็นต้น สามารถกำบังกายหายตัวได้ ไม่มีเงาเมื่อกระทบกับแสงหรือสะท้อนในกระจก มีแรงมากเหมือนผู้ชาย 20 คน สิ่งที่จะกำราบแวมไพร์ได้คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา เช่น ไม้กางเขน, น้ำมนตร์ หรือแม้กระทั่งสมุนไพรกลิ่นแรงบางชนิด เช่น กระเทียม วิธีฆ่าแวมไพร์มีมากมาย เช่น ตอกลิ่มให้ทะลุหัวใจ เผา หรือ ตัดหัวด้วยจอบของสัปเหร่อ บุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของมัน จะกลายเป็นแวมไพร์ไปด้วย และกลายเป็นสาวกของแวมไพร์ตนที่ดูดเลือดตัวเอง
ชาวยุโรปในยุคกลางนั้น หวาดกลัวแวมไพร์มาก ผู้ที่สงสัยว่าเป็นแวมไพร์ จะตกอยู่ในสถานะเดียวกับแม่มด หรือ มนุษย์หมาป่า คือ ถูกตัดสินลงโทษด้วยการเอาถึงชีวิต มีวิธีการป้องกันการรุกรานของแวมไพร์หลายวิธี เช่น บางหมู่บ้านจะโปรยเมล็ดข้าวไว้บนหลังคาบ้าน เพราะเชื่อว่าแวมไพร์จะง่วนกับการนับเมล็ดข้าวเป็นการถ่วงเวลาจนรุ่งเช้า หรือ โรยเศษขนมปังไว้ตั้งแต่สุสานให้แวมไพร์เดินเก็บเศษขนมนั้นวนเวียนไปมา หรือแม้แต่การวางไม้กางเขนหรือดอกกุหลาบที่มีหนามแหลมเพื่อเป็นการพันธนาการไว้ในโลง
เรื่องราวของผีแวมไพร์ มีมากมาย ที่เป็นนิทานพื้นบ้านและวรรณกรรม โดยวรรณกรรมที่ว่าถึงแวมไพร์ที่เก่าแก่ที่สุด มีมาตั้งแต่สมัยโรมัน วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของแวมไพร์คือ เรื่องเค้าท์แดร็กคูล่าร์ ของ บราม สโตกเกอร์ ที่โด่งดังจนมีการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ละคร ละครเวที หรือแม้แต่กระทั่งภาพยนตร์การ์ตูนมากมายตราบจนปัจจุบัน เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Nosferatu ในปี ค.ศ. 1922 เป็นต้น
เป็นไปได้ว่าความเชื่อเรื่องของแวมไพร์ที่สามารถแปลงร่างเป็นค้างคาวได้ อาจมีที่มาจากที่ทวีปอเมริกากลาง มีค้างคาวขนาดเล็กชนิดหนึ่ง ดูดเลือดสัตว์ที่ใหญ่กว่าเป็นอาหารในเวลากลางคืน ซึ่งค้าวคาวชนิดนี้ก็ได้มีการเรียกชื่อว่า แวมไพร์ เช่นกัน
ก๊อบปี้จาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81% ... 3%E0%B9%8C
แวมไพร์
แวมไพร์ (Vampire) ผีชนิดหนึ่งตามความเชื่อของชาวยุโรป ในยุคกลาง เชื่อว่าเป็นผีดิบ ที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนมนุษย์ทั่วไป แต่มีฟันแหลมคม ดื่มเลือดของมนุษย์ด้วยกันเป็นอาหารเพื่อหล่อเลี้ยง โดยที่แวมไพร์จะมีชีวิตเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย จะปรากฏตัวได้แต่เฉพาะเวลากลางคืน เพราะกลางวันแพ้เเสงแดด แวมไพร์จะหลบซ่อนอยู่ในโลงของตนหรือในหลุมในเวลากลางวัน สามารถแปลงร่างได้หลายแบบ เช่น ค้างคาว, นกฮูก, หมาป่า, กบ, คางคก, แมลงเม่า, งูพิษ เป็นต้น สามารถกำบังกายหายตัวได้ ไม่มีเงาเมื่อกระทบกับแสงหรือสะท้อนในกระจก มีแรงมากเหมือนผู้ชาย 20 คน สิ่งที่จะกำราบแวมไพร์ได้คือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนา เช่น ไม้กางเขน, น้ำมนตร์ หรือแม้กระทั่งสมุนไพรกลิ่นแรงบางชนิด เช่น กระเทียม วิธีฆ่าแวมไพร์มีมากมาย เช่น ตอกลิ่มให้ทะลุหัวใจ เผา หรือ ตัดหัวด้วยจอบของสัปเหร่อ บุคคลที่ตกเป็นเหยื่อของมัน จะกลายเป็นแวมไพร์ไปด้วย และกลายเป็นสาวกของแวมไพร์ตนที่ดูดเลือดตัวเอง
ชาวยุโรปในยุคกลางนั้น หวาดกลัวแวมไพร์มาก ผู้ที่สงสัยว่าเป็นแวมไพร์ จะตกอยู่ในสถานะเดียวกับแม่มด หรือ มนุษย์หมาป่า คือ ถูกตัดสินลงโทษด้วยการเอาถึงชีวิต มีวิธีการป้องกันการรุกรานของแวมไพร์หลายวิธี เช่น บางหมู่บ้านจะโปรยเมล็ดข้าวไว้บนหลังคาบ้าน เพราะเชื่อว่าแวมไพร์จะง่วนกับการนับเมล็ดข้าวเป็นการถ่วงเวลาจนรุ่งเช้า หรือ โรยเศษขนมปังไว้ตั้งแต่สุสานให้แวมไพร์เดินเก็บเศษขนมนั้นวนเวียนไปมา หรือแม้แต่การวางไม้กางเขนหรือดอกกุหลาบที่มีหนามแหลมเพื่อเป็นการพันธนาการไว้ในโลง
เรื่องราวของผีแวมไพร์ มีมากมาย ที่เป็นนิทานพื้นบ้านและวรรณกรรม โดยวรรณกรรมที่ว่าถึงแวมไพร์ที่เก่าแก่ที่สุด มีมาตั้งแต่สมัยโรมัน วรรณกรรมที่มีชื่อเสียงที่สุดของแวมไพร์คือ เรื่องเค้าท์แดร็กคูล่าร์ ของ บราม สโตกเกอร์ ที่โด่งดังจนมีการนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ละคร ละครเวที หรือแม้แต่กระทั่งภาพยนตร์การ์ตูนมากมายตราบจนปัจจุบัน เช่น ภาพยนตร์เรื่อง Nosferatu ในปี ค.ศ. 1922 เป็นต้น
เป็นไปได้ว่าความเชื่อเรื่องของแวมไพร์ที่สามารถแปลงร่างเป็นค้างคาวได้ อาจมีที่มาจากที่ทวีปอเมริกากลาง มีค้างคาวขนาดเล็กชนิดหนึ่ง ดูดเลือดสัตว์ที่ใหญ่กว่าเป็นอาหารในเวลากลางคืน ซึ่งค้าวคาวชนิดนี้ก็ได้มีการเรียกชื่อว่า แวมไพร์ เช่นกัน
ก๊อบปี้จาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%81% ... 3%E0%B9%8C
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ จันทร์ พ.ค. 12, 2008 8:53 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
มนุษย์หมาป่า
มนุษย์หมาป่า (Werewolf) เป็นผีจำพวกเดียวกับแวมไพร์และมีพฤติกรรมคล้ายกัน คือ ดื่มกินเลือดและเนื้อของมนุษย์และสัตว์อื่นเป็นอาหาร เป็นความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ของชาวยุโรปในยุคกลาง โดยที่เชื่อว่า บุคคลที่เป็นมนุษย์หมาป่าจะกลายร่างเป็นหมาป่าในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง อาจจะแปลงร่างเป็นหมาป่าทั้งตัวเลยก็ได้ หรือครึ่งคนครึ่งหมาป่า หรือแม้กระทั่งแปลงเป็นสัตว์ป่าชนิดอื่น เช่น หมี เป็นต้น โดยที่วิธีการฆ่ามนุษย์หมาป่าจะคล้าย ๆ กับแวมไพร์ โดยตอกด้วยลิ่ม หรือเผา ที่เห็นบ่อยโดยเฉพาะในภาพยนตร์ก็คือ การยิงด้วยกระสุนที่ทำจากเงินหรือกระสุนผ่านการปลุกเสก มนุษย์หมาป่าก็แพ้แสงแดด และถูกตามล่าเหมือนกับแวมไพร์
เป็นไปได้ว่าความเชื่อเรื่องมนุษย์หมาป่านั้น มีที่มาจากความกลัวหมาป่า โดยเฉพาะหมาป่าที่พบในยุโรป ที่มีลำตัวขนาดใหญ่ และมักออกล่าเป็นฝูง โดยอาจดักซุ่มโจมตีมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยงในเวลากลางคืน ผนวกกับความเชื่อและความหวาดกลัวบุคคลนอกสังคม ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปีศาจ อย่างแม่มดหรือแวมไพร์ ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า เรื่องมนุษย์หมาป่านั้น แท้จริงแล้วคือ สัญชาตญาณสัตว์ป่าที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ รากศัพท์ที่มาของคำว่า มนุษย์หมาป่า นั้น Were เป็นภาษาอังกฤษโบราณที่หมายถึง "มนุษย์" นั่นเอง และความเชื่อเรื่องของมนุษย์ที่กลางร่างเป็นกึ่งคนกึ่งสัตว์ที่มีทั่วทุกมุมโลก เช่น ในอเมริกาใต้มีมนุษย์งูเหลือม หรือมนุษย์จระเข้ ที่แอฟริกามีมนุษย์เสือดาว หรือเสือดำ หรือปีศาจช้าง ที่อินเดียมีมนุษย์สิงโต หรือ "นรสิงห์" นั่นเอง หรือในเทพปกรณัมกรีก ก็มีเรื่องของชายผู้หนึ่งที่ถูกเทพซุสสาบให้กลายเป็นหมาป่า ชื่อ "Lycaon" มนุษย์บางเผ่าเช่น ไวกิ้ง เชื่อว่า ตนสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ป่าดุร้ายบางชนิดได้เวลาสู้รบ เป็นต้น และตามสถิติที่เก็บได้ บ่งว่า คืนวันพระจันทร์เต็มดวงนั้น มีแนวโน้มที่จะเกิดอาชญากรรมมากกว่าคืนทั่วไป ทั้งนี้เชื่อว่า อาจเป็นเพราะอิทธิพลของดวงจันทร์
เรื่องราวของมนุษย์หมาป่า ถูกเล่าขานมาจนปัจจุบัน และสะท้อนออกมาในรูปแบบของวรรณกรรม เช่น ภาพยนตร์ หรือ ละคร หรือแม้แต่กระทั่งการ์ตูน เป็นต้น
ก๊อบปี๊จาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1% ... 8%E0%B8%B2
มนุษย์หมาป่า (Werewolf) เป็นผีจำพวกเดียวกับแวมไพร์และมีพฤติกรรมคล้ายกัน คือ ดื่มกินเลือดและเนื้อของมนุษย์และสัตว์อื่นเป็นอาหาร เป็นความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ของชาวยุโรปในยุคกลาง โดยที่เชื่อว่า บุคคลที่เป็นมนุษย์หมาป่าจะกลายร่างเป็นหมาป่าในคืนวันพระจันทร์เต็มดวง อาจจะแปลงร่างเป็นหมาป่าทั้งตัวเลยก็ได้ หรือครึ่งคนครึ่งหมาป่า หรือแม้กระทั่งแปลงเป็นสัตว์ป่าชนิดอื่น เช่น หมี เป็นต้น โดยที่วิธีการฆ่ามนุษย์หมาป่าจะคล้าย ๆ กับแวมไพร์ โดยตอกด้วยลิ่ม หรือเผา ที่เห็นบ่อยโดยเฉพาะในภาพยนตร์ก็คือ การยิงด้วยกระสุนที่ทำจากเงินหรือกระสุนผ่านการปลุกเสก มนุษย์หมาป่าก็แพ้แสงแดด และถูกตามล่าเหมือนกับแวมไพร์
เป็นไปได้ว่าความเชื่อเรื่องมนุษย์หมาป่านั้น มีที่มาจากความกลัวหมาป่า โดยเฉพาะหมาป่าที่พบในยุโรป ที่มีลำตัวขนาดใหญ่ และมักออกล่าเป็นฝูง โดยอาจดักซุ่มโจมตีมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยงในเวลากลางคืน ผนวกกับความเชื่อและความหวาดกลัวบุคคลนอกสังคม ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นปีศาจ อย่างแม่มดหรือแวมไพร์ ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า เรื่องมนุษย์หมาป่านั้น แท้จริงแล้วคือ สัญชาตญาณสัตว์ป่าที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ รากศัพท์ที่มาของคำว่า มนุษย์หมาป่า นั้น Were เป็นภาษาอังกฤษโบราณที่หมายถึง "มนุษย์" นั่นเอง และความเชื่อเรื่องของมนุษย์ที่กลางร่างเป็นกึ่งคนกึ่งสัตว์ที่มีทั่วทุกมุมโลก เช่น ในอเมริกาใต้มีมนุษย์งูเหลือม หรือมนุษย์จระเข้ ที่แอฟริกามีมนุษย์เสือดาว หรือเสือดำ หรือปีศาจช้าง ที่อินเดียมีมนุษย์สิงโต หรือ "นรสิงห์" นั่นเอง หรือในเทพปกรณัมกรีก ก็มีเรื่องของชายผู้หนึ่งที่ถูกเทพซุสสาบให้กลายเป็นหมาป่า ชื่อ "Lycaon" มนุษย์บางเผ่าเช่น ไวกิ้ง เชื่อว่า ตนสามารถแปลงร่างเป็นสัตว์ป่าดุร้ายบางชนิดได้เวลาสู้รบ เป็นต้น และตามสถิติที่เก็บได้ บ่งว่า คืนวันพระจันทร์เต็มดวงนั้น มีแนวโน้มที่จะเกิดอาชญากรรมมากกว่าคืนทั่วไป ทั้งนี้เชื่อว่า อาจเป็นเพราะอิทธิพลของดวงจันทร์
เรื่องราวของมนุษย์หมาป่า ถูกเล่าขานมาจนปัจจุบัน และสะท้อนออกมาในรูปแบบของวรรณกรรม เช่น ภาพยนตร์ หรือ ละคร หรือแม้แต่กระทั่งการ์ตูน เป็นต้น
ก๊อบปี๊จาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A1% ... 8%E0%B8%B2
ซอมบี้
ซอมบี้ (zombie) เป็นคำเรียกในการปลุกชีพของผู้ที่ตายไปแล้วนั้น เกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งความเชื่อนี้ถูกสร้างขึ้นมาในชนเผ่ามายา ด้วยการทำนำยาพิเศษจากสมุนไพรจำนวนมากพร้อมมนต์ดำ ในการทำให้ซากศพเดินเหินเช่นคนปกติได้
ในภาพยนตร์และเกม ซอมบี้เป็นปิศาจเดินได้ มีลักษณะการเคลื่อนที่ช้า โดยแบ่งประเภทย่อยเป็น สิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้ว หรือ สิ่งที่ถูกดัดแปลง เป็นรูปแบบเฉพราะสามารถจัดการได้ด้วยการตัดศรีษะเพราะเชื่อว่าสมองยังคงทำงานอยู่แต่ไม่สมบูรณ์นัก
ซอมบี้ที่ตายไปเเล้วเป็นซอมบี้ที่เกิดจากเวทมนตร์ดำ มักจะไม่ทำร้ายผู้คน เว้นเเต่ จะเป็นซอมบี้ที่ถูกปลุกจาก พวกหมอผีหรื่อพวกลัทธินอกรีต มักจะมีนิสัยดุร้าย ชอบกินพวกซากคนตายตามสุสาน ซากสัตว์ต่างๆ หรือเเม้เเต่คนเป็นก็ย่อมได้ ซอบี้พวกนี้ มีลักษณะผอมโซ เคลื่อนที่ช้า เเต่ บางพวก เช่น ซอมบี้ที่มีชื่อว่า น็อตซือเฮอเรอร์(nachtzeher)จะมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว
ซอมบี้ที่ถูกดัดเปลงเป็นซอมบี้ที่เกิดจาก พวก นักวิทยาศาสตร์ที่ทดลองเกี่ยวกับชีวเคมี ส่วนใหญ่คือ พวกเเฟรงเก้นสไตน์ นั่นเอง เเต่ที่ปรากฏในเกม หรือ ภาพยนตร์ มักจะเป็นซอมบี้ที่เกิดจากการทดลองไวรัสปรสิต มีการเคลื่อนไหว่ เชื้องช้า(เพราะ เป็นคนที่ตายไปเเล้ว เลือดจะเเข็งตัว ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก)เมื่อใดที่ซอมบี้พวกนี้ กัด หรือ ข่วน มนุษย์ ในไม่ช้า คนๆนั้นก้จะกลายเป็น ซอมบี้เช่นเดียวกัน ซอมบี้พวกนี้ลักษณะเป็นคนหน้าซีด ตาขาว มีฟันที่ไม่ตรงกัน เเละมีฟันที่เหลือง มีเลือดชุ่มตัว น่าสยดสยอง มีจุดอ่อนที่หัว เพราะซอมบี้พวกนี้ มักถูกไวรัสควบคุมที่สมอง ถ้าใช้อาวุธคม๐ พวกขวาน หรือ ดาบ ฟันเข้า จะหยุดการทำงานของซอมบี้
ก๊อปปี้จาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B% ... 5%E0%B9%89
ซอมบี้ (zombie) เป็นคำเรียกในการปลุกชีพของผู้ที่ตายไปแล้วนั้น เกิดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งความเชื่อนี้ถูกสร้างขึ้นมาในชนเผ่ามายา ด้วยการทำนำยาพิเศษจากสมุนไพรจำนวนมากพร้อมมนต์ดำ ในการทำให้ซากศพเดินเหินเช่นคนปกติได้
ในภาพยนตร์และเกม ซอมบี้เป็นปิศาจเดินได้ มีลักษณะการเคลื่อนที่ช้า โดยแบ่งประเภทย่อยเป็น สิ่งมีชีวิตที่ตายไปแล้ว หรือ สิ่งที่ถูกดัดแปลง เป็นรูปแบบเฉพราะสามารถจัดการได้ด้วยการตัดศรีษะเพราะเชื่อว่าสมองยังคงทำงานอยู่แต่ไม่สมบูรณ์นัก
ซอมบี้ที่ตายไปเเล้วเป็นซอมบี้ที่เกิดจากเวทมนตร์ดำ มักจะไม่ทำร้ายผู้คน เว้นเเต่ จะเป็นซอมบี้ที่ถูกปลุกจาก พวกหมอผีหรื่อพวกลัทธินอกรีต มักจะมีนิสัยดุร้าย ชอบกินพวกซากคนตายตามสุสาน ซากสัตว์ต่างๆ หรือเเม้เเต่คนเป็นก็ย่อมได้ ซอบี้พวกนี้ มีลักษณะผอมโซ เคลื่อนที่ช้า เเต่ บางพวก เช่น ซอมบี้ที่มีชื่อว่า น็อตซือเฮอเรอร์(nachtzeher)จะมีการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว
ซอมบี้ที่ถูกดัดเปลงเป็นซอมบี้ที่เกิดจาก พวก นักวิทยาศาสตร์ที่ทดลองเกี่ยวกับชีวเคมี ส่วนใหญ่คือ พวกเเฟรงเก้นสไตน์ นั่นเอง เเต่ที่ปรากฏในเกม หรือ ภาพยนตร์ มักจะเป็นซอมบี้ที่เกิดจากการทดลองไวรัสปรสิต มีการเคลื่อนไหว่ เชื้องช้า(เพราะ เป็นคนที่ตายไปเเล้ว เลือดจะเเข็งตัว ทำให้เคลื่อนไหวลำบาก)เมื่อใดที่ซอมบี้พวกนี้ กัด หรือ ข่วน มนุษย์ ในไม่ช้า คนๆนั้นก้จะกลายเป็น ซอมบี้เช่นเดียวกัน ซอมบี้พวกนี้ลักษณะเป็นคนหน้าซีด ตาขาว มีฟันที่ไม่ตรงกัน เเละมีฟันที่เหลือง มีเลือดชุ่มตัว น่าสยดสยอง มีจุดอ่อนที่หัว เพราะซอมบี้พวกนี้ มักถูกไวรัสควบคุมที่สมอง ถ้าใช้อาวุธคม๐ พวกขวาน หรือ ดาบ ฟันเข้า จะหยุดการทำงานของซอมบี้
ก๊อปปี้จาก http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8B% ... 5%E0%B9%89
ผีพวกนี้เป็นตำนานความเชื่อเก่าแก่นานเป็นร้อยๆ ปีแล้วเป็นความเชื่อของชนพื้นเมืองไม่ใช่นิยายที่พึ่งแต่งขึ้นหรือมีคนเขียนขึ้นมา แต่มีนักเขียนหลายคนหยิบตำนานความเชื่อของผีพวกนี้มาแต่ง ส่วนจะมีจริงหรือไม่ก็ไม่มีใครตอบได้ ลองอ่านดูในวิกิพีเดียที่พี่ยกเอามาให้ก็น่าจะเป็นความเชื่อตามนั้น ถ้ามีจริงมันก็น่าจะเกี่ยวกับพวกไสยศาสตร์มนต์ดำมากกว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ จันทร์ พ.ค. 12, 2008 9:08 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 1042
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
- ที่อยู่: Ether23@hotmail.com
น่าจะไปเที่ยววโรมาเนียกะน้องเจี๊ยบ บ้านเเดร็กคูล่า ให้น้องเจี๊ยบนำ เอิ้กๆเด๋วเรา
ถือน้ำเสกเดินตามหลัง
ถือน้ำเสกเดินตามหลัง
-
- โพสต์: 127
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 20, 2008 1:18 pm
แฮ่ะ เราขอเป็นลูกทัวร์ขอแบกกางเขนตามละกันนะ
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ถ้าให้น้องเจี๊ยบนำ น้องวินไม่ต้องใช้น้ำเสกหรอก ใช้หน้าน้องเจี๊ยบก็ขับผีไปทั้งหมู่บ้าน ค่ะ เพราะ ฮี มีหน้าเป็นอาวุธHappy_Win เขียน: น่าจะไปเที่ยววโรมาเนียกะน้องเจี๊ยบ บ้านเเดร็กคูล่า ให้น้องเจี๊ยบนำ เอิ้กๆเด๋วเรา
ถือน้ำเสกเดินตามหลัง
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Prod Pran เขียน:ถ้าให้น้องเจี๊ยบนำ น้องวินไม่ต้องใช้น้ำเสกหรอก ใช้หน้าน้องเจี๊ยบก็ขับผีไปทั้งหมู่บ้าน ค่ะ เพราะ ฮี มีหน้าเป็นอาวุธHappy_Win เขียน: น่าจะไปเที่ยววโรมาเนียกะน้องเจี๊ยบ บ้านเเดร็กคูล่า ให้น้องเจี๊ยบนำ เอิ้กๆเด๋วเรา
ถือน้ำเสกเดินตามหลัง
เห็นด้วยค๊า
แดร๊กคิวล่ากลัวกระเทียมหรอ
งั้นผมก็เป็นแดร๊กแล้วอะ ผมไม่ชอบกระเทียม
งั้นผมก็เป็นแดร๊กแล้วอะ ผมไม่ชอบกระเทียม
เหอๆ ดีนะเจ้าตัวเขายังไม่มาเห็น อิอิ:+: seraphim :+: เขียน:Prod Pran เขียน:ถ้าให้น้องเจี๊ยบนำ น้องวินไม่ต้องใช้น้ำเสกหรอก ใช้หน้าน้องเจี๊ยบก็ขับผีไปทั้งหมู่บ้าน ค่ะ เพราะ ฮี มีหน้าเป็นอาวุธHappy_Win เขียน: น่าจะไปเที่ยววโรมาเนียกะน้องเจี๊ยบ บ้านเเดร็กคูล่า ให้น้องเจี๊ยบนำ เอิ้กๆเด๋วเรา
ถือน้ำเสกเดินตามหลัง
เห็นด้วยค๊า
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
ง่ะ เอเลี่ยนเป็นพวกซาตานเหรอเนี่ย!!! งั้นเดอะเกรย์(มนุษย์ต่างดาวหัวเทาๆ เป็นภาพลักษณ์ที่ติดตาผู้คนมากที่สุด)ก็เป็นต้นแบบเลยสิ อุตสาห์แอบหวังว่าจะมีตัวอะไรอยู่ในอวกาศแท้ๆ หลอกกันได้ ไอ้ซาตานJoseph เขียน: แต่ทางอเมริกาคนถึงเจอมนุษย์ต่างดาวกันเยอะ ก็เพราะว่าผีมารซาตานมันรู้ไงว่าคนยุโรปหลอกผีก็คงไม่เชื่อมันก็เลยหลอกเป็นมนุษย์ต่างดาว ส่วนคนเอเซียก็หลอกเป็นผี
ดังนั้นก็สรุปได้ว่าเขาเชื่อว่ามีหมดไม่ว่า ตำนานเรื่องผีของชาติไหนๆ รวมไปถึงมนุษย์ต่างดาว อัศจรรย์ต่างๆ เขาเหมารวมหมดว่าเป็นน้ำมือของซาตานทั้งสิ้น
-
- โพสต์: 960
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm
โปรดติดตามตอนต่อไป แต่ไม่รู้เมื่อไร
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
อันตน เขียน: ไร้สาระ แต่ก็มิได้นำพา
(อวสานแล้ว)
-
- โพสต์: 960
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm
จบ ถ้าไม่จบ เด๊ยวไปตาม van helsingมาจัดการ
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
ฝนตกอากาศเย็นๆ อย่างนี้น่าเล่าเรื่อง ผิผี อิอิ อ้าวแล้วไฟมันจะดับหรือเปล่าเริ่มเย็นๆ สรูปแล้วผีพวกนี้เป็นแค่ตำนานของฝรั่ง ปรื๋อๆๆๆ แต่ผมชอบแดร็กคิวล่ามาคล้ายหนังผีไทยอย่างหนึ่งคือหมามันชอบหอน โฮ่งๆๆๆ โบ๋ๆๆๆอออออส์
หลังจากตื่นจากที่นอน ด้วยความงัวเงีย เดินไปห้องน้ำ แล้วเจออย่างในกระจก มันคือ!!!!!!!!!!!Jack Sparrow เขียน: ฝนตกอากาศเย็นๆ อย่างนี้น่าเล่าเรื่อง ผิผี อิอิ อ้าวแล้วไฟมันจะดับหรือเปล่าเริ่มเย็นๆ สรูปแล้วผีพวกนี้เป็นแค่ตำนานของฝรั่ง ปรื๋อๆๆๆ แต่ผมชอบแดร็กคิวล่ามาคล้ายหนังผีไทยอย่างหนึ่งคือหมามันชอบหอน โฮ่งๆๆๆ โบ๋ๆๆๆอออออส์
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
ไปอยู่มาปีนึง ไม่ยักกะเคยเห็น
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
เหอะๆๆๆๆๆ