Belong to the Truth Jesus Christ

มีคนพึ่งเปลี่ยนไปนับถือคริสต์ หลังจากนั้น แม่เขาเสีย ไม่ยอมไปงานศพแม่ โดยให้เหตุผลว่า ไหว้ไม่ได้???????(เป็นเรื่องที่ผมคัดลอกมาจากเวปๆๆนึงค๊าฟมาลองอ่านกันดูครับ)
เป็นคนแถวๆ ออฟฟิศ ผมน่ะครับ

เขาพึ่งเปลี่ยนไปนับถือคริสต์ ได้แค่ 2 ปีเอง

แล้วเมื่อปลายปีที่แล้ว แม่ของเขาเสีย

พี่น้องก็ไปจัดการ ไปงานศพกันตามปกติ

แต่ตัวเขา ไม่ยอมไปร่วมงานศพแม่แท้ๆ ของตัวเอง

ทั้งๆ ที่ไม่ได้มีอะไรบาดหมางกันเลย

โดยให้เหตุผลว่า นับถือคริสต์แล้ว ไหว้ไม่ได้???

มีอีกเรื่องก็คือ เพื่อนของน้องสาวผม ไปเข้าค่ายคริสต์ มา

หลังจากกลับมาจากค่าย มันมาถามน้องผมว่า "พระเจ้ากับพ่อแม่ อะไรสำคัญกว่ากัน?"

ขอคำอธิบายหน่อยครับ

บอกตามตรง ผมไม่ชอบศาสนาคริสต์อยู่แล้ว (ผมเป็นพุทธ นะ ไม่ใช่อิสลาม)

ที่ผมไม่ชอบศาสนาคริสต์ เพราะไม่ชอบวิธีการเผยแผ่ ศาสนา ของศาสนานี้ และไม่เชื่อว่า พระเจ้ามีจริง

แล้วยิ่งมาเจอเรื่องแบบนี้ ผมยิ่งรู้สึกติดลบ กับศาสนานี้มากๆ

(http://topicstock.pantip.com/religious/ ... 28037.html)เวป

โปรดชี้แจงด้วยครับว่าสิ่งที่บุคคลใจบาปคนนี้บอกกล่าวนี้จิงหรือป่าวครับ

แล้วแต่คน และรูปแบบที่เค้าได้รับการสั่งสอนมาครับ โทษตัวศาสนาไม่ได้ครับ

การสวดภาวนาเพื่อผู้ตาย หากเป็นคาทอลิก ย่อมทำได้ ในเเบบที่ไม่ผิดความเชื่อ เเละก็ไม่เป็นที่สะดุดต่อพี่น้องต่างศาสนา
ส่วนของพี่น้องโปรเเตสเเตนท์ ถ้าจำไม่ผิด ไม่มีการสวดภาวนาเเด่ผู้ล่วงลับ

อย่างไรก็ตาม การไปร่วมงานศพมารดาตัวเอง ไม่ขัดอะไรกับข้อความเชื่อเเม้เเต่น้อย
เพราะคริสตชน สามารถไปร่วมงานได้ โดยช่วยในส่วนที่ตนเองสามารถทำได้
เช่น
-ต้อนรับเเขก
-เสิร์ฟนํา
-นั่งเฉยๆอย่างสุภาพ ฯลฯ

ส่วนคำถามที่ว่า "พระเจ้ากับพ่อเเม่ อะไรสำคัญกว่ากัน"
พระบัญญัติกำหนดไว้ชัดเจน "จงนับถือบิดา มารดา"

สำหรับคริสตชน การนับถือพระเจ้า กับการนับถือบิดา มารดา เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินไปด้วยกัน เเม้จะอยู่ในรูปเเบบที่เเตกต่าง

การทำอะไรเว่อร์ไปอาจจะทำให้พี่น้องต่างศาสนาสะดุดได้...อยู่ที่มโนธรรมของคนๆนั้นมากกว่าค่ะ
ไม่มีใครออกกฎบังคับหรอกว่า "ห้ามไปงานศพเเม่ตัวเอง"

มีผู้ตอบไว้ในกระทู้นั้นอย่างชัดเจนแล้วนี่ครับ

งานศพแม่ สมควรที่จะไปนะคะ

ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจะต้องบอกว่า ไหว้ไม่ได้

จงอย่าลืม ว่า แม่ คือ บุคล ที่้ให้กำเนิด และ เป็น บุคลธรรมดา ไม่ใช่ พระ ของ พุทธ

ถ้าไปงานศพ เราก็เครารพศพ แม่ ตามปกติซิคะ ไม่ต้องไปไหว้พระ

อยากจะถามคนนั้นจริงๆเลยว่า ถ้า คุณ เสียชีวิตไป และ ลูกคุณเป็นพุทธ ถ้าลูกคุณไม่ไปงานศพคุณ คุณจะคิดยังไงคะ

ป.ล. ถ้ามีอะไรไม่สมควร ขอโทษด้วยนะคะ

เสียดายเธอคนนั้นที่ไปเจอนิกายที่สอนผิดไปจากความเป็นจริง เพราะอย่างนี้ทำให้ภาพพจน์ของพระเสียหายมากขึ้น

ก็จริงครับที่ว่า "ไหว้ไม่ได้" (เพราะทั้งนี้ส่วนใหญ่ในวัฒนธรรมไทยเรามักจะมองเป็นการนมัสการ)

แต่การร่วมงานศพนี่ไม่ถือว่าผิดนะครับ เพราะ "ให้เกียรติ" แก่บิดามารดาผู้ล่วงลับ ไม่ผิดพระบัญญัติคืบไหนศอกไหนแน่นอนครับ :laugh:

nikcolous เขียน:
หลังจากกลับมาจากค่าย มันมาถามน้องผมว่า "พระเจ้ากับพ่อแม่ อะไรสำคัญกว่ากัน?"

ขอตรงๆนะครับ ไม่อ้อมค้อม.....
"ถ้าสุดท้ายเราต้องมาเลือกระหว่างพระเจ้ากับพ่อแม่  ในฐานะคริสเตียน ผมเลือกพระเจ้าครับ"
แต่ทั้งนี้ องค์ผู้ทรงความรักคงไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่นอน ตัวเราเป็นลูกพระ พ่อแม่เราก็เป็นลูกพระเหมือนกัน(จะเชื่อไม่เชื่อเท่านั้นเอง) พระองค์ไม่ทรงต้องการให้ลูกต้องมาลำบากใจหรือเจ็บปวดหรอกครับ

แต่ถ้ามันต้องเลือก......ยังไงก็ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์  อาเมน

Batholomew เขียน: เสียดายเธอคนนั้นที่ไปเจอนิกายที่สอนผิดไปจากความเป็นจริง เพราะอย่างนี้ทำให้ภาพพจน์ของพระเสียหายมากขึ้น

หรือไม่ก็เรียนคำสอนมาไม่เข้าใจรึเปล่า  ลืมเรื่องการเคารพบิดา มารดา 

ความรักของพระส่องสว่างไปยังทุกคนครับ

ได้ยินเป็นประจำ

แต่โปรดให้อภัยเขาเถอะ เขายังไม่รู้ว่า
ศาสนาคริสต์คืออะไร
เขานับถือศาสนา หรือ ประเพณี
อ้อ ต้องถามอีกว่า นิกายอะไร
อาจมีนิกายแปลกที่เรียกว่า ศาสนาคริสต์ก้ได้

ศาสนาคริสต์ในบ้านเราทุกนิกายกำลังเติบโตมีผู้เชื่อใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ครับ
นี่เป็นเหตุที่ทำให้เราในฐานะที่เป็นผู้เชื่อที่เชื่อมานานแล้วต้องหมั่นสนใจความคิด คำพูด การอธิบายหลักข้อเชื่อหรือธรรมเนียมปฏิบัติแก่ผู้เชื่อใหม่ครับ นั่นรวมถึงการหมั่นดูแลลูกแกะของพระเจ้าทุกคนให้มีความเข้าใจอย่างถูกต้องครับ

ผมเห็นบางคนรับพระคำพระเจ้าน้อยเกินไปจึงแสดงออกอย่างแปลกๆ กับความเชื่อเดิมครับ เช่น บางคนดูหมิ่น บางคนตอบโต้ โต้แย้งอย่างแข็งกร้าวไม่มีความรัก เป็นต้น

ฉะนั้นช่วยกันนะครับ ช่วยกันอย่าให้มีใครเข้าใจความรักพระเจ้าของเราผิดไปอีก เราอยู่ในประเทศที่ยังมีผู้เชื่อพระเจ้าน้อย คงยังต้องรับแรงกดดันแบบนี่เรื่อยๆ แต่อย่างน้อยเราทำส่วนของเราอย่างเต็มที่ได้ครับ 

อ้อ อีกนิดนึง ผมคิดว่าทุกโบสถ์ ทุกคริสตจักร น่าจะมีพระคัมภีร์ที่สอนเกี่ยวกับประเพณีไทยกับความเชื่อชาวคริสต์นะครับ ต้องลองไป take course ดูครับจะได้ความคิดดีๆ เยอะเลย

เค้าคงเข้าใจอารายผิดแหงมๆ

In the name of father เขียน:

nikcolous เขียน:
หลังจากกลับมาจากค่าย มันมาถามน้องผมว่า "พระเจ้ากับพ่อแม่ อะไรสำคัญกว่ากัน?"

ขอตรงๆนะครับ ไม่อ้อมค้อม.....
"ถ้าสุดท้ายเราต้องมาเลือกระหว่างพระเจ้ากับพ่อแม่  ในฐานะคริสเตียน ผมเลือกพระเจ้าครับ"
แต่ทั้งนี้ องค์ผู้ทรงความรักคงไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้แน่นอน ตัวเราเป็นลูกพระ พ่อแม่เราก็เป็นลูกพระเหมือนกัน(จะเชื่อไม่เชื่อเท่านั้นเอง) พระองค์ไม่ทรงต้องการให้ลูกต้องมาลำบากใจหรือเจ็บปวดหรอกครับ

แต่ถ้ามันต้องเลือก......ยังไงก็ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์  อาเมน

เป็นผม ผมคงตอบว่าเลือกพ่อแม่

สิ่งนี้ เคยเป็นที่ถกเถียงอย่างหนักในคริสตจักรแห่งหนึ่ง
และบทสรุปก็คือ ถ้าเรายังไม่มีพ่อแม่ซึ่งมองเห็นได้ไว้ในใจ เราจะมีพระเจ้าซึ่งมองไม่เห็นได้อย่างไร????


ผมคงไม่เป็นคริสตชนประเภทนั้นแหงๆ  อีกทั้งยังโดนครหากล่าวร้ายให้ศาสนาเสื่อมเสียอีกต่างหาก

















ผมว่า อ่านคัมภีร์เอง ดีกว่าการถูกมนุษย์ด้วยกันชี้นำ ผมนำวิถีนี้มาใช้ เพราะป้องกันผู้พยากรณ์เท็จ

ปล.ขนาดคนเคร่งๆบางคน ยังประพฤติผิดศีลธรรมทางเพศเป็นประจำเลย ผมว่าทุกอย่างขึ้นตรงเรากับพระดีกว่า
คำนิยามอะไรให้วุ่นวายใจ การปลุกฝัง ให้มันเป็นเรื่องของทางโลกดีกว่ามั้ง...







สนับสนุนให้ "สร้างเสริมประสบการณ์กับพระเป็นการส่วนตัวเพื่อความจริงที่เป็นนิรันดร์"
และไม่ขอสนับสนุนให้ "ฟังเขาว่ามา เพราะการชี้นำ บางครั้งก็เป็นหลุมพรางของซาตาน ถึงแม้จะผ่านบุคคลที่ดูศักดิ์สิทธิ์ในสายตามนุษย์"

เชิญอ่าน จดหมายอภิบาลของสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทยว่าด้วยแนวทางการเข้าร่วมพิธีกรรมศาสนาอื่น ได้ที่นี่ค่ะ
http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... 29#p114429

พระเจ้ากับพ่อแม่?

คำถามมันขาวดำเกินไปหรือเปล่าครับ....

คนตั้งคำถามเค้าน่าจะคิดดีดีนะครับว่า

ในมุมไหนควรมองเห็นสีขาว-ดำ  หรือในมุมไหนควรมองเห้นเป็นสีเทา

บางครั้งคำถามที่ดีสำคัญกว่าคำตอบนะครับ

แต่ถ้าคำถามไม่ดีไปหาคำตอบมาจากปราชญ์เป็นล้านๆคน  ยังไงๆก็ยังตอบไม่ได้

ในบางทีอาจเข้าข่ายแบบว่า "ฉันยังไม่รู้เลยว่าฉัยอยากรู้อะไร" หรืออาจจะเป็น "ฉันอยากรู้ในสิ่งที่ฉันไม่ต้องการจะรู้"

ไม่รู้ออกทะเลไปหรือเปล่านะครับ

เจออย่างนี้เข้าไป รุ้สึกแย่ไปเลย

Like_a_Heaven เขียน: เจออย่างนี้เข้าไป รุ้สึกแย่ไปเลย

มองอีกมุมในแง่ดี "เค้าก็รักพระเจ้าเอามากๆๆๆเลยนะครับ"

แต่อาจเข้าใจคำสอนอะไรแปลกๆไปมั้งน่ะ เหอๆๆๆ 

คนที่บอกว่าไม่ไปงานศพแม่ เวอร์ไปและ พระเจ้าสอนไว้ว่าจงนับถือบิดามารดา ถ้าผู้ใดไม่นับถือ ผู้นั้นมีโทษถึงตาย นะจะบอกให้ เพราะว่าเราเป็นลูกเป็นของขัวญของพระเจ้าที่ประทานให้แก่แม่ คนที่บอกว่าเชื่อพระเจ้าเป็นคริสต์แต่ไม่ได้ปฎิบัติตามพระบัญญัติผู้นั้นก็ไม่ได้เข้าแผ่นดินสวรรค์ของพระเจ้านะ และข้อบัญญัติที่สำคัญคือ จงนับถือบิดามารดาของเจ้า ข้อนี้ต้องจำให้ขึ้นใจ ขนาดทางแม่เราเป็นคริสต์ทั้งตะกูล เราก็ยังไปงานศพย่าเราที่เป็นพุทธเลย ไปรดน้ำศพด้วยไปงานศพทุกวัน แต่ไม่ได้ไหว้พระ แต่ไหว้ศพ เราถือว่าเราไหว์ผู้ใหญ่ที่ล่วงลับไปแล้วยิ่งเป็นแม่ของพ่อด้วย ขนาดตาเราเป็นนักบวชของคริสต์เตียนยังไปเลย ขอบอก

คนที่บอกว่าไปงานศพแม่ไม่ได้เพราะเป็นคริสต์ คุณก็เชิญไปตายซะ (ขอโทษด้วยคับที่ใช้คำไม่สุภาพ อารมภ์มันขึ้น หุหุ)

ขอพระเจ้าอวยพร และให้อภัยเค้าด้วยพระเจ้าข้า อาเมน

เวอร์ไปครับผม

แค่ไปงาน ทำไมจะไม่ได้เนาะ

การไปงานศพ ไม่ผิดหลักทางศาสนาเราอยู่แล้วนี่ครับ

นั้นนะสิ ถึงไหว้ไม่ได้แต่ไม่ใช่หมายความว่าร่วมงานไม่ได้

แล้วบัญญัติ 10 ประการที่ศาสดาโมเลสได้รับก็เขียนไว้ชัดเจนนะครับ

จงเคารพบิดา มารดา

อ่านจากเนื้อหาแล้ว มันเป็นเรื่องแต่งป่าวอ่ะ....

เพราะว่า ในสังคมไทย ผู้ที่ไม่เข้าใจศาสนาคริสต์ ก็บอกว่า คริสต์ไม่เอาพ่อไม่เอาแม่อยู่แล้ว....


อ่านแล้วเนื้อหามันแปล่มๆๆ  เหมือนจะเรื่องกุขึ้นมายังไงไม่รู้

พี่น้องในโบสถ์ไปแต่เจ้าตัวไม่ไป...
ผู้เชื่อใหม่ด้วย..ย่อมอยู๋ในช่วงการถ่ายทอดและอบรมย์สั่งสอนจากพี่น้อง...

เอ่ บลาๆ บลาๆ ไปดีกว่า สงสัยเฉยๆ ไม่ได้สรุปไร 

ว่าแต่ตอนนี้เพื่อนผมมันตายไปยังไม่รู้ หายหัวไปเลยยยย