หน้า 1 จากทั้งหมด 2

ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 23, 2008 1:40 pm
โดย org
1คำถามเปรียบเทียบ ถ้าจากวันนี้ไปคาทอลิค ไม่ให้พระแม่มารีย์หรือนักบุญอธิษฐานเผื่อ ตลอดชีวิต จะเป็นอะไรไหม หรือไม่ได้เลย

2หรืออีกคำถามนึง อยากถามว่าทำไมต้องอธิษฐานกับพระแม่มากกว่าผู้อื่น หรือว่าพระแม่มีฤทธิ์มากกว่า โมเสส เศบูลุน หรือนักโทษที่ตายบนไม้กางเขนพร้อมพระเยซู หรือมารธามารีย์ หรือหญิงที่ตกเลือดเพราะเค้าได้ไปสวรรค์เหมือนกัน อยากถามว่าถ้าจากนี้เปลี่ยนจากพระแม่ให้เป็นคนอื่นอธิษฐานเผื่อได้หรือไม่ เช่น ผมอยากให้รูเบนอธิษฐานเผื่อผมทุกวัน แล้วผมก็ทำรูปปั้นแทนเขาเพื่อระลึกถึงเขาได้ไหม

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 23, 2008 1:52 pm
โดย org
3.อยากถามว่าพระบิดา อยากคุยกับเราซึ่งเราได้รับสิทธิเป็นลูกของพระเจ้า พระบิดาอยากคุยกับเรามากกว่าคุยผ่านทางคนอื่นหรือไม่ มีอะไรก็คุยกันตรงๆ หรือพระบิดาอยากให้เราฝากคนอื่นมาคุยบ่อยๆ

4.คำถามเปรียบเทียบ ถ้าจากวันนี้ไปคาทอลิคไม่ทำรูปปั้นแล้วเอาพวงมาลัยไปคล้องรูปปั้นนั้น หรือไม่ทำลูกประคำสวด นับเม็ด แต่คุยกับพระบิดาโดยตรงสัมผัสใจ พระบิดากับเราสัมผัสใจกันและกันโดยการคุยกันตรงๆ แบบนี้จะเป็นอะไรหรือไม่ หรือไม่ได้เลย ต้องทำ

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 23, 2008 2:09 pm
โดย kohtheboy01
ขอตอบเรื่องรูปปั้นนะคับ

รูปปั้นที่ำทำขึ้นเราทำเพื่อเป็นที่ระลึกถึงนะคับ ไม่ได้ทำมาเพื่อกราบไหว้บูชา

เพราะรูปปั้นนั้นไม่มีอิทธิฤทธิที่จะช่วยเราได้

มีแต่พระเป็นเจ้าเท่านั้นที่ช่วยเราได้

เพราะพระเจ้าสถิตอยู่ในใจเราเสมอไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไร

ถึงแม้ว่าบ้านคุณจะไม่มีรูปปั้นก็ตาม

เราสามารถอธิฐานและคุยกับพระองค์ได้คับ

เพราะพระเจ้าอยู่ในใจเราเสมอไม่ใช่อยู่ในวัตถุ

จะเหมือนกับที่พระคาร์ดิันันได้พูดถึงกางเขนที่เราห้อยอยู่

ถ้าใครได้ไปวัดซังตาครู๊ด ตอนวันฉลอง จะเข้าใจอย่างกระจางแจ้งคับ

ขอพระอวยพร

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 23, 2008 2:13 pm
โดย org
ป่าวอ่ะ ผมเห็นรูปปั้นพระแม่มารีย์
แล้วทำไมต้องเอาพวงมาลัยไปคล้อง

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 23, 2008 2:40 pm
โดย Dis volentibus
1คำถามเปรียบเทียบ ถ้าจากวันนี้ไปคาทอลิค ไม่ให้พระแม่มารีย์หรือนักบุญอธิษฐานเผื่อ ตลอดชีวิต จะเป็นอะไรไหม หรือไม่ได้เลย
ถ้าคาทอลิกคนใด ไม่ประสงค์จะให้พวกท่านสวดให้ ถามว่าเขาจะยังเป็นคาทอลิกอยู่ไหม ก็คงยังเป็น
เเต่อย่างไรก็ตาม เเม่พระกับท่านนักบุญ ก็ยังสวดให้คาทอลิก คนนั้น อยู่ดีค่ะ

อันที่จริง พวกท่านสวดให้กับมนุษย์ทุกๆคน ทั้งพี่น้องคริสเตียน หรือเเม้เเต่พี่น้องต่างศาสนา
เพราะพวกท่านถือ "บัญญัติเเห่งความรัก" รักเพื่อนบ้าน หรือเเม้เเต่ศัตรู ค่ะ นั่นจึงทำให้พวกท่านเป็น "ผู้ศักดิ์สิทธิ์" :angel:

สำหรับข้าพเจ้า...มีเเม่พระกับนักบุญ ช่วยสวดภาวนาให้อีกเเรงหนึ่ง ย่อมดีกว่าไม่มีเลย ค่ะ :grin:
2หรืออีกคำถามนึง อยากถามว่าทำไมต้องอธิษฐานกับพระแม่มากกว่าผู้อื่น หรือว่าพระแม่มีฤทธิ์มากกว่า โมเสส เศบูลุน หรือนักโทษที่ตายบนไม้กางเขนพร้อมพระเยซู หรือมารธามารีย์ หรือหญิงที่ตกเลือดเพราะเค้าได้ไปสวรรค์เหมือนกัน อยากถามว่าถ้าจากนี้เปลี่ยนจากพระแม่ให้เป็นคนอื่นอธิษฐานเผื่อได้หรือไม่ เช่น ผมอยากให้รูเบนอธิษฐานเผื่อผมทุกวัน แล้วผมก็ทำรูปปั้นแทนเขาเพื่อระลึกถึงเขาได้ไหม
- ไม่ว่าจะ โมเสส มาร์ธา มารีย์ หรือประกาศก อื่นๆ ก็เป็นนักบุญ นะคะ เราก็ขอให้พวกท่าน "ช่วยวิงวอน" เหมือนกัน
  เเล้วก็ ยังมีอีกหลายท่าน ซึ่งตอนนี้อาจจะอยู่ในสวรรค์เเล้ว เเต่พระศาสนจักรยังไม่ประกาศรับรองว่าเป็นนักบุญ


- ทำไมมีคนอธิษฐานกับเเม่พระมากกว่าคนอื่น อาจเป็นเพราะ
1. เป็นพระมารดาของพระเจ้า เเละพระเยซูก็รักพระมารดามาก
2. การประจักษ์ที่สำคัญๆของท่าน ซึ่งเสริมสร้างพระศาสนจักร

- ปกติ คาทอลิกเราไม่สอนให้ทำรูปปั้นไว้บูชา เเต่ถ้าจะทำไว้ระลึกถึงเหมือนมีรูปพ่อเเม่ อยู่ที่หัวนอน ก็ไม่ขัดพระบัญญัติ
  ส่วนใหญ่ เป็นรูป พระเยซู, เเม่พระ, นักบุญ(ที่พระศาสนจักรสถาปนาเเล้ว) อย่างไรก็ตาม จุดมุ่งหมายก็คือ"พระเจ้าหนึ่งเดียว"
 เราไม่สอนว่า"ให้เเม่พระหรือนักบุญช่วยท่านให้รอด เเทนพระคริสตเจ้า"เด็ดขาดค่ะ

- ส่วนเรื่องรูเบน...อยากทำก็ทำค่ะ ถ้าที่โบสถ์คุณไม่ว่าอะไร  :azn: เเต่คาทอลิกไม่ทำ :grin:
3.อยากถามว่าพระบิดา อยากคุยกับเราซึ่งเราได้รับสิทธิเป็นลูกของพระเจ้า พระบิดาอยากคุยกับเรามากกว่าคุยผ่านทางคนอื่นหรือไม่ มีอะไรก็คุยกันตรงๆ หรือพระบิดาอยากให้เราฝากคนอื่นมาคุยบ่อยๆ
อันนี้ตอบไม่ได้ค่ะ เพราะเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า เกินสติปัญญาของมนุษย์จะไปคิดเเทนพระองค์ได้
4.คำถามเปรียบเทียบ ถ้าจากวันนี้ไปคาทอลิคไม่ทำรูปปั้นแล้วเอาพวงมาลัยไปคล้องรูปปั้นนั้น หรือไม่ทำลูกประคำสวด นับเม็ด แต่คุยกับพระบิดาโดยตรงสัมผัสใจ พระบิดากับเราสัมผัสใจกันและกันโดยการคุยกันตรงๆ แบบนี้จะเป็นอะไรหรือไม่ หรือไม่ได้เลย ต้องทำ
- เราทำอย่างนั้นอยู่เเล้วค่ะ...
พูดตรงมากๆด้วย โดยเฉพาะเวลาไปอยู่ต่อหน้า"ศีลมหาสนิท" เราเชื่อว่าเราอยู่ต่อหน้าพระเป็นเจ้าจริงๆ
เเละตอนรับศีลมหาสนิทในพิธีมิสซา เราก็ได้สัมผัสทั้ง พระกายพระคริสตเจ้า(เเผ่นศีล) เเละทางจิตใจ

- เรื่องสายประคำ เป็นกิจศรัทธา เป็นการภาวนารูปเเบบหนึ่ง ถ้าเป็นคาทอลิกเเล้วไม่สวดสายประคำ บาปไหม ก็ไม่บาปหรอกค่ะ
ป่าวอ่ะ ผมเห็นรูปปั้นพระแม่มารีย์  เเล้วทำไมต้องเอาพวงมาลัยไปคล้อง
- อันนี้เเล้วเเต่คนนะคะ เป็นการเเสดงความเคารพผู้ใหญ่ เหมือนวันไหว้ครู เอาพวงมาลัยไปกราบท่าน หรือ วันเเม่เอาพวงมาลัยไปกราบคุณเเม่
  อาการเดียวกันค่ะ :angel: เเละเเน่นอน เราไม่ได้บังคับให้ทุกคนต้องเอาพวงมาลัยไปไหว้เเม่พระ
  คุณอาจจะยังไม่เคยเห็น รูปปั้นพระเยซูเเล้วมีคนเอาพวงมาลัยไปคล้องใช่ไหมคะ?
  คนที่ทำ ถามว่าทำไปทำไม ไม่ใช่เพราะ "ความรัก" ที่พวกเขามีต่อพระองค์ หรือคะ? : xemo026 :
 

ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 23, 2008 3:57 pm
โดย Batholomew
org เขียน: 1คำถามเปรียบเทียบ ถ้าจากวันนี้ไปคาทอลิค ไม่ให้พระแม่มารีย์หรือนักบุญอธิษฐานเผื่อ ตลอดชีวิต จะเป็นอะไรไหม หรือไม่ได้เลย
สามารถทำได้ครับ เพราะว่ามีคาทอลิกหลายคนที่วิงวอนขอพระเป็นเจ้าโดยตรง ไม่ได้ขอผ่านทางแม่พระหรือนักบุญองค์ใด แต่ก็มีคาทอลิกอีกหลายคนนะครับ ที่ไม่กล้าวิงวอนขอพระเป็นเจ้า เพราะสำนึกถึงความผิดบาปของตัวเอง จึงขอให้นักบุญท่านอื่น ๆ ช่วยวิงวอนแทน โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะขอแม่พระมากที่สุดเพราะว่าแม่พระเป็นบุคคลที่ได้รับเลือกสรรให้เป็น "มารดาพระเจ้า" ดังนั้นย่อมเป็นที่โปรดปรานของพระเจ้ามากที่สุด แต่ถามว่าคาทอลิกทุกคนสวดขอพระเป็นเจ้าผ่านทางแม่พระแล้วได้รับตามที่ขอทุกครั้งหรือไม่ คงตอบว่าไม่ครับ เพราะว่าสุดท้ายแล้ว น้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าสำคัญที่สุดครับ ::004::


org เขียน: 2หรืออีกคำถามนึง อยากถามว่าทำไมต้องอธิษฐานกับพระแม่มากกว่าผู้อื่น หรือว่าพระแม่มีฤทธิ์มากกว่า โมเสส เศบูลุน หรือนักโทษที่ตายบนไม้กางเขนพร้อมพระเยซู หรือมารธามารีย์ หรือหญิงที่ตกเลือดเพราะเค้าได้ไปสวรรค์เหมือนกัน อยากถามว่าถ้าจากนี้เปลี่ยนจากพระแม่ให้เป็นคนอื่นอธิษฐานเผื่อได้หรือไม่ เช่น ผมอยากให้รูเบนอธิษฐานเผื่อผมทุกวัน แล้วผมก็ทำรูปปั้นแทนเขาเพื่อระลึกถึงเขาได้ไหม
ก็อย่างที่บอกข้างบนนะครับ แม่พระเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปรานมากที่สุด พระเป็นเจ้าจึงส่งพระบุตรแต่องค์เดียวมาบังเกิดในครรภ์ของผู้หญิงชาวยิวคนนี้ พระคัมภีร์เองก็บ่งบอกนะครับ ในวันที่แม่พระรับสาร เทวดาก็บอกว่า "ท่านคือผู้ที่พระเจ้าทรงโปรดปราน พระเจ้าสถิตกับท่าน" ดังนั้น คาทอลิกก็เลยวิงวอนผ่านทางแม่พระ เพราะรู้ว่าพระองค์รักแม่พระ เราก็ขอให้แม่พระช่วยวิงวอนเพื่อเราครับ

แต่คุณก็สามารถขอให้นักบุญท่านอื่นวิงวอนพระเป็นเจ้าเพื่อเราได้เหมือนกันนะครับ หรืออย่างคนที่ผมรู้จักท่านหนึ่ง พ่อแม่ของท่านถูกยกไป เวลาท่านทำงาน ท่านก็จะขอให้พ่อแม่ของท่านช่วยวิงวอนเพื่อท่านด้วยครับ เพราะท่านเชื่อว่าพ่อแม่ของท่านอยู่ในสวรรค์แล้ว (ถึงแม้ว่าพระศาสนจักรไม่ได้ประกาศว่าท่านเป็นนักบุญ) ดังนั้น ไม่มีข้อตายตัวในการวิงวอนผ่านใครถึงพระเป็นเจ้า คุณก็สามารถที่จะขอให้รูเบนวิงวอนเพื่อคุณได้ครับ ทั้งนี้ คุณต้องรู้ว่าพระเป็นเจ้าสำคัญที่สุด ไม่ใช่นักบุญทั้งหลาย ::004::



org เขียน: 3.อยากถามว่าพระบิดา อยากคุยกับเราซึ่งเราได้รับสิทธิเป็นลูกของพระเจ้า พระบิดาอยากคุยกับเรามากกว่าคุยผ่านทางคนอื่นหรือไม่ มีอะไรก็คุยกันตรงๆ หรือพระบิดาอยากให้เราฝากคนอื่นมาคุยบ่อยๆ
ผมไม่ใช่และไม่อาจคิดอย่างพระบิดาได้ เพราะผมนั้นต่ำต้อยและเต็มไปด้วยบาป แต่เชื่อว่าพระองค์ทรงเป็นเจ้าของทุกสรรพสิ่ง ไม่ว่าเราจะวิงวอนผ่านใคร พระบิดาก็ทรงสดับฟังเสมอครับ ก็อย่างที่บอกนะครับ เราสามารถที่คุยกับพระบิดาได้โดยตรงแต่การที่เราวิงวอนผ่านนักบุญท่านอื่น ก็ไม่ใช่ว่าพระบิดาไม่รู้เพราะพระองค์ทรงสรรพานุภาพ พระองค์ทรงรู้มาก่อนแล้วว่าจะขออะไร แต่พระองค์ก็เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูก ๆ ของพระองค์เสมอครับ


org เขียน: 4.คำถามเปรียบเทียบ ถ้าจากวันนี้ไปคาทอลิคไม่ทำรูปปั้นแล้วเอาพวงมาลัยไปคล้องรูปปั้นนั้น หรือไม่ทำลูกประคำสวด นับเม็ด แต่คุยกับพระบิดาโดยตรงสัมผัสใจ พระบิดากับเราสัมผัสใจกันและกันโดยการคุยกันตรงๆ แบบนี้จะเป็นอะไรหรือไม่ หรือไม่ได้เลย ต้องทำ
ไม่เป็นไรเลยครับ คุณสามารถที่จะวิงวอนขอพระบิดาได้โดยตรง แต่การวิงวอนขอนักบุญไม่ใช่เรื่องผิดนะครับ

รูปปั้น ไม่ใช่พระเป็นเจ้า แต่มีเพื่อให้เรามีจิตใจระลึกถึงพระองค์และนักบุญท่านอื่น ดังนั้น รูปปั้นไม่ใช่พระเจ้าครับ

การถวายพวงมาลัยแก่รูปปั้น เราไม่ได้ถวายเพื่อนมัสการรูปปั้นนั้น แต่เราถวายพระเป็นเจ้าหรือนักบุญอื่น โดยรูปปั้นนั้นเป็นสิ่งสร้างที่ทำให้เราระลึกถึงครับ

การสวดสาประคำ เป็นกิจศรัทธาอย่างหนึ่งที่พระศาสนจักรคาทอลิกรับรองเพื่อถวายแด่พระเป็นเจ้า ดังนั้น คาทอลิกทุกคนจึงสวดภาวนา ทำกิจศรัทธาเหล่านั้นครับ


ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 23, 2008 5:25 pm
โดย Holy
กระทู้แนะนำครับ

.........

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 12:16 pm
โดย org
แล้วถ้าฝากพระแม่อธิษฐานเผื่อ กับ ฝาก โจรบนไม้กางเขน พระเจ้าจะตอบคนไหนมากกว่ากัน หรือ เท่ากัน ?

ผมรู้สึกว่าการที่พระเจ้าให้เราอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกันนั้น เหมือนพระเจ้าอยากให้มนุษย์ที่ยังอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความบาปนี้ รู้จักการห่วงใยกัน  เสริมสร้างกัน เป็นห่วงกัน รู้จักอ้อนวอนต่อพระเจ้า รู้จักเห็นใจกัน พระเจ้าอยากเห็นเรามีความสามัคคีกัน  แล้วพระเจ้าจะทรงเมตตา แต่ผมว่าคนที่ตายไปแล้ว เค้าไม่ต้องได้รับการเสริมสร้างอีกแล้ว เพราะพระเจ้ารู้อยู่แล้วว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกับลูกของพระองค์แต่ละคน คนที่ช่วยวิงวอนก็จะได้รับบำเหน็จด้วย ผมว่าถ้าเราจะอธิษฐาน อธิษฐานกับพระเจ้าเลยดีกว่าไหม ส่วนเรื่องการอธิษฐานเผื่อ เป็นเรื่องของการเสริมสร้างกันและกัน เพราะพระเจ้ารู้อยู่แล้ว ว่าคนนี้เจอกับอะไรอยู่ พระแม่ไม่บอกพระเจ้าก็รู้ และเฝ้าดูอยู่ และคอยสอน ตีสอน อวยพรเราอยู่

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 12:24 pm
โดย org
อีกคำถามดีกว่า

1.พระเจ้าอยากคุยกับเราส่วนตัวมากกว่ารึเปล่า สนิทกับพระเจ้ามากๆ เหมือนพ่อคุยกับลูก พ่อคงไม่อยากให้ลูกฝากคนอื่นมาคุยบ่อยๆ พ่อลูกต้องคุยกัน ส่วนการอธิษฐานเผื่อนั้นเป็นการเสริมสร้างกัน เฉพาะมนุษย์ ใช่หรือไหม ให้รู้จักอ้อนวอน รู้จักรักกัน ห่วงกัน

2.ทำไมต้องมีบาทหลวงครับ และบาทหลวงทำอะไรบ้าง ไม่มีได้ไหม หรือต้องมี ไม่งั้นผิด หรือไม่ถึงพระเจ้าหรือยังไง
แล้วจริงไหมที่สารภาพบาปต้องกับบาทหลวง แล้วสารภาพเองไม่ได้เหรอ เพราะผิดแล้วต้องสารภาพทันที บางทีเรื่องที่น่าอายก็ไม่อยากบอกใคร อยากให้พระเจ้ารู้คนเดียว แล้วพระเจ้าบอกว่าเราเป็นปุโรหิตหลวง เข้าหาพระเจ้าด้วยตัวเองได้ พระวิญญาณบริสทุธิ์อยู่กับเรา พระเยซู ถวายตัวเองเพื่อเราจะเข้าไปได้แล้ว ทุกๆคน

3.คาทอลิคกับออโธดอก อังคลิกันทำไมต้องแยกกันครับ มีอะไรแตกต่างถึงไม่เป็นหนึ่งเดียว

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 12:37 pm
โดย Rakkypoko!
org เขียน:
2.ทำไมต้องมีบาทหลวงครับ และบาทหลวงทำอะไรบ้าง ไม่มีได้ไหม หรือต้องมี ไม่งั้นผิด หรือไม่ถึงพระเจ้าหรือยังไง
แล้วจริงไหมที่สารภาพบาปต้องกับบาทหลวง แล้วสารภาพเองไม่ได้เหรอ เพราะผิดแล้วต้องสารภาพทันที บางทีเรื่องที่น่าอายก็ไม่อยากบอกใคร อยากให้พระเจ้ารู้คนเดียว แล้วพระเจ้าบอกว่าเราเป็นปุโรหิตหลวง เข้าหาพระเจ้าด้วยตัวเองได้ พระวิญญาณบริสทุธิ์อยู่กับเรา พระเยซู ถวายตัวเองเพื่อเราจะเข้าไปได้แล้ว ทุกๆคน
ทำไมต้องมีบาทหลวง งั้นถามกลับ ทำไมต้องมีศิษยาภิบาล ทั้งสองอย่างนี้ทำหน้าที่คล้ายๆกัน เป็นคนสอน เทศนา เป็นคนสอน พูดง่ายๆก็เหมือนครู เป็นผู้มีความรู้ด้านศาสนศาสตร์ การสารภาพบาปกับบาทหลวง ก็เหมือนเวลาเราไม่สบายใจ ต้องการคนคุยนั่นแหละ(อันนี้คิดเอาเอง)
org เขียน: 3.คาทอลิคกับออโธดอก อังคลิกันทำไมต้องแยกกันครับ มีอะไรแตกต่างถึงไม่เป็นหนึ่งเดียว
จะพูดว่าไม่เป็น1เดียว ก็ไม่ถูก เพราะมีพระเจ้า1เดียว นับถือ พระเยซู มี ทั้งพระบิดา พระบุตร และพนะวิญญาณบริสุทธิ์ เหมือนกัน

อังกลิกัน แยกออกมาเพราะเหตุผลทางการเมืองใรประเทศอังกฤษ

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 12:40 pm
โดย Rakkypoko!
แล้วฝากไว้อีกอย่าง คุณorg  ควรจะเปิดใจในด้านที่แตกต่างก่อนดีกว่า ลองเรียนรู้สิ่งใหม่ๆบ้าง

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 1:14 pm
โดย org
นี่แหละผมกำลังเปิดใจเรียนรู้ ถ้าผมปิดกั้นผมคงไม่เข้ามาถามเพื่อความกระจ่างหรอกพี่น้อง ถ้าผมปิดกั้นตลอดทั้งชีวิต ผมก็จะกลายเป็นคนที่ไม่รู้เรื่อง ตลอดไป

แล้วทำไมไม่เรียกอังคลิกันว่าคาทอลิก การเมืองกับชื่อไม่น่าจะเกี่ยวกัน มีอะไรที่ต่างกัน ผมอยากให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวครับ

อีกคำถาม

เวลาที่คุณอธิษฐานกับพระบิดาผู้ซึ่งประสาทพรแต่เพียงผู้เดียว และเป็นพ่อเราด้วย พอคุยกันเสร็จ ทำไมต้องหันขวาไปบอกพระแม่อีกที หรือจะหันซ้ายไปขอกับนักบุญโยเซฟอีกที รู้สึกแปลกๆไหม เพราะเมื่อกี๊เพิ่งจะคุยกับพระบิดาอยู่ ทั้งที่พระบิดาเป็น พระ เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่เราต้องติดสนิทด้วย
ผมว่าการอธิษฐานเผื่อ เป็นสำหรับมนุษย์ในโลกนะ เพื่อพระบิดาจะให้เรารู้จักเป็นหนึ่งเดียว เสริมสร้าง อ้อนวอนเพื่อกันและกัน พระเจ้าอยากเสริมสร้างให้ลูกๆที่ยังอยู่ในโลกแห่งความบาปรู้จักการรักกัน พระแม่ไม่ขอให้พระบิดาก็รู้ แล้วทำไมต้องขอ งะ

ตกลงพระแม่เป็นเทพหรือฑูตสวรรค์ หรือมนุษย์กันแน่เนี่ย  พระแม่เป็นฑูตสวรรค์ลงมาเกิดเหรอ หรือว่าเพียงมนุษย์เหมือนกับเรา เหมือนกับคุณ เหมือนกับผม แต่พระเจ้าทรงใช้เธอ เหมือนกับใช้โมเสส เหมือนกับใช้ เนหะมีย์ เหมือนกับใช้ดาวิด เพื่อพระนามพระเจ้า

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 1:19 pm
โดย org
ถ้าไม่สบายใจ สารภาพบาปกับพระบิดาผู้เปี่ยมไปด้วยความรัก ดีกว่าสารภาพกับบาทหลวงไหม มีปัญหา หันหน้าเข้าหาพระเจ้า

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 2:22 pm
โดย Dis volentibus
แล้วถ้าฝากพระแม่อธิษฐานเผื่อ กับ ฝาก โจรบนไม้กางเขน พระเจ้าจะตอบคนไหนมากกว่ากัน หรือ เท่ากัน ?
เเล้วเเต่พระองค์จะทรงเมตตาค่ะ
ผมรู้สึกว่าการที่พระเจ้าให้เราอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกันนั้น เหมือนพระเจ้าอยากให้มนุษย์ที่ยังอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความบาปนี้ รู้จักการห่วงใยกัน  เสริมสร้างกัน เป็นห่วงกัน รู้จักอ้อนวอนต่อพระเจ้า รู้จักเห็นใจกัน พระเจ้าอยากเห็นเรามีความสามัคคีกัน  แล้วพระเจ้าจะทรงเมตตา
แต่ผมว่าคนที่ตายไปแล้ว เค้าไม่ต้องได้รับการเสริมสร้างอีกแล้ว
ตรงนี้เเล้วเเต่ความเชื่อของนิกายต่างๆด้วยนะคะ
พูดถึง "คนตาย" สำหรับคาทอลิก คนที่ตายไปถ้าไม่ขึ้นสวรรค์ไปเลย หรือลงนรกไปเลย ก็ต้องไปอยู่ใน"ไฟชำระ" เป็นสถานที่สำหรับชำระ
ร่างกายให้บริสุทธิ์ ก่อนที่จะเข้าไปในพระอาณาจักรสวรรค์ ที่ไฟชำระ จะเป็นที่ๆวิญญาณทั้งหลายเป็นทุกข์ เพราะไม่ได้พบพระเป็นเจ้า
พวกเขาต้องอยู่ในไฟชำระ จนกว่าจะใช้โทษบาปของตนหมด สิ่งที่มนุษย์บนเเผ่นดินโลกทำได้ ก็คือ การสวดภาวนา หรือการขอมิสซา
เพื่ออุทิศแก่วิญญาณในไฟชำระ  ซึ่งจะทำให้พวกเขาไปพบพระเป็นเจ้าได้เร็วขึ้น ซึ่งวิญญาณเหล่านั้นก็จะสวดภาวนาให้เราด้วยเช่นเดียวกัน
ถือเป็นการเสริมสร้างซึ่งกันเเละกันค่ะ

"คนตาย" ในบริบทที่คุณถาม น่าจะหมายถึง "นักบุญ"
นักบุญ ตามความเชื่อของเรา อย่างที่เคยบอกไป คือคนที่มั่นใจว่าได้ไปอยู่ในพระอาณาจักรสวรรค์เเล้ว
ไม่ใช่เเค่ตายเเละหลับอยู่ในหลุมเฉยๆ รอจนกว่า "วันนั้น" จะมาถึง

หากเป็นตามที่คุณว่า "การอธิษฐานเผื่อ มีเพื่อให้รู้จักการห่วงใยกัน  เสริมสร้างกัน เป็นห่วงกัน รู้จักอ้อนวอนต่อพระเจ้า ฯลฯ"

ปกติ มนุษย์ อธิษฐานเผื่อซึ่งกันเเละกันอยู่เเล้ว เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคริสตชนด้วยกันเอง
ดังนั้นการที่นักบุญ ในสวรรค์ช่วยวิงวอนพระเป็นเจ้า เพื่อมนุษย์บนเเผ่นดินโลก จึงเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง ชาวสวรรค์ กับ มนุษย์อีกด้วย
โดยร่วมจิตร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่ออ้อนวอน,สรรเสริญพระเป็นเจ้า เเม้จะอยู่ต่างสถานที่   :angel: กลายเป็น สามัคคีธรรมยกกำลัง2  :grin:
เพราะพระเจ้ารู้อยู่แล้วว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกับลูกของพระองค์แต่ละคน คนที่ช่วยวิงวอนก็จะได้รับบำเหน็จด้วย ผมว่าถ้าเราจะอธิษฐาน อธิษฐานกับพระเจ้าเลยดีกว่าไหม ส่วนเรื่องการอธิษฐานเผื่อ เป็นเรื่องของการเสริมสร้างกันและกัน เพราะพระเจ้ารู้อยู่แล้ว ว่าคนนี้เจอกับอะไรอยู่ พระแม่ไม่บอกพระเจ้าก็รู้ และเฝ้าดูอยู่ และคอยสอน ตีสอน อวยพรเราอยู่


พระองค์ทรงทราบ เเละทรงทราบก่อนที่พวกเราจะคิดเสียอีก
เเม่พระไม่บอก พระองค์ก็ทรงทราบค่ะ
ถ้าคุณอ่านทั้งหมด ตั้งเเต่ reply ข้างบนโน๊น ก็อาจจะเข้าใจว่า "เราไม่ได้ให้เเม่พระไปบอกพระเยซู เพราะเกรงว่าพระองค์จะไม่ทรงทราบ"
ในคำสอนของพระศาสนจักร ก็ไม่ได้เขียนไว้ว่า "ต้องผ่านทางพระนางมารีย์เท่านั้น พระเยซูคริสต์จึงจะฟังคำภาวนา"
เราสวดภาวนากับพระเป็นเจ้าโดยตรง เเต่ขอเเรงคนอื่นช่วยสวดอีกเเรง เปรียบเหมือน สวดภาวนายกกำลัง2 ค่ะ :grin:
2.ทำไมต้องมีบาทหลวงครับ และบาทหลวงทำอะไรบ้าง ไม่มีได้ไหม หรือต้องมี ไม่งั้นผิด หรือไม่ถึงพระเจ้าหรือยังไง
แล้วจริงไหมที่สารภาพบาปต้องกับบาทหลวง แล้วสารภาพเองไม่ได้เหรอ เพราะผิดแล้วต้องสารภาพทันที บางทีเรื่องที่น่าอายก็ไม่อยากบอกใคร อยากให้พระเจ้ารู้คนเดียว แล้วพระเจ้าบอกว่าเราเป็นปุโรหิตหลวง เข้าหาพระเจ้าด้วยตัวเองได้ พระวิญญาณบริสทุธิ์อยู่กับเรา พระเยซู ถวายตัวเองเพื่อเราจะเข้าไปได้แล้ว ทุกๆคน
ถ้าจะเปรียบเทียบ
พระสงฆ์ (หรือ บาทหลวง) = ศิษยาภิบาล
ทำอะไรบ้าง...หลายอย่าง
- ถวายมิสซา (นำนมัสการ)
- เทศน์
- สอนคำสอน
- ฟังแก้บาป
- ร้องเพลง
- เล่นออร์เเกน
- เล่นกี่ต้าร์
- เล่นกับเด็ก
โอ้ เยอะเเยะค่ะ

ไม่มีได้ไหม...ไม่ได้ค่ะ เพราะเหมือนกับคริสตจักร ที่ไม่มีศิษยาภิบาล...เเล้วจะเรียกว่าคริสตจักรได้ยังไง

- เรื่องแก้บาป มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์นะคะ

มัทธิว 16:18-19
เราบอกท่านว่า ท่านคือศิลา (ตรงนี้เป็นการเเต่งตั้ง น. เปโตรเป็นพระสันตะปาปาองค์เเรก)
เเละบนศิลานี้เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา
ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้
เราจะมอบกุญเเจอาณาจักรสวรรค์ให้
ทุกสิ่งทีท่านผูกบนเเผ่นดิน จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย
ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในเเผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย
(ดังนั้น การที่พระสงฆ์ยกบาป ก็เป็นการ "แก้บาป"ของคนๆนั้นค่ะ)

คาทอลิกเชื่อว่า การสารภาพบาปในห้องแก้บาป คือการสารภาพต่อหน้าพระเป็นเจ้าค่ะ ไม่ใช่พระสงฆ์ (บาทหลวง)
เเต่พระสงฆ์เป็นตัวเเทนของพระเยซู  พระสงฆ์ไม่สามารถนำเรื่องในห้องแก้บาปออกมาพูดนอกห้องแก้บาปเด็ดขาด
ว่ากันว่า พระสงฆ์มีพระพรพิเศษ เมื่อแก้บาปให้สัตบุรุษเเล้ว จะลืมบาปที่ได้ฟัง

- บทสารภาพบาป...ต่อพระเจ้าเลยก็มีนะคะ ใช้สวดตอนเริ่มมิสซาเเทบทุกครั้ง

ข้าพเจ้าขอสารภาพต่อพระเจ้า ผู้ทรงสรรพานุภาพ
และต่อพี่น้องด้วย 
ว่าข้าพเจ้าได้ทำบาปมากมาย ด้วยกาย วาจา ใจ และด้วยการละเลย
ข้าพเจ้าเป็นคนบาป ข้าพเจ้ายอมรับว่าเป็นคนบาป
ดังนั้นขอพระนางมารีย์  ผู้ทรงเป็นพรหมจารีเสมอ  ขอทูตสวรรค์ และนักบุญทั้งหลาย 
และพี่น้องด้วย  ช่วยวิงวอนพระเจ้าเพื่อข้าพเจ้าด้วยเทอญ
 (สังเกตประโยคนี้นะคะ)

3.คาทอลิคกับออโธดอก อังคลิกันทำไมต้องแยกกันครับ มีอะไรแตกต่างถึงไม่เป็นหนึ่งเดียว
เรื่องมันยาวอ่าค่ะ  :grin: รายละเอียดมีมากมาย เเต่สรุปโง่ๆได้ว่า
- เรื่องการเมือง (เเต่ก็ไม่เชิงการเมือง) ฯลฯ (คาทอลิก กับ ออธอดอกซ์) ตอนนี้เรากำลังทำศาสนสัมพันธ์ที่ดีต่อกันค่ะ
- เรื่องการเเต่งงานอีกครั้ง ของพระเจ้าเฮนรี่ (คาทอลิกกับเเองกลิกัน) เพราะปกติคาทอลิกห้ามหย่า
อย่างไรก็ตาม...เราเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวกัน เเละพยายามอย่างยิ่ง ที่จะไม่ให้เกิดความเเตกเเยก
นี่แหละผมกำลังเปิดใจเรียนรู้ ถ้าผมปิดกั้นผมคงไม่เข้ามาถามเพื่อความกระจ่างหรอกพี่น้อง ถ้าผมปิดกั้นตลอดทั้งชีวิต ผมก็จะกลายเป็นคนที่ไม่รู้เรื่อง ตลอดไป
ขอพระจิตเจ้าทรงนำค่ะ
แล้วทำไมไม่เรียกอังคลิกันว่าคาทอลิก การเมืองกับชื่อไม่น่าจะเกี่ยวกัน มีอะไรที่ต่างกัน ผมอยากให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวครับ


- เเองกลิกันเขาเเยกออกไป ด้วยสาเหตที่ว่าไว้ข้างบน
- สมมติ มีพรรคการเมืองชื่อ "พรรคเมืองไทย" เเล้วลูกพรรคอยากเเยกออกไปตั้งพรรคต่างหาก
จะใช้ชื่อ "พรรคเมืองไทย" เหมือนเดิมก็คงไม่ได้ จริงไหมคะ ก็ต้องหาชื่อใหม่
เวลาที่คุณอธิษฐานกับพระบิดาผู้ซึ่งประสาทพรแต่เพียงผู้เดียว และเป็นพ่อเราด้วย พอคุยกันเสร็จ ทำไมต้องหันขวาไปบอกพระแม่อีกที หรือจะหันซ้ายไปขอกับนักบุญโยเซฟอีกที รู้สึกแปลกๆไหม เพราะเมื่อกี๊เพิ่งจะคุยกับพระบิดาอยู่ ทั้งที่พระบิดาเป็น พระ เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่เราต้องติดสนิทด้วย



เราไม่ทำอย่างนั้นไงคะ ไม่หันขวาไปบอกเเม่พระ ไม่หันซ้ายไปขอนักบุญโยเเซฟ
เเต่ทั้ง เรา เเม่พระ เเละนักบุญยอเเซฟ หันหน้าไปทางเดียวกัน คือหาพระเป็นเจ้าค่ะ เเล้วก็ร่วมกันสวดภาวนาไปพร้อมๆกัน
ตกลงพระแม่เป็นเทพหรือฑูตสวรรค์ หรือมนุษย์กันแน่เนี่ย  พระแม่เป็นฑูตสวรรค์ลงมาเกิดเหรอ หรือว่าเพียงมนุษย์เหมือนกับเรา เหมือนกับคุณ เหมือนกับผม แต่พระเจ้าทรงใช้เธอ เหมือนกับใช้โมเสส เหมือนกับใช้ เนหะมีย์ เหมือนกับใช้ดาวิด เพื่อพระนามพระเจ้า
เเม่พระเป็นฑูตสวรรค์ลงมาเกิด....ระวังจะผิดความเชื่อนะคะ เราไม่เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด
เเม่พระเคยเป็น มนุษย์ เหมือนกับเรานี่เเหล่ะค่ะ เหมือนคุณ เหมือนข้าพเจ้า
พระเจ้าทรงเลือกท่าน ให้เป็นพระมารดาของพระองค์บนโลก เเละท่านก็ตอบรับพระประสงค์ของพระองค์  :smiley:
ตอนนี้ ท่านก็เลยได้รับ "บำเหน็จ" ในสวรรค์ ค่ะ

1.พระเจ้าอยากคุยกับเราส่วนตัวมากกว่ารึเปล่า สนิทกับพระเจ้ามากๆ เหมือนพ่อคุยกับลูก พ่อคงไม่อยากให้ลูกฝากคนอื่นมาคุยบ่อยๆ พ่อลูกต้องคุยกัน ส่วนการอธิษฐานเผื่อนั้นเป็นการเสริมสร้างกัน เฉพาะมนุษย์ ใช่หรือไหม ให้รู้จักอ้อนวอน รู้จักรักกัน ห่วงกัน
ผมว่าการอธิษฐานเผื่อ เป็นสำหรับมนุษย์ในโลกนะ เพื่อพระบิดาจะให้เรารู้จักเป็นหนึ่งเดียว เสริมสร้าง อ้อนวอนเพื่อกันและกัน พระเจ้าอยากเสริมสร้างให้ลูกๆที่ยังอยู่ในโลกแห่งความบาปรู้จักการรักกัน พระแม่ไม่ขอให้พระบิดาก็รู้ แล้วทำไมต้องขอ งะ
ถ้าไม่สบายใจ สารภาพบาปกับพระบิดาผู้เปี่ยมไปด้วยความรัก ดีกว่าสารภาพกับบาทหลวงไหม มีปัญหา หันหน้าเข้าหาพระเจ้า
คำถามซํานะคะ ผ่าน.........


ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ :angel:

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 2:26 pm
โดย กรอกสมบูรณ์
ขอนำเสนอ สารของพระเยซูเจ้าที่ทรงประทานผ่าน คุณวาสสุลา ไรเด็น  พระองค์ทรงใช้มือของ คุณวาสสุลา ไรเด็น เขียนสารมาถึงลูกๆของพระองค์

http://www.catholichatyai.net/truelife/ ... b=truelife

อย่าด่วนสรุปอะไรถ้าคุณอ่านเพียงแค่หน้าสองหน้า แต่อยากให้คุณอ่านมากกว่า 10 หน้าซะก่อน แล้วค่อยสรุปถึงสิ่งที่อ่านไปแล้ว แรกๆดิฉันก็เริ่มอ่านไปเรื่อยๆ แต่ตอนนี้อ่านไป 266 หน้าแล้ว และรู้สึกดีมากๆ ทำให้ได้รู้จักพระมากยิ่งขึ้้นกว่าเดิม

ไม่รู้ว่าเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือเปล่า?  ถ้าเคยอ่านแล้วก็ขอโทษด้วยนะคะ

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 4:26 pm
โดย org
1.สารภาพกับบาทหลวงต่างกับสารภาพด้วยตัวเองอย่างไร
2.คุณเห็นด้วยหรือไม่กับคำที่่ว่า เราไม่นมัสการพระอื่น นอกจากพระเยโฮวาห์
3.เรื่องไฟชำระ ทำไมเราต้องไปลงนรกอีกงะ ในเมื่อพระเจ้าชำระเราด้วยโลหิตของพระคริสต์แล้ว พระเยซูได้ทรงทนทุกข์เพื่อไถ่บาปเราทั้งสิ้น ไม่มีเหลือ เพราะเมื่อก่อนเรานั้นไม่รู้จักพระเจ้า เราไม่รู้ว่าเราได้ทำอะไรลงไป แต่ตอนนี้เรารู้และกลับใจพระองค์ก็ทรงบอกยกโทษให้ทั้งสิ้น ทำไมเราต้องไปลงนรกอีก ทำไมสิทธิการเป็นบุตรของพระเจ้าต้องไปลงนรกอีกครับ

ในเมื่อพระเจ้าสัญญาว่า
อิสยาห์ 1:18-20 ถึงบาปของเจ้าเหมือนสีแดงเข้มก็จะขาวอย่างหิมะ ถึงมันจะแดงอย่างผ้าแดงก็จะหลายเป็นอย่างขนแกะ

สดุดี 103-12 ตะวันออกไกลจากตะวันตกเท่าใด พระองค์ทรงปลดการละเมิดของเรา จากเราไปไกลเท่านั้น

1ยอห์น 1:9 ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเราและจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น

พระองค์ลืมบาปเราแล้ว ทำไมคาทอลิคพูดเหมือนว่า พระองค์ยังไม่ลืม ยังจำไว้ลงโทษเราอีกเหรอ

และที่พระเยซูตรัสกับโจรบนไม้กางเขนว่า "วันนี้" เจ้าจะได้อยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม ล่ะ

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 6:45 pm
โดย Dis volentibus
1.สารภาพกับบาทหลวงต่างกับสารภาพด้วยตัวเองอย่างไร
เชิญอ่านบทความนี้ค่ะ http://www.catholic.or.th/spiritual/art ... /le08.html
2.คุณเห็นด้วยหรือไม่กับคำที่่ว่า เราไม่นมัสการพระอื่น นอกจากพระเยโฮวาห์
มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์อย่างไร เราก็เชื่ออย่างนั้นค่ะ

3.เรื่องไฟชำระ ทำไมเราต้องไปลงนรกอีกงะ ในเมื่อพระเจ้าชำระเราด้วยโลหิตของพระคริสต์แล้ว พระเยซูได้ทรงทนทุกข์เพื่อไถ่บาปเราทั้งสิ้น ไม่มีเหลือ เพราะเมื่อก่อนเรานั้นไม่รู้จักพระเจ้า เราไม่รู้ว่าเราได้ทำอะไรลงไป แต่ตอนนี้เรารู้และกลับใจพระองค์ก็ทรงบอกยกโทษให้ทั้งสิ้น ทำไมเราต้องไปลงนรกอีก ทำไมสิทธิการเป็นบุตรของพระเจ้าต้องไปลงนรกอีกครับ

ในเมื่อพระเจ้าสัญญาว่า
อิสยาห์ 1:18-20 ถึงบาปของเจ้าเหมือนสีแดงเข้มก็จะขาวอย่างหิมะ ถึงมันจะแดงอย่างผ้าแดงก็จะหลายเป็นอย่างขนแกะ

สดุดี 103-12 ตะวันออกไกลจากตะวันตกเท่าใด พระองค์ทรงปลดการละเมิดของเรา จากเราไปไกลเท่านั้น

1ยอห์น 1:9 ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเราและจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น

พระองค์ลืมบาปเราแล้ว ทำไมคาทอลิคพูดเหมือนว่า พระองค์ยังไม่ลืม ยังจำไว้ลงโทษเราอีกเหรอ

และที่พระเยซูตรัสกับโจรบนไม้กางเขนว่า "วันนี้" เจ้าจะได้อยู่กับเราในเมืองบรมสุขเกษม ล่ะ


ไฟชำระ ไม่ใช่นรก นะคะอย่าเอามารวมกัน
เชิญอ่านบทความนี้ค่ะ http://www.catholic.or.th/article/arcti ... .html  คำสอนคาทอลิกเรื่อง ไฟชำระ

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 9:14 pm
โดย org
ทำไมเราต้องชดใช้งะ ในพระคัมภีร์ไม่มีบอกเราในเรื่องนี้เลย ไม่เห็นมีเลยสักตอน ทั้งในเรื่องตายแล้วไปโดนไฟชำระเจ็บปวดทรมาน เพื่อชดใช้
ทำไมเราต้องชดใช้ล่ะ พระเจ้าอภัยให้เรา อย่างที่เค้ายกตัวอย่างว่าทำกระจกเค้าแตกก็ต้องชดใช้ ก็เพราะว่าเจ้าของกระจกเป็นมนุษย์ เจ้าของกระจกต้องการเงิน
พระเจ้าของเราไม่ต้องการอะไรไม่ใช่เหรอ พระองค์มีความเมตตาที่พร้อมอภัย และความรัก โดยไม่คิดมูลค่า

โรม 3:23-25 เพราะว่าทุกคนทำบาปและเสื่อมพระสิริจากพระเจ้า แต่พระเจ้าทรงพระกรุณาให้เขาเป็นผู้ชอบธรรมโดยไม่คิดมูลค่า โดยที่พระเยซูคริสต์ทรงไถ่เขาให้พ้นบาปแล้ว

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 9:56 pm
โดย Holy
ปัญหาของคุณ จริงๆมันมาจากการที่ได้เรียนในแบบโปรฯมาก่อน และฝังจิตฝังใจฝังหัวมากในสิ่งที่รู้มา คำว่าเปิดใจ คือ การยอมรับความเป็นไปได้อื่นๆที่ต่างออกไป และสามารถยอมรับความถูกต้องในแง่มุมอื่นๆที่อาจจะแตกต่างจากที่ตัวรู้มา ไม่ได้แปลว่า มาถามแล้ว แปลว่าเปิดใจแล้ว

ผมยกตัวอย่างประโยคปัญหาง่ายๆครับ
แล้วถ้าฝากพระแม่อธิษฐานเผื่อ กับ ฝาก โจรบนไม้กางเขน พระเจ้าจะตอบคนไหนมากกว่ากัน หรือ เท่ากัน ?

ผมรู้สึกว่าการที่พระเจ้าให้เราอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกันนั้น เหมือนพระเจ้าอยากให้มนุษย์ที่ยังอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความบาปนี้ รู้จักการห่วงใยกัน  เสริมสร้างกัน เป็นห่วงกัน รู้จักอ้อนวอนต่อพระเจ้า รู้จักเห็นใจกัน พระเจ้าอยากเห็นเรามีความสามัคคีกัน  แล้วพระเจ้าจะทรงเมตตา แต่ผมว่าคนที่ตายไปแล้ว เค้าไม่ต้องได้รับการเสริมสร้างอีกแล้ว เพราะพระเจ้ารู้อยู่แล้วว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกับลูกของพระองค์แต่ละคน คนที่ช่วยวิงวอนก็จะได้รับบำเหน็จด้วย ผมว่าถ้าเราจะอธิษฐาน อธิษฐานกับพระเจ้าเลยดีกว่าไหม ส่วนเรื่องการอธิษฐานเผื่อ เป็นเรื่องของการเสริมสร้างกันและกัน เพราะพระเจ้ารู้อยู่แล้ว ว่าคนนี้เจอกับอะไรอยู่ พระแม่ไม่บอกพระเจ้าก็รู้ และเฝ้าดูอยู่ และคอยสอน ตีสอน อวยพรเราอยู่



นี่คือตัวอย่างของการใช้ความคิดตัวเอง มาใส่ให้พระเจ้า แล้วเหมาเอาว่าพระเจ้าต้องทำแบบนั้นแบบนี้ เอาแค่ท่อนนี้อันเดียวนะครับ

-การที่พระเจ้าให้คนอธิษฐานให้กัน เป็นแค่การเสริมสร้าง ตายแล้วไม่ต้องเสริมสร้าง

แต่นี้ก็เข้าใจผิดขั้นรุนแรงแล้วครับ การที่เราอธิษฐานให้แก่กัน มันมาจาก ความรัก ที่มีต่อผู้อื่น แล้วถามว่า ไปสวรรค์แล้ว ต้องเลิกรัก ไปสวรรค์แล้ว ต้องเลิกทำสิ่งที่ดี เหรอ... ทำไมล่ะ เพื่ออะไรล่ะ  แล้วพระเยซูเองเป็นพระเจ้าแท้ เสริมสร้างอะไรไม่ได้แล้วเพราะสุดยอดทุกด้านแล้ว ก็ไม่ต้องอธิษฐานขออะไรจากพระบิดาให้คุณด้วยน่ะสิ

1ปต 3:12
เพราะพระเจ้าทอดพระเนตรผู้ชอบธรรม
ทรงเอียงพระกรรณสดับเสียงร้องของเขา
แต่พระพักตร์ของพระองค์มึนตึงต่อผู้ที่กระทำความชั่ว

ยก 5:13
ท่านใดทนทุกข์ จงอธิษฐานภาวนาเถิด ท่านใดร่าเริงยินดี จงร้องเพลงสดุดีเถิด  (14)ท่านใดเจ็บป่วย จงเชิญบรรดาผู้อาวุโสของพระศาสนจักรให้มาอธิษฐานภาวนาเพื่อผู้ป่วย เจิมน้ำมันผู้นั้นในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า  (15)คำอธิษฐานภาวนาด้วยความเชื่อจะช่วยผู้ป่วยให้รอดชีวิต องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงโปรดให้ผู้ป่วยลุกขึ้น และถ้าเขาเคยกระทำบาป เขาก็จะได้รับการอภัย  (16)ดังนั้น จงสารภาพบาปแก่กัน และจงอธิษฐานให้กันเพื่อท่านจะหายจากโรค คำอ้อนวอนของผู้ชอบธรรมมีพลังทำให้เกิดผลมากมาย

---แค่พระคัมภีร์2ข้อนี้ ก็ยืนยันความเข้าใจที่ผิดของคุณหลายข้อ
1.คำภาวนาของมนุษย์ไม่ได้เท่ากันทุกคน แน่นอน
2.การเชิญผู้อาวุโสมาอธิษฐานให้ไม่ใช่เพื่อสริมสร้างท่าน แต่เพราะท่านมีความชอบธรรมมากกว่าเรา ถ้าคริสตชนเริ่มแรกคิดแบบคุณพระคัมภีร์ต้องเขียนใหม่ว่า เมื่อป่วยไม่ต้องเชิญใครมาอธิษฐานเลย เพราะต้องรู้จักสนิทกับพระเอง
3.การสารภาพบาปแก่ผู้อาวุโสในพระศาสนจักร ปัจจุบันก็คือบาทหลวง ซึ่งท่านมีหน้าที่คือเมื่อฟังแล้วจะช่วยอธษฐานขอพระเจ้าให้ยกบาปให้เราด้วยอีกคน
4.ถ้าพระเจ้ารู้แล้ว ไม่ต้องให้ใครช่วยอธิษฐาน... ทำไมไม่พูดไปเลยว่าพระเจ้ารู้อยู่แล้ว ให้มาเลยเซะ ทำไมต้องให้ขออีก
5.การที่มีคนช่วยอธิษฐาน คือการช่วยขออีกแรง คือเราและเขาหรือท่านเหล่านั้นรวมกันหลายเสียงช่วยกัน ไม่ใช่ให้เขามาพูดแทนคุณโดยตัวคุณไม่พูดเองเลย กรุณากำจัดความคิดผิดๆนี้ออกไปจากสมองโดยถาวรด้วยครับ
6.การให้เกียรติแม่พระหรือนักบุญ ไม่ใช่การนมัสการพระอื่น นะครับ แค่คุณยกอะไรเหนือกว่าพระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นแฟน เงินทอง ดารา เกียรติยศชื่อเสียง พวกนั้นก้เป้นรูปเคารพสำหรับคุณได้ทั้งนั้น มองให้เห็นแก่นแท้ของธรรมบัญญัติข้อนี้ด้วย ว่า ตั้งมาไม่ได้เพื่อไม่ให้คุณคบใครเลย แต่มันตั้งมาไม่ให้คุณเห็นสิ่งใดเหนือกว่าพระเจ้า ไม่เช่นนั้นคุณจะไม่ต่างกับฟารีสีสมัยพระเยซู ที่เข้าใจคำว่าวันสะบาโตตามตัวอักษ ห้ามรักษา ห้ามทำความดี ห้ามแบกแคร่กลับบ้าน ฯลฯ ทั้งที่จุดประสงค์หลักแท้จริง ไม่ได้อยากให้อยู่เฉยๆ แต่คือ ต้องการให้คุณมีเวลาว่างในการนมัสการพระเจ้า1วันต่อสัปดาห์
7.การสารภาพบาปกับบาดหลวง ไม่ใช่การสารภาพบาปกับบาทหลวงแทนพระเจ้า แต่เป็นการใช้บริการจากผู้มีหน้าที่ทางศาสนา ให้ท่านช่วยอธิษฐานให้พระเจ้ายกโทษให้เราในบาปที่เราทำด้วยอีกเสียงหนึ่ง(เพิ่มจากเสียงเราคนเดียว)

คำภาวนาของแม่พระพิเศษกว่าคนอื่นไหม

แน่นนอนครับ

พระคัมภีร์บันทึกคำยกย่องพระมารดาพระเจ้าไว้อย่างแจ่มชัด ดังต่อไปนี้
-เธอคือผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน
-เธอคือผู้เปี่ยมด้วยพระพรและของประทาน
-เธอคือผู้ศรัทธาและมีความเชื่อสูงสุด(ความเชื่อคือเงื่อนไขของการได้รับทุกสิ่งที่ขอแม้จะอัศจรรย์หนือธรรมชาติเพียงไร)
-เธอคือผู้ที่ชนทุกสมัยจะกล่าวยกย่องให้เกียรติว่าได้รับพระพรมาก(blessed)
-เธอคือผู้ที่พระเจ้ารักมากที่สุด และมีบุญกว่าหญิงทุกคนในโลก ซึ่งที่จริงในบรรดามนุษย์ทั้งหมด แม่พระอยู่รองจากพระเยซูในฐานะมนุษย์แท้ คนเดียว
-เธอคือผู้ที่พระคัมภีร์ยืนยันว่าติดสนิทเป็นหนึ่งเดียวในการทรงสถิตย์ของพระเจ้าในมนุษย์

ดังนั้น ถ้าตัดอคติที่พยายามจะคิดว่าคนบนสวรรค์อธิษฐานไม่ได้ ก็ต้องยอมรับความจริงกันว่า มารีย์พระมารดาพระเจ้า มีพลังอธิษฐานเผื่อสูงสุดในจักรวาล ซึ่งถามว่าถ้าใครไม่อยากให้แม่ช่วย ก็ไม่มีใครว่าหรอกนะครับ เพราะความรัก ไม่ใช่การบังคับและยัดเยียดอยู่แล้ว แต่ถ้าแม่เต็มใจและยินดีช่วยเพราะรักเรา..........ทำไมต้องกลัวที่จะขอให้แม่ช่วยอีกแรงด้วยล่ะ

คุณอยากเป็นคนจำพวกพยายามรักพ่อ โดยพยายามรังเกียจเหยียดไล่คนอื่นไปหมด ไม่กล้ารักคนอื่นเลยเพราะกลัวพ่อจะอิฉฉา กลัวพ่อจะโกรธ กลัวพ่อจะไม่ยอมมาสนิท หรือจะเป็นคนจำพวก รักพ่อ โดยมีบรรดาพี่น้องพ่อแม่เพื่อน ผู้รับใช้ ฯลฯ ของพ่อ ร่วมกันรักกันหมด อย่างอบอุ่น และพวกเขาพร้อมจะส่งเสริมคุณให้รักพ่อได้มากขึ้นไปอีก กันล่ะ

เท่าที่อ่านมาคุณเป็นพวกแบบแรกคือความรักที่มีแต่ความกลัว กลัวจะผิดโน่น กลัวจะผิดนี่ กลัวพ่อไม่ปลื้ม จนพยายามเอาใจพ่อโดยอิงตัวหนังสือ แต่ไม่ได้เข้าใจพ่ออาศัยพระจิตเจ้าจริงๆ แม้จะรักก็รักได้ไม่สมบูรณ์

1ยน 4:18
ไม่มีความกลัวในความรัก ความรักที่สมบูรณ์ย่อมขจัดความกลัว เพราะความกลัว คือความคาดหมายว่าจะถูกลงโทษ ความรักของผู้มีความกลัวจึงยังไม่สมบูรณ์  (19)จงมีความรักเถิดเพราะพระองค์ทรงรักเราก่อน  (20)ถ้าผู้ใดพูดว่า

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 9:56 pm
โดย Zion
1เปโตร 3:19
พระจิตเจ้ายังทรงนำพระองค์ไปประกาศความรอดพ้นแก่จิตที่ถูกจองจำ


แปลว่า จะมีสถานที่นึงที่ไม่ใช่สวรรค์ เพราะเป็นคุกที่ใช้จองจำ
แต่ก็ไม่ใช่นรก เพราะถ้าเป็นนรกก็ไม่สามารถรอดพ้นได้แล้ว



เราบอกท่านว่า
ท่านจะออกจากที่นั้นไม่ได้จนกว่าท่านจะชำระหนี้จนถึงเศษสตางค์สุดท้าย"
ลูกา 12:59

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 10:06 pm
โดย Holy
org เขียน: ทำไมเราต้องชดใช้งะ ในพระคัมภีร์ไม่มีบอกเราในเรื่องนี้เลย ไม่เห็นมีเลยสักตอน ทั้งในเรื่องตายแล้วไปโดนไฟชำระเจ็บปวดทรมาน เพื่อชดใช้
ทำไมเราต้องชดใช้ล่ะ พระเจ้าอภัยให้เรา อย่างที่เค้ายกตัวอย่างว่าทำกระจกเค้าแตกก็ต้องชดใช้ ก็เพราะว่าเจ้าของกระจกเป็นมนุษย์ เจ้าของกระจกต้องการเงิน
พระเจ้าของเราไม่ต้องการอะไรไม่ใช่เหรอ พระองค์มีความเมตตาที่พร้อมอภัย และความรัก โดยไม่คิดมูลค่า

โรม 3:23-25 เพราะว่าทุกคนทำบาปและเสื่อมพระสิริจากพระเจ้า แต่พระเจ้าทรงพระกรุณาให้เขาเป็นผู้ชอบธรรมโดยไม่คิดมูลค่า โดยที่พระเยซูคริสต์ทรงไถ่เขาให้พ้นบาปแล้ว
พระเยซูเจ้าสามารถปลดปล่อยวิญญาณออกจากที่คุมขังได้แม้เขาจะตายไปแล้วครับ แสดงว่าไม่ใช่นรก เพราะนรกไม่มีทางกลับ

1ปต 3:18
พระคริสตเจ้าสิ้นพระชนม์เพียงครั้งเดียวเพราะบาป พระองค์ผู้ทรงชอบธรรมสิ้นพระชนม์เพื่อคนอธรรม พระองค์จะทรงนำเราไปเฝ้าพระเจ้า พระองค์ทรงถูกประหารในสภาพมนุษย์ แต่พระจิตเจ้าประทานชีวิตให้พระองค์อีก  พระจิตเจ้ายังทรงนำพระองค์ไปประกาศความรอดพ้นแก่จิตที่ถูกจองจำ ในกาลก่อน จิตเหล่านี้ไม่ยอมเชื่อฟังเมื่อพระเจ้าทรงอดทนรอคอย ขณะที่โนอาห์กำลังต่อเรือ ซึ่งช่วยชีวิตคนจำนวนน้อย นั่นคือเพียงแปดชีวิตให้รอดพ้นจากน้ำวินาศ 


พระเยซูเจ้าตรัสถึงที่ชำระความผิดที่มีกำหนดเวลา

มธ 5:25
จงคืนดีกับคู่ความของท่านขณะที่กำลังเดินทางไปศาลด้วยกัน มิฉะนั้น คู่ความจะมอบท่านแก่ผู้พิพากษา และผู้พิพากษาจะมอบท่านให้ผู้คุม ซึ่งจะขังท่านในคุก เราบอกความจริงแก่ท่านว่า ท่านจะออกจากคุกไม่ได้ จนกว่าท่านจะชำระหนี้จนเศษสตางค์สุดท้าย


นักบุญเปาโลกล่าวถึงการชำระบาปให้ผู้ตาย

1คร 15:29
บางท่านรับศีลล้างบาปเพื่อผู้ตาย ถ้าผู้ตายไม่กลับคืนชีพ จะมีประโยชน์ใดที่จะรับศีลล้างบาปเพื่อเขาเหล่านั้น ถ้าไม่มีการกลับคืนชีพ


นักบุญเปาโลกล่าวถึงความรอดที่ผ่านไฟ

1คร 3:15
แต่ถ้าผลงานของผู้ใดถูกไฟผลาญ เขาก็ไม่มีผลงานใดเหลือ เขารอดพ้นได้ก็จริง แต่ก็เหมือนกับคนที่หนีไฟรอดมาได้เท่านั้น


พระเยซูเจ้าตรัสถึงการให้อภัยในชีวิตหลังความตาย

มธ 12:31
ดังนั้น เราบอกท่านทั้งหลายว่า มนุษย์จะได้รับการอภัยบาปทุกชนิดรวมทั้งคำดูหมิ่นพระเจ้าด้วย แต่คำดูหมิ่นพระจิตเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลย  ใครที่กล่าวร้ายต่อบุตรแห่งมนุษย์จะได้รับการอภัย แต่ใครที่กล่าวร้ายต่อพระจิตของพระเจ้าจะไม่ได้รับการอภัยเลยทั้งในโลกนี้และในโลกหน้า


มีความเชื่อกันมาแต่เดิมอยู่แล้วว่าสวรรค์คือที่บริสุทธ์อย่างยิ่ง คนที่เชื่อในพระเจ้า(อย่างชาวยิวทั้งหลาย) แต่อาจทำบาปเล็กๆน้อยๆ ย่อมจะต้องชำระวิญญาณให้บริสุทธิ์

ฮบ 1:3
บัดนี้ พระบุตรทรงลบล้างมลทินแห่งบาปเสร็จสิ้นแล้ว จึงเสด็จขึ้นสวรรค์ประทับ ณ เบื้องขวาแห่งพระมหิทธานุภาพ

ดังนั้นมุมมองของคาทอลิคจึงไม่ได้มองไฟชำระเป็นอะไรที่มากไปว่าที่ทำความสะอาดวิญญาณก่อนเข้าสวรรค์นั่นเอง

C.S. Lewis  นักเขียนชาวอังกฤษ ผู้แต่งเรื่องนาร์เนีย เขายังเป็นนักเขียนหนังสือเกี่ยวกับศาสนามากมายหลายเล่ม และเขาเป็นแองกลีกัน แต่มีทัศนคติที่ยอมรับเรื่องไฟชำระ โดยเปรียบเทียบว่า เหมือนคุณรู้สึกอยากบ้วนปากก่อนพบปะพูดคุยกับคนสำคัญนั่นแหละ



ในพระคัมภีร์ส่วนอธิกธรรมที่ มาร์ติน ลูเธอร์ตัดทิ้ง แต่คาทอลิคยังคงไว้ คือ ในหนังสือมัคคาบี ซึ่งเป็นส่วนของพระธรรมเก่า

๒ มัคคาบี ๑๒.๔๒-๔๕
42: Betook themselves unto prayer, and besought him that the sin committed might wholly be put out of remembrance. Besides, that noble Judas exhorted the people to keep themselves from sin, forsomuch as they saw before their eyes the things that came to pass for the sins of those that were slain.
43: And when he had made a gathering throughout the company to the sum of two thousand drachms of silver, he sent it to Jerusalem to offer a sin offering, doing therein very well and honestly, in that he was mindful of the resurrection:
44: For if he had not hoped that they that were slain should have risen again, it had been superfluous and vain to pray for the dead.

2มัคคาบี 12:42-45

เขาอธิษฐานภาวนาวอนขอพระเจ้าให้ทรงลบล้างบาปให้หมดสิ้นไป ยูดาผู้ทรงศักดิ์เตือนบรรดาทหารให้รักษาตนให้พ้นจากบาป
เพราะเขาทั้งหลายได้เห็นกับตาแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นแก่ผู้ที่ตายเพราะได้ทำบาป

ยูดาจึงเรี่ยไรเงินจากทหารแต่ละคน ได้เงินจำนวนสองพันเหรียญดรักมา ส่งไปกรุงเยรูซาเล็มเพื่อจัดให้มีการถวายบูชาชดเชยบาป นับว่า
เป็นการกระทำที่งดงามและน่ายกย่อง โดยคำนึงถึงการกลับคืนชีพของผู้ตาย


เพราะถ้าเขาไม่มีความหวังว่าผู้ตายจะกลับคืนชีพอีก การอธิษฐานภาวนาเพื่อผู้ตายคงไม่มีประโยชน์และไร้ความหมาย

แต่ถ้าเขาทำไปเพราะคิดว่าผู้ที่ตายขณะที่ยังเลื่อมใสต่อพระเจ้าจะได้รับบำเหน็จรางวัลงดงาม ก็เป็นความคิดที่ดีและศักดิ์สิทธิ์
เขาสั่งให้ถวายเครื่องบูชาชดเชยบาปของผู้ตาย เพื่อจะได้พ้นจากบาป

----------------------------------------

เหตุการณ์ในมัคคาบีเปนเหตุการณ์ก่อนพระเยซูประสูติ สรุปแปลท่อนนี้คือเราพบว่าชาวยิวมีการทำสิ่งหนึ่งขึ้นคือการอธิษฐานและทำบุญเพื่อผู้ตายครับ


ผมแนะนำอย่างหนึ่งว่า ทัศนคติที่ว่า ถ้าหาคำในพระคัมภีร์ตรงๆไม่เจอแปลว่าไม่มี ก็วานเขาหาคำว่าพระตรีเอกภาพในพระคัมภีร์ให้ด้วย เพราะมันก็ไม่มีในพระคัมภีร์เหมือนกัน แต่โปรแตสแตนท์ยังเชื่อยังสอนกันได้นะครับ

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 10:17 pm
โดย Like a Heaven
คุณเจ้าของกระทู้เข้าใจอะไรผิดเยอะเลยนะครับ

ว่าจะเข้ามาแจมแต่คิดไปคิดมาไม่เอาดีกว่า..พี่ปอตอบหมดแล้ว

อิๆ...ผมเองก็ "เคย" เป็น โปรเตสแตนท์เหมือนคุณมาก่อนครับ เคยเข้าใจ...ไม่ต่างจากคุณ

แต่

วันนี้ผมเป็นว่าที่คาทอลิกแล้วครับ ::020::

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 10:19 pm
โดย Like a Heaven
เอ้อ...เอาเพลงสวดเพราะๆมาฝากครับ จากห้องศาลาธรรม

http://www.youtube.com/watch?v=_oF-ukUF ... re=related

ฟังแล้วฝันดี

พระอวยพรครับ

:angel:

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 10:22 pm
โดย พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
ไม่ว่าคุณ org จะทราบหรือไม่ แต่มันก็คือความจริงที่ว่าพระนางมารีย์ทรงเป็น คริสเตียนคนแรกของจักรวาล

เพราะพระนางทรงเป็นคนแรกที่รับพระเยซูเจ้าเข้ามาในชีวิต และไม่ใช่เพียงเฉพาะจิตวิญญาณเท่านั้น แต่เป็นด้วยร่างกายเลยด้วยซ้ำ

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 24, 2008 10:27 pm
โดย Immanuel (MichaelPaul)
org เขียน: แล้วถ้าฝากพระแม่อธิษฐานเผื่อ กับ ฝาก โจรบนไม้กางเขน พระเจ้าจะตอบคนไหนมากกว่ากัน หรือ เท่ากัน ?
คำอธิษฐานของผู้ชอบธรรมนั้นมีพลังทำให้เกิดผล ยากอบ 5:16
org เขียน: อีกคำถามดีกว่า

1.พระเจ้าอยากคุยกับเราส่วนตัวมากกว่ารึเปล่า สนิทกับพระเจ้ามากๆ เหมือนพ่อคุยกับลูก พ่อคงไม่อยากให้ลูกฝากคนอื่นมาคุยบ่อยๆ พ่อลูกต้องคุยกัน ส่วนการอธิษฐานเผื่อนั้นเป็นการเสริมสร้างกัน เฉพาะมนุษย์ ใช่หรือไหม ให้รู้จักอ้อนวอน รู้จักรักกัน ห่วงกัน

2.ทำไมต้องมีบาทหลวงครับ และบาทหลวงทำอะไรบ้าง ไม่มีได้ไหม หรือต้องมี ไม่งั้นผิด หรือไม่ถึงพระเจ้าหรือยังไง
แล้วจริงไหมที่สารภาพบาปต้องกับบาทหลวง แล้วสารภาพเองไม่ได้เหรอ เพราะผิดแล้วต้องสารภาพทันที บางทีเรื่องที่น่าอายก็ไม่อยากบอกใคร อยากให้พระเจ้ารู้คนเดียว แล้วพระเจ้าบอกว่าเราเป็นปุโรหิตหลวง เข้าหาพระเจ้าด้วยตัวเองได้ พระวิญญาณบริสทุธิ์อยู่กับเรา พระเยซู ถวายตัวเองเพื่อเราจะเข้าไปได้แล้ว ทุกๆคน

3.คาทอลิคกับออโธดอก อังคลิกันทำไมต้องแยกกันครับ มีอะไรแตกต่างถึงไม่เป็นหนึ่งเดียว
1. แสดงว่าคุณไม่เข้าใจการขอพระแม่มารีย์ ก็เหมือนกับการอธิษฐานเผื่อของพวกคุณครับ ทำไมคุณต้องให้เพื่อนๆหรือศิษยาภิบาลอธิษฐานเผื่อด้วยครับ คาทอลิคเราก็เช่นกัน เราอธิษฐานต่อพระเจ้าโดยตรง และของแม่พระและนักบุญช่วยสวดเพื่อเรา พอจะเข้าใจไหมครับ

2. ครั้นพระองค์ตรัสดังนั้นแล้วจึงทรงระบายลมหายใจออกเหนือเขา ตรัสกับเขาว่า "จงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด ถ้าท่านจะยกความผิดบาปของผู้ใด ความผิดบาปของผู้นั้นจะถูกยกเสีย และถ้าท่านจะให้ความผิดบาปติดอยู่กับผู้ใด ความผิดบาปก็จะติดอยู่กับผู้นั้น" ยอห์น 21: 22 >>> หมายความถึงสิทธิอำนาจในการโปรด "ศีลอภัยบาป" ของบาทหลวงครับ
และ
ฝ่ายเราบอกท่านว่าท่านคือเปโตร{ภาษากรีกว่าเปโตร}และบนศิลา{ภาษากรีกว่าเปตรา}นี้เราจะสร้างคริสตจักรของเราไว้และพลังแห่งความตายจะมีชัยต่อคริสตจักรนั้นหามิได้เราจะมอบลูกกุญแจแผ่นดินสวรรค์ให้ไว้แก่ท่านท่านจะกล่าวห้ามสิ่งใดในโลกสิ่งนั้นก็จะถูกกล่าวห้ามในสวรรค์เมื่อท่านจะกล่าวอนุญาตสิ่งใดในโลกสิ่งนั้นจะกล่าวอนุญาตในสวรรค์ด้วย มัทธิว 16:18-19 >>> สิทธิอำนาจของท่านเปโตรตกทอดกันมาตามอัครสาวกและท่าเปโตรเป็นพระสันตะปาปาองค์แรกครับ

3. คาทอลิค แปลว่า สากล ครับ ดังนั้นที่แยกออกมาจึงไม่ใช่คาทอลิค เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยยุคมืดครับ รายละเอียดหาอ่านได้จากในเว็ปคิดว่าน่าจะมี

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 25, 2008 1:41 pm
โดย Ministry Of Men
เพิ่งได้อ่าน

และอยากบอกว่า เป็นกระทู้ที่ดีมากเลย

และน้องเจน ก็อธิบายได้ดี และนุ่มนวลมาก

ส่วนท่านอื่นๆ หลังๆ ถ้ารู้ตัวว่าตอบแรงไป กรุณาแก้ไขบางประโยคของที่โพสต์ด้วยก็จะดีครับ
เพราะที่ผมอ่านมาเรื่อยๆ ผมไม่รู้สึกว่า ท่าน จขกท. เค้ามีเจตนาไม่ดีนะครับ


ขอพระเจ้าอวยพรท่าน จขกท. ด้วยครับ
ลองค่อยๆศึกษาคาทอลิกนะครับ

ผมเองก็เป็นโปรด้วย เป็นคาทอลิกด้วย
ผมศึกษาเรื่อง แม่มารีย์ มาได้พอสมควรเท่าที่ตนจะมีปัญญาศึกษา เท่าที่ผมพิจารณา แม่มารีย์เป็นผู้ที่พิเศษกว่านักบุญท่านอื่น(จากประสบการณ์ส่วนตัว ที่เคยโพสต์ไว้ อยู่ตรงไหนของบอร์ดนี้แล้วก็ไม่รู้)

เรื่องรูปปั้น ก็ อันนี้ คุณพ่อที่ วัดอัครเทวดาราฟาแอลตอบคำถามผมเองเลย "เราเป็นมนุษย์ เรามีตาเนื้อหนัง เรามองผ่านรูปปั้นนี้ในแง่การระลึก รูปปั้นเหล่านี้ ไม่มีความศักดิ์สิทธิ์ ไม่ได้เป็นพระเจ้า ไม่ใช่ตัวแทน แต่เป็นเพียงการระลึก"

ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่นเรื่องความรอด นั้น 
จริงอยู่ พระคัมภีร์บันทึกไว้ชัดเจนว่า พระองค์ชำระเรา ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
แต่พระองค์ยังทรงย้ำด้วย ตามที่เขียนไว้ข้างบนแล้ว "ท่านจะออกมาจากที่นั่นไม่ได้จนกว่าจะใช้หนี้ครบ"
นอกจากนี้ยังมีข้อพระคัมภีร์กล่าวไว้ด้วยว่า "ไม่ใช่ทุกคนที่เรียกเราว่าพระองค์เจ้าข้า แล้วจะรอด เราบอกความจริงแก่ท่านว่า เราไม่รู้จักเจ้าเลย เจ้าคนชั่ว จงไปให้พ้น" (อะไรประมาณนี้นะครับ ผมจำไม่ได้ว่าอยู่ตรงไหน ขอพระเจ้านำเปิดเจอเอง หรือแล้วแต่พี่น้องจะช่วยหาครับ)


คำถาม บางคำถามเป็นคำถามที่ เค้าไม่รู้เค้าจึงถาม
เหมือนที่พระองค์เคยกล่าวกับพระบิดาว่า "อย่าถือโทษพวกเขา เพราะเขาทำไปโดยไม่รู้"
เหมือนกัน ผมอยากให้กำลังใจ รุ่นพี่ๆ ที่ตอบข้างบนว่า "ขอให้ตอบด้วยภาษานิ่มๆนิดนึง ตามของประทาน เค้าไม่ได้มีเจตนาร้ายครับ"


มีอะไร ท่าน จขกท. คุยกับผมหลังไมค์ได้นะครับ ผมเป็นคริตชนคนนึงที่ เป็นทั้งโปร และคาทอลิก
ผมรับเชื่อที่โปร บัพติศมาก็ที่โปร และก็ร่วมมิสซาอยู่แล้วในปัจจุบัน
ทั้งสองที่ พระเจ้าสถิตอยู่ด้วย (ตามประสบการณ์ส่วนตัว)

เผื่อถามเพิ่ม...
แม่มารีย์ ให้อวยพรเราได้ไหม? นักบุญอื่นๆล่ะ ให้พรเราได้ไหม?
(ตอบตามประสบการณ์นะครับ อาจจะผิดหลัก หรือกฏไหม ก็ว่ากันไป)
ตอบ . แม่มารีย์อวยพรเราได้ครับ เหมือนที่ฑูตสวรรค์ทรงเป็นกำลังให้พระเยซูตอนที่พระองค์ทุกข์เรื่องถ้วยที่พระองค์กำลังจะดื่ม(ตรึงกางเขน) และผมก็เคยได้รับการสัมผัสนั้นครับ  ฑูตสวรรค์ ก็เช่นกันครับ ทั้งนี้ก็ภายใต้พระบารมีอันสูงที่สุดขององค์พระเจ้าของพวกเราครับ


กระทู้นี้ดีจริงๆ นะเนี่ย อิอิอิ ชอบๆๆ

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 25, 2008 9:39 pm
โดย Rakkypoko!
งั้นถามมั่ง ว่า จขกท มิทราบว่าอยู่คริสตจักร อะไรรึ

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 25, 2008 11:13 pm
โดย Chartres
คริสตจักรที่วันๆสอนแต่ให้มองเหยียดหยามนิกายอื่นต
ไม่ใช่สายเพรสไบทีเรียนแน่นอน นิสัยแบบนี้

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 25, 2008 11:49 pm
โดย 1111
หุๆๆ จะให้อธิษฐานเผื่อหรืออธิษฐานเองก็ได้ไม่ผิด แต่ถ้าให้อธิษฐานเผื่อแล้วก็เราอธิษฐานโดยตรงด้วยก็ได้ จะได้ผลมาก

Re: ถ้าไม่ให้พระแม่มารีย์อธิษฐานเผื่อจะเป็นอะไรไหม

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 26, 2008 1:00 am
โดย KuRapiKa
คิดว่าไม่เป็นอะไรครับ

แต่ผู้อธิษฐานเผื่อ บวกกับคำอธิษฐานจากเราเอง ก็ย่อมดีกว่านะครับผม  ::001::