แล้วถ้าฝากพระแม่อธิษฐานเผื่อ กับ ฝาก โจรบนไม้กางเขน พระเจ้าจะตอบคนไหนมากกว่ากัน หรือ เท่ากัน ?
เเล้วเเต่พระองค์จะทรงเมตตาค่ะ
ผมรู้สึกว่าการที่พระเจ้าให้เราอธิษฐานเผื่อซึ่งกันและกันนั้น เหมือนพระเจ้าอยากให้มนุษย์ที่ยังอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยความบาปนี้ รู้จักการห่วงใยกัน เสริมสร้างกัน เป็นห่วงกัน รู้จักอ้อนวอนต่อพระเจ้า รู้จักเห็นใจกัน พระเจ้าอยากเห็นเรามีความสามัคคีกัน แล้วพระเจ้าจะทรงเมตตา
แต่ผมว่าคนที่ตายไปแล้ว เค้าไม่ต้องได้รับการเสริมสร้างอีกแล้ว
ตรงนี้เเล้วเเต่ความเชื่อของนิกายต่างๆด้วยนะคะ
พูดถึง "คนตาย" สำหรับคาทอลิก คนที่ตายไปถ้าไม่ขึ้นสวรรค์ไปเลย หรือลงนรกไปเลย ก็ต้องไปอยู่ใน"ไฟชำระ" เป็นสถานที่สำหรับชำระ
ร่างกายให้บริสุทธิ์ ก่อนที่จะเข้าไปในพระอาณาจักรสวรรค์ ที่ไฟชำระ จะเป็นที่ๆวิญญาณทั้งหลายเป็นทุกข์ เพราะไม่ได้พบพระเป็นเจ้า
พวกเขาต้องอยู่ในไฟชำระ จนกว่าจะใช้โทษบาปของตนหมด สิ่งที่มนุษย์บนเเผ่นดินโลกทำได้ ก็คือ การสวดภาวนา หรือการขอมิสซา
เพื่ออุทิศแก่วิญญาณในไฟชำระ ซึ่งจะทำให้พวกเขาไปพบพระเป็นเจ้าได้เร็วขึ้น ซึ่งวิญญาณเหล่านั้นก็จะสวดภาวนาให้เราด้วยเช่นเดียวกัน
ถือเป็นการเสริมสร้างซึ่งกันเเละกันค่ะ
"คนตาย" ในบริบทที่คุณถาม น่าจะหมายถึง "นักบุญ"
นักบุญ ตามความเชื่อของเรา อย่างที่เคยบอกไป คือคนที่มั่นใจว่า
ได้ไปอยู่ในพระอาณาจักรสวรรค์เเล้ว
ไม่ใช่เเค่ตายเเละหลับอยู่ในหลุมเฉยๆ รอจนกว่า "วันนั้น" จะมาถึง
หากเป็นตามที่คุณว่า "การอธิษฐานเผื่อ มีเพื่อให้รู้จักการห่วงใยกัน เสริมสร้างกัน เป็นห่วงกัน รู้จักอ้อนวอนต่อพระเจ้า ฯลฯ"
ปกติ มนุษย์ อธิษฐานเผื่อซึ่งกันเเละกันอยู่เเล้ว เป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคริสตชนด้วยกันเอง
ดังนั้นการที่นักบุญ ในสวรรค์ช่วยวิงวอนพระเป็นเจ้า เพื่อมนุษย์บนเเผ่นดินโลก จึงเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง ชาวสวรรค์ กับ มนุษย์อีกด้วย
โดยร่วมจิตร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียว เพื่ออ้อนวอน,สรรเสริญพระเป็นเจ้า เเม้จะอยู่ต่างสถานที่

กลายเป็น สามัคคีธรรมยกกำลัง2
เพราะพระเจ้ารู้อยู่แล้วว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกับลูกของพระองค์แต่ละคน คนที่ช่วยวิงวอนก็จะได้รับบำเหน็จด้วย ผมว่าถ้าเราจะอธิษฐาน อธิษฐานกับพระเจ้าเลยดีกว่าไหม ส่วนเรื่องการอธิษฐานเผื่อ เป็นเรื่องของการเสริมสร้างกันและกัน เพราะพระเจ้ารู้อยู่แล้ว ว่าคนนี้เจอกับอะไรอยู่ พระแม่ไม่บอกพระเจ้าก็รู้ และเฝ้าดูอยู่ และคอยสอน ตีสอน อวยพรเราอยู่
พระองค์ทรงทราบ เเละทรงทราบก่อนที่พวกเราจะคิดเสียอีก
เเม่พระไม่บอก พระองค์ก็ทรงทราบค่ะ
ถ้าคุณอ่านทั้งหมด ตั้งเเต่ reply ข้างบนโน๊น ก็อาจจะเข้าใจว่า "เราไม่ได้ให้เเม่พระไปบอกพระเยซู เพราะเกรงว่าพระองค์จะไม่ทรงทราบ"
ในคำสอนของพระศาสนจักร ก็ไม่ได้เขียนไว้ว่า "ต้องผ่านทางพระนางมารีย์เท่านั้น พระเยซูคริสต์จึงจะฟังคำภาวนา"
เราสวดภาวนากับพระเป็นเจ้าโดยตรง เเต่ขอเเรงคนอื่นช่วยสวดอีกเเรง เปรียบเหมือน สวดภาวนายกกำลัง2 ค่ะ
2.ทำไมต้องมีบาทหลวงครับ และบาทหลวงทำอะไรบ้าง ไม่มีได้ไหม หรือต้องมี ไม่งั้นผิด หรือไม่ถึงพระเจ้าหรือยังไง
แล้วจริงไหมที่สารภาพบาปต้องกับบาทหลวง แล้วสารภาพเองไม่ได้เหรอ เพราะผิดแล้วต้องสารภาพทันที บางทีเรื่องที่น่าอายก็ไม่อยากบอกใคร อยากให้พระเจ้ารู้คนเดียว แล้วพระเจ้าบอกว่าเราเป็นปุโรหิตหลวง เข้าหาพระเจ้าด้วยตัวเองได้ พระวิญญาณบริสทุธิ์อยู่กับเรา พระเยซู ถวายตัวเองเพื่อเราจะเข้าไปได้แล้ว ทุกๆคน
ถ้าจะเปรียบเทียบ
พระสงฆ์ (หรือ บาทหลวง) = ศิษยาภิบาล
ทำอะไรบ้าง...หลายอย่าง
- ถวายมิสซา (นำนมัสการ)
- เทศน์
- สอนคำสอน
- ฟังแก้บาป
- ร้องเพลง
- เล่นออร์เเกน
- เล่นกี่ต้าร์
- เล่นกับเด็ก
โอ้ เยอะเเยะค่ะ
ไม่มีได้ไหม...ไม่ได้ค่ะ เพราะเหมือนกับคริสตจักร ที่ไม่มีศิษยาภิบาล...เเล้วจะเรียกว่าคริสตจักรได้ยังไง
- เรื่องแก้บาป มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์นะคะ
มัทธิว 16:18-19
เราบอกท่านว่า ท่านคือศิลา (ตรงนี้เป็นการเเต่งตั้ง น. เปโตรเป็นพระสันตะปาปาองค์เเรก)
เเละบนศิลานี้เราจะตั้งพระศาสนจักรของเรา
ประตูนรกจะไม่มีวันชนะพระศาสนจักรได้
เราจะมอบกุญเเจอาณาจักรสวรรค์ให้
ทุกสิ่งทีท่านผูกบนเเผ่นดิน จะผูกไว้ในสวรรค์ด้วย
ทุกสิ่งที่ท่านจะแก้ในเเผ่นดินนี้ ก็จะแก้ในสวรรค์ด้วย (ดังนั้น การที่พระสงฆ์ยกบาป ก็เป็นการ "แก้บาป"ของคนๆนั้นค่ะ)
คาทอลิกเชื่อว่า การสารภาพบาปในห้องแก้บาป คือการสารภาพต่อหน้าพระเป็นเจ้าค่ะ ไม่ใช่พระสงฆ์ (บาทหลวง)
เเต่พระสงฆ์เป็นตัวเเทนของพระเยซู พระสงฆ์ไม่สามารถนำเรื่องในห้องแก้บาปออกมาพูดนอกห้องแก้บาปเด็ดขาด
ว่ากันว่า พระสงฆ์มีพระพรพิเศษ เมื่อแก้บาปให้สัตบุรุษเเล้ว จะลืมบาปที่ได้ฟัง
- บทสารภาพบาป...ต่อพระเจ้าเลยก็มีนะคะ ใช้สวดตอนเริ่มมิสซาเเทบทุกครั้ง
ข้าพเจ้าขอสารภาพต่อพระเจ้า ผู้ทรงสรรพานุภาพ
และต่อพี่น้องด้วย
ว่าข้าพเจ้าได้ทำบาปมากมาย ด้วยกาย วาจา ใจ และด้วยการละเลย
ข้าพเจ้าเป็นคนบาป ข้าพเจ้ายอมรับว่าเป็นคนบาป
ดังนั้นขอพระนางมารีย์ ผู้ทรงเป็นพรหมจารีเสมอ ขอทูตสวรรค์ และนักบุญทั้งหลาย
และพี่น้องด้วย ช่วยวิงวอนพระเจ้าเพื่อข้าพเจ้าด้วยเทอญ (สังเกตประโยคนี้นะคะ)
3.คาทอลิคกับออโธดอก อังคลิกันทำไมต้องแยกกันครับ มีอะไรแตกต่างถึงไม่เป็นหนึ่งเดียว
เรื่องมันยาวอ่าค่ะ

รายละเอียดมีมากมาย เเต่สรุปโง่ๆได้ว่า
- เรื่องการเมือง (เเต่ก็ไม่เชิงการเมือง) ฯลฯ (คาทอลิก กับ ออธอดอกซ์) ตอนนี้เรากำลังทำศาสนสัมพันธ์ที่ดีต่อกันค่ะ
- เรื่องการเเต่งงานอีกครั้ง ของพระเจ้าเฮนรี่ (คาทอลิกกับเเองกลิกัน) เพราะปกติคาทอลิกห้ามหย่า
อย่างไรก็ตาม...เราเชื่อในพระเจ้าองค์เดียวกัน เเละพยายามอย่างยิ่ง ที่จะไม่ให้เกิดความเเตกเเยก
นี่แหละผมกำลังเปิดใจเรียนรู้ ถ้าผมปิดกั้นผมคงไม่เข้ามาถามเพื่อความกระจ่างหรอกพี่น้อง ถ้าผมปิดกั้นตลอดทั้งชีวิต ผมก็จะกลายเป็นคนที่ไม่รู้เรื่อง ตลอดไป
ขอพระจิตเจ้าทรงนำค่ะ
แล้วทำไมไม่เรียกอังคลิกันว่าคาทอลิก การเมืองกับชื่อไม่น่าจะเกี่ยวกัน มีอะไรที่ต่างกัน ผมอยากให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวครับ
- เเองกลิกันเขาเเยกออกไป ด้วยสาเหตที่ว่าไว้ข้างบน
- สมมติ มีพรรคการเมืองชื่อ "พรรคเมืองไทย" เเล้วลูกพรรคอยากเเยกออกไปตั้งพรรคต่างหาก
จะใช้ชื่อ "พรรคเมืองไทย" เหมือนเดิมก็คงไม่ได้ จริงไหมคะ ก็ต้องหาชื่อใหม่
เวลาที่คุณอธิษฐานกับพระบิดาผู้ซึ่งประสาทพรแต่เพียงผู้เดียว และเป็นพ่อเราด้วย พอคุยกันเสร็จ ทำไมต้องหันขวาไปบอกพระแม่อีกที หรือจะหันซ้ายไปขอกับนักบุญโยเซฟอีกที รู้สึกแปลกๆไหม เพราะเมื่อกี๊เพิ่งจะคุยกับพระบิดาอยู่ ทั้งที่พระบิดาเป็น พระ เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นที่เราต้องติดสนิทด้วย
เราไม่ทำอย่างนั้นไงคะ ไม่หันขวาไปบอกเเม่พระ ไม่หันซ้ายไปขอนักบุญโยเเซฟ
เเต่ทั้ง
เรา เเม่พระ เเละนักบุญยอเเซฟ หันหน้าไปทางเดียวกัน คือหาพระเป็นเจ้าค่ะ เเล้วก็ร่วมกันสวดภาวนาไปพร้อมๆกัน
ตกลงพระแม่เป็นเทพหรือฑูตสวรรค์ หรือมนุษย์กันแน่เนี่ย พระแม่เป็นฑูตสวรรค์ลงมาเกิดเหรอ หรือว่าเพียงมนุษย์เหมือนกับเรา เหมือนกับคุณ เหมือนกับผม แต่พระเจ้าทรงใช้เธอ เหมือนกับใช้โมเสส เหมือนกับใช้ เนหะมีย์ เหมือนกับใช้ดาวิด เพื่อพระนามพระเจ้า
เเม่พระเป็นฑูตสวรรค์ลงมาเกิด....ระวังจะผิดความเชื่อนะคะ เราไม่เชื่อเรื่องเวียนว่ายตายเกิด
เเม่พระเคยเป็น มนุษย์ เหมือนกับเรานี่เเหล่ะค่ะ เหมือนคุณ เหมือนข้าพเจ้า
พระเจ้าทรงเลือกท่าน ให้เป็นพระมารดาของพระองค์บนโลก เเละท่านก็ตอบรับพระประสงค์ของพระองค์

ตอนนี้ ท่านก็เลยได้รับ "บำเหน็จ" ในสวรรค์ ค่ะ
1.พระเจ้าอยากคุยกับเราส่วนตัวมากกว่ารึเปล่า สนิทกับพระเจ้ามากๆ เหมือนพ่อคุยกับลูก พ่อคงไม่อยากให้ลูกฝากคนอื่นมาคุยบ่อยๆ พ่อลูกต้องคุยกัน ส่วนการอธิษฐานเผื่อนั้นเป็นการเสริมสร้างกัน เฉพาะมนุษย์ ใช่หรือไหม ให้รู้จักอ้อนวอน รู้จักรักกัน ห่วงกัน
ผมว่าการอธิษฐานเผื่อ เป็นสำหรับมนุษย์ในโลกนะ เพื่อพระบิดาจะให้เรารู้จักเป็นหนึ่งเดียว เสริมสร้าง อ้อนวอนเพื่อกันและกัน พระเจ้าอยากเสริมสร้างให้ลูกๆที่ยังอยู่ในโลกแห่งความบาปรู้จักการรักกัน พระแม่ไม่ขอให้พระบิดาก็รู้ แล้วทำไมต้องขอ งะ
ถ้าไม่สบายใจ สารภาพบาปกับพระบิดาผู้เปี่ยมไปด้วยความรัก ดีกว่าสารภาพกับบาทหลวงไหม มีปัญหา หันหน้าเข้าหาพระเจ้า
คำถามซํานะคะ ผ่าน.........
ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ
