Belong to the Truth Jesus Christ

BOYZ ประสงค์เมตตา เขียน: ผมก็วัยรุ่นนะ หล่อด้วย

ลี วูจิน เขียน: ผมก็วัยรุ่น ครับ 

ลี วูจิน เขียน: ครับผม

หุหุ

จริงอย่างที่พี่พรายแก้ว บอกครับ

ไม่งั้น คนในห้องของผม

คงไม่โหวตให้ผมเป็นคนเคร่งศาสนาในชั่วโมงแนะแนว (ภูมิใจดีไหม อิอิ)

(เขามองว่าพวกที่ไปวัด โบสถ์ สนใจศาสนามากๆ คือคนที่เคร่งครับ)

ลี วูจิน เขียน: ครับผม

หุหุ

จริงอย่างที่พี่พรายแก้ว บอกครับ

ไม่งั้น คนในห้องของผม

คงไม่โหวตให้ผมเป็นคนเคร่งศาสนาในชั่วโมงแนะแนว (ภูมิใจดีไหม อิอิ)

(เขามองว่าพวกที่ไปวัด โบสถ์ สนใจศาสนามากๆ คือคนที่เคร่งครับ)

ดานุ้งพุงระเบิด เขียน: คนที่ไม่สนใจศรัทธามักจะไม่ค่อยเข้าใจคำว่าศรัทธาครับ แล้วเขาก็เข้าใจคำว่าศรัทธา คือการตีกรอบให้ตัวเอง ขังตัวเองให้อยู่ในกฏ (ซึ่งจริงๆ ไม่ได้มีใครมาบังคับเรา)

Pry-Kaew เขียน:

ดานุ้งพุงระเบิด เขียน: คนที่ไม่สนใจศรัทธามักจะไม่ค่อยเข้าใจคำว่าศรัทธาครับ แล้วเขาก็เข้าใจคำว่าศรัทธา คือการตีกรอบให้ตัวเอง ขังตัวเองให้อยู่ในกฏ (ซึ่งจริงๆ ไม่ได้มีใครมาบังคับเรา)

ใช่ครับ เห็นด้วย เราทำไปด้วยความรัก ความสุข และความผูกพันในพระฯ ตอนสมัยอยู่เมืองนอก ผมเคยอยู่กับรูมเมดคนไทย กิจกรรมใดๆก็แล้วแต่ที่เกี่ยวกับศาสนาคริสตัง แล้วผมกระทำ(แม้นกระทั่งการเปิดมาโพสเว็บนี้ที่เมืองนอก) คนไทยต่างแดน(แต่ไม่เชื่อพระฯ)ยังบอกเสมอว่า เรายึดติดอย่างนู้น อย่างนี้ ไม่Open mindบ้าง เคร่งเกินไปบ้าง(ผมมั่นใจว่าผมเป็นคริสตังที่ห่วยมาก) แม้นกระทั่งวิถีการดำเนินชีวิตและความคิด เขายังไม่พอใจเราเลย คำว่ารักพระ ศรัทธาพระ มันไม่ใช่ความเคร่ง หรือการทำตามกฎบ้าๆบอ อะไรทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวเลย แต่เป็นความผูกพันมากกว่า ซึ่งคนต่างศาสนาไม่เข้า แถมยังพยายามจะเปลี่ยนและมองสิ่งที่เป็นวิถีชีวิตเรา ในแง่ไม่ค่อยดี เมกาประเทศน่าอยู่ครับ เสียอย่างเดียว ฝรั่งในวัดบางคิดว่าพระเจ้าเป็นของอเมริกันเท่านั้น และไร้น้ำใจ รวมทั้งคนไทยในต่างแดน มองความเชื่อคริสตังว่าเป็นความเชื่องมงายไร้สาระ แถมมองคนไทยนับถือคริสตังเป็นบุคคลมีปัญหาอีกต่างหาก(ชุมชนคนไทยที่ผมอยู่ ไม่มีคริสตังไทยเลย แถมวัดฝรั่งก็เหยียดผิวครับ เล่าให้อาจารย์ฝรั่งที่โรงเรียนฟังแล้ว ท่านบอกว่าเด็กนักเรียนที่เป็นคาทอลิกจากต่างชาติที่มาเรียนเมกา(ในรัฐที่ผมอยู่) จากเวียดนาม,แอฟริกา,และลาตินเมกา เจอเหมือนผมหมดเลย ไม่ใช่ผมคนเดียว เวลาเข้าวัด จนพวกนั้นไม่เข้าวัดเลย ตอนอยู่เมกา ในรัฐที่ผมอยู่ จนหลายคนเสียความเชื่อไปในที่สุด)

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

Pry-Kaew เขียน: โดยส่วนตัวผมว่าอย่าไปตัดสินวัยรุ่นเขาเลยครับ มันเป็นปัจจัยด้านวัย ด้านสังคม และด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ(โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Mass Media ที่ส่งผลต่อกลุ่มคนวัยนี้ได้เป็นอย่างสูง) เนื่องจาก


4.หากวัยรุ่นบ้างคน ชอบไปวัด แก้บาป รับศีล สวดภาวนา กลับถูกมองว่า เธอผิดปกติหรือเปล่า ทำไมยังไม่แก่แต่ชอบเข้าวัด(ผมเจอเสมอสมัยเรียน ทั้งๆที่ผมเป็นคริสตังที่ระดับความศรัทธาห่วยมากนะ) กลับกลายเป็นว่าคนเข้าวัด เป็นวัยรุ่นที่ประหลาด แต่วัยรุ่นทีไม่เข้าวัด เป็นเรื่องปกติ ก่อให้เกิดความกดดันทางสังคม(อ้อมๆ) เหมือนทำตัวไม่กลมกลืนกับเพื่อน(ในวัยเดียวกัน) เพราะมนุษย์ไม่ว่าจะอยู่ในวัยใดนั้น ก็ถือเป็น " Animal Social " ด้วยกันทั้งสิ้น

Pry-Kaew เขียน:

ลี วูจิน เขียน: ครับผม

หุหุ

จริงอย่างที่พี่พรายแก้ว บอกครับ

ไม่งั้น คนในห้องของผม

คงไม่โหวตให้ผมเป็นคนเคร่งศาสนาในชั่วโมงแนะแนว (ภูมิใจดีไหม อิอิ)

(เขามองว่าพวกที่ไปวัด โบสถ์ สนใจศาสนามากๆ คือคนที่เคร่งครับ)

เหมือนผมเดะเลยครับ  จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้ศรัทธาและเคร่งอะไรมากมายเลยสักนิด(หากเทียบกับคนในวัด และคนในบอรด์นี้) สาเหตุหลักที่วัยรุ่นต่างศาสนา(ยกเว้นมุสลิม)มองพวกเรา " ดูเหมือนจะเคร่ง " อาจเป็นเพราะว่า

1.โดยปกติแล้วคริสตชน เราสวดภาวนา ไปวัดวันอาทิตย์ ร่วมมิซซา แก้บาป รับศีล เรียนคำสอน เป็นกิจวัตรประจำชีวิตส่วนหนึ่ง เหมือนเรากินข้าวสามเวลา หรือตื่นไปทำงาน(และเรียน)ทุกวัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติกันอยู่แล้วสำหรับพวกเรา แม้นกระทั่งคริสตชนที่แย่ๆแบบผม แต่..........คนต่างศาสนา(บางคนนะ แต่จริงๆส่วนใหญ่เลยละ) ไม่ได้เข้าวัด สวดภาวนา และเรียนคำสอนทางศาสนา เป็นกิจวัตรของชีวิตเหมือนคริสตชน เพราะคนต่างศาสนา(บางคน แต่จริงๆส่วนใหญ่)มักเข้าวัดตามเทศกาลสำคัญทางศาสนา เวลามีทุกข์ เวลาทำบุญ หรือเวลาตาย เป็นต้น และการเรียนคำสอนทางศาสนาและการสวดภาวนาทุกวัน ก็มักจะกระทำแต่เฉพาะคนที่เคร่งจริงๆเท่านั้น ดังนั้นเวลาคนต่างศาสนามองเรา(ซึ่งเป็นวัยรุ่นด้วย) ทำกิจวัตรประจำชีวิตของเราทางศาสนา เลยมองว่าเราดูเหมือนจะเคร่งในสายตาเขาครับ(จริงๆแล้ว ไอ้ที่เข้าเข้าวัดกันง่ะ ก็ไม่ใช่ว่าจะเคร่งกันทุกคน อาทิเช่นผมเป็นต้น) เพราะมุมมองจากการตัดสิน ไม่เหมือนกันครับ เนื่องจากคนละวัฒนธรรมทางความเชื่อทางศาสนา

2.วัดคริสต์จะมีคนทุกเพศทุกวัยในวันอาทิตย์ เพราะเป็นกิจวัตรประจำชีวิตของวัฒนธรรมศาสนา ทำให้ศาสนาและความเชื่อ ดูไม่เป็นเรื่องเฉพาะของ " คนแก่" สำหรับคริสตชน แต่ในทางกลับกัน วัดต่างศาสนาในวันอาทิตย์ มักจะมีแต่คนแก่ต่างศาสนามาวัด ฟังเทศน์ เป็นหลัก ดังนั้นวัยรุ่นต่างศาสนาจึงมองการไปวัดของเราเป็นเรื่องแปลก และสรุปว่าเราคงจะเป็นคนเคร่งศาสนา(จริงๆแล้ว ไม่ได้เคร่งอะไรเลยสักนิด ความเชื่อก็ห่วย ทำไปเพราะความรักและความผูกพันเท่านั้นเอง สำหรับผมนะ)

ขอบคุณครับ

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

Edwardius เขียน:
ต้องใช้คำว่า "สัตว์สังคม" หรือ "Social Animal" ครับท่านพี่

†Ecclēsia เขียน: มาเป็นเด็กเเนวกันดีกว่าค่ะ เข้าวัดเข้าวา เเปลก ไม่เหมือนใคร เเละ ไม่ตามกระเเส (โลก)
เเนวอย่างสร้างสรรค์ ไม่ต้องห้อยกางเขนเหมือนฮิปฮอป เเต่มีกางเขนฝังในจิตใจ

ว๊าว...ว๊าว...
สุดยอด เห็นด้วยจ้า....มีกางเขนฝังในจิตใจ ในสมอง ในความรู้สึก... 

ขอพระจิตเจ้านำทางพวกเราทุกๆคนนะ 

†Ecclēsia เขียน: มาเป็นเด็กเเนวกันดีกว่าค่ะ เข้าวัดเข้าวา เเปลก ไม่เหมือนใคร เเละ ไม่ตามกระเเส (โลก)
เเนวอย่างสร้างสรรค์ ไม่ต้องห้อยกางเขนเหมือนฮิปฮอป เเต่มีกางเขนฝังในจิตใจ

siriya เขียน: :evil:แฮ่   จริง ๆ ด้วย  เพราะผู้ปกครองก็มีส่วนด้วยนะ  วัยรุ่นสมัยนี้  มีเวลาไปเรียนพิเศษ  มีเวลาไปดูหนัง

ไม่มีเวลามาวัดหรือร่วมกิจกรรมที่วัดเลย   กระแสเรียกนักบวชถึงใกล้จะหมดนแล้วนะ   ช่วยกันภาวนาให้วัยรุ่นในปัจจุบันหน่อยนะ