ฟาติมาสาร : จุดเปลี่ยนของ “คาทอลิก” และ “ออโธด็อกซ์”
วันศุกร์ที่แล้ว (5 ธ.ค.) พระศาสนจักรออโธด็อกซ์แห่งมอสโก ต้องพบกับข่าวเศร้าครั้งร้ายแรง เมื่อ “สมเด็จพระอัยกา อเล็กเซย์ ที่ 2” ผู้นำสูงสุด ได้เสด็จสิ้นพระชนม์แล้ว ด้วยวัย 79 ชันษา
การสิ้นพระชนม์ของพระอัยกา ผู้มีศักดิ์เป็น “พี่ใหญ่” ของพระศาสนจักรออโธด็อกซ์ทั่วโลก (ออโธด็อกซ์ มีหลายประเทศ อาทิ รัสเชีย ตุรกี กรีซ โรมาเนีย ฟินแลนด์ บัลแกเรีย สาธารณรัฐเชค ... แต่ว่า รัสเชีย มีคนมากสุด) ก่อให้เกิดเครื่องหมายคำถามว่า “อนาคตคริสตศาสนสัมพันธ์เพื่อความเป็นหนึ่ง ระหว่าง คาทอลิกกับออโธด็อกซ์ จะไปต่อได้ หรือถึงทางตัน” ....
คาทอลิก (พระศาสนจักรตะวันตก) และออโธด็อกซ์ (พระศาสนจักรตะวันออก) แตกหักกันใน ค.ศ.1054 สาเหตุก็เพราะความเห็นหลายเรื่องไม่ตรงกัน เมื่อเป็นดังนี้ พระสันตะปาปา เลโอ ที่ 9 และ พระอัยกา มิคาเอล เครูลาริอุส ที่ 1 จึงใช้อำนาจสูงสุดของตน ตัดขาดกันโดยสิ้นเชิง (หนึ่งในความเห็นที่ไม่ตรงกัน ก็คือ การไว้หนวดเครา พระศาสนจักรตะวันตกสั่งให้สงฆ์โกนหนวดเครา แต่ฝั่งตะวันออกสั่งให้ไว้หนวดเครา)
ผ่านไปหลายพันปี ทั้งสองฟันฝ่าอุปสรรคมานับไม่ถ้วน ถ้าจะไล่ประวัติศาสตร์ใกล้ตัว ต้องเริ่มที่ ค.ศ.1990 สหภาพโซเวียตล่มสลายพร้อมกับระบอบคอมมิวนิสต์ ศาสนาในประเทศนี้ จึงร่อแร่เพราะไม่มีผู้นำที่จะเป็นเสาหลักและรวบรวมศาสนิกชน พระอัยกา อเล็กเซย์ ที่ 2 จึงมีบทบาทอย่างมากในการกอบกู้พระศาสนจักรออโธด็อกซ์ให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง
ช่วงเวลาดังกล่าว ตรงกับสมณสมัยปกครองของ พระสันตะปาปา จอห์น พอล ที่ 2 พระองค์จึงอยากใช้โอกาสนี้ “ขอคืนดีและปรับความเข้าใจกัน” แต่ทว่า พระอัยกา ไม่ต้องการปฏิสัมพันธ์ด้วย โดยกล่าวว่า คาทอลิกต้องยอมขอโทษต่อกรณี “แย่งลูกแกะ” เสียก่อน (แย่งลูกแกะหมายถึงเหตุการณ์ที่ชาวออโธด็อกซ์จำนวนมาก เปลี่ยนมาเป็นคาทอลิกในช่วงสงครามเย็น ... จนถึงปัจจุบัน พระศาสนจักรคาทอลิกก็ไม่ขอโทษต่อกรณีดังกล่าว เพราะมองว่า เกิดจากความศรัทธาของตัวบุคคลมากกว่า)

ค.ศ.1991 พระอัยกาอเล็กเซย์ ที่ 2 ประกาศจุดยืน พระศาสนจักรออโธด็อกซ์แห่งมอสโก จะไม่เข้าร่วมการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิกอีกต่อไป (แต่ออโธด็อกซ์อื่นๆเข้าร่วม) ค.ศ.1994 พระสันตะปาปา จอห์น พอล ที่ 2 พยายามขอคืนดีอีกครั้ง ด้วยการออกสมณสาส์น “UT UNUM SINT” (เพื่อความเป็นหนึ่งเดียว) เนื้อหาหลักกล่าวว่า พระศาสนจักรคาทอลิกทำทุกทางเพื่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกันในกลุ่มคริสตชน นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งประโยคคลาสสิก ก็คือ “พระศาสนจักรของพระเจ้า จะสุขภาพดีได้ ก็ต้องหายใจด้วยปอด 2 ข้าง” (หมายถึงคาทอลิกและออโธด็อกซ์) ... แต่พระอัยกาแห่งมอสโก ก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆกลับมา
ค.ศ.1999 และ ค.ศ.2001 พระสันตะปาปา จอห์น พอล ที่ 2 เสด็จเยือนโรมาเนียและกรีซตามลำดับ พระองค์ได้พบพระอัยกาผู้ปกครองพระศาสนจักรออโธด็อกซ์ในประเทศดังกล่าว มีนักข่าวถามว่า เมื่อไหร่จะเยือนรัสเชียบ้าง พระองค์ยิ้มแล้วตอบว่า “นี่คือความฝันสูงสุดของพ่อ แต่ต้องขึ้นกับทางมอสโกว่า พร้อมหรือไม่” ... ไม่กี่วันถัดมา พระอัยกา อเล็กเซย์ ที่ 2 ตรัสตอบทันที “พบต่อเมื่อขอโทษกรณีขโมยลูกแกะก่อน !!”

พระอัยกา อเล็กเซย์ ที่ 2 ประมุขพระศาสนจักรออโธด็อกซ์แห่งมอสโก
ค.ศ.2004 บั้นปลายชีวิตของพระสันตะปาปา จอห์น พอล ที่ 2 พระองค์ออกมากล่าวขอโทษพระศาสนจักรออโธด็อกซ์อย่างเป็นทางการ แต่ไม่ใช่เรื่อง “ขโมยลูกแกะ” มันเป็นเรื่องแตกหักในค.ศ.1054 และเรื่องสงครามครูเสด พร้อมตรัสว่า “จะให้ข้าพเจ้าไปพบท่าน (อเล็กเซย์) ที่ไหนก็ได้ ขอเพียงแค่ เราได้ปรับความเข้าใจกัน” แต่พระอัยกา อเล็กเซย์ ที่ 2 ไม่ออกมาให้ความเห็นใดๆ มีเพียงพระอัยกา บาร์โธโลมิว ที่ 1 ประมุขพระศาสนจักรออโธด็อกซ์แห่งคอนสแตนติโนเปิ้ล (มีศักดิ์เป็น “พี่รอง” ของออโธด็อกซ์ทั่วโลก) ที่ออกมายอมรับคำขอโทษนี้
ค.ศ.2005 มิสซาปลงพระศพของพระสันตะปาปา จอห์น พอล ที่ 2 มีผู้แทนพระศาสนจักรออโธด็อกซ์เข้าร่วมกันครบ ยกเว้น “พี่ใหญ่” พระอัยกา อเล็กเซย์ ที่ 2 การปรากฏตัวของผู้แทนออโธด็อกซ์แบบครบครัน ทำให้หลายคนมองว่า ออโธด็อกซ์พร้อมคืนดีกับคาทอลิก แต่ “พี่รอง” พระอัยกา บาร์โธโลมิว ที่ 1 ตรัสว่า “ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงเรื่องนี้”

สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 จับมือกับ พระอัยกา บาร์โธโลมิว ที่ 1 ระหว่างการเยือนตุรกี
ค.ศ.2006 – 2008 ความสัมพันธ์ระหว่างคาทอลิกและออโธด็อกซ์เริ่มดีขึ้น พระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ส่งพระคาร์ดินัลเป็นผู้แทนพระองค์เข้าเฝ้าพระอัยกา อเล็กเซย์ ที่ 2 ถึงมอสโก กระนั้น การคืนดีอย่างเป็นทางการยังไม่เกิดขึ้น เพราะพระอัยกาอเล็กเซย์ ยังยืนยันว่า คาทอลิกต้องขอโทษก่อนเท่านั้น
ค.ศ.2008 – อนาคต ... จุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงแล้ว ตอนนี้ พระศาสนจักรออโธด็อกซ์แห่งมอสโกกำลังเลือกตั้งพระอัยกาองค์ใหม่ ออโธด็อกซ์ประเทศอื่นๆ ก็จับตาผู้นำคนใหม่เช่นกัน เพราะการคืนดีกับพระศาสนจักรคาทอลิกขึ้นกับพี่ใหญ่อย่างมอสโกว่า จะนำทางน้องไปทางไหน พระศาสนจักรออโธด็อกซ์แห่งคอนสแตนติโนเปิ้ล ซึ่งเป็นน้องรอง เห็นด้วยที่จะให้คืนดีกับคาทอลิก และยังยอมรับความจริงตามหลักเทวศาสตร์ที่ว่า พระสังฆราชแห่งกรุงโรม (หมายถึงพระสันตะปาปา) เป็นผู้สานงานตัวจริงต่อจากนักบุญเปโตร
... งานนี้ น่าสนใจจริงๆ ถ้าออโธด็อกซ์ยอมคืนดี ความฝันสูงสุดของพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ คงเป็นจริง เพราะพระองค์ตรัสไว้ในช่วงเริ่มสมณสมัยว่า “งานสำคัญที่สุดของพ่อ คือ การทำให้คริสตชนได้เป็นหนึ่งเดียวกัน” (แต่ผมเชื่อว่า มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอก เพราะต่างฝ่ายก็มี “จุดยืน” ของตนเอง)
AVE MARIA
http://catholicworldtour.spaces.live.com/blog/cns!EA91C1C5E2FBFD4F!4353.entry