ประเทศไทยมี “กองทัพแห่งความรอด (Salvation Army)“ อย่างเป็นทางการแล้ว

คริสตสัมพันธ์ เอกภาพในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Arttise
โพสต์: 870
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

ศุกร์ มี.ค. 01, 2024 11:18 pm

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

จากการตรวจสอบโดยเบื้องต้น “กองทัพแห่งความรอด (Salvation Army)” ได้เริ่มทำพันธกิจในประเทศไทยเมื่อวันอังคารที่ 13 มิถุนายน ค.ศ. 2023 ปกติแอดมินเคยได้ยินชื่อของคณะนี้จากต่างประเทศ ใกล้ประเทศไทยที่สุดก็คือ ประเทศสิงคโปร์ (Singapore) ที่มีคณะนี้

ถ้าถามว่า “คณะนี้ถือว่าเป็นคริสตชน (Christian) มั้ย?” ความรู้ของแอดมินคงตอบไม่ได้เต็มปาก แต่ถ้าตอบโดย “ความคิดส่วนตัวของแอดมิน” แอดมินขอตอบว่า “ไม่ใช่” แม้เขาจะเชื่อในพระตรีเอกภาพ (Trinity) , เชื่อว่าพระเยซูคือพระเจ้า , เชื่อในการกำเนิดมาจากมารีย์ หญิงพรมจารี , เชื่อในการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซู , เชื่อว่าพระเยซูจะเสด็จกลับมาอีกครั้ง เป็นต้น

แต่พวกเขาไม่มีการโปรดศีลล้างบาป (บัพติศมา) Baptism และ ศีลมหาสนิท (พิธีมหาสนิท) Lord’s Supper ซึ่งตามหลักแล้วจะไม่นับว่า เป็นคริสตชน (Christian) ซึ่งจะอยู่ในประเภทเดียวกับ “สมาคมมิตรภาพ (Society of Friends) หรือ เควกเกอร์ (Quaker)“ แต่ก็ไม่เป็นลัทธิเทียมเท็จแบบ “ศาสนจักรของพระเยซูคริสต์แห่งวิสุทธิชนยุคสุดท้าย (Church of Jesus Christ of Latter-day Saints) หรือ มอร์มอน (Mormon)” หรือ “พยานพระยะโฮวา (Jehovah's Witnesses)“ ที่ปฎิเสธหลักพระตรีเอกภาพ (Trinity) , ปฎิเสธความเป็นพระเจ้าของพระเยซู , บิดเบือนพระคัมภีร์ , เขียนพระคัมภีร์ของลัทธิตัวเองขึ้นใหม่ เป็นต้น

🇹🇭 Salvation Army Work in Thailand Officially Recognised (กองทัพแห่งความรอดได้ทำพันธกิจในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ)
https://www.salvationarmy.org/ihq/news/ ... MLM-VfKTsk

⚔️ ข้อมูล กองทัพแห่งความรอด (Salvation Army)

รูปภาพ

⛪️ คณะกองทัพแห่งความรอด (Salvation Army)

✝️ ชื่อและที่มา

เริ่มจากศาสนาจารย์วิลเลียม บูช (William Booth) ในคณะเมธอดิสต์ในประเทศอังกฤษที่สนใจการประกาศพระกิตติคุณ และช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากในสังคม จึงปลีกตัวจากคณะเมธอดิสต์ออกมาตั้งชื่อพันธกิจคริสเตียน (Christian Mission) ขึ้นในปีคริสตศักราช 1865 สำหรับชื่อกองทัพแห่งความรอด (Salvation Army) ถูกใช้จริง ๆ อยู่ในปีคริสตศักราช 1878 ในลักษณะของ ขบวนการกลุ่มอีแวนเจลิคัลเท่านั้น ไม่ได้เป็นคริสตจักร และเรียกสถานที่ตั้งพันธกิจว่า “สถานี” แม้ว่าจะมีแนวความเชื่อ และการปฎิบัติพันธกิจเหมือนกับคริสตจักรโปรแตสแตนต์ทั่วไป ยกเว้นพิธีศักดิ์สิทธิ์ และรูปแบบการนมัสการ

✝️ ลักษณะพิเศษ

1. ภาพที่เด่นชัดมากคือการแต่งกายชุดทหาร มียศชั้น ธงชัย และใช้วินัยแบบทหาร

2. ปฏิเสธพิธีศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าพิธีบัพติสมา และพิธีมหาสนิท โดยอ้างว่านี่เป็นส่วนเกินพระมหาบัญชาที่ให้รับบัพติสมาในพระนามพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ถูกอ้างว่าเป็นการรับบัพติสมาโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ใช่รูปแบบการรับบัพติสมาที่ พระศาสนจักร หรือคริสตจักรทำอยู่

3. เน้นการประกาศพระกิตติคุณ และการช่วยเหลือผู้คนที่ตกทุกข์ได้ยาก เพราะฉะนั้นจะมีวงดนตรีของกองทัพเพื่องานประกาศพระกิตติคุณ มีสถานที่สงเคราะห์เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในความทุกข์ยากลำบากในสังคม ภาพที่เด่นมากภาพหนึ่งของกองทัพแห่งความรอด คือการรณรงค์ขอการถวายหรือบริจาคประชาชนทั่วไปตามชุมชนต่างๆ เพื่อนำเงินหรือสิ่งของที่ได้ไปช่วยเหลือผู้ที่ต้องการ

✝️ หลักข้อเชื่อ

1. ยึดถือพระคัมภีร์เท่านั้นทีมีอำนาจสูงสุด และเป็นมาตรฐานของความเชื่อและการดำเนินชีวิต

2. มีหนังสือวินัยและคำสัตยาบัน 16 ข้อ ที่เป็นทั้งหลักข้อเชื่อ หลักคำสอน รวมทั้งกฎเกณฑ์ที่เป็นแนวทางปฏิบัติของกองทัพ ซึ่งทุกคนที่เข้าเป็นสมาชิกของกองทัพต้องทำสัตยาบัน ฝึกฝน และยึดถือข้อกำหนดทั้ง 16 ข้อนี้อย่างเคร่งครัด

✝️ หลักคำสอน

1. นอกจากหนังสือวินัยและคำสัตยาบัน 16 ข้อ แล้วผู้ที่จะเข้าสู่กองทัพก็ต้องให้คำมั่นสัญญาว่า จะละทิ้งความสุขของโลกนี้ใช้ชีวิตที่บริสุทธิ์ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ไม่เล่นการพนัน ต้องสัตย์ซื่อ และจงรักภักดีต่อกองทัพแห่งความรอด

2. เมื่อได้ทำสัตยาบันแล้ว ก็มีขั้นตอนของการอบรมสั่งสอน เน้นเรื่องการเชื่อฟังผู้บังคับบัญชา รวมทั้งการแต่งงานก็ต้องได้รับอนุญาตจากผู้บังคับบัญชา และจะไม่แต่งเมื่อถูกห้ามไม่ให้แต่งงาน ต้องคำนึงว่ามีผลประโยชน์ต่อกองทัพเป็นที่ตัวในกรณีที่ไม่เชื่อฟังก็จะถูกลดยศเป็นเพียงพลทหารเท่านั้น

3. คำสอนเกี่ยวกับพิธีศักดิ์สิทธิ์ และการนมัสการปฏิเสธพิธีศักดิ์สิทธิ์ ที่นิกายโปรแตสแตนต์แทบทุกคณะปฏิบัติสืบทอดมาตลอด โดยอ้างว่าสิ่งที่สำคัญเท่ากันคือการอธิษฐานติดสนิทกับพระเจ้า เพราะฉะนั้นในกองทัพแห่งความรอดจึงไม่มีการให้บัพติสมา และพิธีมหาสนิท และสำหรับการนมัสการก็ไม่มีพิธีกรรมใดๆ เรียบง่ายเหมือนการประกาศพระกิตติคุณมากกว่า และสิ่งที่สนใจมากอย่างหนึ่งคือ การเป็นพยานของสมาชิก

4. คำสอนเกี่ยวกับการปกครอง ใช้รูปแบบทหารในกองทัพเคร่งครัดและมีวินัย มีระดับชั้นดังนี้ จอมพลคือผู้ที่มีอำนาจสูงสุด มาจากการเลือกตั้งของสภาทหารสูงสุด ที่มียศสูงสุด 55 ท่านเป็นผู้เลือกจอมพล นอกจากนี้ลงมาเป็นนายพล นายพัน นายร้อยจ่าคือผู้ที่กำลังรับการฝึกอบรม เพื่อก้าวสู่การเป็นนายร้อยและพลทหารก็คือสมาชิกธรรมดา

+++

ในประเทศไทยเท่าที่ทราบ ยังไม่มีโปรแตสแตนต์คณะนี้... ที่ผู้เขียนมีโอกาส ร่วมนมัสการ และพบปะคริสตชนกลุ่มนี้สมัยเรียน ที่ประเทศสิงคโปร์ ( ค.ศ. 1996-1997 ) เราเรียนสถาบันเดียวกัน ตอนแรกที่เจอคิดว่าพวกเขาเป็นทหารเรือ เพราะสตรีแต่งเครื่องแบบกระโปรงน้ำเงิน เสื้อขาว ติดยศ มีหมวกน้ำเงิน... ส่วนผู้ชายใส่ชุดสีขาว หมวกขาว และติดยศ... เห็นเขามาใช้ห้องสมุด เข้าเรียนในชั้นต่างๆ และมีโอกาสรู้จักกัน พอเขาบอกว่าเขาเป็นกลุ่ม กองทัพพระคริสต์ เลยถึงบางอ้อ

✝️ โปรแตสแตนต์ ๓ [๓/๓]
https://www.facebook.com/share/N1ftxz7e ... tid=WC7FNe

📹 The Salvation Army Explained in 4 minutes (อธิบายเกี่ยวกับกองทัพแห่งความรอดภายใน 4 นาที)
https://youtu.be/ZHkC4AtWnu0?si=s5yTD6VY6MfWU4la

❓ What is the Salvation Army? (กองทัพแห่งความรอดคืออะไร?)
https://youtu.be/RRSaKaFEzaI?si=J-dfuQ30i0s4Kv7T

#คริสต์ #กองทัพแห่งความรอด #ประเทศไทย #ไทย #SalvationArmy #Thailand #thai

CR. : https://www.facebook.com/share/V3vE7aed ... tid=WC7FNe
ตอบกลับโพส