แตกประเด็นจากกระทู้ : วัดออธอร์ดอกซ์ --> ฝากถึงเพื่อนพี่น้องทุกคน
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. มี.ค. 01, 2007 7:10 am
กรณีที่พี่ตั้วชวนไปวัดออธอร์ดอกซ์....น่าสน
หึๆ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวไปด้วยดีกว่า
และขอพล่ามอะไรแยกออกมาจากกระทู้นั้น
เพื่อฝากถึงเพื่อนพี่น้องทุกคน
..........................
ไม่ใช่แค่กับออธอร์ดอกซ์หรอกนะฮะ
แต่ทั้งความหวัง, มอร์มอน หรือ(นิกาย)อื่นๆ
(ความจริงไม่ชอบคำว่านิกาย เพราะตอนพระเยซูตั้งพระศาสนจักร ไม่ได้แบ่งนิกายไว้
และไม่ได้บอกให้มีนิกาย อยากให้ทุกๆ คนมองนิกายอื่นเป็นพี่น้องกัน)
อีกอย่างเอชก็เห็นว่าการทำความรู้จักและเป็นมิตรไม่ใช่เรื่องเสียหาย
มีอะไรขัดใจลองเก็บเอาไว้ในใจและพยายามกำจัดมัน
ลองมองคนที่เราไม่พอใจด้วยสายตาปราศจากอคติ และพยายามทำให้เขาเข้าใจ
แม้มันอาจจะไม่เกิดประโยชน์ แต่เราก็ต้องพยายาม พยายาม และพยายามต่อไป
ถ้าเขาไม่เข้าใจเลยแม้จะพยายามเพียงเท่าใด ก็ทำให้เขาเห็นพระฉายาของพระองค์ในตัวเรา
หรือท้ายสุด ก็ลองเปลี่ยนเป็นมองเขาด้วยความสงสาร เห็นใจ ว่าทำไมจึงถูกมารหลอกล่อได้ง่ายเช่นนี้
และเห็นใจ เอาใจช่วย เพื่อเขา
ด้วยเราเป็นผู้เดินตามรอยองค์พระเยซู พระผู้ที่มีใจรักทุกคนบนโลกนี้
ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่รัก เชื่อ หรือเกลียด อิจฉาพระองค์
พระองค์ก็รักเขาและพร้อมจะให้อภัยเขาเสมอ ถ้าเขากลับมาหาพระองค์
แล้วเราล่ะ บอกว่ารักพระองค์ เชื่อพระองค์ แต่ทำตามพระองค์ไม่ได้หรือ
และด้วยเรายกเอาพระแม่พรมจารีย์ผู้มีความสุภาพ อ่อนโยน และนอบน้อมเป็นแบบอย่าง
ทำไมเราต้องไปตั้งแง่รังเกียจใคร ให้เกิดข้อครหาจากบุคคลภายนอกที่มองเรา (อย่างนี้เรียกซูแปร์ติซังได้ป่ะ)
แต่ก่อนเอชก็เคยเป็นนะ พาลพาโลให้กับนิกายอื่น หาว่าเขาคำสอนบิดเบือน เชื่อผิดๆ หรืออะไรก็ตาม
แต่เดี๋ยวนี้..(ต้องขอบคุณพี่ตั้ว) เริ่มพยายามเปลี่ยนตัวเอง ให้มองเขาด้วยสายตาเป็นมิตร
บางครั้งก็แอบคิดไปเองว่า "ยังไงเขาก็เชื่อในพระเหมือนเรา" มันทำให้ใจเราเย็นขึ้นเยอะ
และนั่นหล่ะ สุดท้ายเอชเชื่อว่า เขาจะมองเห็นพระฉายาของพระในตัวเรา และเชื่อเราเอง
หลายๆ ครั้งที่เอชเห็นพี่น้องในบอร์ด พาลพาโล หรือโกรธ ด่าว่า เพื่อนๆ ร่วมศาสนา
แต่ก่อนร่วมด้วย เดี๋ยวนี้เริ่มตกใจ และจะพยายามตอบกระทู้ด้วยตัวอักษรที่มองแบบไม่ใส่ใจที่สุด
หรือไม่ตอบไปเลย
อยากให้พี่น้องหลายๆ คนรำลึกไว้ว่า
การรำลึกถึงพระองค์พระผู้ไถ่ ไม่ใช่เพียงเข้าร่วมพิธีมิสซาทุกสัปดาห์
หรือเพียงสวดสายประคำทุกวัน เพราะนั่นมันเป็นพิธีกรรม (ถ้าจะพูดให้ถูกแบบตรงๆ มันคือเปลือก)
แต่อยากให้ลองนำเอาคำสอนที่เรียนมาในแง่ของพระประวัติของพระองค์ พระเยซูของเรา
พินิจพิจารณา ว่าทำไมพระองค์ทำอย่างนั้น ทำแล้วเกิดผลอย่างไร มันชอบธรรมหรือเปล่า(แน่นอนว่าชอบธรรม)
ก็ในเมื่อมันชอบธรรม แล้วทำไมเราไม่ปฏิบัติตาม
เอชคิดว่าการปฏิบัติตามพระองค์ มันน่าจะเป็นวิธีรำลึกถึงพระองค์ที่ดีที่สุด และเป็นการประกาศพระวาจาที่ได้ผลที่สุด
เพราะพระองค์อยากให้เรามอบความรักให้แก่กันและกัน
..........................
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะไปพยายามรักผู้ที่ไม่เชื่อในพระองค์
ลองหันกลับมา และพยายามทำใจให้รัก และสุภาพ นบน้อมกับเพื่อนร่วมศาสนา
ยึดความเชื่อและคำสอน(ที่ทุกคนได้เรียนไปแล้ว) เป็นแบบอย่าง คิดและปฏิบัติตาม
ไม่ใช่เพียงการท่องคำสอน และปฏิบัติตามพิธีกรรม แต่ใช้ใจของเรามองลงไป
ว่าพระเป็นเจ้าประสงค์อย่างไร พระเยซูทรงดำเนินพระชนม์ชีพอย่างไร
เพื่อเราจะได้มีโอกาสเข้าใกล้พระองค์มากขึ้นเรื่อยๆ....เพื่อรอการเข้าเฝ้าพระผู้ไถ่ของเรา..... เมื่อวันนั้นมาถึง
ปล1. นี่เป็นเพียงการตอบกระทู้ โดยอาศัยความเห็นของเอชเป็นเกณฑ์นะฮะ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยและชี้แนะด้วย
ปล2. หลายอย่างที่พล่ามมาเอชเองก็ยังทำไม่ได้หรอกนะฮะ เพียงแต่มีความเห็นเช่นนั้น
ปล3. ร้อยละ 90 ที่พล่ามมา ไม่เกี่ยวข้องกับกระทู้นี้เท่าไหร่นัก แต่ขอระบายลงตรงนี้ล่ะนะฮะ
หึๆ ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวไปด้วยดีกว่า
และขอพล่ามอะไรแยกออกมาจากกระทู้นั้น
เพื่อฝากถึงเพื่อนพี่น้องทุกคน
..........................
ไม่ใช่แค่กับออธอร์ดอกซ์หรอกนะฮะ
แต่ทั้งความหวัง, มอร์มอน หรือ(นิกาย)อื่นๆ
(ความจริงไม่ชอบคำว่านิกาย เพราะตอนพระเยซูตั้งพระศาสนจักร ไม่ได้แบ่งนิกายไว้
และไม่ได้บอกให้มีนิกาย อยากให้ทุกๆ คนมองนิกายอื่นเป็นพี่น้องกัน)
อีกอย่างเอชก็เห็นว่าการทำความรู้จักและเป็นมิตรไม่ใช่เรื่องเสียหาย
มีอะไรขัดใจลองเก็บเอาไว้ในใจและพยายามกำจัดมัน
ลองมองคนที่เราไม่พอใจด้วยสายตาปราศจากอคติ และพยายามทำให้เขาเข้าใจ
แม้มันอาจจะไม่เกิดประโยชน์ แต่เราก็ต้องพยายาม พยายาม และพยายามต่อไป
ถ้าเขาไม่เข้าใจเลยแม้จะพยายามเพียงเท่าใด ก็ทำให้เขาเห็นพระฉายาของพระองค์ในตัวเรา
หรือท้ายสุด ก็ลองเปลี่ยนเป็นมองเขาด้วยความสงสาร เห็นใจ ว่าทำไมจึงถูกมารหลอกล่อได้ง่ายเช่นนี้
และเห็นใจ เอาใจช่วย เพื่อเขา
ด้วยเราเป็นผู้เดินตามรอยองค์พระเยซู พระผู้ที่มีใจรักทุกคนบนโลกนี้
ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่รัก เชื่อ หรือเกลียด อิจฉาพระองค์
พระองค์ก็รักเขาและพร้อมจะให้อภัยเขาเสมอ ถ้าเขากลับมาหาพระองค์
แล้วเราล่ะ บอกว่ารักพระองค์ เชื่อพระองค์ แต่ทำตามพระองค์ไม่ได้หรือ
และด้วยเรายกเอาพระแม่พรมจารีย์ผู้มีความสุภาพ อ่อนโยน และนอบน้อมเป็นแบบอย่าง
ทำไมเราต้องไปตั้งแง่รังเกียจใคร ให้เกิดข้อครหาจากบุคคลภายนอกที่มองเรา (อย่างนี้เรียกซูแปร์ติซังได้ป่ะ)
แต่ก่อนเอชก็เคยเป็นนะ พาลพาโลให้กับนิกายอื่น หาว่าเขาคำสอนบิดเบือน เชื่อผิดๆ หรืออะไรก็ตาม
แต่เดี๋ยวนี้..(ต้องขอบคุณพี่ตั้ว) เริ่มพยายามเปลี่ยนตัวเอง ให้มองเขาด้วยสายตาเป็นมิตร
บางครั้งก็แอบคิดไปเองว่า "ยังไงเขาก็เชื่อในพระเหมือนเรา" มันทำให้ใจเราเย็นขึ้นเยอะ
และนั่นหล่ะ สุดท้ายเอชเชื่อว่า เขาจะมองเห็นพระฉายาของพระในตัวเรา และเชื่อเราเอง
หลายๆ ครั้งที่เอชเห็นพี่น้องในบอร์ด พาลพาโล หรือโกรธ ด่าว่า เพื่อนๆ ร่วมศาสนา
แต่ก่อนร่วมด้วย เดี๋ยวนี้เริ่มตกใจ และจะพยายามตอบกระทู้ด้วยตัวอักษรที่มองแบบไม่ใส่ใจที่สุด
หรือไม่ตอบไปเลย
อยากให้พี่น้องหลายๆ คนรำลึกไว้ว่า
การรำลึกถึงพระองค์พระผู้ไถ่ ไม่ใช่เพียงเข้าร่วมพิธีมิสซาทุกสัปดาห์
หรือเพียงสวดสายประคำทุกวัน เพราะนั่นมันเป็นพิธีกรรม (ถ้าจะพูดให้ถูกแบบตรงๆ มันคือเปลือก)
แต่อยากให้ลองนำเอาคำสอนที่เรียนมาในแง่ของพระประวัติของพระองค์ พระเยซูของเรา
พินิจพิจารณา ว่าทำไมพระองค์ทำอย่างนั้น ทำแล้วเกิดผลอย่างไร มันชอบธรรมหรือเปล่า(แน่นอนว่าชอบธรรม)
ก็ในเมื่อมันชอบธรรม แล้วทำไมเราไม่ปฏิบัติตาม
เอชคิดว่าการปฏิบัติตามพระองค์ มันน่าจะเป็นวิธีรำลึกถึงพระองค์ที่ดีที่สุด และเป็นการประกาศพระวาจาที่ได้ผลที่สุด
เพราะพระองค์อยากให้เรามอบความรักให้แก่กันและกัน
..........................
เพราะฉะนั้นก่อนที่จะไปพยายามรักผู้ที่ไม่เชื่อในพระองค์
ลองหันกลับมา และพยายามทำใจให้รัก และสุภาพ นบน้อมกับเพื่อนร่วมศาสนา
ยึดความเชื่อและคำสอน(ที่ทุกคนได้เรียนไปแล้ว) เป็นแบบอย่าง คิดและปฏิบัติตาม
ไม่ใช่เพียงการท่องคำสอน และปฏิบัติตามพิธีกรรม แต่ใช้ใจของเรามองลงไป
ว่าพระเป็นเจ้าประสงค์อย่างไร พระเยซูทรงดำเนินพระชนม์ชีพอย่างไร
เพื่อเราจะได้มีโอกาสเข้าใกล้พระองค์มากขึ้นเรื่อยๆ....เพื่อรอการเข้าเฝ้าพระผู้ไถ่ของเรา..... เมื่อวันนั้นมาถึง
ปล1. นี่เป็นเพียงการตอบกระทู้ โดยอาศัยความเห็นของเอชเป็นเกณฑ์นะฮะ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยและชี้แนะด้วย
ปล2. หลายอย่างที่พล่ามมาเอชเองก็ยังทำไม่ได้หรอกนะฮะ เพียงแต่มีความเห็นเช่นนั้น
ปล3. ร้อยละ 90 ที่พล่ามมา ไม่เกี่ยวข้องกับกระทู้นี้เท่าไหร่นัก แต่ขอระบายลงตรงนี้ล่ะนะฮะ