Belong to the Truth Jesus Christ

เห็นเด็กเยาวชนที่เป็นพี่น้องคริสเตียนแถวบ้านเขาเปิดพระคำภีร์และอ่านเก่งมากกกเลยคริสตังน่าจะมีก่อนมิสซาหรือหลังมิสซาคงจะดีเพราะพระคัมภีร์มีอะไรที่ดีๆเยอะมากๆๆเลย

ก็มีกลุ่มคาทอลิคอ่านพระคัมภีร์ อยู่เหมือนกันครับ แต่ไม่ค่อยกว้างขวาง



อันที่จริง ในมิซซาเอง ก็มีการกล่าวพระคัมภีร์ ในบทอ่าน ซึ่งตามหลักการแล้ว คุณพ่อก็จะเทศน์ขยายในพระคัมภีร์ที่ยกมาครับ

ใช่เเล้ว ถ้าท่านเข้าวัด3ปีครบ ท่านก็จะรู้พระวรสารครบ
ส่วนใครจะเปิดคล่องหรือเปล่า อยู่ที่ความฝักใฝ่ส่วนตัวค่ะ ว่าจะเปิดบ่อยเเค่ไหน 

การศึกษา Bible ก็เป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เราเติบโตในฝ่ายวิญญาณได้ครับ
การศึกษาพระคัมภีร์เป็นกลุ่ม จะเป็นการดีเพราะเมื่อสงสัยสิ่งใดสามารถถามได้จากผู้สอนโดยตรงครับ

ยศิโยน:ผู้ยำเกรงพระเจ้า เขียน: ก็มีกลุ่มคาทอลิคอ่านพระคัมภีร์ อยู่เมหือนกันครับ แต่ไม่ค่อยกว้างขวาง



อันที่จริง ในมิซซาเอง ก็มีการกล่าวพระคัมภีร์ ในบทอ่าน ซึ่งตามหลักการแล้ว คุณพ่อก็จะเทศน์ขยายในพระคัมภีร์ที่ยกมาครับ

รู้มันทุกอย่างเลยเนอะไอ้สารานุกรมคาทอลิกเดินได้

S.Paulvs De Bangkok เขียน:

ยศิโยน:ผู้ยำเกรงพระเจ้า เขียน: ก็มีกลุ่มคาทอลิคอ่านพระคัมภีร์ อยู่เมหือนกันครับ แต่ไม่ค่อยกว้างขวาง



อันที่จริง ในมิซซาเอง ก็มีการกล่าวพระคัมภีร์ ในบทอ่าน ซึ่งตามหลักการแล้ว คุณพ่อก็จะเทศน์ขยายในพระคัมภีร์ที่ยกมาครับ

รู้มันทุกอย่างเลยเนอะไอ้สารานุกรมคาทอลิกเดินได้

อาจจะเป็นเพราะว่าน้องยศเค้ามักจะชอบหาขวนขวายหาความรู้อยู่เรื่อย ๆ นะครับ
เพราะเรื่องบางอย่าง ผมเองก็ยอมรับว่าน้องยศเค้าเข้าใจมากกว่าผมเสียอีก
บางครั้ง ผมเองอ่านมุมมองของยศ แล้วเข้าใจอะไรมากขึ้นนะครับ
เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เราหลาย ๆ คน โดยเฉพาะผมที่ต้องหาความรู้เพิ่มเติมขึ้นบ่อย ๆ ครับ

น้องแทงค์ก็ลองขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมซิครับ จะได้ช่วยแบ่งปันซึ่งกันและกันได้นะครับ

Batholomew เขียน:

S.Paulvs De Bangkok เขียน:

ยศิโยน:ผู้ยำเกรงพระเจ้า เขียน: ก็มีกลุ่มคาทอลิคอ่านพระคัมภีร์ อยู่เมหือนกันครับ แต่ไม่ค่อยกว้างขวาง



อันที่จริง ในมิซซาเอง ก็มีการกล่าวพระคัมภีร์ ในบทอ่าน ซึ่งตามหลักการแล้ว คุณพ่อก็จะเทศน์ขยายในพระคัมภีร์ที่ยกมาครับ

รู้มันทุกอย่างเลยเนอะไอ้สารานุกรมคาทอลิกเดินได้

อาจจะเป็นเพราะว่าน้องยศเค้ามักจะชอบหาขวนขวายหาความรู้อยู่เรื่อย ๆ นะครับ
เพราะเรื่องบางอย่าง ผมเองก็ยอมรับว่าน้องยศเค้าเข้าใจมากกว่าผมเสียอีก
บางครั้ง ผมเองอ่านมุมมองของยศ แล้วเข้าใจอะไรมากขึ้นนะครับ
เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เราหลาย ๆ คน โดยเฉพาะผมที่ต้องหาความรู้เพิ่มเติมขึ้นบ่อย ๆ ครับ

น้องแทงค์ก็ลองขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติมซิครับ จะได้ช่วยแบ่งปันซึ่งกันและกันได้นะครับ

ผมคิดว่าน้องแทงค์ก็มีความรู้ทางพระคัมภีร์เป็นอย่างดี ดูได้จากบทความที่น้องแทงค์นำมาลงให้อ่านกัน ผมเองยังแต่งไม่ได้ดีเท่าน้องแทงค์เลย

saroonram เขียน: เห็นเด็กเยาวชนที่เป็นพี่น้องคริสเตียนแถวบ้านเขาเปิดพระคำภีร์และอ่านเก่งมากกกเลยคริสตังน่าจะมีก่อนมิสซาหรือหลังมิสซาคงจะดีเพราะพระคัมภีร์มีอะไรที่ดีๆเยอะมากๆๆเลย

คริสเตียน หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ ด้วยพระวจนะ/พระวาจาของพระเจ้า ค่ะ

การเน้นให้อ่านพระคัมภีร์ เป็นลักษณะชีวิตคริสตจักร

แน่นอนการจะฝึกฝนในการอ่านมันต้องมาจาก การหนุนใจ จากการอ่านแล้วนำมาแบ่งปันสิ่งที่เรียนรุ้จากพระคัมภีร์
ซึ่งมันต้องแบ่งปันกันในกลุ่ม กลุ่มนั้น เป็น การจัดหรือก่อตั้ง โดยคริสตจักร คือผู้อภิบาล ที่เป็นศิษยาภิบาล แล้วให้มีคนที่ดูแลกลุ่ม เราเรียกว่าพี่เลี้ยง
หรือหัวหน้ากลุ่ม ซึ่งบุคคลเหล่านั้น ได้รับการฝึกอบรมมาแล้ว  เรามีคู่มือในการค้นคว้าตีความ เรามีคู่มือในการทำเซลล์ หรือทำแคร์ ให้เป้าหมายทิศทาง
ไปด้วยกันทั้งคริสตจักร

เช่นพี่พีพี เองเป็นหัวหน้าเซลล์ มีลูกเซลล์ ที่ดูแล 8 คน เราพบกันทุกวันพฤหัสฯ ครั้งล่ะ 1.30 น.

เราทำอะไรกันบ้าง 1. ร้องเพลง 2.อธิษฐานขอบพระคุณ 3. อ่านพระคัมภีร์ บทที่ นำมาใช้ 4. ผู้นำเซลล์ แบ่งปันพระคัมภีร์ตอนนั้นๆ
5.เราทุกคนในเซลล์ แบ่งปัน สิ่งที่เขาจะนำไปใช้จากพระคัมภีร์ที่แบ่งปัน 6. นำหัวข้อภาวนาเพื่อมวลชน และส่วนตัว 7. เพลงปิด 8.กินของว่าง

และลูกเซลล์ทุกคน จะต้องพบหัวหน้าเซลล์ เป็นระยะ เพื่อแบ่งปัน หนุนใจ ขอคำปรึกษา อธิษฐานเฉพาะเจาะจง

ตอนนี้เราใช้ พระคัมภีร์ จดหมายฝากท่านเปาโล ถึงชาวโคโลสี ก่อนเข้าเซลล์ ทุกคนต้องอ่านพระคัมภีร์เล่มนี้จบ  ในเซลล์เราจะแบ่งกันเป็นตอนๆ

ยศิโยน:ผู้ยำเกรงพระเจ้า เขียน: ก็มีกลุ่มคาทอลิคอ่านพระคัมภีร์ อยู่เหมือนกันครับ แต่ไม่ค่อยกว้างขวาง

อันที่จริง ในมิซซาเอง ก็มีการกล่าวพระคัมภีร์ ในบทอ่าน ซึ่งตามหลักการแล้ว คุณพ่อก็จะเทศน์ขยายในพระคัมภีร์ที่ยกมาครับ

พี่น้องคาทอลิก ที่อ่านพระคัมภีร์สม่ำเสมอ ในนิวมานา ก็มีหลายคน เช่นน้องโฮลี่ น้องยศ น้องเพชร น้องแทงค์

น้องแทงค์ ที่พี่เดาว่าอ่านพระคัมภีร์เยอะ เพราะเห็นเขียนบทความ  เพราะการเขียนบทความ โดยใช้พระคัมภีร์ หรือตีความพระคัมภีร์ เป็นสิ่งที่ยากเพราะต้องไป อ่านหนังสือประกอบ โดยเฉพาะ พวก Comentary แล้วมาตีความประยุกต์ใช้ โดยทั่วไปพวกที่ เขียนบทความตีความพระคัมภีร์
ฝ่ายโปรเตสแตนต์ ต้องเป็นพวกศิษยาภิบาล เพราะเรียนหลักการตีความและการทำบทเทศนา  นอกนั้น พวกครูรวี ทำบทเรียนพระคัมภีร์ เป็นบทเรียน
ที่ใช้สอนในกลุ่มต่างๆ เช่นกลุ่มเยาวชน กลุ่มอนุชน กลุ่มผู้ใหญ่ กลุ่มเซลล์

อย่างที่น้องแทงค์ นำมาโพสต์ ถ้าไม่รู้จักน้องแทงค์ ที่นี่ แทบจะไม่เชื่อว่า เป็นน้องคาทอลิก (ที่ต่อต้านโปรฯ) เขียน เพราะสำนวนการเขียนแบบคริสเตียนการนำพระคัมภีร์ มาใช้ตีความ เป็นบทความ เหมือนพวก นักเขียนโปรเตสแตนต์    อย่างไรก็ตามชื่นชม ที่น้องแทงค์ ได้ใช้พระคัมภีร์ แบบยากๆนั้น มาตีความและนำมาประยุกต์   ซึ่งลูกศิษย์พี่พีพีเอง ทำได้ไม่มากนัก ขณะเรียนอยู่

น้องโฮลี่ เป็นคนหนึ่งที่นำพระคัมภีร์มาใช้ตอบ แบบตรงๆแรงๆ  พี่พีพีเองไม่กล้าตอบแบบน้องโฮลี่ เพราะกลัวจะเป็นครูเสดครั้งใหม่

น้องยศ เป็นคนหนึ่ง ที่จะพัฒนาความรู้พระคัมภีร์ได้ดี เพราะน้องยศ ได้รับแบบจาก โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ซึ่งมีทีมอนุศาสก ทำการสอน และมีกลุ่มเซลล์ด้วย  เมื่อน้องยศมาล้างบาปเป็นคาทอลิก ได้นำแบบของโปรเตสแตนต์ส่วนที่ดีๆหลายอย่าง มาเสริมความเชื่อความเข้าใจ กอรปกับเป้นคนใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา จึงได้รับประโยชน์อย่างมากค่ะ

ก็เห็น ทางโปรฯมี อาจารย์พัชรินทร์ ชัชมนมาศ ผู้บริหารองค์การแคมปัสครูเสดฟอร์ไครสต์ (CCC)  ได้ผลดี เลยจะทำครูเสดแห่งความรักทางคาทอลิคบ้างครับ

http://www.ccci.org/

Holy เขียน: ก็เห็น ทางโปรฯมี อาจารย์พัชรินทร์ ชัชมนมาศ ผู้บริหารองค์การแคมปัสครูเสดฟอร์ไครสต์ (CCC)  ได้ผลดี เลยจะทำครูเสดแห่งความรักทางคาทอลิคบ้างครับ

http://www.ccci.org/

แคมปัสครูเสด เป็นองค์กรที่จดทะเบียนกับสหกิจคริสตจักร  ปัจจุบัน กลุ่ม กปท.มีความสัมพันธ์กับพี่น้องคริสตชนหลายๆฝ่ายเพิ่มขึ้น คงทำให้เข้าใจกันดีขึ้น

นี่คือนิมิตที่ดี ที่ วาสสุล่า ไรเด็น ได้รับนิมิต จากพระเยซูคริสต์

Prod Pran เขียน:

ยศิโยน:ผู้ยำเกรงพระเจ้า เขียน: ก็มีกลุ่มคาทอลิคอ่านพระคัมภีร์ อยู่เหมือนกันครับ แต่ไม่ค่อยกว้างขวาง

อันที่จริง ในมิซซาเอง ก็มีการกล่าวพระคัมภีร์ ในบทอ่าน ซึ่งตามหลักการแล้ว คุณพ่อก็จะเทศน์ขยายในพระคัมภีร์ที่ยกมาครับ

พี่น้องคาทอลิก ที่อ่านพระคัมภีร์สม่ำเสมอ ในนิวมานา ก็มีหลายคน เช่นน้องโฮลี่ น้องยศ น้องเพชร น้องแทงค์

น้องแทงค์ ที่พี่เดาว่าอ่านพระคัมภีร์เยอะ เพราะเห็นเขียนบทความ  เพราะการเขียนบทความ โดยใช้พระคัมภีร์ หรือตีความพระคัมภีร์ เป็นสิ่งที่ยากเพราะต้องไป อ่านหนังสือประกอบ โดยเฉพาะ พวก Comentary แล้วมาตีความประยุกต์ใช้ โดยทั่วไปพวกที่ เขียนบทความตีความพระคัมภีร์
ฝ่ายโปรเตสแตนต์ ต้องเป็นพวกศิษยาภิบาล เพราะเรียนหลักการตีความและการทำบทเทศนา  นอกนั้น พวกครูรวี ทำบทเรียนพระคัมภีร์ เป็นบทเรียน
ที่ใช้สอนในกลุ่มต่างๆ เช่นกลุ่มเยาวชน กลุ่มอนุชน กลุ่มผู้ใหญ่ กลุ่มเซลล์

อย่างที่น้องแทงค์ นำมาโพสต์ ถ้าไม่รู้จักน้องแทงค์ ที่นี่ แทบจะไม่เชื่อว่า เป็นน้องคาทอลิก (ที่ต่อต้านโปรฯ) เขียน เพราะสำนวนการเขียนแบบคริสเตียนการนำพระคัมภีร์ มาใช้ตีความ เป็นบทความ เหมือนพวก นักเขียนโปรเตสแตนต์    อย่างไรก็ตามชื่นชม ที่น้องแทงค์ ได้ใช้พระคัมภีร์ แบบยากๆนั้น มาตีความและนำมาประยุกต์   ซึ่งลูกศิษย์พี่พีพีเอง ทำได้ไม่มากนัก ขณะเรียนอยู่

น้องโฮลี่ เป็นคนหนึ่งที่นำพระคัมภีร์มาใช้ตอบ แบบตรงๆแรงๆ  พี่พีพีเองไม่กล้าตอบแบบน้องโฮลี่ เพราะกลัวจะเป็นครูเสดครั้งใหม่

น้องยศ เป็นคนหนึ่ง ที่จะพัฒนาความรู้พระคัมภีร์ได้ดี เพราะน้องยศ ได้รับแบบจาก โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ซึ่งมีทีมอนุศาสก ทำการสอน และมีกลุ่มเซลล์ด้วย  เมื่อน้องยศมาล้างบาปเป็นคาทอลิก ได้นำแบบของโปรเตสแตนต์ส่วนที่ดีๆหลายอย่าง มาเสริมความเชื่อความเข้าใจ กอรปกับเป้นคนใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา จึงได้รับประโยชน์อย่างมากค่ะ

ไม่จริงครับผมเป็นคนที่เขียนไม่ดีหรอกครับบกพร่องเยอะแยะหลายคนอ่านดีๆก็น่าจะเห็นนะครับเช่น เขียนไม่ตรงไวยกรณ์ภาษาไทยส่วนใหญ่ที่เขียนเอาไอเดียของโปร มาครับเอาโครงเรื่องเขามาแล้วแต่งใหม่ปรับปรุงใหม่หมดทั้งบทความอ่านทวนหลายๆรอบเพื่อให้เป็นที่เข้าใจผมได้แรงบันดาลใจจากพี่พีพีครับในการเขียนบทความเหล่านั้นโปรเป็นแรงบันดาลใจให้ผมครับแม้ว่าจะไม่ถูกจริตก็ตามแต่หลายๆ คจ ผมก็อยู่ด้วยได้ครับจนซึมซับการเขียนของโปรเยอะเลยเขียนแนวโปรครับ

เขียนแนวโปรฯ แล้วเมื่อไหร่เลิกต่อต้านโปรฯ งับ 

:+: seraphim :+: เขียน: เขียนแนวโปรฯ แล้วเมื่อไหร่เลิกต่อต้านโปรฯ งับ 

ไม่ได้ต่อต้านหมดนิครับต่อต้านแค่ความหวังกะเพนเทกอส+แบบติสต์บางส่วนเท่านั้นเอง

สายสภา ผมเลิกต่อต้านแล้ว ครับ

S.Paulvs De Bangkok เขียน:

:+: seraphim :+: เขียน: เขียนแนวโปรฯ แล้วเมื่อไหร่เลิกต่อต้านโปรฯ งับ 

ไม่ได้ต่อต้านหมดนิครับต่อต้านแค่ความหวังกะเพนเทกอส+แบบติสต์บางส่วนเท่านั้นเอง

สายสภา ผมเลิกต่อต้านแล้ว ครับ

เมื่อไหร่น้องแทงค์เลิกต่อต้านได้หมด น้องแทงค์จะเกิดสันติสุขในใจจ๊ะ แล้วจะมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ อย่างน้อยเท่ากับว่าน้องแทงค์ได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูเจ้าจ๊ะ

:+: seraphim :+: เขียน:

S.Paulvs De Bangkok เขียน:

:+: seraphim :+: เขียน: เขียนแนวโปรฯ แล้วเมื่อไหร่เลิกต่อต้านโปรฯ งับ 

ไม่ได้ต่อต้านหมดนิครับต่อต้านแค่ความหวังกะเพนเทกอส+แบบติสต์บางส่วนเท่านั้นเอง

สายสภา ผมเลิกต่อต้านแล้ว ครับ

เมื่อไหร่น้องแทงค์เลิกต่อต้านได้หมด น้องแทงค์จะเกิดสันติสุขในใจจ๊ะ แล้วจะมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ อย่างน้อยเท่ากับว่าน้องแทงค์ได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูเจ้าจ๊ะ

ตราบใดก็ตามถ้าผมโดนรังแกอยู่ก็จะต่อต้านอยู่เรื่อยไปนั่นแหละ ผมไม่ชอบแพ้ใคร

โอ้....

อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน ตามความคิดสติเราให้ทัน...

ผมไปมาเกือบทุกโบสถ์แล้ว...ก็ปล่อยๆเขาไปเหอะ

ปล. เวรย่อมระงับด้วยการอยู่เวร

เพราะการเทศน์บางโบสถ์แต่ละแห่งยังมีแทรกสอนที่ว่ากลัวสมาชิกของโบสถ์ไปมีความเชื่อของสมาชิกโบสถ์อื่น
แต่ถ้ายอมรับว่าทุกส่วนเป็นพระกายเดียวกันได้คงดี

S.Paulvs De Bangkok เขียน:

:+: seraphim :+: เขียน:

S.Paulvs De Bangkok เขียน: ไม่ได้ต่อต้านหมดนิครับต่อต้านแค่ความหวังกะเพนเทกอส+แบบติสต์บางส่วนเท่านั้นเอง

สายสภา ผมเลิกต่อต้านแล้ว ครับ

เมื่อไหร่น้องแทงค์เลิกต่อต้านได้หมด น้องแทงค์จะเกิดสันติสุขในใจจ๊ะ แล้วจะมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ อย่างน้อยเท่ากับว่าน้องแทงค์ได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูเจ้าจ๊ะ

ตราบใดก็ตามถ้าผมโดนรังแกอยู่ก็จะต่อต้านอยู่เรื่อยไปนั่นแหละ ผมไม่ชอบแพ้ใคร

ถูกเขารังแก ก็อธิษฐานให้เขาดีกว่าครับ
ถูกเขาทำร้าย ก็อภัยให้แก่เขา
ถูกเขาด่าทอ ก็ต่อสู้ด้วยสติปัญญาและความสวบเยือกเย็น
ทำตามที่พระเยซูเจ้าสอนดีกว่า

"จงต่อสู้ความชั่ว ด้วยความดี"

S.Paulvs De Bangkok เขียน:

:+: seraphim :+: เขียน:

S.Paulvs De Bangkok เขียน: ไม่ได้ต่อต้านหมดนิครับต่อต้านแค่ความหวังกะเพนเทกอส+แบบติสต์บางส่วนเท่านั้นเอง

สายสภา ผมเลิกต่อต้านแล้ว ครับ

เมื่อไหร่น้องแทงค์เลิกต่อต้านได้หมด น้องแทงค์จะเกิดสันติสุขในใจจ๊ะ แล้วจะมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ อย่างน้อยเท่ากับว่าน้องแทงค์ได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูเจ้าจ๊ะ

ตราบใดก็ตามถ้าผมโดนรังแกอยู่ก็จะต่อต้านอยู่เรื่อยไปนั่นแหละ ผมไม่ชอบแพ้ใคร

ลองยอมเพราะรัก ดูไม่ได้หรอครับ

แบบว่าไม่ต้องไปคิดบวกหรือคิดลบอะไรทั้งสิ้นครับ

สวดให้เค้าอย่างเดียว

S.Paulvs De Bangkok เขียน:

:+: seraphim :+: เขียน:

S.Paulvs De Bangkok เขียน: ไม่ได้ต่อต้านหมดนิครับต่อต้านแค่ความหวังกะเพนเทกอส+แบบติสต์บางส่วนเท่านั้นเอง

สายสภา ผมเลิกต่อต้านแล้ว ครับ

เมื่อไหร่น้องแทงค์เลิกต่อต้านได้หมด น้องแทงค์จะเกิดสันติสุขในใจจ๊ะ แล้วจะมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ อย่างน้อยเท่ากับว่าน้องแทงค์ได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูเจ้าจ๊ะ

ตราบใดก็ตามถ้าผมโดนรังแกอยู่ก็จะต่อต้านอยู่เรื่อยไปนั่นแหละ ผมไม่ชอบแพ้ใคร

เเหม่ๆๆๆๆ มันก็ไม่จบอ่ะดิพี่
คนที่โดนรังแก ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เเพ้ เสมอไปซะหน่อย
ดูพระเยซูเสียก่อน พวกทหารโรมันก็รังแกพระองค์เหมือนกัน
เเต่ว่าพระองค์ ทรงให้อภัยพวกเขา
เจนว่า พี่เเต๊งลองทำเเบบพระเยซูดีกว่าค่ะ ถึงมันจะย๊ากยาก เเต่ ผลตอบเเทนได้สุดคุ้ม
เพราะทั้งหมด อยู่ภายใต้สายพระเนตรของพระบิดาบนสวรรค์!

S.Paulvs De Bangkok เขียน:
ตราบใดก็ตามถ้าผมโดนรังแกอยู่ก็จะต่อต้านอยู่เรื่อยไปนั่นแหละ ผมไม่ชอบแพ้ใคร

น.เปาโล พูดในโครินธ์ "ผู้ที่อยู่ในพระคริสต์ คือผู้ที่ถูกสร้างใหม่"

และในกาลาเทีย พูดถึง การดำเนินชีวิตของเรา

1.ดำเนินชีวิตตามเนื้อหนัง เต็มด้วย ราคะ ตัณหา

2.ดำเนินชีวิต โดยพระวิญญาณ (พระจิต )

ซึ่งมีผลดังนี้ ( ตามเนื้อหนัง )

19การงานของเนื้อหนังนั้นเห็นได้ชัด  คือการล่วงประเวณี  การโสโครก  การลามก
20การนับถือรูปเคารพ  การถือวิทยาคม  การเป็นศัตรูกัน  การวิวาทกัน  การริษยากัน  การโกรธกัน  การใฝ่สูง  การทุ่มเถียงกัน  การแตกก๊กกัน
21การอิจฉากัน  การเมาเหล้า  การเล่นเป็นพาลเกเร  และการอื่นๆในทำนองนี้อีกเหมือนที่ข้าพเจ้าได้เตือนท่านมาก่อน  บัดนี้ข้าพเจ้าขอเตือนท่านเหมือนกับที่เคยเตือนมาแล้วว่า  คนที่ประพฤติเช่นนั้นจะไม่มีส่วนในแผ่นดินของพระเจ้า

ดำเนิน ตามพระทัยพระเยซูเจ้า จะเห็นผลฝ่ายพระจิต

22ฝ่ายผลของพระวิญญาณนั้น  คือความรัก  ความปลาบปลื้มใจ  สันติสุข  ความอดกลั้นใจ  ความปรานี  ความดี  ความสัตย์ซื่อ
23ความสุภาพอ่อนน้อม  การรู้จักบังคับตน  เรื่องอย่างนี้ไม่มีธรรมบัญญัติห้ามไว้เลย

>> สำหรับ พี่พีพี และเชื่อว่าบรรดาคุณพ่อ มีความประสงค์ จะเห็น ผู้ที่ติดตามพระเยซู ผู้ประกาศตัวว่าเป็นสาวกของพระองค์
ได้รับการสร้างใหม่ จนกระทั่งเขาสลัด การงานของเนื้อหนัง เพื่อจะอ่มเอมด้วยผลของพระวิญญาณ (พระจิต )

เพราะคงไม่มีประโยชน์ ที่เราจะแสดงการงานเนื้อหนังโต้ตอบกัน

พระเยซูสอนว่า "อยากให้ผู้อื่นปฏิบัติ ต่อเราอย่างไร ก็ต้องปฏิบัติ ต่อเขาอย่างนั้น " ใครเริ่มก่อนล่ะ ก็คนที่บอกว่าเชื่อพระองค์ พร้อมจะดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระองค์ ..............สำหรับพี่น้องคริสตัง ยังดีกว่าพี่น้องคริสเตียน เพราะพวกคุณมี แบบมากมาย เช่นจากแม่พระ และบรรดานักบุญทั้งหลาย
ที่น้องๆเลือกนักบุญอุปถัมภ์ ไว้ทำไม ไว้ดูแบบไม่ใช่หรือ ทำไมไม่ดูแบบของพวกท่านล่ะ หรือถ้าทำยาก วิงวอนกับท่าน บ้างไหมล่ะ

ต๋ายๆๆๆ เจ๊พีพี เทศนาเลยเหรอเนี่ย

อืม ใช่แล้วครับ ถ้ามนุษย์คนหนึ่งเกิดมาแล้ว ไม่มีส่วนในพระอาณาจักรของพระเจ้าก็ถือว่าน่าเสียดาย นับว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากเรื่องหนึ่ง

จริงๆ พระอาณาจักรของพระเจ้าไม่ใช่ดินแดนที่ห่างไกลโพ้นกระนั้น ที่ต้องซี้แหงแก๋ไปก่อนถึงจะได้พบประสบเจอ แต่เราสามารถเสริมสร้างได้ตั้งแต่ในโลกนี้ เหมือนที่เราสวดกันบ่อยๆในบทข้าแต่พระบิดาว่า "พระอาณาจักรจงมาถึง" และขอให้ "พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์"

ถ้าเรารังเกียจเดียดฉันท์ จ้องแต่จะเอาชนะคะคานกัน หักไม่ยอมงอ แล้วพระอาณาจักรจะบังเกิดและพระประสงค์จะสำเร็จเป็นจริงในแผ่นดินนี้ได้อย่างไร เช่นนั้น การที่เราสวดบทข้าแต่พระบิดา แต่ไม่ทำตามที่สวด เราก็ไม่ได้สวดภาวนาด้วย "จิตและความสัตย์จริง" เพราะเราพูดอย่างแต่ดันไปทำอีกอย่างน่ะครับ

   

Jeab Agape เขียน:
ต๋ายๆๆๆ เจ๊พีพี เทศนาเลยเหรอเนี่ย

ขอเถอะน้องเจี๊ยบ..... นานๆ จะได้เห็นซะที ถือว่าเป็นบุญของผู้ที่เข้าใจ และซึมซับจ้า ขอบคุณพี่พีพีคะ

Batholomew เขียน:

S.Paulvs De Bangkok เขียน:

:+: seraphim :+: เขียน:

เมื่อไหร่น้องแทงค์เลิกต่อต้านได้หมด น้องแทงค์จะเกิดสันติสุขในใจจ๊ะ แล้วจะมีความสุขมากกว่าที่เป็นอยู่ อย่างน้อยเท่ากับว่าน้องแทงค์ได้ปฏิบัติตามคำสอนของพระเยซูเจ้าจ๊ะ

ตราบใดก็ตามถ้าผมโดนรังแกอยู่ก็จะต่อต้านอยู่เรื่อยไปนั่นแหละ ผมไม่ชอบแพ้ใคร

ลองยอมเพราะรัก ดูไม่ได้หรอครับ

แบบว่าไม่ต้องไปคิดบวกหรือคิดลบอะไรทั้งสิ้นครับ

สวดให้เค้าอย่างเดียว

คงยากลองทำหลายครั้งแล้วก็ไม่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงเลย

S.Paulvs De Bangkok เขียน:

Batholomew เขียน:

S.Paulvs De Bangkok เขียน: ตราบใดก็ตามถ้าผมโดนรังแกอยู่ก็จะต่อต้านอยู่เรื่อยไปนั่นแหละ ผมไม่ชอบแพ้ใคร

ลองยอมเพราะรัก ดูไม่ได้หรอครับ

แบบว่าไม่ต้องไปคิดบวกหรือคิดลบอะไรทั้งสิ้นครับ

สวดให้เค้าอย่างเดียว

คงยากลองทำหลายครั้งแล้วก็ไม่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงเลย

แล้วทำไมต้องไปคาดหวังหล่ะครับ ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลง

เราเองต่างหากที่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเราเอง เราเป็นลูกพระ พระสอนอะไร เราก็ทำตามครับ

เมื่อเราเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเรา โลกทั้งโลกก็จะเปลี่ยนแปลงครับ