พยานพระยะโฮวาห์ ในมุมมองของโปรเตสแตนต์

คริสตสัมพันธ์ เอกภาพในคริสตศาสนา
ภาพประจำตัวสมาชิก
ดานุ้งพุงระเบิด
โพสต์: 518
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
ที่อยู่: อุบลราชธานี

จันทร์ ม.ค. 07, 2008 6:13 pm

Jeab Agape เขียน: หลายกลุ่มลัทธิเทียมเท็จ มักจะไปหาลูกแกะของคริสต์สายหลัก โดยเฉพาะตัวที่อ่อนแอ ไม่ค่อยเข้าฝูง ให้มาเชื่อตามตน และบอกว่า ตัวเองเท่านั้นนะถูกต้อง

นึกถึงแวมไพร์นะ
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

จันทร์ ม.ค. 07, 2008 8:05 pm

ผู้สนใจศึกษา เขียน: คุณเจี๊ยบตอบได้ยาวได้ใจจริงๆเดี๋ยวผมขอเวลาอ่านและพิจารณาสักพักนะครับแล็วจะมาโพสใหม่ ขอบคุณมากๆหลักๆของจุดประสงค์ในการเข้ามาขอแลก
เปลี่ยนความรู้ครั้งนี้คือผมอยากได้ข้อมูลของหลักคำสอน,ที่มาของคริสตจักรจากคนที่เป็นคาทอลิก,โปรแตสแตนต์,ฯลฯจริงๆซึ่งน่าจะเชื่อถือได้มากกว่า
พี่น้องของผม(ซึ่งที่จริงที่เขาก็เคยเป็นคาทอลิกมาก่อนนั่นแหละครับแต่พอดีผมเป็นคนหัวดื้อประมาณหนึ่งเลยไม่ค่อยอยากจะเชื่อ) แต่เชื่อว่าการคุยกัน
ครั้งนี้น่าจะได้ประโยชน์กับเราทั้ง2ฝ่ายนะครับ จะได้รู้จักกันและกันมากขึ้น เดี๋ยวถ้าผมสรุปได้จะมาโพสให้เพื่อนรู้จักพยานฯจากคนที่เป็นพยานฯจริงๆบ้างนะ
ครับจะได้ไม่มองเราในแง่ลบมาก(เรื่องใหญ่นะเนี่ยกดดันจัง) ::014::
อืมม์ ท่าทางคุณจะเป็นคนมีความหนักแน่นมั่นคงทางอารมณ์ดีมากเลยนะ เป็นลักษณะบุคลิกภาพหนึ่งของพระเยซู ขอให้รักษาไว้นะคะ แล้งเราคงจะได้เรียนรู้กันและกันมากขึ้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
yuki
โพสต์: 681
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 01, 2006 5:02 am

จันทร์ ม.ค. 07, 2008 8:07 pm

น่ากลัวจังเลยอ่ะ ::007::
ผู้สนใจศึกษา
โพสต์: 10
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 05, 2008 7:16 pm

จันทร์ ม.ค. 07, 2008 9:27 pm

ขอตอบคุณbuddyนะครับ
1เรื่องโกรธนั้นผมไม่โกรธหรอกครับ เพียงแต่กลัวถูกด่ามากกว่าเราแค่เห็นไม่ตรงกันไม่เห็นต้องทะเลาะกันเลยนี่นา สงครามในปัจจุบันนี้แทบจะทั้งนั้นมาจากศาสนานี่แหละ อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย ถือว่าเราเป็นเพื่อนบ้านกันดีกว่าครับ ขอให้การแลกเปลี่ยนกันของเราเป็นการช่วยเหลือกันและกันดีกว่า พระเจ้าสอนให้เราเป็นคนถ่อมใจนะครับ ข้อนี้สำคัญมาก
พระะคำในโยบสอนผมได้มากในข้อนี้ครับ ผมเองตอนนี้ก็ยังเปิดใจรับความคิดอื่นๆอยู่แม้แต่อิสลามก็ยังอยากศึกษา
แต่เท่าที่ได้รับข้อมูลมาผมให้พยานฯมาเป็นอันดับ1โดยมองจากสายตาคนเป็นพุทธนะครับ ไม่โกรธกันนะเพราะเค้ายึดเอา
แนวทางปฏิบัติจากพระคัมภีร์จริงๆ ขอไหนที่คลุมเคลือเค้าก็ช่วยอธิบายให้ฟัง แถมยอมเสียเวลากับผมเสียเงินทองกับผม
โดยที่เขาไม่ได้ซักแดงเลย ซึ้งใจจริงๆครับ ความรักในพระเยซูนั้นเขาก็ให้ความสำคัญมากนะครับเพียงแต่เรามองสถานะ
ของพระองค์ต่างกันเท่านั้น หัวข้อในการประชุมใหญ่ประจำปี2007ก็เป็นเรื่องของพระเยซูครับเนื้อเรื่องในการประชุมก็ดีมาก
อยากชวนทุกคนไปลองสัมผัสบรรยากาศดูสักครั้งครับ
2เรื่องกิจกรรมการกุศลนั้นแบบเป็นทางการไม่มีครับเพราะเป็นเรื่องที่เราต้องทำอยู่แล้วเวลาพบคนเดือดร้อน แต่ก็ไม่เกี่ยงครับถ้าจะนัดกันไปเยอะๆ แต่อย่าทำให้งานประกาศราชอาณาจักรสะดุดก็พอเรื่องนี้เป็นกิจกรรมแรกสุดของเรา
ก็การเคาะประตูตามบ้านนั่นแหละครับเราเลียนแบบพระเยซูครับถ้าวันไหนเจอพวกเราก็อย่าไล่กันเลยครับ มันเป็นงานที่เหนื่อยจริงๆ
3 พี่น้องของผมเป็นคนดีมากครับ(โดยเฉพาะสาวๆ ตัวผมเองก็แอบเหล่อยู่หลายคนปลื้มครับปลื้ม อยากได้เป็นแฟนจัง อย่าเอ็ด
ไปนะครับ เี๋ดี๋ยวไก่ตื่น แฮ่)เรามีการอธิษฐานถึงพระยะโฮวาเป็นหลักครับเป็นสิ่งเดียวที่ผมคิดว่าเป็นพิธีการครับเป็นรูปแบบที่
เรียบง่ายอย่างยิ่งครับ แล้วก็มีการร้องเพลงสรรเสริญ นอกนั้นเป็นการศึกษาพระคัมภีร์ล้วนๆครับแบบเข้มข้นครับอ้อ !มีการ
ฝึกพัฒนาการพูดออกประกาศด้วย เพื่อให้การประกาศของเรามีประสิทธิภาพมากที่สุดครับเราถึงพบแกะมากมายไงปัจจุบันน่าจะเป็น
หลัก10ล้านคนทั่วโลกแล้วนะครับเป็นจำนวนที่ดูน้อยแต่ถ้าดูเป็นเปอร์เซนต์การเติบโตจะพบว่ามากทีเดียว ยังมีเรื่องหลักปฏิบัติ
อีกหลายข้อที่เรายึดตามข้อพระคัมภีร์ล้วนๆแต่ไม่ตรงกับเพื่อนๆแต่ไม่ขอพูดแล้วกัน ให้เกียรติเจ้าของสถานที่ครับ
อ้อจริงๆแล้วพระคัมภีร์ของพวกเรานั้นได้รับอนุญาติจากสมาคมคริสตธรรมไทยนะครับส่วนฉบับแปลโลกใหม่นั้นเพิ่งจะแปลเสร็จและ
แจกในปีที่แล้วนี้เองครับก่อนหน้านั้นก็ใช้ฉบับที่ได้รับอนุญาตมาตลอด เปรียบเทียบกันแล้วก็ไม่เห็นจะมีแต่งเติมอะไรจากเดิมครับ
เพียงแต่เป็นในรูปแบบที่ดูสละสลวยน้อยลงไปหน่อย แต่แน่นอนครับ ความเข้าใจต้องมาก่อน ฉบับนี้อ่านเข้าใจง่ายขึ้นครับ
ผู้สนใจศึกษา
โพสต์: 10
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 05, 2008 7:16 pm

จันทร์ ม.ค. 07, 2008 9:37 pm

ตอบคุณRakkypoko(ชื่อเรียกยากเนอะ)ที่เวลาเจอคริสต์ด้วยกันแล้วชอบก็เพราะว่าเราเชื่อในพระเจ้าเหมือนกันนั่นเองคุยกันง่ายกว่าครับ ไม่เชื่อลองไป
คุยกับคนพุทธเรื่องนี้สิ เหนื่อยจริงๆให้ตาย ::008::
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

จันทร์ ม.ค. 07, 2008 10:43 pm

ก่อนอื่นผมขอชื่นชมคุณนะครับ ที่ไม่ตีหัวเข้าบ้านเหมือนหลายๆท่านที่เคยมีมา
การถ่อมตนเป็นคุณสมบัติอันหนึ่งที่คริสตชนควรมี ผมเห็นคุณถ่อมตนอย่างนี้บางทีผมก็นึกละอายตัวเองเหมือนกัน เพราะบางทีผมเองก้ไม่ค่อยถ่อนตนเท่าไหร่ จนกระทั่งกระทู้ลอยหายไปในทะเล

นะครับ หวังว่าคงได้อ่านสิ่งดีๆจากเพื่อนบ้านของเราอย่างคุณอีก อย่างที่คุณว่ามานั่นแหละ ยังไงเสียเราก็มีพระเจ้าด้วยกันทั้งนั้น น่าจะสนทนากันเองได้ง่ายกว่าคุยผู้ที่ยังไม่ได้เชื่อในพระเจ้าหรือเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระมหาไถ่เยอะ

ขอพระเจ้าอวยพรครับ
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อังคาร ม.ค. 08, 2008 1:33 am

ผู้สนใจศึกษา เขียน: ขอตอบคุณbuddyนะครับ
1เรื่องโกรธนั้นผมไม่โกรธหรอกครับ เพียงแต่กลัวถูกด่ามากกว่าเราแค่เห็นไม่ตรงกันไม่เห็นต้องทะเลาะกันเลยนี่นา สงครามในปัจจุบันนี้แทบจะทั้งนั้นมาจากศาสนานี่แหละ อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย ถือว่าเราเป็นเพื่อนบ้านกันดีกว่าครับ ขอให้การแลกเปลี่ยนกันของเราเป็นการช่วยเหลือกันและกันดีกว่า พระเจ้าสอนให้เราเป็นคนถ่อมใจนะครับ ข้อนี้สำคัญมาก
พระะคำในโยบสอนผมได้มากในข้อนี้ครับ ผมเองตอนนี้ก็ยังเปิดใจรับความคิดอื่นๆอยู่แม้แต่อิสลามก็ยังอยากศึกษา
แต่เท่าที่ได้รับข้อมูลมาผมให้พยานฯมาเป็นอันดับ1โดยมองจากสายตาคนเป็นพุทธนะครับ ไม่โกรธกันนะเพราะเค้ายึดเอา
แนวทางปฏิบัติจากพระคัมภีร์จริงๆ ขอไหนที่คลุมเคลือเค้าก็ช่วยอธิบายให้ฟัง แถมยอมเสียเวลากับผมเสียเงินทองกับผม
โดยที่เขาไม่ได้ซักแดงเลย ซึ้งใจจริงๆครับ ความรักในพระเยซูนั้นเขาก็ให้ความสำคัญมากนะครับเพียงแต่เรามองสถานะ
ของพระองค์ต่างกันเท่านั้น หัวข้อในการประชุมใหญ่ประจำปี2007ก็เป็นเรื่องของพระเยซูครับเนื้อเรื่องในการประชุมก็ดีมาก
อยากชวนทุกคนไปลองสัมผัสบรรยากาศดูสักครั้งครับ
2เรื่องกิจกรรมการกุศลนั้นแบบเป็นทางการไม่มีครับเพราะเป็นเรื่องที่เราต้องทำอยู่แล้วเวลาพบคนเดือดร้อน แต่ก็ไม่เกี่ยงครับถ้าจะนัดกันไปเยอะๆ แต่อย่าทำให้งานประกาศราชอาณาจักรสะดุดก็พอเรื่องนี้เป็นกิจกรรมแรกสุดของเรา
ก็การเคาะประตูตามบ้านนั่นแหละครับเราเลียนแบบพระเยซูครับถ้าวันไหนเจอพวกเราก็อย่าไล่กันเลยครับ มันเป็นงานที่เหนื่อยจริงๆ
3 พี่น้องของผมเป็นคนดีมากครับ(โดยเฉพาะสาวๆ ตัวผมเองก็แอบเหล่อยู่หลายคนปลื้มครับปลื้ม อยากได้เป็นแฟนจัง อย่าเอ็ด
ไปนะครับ เี๋ดี๋ยวไก่ตื่น แฮ่)เรามีการอธิษฐานถึงพระยะโฮวาเป็นหลักครับเป็นสิ่งเดียวที่ผมคิดว่าเป็นพิธีการครับเป็นรูปแบบที่
เรียบง่ายอย่างยิ่งครับ แล้วก็มีการร้องเพลงสรรเสริญ นอกนั้นเป็นการศึกษาพระคัมภีร์ล้วนๆครับแบบเข้มข้นครับอ้อ !มีการ
ฝึกพัฒนาการพูดออกประกาศด้วย เพื่อให้การประกาศของเรามีประสิทธิภาพมากที่สุดครับเราถึงพบแกะมากมายไงปัจจุบันน่าจะเป็น
หลัก10ล้านคนทั่วโลกแล้วนะครับเป็นจำนวนที่ดูน้อยแต่ถ้าดูเป็นเปอร์เซนต์การเติบโตจะพบว่ามากทีเดียว ยังมีเรื่องหลักปฏิบัติ
อีกหลายข้อที่เรายึดตามข้อพระคัมภีร์ล้วนๆแต่ไม่ตรงกับเพื่อนๆแต่ไม่ขอพูดแล้วกัน ให้เกียรติเจ้าของสถานที่ครับ
อ้อจริงๆแล้วพระคัมภีร์ของพวกเรานั้นได้รับอนุญาติจากสมาคมคริสตธรรมไทยนะครับส่วนฉบับแปลโลกใหม่นั้นเพิ่งจะแปลเสร็จและ
แจกในปีที่แล้วนี้เองครับก่อนหน้านั้นก็ใช้ฉบับที่ได้รับอนุญาตมาตลอด เปรียบเทียบกันแล้วก็ไม่เห็นจะมีแต่งเติมอะไรจากเดิมครับ
เพียงแต่เป็นในรูปแบบที่ดูสละสลวยน้อยลงไปหน่อย แต่แน่นอนครับ ความเข้าใจต้องมาก่อน ฉบับนี้อ่านเข้าใจง่ายขึ้นครับ
เดินตามความรักความเมตตาของพระองค์นะคะ  มีอันนึง  มาจากหนังเรื่อง Pope John Paul II ที่เพิ่งดูนี่แหละ 

Men are complicated but God is Simple.
มนุษย์ซับซ้อน  แต่พระเจ้าเรียบง่าย

เรื่องเคาะประตูบ้านเหนื่อยค่ะ  แต่เป็น ministry ที่พระเป็นเจ้าก็ทำอยู่ในแบบพระองค์  ที่เราเหนื่อยเพราะเรายังรักเค้าน้อยเกินไป  ถ้าเรารักเค้ามากขึ้น  เราจะไม่เหนื่อยที่จะเคาะ  เพราะความรักจากพระองค์จะเป็นกำลังให้เรา  ...  เคาะประตูบ้าน  ไม่ยากเท่ากับการเคาะประตูหัวใจมนุษย์   ::001::  และพระองค์เคาะด้วยความเคารพ   ::001::

รูปภาพ

ที่พี่มองก็คือ คาทอลิกเชื่อว่า พระเยซูเจ้าเป็นพระเจ้าแท้และมนุษย์แท้ ความเป็นมนุษย์แท้นี่แหละที่จะทำให้เราเข้าถึงความเป็นพระเจ้าแท้ของ พระองค์ มีคาทอลิกหรือโปรหลายคนเหมือนกัน ที่ไม่เชื่อว่า พระเยซูคือพระเจ้า ซึ่งอันนี้เราก็ต้องอภิบาลกันไป

เรื่องความ เป็นคนดีไม่ดีนั้น ในยามปกติวัดกันไม่ได้หรอกค่ะ ต้องวัดกันยามไม่ปกติ แต่แท้จริงแล้ว เราไม่ได้เลวร้ายกันหรอก พระเป็นเจ้าสร้างเรามาดี

ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ ... ถามเพิ่มนะคะ

1. ถ้าคุณมีความเชื่อแบบนั้น และตามไปเรื่อยๆจนถึงที่สุด คุณก็จะพบพระเจ้า คือการสนิทกับพระองค์ คือการที่เราได้รู้จักกันและพระองค์เผยแสดงให้เรารู้ว่า พระองค์คือใคร ณ วันนี้ พระเยซูที่คุณรู้จักคือ ทูตสวรรค์องค์หนึ่ง ถ้าวันนึง เมื่อเราสนิทกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และพระองค์เผยตัวตนที่แท้จริงออกมาให้เราเห็นเพิ่ม เราจะเชื่อมั้ยคะ พูดง่ายๆคือ อยากถามว่า ทางพยาน ยอมรับเรื่อง การเผยแสดงหรือ revelation มั้ย

2. คิดยังไงกับการนมัสการแบบกลุ่มเพนตาคอสหรือคาริสมาติก (คาทอลิก) คะ

3.พยานฯ มีล้างบาปหรือบัพติสมามั้ยคะ ถ้ามีทำยังไง (คือจะงงๆไงคะ พอไม่เป็นพระตรีเอกภาพแล้วเนี่ย ทำอะไรกันยังไง) เพราะในพระคัมภีร์บอกว่า
มธ 28:18-20 พระเยซูเจ้าเสด็จเข้ามาใกล้ ตรัสแก่เขาเหล่านั้นว่า“พระเจ้าทรงมอบอำนาจอาชญาสิทธิ์ทั้งหมดในสวรรค์และบน แผ่นดินให้แก่เรา เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงไปสั่งสอนนานาชาติให้มาเป็นศิษย์ของเรา ทำพิธีล้างบาปให้เขาเดชะพระนามพระบิดา พระบุตร และพระจิต จงสอนเขาให้ปฏิบัติตามคำสั่งทุกข้อที่เราให้แก่ท่านแล้วจงรู้เถิดว่าเราอยู่กับท่านทุกวันตลอดไปตราบจนสิ้นพิภพ”

(รึว่าในพระคัมภีร์แปลแบบอื่นคะ)
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ อังคาร ม.ค. 08, 2008 1:16 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

อังคาร ม.ค. 08, 2008 3:35 pm

ผู้สนใจศึกษา เขียน: ตอบคุณRakkypoko(ชื่อเรียกยากเนอะ)ที่เวลาเจอคริสต์ด้วยกันแล้วชอบก็เพราะว่าเราเชื่อในพระเจ้าเหมือนกันนั่นเองคุยกันง่ายกว่าครับ ไม่เชื่อลองไป
คุยกับคนพุทธเรื่องนี้สิ เหนื่อยจริงๆให้ตาย ::008::
ชื่อเราเรียกยากขนาดนั้นเลยหรอ ให้ตายเถอะโรบิ้น
อันตน
~@
โพสต์: 4164
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 06, 2005 6:50 pm
ที่อยู่: ภูเก็ต

อังคาร ม.ค. 08, 2008 9:09 pm

Rakkypoko! เขียน:
ผู้สนใจศึกษา เขียน: ตอบคุณRakkypoko(ชื่อเรียกยากเนอะ)ที่เวลาเจอคริสต์ด้วยกันแล้วชอบก็เพราะว่าเราเชื่อในพระเจ้าเหมือนกันนั่นเองคุยกันง่ายกว่าครับ ไม่เชื่อลองไป
คุยกับคนพุทธเรื่องนี้สิ เหนื่อยจริงๆให้ตาย ::008::
ชื่อเราเรียกยากขนาดนั้นเลยหรอ ให้ตายเถอะโรบิ้น
รักกี้โป๊ะโกะ ยิ้มง่ายไม่ซึมเปื้อน(ด้านข้าง ไม่ไหลย้อนกลับ)
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ม.ค. 09, 2008 5:39 pm

อันตน เขียน:
Rakkypoko! เขียน:
ชื่อเราเรียกยากขนาดนั้นเลยหรอ ให้ตายเถอะโรบิ้น
รักกี้โป๊ะโกะ ยิ้มง่ายไม่ซึมเปื้อน(ด้านข้าง ไม่ไหลย้อนกลับ)
รักกี้โป๊ะโกะ เป็นรุ่น ของผู้ใหญ่ เลยผืนใหญ่กว่า

ส่วน

หม่ามี่โป๊ะโกะ ผืนเล็กเป็นของเด็กครับ

ถ้าซื้อทั้งสองรุ่น รุ่นละ 1 กุหลุด จะแถม แป้งโกกิ ไว้ทอด   ฮับ :laugh:
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

พุธ ม.ค. 09, 2008 7:35 pm

Jeab Agape เขียน:
อันตน เขียน:
Rakkypoko! เขียน:
ชื่อเราเรียกยากขนาดนั้นเลยหรอ ให้ตายเถอะโรบิ้น
รักกี้โป๊ะโกะ ยิ้มง่ายไม่ซึมเปื้อน(ด้านข้าง ไม่ไหลย้อนกลับ)
รักกี้โป๊ะโกะ เป็นรุ่น ของผู้ใหญ่ เลยผืนใหญ่กว่า

ส่วน

หม่ามี่โป๊ะโกะ ผืนเล็กเป็นของเด็กครับ

ถ้าซื้อทั้งสองรุ่น รุ่นละ 1 กุหลุด จะแถม แป้งโกกิ ไว้ทอด   ฮับ :laugh:
ฮาดี
ผู้สนใจศึกษา
โพสต์: 10
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 05, 2008 7:16 pm

พฤหัสฯ. ม.ค. 10, 2008 1:19 am

ตอบน้อง buddyนะครับ ในข้อ1 นั้นผมไม่รู้ว่าการเผยแสดงของทางคาทอลิกหรือโปรแตสแตนต์นั้นได้รับโดยทางใด อ่านแล้วผมงงนะหมายถึงการเปิดเผยพระองค์ให้เราทราบใช่มั๊ยครับ ถ้าเป็นเรื่องนั้นผมว่าทางเราก็ปฏิบัติกันโดยการศึกษาพระคัมภีร์ครับเราเชื่อว่า
การเปิดเผยจะได้รับก็ต่อเมื่อเราศึกษาอย่างละเอียดครับ(กิจการ17:11,มัท7:7) อย่างที่บอกเราไม่มีพิธีการมากมายอะไรครับแค่ศึกษาพระคัมภีร์นี่
จนแก่เราก็ยังจะขุดค้นจากพระองค์ไม่หมดครับ ที่ผมผมตอบเนี่ยตรงกับที่คุณถามรึเปล่าครับ ไม่แน่ใจ หรือหมายถึงการอัศจรรย์ครับ
ข้อ2นี่ขอแนะนำให้ไปถามกับคนที่เป็นพยานฯโดยตรงเลยจะดีกว่าครับ เป็นประเด็นที่อยากตอบแบบรายบุคคลมากว่าจะได้คำตอบที่น่าพอใจครับ
มันมีที่มาที่ไปเยอะครับ ตอนแรกผมก็รู้สึกอคติกับความแปลกแยกจากคริสต์ทั่วไปของพยานฯเหมือนกันแต่หลังจากศึกษาแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าถูกแล้ว
ครับที่แยกตัวออกมาจากคริสตจักรเพราะมีข้อต่างกันมากจริงๆแนะนำอีกอย่างอยากให้คุณศึกษาการถอดคำพยากรณ์ของวิวรณ์และดานิเอลของพยานฯ
ดู สิ่งนีแหละที่ทำให้ผมและคนหลายล้านคนยอมเปลี่ยนศาสนาครับน่าทึ่งมากๆแล้วคุณจะเชื่อว่าราชอาณาจักรพระเยซูบนสวรรค์
ถือกำเนิดแล้วจริงๆครับ(พกความถ่อมใจไปเยอะๆด้วยนะ)
ข้อ3นี่ถามได้ดีมากเลย ท่าทางจะเป็นคนเรียนเก่งนะเนี่ยจริงๆแล้วผมก็สงสัยพิธีนี้ของคริสตจักรเหมือนกัน คำบับติสมาในภาษากรีกแปลว่า"จุ่ม"ดังนั้น
การบับติสมาของเราจะต้องจุ่มตัวมิดในน้ำครับไม่ได้จุ่มตัวเพื่อล้างบาปนะครับบาปของเราล้างโดยโลหิตของพระเยซูเท่านั้นครับโดยความเชื่อในเรื่องค่าไถ่
นี้บวกกับการกลับใจประพฤติตนตามแบบอย่างพระเยซูจะทำให้เรามีความหวังที่จะรอดครับซึ่งเครื่องหมายของการกลับใจของเราก็คือการรับบับติสมานั่นเอง
ไม่งงนะการที่รับบับติสมาของเรายังเป็นเครื่องหมายในการประกาศตนเองว่าเป็นคริสเตียนอย่างเป็นทางการอีกด้วยครับ
    มีนิดนึงนะครับ อยากให้ลองสังเกตข้อความที่กล่าวถึงมุมมองของพยานฯต่อพระเยซูหน่อยนะครับผมรู้สึกว่าเขาใช้คำว่าทูตสวรรค์องค์หนึ่งนั้น
แม้ฟังแล้วมันจะดูเหมือนไม่ผิด แต่ความรู้สึกที่ทำให้คุณมองพวกเรามันเลยกลายเป็นพวกเรามองพระองค์แบบ์ไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควรใช่มั๊ยครับ
จริงๆแล้วเราก็ตั้งพระองค์ไว้สูงมากนะครับก็อยู่รองจากพระบิดานั่นเองแล้วเราก็รู้จักพระยะโฮวามากขึ้นจากการสังเกตบุคคลิกที่เรียกได้ว่าเหมือนกันกับ
พระบิดาทุกประการของพระเยซูนั่นเอง เราใช้คำว่าอัครทูตสวรรค์ครับ ในพระคำภีร์บอกให้รู้ว่าแม้มีทูตสวรรค์หลายร้อยล้านองค์แต่อัครทูตสวรรค์นั้น
มีองค์เดียวเท่านั้นคือมิคาเอลครับข้อนี้โยงกับข้อพระคัมภีร1ธส.4:16ที่บอกว่าพระผู้เป็นเจ้า(พระเยซู)ตรัสด้วยสำเนียงอัครทูตสวรรค์ครับ ส่วนใน
วิวรณ์12:7บอกว่ามิคาเอลเป็นผู้นำกองทัพทูตสวรรค์ของพระองค์ แล้วมากล่าวใน2ธส.1:7,มธ13:41,16:27,24:31ว่าพระเยซูทรงเป็นผู้นำกองทัพ
ทูตสวรรค์ ..เราตีความหมายนี้ได้ว่าจริงๆแล้วพระนามเดิมของพระเยซูก่อนประสูติเป็นมนุษย์ก็คือมิคาเอลนั่นเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พฤหัสฯ. ม.ค. 10, 2008 2:08 am

ข้อที่1 คำว่าเปิดเผย ก็คือ วิวรณ์ไงครับ หนังสือวิวรณ์(Revelation) แปลง่ายๆคือ นิมิต หรือ การเปิดเผย

ชื่อภาษากรีกของหนังสือฉบับนี้แปลตามตัวอักษรได้ว่า "วิวรณ์ของยอห์น" หรือ "การเปิดเผยของยอห์น" แต่ข้อความใน (วว 1:1-2) มีความหมายว่า "ยอห์นได้รับการเปิดเผย" ข้อเขียนที่อยู่ในประเภท "วิวรณ์" ซึ่งแปลว่า "การเปิดเผย" ผู้เขียนบันทึกว่าพระเจ้าทรงเปิดเผยเรื่องราวที่ซ่อนเร้นอยู่ให้ตนทราบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ความแตกต่างของข้อเขียนของประกาศกและข้อเขียนประเภทวิวรณ์ มองเห็นได้ไม่ง่ายนัก ในแง่หนึ่งผู้เขียนหนังสือประเภทวิวรณ์เป็นผู้สืบต่อหน้าที่ของประกาศก และเราพอจะกล่าวได้อย่างกว้าง ๆ ว่า บรรดาประกาศกในพันธสัญญาเดิมได้รับข่าวสารจากพระเจ้าโดยได้ยินพระวาจาจากพระองค์ และถ่ายทอดให้ผู้อื่นรู้โดยการเทศน์สอน แต่ผู้เขียนหนังสือประเภทวิวรณ์ได้รับข่าวสารจากพระเจ้าโดยเห็น "ภาพนิมิต" และถ่ายทอดข่าวสารนี้ลงเป็นลายลักษณ์อักษร

ประเด็นอยู่ที่ว่า พระศาสนจักรคาทอลิคเอง ยังมี การเปิดเผย จากพระเจ้าอยู่เสมอ ผ่านบรรดาปิตาจารย์และบรรดานักบุญ และส่วนใหญ่ก็สอดคล้องกับหลักข้อเชื่อของพระศาสนาจักร โดยเฉพาะในเรื่องการเป็นพระเจ้าของพระเยซูคริสต์

ถึงตรงนี้อยากถามว่า พระคัมภีร์ในศาสนาของคุณ มีข้อความนี้ไหมครับ

1คร 12:3
ข้าพเจ้าขอยืนยันให้ท่านรู้ว่า ไม่มีผู้ใดพูดโดยพระจิตเจ้าทรงดลใจว่า “พระเยซูจงถูกสาปแช่ง” และหากพระจิตเจ้ามิได้ทรงดลใจก็ไม่มีผู้ใดพูดได้ว่า “พระเยซูคือองค์พระผู้เป็นเจ้า”


----------------------------------------------------------------

ส่วนการตีความที่ว่าพระเยซูคือทูตสวรรค์มีคาเอล โดยอ้างวิวรณ์บทที่12 พระคัมภีร์ของคริสตศาสนา ในบทนั้น เขียนออกมาแบบนี้

วว 12:1-17 นิมิตเรื่องสตรีและมังกร
เครื่องหมายยิ่งใหญ่ปรากฏในสวรรค์ คือสตรีผู้หนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ มีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า มีมงกุฎดาวสิบสองดวงประดับศีรษะ นางมีครรภ์แก่ กำลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจะคลอดบุตร เครื่องหมายอีกประการหนึ่งปรากฏในสวรรค์ คือมังกรใหญ่สีแดง มีเจ็ดหัวและสิบเขา แต่ละหัวสวมมงกุฎ หางของมันตวัดดวงดาวหนึ่งในสามบนท้องฟ้าให้ตกลงมาบนแผ่นดิน มังกรยืนอยู่ตรงหน้าสตรีที่กำลังจะคลอดบุตรเพื่อจะกินบุตรของนางทันทีที่คลอด นางคลอดบุตรเป็นชาย ซึ่งจะต้องปกครองชาติทั้งหลายด้วยคทาเหล็ก แต่บุตรของนางถูกคว้าตัวขึ้นไปเฝ้าพระเจ้ายังพระบัลลังก์ของพระองค์ ส่วนสตรีนั้นหลบหนีไปในถิ่นทุรกันดาร ที่นั่นนางมีที่พำนักซึ่งพระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อนางจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นเวลาหนึ่งพันสองร้อยหกสิบวัน

สงครามเกิดขึ้นในสวรรค์ มีคาเอลกับเหล่าทูตสวรรค์ของเขาต่อสู้กับมังกร มังกรพร้อมกับบริวารของมันก็ต่อสู้ด้วย แต่มันพ่ายแพ้และไม่มีที่พำนักในสวรรค์อีกต่อไป มังกรใหญ่ คืองูดึกดำบรรพ์ที่มีชื่อว่าปีศาจและซาตาน ผู้ล่อลวงผู้อาศัยอยู่ทั่วแผ่นดินให้หลงไป ถูกโยนลงมาบนแผ่นดิน บริวารของมันก็ถูกโยนลงมาด้วย ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากสวรรค์ว่า “บัดนี้ ความรอดพ้น พระอานุภาพและพระราชอาณาจักรเป็นของพระเจ้าของเราแล้ว และอำนาจเป็นของพระคริสต์ของพระองค์ เพราะผู้กล่าวหาบรรดาพี่น้องของเรา คือผู้ที่กล่าวหาเขาทั้งกลางวันกลางคืนเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าของเราก็ถูกโยนลงไปแล้ว บรรดาพี่น้องของเราชนะผู้กล่าวหา เดชะพระโลหิตของลูกแกะและอาศัยคำพยานของตน เพราะเขาไม่หวงแหนชีวิตแม้เมื่อเผชิญความตาย ดังนั้น สวรรค์และท่านทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในสวรรค์ จงชื่นชมเถิด วิบัติจงเกิดแก่แผ่นดินและทะเล เพราะปีศาจลงมายังแผ่นดินและทะเลด้วยความโกรธอย่างรุนแรง เพราะมันรู้ว่ามีเวลาเหลือน้อยแล้ว เมื่อมังกรหรืองูเห็นว่าตนถูกโยนลงมาบนแผ่นดิน ก็เริ่มเบียดเบียนสตรีที่คลอดบุตรชาย แต่สตรีนั้นรับปีกนกอินทรีใหญ่สองปีกเพื่อจะได้บินไปยังถิ่นทุรกันดารที่พำนักของนาง ที่นั่นนางจะได้รับการเลี้ยงดูพ้นสายตาของงูเป็นเวลาสามปีครึ่ง งูพ่นน้ำออกจากปากเหมือนแม่น้ำตามหลังสตรี เพื่อให้นางถูกกระแสน้ำพัดไป แต่แผ่นดินช่วยนางไว้ แผ่นดินอ้าปากออกและดื่มแม่น้ำที่มังกรพ่นออกมาจากปากของมัน มังกรโกรธสตรี และออกไปทำสงครามกับเผ่าพันธุ์ที่เหลือของนาง คือผู้ที่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระเจ้า และยึดมั่นในคำพยานถึงพระเยซูเจ้า

---ผมไม่เข้าใจว่าตีความได้ยังไงว่าทูตสวรรค์มีคาเอลคือพระเยซู เพราะพระองค์ในตอนนั้นยังเป็นเด็กถูกยกขึ้นถวายพระเจ้า ส่วนทูตสวรรค์มีคาเอลนั้น ก็ทำหน้าที่ของท่านในเวลาหลังจากนั้น หลังคลอดแค่ไม่กี่ปีแปลงร่างมาเป็นเทวดามีคาเอลสู้กับมังกรซะแล้วหรือ แล้วจะสรุปได้ยังไงว่านี่คือชื่อก่อนลงมาประสูติของพระเยซู เหตุการณ์นี้เกิดทีหลัง ยิ่งไปกว่านั้นการต่อสู้ของมังกรกับสตรีนั้นยังไม่จบเลยด้วย การที่คุณไปตีความว่าทูตสวรรค์มีคาแอลในบทนี้คือพระเยซูได้ มีทางเดียวคือ พระคัมภีร์ท่อนนี้ของคุณคงเขียนไม่เหมือนเรา ที่สำคัญ ผู้ปกครองโลกด้วยคฑาเหล็กนั้นปรากฎอีกครั้งในบทที่19

วว 19:11
(11)ข้าพเจ้าเห็นสวรรค์เปิด และเห็นม้าขาวตัวหนึ่ง ผู้ขี่มีชื่อว่า “ผู้ซื่อสัตย์” และ “ผู้เชื่อถือได้” เขาตัดสินและทำสงครามด้วยความยุติธรรม (12)นัยน์ตาของเขาเหมือนคบไฟ บนศีรษะมีมงกุฎหลายมงกุฎ เขียนชื่อไว้ ชื่อนั้นไม่มีใครรู้จัก นอกจากเขาเท่านั้น (13)เขาสวมเสื้อคลุมชุ่มเลือด ชื่อเขาคือ “พระวจนาตถ์ของพระเจ้า” (14)กองทัพที่อยู่ในสวรรค์ นั่งบนหลังม้าขาว สวมเสื้อผ้าป่านเนื้อละเอียดขาวบริสุทธิ์ ติดตามพระองค์ไป (15)ดาบคมออกจากพระโอษฐ์เพื่อใช้ฟาดฟันนานาชาติ พระองค์จะทรงปกครองเขาด้วยคทาเหล็ก พระองค์จะทรงย่ำองุ่นในบ่อให้เป็นเหล้าองุ่นที่มอมเมาคือพระพิโรธของ พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ (16)พระองค์มีพระนามเขียนไว้บนเสื้อคลุมและที่หลังพระชงฆ์ว่า “กษัตริย์แห่งกษัตริย์ทั้งหลาย และเจ้านายแห่งเจ้านายทั้งหลาย”


กองทัพของทูตสวรรค์มีคาแอล กับกองทัพของคนนี้คนละกองทัพ และแน่นอนว่าคนละคนกันนะครับ ทูตสวรรค์มีคาแอลคือกองทัพทูตสวรรค์ แต่กองทัพของคนผู้นี้ไม่ใชทูตสวรรค์ แต่เป็นธรรมิกชน

วว 7:9
หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นนิมิต ประชาชนมากมายเหลือคณานับจากทุกชาติ ทุกเผ่า ทุกประเทศและทุกภาษา กำลังยืนอยู่เฉพาะพระบัลลังก์และเฉพาะพระพักตร์ลูกแกะ ทุกคนสวมเสื้อขาว ถือใบปาล์ม (10)ร้องสรรเสริญเสียงดังว่า “ความรอดพ้นเป็นของพระเจ้าของเรา ผู้ประทับอยู่บนพระบัลลังก์ และเป็นของลูกแกะ”



ถ้าทัพของผู้ขี่ม้าถือคฑาเหล็กนี้ เป็นทัพเดียวกับมีคาแอล พระคัมภีร์คงระบุว่าเป็นทูตสวรรค์ไปเลย สั้นดีเข้าใจง่ายไม่ยาวไม่งงด้วย

ที่ยิ่งไปกว่านั้น การเข้าใจว่าอัครทูตสวรรค์มีองค์เดียว ก็แสดงออกถึงความรู้แต่ไม่ลึกของคนสรุปนะครับ เพราะตามธรรมเนียมยิว อัครทูตสวรรค์มี7องค์ครับ ยิ่งเป็นการยืนยันว่า ผู้ที่ตีความนั้น เพียงแต่ใช้พระคัมภีร์ในสาระบบหลักที่คาทอลิคจัดให้เท่านั้น ไม่มีความรู้ในพระคัมภีร์สาระบบรองอื่นๆมากมาย

แนะนำกระทู้นี้ครับ

†ทูตสวรรค์และพระเยซูเจ้า กับการโต้วาทีทางความเชื่อของ น.เปาโล†
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=5261.0

[hr]

ปล.ที่สำคัญ วิวรณ์บทที่12 มีบุคคลดังต่อไปนี้

บุคคลฝ่ายสวรรค์3คน

1.สตรีผู้มีพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้าประดับกายผู้เป็นมารดาของผู้ที่จะปกครองโลกด้วยคฑาเหล็กและเป็นมารดาผู้เชื่อพระเยซูทุกคน
2.เด็กทารกคนนั้น ผู้จะปกครองโลกด้วยคฑาเหล็ก
3.ทูตสวรรค์มีคาแอล

บุคคลฝ่ายซาตาน1ตัว

คือ มังกรแดง

บุคคลในโลกมากมาย

คือ เผ่าพันธุ์ที่เหลือของนาง คือผู้ที่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระเจ้า และยึดมั่นในคำพยานถึงพระเยซูเจ้า



---ผมแปลกใจที่ศาสนาของคุณสามารถโยงเอาหมายเลข2กับหมายเลย3มาเป็นคนเดียวกันได้ทั้งที่ยากที่จะโยงแถมดูทะแม่งๆอย่างแรงเมื่อโยง แต่กลับไม่ทราบว่าหมายเลข1นั้นคือใครทั้งที่เข้าใจได้ง่ายมาก
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พฤหัสฯ. ม.ค. 10, 2008 2:10 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พฤหัสฯ. ม.ค. 10, 2008 4:44 am

ผู้สนใจศึกษา เขียน: ตอบน้อง buddyนะครับ ในข้อ1 นั้นผมไม่รู้ว่าการเผยแสดงของทางคาทอลิกหรือโปรแตสแตนต์นั้นได้รับโดยทางใด อ่านแล้วผมงงนะหมายถึงการเปิดเผยพระองค์ให้เราทราบใช่มั๊ยครับ ถ้าเป็นเรื่องนั้นผมว่าทางเราก็ปฏิบัติกันโดยการศึกษาพระคัมภีร์ครับเราเชื่อว่า
การเปิดเผยจะได้รับก็ต่อเมื่อเราศึกษาอย่างละเอียดครับ(กิจการ17:11,มัท7:7) อย่างที่บอกเราไม่มีพิธีการมากมายอะไรครับแค่ศึกษาพระคัมภีร์นี่
จนแก่เราก็ยังจะขุดค้นจากพระองค์ไม่หมดครับ ที่ผมผมตอบเนี่ยตรงกับที่คุณถามรึเปล่าครับ ไม่แน่ใจ หรือหมายถึงการอัศจรรย์ครับ
ไม่ได้ถามซับซ้อนค่ะ  ถามง่ายๆอ่ะค่ะว่า เวลาเรารู้จักใคร  เราก็จะรู้จักเค้ามากขึ้นๆ  เค้าจะบอกว่า  เค้าคือใครที่มากขึ้นๆ  เหมือนเวลาที่เปโตรเจอพระเยซูเจ้าใหม่ๆน่ะค่ะ  จับปลาอยู่  พระองค์ก็มาบอกว่า  ให้ไปที่ลึกนะ  แล้วจะจับได้  ตอนนั้นก็รู้แค่ว่า  ท่านผู้นี้คือผู้ศักดิ์สิทธิ์  คือประกาศก  ต่อมาใน มธ 16 พระเยซูก็ถามอีกว่า  คนอื่นเค้าเห็นเราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้นะ  และท่านล่ะเห็นเราเป็นใคร    และพระเยซูก็บอกว่า  เปโตรคือใคร  ท่านไม่ใช่ซีโมนนะ  ท่านคือเปโตร  ท่านคือศิลา  เมื่อเรารู้จักพระองค์มากขึ้น  เราก็รู้จักตัวเองมากขึ้นด้วยว่า  แท้จริงแล้วพระเป็นเจ้าสร้างเรามาทำไม  ::001::

When Jesus went into the region of Caesarea Philippi 9 he asked his disciples, "Who do people say that the Son of Man is?" They replied, "Some say John the Baptist, 10 others Elijah, still others Jeremiah or one of the prophets." He said to them, "But who do you say that I am?" Simon Peter said in reply, "You are the Messiah, the Son of the living God." 

และเมื่อดำเนินต่อไปเรื่อยๆ  เปโตรก็เห็นมากขึ้นๆว่า  พระองค์คือใคร

ง่ายๆแบบนี้น่ะค่ะ
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พฤหัสฯ. ม.ค. 10, 2008 5:59 am

ถามเพิ่มนะคะ

คนที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้นี่  พยานฯ ไปประกาศข่าวดียังไงคะ  (อันนี้เจอกับตัว  จะไปสอนป้าคนนึงสวดพระเมตตา  ปรากฏป้ามองไม่เห็น  แว่นไม่ดีน่ะค่ะ  และก็จำไม่ได้  อ่านก็ไม่รู้เรื่อง)  ก็เลยแพร่ธรรมแบบอื่นแทน 

ได้เคยไปประกาศตามถิ่นยากไร้บ้างมั้ยคะ  และมีปัญหาแบบนี้บ้างมั้ยว่า  เค้าอ่านหนังสือไม่ค่อยได้น่ะค่ะ  แล้วไปสอนพระคัมภีร์เค้ายังไงคะ  ถ้าการเติบโตในความเชื่อมาจากพระคัมภีร์อย่างเดียวน่ะค่ะ  คนที่อ่านไม่ออก  จะโตได้ยังไงคะ
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

พฤหัสฯ. ม.ค. 10, 2008 9:26 am

พี่ปอสุดยอดดด....
ผู้สนใจศึกษา
โพสต์: 10
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 05, 2008 7:16 pm

ศุกร์ ม.ค. 11, 2008 1:37 am

  ตอนนี้เรากำลังคุยกันในส่วนที่ละเอียดลึกซึ้งกันแล้วนะครับ ก่อนอื่นขอยืนยันอีกครั้งนะครับพระคัมภีร์ที่พวกเราใช้ แปลเหมือนกับของคุณครับ ไม่ได้หมายถึงเหมือนแบบตรงตามตัวอักษรนะครับแต่เหมือนกันในเชิงสื่อความหมายคือกล่าวถึงเรื่องเดียวกันอยู่ครับ ที่ต่างกันชัดๆมีเรื่องเดียวคือของเรามีพระนามยะโฮวาใส่คืนกลับเข้ามาครับ
  เรื่องของหนังสือวิวรณ์นั้น ผมว่าผมแสดงให้เพื่อนๆเห็นแล้วว่าผมอยากให้พวกคุณไปศึกษากับพวกเรากันเองโดยตรงนะครับจะไปแบบเป็นหมู่คณะ
ก็ได้นะครับยินดีครับ ไม่ได้ไม่อยากตอบนะครับแต่ผมเห็นว่าการคุยเรื่องละเอียดลึกซึ้งแบบนี้ในเว็บบอร์ดนั้นมันจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเท่าที่ควร
เรื่องนี้สำหรับเรานั้นศึกษากันเป็นปีๆเลยครับ
หากคุณมีความอยากรู้จริงๆโดยไร้อคติคุณจะพบคำตอบที่น่าพอใจจากเราครับ ผมขอยืนยันจริงๆ
  ตอบให้หน่อยนึงแล้วกันนะครับเด็กที่คลอดออกมานั้นไม่ใช่องค์พระเยซูเจ้าูครับ ทำไมเราถึงเชื่อแบบนั้น ?..ตัวเลขหนึ่งพันสองร้อยหกสิบวันและหญิง
ที่เพิ่งคลอดคือคำตอบครับ ต่อจากนี้ถ้าเพื่อนๆอยากรู้จริงๆก็เชิญมาเยี่ยมที่หอประชุมของเราในที่ๆเพื่อนๆจะสะดวกก็แล้วกันนะครับ
  สำหรับคำถามของน้องbuddy นั้น จริงๆแล้วพวกเรามีสื่อการสอนสำหรับคนพิการอยู่นะครับไม่ว่าจะเป็นอักษรเบล วีซีดีที่ใช้ท่าทางของภาษาใบ้ เทปเสียง
เรามีทั้งหมดครับดังนั้นถ้าเราพบผู้สนใจเราก็ใช้สื่อพวกนี้เป็นเครื่องมือช่วยครับ ปัจจุบันนี้เรามีพี่น้องที่เป็นคนพิการอยู่เยอะเหมือนกันนะครับ ถ้าเจอประเภทที่ใช้สื่อเหล่านี้ไม่ได้เราก็ใช้ความพยายามกับเค้ามากๆและมาเยี่ยมเขาบ่อยๆเค้าก็จะรับรู้ถึงสิ่งที่เราจะสื่อได้ครับการแสดงความรักแบบ
คริสเตียนของเรานี้อาจจะสำคัญกว่าคำพูดใดๆเลยก็ได้ครับ ผมรู้จักคุณป้าคนนึงที่เค้าอ่านหนังสือไม่ออกแต่เค้ากลับได้รับคำพยานจากพี่น้องที่เป็นต่างชาติครับไม่น่าเชื่อว่าเค้าจะคุยกันได้ คุณคิดว่าอะไรที่ทำให้คุณป้าหัวแข็งคนนี้เปลี่ยนมานมัสการพระยะโฮวาทุกวันนี้ล่ะครับ เค้ายอมแพ้ความพยายามของพี่น้องต่างชาติคนนี้ครับปัจจุบันนี้เขาก็ได้รับการสอนอ่านภาษาไทยจากพี่น้องชาวต่างชาติคนนี้จนอ่านภาษาของตัวเองออก
เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังไงก็ลองนำไปใช้ดูนะครับ แต่ถึงอย่างไรการที่เราจะบรรลุงานประกาศราชอาณาจักรนี้ เราคงไม่สามารถทำสำเร็จได้ครับ หากปราศจากการหนุนหลังจากพระยะโฮวา ดังนั้นเราจึงต้องอธิษฐานขอพระองค์ให้ทรงอวยพระพรแก่คนเหล่านั้นให้ทรงช่วยเปิดใจคนเหล่านั้นให้สามารถรับข่าวสารจากพระองค์ได้
มีประสบการณ์อื่นๆเพิ่มเติมอีกสักหน่อย ผมรู้จักพี่น้องคนนึงที่เคยเป็นร่างทรงมาก่อน เขามีประสบการณ์โดยตรงกับการถูกรังควานจากผีปีศาจครับ
เขาติดต่อกับพวกนี้ได้แม้เขาจะไม่อยากยุ่งกับมันเลยก็ตาม พี่น้องของเราใช้เวลาสิบปีในการช่วยเหลือเขาให้ออกมาจากพวกมันได้ ไม่ใช่ง่ายๆเลยครับ
เพราะนอกจากจะต้องทำให้คนที่บอกว่าไม่มีวันเชื่อเรื่องพระเจ้ายอมเปลียนความคิดแล้วยังต้องช่วยเหลือเค้าจากการถูกพวกเจ้าที่ต่างๆคุกคามอีก
เพราะมันก็ยังคงตามมารบกวนอยู่ระยะหนึ่ง เค้าอธิษฐานขอพระยะโฮวาให้ทรงช่วยเค้าจนสำเร็จครับปัจจุบันพวกม้นไม่มารบกวนเค้าอีกแล้วเห็นได้ชัดว่า
เคสนี้เกินกำลังของมนุษย์อย่างเราจริงๆถ้าพระเจ้าไม่ทรงช่วยเหลือเค้าๆก็คงต้องเป็นร่างทรงต่อไปในทุกวันนี้ครับ
    เพื่อนๆทุกๆคนครับจริงๆแล้วในวันนี้ผมต้องการจะบอกว่าผมจะมาคุยครั้งนี้ด้วยเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนะครับ เพราะผมก็หายสงสัยในเรื่องของคริสตจักร
ค่อนข้างเยอะแล้ว ก็ต้องขอบคุณเพื่อนๆทุกคนนั่นแหละครับที่ช่วยให้ความรู้ที่เป็นประโยชน์กับผมขอบคุณมากๆ โดยเฉพาะ K.Holy K.jeab K.buddy
K ปอ ครับที่รู้สึกจะเมื่อยนิ้วพอสมควรในการให้ความรู้กับผมครับ ไม่ว่าเพื่อนๆจะเชื่อยังไงก็ขอให้อย่าได้ประมาทนะครับขอเชียร์ให้ศึกษาพระคัมภีร์ต่อๆ
ไปนะครับ ผมเองก็จะทำเช่นนั้นครับหวังว่าสักวันพระคำของพระเจ้าจะพาเราไปถึงข้อยุติในความแตกต่างนี้ครับ เพราะยังไงก็ตามศาสนาแท้ก็มีเพียง1เดียวครับ หากหลังอามาเก็ดดอนถ้าผมยังอยู่หวังว่าตอนนั้นเราคงจะได้คุยกันแบบเจอหน้าเจอตากันนะครับ
ผมจะอธิษฐานเผื่อถึงทุกๆคนในนี้เรื่อยๆนะครับ  bye bye ครับ ขอพระเจ้าทรงคุ้มครองทุกๆท่านครับ::004::
                                                                              ผู้สนใจศึกษา
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

ศุกร์ ม.ค. 11, 2008 4:10 am

ไม่เห็นจะถามอะไรเลย  จู่ๆก็เข้าใจ

ไม่รู้คนอื่นคิดยังไงนะ  รู้สึกว่า  คนที่อยู่ศาสนา (ที่คนเค้าว่า) แปลก เนี่ย  ทำไมต้องทำตัว แปลก  แบบเค้าว่าด้วย  ไม่ทำตัวเปิดเผย  ไม่เข้าใจ  และทำไมเค้าถึงคิดว่า  ความรัก  ความพยายาม  ความอดทน  คนอื่นไม่มีให้อ่ะ  คณะพระมหาไถ่  ทำงานกับคนโรคเรื้อน  โดยไม่หวังผล  คามิลเลี่ยนยอมตายได้เพื่อช่วยคน  ทำไมเค้าไม่เห็นว่า  นี่เป็นการกระทำที่ไม่หวังผล  การนั่งอธิบายด้วยความอดทน  ไม่หวังผลตรงไหน  ไม่เข้าใจ  :huh:  ก็เห็นชัดๆว่า  หวังจะประกาศอยู่อ่ะ 

คนที่สามารถตายแทนคนอื่นได้  กลับไม่เห็นความรักจากคนเหล่านี้  แต่กลับเห็นความรักจากคนที่เค้า  เอาใจตัวเอง  แบบนี้เค้าจะเห็นความรักจากพระเยซูมั้ยอ่ะ  ::009::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ มี.ค. 13, 2011 7:16 pm

Jeab Agape เขียน:5. คริสตจักร ( พระศาสนจักร )

พยานพระเยโฮวาห์สอนว่าระเบียบการปฏิบัติต่างของคริสตจักรทั้งคาทอลิก
และโปรเตสแตนต์นั้นมีจุดกำเนิดจากซาตาน และมันยังควบคุมดูแลอยู่ ความเชื่ออัน
นี้เกิดจากการที่พวกเขาตีความหมายผิดจากพระธรรมวิวรณ์คำว่า “สัตว์ร้าย” และ
“รูปเคารพแห่งสัตว์ร้าย” [“…จุดประสงค์ที่จะบอกข้อความควรรู้แก่ทุกคนว่า ระบบ ระเบียบต่างๆเกี่ยวกับคริสตจักรทั้งของคาทอลิกและโปรเตสแตนต์ลวนแต่อยู่ใต้การ ดูแลและการควบคุมของพญามาร…และด้วยเหตุนั้น จึงประกอบเป็นพวกต่อต้าน พระคริสต์” การปลดปล่อย, หน้า 222,226,230]

พวกนี้ยังกล่าวร้ายว่าคริสต์ศาสนาที่มีระเบียบแบบคณะหรือองค์การเป็นพวก
หน้าไหว้หลังหลอก, เห็นแก่ตัวอย่างมาก, ไม่มีความรักแท้ และกำลังต่อต้านพระเยโฮ
วาห์ (การเตรียมพร้อม, หน้า 318) นอกจากนี้พวกเขาอธิบายว่าการที่พวกพยาน
พระเยโฮวาห์เป็นพวกคริสเตียนแท้ และเป็นผู้ที่ปฏิเสธที่จะแสดงความจงรักภักดีต่อ
ระบบระเบียบองค์การของพญามารคือคริสตศาสนา ซึ่งเป็นสาเหตุที่พวกเขาถูก ต่อต้านจากคริสตจักรต่างๆ


พยานพระเยโฮวาห์เชื่อว่าร่างกายเดิมหลังจากผู้นั้นตายแล้วก็จะเปลื่อยเน่า
คุ้นๆเหมือนคลิปด่าคาทอลิกในยูทูปไหม
aqua-alta
โพสต์: 286
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ต.ค. 27, 2010 8:03 pm
ที่อยู่: ถ.ราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม.

อังคาร มี.ค. 15, 2011 11:09 am

ข้อพระคัมภีร1ธส.4:16ที่บอกว่าพระผู้เป็นเจ้า(พระเยซู)ตรัสด้วยสำเนียงอัครทูตสวรรค์ครับ
ผมอ่านหลายรอบและพยายามตีความแต่ ไม่เห็นพระเยซูตรัสด้วยสำเนียงทูตสวรรค์เลย เห็นแต่เมื่อพระองค์ลงมา จะมีเสียงหัวหน้าทูตสวรรค์และเสียงแตร ซึ่งเครื่องหมายเหล่านี้เคยใช้บรรยายการแสดงองค์ของพระเจ้า(อพย 19:16เชิงอรรถg) อ้างอิงจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ภาคพันธสัญญาใหม่ของคาทอลิก 1ธส บทที่4 เชิงอรรถj

ตลกดีนะครับ(น่ากลัวด้วย สำหรับผู้ที่อ่อนแอในฝ่ายวิญญาณ)
ที่รร.ผมก็มีรุ่นน้องเป็นพยานพระยะโฮวาห์เหมือนกัน
คุยแล้วเหนื่อยเปล่าครับ(อย่างน้อยผมบอกได้เลยว่าเหนื่อยกว่าคุยกับคนพุทธ)
พอผมเอาเข้าจริง เค้าก็ได้เเต่ชวนให้ไปร่วมประชุมกับเค้าดู
ผู้มีชัยชนะ144000คนอะ เป็นเลขที่เรามองได้เป็นแบบเล็ง
(ทุกคนที่ศึกษาพระคัมภีร์บ้าง น่าจะรู้ดีถึงความหมายของเลข12(มาจาก3เลขของพระเจ้าx4เลขของมนุษย์) แล้วยังยกกำลัง2แล้วยังคูณ1000)คือเลขแห่งความอุดมบริบูรณ์ ไม่ใช่จำนวนเท่านี้จริงๆ(หนังสือประเภทการเปิดเผย มักจะใช้คำพูดที่เป็นสัญลักษณ์เสมอๆ)
และผมจะขอพึ่งในพระกรุณาคุณของพระเยซู พระบุตรผู้เป็นพระเจ้าของผม ในการดำเนินชีวิต เพื่อจะได้เป็นผู้มีชัยชนะ ถูกรับทั้งเป็นตอน3ปีครึ่งแรก ใครอยากอยู่บนโลกตอน3ปีครึ่งหลัง หรือตอนสงครามอามาเก็ดดอนก็เชิญครับ ผมไม่ขอเอาด้วย
ส่วนคนที่แม้อยู่บนโลกนี้ยังไม่รู้จักพระเยซู น้ำพระทัยของพระองค์และพระประสงค์ของพระองค์ มาบอกว่าพระองค์ไม่ใช่พระเจ้า ลดตำแหน่งพระองค์เป็นทูตสวรรค์ วันนั้น พระดำรัสที่ว่า"เราไม่รู้จักเจ้า"คงได้ตรัสกับพวกคุณ
ปล. ผมไม่ได้สาปแช่ง ไม่ได้พิพากษาตัดสินเพราะผมไม่คู่ควร แต่เราเห็นได้ในพระคัมภีร์ ทุกอย่างมีต้นเหตุ ก็ต้องมีผลลัพธ์ ขอพระเจ้าอวยพระพร พวกเราอธิษฐานภาวนากันมากๆนะครับ^^
Toey Kung
โพสต์: 54
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร เม.ย. 29, 2008 1:20 pm
ที่อยู่: กรุงเทพฯ
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 25, 2011 10:13 am

ผู้สนใจศึกษา เขียน:มีนิดนึงนะครับ อยากให้ลองสังเกตข้อความที่กล่าวถึงมุมมองของพยานฯต่อพระเยซูหน่อยนะครับผมรู้สึกว่าเขาใช้คำว่าทูตสวรรค์องค์หนึ่งนั้น
แม้ฟังแล้วมันจะดูเหมือนไม่ผิด แต่ความรู้สึกที่ทำให้คุณมองพวกเรามันเลยกลายเป็นพวกเรามองพระองค์แบบ์ไม่ให้ความสำคัญเท่าที่ควรใช่มั๊ยครับ
จริงๆแล้วเราก็ตั้งพระองค์ไว้สูงมากนะครับก็อยู่รองจากพระบิดานั่นเองแล้วเราก็รู้จักพระยะโฮวามากขึ้นจากการสังเกตบุคคลิกที่เรียกได้ว่าเหมือนกันกับ
พระบิดาทุกประการของพระเยซูนั่นเอง เราใช้คำว่าอัครทูตสวรรค์ครับ ในพระคำภีร์บอกให้รู้ว่าแม้มีทูตสวรรค์หลายร้อยล้านองค์แต่อัครทูตสวรรค์นั้น
มีองค์เดียวเท่านั้นคือมิคาเอลครับข้อนี้โยงกับข้อพระคัมภีร1ธส.4:16ที่บอกว่าพระผู้เป็นเจ้า(พระเยซู)ตรัสด้วยสำเนียงอัครทูตสวรรค์ครับ ส่วนใน
วิวรณ์12:7บอกว่ามิคาเอลเป็นผู้นำกองทัพทูตสวรรค์ของพระองค์ แล้วมากล่าวใน2ธส.1:7,มธ13:41,16:27,24:31ว่าพระเยซูทรงเป็นผู้นำกองทัพ
ทูตสวรรค์ ..เราตีความหมายนี้ได้ว่าจริงๆแล้วพระนามเดิมของพระเยซูก่อนประสูติเป็นมนุษย์ก็คือมิคาเอลนั่นเอง
ในพระคัมภีร์ พระเยซูเองก็ทรงตรัสใว้ชัดเจนว่าพระองค์คือ องค์พระผู้เป็นเจ้า นะครับ

ยอห์น 13

12 เมื่อพระองค์ทรงล้างเท้าเขาทั้งหลายแล้ว พระองค์ก็ทรงฉลองพระองค์ และเอนพระกายลงอีกตรัสกับเขาว่า "ท่านทั้งหลายเข้าใจในสิ่งที่เราได้กระทำแก่ท่านหรือ

13 ท่านทั้งหลายเรียกเราว่า พระอาจารย์และองค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านเรียกถูกแล้ว เพราะเราเป็นเช่นนั้น

14 ฉะนั้นถ้าเราผู้เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และพระอาจารย์ของท่าน ได้ล้างเท้าของพวกท่าน พวกท่านก็ควรจะล้างเท้าของกันและกันด้วย


http://www.jaisamarn.org/webboard/question.asp?QID=5943
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. พ.ค. 26, 2011 7:50 am

ผ่านไปสามปีกว่าแล้ว พยานพนะยะโฮวาห์ที่ใช้ชื่อ "ผู้สนใจศึกษา" ยังไม่มาตอบแก้ต่างให้กับกลุ่มพยานฯ เลย สงสัยจะเลิกเป็นพยานฯ แล้วมั้งครับ วันก่อนเห็นที่ตึกตรงแยกถนนสีลมตัดกันราธิวาส มีป้ายติดว่า "Kingdom Hall" ของพยานพระยะโฮวาห์ อยู่ชั้น 14 ที่นี่เป็นที่จัดอบรมหรือว่าเป็นสำนักงานใหญ่ก็ไม่รู้ ช่วงนี้ เห็นยังโจมตีศาสนาคริสต์สายหลักในเว็บ pantip อยู่บ่อย ๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. พ.ค. 26, 2011 3:54 pm

เพิ่งมาอ่านค่ะ มีนิกายแบบนี้เคยได้ใบปลิว ชอบเขียนอะไรๆน่ากลัวจัง :s030:
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ ส.ค. 07, 2011 5:49 am

พี่เพชรลองอ่านกระทู้นี้ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 5937
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ส.ค. 10, 2011 2:04 pm

บางนิกายประกาศเรื่องพระเจ้าได้น่ากลัวมากถ้าไม่เชื่อตกนรกอย่างเดียว เรียกว่าขู่ไว้ก่อน.... ::022::
TanakomAon2232545
โพสต์: 30
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 25, 2016 1:05 am

พุธ ส.ค. 24, 2016 12:47 am

น่ากลัวจัง น้าผมก็เป็นคนของกลุ่มพยานฯ ตอนแรกนึกว่าเป็นโปรฯซะอีก ช่วงแรกๆก็ชอบมาแจกใบปลิว
แล้วชอบมาถามว่า "อยากรู้จักพระเจ้ารึเปล่า" แล้วก็ชวนไปอบรมที่นู้นที่นี่ แต่ตอนนั้นเป็นเด็กก็เลยไม่ได้สนใจ แต่ช่วงนี้ไม่ค่อยมา สงสัยงานยุ่ง555555
ขอภาวนาแด่พระแม่มารีย์ ''โปรดช่วยวิงวอนแด่พระเจ้า เพื่อให้พวกเขากลับใจด้วยเทอญ''
:s012: :s012: :s013: :s013:
ตอบกลับโพส