19. ยูดาสแขวนคอ
โพสต์แล้ว: อังคาร เม.ย. 07, 2009 12:32 am
19. ยูดาสแขวนคอ (วันเดียวกัน)
เมื่อยูดาสมอบเราแก่ศัตรู ในสวนเกทเสมนีแล้ว มโนธรรมติเตียนเขาอย่างหนัก ที่ได้กระทำการขายอาจารย์ เมื่อไม่อาจดับมโนธรรมได้จึงได้หนีไป เมื่อได้ข่าวว่าเราถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิต ก็เสียใจอย่างสุดขีด จนแขวนคอตายอย่างน่าอนาถ
ยูดาสเป็นคนหนึ่งในสาวก 12 คน ได้อยู่กับเราหลายปี ได้ผ่านโรงเรียนแห่งความรัก ได้รับคำสั่งสอนจากเราเอง เราเคยกล่าวว่าจะยกบาปหนักที่สุดหลายครั้ง เขาเห็นและได้ยิน แต่ก็กลับกระโจนสู่ความพินาศนิรันดร นี่คือความปวดร้าวใหญ่หลวงในใจของเรา ใครจะเข้าใจได้
ยูดาสเอ๋ย ทำไมไม่มาขอโทษเล่า ? เจ้ากลัวผู้ใด ? กลัวเหล่าร้ายที่ห้อมล้อมเรานั้นหรือ ! ถ้ากลัว อย่างน้อยก็ให้มองดูเราสิ แล้วจะเห็นว่านัยน์ตาของเรากำลังมองหาเจ้า
ส่วนคนที่ปล่อยตัวในความชั่วช้า คนที่ระหกระเหเร่ร่อน เพราะได้ประพฤติอาชญากรรมมาแล้วจะช้าหรือเร็วก็ตาม แม้คนที่ได้กระทำบาปมากมายใจแข็งกระด้าง หรือล้มลุกคลุกคลาน ตามราคะตัณหามาช้านาน เมื่อรู้สึกสำนึกตน หรือคิดถึงบุคคลที่ได้ร่วมกระทำบาปด้วยกันแล้ว ยินยอมละทิ้งต้นเหตุหรือโอกาสบาปก็ให้มาหาเรา ไม่ต้องลังเลหรือเสียใจ ตราบใดที่ลมปราณยังมีอยู่ หากลูกมาขอโทษด้วยใจจริง จะได้รับการยกโทษเสมอ
คนที่ประพฤติผิดแต่เยาว์วัย เสื่อมเกียรติเสียชื่อต่อหน้ามนุษย์ หรือถูกสบประมาททอดทิ้ง พระเป็นเจ้าจะไม่ปล่อยให้ลูกเสียวิญญาณเป็นเหยื่อนรกเป็นอันขาด ตรงข้ามพระองค์ทรงเรียกและคอยท่า ทรงร้อนพระทัยจะยกโทษให้เสมอ เข้ามาหาเราเถิดแม้ไม่กล้าออกปากขอโทษก็ให้ถอนใจเพ่งตามองหาเราเท่านั้น ไม่ช้าจะเห็นว่า เรา พระเป็นเจ้าของลูก จะพาลูก มาสู่ธาร แห่งชีวิต ด้วยมือ อันเต็มไปด้วยความกรุณา จะชำระล้างบาปยกโทษให้แก่ลูกจนหมดสิ้น
แม้ว่าชีวิตส่วนใหญ่ของลูกเต็มไปด้วยความอสัตย์อธรรม ดวงใจเมินเฉยต่อศาสนกิจ หากรู้สึกว่าใกล้นิรันดรภาพเข้าไปทุกที ถึงแม้วิญญาณจะมืดมนแทบสิ้นหวัง จงระวังตัว อย่ายอมให้ถูกหลอก เพราะตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ การยกโทษยังมีอยู่เสมอ แม้เวลาเพียงนิดเดียวก็พอไถ่ชีวิตนิรันดรมาได้ ถ้าลูกสมัครใจ
แม้จะได้ลุ่มหลงกระทำผิดนั้นเป็นอันตรายแก่คนอื่น แก่สังคมตลอดถึงพระศาสนาด้วย หากภายหลังรู้สึกสำนึกตัวอย่ารีรอผัดวันประกันพรุ่ง อย่าปล่อยให้บาปกรรมอีกทั้งอันตรายที่ตัวลูกเองเป็นต้นเหตุนั้น ทับถมตัวต่อไป ให้สำนึกความผิดเป็นทุกข์ตรอมใจ วางใจเต็มที่ แล้วเข้ามาหาพระเป็นเจ้าของลูกเถิด เพราะเราคอยท่า ปรารถนายกโทษความผิดหลงของลูกเสมอ
ส่วนคนที่เริ่มชีวิตด้วยดี สัตย์ซื่อถือพระบัญญัติ แล้วค่อยๆ เฉยเมยเปลี่ยนเป็นเย็นชา เพราะความสะดวกสบายในชีวิต คนจำพวกนี้มักลืมวิญญาณ ไม่เอาใจใส่หาความดีใส่วิญญาณ พวกนี้ต้องพยายามมากหน่อย การปล่อยตัวจนเคยชิน วิญญาณก็มืดบอด ใจเย็นเป็นน้ำแข็ง ซึ่งร้ายกว่าความแข็งกระด้างในบาปเสียอีก เพราะว่ามโนธรรมของเขากำลังนอนหลับคล้ายจะดับไปเสียแล้ว ขอให้รู้เถิดว่า เมื่อมีเหตุมาสะกิดใจซึ่งอาจปลุกให้ตื่นได้ในทันที แต่ไม่ตื่น กลับเห็นไปว่าชีวิตนี้ไร้ค่า ไม่มีประโยชน์สำหรับชีวิตนิรันดร ทั้งนี้เพราะได้ทำเสียพระหรรษทานมากนัก ฝ่ายเจ้าปีศาจ มันไม่ยอมปล่อยเหยื่อของมัน. มันปลุกปั่นให้เกิดความว้าวุ่นกลุ้มใจ โศกเศร้า ละเหี่ยเพลียใจ หมดความพยายาม สุดท้ายก็เสียวิญญาณ
วิญญาณที่รัก อย่าฟังคำชักชวนของปีศาจ มันเป็นศัตรูของวิญญาณ แต่ให้รีบมากราบขอโทษโดยเร็วอย่างจริงใจ ไม่ต้องกลัวว่า เราจะไม่ยกโทษให้ แล้วเริ่มชีวิตใหม่ด้วยความร้อนรน บุญกุศลที่เสียไปก็จะได้คืนมา พระหรรษทานนั้นเราจะประทานให้อย่างเพียงพอ
สุดท้ายใน บรรดานักบวชก็มีอยู่เหมือนกันที่เคร่งครัด ถือพระวินัยและหน้าที่เป็นปีๆ เพราะรู้ซึ้งถึงคำแนะนำของเรา ทั้งปฏิบัติตามพระหรรษทานตลอด ถึงการดลใจของพระเป็นเจ้า อย่างซื่อสัตย์ ต่อมาปล่อยตัวตามความลำเอียงเล็กน้อย ไม่หลีกหนีโอกาสบาป ตามใจตัวเอง ไม่พยายามตามที่ควร ต่อมาใจเย็นเฉย ชีวิตหวนกลับไปอย่างธรรมดาแล้วต่ำลงไปอีก สุดท้ายก็เย็นเป็นน้ำแข็ง โอ....ถ้าหากว่ามารู้สึกตัว แล้วตื่นจากการนอนหลับได้ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งก็ตาม จงระวังเถิด ด้วยความโกรธแค้น ซาตานจะรุกเร้าอย่างหนัก กลวิธีของมันคือหลอกลวงว่าช้าไปเสียแล้ว ไม่มีประโยชน์แล้ว จะทำให้เกิดความกลัว ไม่กล้าเปิดเผยวิญญาณ ไม่กล้าบอกความจริงตามที่เป็นอยู่ สุดท้ายก็ว้าวุ่น เสียใจ ในเหตุการณ์ เช่นนี้ควรทำอย่างไร ? เราจะบอกให้.... จงกระทำตามการดลใจ แห่งพระหรรษทานแต่ก่อนที่การรบจะอุบัติขึ้น ให้มาหาใจของเรา ขอประทานโลหิตสักหยาดหนึ่งหยดลงมาในวิญญาณ
ถูกแล้ว ให้มาหาเรา เราเองจะเป็นผู้คุ้มครองลูก ผู้ใหญ่จะเป็นใครหรือจะเป็นอย่างไรก็ตาม เราจะควบคุมดูแลให้อ้อมแขนของท่านเป็นอ้อมแขนของเราเอง เราจะสถิตอยู่ที่อ้อมแขนของผู้ใหญ่ บังตัวเราอยู่ใต้ม่านแห่งความเชื่อ จงเปิดม่านนั้นออก บอกให้เราทราบความทุกข์ ความลำบาก ความยากอันมีอยู่ในใจ รวมทั้งความผิดของลูกด้วย จงสารภาพด้วยความวางใจเต็มเปี่ยม และฟังคำตอบอย่างเคารพ ส่วนอดีตเป็นอย่างไรไม่ต้องกังวลถึง เราจะถ่วงมันไว้ในเหวแห่งความกรุณา และจะประทานพรพระหรรษทานใหม่ๆ ให้ พร้อมด้วยความรัก เมื่อคิดถึงบาปในอดีต ให้คิดเฉพาะเพื่อถ่อมตน และเพิ่มพูนฤทธิ์กุศลเท่านั้น ถ้าอยากพิสูจน์ความรักยิ่งขึ้นอีก ให้เชื่อแน่แก่ใจว่าเราได้ให้อภัยแล้ว เชื่อเถิด บาปของลูกไม่เกินความเมตตาของเราหรอก เพราะพระเมตตาของเราไม่มีขอบเขต
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เมื่อยูดาสมอบเราแก่ศัตรู ในสวนเกทเสมนีแล้ว มโนธรรมติเตียนเขาอย่างหนัก ที่ได้กระทำการขายอาจารย์ เมื่อไม่อาจดับมโนธรรมได้จึงได้หนีไป เมื่อได้ข่าวว่าเราถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิต ก็เสียใจอย่างสุดขีด จนแขวนคอตายอย่างน่าอนาถ
ยูดาสเป็นคนหนึ่งในสาวก 12 คน ได้อยู่กับเราหลายปี ได้ผ่านโรงเรียนแห่งความรัก ได้รับคำสั่งสอนจากเราเอง เราเคยกล่าวว่าจะยกบาปหนักที่สุดหลายครั้ง เขาเห็นและได้ยิน แต่ก็กลับกระโจนสู่ความพินาศนิรันดร นี่คือความปวดร้าวใหญ่หลวงในใจของเรา ใครจะเข้าใจได้
ยูดาสเอ๋ย ทำไมไม่มาขอโทษเล่า ? เจ้ากลัวผู้ใด ? กลัวเหล่าร้ายที่ห้อมล้อมเรานั้นหรือ ! ถ้ากลัว อย่างน้อยก็ให้มองดูเราสิ แล้วจะเห็นว่านัยน์ตาของเรากำลังมองหาเจ้า
ส่วนคนที่ปล่อยตัวในความชั่วช้า คนที่ระหกระเหเร่ร่อน เพราะได้ประพฤติอาชญากรรมมาแล้วจะช้าหรือเร็วก็ตาม แม้คนที่ได้กระทำบาปมากมายใจแข็งกระด้าง หรือล้มลุกคลุกคลาน ตามราคะตัณหามาช้านาน เมื่อรู้สึกสำนึกตน หรือคิดถึงบุคคลที่ได้ร่วมกระทำบาปด้วยกันแล้ว ยินยอมละทิ้งต้นเหตุหรือโอกาสบาปก็ให้มาหาเรา ไม่ต้องลังเลหรือเสียใจ ตราบใดที่ลมปราณยังมีอยู่ หากลูกมาขอโทษด้วยใจจริง จะได้รับการยกโทษเสมอ
คนที่ประพฤติผิดแต่เยาว์วัย เสื่อมเกียรติเสียชื่อต่อหน้ามนุษย์ หรือถูกสบประมาททอดทิ้ง พระเป็นเจ้าจะไม่ปล่อยให้ลูกเสียวิญญาณเป็นเหยื่อนรกเป็นอันขาด ตรงข้ามพระองค์ทรงเรียกและคอยท่า ทรงร้อนพระทัยจะยกโทษให้เสมอ เข้ามาหาเราเถิดแม้ไม่กล้าออกปากขอโทษก็ให้ถอนใจเพ่งตามองหาเราเท่านั้น ไม่ช้าจะเห็นว่า เรา พระเป็นเจ้าของลูก จะพาลูก มาสู่ธาร แห่งชีวิต ด้วยมือ อันเต็มไปด้วยความกรุณา จะชำระล้างบาปยกโทษให้แก่ลูกจนหมดสิ้น
แม้ว่าชีวิตส่วนใหญ่ของลูกเต็มไปด้วยความอสัตย์อธรรม ดวงใจเมินเฉยต่อศาสนกิจ หากรู้สึกว่าใกล้นิรันดรภาพเข้าไปทุกที ถึงแม้วิญญาณจะมืดมนแทบสิ้นหวัง จงระวังตัว อย่ายอมให้ถูกหลอก เพราะตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ การยกโทษยังมีอยู่เสมอ แม้เวลาเพียงนิดเดียวก็พอไถ่ชีวิตนิรันดรมาได้ ถ้าลูกสมัครใจ
แม้จะได้ลุ่มหลงกระทำผิดนั้นเป็นอันตรายแก่คนอื่น แก่สังคมตลอดถึงพระศาสนาด้วย หากภายหลังรู้สึกสำนึกตัวอย่ารีรอผัดวันประกันพรุ่ง อย่าปล่อยให้บาปกรรมอีกทั้งอันตรายที่ตัวลูกเองเป็นต้นเหตุนั้น ทับถมตัวต่อไป ให้สำนึกความผิดเป็นทุกข์ตรอมใจ วางใจเต็มที่ แล้วเข้ามาหาพระเป็นเจ้าของลูกเถิด เพราะเราคอยท่า ปรารถนายกโทษความผิดหลงของลูกเสมอ
ส่วนคนที่เริ่มชีวิตด้วยดี สัตย์ซื่อถือพระบัญญัติ แล้วค่อยๆ เฉยเมยเปลี่ยนเป็นเย็นชา เพราะความสะดวกสบายในชีวิต คนจำพวกนี้มักลืมวิญญาณ ไม่เอาใจใส่หาความดีใส่วิญญาณ พวกนี้ต้องพยายามมากหน่อย การปล่อยตัวจนเคยชิน วิญญาณก็มืดบอด ใจเย็นเป็นน้ำแข็ง ซึ่งร้ายกว่าความแข็งกระด้างในบาปเสียอีก เพราะว่ามโนธรรมของเขากำลังนอนหลับคล้ายจะดับไปเสียแล้ว ขอให้รู้เถิดว่า เมื่อมีเหตุมาสะกิดใจซึ่งอาจปลุกให้ตื่นได้ในทันที แต่ไม่ตื่น กลับเห็นไปว่าชีวิตนี้ไร้ค่า ไม่มีประโยชน์สำหรับชีวิตนิรันดร ทั้งนี้เพราะได้ทำเสียพระหรรษทานมากนัก ฝ่ายเจ้าปีศาจ มันไม่ยอมปล่อยเหยื่อของมัน. มันปลุกปั่นให้เกิดความว้าวุ่นกลุ้มใจ โศกเศร้า ละเหี่ยเพลียใจ หมดความพยายาม สุดท้ายก็เสียวิญญาณ
วิญญาณที่รัก อย่าฟังคำชักชวนของปีศาจ มันเป็นศัตรูของวิญญาณ แต่ให้รีบมากราบขอโทษโดยเร็วอย่างจริงใจ ไม่ต้องกลัวว่า เราจะไม่ยกโทษให้ แล้วเริ่มชีวิตใหม่ด้วยความร้อนรน บุญกุศลที่เสียไปก็จะได้คืนมา พระหรรษทานนั้นเราจะประทานให้อย่างเพียงพอ
สุดท้ายใน บรรดานักบวชก็มีอยู่เหมือนกันที่เคร่งครัด ถือพระวินัยและหน้าที่เป็นปีๆ เพราะรู้ซึ้งถึงคำแนะนำของเรา ทั้งปฏิบัติตามพระหรรษทานตลอด ถึงการดลใจของพระเป็นเจ้า อย่างซื่อสัตย์ ต่อมาปล่อยตัวตามความลำเอียงเล็กน้อย ไม่หลีกหนีโอกาสบาป ตามใจตัวเอง ไม่พยายามตามที่ควร ต่อมาใจเย็นเฉย ชีวิตหวนกลับไปอย่างธรรมดาแล้วต่ำลงไปอีก สุดท้ายก็เย็นเป็นน้ำแข็ง โอ....ถ้าหากว่ามารู้สึกตัว แล้วตื่นจากการนอนหลับได้ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งก็ตาม จงระวังเถิด ด้วยความโกรธแค้น ซาตานจะรุกเร้าอย่างหนัก กลวิธีของมันคือหลอกลวงว่าช้าไปเสียแล้ว ไม่มีประโยชน์แล้ว จะทำให้เกิดความกลัว ไม่กล้าเปิดเผยวิญญาณ ไม่กล้าบอกความจริงตามที่เป็นอยู่ สุดท้ายก็ว้าวุ่น เสียใจ ในเหตุการณ์ เช่นนี้ควรทำอย่างไร ? เราจะบอกให้.... จงกระทำตามการดลใจ แห่งพระหรรษทานแต่ก่อนที่การรบจะอุบัติขึ้น ให้มาหาใจของเรา ขอประทานโลหิตสักหยาดหนึ่งหยดลงมาในวิญญาณ
ถูกแล้ว ให้มาหาเรา เราเองจะเป็นผู้คุ้มครองลูก ผู้ใหญ่จะเป็นใครหรือจะเป็นอย่างไรก็ตาม เราจะควบคุมดูแลให้อ้อมแขนของท่านเป็นอ้อมแขนของเราเอง เราจะสถิตอยู่ที่อ้อมแขนของผู้ใหญ่ บังตัวเราอยู่ใต้ม่านแห่งความเชื่อ จงเปิดม่านนั้นออก บอกให้เราทราบความทุกข์ ความลำบาก ความยากอันมีอยู่ในใจ รวมทั้งความผิดของลูกด้วย จงสารภาพด้วยความวางใจเต็มเปี่ยม และฟังคำตอบอย่างเคารพ ส่วนอดีตเป็นอย่างไรไม่ต้องกังวลถึง เราจะถ่วงมันไว้ในเหวแห่งความกรุณา และจะประทานพรพระหรรษทานใหม่ๆ ให้ พร้อมด้วยความรัก เมื่อคิดถึงบาปในอดีต ให้คิดเฉพาะเพื่อถ่อมตน และเพิ่มพูนฤทธิ์กุศลเท่านั้น ถ้าอยากพิสูจน์ความรักยิ่งขึ้นอีก ให้เชื่อแน่แก่ใจว่าเราได้ให้อภัยแล้ว เชื่อเถิด บาปของลูกไม่เกินความเมตตาของเราหรอก เพราะพระเมตตาของเราไม่มีขอบเขต
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++