บัดนี้ ดิฉันมีข้อเสนอแนะแก่พวกคุณแต่ละคน คือเราสามารถตัดสินใจว่าเราจะไม่ไปไฟชำระ!
นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้จริง ๆ เรามีทุก ๆ อย่างในมือที่จะทำให้มันเป็นจริง ดิฉันยังจำคำของนักบุญยอห์นแห่งไม้กางเขนได้ว่า “พระญาณสอดส่องของพระเจ้าถูกจัดหาให้เราอยู่เสมอ ในทุกชีวิต ให้เรามีการชำระตนเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อพวกเราจะได้ตรงไปสวรรค์ในเวลาสิ้นชีวิต”
พระญาณสอดส่องจัดวางความยากลำบากทั้งหลายอย่างเพียงพอไว้ในชีวิตของเรา เช่น การทดลอง ความทุกข์ ทรมาน ความเจ็บไข้ การยากลำบาก ฯลฯ ดังนั้นด้วยการชำระตนทั้งหมดนี้ ถ้าเรายอมรับมัน บางทีอาจจะเพียงพอที่จะนำเราให้ตรงไปสวรรค์ได้
ทำไมสิ่งนี้จึงไม่เกิดขึ้น? ก็เพราะเรามีความจองหองและดื้อรั้น เราไม่ยอมรับมันด้วยความรัก ด้วยความซาบซึ้งและขอบคุณ พระพรแห่งการทดลองเหล่านี้ในชีวิต ตรงข้ามพวกเราตกในบาปด้วยความเป็นกบฏ ด้วยความไม่อ่อนน้อมมากกว่า
ฉะนั้น ให้เราขอพระเจ้าสำหรับพระพรในการฉกฉวยทุกโอกาส เพื่อในเวลาสิ้นชีวิต พระองค์จะได้เห็นว่าเราส่องสว่างด้วยความบริสุทธิ์และงดงาม แน่นอน ถ้าเราตัดสินใจเช่นนี้ ดิฉันจะไม่บอกว่าวิธีนี้จะง่ายดาย ให้เราจดจำกันเถอะคะว่า... พระเจ้าไม่เคยสัญญาว่า หนทางจะราบเรียบปราศจากอุปสรรค แต่หนทางของเราจะมีสันติและจะพบความสุข พระองค์จะอยู่กับเรา เหนืออื่นใดดิฉันขอเน้นหนักว่า ให้เราใช้เวลาที่เหลือบนโลกนี้อย่างดี เวลาเหล่านี้มีค่ามาก ในระหว่างที่เรามีโอกาสเติบโตในความรัก นี่หมายถึงเติบโตเพื่อให้พระสิริรุ่งโรจน์และความงดงามมาถึงเรา ทุก ๆ นาทีเราสามารถเพิ่มพูนความรักนี้ได้ แต่วิญญาณในไฟชำระทำไม่ได้
แม้แต่เทวดาก็ยังอิจฉาสิทธิอำนาจนี้ของเรา เพราะท่านก็เพิ่มพูนความรักความศรัทธาต่อพระเจ้าไม่ได้อีกเช่นกัน เราต้องเพิ่มพูนความรักทุก ๆ นาทีในขณะที่ยังอยู่ในโลก ทุกกิจการเล็ก ๆ น้อย ๆ แห่งความรักที่เราถวายแก่พระเจ้า ทุกการพลีกรรม (Sacrifice) หรือการอดอาหาร ทุกการกระทำที่เสียสละ หรือขัดแย้งต่อความโน้มเอียงที่ไม่ดีของเรา ทุกความผิดพลาดของเรา ทุกการให้อภัยศัตรูของเรา ทุกสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ จะเป็นดังเครื่องประดับวิญญาณของเรา เป็นอัญมณี เป็นสมบัติที่แท้จริงของชีวิตนิรันดร
ดังนั้น ขอให้เราฉวยเอาทุกโอกาสที่จะเป็นคนดีคนสวยดังที่พระเจ้าปรารถนาให้เราเป็น ถ้าเราเห็นมองเห็นความสดสวยของวิญญาณที่บริสุทธิ์ วิญญาณที่ชำระตนจนสะอาด เราจะต้องร้องด้วยความยินดีและอัศจรรย์ใจ เพราะมันสวยงามเหลือเกิน!
วิญญาณมนุษย์สวยสดงดงามต่อหน้าพระเจ้า นั่นแหละ ทำไมพระองค์จึงอยากให้เราบริสุทธิ์ ไม่มีราคีหม่นหมอง ผ่านทางการสำนึกผิดต่อบาปทั้งหลายของเราด้วยความถ่อมตน คุณเห็นไหมคะ มันแตกต่างกัน การเป็นนักบุญไม่ใช่เพราะมีวิญญาณที่ไม่มีข้อบกพร่อง แต่เป็นผู้ที่ล้มแล้วลุกทุกครั้งที่พวกเขาผิดพลาดและร้องขอการอภัยโทษต่างหาก นี่สำคัญมาก
ดังนั้น ให้พวกเราใช้เครื่องมือที่แสนมหัศจรรย์นี้ที่พระเจ้ามอบไว้ในมือของเรา เพื่อช่วยวิญญาณทั้งหลายที่กำลังรอคอยพระเจ้าหรือผู้ที่รู้จักพระเจ้าช้ากว่าเรา เพราะด้วยความงดงามของเครื่องมือจากพระเจ้านี้ พวกเขาก็จะได้สัมผัสและซึ่งคือก็ผู้ที่ความปรารถนาด้วยหัวใจทั้งหมดของเขานั่นเอง
ยิ่งกว่านั้น เราต้องไม่ลืมว่า การภาวนาของเด็ก ๆ มีพลังมากต่อพระทัยของพระเจ้า ดังนั้น เราต้องสอนเด็ก ๆ ให้รู้จักสวดภาวนา ฉันจำเด็กหญิงเล็ก ๆ คนหนึ่ง ซึ่งฉันเคยเล่าถึงความน่าสงสารของวิญญาณในไฟชำระ ฉันบอกเธอว่า “ตอนนี้ให้หนูสวดเพื่อวิญญาณของญาติพี่น้องและเพื่อนที่ล่วงลับไปแล้ว หนูอยากจะไปอยู่ต่อหน้าพระเยซูเจ้าแล้วขอร้องพระองค์ไหม?”
เธอไปยืนต่อหน้ารูปพระเยซูอยู่ห้านาที แล้วก็กลับมาหา ฉันจึงถามเธอว่า “หนูขออะไรจากพระองค์?”
เธอตอบว่า “หนูขอพระองค์ปลดปล่อยทุกวิญญาณจากไฟชำระ!”
ฉันดีใจและทึ่งในคำตอบซื่อ ๆ ของเธอ และฉันรู้ดีว่าฉันพูดเพียงไม่กี่คำในคำขอร้องของฉัน แต่หนูน้อยเข้าใจในทันทีทันใดว่าต้องขออะไร การขอของเด็ก ๆ เป็นที่พอพระทัยพระเจ้ามากที่สุด
ขอกล่าวแถมท้ายอีกว่า สำหรับผู้เกษียณและคนที่มีเวลาว่าง ถ้าพวกเขาไปร่วมมิสซาบ่อย ๆ เป็นประจำทุกวัน นั่นคือขุมทรัพย์พระพรที่พวกเขากักตุนไว้ ไม่ใช่เฉพาะเพื่อตนเองและสำหรับผู้ที่ตาย และ วิญญาณทั้งหลายด้วย! คุณค่าของมิสซาหนึ่งมีมากจนนับไม่ได้ ถ้าเราเพียงแค่ตระหนักถึง!... จะมีค่าอะไรสำหรับความไม่รู้ของเรา การเมินเฉยของเรา หรือ ความขี้เกียจของเราซึ่งนำเราไปสู่ความเปล่าประโยชน์! ทั้ง ๆ ที่เรามีพลังที่สามารถช่วยพี่น้องของเราอยู่ในมือ ด้วยเป็นผู้ร่วมไถ่กู้กับพระเยซูเจ้าพระผู้ช่วยและพระผู้ไถ่ของเรา!
++++++++++++++++++++++++++++++