1.
พระเจ้าตรัสดังนี้ว่า
“คนที่วางใจในมนุษย์
และให้เนื้อหนังเป็นที่ยึดของเขา
และใจของเขาหันออกจากพระเจ้า
คนนั้นก็เป็นที่แช่งสาป (ยรม.17.5)
จงอย่าละอาย ถ้าต้องรับใช้คนอื่น และอย่าขายหน้าที่จะปราฎต่อโลกว่า เป็นคนต่ำต้อย เพราะเห็นแก่ความรักต่อพระคริสตเจ้า (๒ คร ๔:๕)
อย่าไว้ใจในตัวตนเอง แต่จงวางความไว้ใจในพระเป็นเจ้า. (สดด ๗๒:๒๘) จงทำสิ่งที่ตนทำได้ แล้วพระเป็นเจ้าจะทรงค้ำจุนน้ำใจดีของท่าน. อย่าวางใจในความรู้ของตน หรือในความรู้ความเฉลียวฉลาดของมนุษย์ แต่ จงวางใจใน พระหรรษทานของพระเจ้าเถิด. พระองค์ทรงช่วยเหลือคนสุภาพ และเป็นอิสระจากตัวตนเอง
2.อย่ามีความยินดีในความร่ำรวย, อย่าภูมิใจที่มีเพื่อนที่มีอำนาจอิทธิพล แต่จงชื่นชมยินดีใจในพระเป็นเจ้าผู้ประทานทุกสิ่งให้และทรงประสงค์จะประทานพระองค์เองแก่ท่านมากกว่าอะไรอื่นทั้งหมด (๑ คร ๑:๓๑) อย่าจองหองยกตน เพราะมีกำลังแข็งแรง หรือเพราะมีเรือนร่างงดงามเพราะว่าเพียงแต่ล้มป่วยลงหน่อย ก็ทรุดโทรมเสื่อมราศีไปแล้ว
อย่าโอ้อวดในความสามารถ หรือในพรสวรรค์ของท่าน ด้วยเกรงว่าจะไม่เป็นที่โปรดปรานของพระเป็นเจ้า, เพราะพระองค์ ทรงเป็นเจ้าของของสิ่งดีทุกสิ่งและพรสวรรค์ทุกอย่างที่ท่านได้มาตามธรรมชาตินั้น.

3. อย่าถือว่าท่านดีกว่าผู้อื่น เพราะในสายพระเนตรพระเจ้า ท่านอาจเลวกว่าเขา, พระองค์ทรงหยั่งรู้ว่ามีอะไรภายในมนุษย์. อย่าภูมิในกิจการดีของท่าน เพราะการตัดสินของพระเจ้าต่างกับของมนุษย์, หลายครั้ง สิ่งที่มนุษย์ชอบไม่ใช่สิ่งที่พระเจ้าพอพระทัย
ถ้าท่านมีอะไรดีบ้าง จงเชื่อว่าคนอื่นยังมีดีกว่าอีก จงทำดังนี้เพื่อรักษาความถ่อมสุภาพไว้. ไม่เสียหายหรอก หากท่านวางตัวอยู่ใต้คนทุกคน แต่เสียหายมากจริง ๆ หากท่านวางตัวเหนือ แม้คน ๆ เดียว.
สันติสุขดำรงอยู่กับคนสุภาพเป็นนิตย์ แต่ในใจคนจองหอง มีก็แต่ความอิจฉาและแค้นเคือง.
++++++++++++++++++++++++++++++++++++