ชีวิตคือการต่อสู้เพื่อพระองค์

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Bonum est confidare
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ย. 13, 2007 12:00 pm

อังคาร พ.ย. 13, 2007 12:31 pm

  รูปภาพ

พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่คิดว่า ข้าพเจ้าชนะแล้ว ข้าพเจ้าทำเพียงอย่างเดียวคือ ลืมสิ่งที่อยู่เบื้องหลัง มุ่งสู่เบื้องหน้าอย่างสุดกำลัง  ข้าพเจ้ากำลังวิ่งเข้าสู่เส้นชัยไปหารางวัลที่พระเจ้าทรงเรียกจากสวรรค์ให้ข้าพเจ้าเข้าไปรับในพระคริสตเยซู-ฟป 3: 13-14

ทุก  ๆ  ปี  ที่โรงเรียนมักจะมีวันกีฬาสีอันจะเป็นโอกาสที่เด็ก  ๆ  จะได้แข่งกีฬากัน  การที่เราได้ลงเล่นในสนามนั้นทุกครั้งจะเป็นเหตุการณ์ที่เตือนความทรงจำของผมให้นึกถึงสิ่งที่น่าอายที่ได้เกิดขึ้น  แต่ก็เป็นบทเรียนที่ดีที่ผมได้เรียนรู้เมื่อหลายสิบปีมาแล้ว

เมื่อผมเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่  6  ของโรงเรียนประถมแห่งหนึ่ง  โรงเรียนของผมได้จัดให้มีกีฬาสีขึ้นผมกำลังจะลงแข่งขันวิ่งเร็วซึ่งมีเด็กอื่นๆอีกห้าคนที่จะวิ่งแข่งด้วยเนื่องจากไม่สามารถที่จะซื้อรองเท้าที่ใช้สำหรับวิ่งได้เพราะซื้อไม่ทันกันวันงาน  ผมได้แต่ใส่รองเท้ายางสีดำราคาถูกๆ  จึงเป็นเหตุให้เหงื่อออกชุ่มเท้าเมื่อมีเสียงปืนดังขึ้นให้ออกวิ่งได้นั้น  ผมจึงออกวิ่งสุดแรงเกิดมุ่งไปที่เส้นชัย  แต่รองเท้ายางของผมก็หลุดออกจากเท้า  ผมไม่สนใจเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาวิ่งไปเส้นชัยแล้วช่วงแข่งเสร็จค่อยไปเก็บเอารองเท้าขึ้นมา  ผมจึงเป็นคนแรกที่วิ่งเข้าสู่เส้นชัย  ถ้าผมจะหยุดวิ่งโดยกังวลเรื่องสวมรองเท้าแล้วละก็  ผมก็คงจะเป็นอันดับสุดท้ายแน่นอน

เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนที่มีค่าสำหรับผมมากในชีวิตของผมหลายครั้งอาจมีบ้างที่รู้สึกท้อแท้ท้อถอย ปวดร้าวในหัวใจและหงุดหงิด  แต่ถ้ามีกำลังใจตลอดสู้จนนาทีสุดท้ายพระเจ้าก็ได้ทรงอวยพรแก่ชีวิตของเราทุกคนด้วยความรักและประทานความสำเร็จให้เรา พระเจ้าได้สอนให้ผมได้รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรที่จะต่อสู้กับชีวิตไม่ว่าเราจะมีความจำกัดแค่ไหนก็ตาม  เราก็สามารถที่จะหนุนใจซึ่งกันและกันด้วยความสามารถที่เราแต่ละคนมีอยู่  และถ้าเราได้ใช้ความสามารถเหล่านั้นแล้ว  เราก็จะพบกับชีวิตที่ครบถ้วนบริบูรณ์ในความรักของพระคริสต์

บทเรียนนี้ทำให้ผมระลึกถึงท่านนักบุญเปาโลที่เขียนไว้ในจดหมายถึงชาวฟิลิปปีที่ว่า 
ภาพประจำตัวสมาชิก
Bonum est confidare
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ย. 13, 2007 12:00 pm

อังคาร พ.ย. 13, 2007 12:38 pm

พี่น้องท่านใดอ่านแล้วไม่ชอบหรือไม่ได้ทุกใจท่านก็ขออภัยด้วย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Jira
โพสต์: 213
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ย. 21, 2007 11:21 am

อังคาร พ.ย. 13, 2007 12:58 pm

      เขียนได้ดีค่ะ ขอบคุณที่เอามาให้อ่านนะคะ  :smiley:
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร พ.ย. 13, 2007 11:36 pm

ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ  ::017::
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พุธ พ.ย. 14, 2007 12:08 am

ดังนั้นจึงไม่ควรใช้ชีวิตแบบง่าย ๆ และสบาย ๆ เพราะเป็นทางสำหรับคนอ่อนแอ หนักไม่เอาเบาไม่สู้ และเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ
อันนี้คือไฮไลต์เลยนะคะ  เป็นสิ่งสำคัญของชีวิตฝ่ายจิต  เราจะสบายไม่ได้เลย  และเราจะหนีความลำบากไม่ได้  เพราะถ้าเราหนีความลำบาก  เราจะหนีพระเยซูเจ้า  เพราะพระองค์จะมาหาเราในยามที่เราลำบาก  เราร้องไห้อย่างที่สุด  กดดันอย่างที่สุด  เพราะในเวลานั้น  เราเผยตัวเราเองออกมามากที่สุด   ::001:: ...  พระเจ้าคือองค์ความจริง  พระองค์มาเจอเรา  เวลาที่เรา  "จริง"

อันนี้อีก  ชอบมากเลย 
ในฐานะผู้ติดตามพระองค์พระคริสต์ เราสามารถวางใจในพระสัญญานั้นในวันที่ต้องเผชิญกับวิกฤตและโศกนาฏกรรมที่มีอยู่ทั่วโลกนี้ได้ความกดดันในชีวิตดูเหมือนว่าจะมีพลังเหนือเรา แต่พระเจ้าก็ทรงช่วยสะท้อนความจริงถึงความงดงามแห่งฝีพระหัตถ์ของพระองค์ที่ทำงานในตัวของเราเองว่าเราสามารถชนะความกดดันนั้นได้ด้วยพระหรรษทานที่พระองค์ประทานให้ 


เขียนต่อไปเรื่อยๆนะคะ  รำพึงชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ  ดีมากๆเลยค่ะ  ::001:: (หรือว่า  แอบเตรียมบทเทศน์อาทิตย์นี้รึเปล่าคะ  : xemo016 : )  เราจะรักความเศร้า  ความลำบาก  เพราะเราจะรู้ว่า  นั่นคือพระพรของพระ   ::001::

แต่มีคำถามนิดนึงตรงนี้คือ 
การเดินทางที่เหมือนชีพจรลงเท้าของนักบุญเปาโลและบรรดาศิษย์ของท่านไม่ใช่การไปท่องเที่ยวแต่เป็นการไปทำงาน และงานที่นักบุญเปาโลมีความมุ่งมั่น คือการประกาศข่าวดีหรือการแพร่ธรรมนั้นเอง   โดยเฉพาะท่านมุ่งมั่นให้คนต่างชาติทั้งสิ้นได้ฟังข่าวดี อย่าลืมว่าเราทุกคนมีหน้าที่ของการแพร่ธรรมและประกาศข่าวดี จงทุ่มเทดุจเดียวกับนักบุญเปาโล  2 ธส 3:7-12
เจอในเวบสังฆมณฑลนี้เหมือนกัน  http://www.catholic.or.th/spiritual/hom ... .html  และก็งงนิดๆว่า  ใช่พระคัมภีร์ตอนนี้เหรอ  คือมันไม่ตรงกับของภาษาอังกฤษน่ะค่ะ  http://www.usccb.org/nab/111807.shtml  และก็ไม่มีพระคัมภีร์ภาษาไทยในมือ  เลยไม่แน่ใจ  ....  ตอนแรกคิดว่า  เค้าอาจไปเอา  introduction ของบทอ่านมาลง 

ลองดูนะคะ  อ่านยังไงไม่ตรงกันเลยอ่ะ  ...  ลองเช็คอีกทีนะคะ   ::001::

2 Thes 3:7-12

Brothers and sisters:
You know how one must imitate us.
For we did not act in a disorderly way among you,
nor did we eat food received free from anyone.
On the contrary, in toil and drudgery, night and day
we worked, so as not to burden any of you.
Not that we do not have the right.
Rather, we wanted to present ourselves as a model for you,
so that you might imitate us.
In fact, when we were with you,
we instructed you that if anyone was unwilling to work,
neither should that one eat.
We hear that some are conducting themselves among you in a
disorderly way,
by not keeping busy but minding the business of others.
Such people we instruct and urge in the Lord Jesus Christ to work quietly
and to eat their own food.
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ พุธ พ.ย. 14, 2007 1:34 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พุธ พ.ย. 14, 2007 12:43 am

ขอบคุณที่แบ่งปันนะครับ ::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ พ.ย. 14, 2007 2:33 am

2ธส 3:6-15  คำติเตียน ความเกียจคร้านและการแตกสามัคคี
(6)พี่น้องทั้งหลาย เราขอกำชับท่านในพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าให้ท่านหลีกห่างจากพี่น้องที่ดำเนินชีวิตโดยไม่มีวินัย ไม่ทำตามธรรมประเพณีที่ท่านได้รับจากเรา  (7)ท่านรู้อยู่แล้วว่า ท่านต้องยึดถือเราเป็นแบบฉบับอย่างไร เพราะเมื่อเราอยู่กับท่าน เรามิได้อยู่นิ่งเฉย  (8)เรามิได้กินอาหารของผู้ใดโดยไม่ทำงานตอบแทน แต่เราตรากตรำทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเราจะได้ไม่เป็นภาระแก่ผู้ใด  (9)ทั้งนี้มิใช่เพราะเราไม่มีสิทธิ แต่เพื่อทำตนเป็นแบบฉบับแก่ท่าน  (10)เมื่อเราอยู่กับท่าน เรายังกำชับท่านว่า ถ้าผู้ใดไม่อยากทำงานก็อย่ากิน  (11)แต่เราได้ยินว่า บางท่านดำเนินชีวิตอย่างเกียจคร้านไม่ทำงานเลย แต่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับธุระของผู้อื่น  (12)เรากำชับและเตือนคนเช่นนี้ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า ให้ทำงานอย่างสงบและหาเลี้ยงชีพด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง  (13)พี่น้องทั้งหลาย อย่าท้อถอยในการทำดี  (14)ถ้าผู้ใดไม่เชื่อฟังคำสั่งสอนใน  จดหมายฉบับนี้ จงจับตามองเขาและอย่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับเขาอย่างเด็ดขาด เพื่อเขาจะได้ละอายใจ  (15)แต่อย่านับว่าเขาเป็นศัตรู จงตักเตือนเขาฉันพี่น้อง
ตอบกลับโพส