"รู้แล้ว" จึงไม่จำเป็นต้อง "รู้เพิ่ม"?

[-Rei-]

วันนี้มีคนถามประโยคนี้กับเรย์

"ถ้าอาจารย์เทศน์ในสิ่งที่ผมรู้อยู่แล้ว ผมจะต้องอยู่ฟังไหม"

อึ้งไปเล็กน้อยถึงปานกลาง ถ้าอาจารย์พูดเรื่องที่รู้แล้ว ใจคอจะลุกออกไปกลางคันรึคะ 

สำหรับเรย์ เรื่องที่"รู้แล้ว" ไม่มีหรอก มีแต่เรื่องที่จะต้อง "รู้เพิ่ม"
ถ้าคิดว่ารู้อยู่แล้ว ไม่ต้องฟัง ก็คงไม่ต้องฟังอะไรเลยสิเนี่ย
เพราะคิดว่า "รู้" ก็เลย ไม่สนใจ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว รู้จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้

เลยอยากจะถามต่อว่า
ถ้าเพื่อนถูกถามแบบนี้ จะตอบว่ายังไงคะ

[P]

เป็นผม คงตอบว่า ไม่มีสิ่งที่"มนุษย์คนใด" สามารถเรียกได้ว่า "รู้แล้ว"ในโลกนี้หรอกครับ

[Dis volentibus]

เคยได้ยินจากครูคำสอนน่ะค่ะ
"ถึงบทเรียนในห้องคำสอนจะเป็นบทเรียนเดิมๆ เเต่ประสบการณ์ของคนที่มาเเบ่งปันก็เปลี่ยนไปทุกๆครั้ง"

นักเรียนของพี่เรย์ อาจจะรู้บทเรียนนั้นมากหรือเปล่าไม่ทราบ
เเต่สิ่งที่เขาไม่รู้เเน่ๆ คือความเย่อหยิ่งจองหองของตัวเองนั่นเเหล่ะ

[Edwardius]

be an emptied glass always

[~@Little lamb@~]

LL เชื่อว่า  คนที่คิดว่ารู้แล้ว  แปลว่าคนนั้นไม่รู้

[^_^GOD Is LoVe^_^]

ไม่มีใครที่รู้จริงๆไปวะทุกเรื่องหรอก เราว่างี้นะ

[Buddy]

ถ้าไม่คิดมากนะ  เค้าอาจแค่ขี้เกียจเรียนก็ได้  มีนัดกับแฟนพอดี  ก็เลยคิดๆว่า  ไม่เรียนดีมั้ยเนี่ย  เคยเรียนแล้ว  ไปเที่ยวดีกว่า 

[Jack Sparrow]

รู้แล้วก็ต้องฟังจะทำให้รู้เพิ่มขึ้น

[Jeab Agape]

สุภาษิตประจำเผ่า แหนมเนือง บอกว่า "น้ำล้นแก้วเติมอีกไม่ได้ ปล่อยให้มันเป็นน้ำเน่าไปเถอะ "

[-Rei-]

ไม่รู้จิงับ

ถ้าไม่ว่างก็ควรจะบอกว่า ไม่ว่าง ติดธุระจริงๆ อยู่ฟังไม่ได้
แต่ไม่ควรจะบอกว่า วันนี้เทศน์ในหัวข้อที่รู้แล้ว เลยไม่อยากฟัง
ไว้เทศน์เรื่องที่ไม่รู้แล้วค่อยมาฟัง 

รู้ได้ไงว่าอาจารย์จะเทศน์เหมือนเดิม คือเรได้ยินแล้วแบบ...อึ้งไป 3 วินาที

[Holy]

1คร 8:1
เรารู้ว่า เราทุกคนมีความรู้แล้ว แต่ความรู้ทำให้ทะนงตน สิ่งที่เสริมสร้างคือความรัก  ถ้าผู้ใดคิดว่าตนมีความรู้เรื่องใด ๆ เขายังไม่รู้เท่าที่ควร  แต่ถ้าผู้ใดรักพระเจ้า พระองค์ก็ทรงรู้จักผู้นั้น

[Dis volentibus]

อาจจะเป็นเพราะแกขี้เกียจ
หรือไม่ก็ โทรหาเเฟน
หรือไม่ก็ อยากไปเที่ยว


ก็ได้เจ้าค่ะ เหอะๆๆๆ
ข้ออ้างยอดนิยมในการเเถของนักเรียนโรงเรียนข้าพเจ้า
"รู้หมดเเล้ว...อาจารย์จะมาสอนอีกทำไม"