สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 ประมุขสูงสุดแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรงเตือนสติผู้มาร่วมสวดภาวนาเทวทูต ถือสาร ไม่ให้ทำตัวสิ้นคิดด้วยการมองว่า ภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงในระยะนี้คือสัญญาณบ่งบอกถึงวันสิ้นโลก ขณะเดียวกัน พระองค์ยังปฏิเสธแนวคิดของคนบางกลุ่มที่พยายามเชื่อมโย งภัยธรรมชาติเข้ากับการเสด็จกลับมาอีกครั้งของพระเมสซิอาห์(พระผู้ไถ่) โดยพระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ทรงอธิบายอย่างชัดเจนว่า ประวัติศาสตร์โลกกำลังดำเนินไปเรื่อยๆ ท่ามกลางโศกนาฏกรรมและ ภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเสด็จมาของพระผู้ไถ่แต่อย่างใด
เมื่อช่วงเที่ยงวันอาทิตย์ที่ 18 พฤศจิกายนที่ผ่านมา (ตามเวลาวาติกัน) สมเด็จพระสันตะปาปา เบเน ดิกต์ ที่ 16 ทรงเป็นประธานในการนำสัตบุรุษกว่า 40,000 คนร่วมสวดภาวนาเทวทูตถือสาร ณ ลานหน้ามหาวิหาร ซาน ปิเอโตร โดยก่อนจะเริ่มภาวนานั้น พระสันตะปาปาทรงแบ่งปันข้อคิดที่ได้จากบท พระวรสารประจำวันอาทิตย์ที่ 33 ในเทศกาลธรรมดา ด้วยการเตือนใจว่า ขอให้ทุกคนดำเนินชีวิตด้วยการสวดภาวนาและมอบตัวเราไว้ในการดูแลของพระเจ้า เพราะไม่มีใครล่วงรู้ได้ว่า เครื่องหมายของวันสิ้นโลกจะมาเมื่อไหร่
พระสันตะปาปา เริ่มต้นแบ่งปันด้วยการตรัสว่า "นับตั้งแต่พระศาสนจักรได้ถือกำเนิดขึ้น เราดำรงอยู่โดยอาศัยคำภาวนา ภายใต้การอารักขาของพระเจ้า พร้อมทั้งเฝ้าระวังเครื่องหมายแห่งกาลเวลาซึ่งบ่งชี้ว่า วันสิ้นโลกจะมาเมื่อไหร่"
"แต่กระนั้นก็ดี ประวัติศาสตร์โลกเดินไปข้างหน้าอยู่เสมอ แม้บางครั้ง จะมีความเศร้าโศกเสียใจจากภัยพิบัติทางธ รรมชาติและหายนะต่างๆเข้ามาบ้างก็ตาม เรื่องเลวร้ายเหล่านี้ ไม่ได้บอกเราเกี่ยวกับวันสิ้นโลก เพราะว่า เครื่องหมายที่พระผู้ไถ่จะเสด็จมานั้น ได้บังเกิดขึ้นไปตั้งแต่ตอนที่พระคริสต์เจ้าทรงลงมาบังเกิดเป็นมนุษย์ ทรงสิ้นพระช นม์และทรงกลับคืนชีพจากความตาย นี่คือพระธรรมล้ำลึกที่พระศาสนจักรประกาศยืนยันอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังทำให้บังเกิดผลผ่านทางการเทศน์สอนต่างๆ รวมถึงศีลศักดิ์สิทธิ์และการเป็นพยานยืนยันถึงความรักของพระเจ้าอีกด้วย" พระสันตะบิดรผู้ศักดิ์สิทธิ์ ทรงอธิบายอย่างชัดเจน
พระสันตะปาปาชาวเยอรมัน ทรงให้กำลังใจด้วยว่า "เราอาจเจอปัญหาต่างๆที่เข้ามาในชีวิต แต่ถึงอย่างไรก็ตาม จงอย่ากลัวอนา คต เราต้องตอบรับคำเชิญจากองค์พระคริสต์เจ้า ผู้ทรงต้องการให้เราเผชิญทุกเหตุการณ์ในทุกวันๆด้วยความรักและวางใจที่มีต่อพระองค์"
จบจากบทเทศน์เชิงเทวศาสตร์แล้ว พระสันตะปาปาทรงร่วมไว้อาลัยให้กับชาวบังกลาเทศที่ต้องสูญเสียเพื่อนร่วมชาติไป 2,217 ศพจากเหตุการณ์พายุไซโคลน "ซิดร์" พัดถล่มทางตอนใต้ของประเทศ พร้อมกันนี้ พระองค์ยังเชิญชวนให้นานาชาติร่วมกันให้ความช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยร้ายแรงในครั้งนี้ด้วย
พระสันตะปาปา ตรัสว่า "พ่อขอร่วมเป็นทุกข์เสียใจกับพี่น้องชาวบังกลาเทศที่ต้องประสบชะตากรรมจากพายุไซโคลนซิดร์ซึ่งพัดถล่มเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พ่อขอเชิญชวนให้ประชากรทุกชาติทุกภาษา ร่วมด้วยช่วยกันจัดหาสิ่งขอ งบรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องของเราอย่างสุดความสามารถ"
จากนั้น พระสันตะปาปาทรงกล่าวปิดท้ายด้วยการอวยพรให้การประชุมขององค์กรรณรงค์เพื่อยุติกับระเบิดนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นที่ ประเทศจอร์แดน สำเร็จไปด้วยดี พร้อมกันนี้ พระองค์ยังร่วมเรียกร้องให้ทั่วโลก ยกเลิกการใช้กับระเบิดอย่างเด็ดขาดด้วย
"พ่อขอส่งความปรารถนาดีจากใจไปยังที่ประชุมองค์กรรณรงค์เพื่อยุติกับระเบิดนานาชาติ ขอให้พวกท่านบรรลุวัต ถุประสงค์ของการประชุมด้วยดี นอกจากนี้ พ่อขอร่วมเป็นกระบอกเสียงเรียกร้องให้ทุกชาติยกเลิกการใช้กับระเบิดอย่างจริงจัง เพราะมันเป็นภัยคุกคามผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กๆทุกคน" พระสันตะปาปาตรัสปิดท้าย
Credit : http://www.catholic.or.th/events/vatican/vatican074/vatican134.html
พระสันตะปาปา เตือนสติอย่ามองภัยธรรมชาติคือวันสิ้นโลก
เห็นด้วยครับpanali เขียน: แต่ภัยพิบัติทางธรรมชาติก็ทำให้เราฉุกคิดถึงเหตุการณ์ในวิวรณ์ทุกที สงสัยนั่นเป็นเหตุให้คนทั้งโลกเซไปข้างหนึ่ง สมเด็จพระสันตะปาปาจึงตรัสดึงกลับมาอีกข้างหนึ่งเพื่อให้เกิดสติและความสมดุลของความคาดหวัง
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
สำหรับผมแล้วครับ "ไม่ต้องฟังใครทั้งนั้น"
ความเชื่อที่แต่ละคนมี พระพร พระหรรษทาน จะโปรยปราย เปิดหัวใจของแต่ละคนให้ทราบการนั้นเอง
ใครที่ได้รับพระพร จะเข้าใจเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ว่าใช่ หรือไม่ใช่ ... ทุกคนรู้แก่ใจอยู่แล้วว่า เหตุการณ์ต่างๆ นั้นหมายถึงอะไร
หากทุกคนเชื่อมจิตใจกับพระเจ้าตลอดเวลา ...
ความเชื่อที่แต่ละคนมี พระพร พระหรรษทาน จะโปรยปราย เปิดหัวใจของแต่ละคนให้ทราบการนั้นเอง
ใครที่ได้รับพระพร จะเข้าใจเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ว่าใช่ หรือไม่ใช่ ... ทุกคนรู้แก่ใจอยู่แล้วว่า เหตุการณ์ต่างๆ นั้นหมายถึงอะไร
หากทุกคนเชื่อมจิตใจกับพระเจ้าตลอดเวลา ...