@ พระองค์ไม่เคยสิ้นหวัง...กับเรา @
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
:-[ :-[ ** เมื่อเขาได้ยินพระวาจานี้ ก็เศร้าใจ เดินคอตกไป ** ( มก 10:22 ) :-[ :-[
คนจำนวนมาก รู้สึกเหมือนเศรษฐีหนุ่มคนนี้ ( มก 10 และ ลก 18, มธ 19 ) เขามาด้วยความตั้งใจดีเต็มที่ เขาบอกพระเยซูว่าเขาต้องการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่ากว่าที่เป็นอยู่ แต่แล้วเมื่อพระองค์ขอให้เขาสละทุกอย่างเพื่อติดตามพระองค์ เขากลับพลันเหม่อลอยซึมเซาไป เขาจริงใจกับตัวเองจนรู้ว่าเขาไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ และด้วยความเศร้าใจ เขาเดินคอตกจากไปอย่างเงื่องหงอย ต่างจากความกระตือรือร้นในตอนแรก
บาป ความบกพร่องอ่อนแอที่ไม่อาจที่ไม่อาจเอาชนะได้ของคนที่รู้จักตัวตนของตน ทำให้หดหู่ใจ สภาพลุกแล้วล้ม ลุกแล้วล้ม ครั้งแล้วครั้งเล่าค่อยๆ แปรความหดหู่กลายเป็นท้อแท้ และจากความท้อแท้กลายเป็นความสิ้นหวัง ที่สุด เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งในกลุ่มผู้คนส่วนมากในโลกที่ดำเนินชีวิตด้วยความสิ้นหวังอย่างเงียบๆ
เขาเป็นเหมือนแกะหลงที่ชุมพาบาลเรียกหาตามพบ และอุ้มใส่บ่าคืนสู่หญ้าน้ำสมบูรณ์ชอุ่ม แต่เหตุใดไม่ทราบ จิตใจของเข้าเฝ้าโหยหาการท่องเสรีไปตามโตรกผาแห้งแล้งสูงชันมีอันตราย แกะหลงตัวนี้จึงหลงแล้วหลงอีก ทุกค่ำคืนพบตัวเองนอนรันทดลำพังในถ้ำอันมืดชื้น
เขาเป็นเหมือนลูกล้างผลาญที่คืนเรือนมาหาพ่อ รู้ซึ้งในความรักเมตตาปราศจากขอบเขตของท่าน เขาได้ทุกอย่างกลับคืนมา ไม่ว่าทรัพย์สินเงินทอง ศักดิ์ฐานะ แต่มโนภาพเขาไพล่คำนึงบ่อยๆถึงชีวิตด้านมืด แล้วก็จริงๆ......... ภายใต้สายตาจับจ้องมองอย่างสาสะใจของพี่คนโต..... เขาหนีกลับไปอีก หัวใจเสเพลไม่รักดีบงการให้เขาเลือกกลับไปเกลือกกลั้วอาจมโสโครกของโลกในเล้าหมู
เขาเหมือนผู้หญิงคนนั้นที่ถูกปีศาจสิงถึงเจ็ดตน พระเยซูเจ้าไล่พวกมันออกหมดแล้ว แต่ไม่ช้าไม่นานเป็นเขาเองที่เปิดประตูรับ ยอมให้พวกมันชวนพรรคพวกทั้งแก๊งกลับมาครอบงำจิตสำนึกและกุมอิสรภาพของเขา
เขาเหมือนลูกที่ชอบโกหก รับปากมั่นเหมาะว่าจะออกไปทำงานให้พระองค์ในท้องทุ่ง แต่กลับไม่ไป
เขาดำเนินชีวิตด้วยความประหวั่นพรั่นพรึงเหมือนต้นมะเดื่อที่ถูกสาป พระองค์ได้พิจารณาไต่สวน และเตือนเขาแล้วว่าหากคราวหน้า พระองค์กลับมา และไม่เห็นเขาเปลี่ยนแปลงเกิดผล เขาก็จะถูกโค่นทำลาย
:-[ ยังมีความหวังใดอีกหรือสำหรับคนอย่างนี้?
;) มีแน่นอน พระเจ้าไม่เคยสิ้นหวังกับเรา พระองค์ไม่เคยสั่นศีรษะ หันหลัง เดินจากใคร
เหมือนการให้อภัยอย่างไม่มีสิ้นสุด เจ็ดคูณเจ็ดสิบครั้ง พระเป็นเจ้าจะยังออกตามแกะหลงและประคับประครองเขาต่อไปจนกระทั่งเสียงคำรามขมขื่นเดียวดายในหัวใจของเขาจะจางหาย พระองค์จะรอคอยลูกล้างผลาญอย่างอดทนมุ่งมั่น และจะยอมรับการท้าพิสูจน์ความรักอันปราศจากเงื่อนไขของพระองค์ ด้วยการสวมกอดอย่างไม่มีคำถาม พระองค์จะตวาดไม่หยุดเสียงขับไล่ปีศาจทุกตนที่ยึดลูกของพระองค์เป็นทาส พระองค์จะเชิญชวนเขาด้วยความไว้วางใจเช่นเคยทุกครั้งให้เขาร่วมงานหว่านไถเก็บเกี่ยวในทุ่งกับพระองค์ และพระองค์จะเฝ้าเพียรเปลี่ยนภาพพจน์ข่มขู่หวาดกลัวของพระองค์ที่เขาฝังใจให้เป็นภาพบิดาที่รักเขาได้มากกว่าที่เขาสามารถรักตัวเอง
พระองค์ไม่เคยสิ้นหวังกับเรา เราอย่าสิ้นหวังกับตัวเอง
พระเยซูบอกเรา ** อาณาจักรสวรรค์เป็นของผู้เป็นอย่างเด็กเล็กๆ **
เด็กเล็กๆ คือ ผู้ที่ไม่มีอะไรจะให้ ไม่มีอะไรจะอวดแสดง ไม่มีคุณงามความดีที่จะอ้างเพื่อจะได้เข้าอาณาจักรสวรรค์
มีก็แต่ความรักของพระเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งพิงไว้ใจ เป็นความหวัง
อยู่เงียบๆ กับพระองค์ ฟังให้ถนัดสดับให้ซึ้งถึงเสียงแห่งความรักความอาทรของพระองค์
ไว้วางใจและเชื่อมั่นในความรักนี้
มอบตัวอยู่ในความรักของพระองค์อย่างสิ้นเชิง เหมือนเด็กเล็กๆ ในอ้อมแขนมารดา
ให้ความรักของพระองค์อาบซ่านซึมลึก จากสมองสู่หัวใจ สู่ทุกซอกมุมแห่งการดำรงอยู่ของเรา
พระองค์บอก ** สละทุกอย่าง แล้วติดตามเรามา **
ทุ ก อ ย่ า ง แม้แต่ความสิ้นหวังและเกลียดชังตัวเอง
ตามพระองค์ ยอมพระองค์ ยอมให้พระองค์ทำกับเราอย่างที่พระองค์ต้องการ
อะไรจะเกิดขึ้น อะไรจะเป็นไป
@ ม า ดู เ อ ง ซิ @ ( ยน 1:39 )
:-* จากอิสระนิตยสารคาทอลิกรายปักษ์ ลำดับที่ 4 ปักษ์แรก สิงหาคา 2546 โดยพ่อซีมอน C.Ss.R.
คนจำนวนมาก รู้สึกเหมือนเศรษฐีหนุ่มคนนี้ ( มก 10 และ ลก 18, มธ 19 ) เขามาด้วยความตั้งใจดีเต็มที่ เขาบอกพระเยซูว่าเขาต้องการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่ากว่าที่เป็นอยู่ แต่แล้วเมื่อพระองค์ขอให้เขาสละทุกอย่างเพื่อติดตามพระองค์ เขากลับพลันเหม่อลอยซึมเซาไป เขาจริงใจกับตัวเองจนรู้ว่าเขาไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ และด้วยความเศร้าใจ เขาเดินคอตกจากไปอย่างเงื่องหงอย ต่างจากความกระตือรือร้นในตอนแรก
บาป ความบกพร่องอ่อนแอที่ไม่อาจที่ไม่อาจเอาชนะได้ของคนที่รู้จักตัวตนของตน ทำให้หดหู่ใจ สภาพลุกแล้วล้ม ลุกแล้วล้ม ครั้งแล้วครั้งเล่าค่อยๆ แปรความหดหู่กลายเป็นท้อแท้ และจากความท้อแท้กลายเป็นความสิ้นหวัง ที่สุด เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งในกลุ่มผู้คนส่วนมากในโลกที่ดำเนินชีวิตด้วยความสิ้นหวังอย่างเงียบๆ
เขาเป็นเหมือนแกะหลงที่ชุมพาบาลเรียกหาตามพบ และอุ้มใส่บ่าคืนสู่หญ้าน้ำสมบูรณ์ชอุ่ม แต่เหตุใดไม่ทราบ จิตใจของเข้าเฝ้าโหยหาการท่องเสรีไปตามโตรกผาแห้งแล้งสูงชันมีอันตราย แกะหลงตัวนี้จึงหลงแล้วหลงอีก ทุกค่ำคืนพบตัวเองนอนรันทดลำพังในถ้ำอันมืดชื้น
เขาเป็นเหมือนลูกล้างผลาญที่คืนเรือนมาหาพ่อ รู้ซึ้งในความรักเมตตาปราศจากขอบเขตของท่าน เขาได้ทุกอย่างกลับคืนมา ไม่ว่าทรัพย์สินเงินทอง ศักดิ์ฐานะ แต่มโนภาพเขาไพล่คำนึงบ่อยๆถึงชีวิตด้านมืด แล้วก็จริงๆ......... ภายใต้สายตาจับจ้องมองอย่างสาสะใจของพี่คนโต..... เขาหนีกลับไปอีก หัวใจเสเพลไม่รักดีบงการให้เขาเลือกกลับไปเกลือกกลั้วอาจมโสโครกของโลกในเล้าหมู
เขาเหมือนผู้หญิงคนนั้นที่ถูกปีศาจสิงถึงเจ็ดตน พระเยซูเจ้าไล่พวกมันออกหมดแล้ว แต่ไม่ช้าไม่นานเป็นเขาเองที่เปิดประตูรับ ยอมให้พวกมันชวนพรรคพวกทั้งแก๊งกลับมาครอบงำจิตสำนึกและกุมอิสรภาพของเขา
เขาเหมือนลูกที่ชอบโกหก รับปากมั่นเหมาะว่าจะออกไปทำงานให้พระองค์ในท้องทุ่ง แต่กลับไม่ไป
เขาดำเนินชีวิตด้วยความประหวั่นพรั่นพรึงเหมือนต้นมะเดื่อที่ถูกสาป พระองค์ได้พิจารณาไต่สวน และเตือนเขาแล้วว่าหากคราวหน้า พระองค์กลับมา และไม่เห็นเขาเปลี่ยนแปลงเกิดผล เขาก็จะถูกโค่นทำลาย
:-[ ยังมีความหวังใดอีกหรือสำหรับคนอย่างนี้?
;) มีแน่นอน พระเจ้าไม่เคยสิ้นหวังกับเรา พระองค์ไม่เคยสั่นศีรษะ หันหลัง เดินจากใคร
เหมือนการให้อภัยอย่างไม่มีสิ้นสุด เจ็ดคูณเจ็ดสิบครั้ง พระเป็นเจ้าจะยังออกตามแกะหลงและประคับประครองเขาต่อไปจนกระทั่งเสียงคำรามขมขื่นเดียวดายในหัวใจของเขาจะจางหาย พระองค์จะรอคอยลูกล้างผลาญอย่างอดทนมุ่งมั่น และจะยอมรับการท้าพิสูจน์ความรักอันปราศจากเงื่อนไขของพระองค์ ด้วยการสวมกอดอย่างไม่มีคำถาม พระองค์จะตวาดไม่หยุดเสียงขับไล่ปีศาจทุกตนที่ยึดลูกของพระองค์เป็นทาส พระองค์จะเชิญชวนเขาด้วยความไว้วางใจเช่นเคยทุกครั้งให้เขาร่วมงานหว่านไถเก็บเกี่ยวในทุ่งกับพระองค์ และพระองค์จะเฝ้าเพียรเปลี่ยนภาพพจน์ข่มขู่หวาดกลัวของพระองค์ที่เขาฝังใจให้เป็นภาพบิดาที่รักเขาได้มากกว่าที่เขาสามารถรักตัวเอง
พระองค์ไม่เคยสิ้นหวังกับเรา เราอย่าสิ้นหวังกับตัวเอง
พระเยซูบอกเรา ** อาณาจักรสวรรค์เป็นของผู้เป็นอย่างเด็กเล็กๆ **
เด็กเล็กๆ คือ ผู้ที่ไม่มีอะไรจะให้ ไม่มีอะไรจะอวดแสดง ไม่มีคุณงามความดีที่จะอ้างเพื่อจะได้เข้าอาณาจักรสวรรค์
มีก็แต่ความรักของพระเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งพิงไว้ใจ เป็นความหวัง
อยู่เงียบๆ กับพระองค์ ฟังให้ถนัดสดับให้ซึ้งถึงเสียงแห่งความรักความอาทรของพระองค์
ไว้วางใจและเชื่อมั่นในความรักนี้
มอบตัวอยู่ในความรักของพระองค์อย่างสิ้นเชิง เหมือนเด็กเล็กๆ ในอ้อมแขนมารดา
ให้ความรักของพระองค์อาบซ่านซึมลึก จากสมองสู่หัวใจ สู่ทุกซอกมุมแห่งการดำรงอยู่ของเรา
พระองค์บอก ** สละทุกอย่าง แล้วติดตามเรามา **
ทุ ก อ ย่ า ง แม้แต่ความสิ้นหวังและเกลียดชังตัวเอง
ตามพระองค์ ยอมพระองค์ ยอมให้พระองค์ทำกับเราอย่างที่พระองค์ต้องการ
อะไรจะเกิดขึ้น อะไรจะเป็นไป
@ ม า ดู เ อ ง ซิ @ ( ยน 1:39 )
:-* จากอิสระนิตยสารคาทอลิกรายปักษ์ ลำดับที่ 4 ปักษ์แรก สิงหาคา 2546 โดยพ่อซีมอน C.Ss.R.
แก้ไขล่าสุดโดย :+: seraphim :+: เมื่อ เสาร์ ก.ค. 30, 2005 7:33 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
:-* ดีแล้วจ๊ะ เป็นกำลังใจให้เสมอนะจ๊ะ :-*
;D ;D ขอบคุณนะคะ สำหรับบทความนี้
- BARKER BARBER
- โพสต์: 226
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 24, 2005 8:34 pm
- ที่อยู่: XAVIER HALL / PRISONMINISTRY
;Dโอยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
;Dโดนใจอย่างแรงครับพี่seraphim 8)
;Dโดนใจอย่างแรงครับพี่seraphim 8)
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
เป็นบทความที่ดีมากๆครับ เราเองก็ต้องอดทนกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองเช่นเดียวกับที่พระอดทนเรา เพราะถ้าเราไม่อดทนกันเองและให้อภัยและรักกันเองแล้ว เราก็ไม่มีสิทธ์ไปสวดข้าแต่พระบิดา เพราะเราไม่มีสิทธ์จะสวดตรงนี้ได้เลย "โปรดประทานอภัยแก่ขาพเจ้า เหมือนขาพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น" เราต้องรักต้องอดทนกับพี่น้องของเราที่เป็นคนบาป ต้องรักเขา อดทนและให้อภัยทุกเมื่อทุกเวลา
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
*thx ครับ
ต้องสวดบ่อย ๆ ครับ คุยกับพระองค์บ่อย ๆ แล้วจะรู้ครับว่าพระองค์ทรงอยากให้เราทำอะไร
ต้องสวดบ่อย ๆ ครับ คุยกับพระองค์บ่อย ๆ แล้วจะรู้ครับว่าพระองค์ทรงอยากให้เราทำอะไร
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ขอบคุณเจ๊ฟีม ฮับ ที่ขยันพิมพ์ ....ขอติงติ๊ดหนึ่ง เจ๊น่าจะบอกว่า อิสระรายปักเป้าน่ะ
ฉบับที่เท่าไหร่ และปีไหน ........................โอชื่นใจกับพ่อซีมอน มีบทความน่ารักๆเสมอ
ขอพระเจ้าเสริมกำลังพ่อในการรับใช้พระเจ้าเทอญ
ฉบับที่เท่าไหร่ และปีไหน ........................โอชื่นใจกับพ่อซีมอน มีบทความน่ารักๆเสมอ
ขอพระเจ้าเสริมกำลังพ่อในการรับใช้พระเจ้าเทอญ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
>:( พิมพ์เพิ่มให้แล้วนะเจี๊ยบ พ่อคนละเอียดอ่อน อิสระรายปักษ์เฉยๆ ไม่ใช่ปักเป้า
ย่ะ :P :P :P
ย่ะ :P :P :P
แก้ไขล่าสุดโดย :+: seraphim :+: เมื่อ เสาร์ ก.ค. 30, 2005 7:34 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
รายปักษ์ รายปักษ์ รายปักษ์ รายปักษ์ รายปักษ์ รายปักษ์ รายปักษ์ รายปักษ์ รายปักษ์ รายปักษ์seraphim เขียน: >:( อิสระรายปักเฉยๆ ไม่ใช่ปักเป้า :P :P :P
หมายถึง สองสัปดาห์ ออกที ฮับ :D
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
>:( >:( เออ..ใจร้อนจริง แก้แล้วไง >:( >:(
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ขอบคุณฮับ พี่ฟีมเป็นคนดีฮับ เพราะคนดีชอบแก้ไขseraphim เขียน: >:( >:( เออ..ใจร้อนจริง แก้แล้วไง >:( >:(
พี่ฟีมหนิดหนมกะ พ่อซีมอนป่าว ฮับ :D
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
;D ;D ไม่หนิด แต่เดาว่า คนใกล้ตัวเจี๊ยบสนิท ;D ;D
สุดยอดค่ะ ชอบมากๆๆ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ใครนะใกล้ตัวเจี๊ยบ อ๋อ อิกคิว กะ ชินจัง เอ่....มันไม่รู้จัก พ่อนะ ;Dseraphim เขียน: ;D ;D ไม่หนิด แต่เดาว่า คนใกล้ตัวเจี๊ยบสนิท ;D ;D
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ขอบคุณครับ
ดีจังนะ:+: seraphim :+: เขียน: :-[ :-[ ** เมื่อเขาได้ยินพระวาจานี้ ก็เศร้าใจ เดินคอตกไป ** ( มก 10:22 ) :-[ :-[
คนจำนวนมาก รู้สึกเหมือนเศรษฐีหนุ่มคนนี้ ( มก 10 และ ลก 18, มธ 19 ) เขามาด้วยความตั้งใจดีเต็มที่ เขาบอกพระเยซูว่าเขาต้องการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่ากว่าที่เป็นอยู่ แต่แล้วเมื่อพระองค์ขอให้เขาสละทุกอย่างเพื่อติดตามพระองค์ เขากลับพลันเหม่อลอยซึมเซาไป เขาจริงใจกับตัวเองจนรู้ว่าเขาไม่สามารถทำอย่างนั้นได้ และด้วยความเศร้าใจ เขาเดินคอตกจากไปอย่างเงื่องหงอย ต่างจากความกระตือรือร้นในตอนแรก
บาป ความบกพร่องอ่อนแอที่ไม่อาจที่ไม่อาจเอาชนะได้ของคนที่รู้จักตัวตนของตน ทำให้หดหู่ใจ สภาพลุกแล้วล้ม ลุกแล้วล้ม ครั้งแล้วครั้งเล่าค่อยๆ แปรความหดหู่กลายเป็นท้อแท้ และจากความท้อแท้กลายเป็นความสิ้นหวัง ที่สุด เขาก็เป็นอีกคนหนึ่งในกลุ่มผู้คนส่วนมากในโลกที่ดำเนินชีวิตด้วยความสิ้นหวังอย่างเงียบๆ
เขาเป็นเหมือนแกะหลงที่ชุมพาบาลเรียกหาตามพบ และอุ้มใส่บ่าคืนสู่หญ้าน้ำสมบูรณ์ชอุ่ม แต่เหตุใดไม่ทราบ จิตใจของเข้าเฝ้าโหยหาการท่องเสรีไปตามโตรกผาแห้งแล้งสูงชันมีอันตราย แกะหลงตัวนี้จึงหลงแล้วหลงอีก ทุกค่ำคืนพบตัวเองนอนรันทดลำพังในถ้ำอันมืดชื้น
เขาเป็นเหมือนลูกล้างผลาญที่คืนเรือนมาหาพ่อ รู้ซึ้งในความรักเมตตาปราศจากขอบเขตของท่าน เขาได้ทุกอย่างกลับคืนมา ไม่ว่าทรัพย์สินเงินทอง ศักดิ์ฐานะ แต่มโนภาพเขาไพล่คำนึงบ่อยๆถึงชีวิตด้านมืด แล้วก็จริงๆ......... ภายใต้สายตาจับจ้องมองอย่างสาสะใจของพี่คนโต..... เขาหนีกลับไปอีก หัวใจเสเพลไม่รักดีบงการให้เขาเลือกกลับไปเกลือกกลั้วอาจมโสโครกของโลกในเล้าหมู
เขาเหมือนผู้หญิงคนนั้นที่ถูกปีศาจสิงถึงเจ็ดตน พระเยซูเจ้าไล่พวกมันออกหมดแล้ว แต่ไม่ช้าไม่นานเป็นเขาเองที่เปิดประตูรับ ยอมให้พวกมันชวนพรรคพวกทั้งแก๊งกลับมาครอบงำจิตสำนึกและกุมอิสรภาพของเขา
เขาเหมือนลูกที่ชอบโกหก รับปากมั่นเหมาะว่าจะออกไปทำงานให้พระองค์ในท้องทุ่ง แต่กลับไม่ไป
เขาดำเนินชีวิตด้วยความประหวั่นพรั่นพรึงเหมือนต้นมะเดื่อที่ถูกสาป พระองค์ได้พิจารณาไต่สวน และเตือนเขาแล้วว่าหากคราวหน้า พระองค์กลับมา และไม่เห็นเขาเปลี่ยนแปลงเกิดผล เขาก็จะถูกโค่นทำลาย
:-[ ยังมีความหวังใดอีกหรือสำหรับคนอย่างนี้?
;) มีแน่นอน พระเจ้าไม่เคยสิ้นหวังกับเรา พระองค์ไม่เคยสั่นศีรษะ หันหลัง เดินจากใคร
เหมือนการให้อภัยอย่างไม่มีสิ้นสุด เจ็ดคูณเจ็ดสิบครั้ง พระเป็นเจ้าจะยังออกตามแกะหลงและประคับประครองเขาต่อไปจนกระทั่งเสียงคำรามขมขื่นเดียวดายในหัวใจของเขาจะจางหาย พระองค์จะรอคอยลูกล้างผลาญอย่างอดทนมุ่งมั่น และจะยอมรับการท้าพิสูจน์ความรักอันปราศจากเงื่อนไขของพระองค์ ด้วยการสวมกอดอย่างไม่มีคำถาม พระองค์จะตวาดไม่หยุดเสียงขับไล่ปีศาจทุกตนที่ยึดลูกของพระองค์เป็นทาส พระองค์จะเชิญชวนเขาด้วยความไว้วางใจเช่นเคยทุกครั้งให้เขาร่วมงานหว่านไถเก็บเกี่ยวในทุ่งกับพระองค์ และพระองค์จะเฝ้าเพียรเปลี่ยนภาพพจน์ข่มขู่หวาดกลัวของพระองค์ที่เขาฝังใจให้เป็นภาพบิดาที่รักเขาได้มากกว่าที่เขาสามารถรักตัวเอง
พระองค์ไม่เคยสิ้นหวังกับเรา เราอย่าสิ้นหวังกับตัวเอง
พระเยซูบอกเรา ** อาณาจักรสวรรค์เป็นของผู้เป็นอย่างเด็กเล็กๆ **
เด็กเล็กๆ คือ ผู้ที่ไม่มีอะไรจะให้ ไม่มีอะไรจะอวดแสดง ไม่มีคุณงามความดีที่จะอ้างเพื่อจะได้เข้าอาณาจักรสวรรค์
มีก็แต่ความรักของพระเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งพิงไว้ใจ เป็นความหวัง
อยู่เงียบๆ กับพระองค์ ฟังให้ถนัดสดับให้ซึ้งถึงเสียงแห่งความรักความอาทรของพระองค์
ไว้วางใจและเชื่อมั่นในความรักนี้
มอบตัวอยู่ในความรักของพระองค์อย่างสิ้นเชิง เหมือนเด็กเล็กๆ ในอ้อมแขนมารดา
ให้ความรักของพระองค์อาบซ่านซึมลึก จากสมองสู่หัวใจ สู่ทุกซอกมุมแห่งการดำรงอยู่ของเรา
พระองค์บอก ** สละทุกอย่าง แล้วติดตามเรามา **
ทุ ก อ ย่ า ง แม้แต่ความสิ้นหวังและเกลียดชังตัวเอง
ตามพระองค์ ยอมพระองค์ ยอมให้พระองค์ทำกับเราอย่างที่พระองค์ต้องการ
อะไรจะเกิดขึ้น อะไรจะเป็นไป
@ ม า ดู เ อ ง ซิ @ ( ยน 1:39 )
:-* จากอิสระนิตยสารคาทอลิกรายปักษ์ ลำดับที่ 4 ปักษ์แรก สิงหาคา 2546 โดยพ่อซีมอน C.Ss.R.
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Oasis_Thai_DeSeRT เขียน: .
ภาษาดูแปลก ๆ ก็เลยงง :rolleyes: :rolleyes:
อันนี้เป็นประโยคของเจ้าของกระทู้
:-[ :-[ ** เมื่อเขาได้ยินพระวาจานี้ ก็เศร้าใจ เดินคอตกไป ** ( มก 10:22 ) :-[ :-[
ส่วนนี้ครับเป็นประโยคที่ผมยกมา
เมื่อเขาได้ยินคำนั้นหน้าของเขาก็สลดลง แล้วคนนั้นออกไปเป็นทุกข์เพราะเขามีทรัพย์สิ่งของเป็นอันมาก
.
เหอๆๆๆ...ไม่ใช่ประโยคของเจ้าของกระทู้นะ กรุณากลับไปอ่านใหม่จ้า ผู้เขียนบทความเป็นบาทหลวงที่มีความรู้ความสามารถ และเรียนมาโดยตรง และท่านก็ไม่ได้ใช้ศัพท์แสงที่พิศดาลมากมายจนมนุษย์เดินดินจะแปลไม่ออก ศัพท์มอรมอนก็มอรมอนนะ ไม่ต้องงงจ้า
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Jira เขียน:
ขอบคุณมาก ๆ นะคะ สำหรับบทความดี ๆ ชอบมาก ๆ เลยค่ะ
ชอบบทความดีดีช่วยสวดให้กับคณะพระมหาไถ่ในการผลิตผลงานสู่มวลชนด้วยคะ ลองสมัครสมาชิกอิสระแล้วหรือยังคะ
ทำไมต้องทำเป็นน้อยอกน้อยใจ แบบนั้นด้วยอ่ะ เรื่องไม่เป็นเรื่องเลยนะคะ หาว่า เค้าไม่เข้าใจตัวเอง (ทำเป็นเด็กสามขวบ ) เวลาไม่มีใครสนใจตัวเองก็งอแง ... ถ้าอายุน้อยกว่า 20 ก็จะโอ๋หรอกนะคะ แต่ขนาดนี้ไม่โอ๋แล้วล่ะOasis_Thai_DeSeRT เขียน:
ผมว่า เจ้าของกระทู้ พูดโดยปราศจากความเข้าใจเกี่ยวกับมอรมอน ดูเหมือนว่าท่านไม่ได้เข้าใจอะไรเลย
เกี่ยวกับมอรมอน และเมื่อได้เห็นข้อความที่ท่านได้ตอบมา เป็นข้อความที่ผมยกมาจาก ในพระคัมภีร์ไบเบิล เอาลิงค์ไปอ่าน
22 เมื่อเขาได้ยินคำนั้นก็เสียใจ แล้วออกไปเป็นทุกข์เพราะเขามีทรัพย์สิ่งของเป็นอันมาก (มาระโก 10:22)
http://www.greeknewtestament.com/thai/B41C010.htm
ผมได้กล่าวเปรียบเทียบแล้วว่า ข้อความที่เจ้าของกระทู้ยกมา และข้อความที่ผมยกมา ไม่ใช่ข้อความของมอรมอน ซึ่งคำพูดนี้พูด
โดยปราศจากความเข้าใจ ถ้าไม่ทราบก็ถามได้ครับ ดีกว่า นะ
คือในบทความเป็นการแปลสำนวนคาทอลิก (คิดว่า) และที่คุณยกมาเป็นพระคัมภีร์ฉบับคิงเจมส์ (ไม่ใช่คาทอลิก) ซึ่ง ... พอจู่ๆยกมาโดยไม่อ้างว่า เป็นของอะไร พี่เค้าก็อนุมานว่า เป็นมอรมอนสิคะ (เพราะคุณเป็นมอรมอน) จะให้เค้าคิดว่า อะไรคะ .... พี่เค้าก็พยายามบอกว่า แหล่งที่มาเชื่อถือได้นะ ก็แค่นั้นเอง แล้วพ่อเค้าก็ไม่ได้ยกมาทั้งข้อ (ซึ่งก็ไม่ผิดอะไร) เพราะพ่อเค้าต้องการสื่อเท่านั้น ต้องการสื่อถึงปฏิกิริยาของคนเวลาที่พระเป็นเจ้าเรียกร้องให้เราสละหรือทิ้งอะไรบางอย่าง ให้เราหยุดรำพึงแค่นั้น เพราะที่จริง มีอีกหลายอย่าง (มากกว่าเรื่อง ทรัพย์สิน) ที่คนไม่ยอมทิ้งเพื่อเข้าอาณาจักรสวรรค์
พระคัมภีร์มีหลายเวอร์ชั่นมาก ไม่มีใครจำได้ทุกสำนวนนะคะ ทีหลังถ้าไม่อยากให้ใครเข้าใจผิด และตัวเองต้องมางอแงอีก ก็อ้างที่มาให้ครบๆนะคะ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
คุณโอเอซิส ลองทบทวนตัวเองดูบ้างว่า พูดอะไรไว้บ้างในประโยค อย่าพยายามยัดเยียด หรือตัดสินชาวบ้านเลย ต่างคนต่างอยู่ก็ดีแล้ว จะงงอะไรกันนักกันหนาที่นี่แม้คนที่ไม่ใช่คาทอลิกก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรกับบทความ คงจะมีแต่คุณเท่านั้นที่งง และสงสัยไม่มีที่สิ้นสุด ไม่รู้เพราะ หรือเพื่ออะไร ใจกว้างๆ หน่อยคะ
ภาษาดูแปลก ๆ ก็เลยงง
อันนี้เป็นประโยคของเจ้าของกระทู้
:-[ :-[ ** เมื่อเขาได้ยินพระวาจานี้ ก็เศร้าใจ เดินคอตกไป ** ( มก 10:22 ) :-[ :-[
ส่วนนี้ครับเป็นประโยคที่ผมยกมา
เมื่อเขาได้ยินคำนั้นหน้าของเขาก็สลดลง แล้วคนนั้นออกไปเป็นทุกข์เพราะเขามีทรัพย์สิ่งของเป็นอันมาก
ผมว่า เจ้าของกระทู้ พูดโดยปราศจากความเข้าใจเกี่ยวกับมอรมอน ดูเหมือนว่าท่านไม่ได้เข้าใจอะไรเลย
เกี่ยวกับมอรมอน และเมื่อได้เห็นข้อความที่ท่านได้ตอบมา เป็นข้อความที่ผมยกมาจาก ในพระคัมภีร์ไบเบิล เอาลิงค์ไปอ่าน
22 เมื่อเขาได้ยินคำนั้นก็เสียใจ แล้วออกไปเป็นทุกข์เพราะเขามีทรัพย์สิ่งของเป็นอันมาก (มาระโก 10:22)
http://www.greeknewtestament.com/thai/B41C010.htm
ผมได้กล่าวเปรียบเทียบแล้วว่า ข้อความที่เจ้าของกระทู้ยกมา และข้อความที่ผมยกมา ไม่ใช่ข้อความของมอรมอน ซึ่งคำพูดนี้พูด
โดยปราศจากความเข้าใจ ถ้าไม่ทราบก็ถามได้ครับ ดีกว่า นะ
ยอมรับว่า ไม่เข้าใจมอรมอน และไม่คิดที่จะเข้าใจด้วย แล้วกรุณาอย่าเปรียบเทียบข้อความอะไรเลยอย่างที่ คุณบัดดี้บอกพระคัมภีร์มีหลายเวอร์ชั่น ส่วนใหญ่คนที่นี่ก็อ่านแล้วเข้าใจกันดี ผู้ที่เขียนบทความเป็นบาทหลวงอย่างที่บอก คุณคงไม่ต้องมาเช็คข้อความท่านมั๊ง ที่โพสมานี่เพื่อมาหนุนใจ ให้กำลังผู้ที่ต้องการเท่านั้น ถ้ามาวิเคราะห์ จับผิด สงสัย ฯลฯ บอกให้เลยว่าเปล่าประโยชน์เปล่าๆ
ภาษาดูแปลก ๆ ก็เลยงง
อันนี้เป็นประโยคของเจ้าของกระทู้
:-[ :-[ ** เมื่อเขาได้ยินพระวาจานี้ ก็เศร้าใจ เดินคอตกไป ** ( มก 10:22 ) :-[ :-[
ส่วนนี้ครับเป็นประโยคที่ผมยกมา
เมื่อเขาได้ยินคำนั้นหน้าของเขาก็สลดลง แล้วคนนั้นออกไปเป็นทุกข์เพราะเขามีทรัพย์สิ่งของเป็นอันมาก
ผมว่า เจ้าของกระทู้ พูดโดยปราศจากความเข้าใจเกี่ยวกับมอรมอน ดูเหมือนว่าท่านไม่ได้เข้าใจอะไรเลย
เกี่ยวกับมอรมอน และเมื่อได้เห็นข้อความที่ท่านได้ตอบมา เป็นข้อความที่ผมยกมาจาก ในพระคัมภีร์ไบเบิล เอาลิงค์ไปอ่าน
22 เมื่อเขาได้ยินคำนั้นก็เสียใจ แล้วออกไปเป็นทุกข์เพราะเขามีทรัพย์สิ่งของเป็นอันมาก (มาระโก 10:22)
http://www.greeknewtestament.com/thai/B41C010.htm
ผมได้กล่าวเปรียบเทียบแล้วว่า ข้อความที่เจ้าของกระทู้ยกมา และข้อความที่ผมยกมา ไม่ใช่ข้อความของมอรมอน ซึ่งคำพูดนี้พูด
โดยปราศจากความเข้าใจ ถ้าไม่ทราบก็ถามได้ครับ ดีกว่า นะ
ยอมรับว่า ไม่เข้าใจมอรมอน และไม่คิดที่จะเข้าใจด้วย แล้วกรุณาอย่าเปรียบเทียบข้อความอะไรเลยอย่างที่ คุณบัดดี้บอกพระคัมภีร์มีหลายเวอร์ชั่น ส่วนใหญ่คนที่นี่ก็อ่านแล้วเข้าใจกันดี ผู้ที่เขียนบทความเป็นบาทหลวงอย่างที่บอก คุณคงไม่ต้องมาเช็คข้อความท่านมั๊ง ที่โพสมานี่เพื่อมาหนุนใจ ให้กำลังผู้ที่ต้องการเท่านั้น ถ้ามาวิเคราะห์ จับผิด สงสัย ฯลฯ บอกให้เลยว่าเปล่าประโยชน์เปล่าๆ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
ซะงั้น กลายเป็นว่าเรายัดเยียด ผมงง ก็ไม่ได้ เง้อ
ก็ไม่แปลกที่คนเรามักจะไม่เคยสังเกต หรือทบทวนพฤติกรรมตัวเอง
ต้องขออภัยที่ ผมยกข้อความในพระคัมภีร์ในไบเบิลมาแล้วไม่บอกว่าเป็นที่ไหน และที่ผมประหลาดใจนิดหนึ่ง เพราะเห็นคุณบอกว่า เป็นศัพท์มอรมอน
ผมยิ่งประหลาดใจครับ เพราะแสดงว่าไม่รู้ คิดว่าข้อความที่ผมยกมาเป็นของมอรมอน
ที่บอกว่า ศัพท์มอรมอนก็มอรมอนนะ หมายถึง คุณจะเข้าใจอะไรอย่างไร ก็อยู่ในส่วนของคุณ ไม่ใช่มางงซะขนาดนี้
ผมก็เลยให้ลิงค์ไปว่า ผมเอามาจากไหน อันที่จริง ผมอ่านแล้วผมก็เลยลองไปเปิดอ่านดูว่า ในมาระโก 10 ข้อ 22
เพราะผมยอมรับจริงๆ ว่าคำที่คุณยกมามันไม่คุ้นหู เวลาผมอ่านพระคัมภีร์ ผมเลยไม่แน่ใจว่ามีคำแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ พอดีเห็นคุณอ้างข้อความ ผมเลยตามไปอ่าน
ก็เท่านั้น
เข้าใจมั๊ยคะ บอกว่าเป็นบทความที่บาทหลวงเขียน ไม่ได้เขียนเอง แล้วเขาก็ส่งทั่วประเทศไทยจะงงอะไรนักหนา ถ้าศัพท์แสงคาทอลิกมันงงมากก็หันไปตั้งใจศึกษามอรมอนของคุณให้จงดีเถิด
และผมไม่ได้จับผิดครับ นะครับ เง้อ ผมต้องกล่าวตามทุกๆ คำเลยเหรอครับ สิ่งไหนที่ผมไม่เห็นด้วย ผมก็ต้องพูดไม่ได้ใ่ช่ไหมครับ?
จะคิดอะไรก็เรื่องของคุณ ไม่เคยบอกเลยว่า ให้อ่านบทความแล้วจงคล้อยตาม เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า
ผมคงจบกระทู้นี้เพียงเท่านี้ครับ ดูเหมือนว่าผมจะพูดอะไร ๆ ก็ผิดไปหมด
คิดได้จริงๆ ก็ดีนะ
ปล.ลองสังเกตดีดีนะ ไปที่ไหนมีใครตอนรับเราบ้าง นิวมานา พันทิป ฯลฯ ไปที่ไหนมีใครรังเกียจเราบ้าง คิดได้แล้วควรปรับปรุงตัวอย่างไร อ่านดีดีนะ ไม่ได้ระบุว่า น่ารัก หรือ น่ารังเกียจ
ก็ไม่แปลกที่คนเรามักจะไม่เคยสังเกต หรือทบทวนพฤติกรรมตัวเอง
ต้องขออภัยที่ ผมยกข้อความในพระคัมภีร์ในไบเบิลมาแล้วไม่บอกว่าเป็นที่ไหน และที่ผมประหลาดใจนิดหนึ่ง เพราะเห็นคุณบอกว่า เป็นศัพท์มอรมอน
ผมยิ่งประหลาดใจครับ เพราะแสดงว่าไม่รู้ คิดว่าข้อความที่ผมยกมาเป็นของมอรมอน
ที่บอกว่า ศัพท์มอรมอนก็มอรมอนนะ หมายถึง คุณจะเข้าใจอะไรอย่างไร ก็อยู่ในส่วนของคุณ ไม่ใช่มางงซะขนาดนี้
ผมก็เลยให้ลิงค์ไปว่า ผมเอามาจากไหน อันที่จริง ผมอ่านแล้วผมก็เลยลองไปเปิดอ่านดูว่า ในมาระโก 10 ข้อ 22
เพราะผมยอมรับจริงๆ ว่าคำที่คุณยกมามันไม่คุ้นหู เวลาผมอ่านพระคัมภีร์ ผมเลยไม่แน่ใจว่ามีคำแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ พอดีเห็นคุณอ้างข้อความ ผมเลยตามไปอ่าน
ก็เท่านั้น
เข้าใจมั๊ยคะ บอกว่าเป็นบทความที่บาทหลวงเขียน ไม่ได้เขียนเอง แล้วเขาก็ส่งทั่วประเทศไทยจะงงอะไรนักหนา ถ้าศัพท์แสงคาทอลิกมันงงมากก็หันไปตั้งใจศึกษามอรมอนของคุณให้จงดีเถิด
และผมไม่ได้จับผิดครับ นะครับ เง้อ ผมต้องกล่าวตามทุกๆ คำเลยเหรอครับ สิ่งไหนที่ผมไม่เห็นด้วย ผมก็ต้องพูดไม่ได้ใ่ช่ไหมครับ?
จะคิดอะไรก็เรื่องของคุณ ไม่เคยบอกเลยว่า ให้อ่านบทความแล้วจงคล้อยตาม เข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า
ผมคงจบกระทู้นี้เพียงเท่านี้ครับ ดูเหมือนว่าผมจะพูดอะไร ๆ ก็ผิดไปหมด
คิดได้จริงๆ ก็ดีนะ
ปล.ลองสังเกตดีดีนะ ไปที่ไหนมีใครตอนรับเราบ้าง นิวมานา พันทิป ฯลฯ ไปที่ไหนมีใครรังเกียจเราบ้าง คิดได้แล้วควรปรับปรุงตัวอย่างไร อ่านดีดีนะ ไม่ได้ระบุว่า น่ารัก หรือ น่ารังเกียจ
-
- โพสต์: 626
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
- ที่อยู่: bkk
ขอบคุงสำหรับบทความดีๆ และ..........
เรื่องอื่นๆด้วย
รักพี่ฟิมจัง
เรื่องอื่นๆด้วย
รักพี่ฟิมจัง
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
melis เขียน: ขอบคุงสำหรับบทความดีๆ และ..........
เรื่องอื่นๆด้วย
รักพี่ฟิมจัง
บทความคุณพ่อเขียนคะ ส่วนบทอื่นพี่เขียนเอง
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
แบกะดิน เขียน: เราต้องไม่สิ้นหวัง !
ถูกต้องจ้า