มีอะไรใน"พิธีบูชาขอบพระคุณ(มิสซา)"

[Man of Macedonia]

เกริ่นนำ
(สัปดาห์ที่ 2 เทศกาลมหาพรต)
บทเทศน์ของคุณพ่อวิทยา แก้วแหวน
................."พ่อขอให้อาทิตย์ที่ 2 ในเทศกาลมหาพรต เป็นอาทิตย์ที่พี่น้องจะมีจิตใจนิ่ง สงบ อยู่กับพระเจ้าของเราในคำภาวนา และ ให้พี่น้องมีส่วนช่วยให้บุคคลทั้งหลายสามารถรับพระพรของพระเจ้าถ่ายทอดจากชีวิตของเราสู่บุคคลทั้งหลาย และเราจะได้สามารถรับรู้การผ่านพ้นความทุกข์    ความตายไปสัมผัสกับการมีชีวิตใหม่ด้วยตัวของเราเองทีละเล็กทีละน้อย      ในเทศกาลมหาพรตนี้ และผู้คนทั้งหลายทั้งที่รู้จักพระเจ้าและไม่รู้จักพระเจ้า    ก็จะได้มีบุญได้ผ่านความยากลำบากและเข้าสัมผัสกับแสงสว่างขององค์พระเจ้าผ่านทางชีวิตของเรา เทศกาลมหาพรตก็จะมีค่ามากขึ้นและก็เพิ่มพูนค่านี้ให้พี่น้องของเรามากยิ่งขึ้น ขอองค์พระเยซูเจ้าผู้ทรงทำอย่างนี้เป็นตัวอย่างกับเรา  เมื่อพระองค์เสด็จมาในโลกนี้ได้โปรดเป็นกำลังเป็นตัวอย่างนำพาพี่น้องให้สามารถปฏิบัติแบบนี้เช่นเดียวกันในชีวิตของพี่น้องแต่ละคนๆ ทุกๆวันตลอดอาทิตย์นี้"

[1]เพื่อเราจะได้เข้าใจมากขึ้น ถึงธรรมล้ำลึกและสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในพิธีบูชาขอบพระคุณเพื่อทวีความเชื่อ
[2]ผมไม่มีความเชี่ยวชาญเรื่องเพลงต่างๆเท่าไหร่ รบกวนช่วยเสริมถ้าผมเข้าใจผิด
1.ภาคนำ

1.1เพลงเริ่มพิธี (ยืน )
.................บทเพลงเริ่มพิธี(Introit,Anti phona ad itroitum) มีจุดประสงค์เพื่อนำพาผู้เข้าร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณไปสู่ธรรมล้ำลึกและเพื่อเป็นการรวบรวมให้พี่น้องคริสตเริ่มต้นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการประกอบพิธีโดยเพลงเริ่มพิธีนี้ อาจนำมาจากสดุดี จดหมาย(ที่สอดคล้องกับบทอ่านวันนั้น) หรือจะแต่งเองก็ได้

1.2การคำนับพระแท่นและทักทายที่ประชุม
.................เป็นขั้นตอนต่อเนื่องที่คุณพ่อและผู้ช่วยพิธี จะเดินไปสู่พระแท่น(เข้าบริเวณ Sanctuary = ง่ายๆคือ บริเวณที่พื้นยกขึ้นกว่าพื้นวัด) เมื่อถึงแล้ว คุณพ่อและผู้ช่วยจะคำนับพระแท่น  อาจจะไหว้ อาจจะจูบ และในบางวัดจะมีการแกว่งกำยานถวายพระแท่น ซึ่งหมายถึงคำภาวนาไปสู่พระเป็นเจ้า นอกนั้น ควันกำยานที่ปกคลุมบริเวณSanctuary ทำให้รู้สึกศักดิ์สิทธิ์
(เช่น วัดอัสสัมฯ)
.................การแสดงความคารวะต่อพระแท่นนั้น เป็นการบอกว่า พระแท่นนี้คือพระคริสตเจ้า เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างสวรรค์กับแดนแผ่นดิน เพราะเป็นสถานที่ที่ ปังและเหง้าอุง่นเปลี่ยนเป็นพระกายและพระโลหิต

1.3คำทักทายของประธาน(พระสงฆ์)
P=พระสงฆ์ และ S=พวกเราทุกคน

P:เดชะพระนามพระบิดา และพระบุตร และพระจิต
(In nomine Patris, et Filii, et Spiritus Sancti)
S:อาแมน
*มหากางเขน เป็นเครื่องหมายของคริสตชน ซึ่งสะท้อนให้เราตระหนักว่า ในพิธีมิสซานี้ เป็นการกระทำในนาม(In nomine=In the Name of......)พระบิดา และพระบุตร และพระจิต

P:ขอพระหรรษทานของพระเยซูคริสตเจ้า ความรักของพระบิดา และความสนิทสัมพันธ์ของพระจิต สถิตกับท่านทั้งหลาย
S:และสถิตกับท่านด้วย

*คำทักทายนี้ เป็นคำทักทายแรกที่ประธานมีต่อคนเข้าร่วมพิธี เป็นการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างประธานกับคนเข้าร่วมพิธี เป็นการมอบ"สิ่งที่ดีให้ ในฐานะศาสนบริกรของพระเจ้า"(ให้ก่อน)

1.4การสารภาพบาป(Confiteor)
P:พี่น้อง ให้เรายอมรับว่าเราเป็นคนบาป เพื่อจะได้ร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างสมควร
*เป็นการเรียกหาและวิงวอนขอพระเมตตาจากพระเป็นเจ้า เป็นรูปแบบหนึ่งของการแสดงออกถึงพฤติกรรมแห่งการคืนดี เป็นการแสดงออกถึงความถ่อมตนลง
P:ข้าพเจ้าขอสารภาพต่อพระเจ้า   
S:ผู้ทรงสรรพานุภาพและต่อพี่น้องด้วย   ว่าข้าพเจ้าได้ทำบาป มากมาย  ด้วยกาย วาจา ใจ และด้วยการละเลย ข้าพเจ้าเป็นคนบาป    ข้าพเจ้ายอมรับว่าเป็น คนบาป (อาจมีการข้อน อก ในช่วงนี้=ยกมือแนบหัวใจ(หน้าอก)ค้อมกายลง) ดังนั้นขอพระนางมารีย์ ผู้ทรงเป็นพรหมจารีเสมอ ขอทูตสวรรค์ และนักบุญทั้งหลายและพี่น้องด้วย ช่วยวิงวอนพระเจ้าเพื่อข้าพเจ้าด้วยเทอญ
P:ขอพระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ทรงพระกรุณาอภัยบาปและนำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร
S:อาแมน

1.5 บทร่ำวิงวอน,บทเพลง Kyrie eleison

ร่ำวิงวอน
P:ข้าแต่พระเจ้า     ทรงพระกรุณาเทอญ
S:ข้าแต่พระเจ้า     ทรงพระกรุณาเทอญ
P:ข้าแต่พระคริสตเจ้า     ทรงพระกรุณาเทอญ
S:ข้าแต่พระคริสตเจ้า     ทรงพระกรุณาเทอญ
P:ข้าแต่พระเจ้า     ทรงพระกรุณาเทอญ
S:ข้าแต่พระเจ้า     ทรงพระกรุณาเทอญ

ในวัดอาจจะร้องเพลง"พระเจ้าทรงเมตตาเทอญ"
หรือบางวัดที่มีการร้องเพลงละติน(วัดคอนเซ็ปชัญ มิสซาเช้า)
อาจร้อง

P: Kyrie eleison.
S: Kyrie eleison.
P: Kyrie eleison.
S: Christe eleison.
P: Christe eleison.
S: Christe eleison.
P: Kyrie eleison.
S: Kyrie eleison.
P: Kyrie eleison.
(อ่าน กีรีเอ เอเลอิซอน และ คริสเต เอเลอิซอน)
หมายเหตุ.ถ้าใครเคยร้องจะทราบว่า เวลาขับจริงๆจะเป็นเอื้อนเสียงซะเยอะ ใครฟังครั้งแรก(และไม่รู้ว่าอ่านว่ากีรีเอ)จะไม่ทราบเลย จะทราบแต่คำว่า "Son"

มีต่อ

[Man of Macedonia]

1.6 เพลง Gloria (สิริรุ่งโรจน์)
ก่อ พระสิริรุ่งโรจน์แด่พระเจ้าในสรวงสวรรค์
รับ และมนุษย์ที่พระองค์โปรดปราน จงประสบสันติสุขบนแผ่นดิน
ก่อ ขอสรรเสริญพระองค์
รับ ขอถวายพระพรแด่พระองค์
ก่อ ขอกราบนมัสการพระองค์
รับ ขอถวายพระเกียรติแด่พระองค์
ก่อ ขอขอบพระคุณ เพราะพระองค์ทรงพระเกียรติเลอเลิศ
รับ พระเจ้าข้า พระองค์คือพระราชาสวรรค์
ก่อ ทรงเป็นพระเจ้า พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ
รับ ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรหนึ่งเดียว
ก่อ พระเจ้าข้า พระองค์คือพระบุตรของพระบิดา และทรงเป็นลูกแกะของพระเจ้า
รับ พระองค์ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก ทรงพระกรุณาเทอญ
ก่อ พระองค์ผู้ทรงลบล้างบาปของโลก โปรดฟังข้าพเจ้าทั้งหลายวิงวอนเทอญ
รับ พระองค์ผู้ประทับเบื้องขวาพระบิดา ทรงพระกรุณาเทอญ
ก่อ ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์ผู้เดียวศักดิ์สิทธิ์
รับ พระองค์ผู้เดียวคือองค์พระผู้เป็นเจ้า
ก่อ พระองค์ผู้เดียวสูงสุด
พร้อมกัน ร่วมกับพระจิต  ในพระสิริรุ่งโรจน์ของพระบิดาเจ้า อาแมน

*เพลง Gloria เป็น Hymn ที่เก่าแก่ที่สุดบทหนึ่งของคริสตชน""เป็นเพลงที่พระศาสนจักรที่ร่วมประชุมกันภายใต้การนำของพระจิตเจ้า สรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าพระบิดา และสรรเสริญลูกแกะพระเจ้าและแสดงคารวะต่อพระองค์ท่าน" (I.G.31) การร้องเพลงนี้ เป็นการสอดคล้องกับคำเตือนของท่านนักบุญเปาโล ที่ว่า "จงขับร้องเพลงสดุดี และเพลงศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ เพื่อขอบพระคุณพระเจ้าด้วยสุดจิตใจของท่าน" (คส.3:16) เพลงนี้มีลักษณะยอพระเกียรติพระเจ้า โดยเน้นถึงองค์พระบุตร (ข้อมูลจากอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ)

1.7บทภาวนาของประธาน (Collectio)
P:ให้เราภาวนา(Oremus)
มีหลายแบบ ยกตัวอย่าง เช่น
P:.................ข้าแต่พระเจ้า พระองค์ทรงเป็นบ่อเกิดแห่งความดีและความกรุณา ทรงเปิดเผยให้ทราบว่า การจำศีลอดอาหาร การภาวนา และการให้ทานเป็นเครื่องบำบัดรักษาบาป ขอโปรดทอดพระเนตร ข้าพเจ้าทั้งหลายที่เป็นทุกข์ยอมรับผิด เมื่อข้าพเจ้าทั้งหลายกลับตัวสำนึกผิดแล้ว พระองค์จะได้ทรงเมตตาพยุงให้ลุกขึ้นเสมอ ทั้งนี้ ทั้งนี้ อาศัยพระบารมีพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรผู้ทรงจำเริญและครองราชย์เป็นพระเจ้าหนึ่งเดียวกับพระองค์และพระจิต ตลอดนิรันดร     
S:อาแมน
*จุดนี้เป็นส่วนสุดท้ายของจารีตแห่งการเริ่มพิธี การที่พระสงฆ์เชิญชวนสัตบุรุษให้ภาวนาว่า "ให้เราภาวนา" แล้วหยุดนิ่งสงบสำรวมอยู่ครู่หนึ่งนั้น ประสงค์ "ให้ที่ประชุมสำรวมใจอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเจ้า และวอนขอสิ่งที่ต้องการในใจ" (I.G.32)
*ในขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่มีการหันเข้าหาพระเจ้าโดยตรงเพื่อสนทนากับพระองค์(มิสซาจารีตลาตินพระสงฆ์จะหันหลังให้ผู้เข้าร่วมพิธี)
เชิงอรรถ 1.7
มี 4 ขั้นตอนย่อย
1.7.1 การชวนให้ภาวนา"ให้เราภาวนา"
1.7.2 สงบนิ่งพักหนึ่ง เพื่อให้ทุกคนระลึกถึงพระเป็นเจ้า
1.7.3 การภาวนา
1.7.4 การยืนยันว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแท้จริง(อาแมน)
*ตรงจุดนี้ อาจจะตอบคำถามคริสตน้องใหม่หลายคน ที่วันหนึ่งอาจเป็นเจอวัดที่คุณพ่อเงียบอยู่พักใหญ่กว่าที่เคยเจอ แล้วชะโงกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

2.ภาควจนพิธีกรรม
2.1 บทอ่าน (นั่ง)
(ผู้อ่าน อ่านบทอ่านที่ 1)
P:นี่คือพระวาจาของพระเจ้า
S:ขอขอบพระคุณพระเจ้า
(ผู้อ่าน อ่านบทอ่านที่ 2)
P:นี่คือพระวาจาของพระเจ้า
S:ขอขอบพระคุณพระเจ้า

*เพลงสดุดีหลังบทอ่านแรกเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรม และใช้เพื่อตอบรับพระวาจาในตัวเอง เป็นการภาวนาด้วยพระวาจาของพระเป็นเจ้าเอง เป็นเพลงที่จัดอยู่ในกลุ่มเพลงคั่นระหว่างบทอ่าน(Gradual)
เช่น ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิจนิรันดร์,ข้าพเจ้าพร้อมแล้วพระเจ้าข้า ข้าพระองค์ยินดีทำตามน้ำพระทัย
2.2บทอัลเลลูยา(Alleluia)ก่อนพระวรสาร
.................เป็นการประกาศการประทับอยู่ของพระคริสตเจ้าผู้ตรัสกับเรา(ผ่านศาสนบริกร) คำว่า อัลเลลูยา นี้มีความหมายว่า "ทรงพระเจริญเทอญพระยาเวห์"(เทียบ สดุดี 110-118) แต่ในเทศกาลมหาพรตนี้จะไม่มีการขับอัลเลลูยาเป็นเพลงคั่นระหว่างบทอ่าน(Gradual) หากแต่จะใช้ เพลงอื่นเช่น "ขอสรรเสริญขอถวายพร........"

2.3พระวรสาร (ยืน)
(บางวัดพระสงฆ์อาจถวายกำยาน)
P:พระเจ้าสถิตกับท่าน(Dominus vobiscum)
S:และสถิตกับท่านด้วย(Et cum spiritu tuo)
P:บทอ่านจากพระวรสาร นักบุญ...(Sequentia /Initium sancti Evangelii secundum......)
S:ขอถวายพระเกียรติแด่พระองค์ พระเจ้าข้า (Gloria tibi, Domine)
   (ทำเครื่องหมายกางเขนที่หน้าผาก ที่ปาก และที่หน้าอก)
   (พระสงฆ์อ่านพระวรสาร)
P:นี่คือพระวาจาของพระเจ้า
S:ขอพระคริสตเจ้าทรงพระเจริญเทอญ
*.................บทอ่านจากพระคัมภีร์พร้อมกับบทเพลง ( สดุดี )คั่นกลางเป็นส่วนประกอบสำคัญของวจนพิธีกรรม และบทเทศน์เตือนใจ การยืนยันศรัทธาและบทภาวนา  เพื่อมวลชน เป็นการขยายภาคนี้ให้กว้างขึ้นและสรุป เหตุว่าในการอ่านพระคัมภีร์ และการเทศน์ซึ่งเป็นการให้อรรถาธิบายนั้น พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับประชากรของ    พระองค์ ( เทียบสังฆธรรมนูญว่าด้วยพิธีกรรม แห่งสังคายนาวาติกันที่ 2 , มาตรา 7 ) " ( I.G.,33 )
...................ต้อง แสดงความคารวะอย่างพิเศษโดยการร้องเพลงแสดงให้เห็นการรับเสด็จพระคริสตเจ้ามาประทับและตรัวกับพวกเขา    และด้วยการยืนฟัง  และพนมมืออย่างมีความสำรวม
(ข้อมูลส่วนหนึ่งจากอัครสังฆมณฑล)

*การนั่ง นั้นขณะรับฟังวาจาของพระเจ้าของผู้เข้าร่วมพิธีเป็นการแสดงออกถึงการรับฟังด้วยความตั้งใจ(มก 3:31-35;ลก 10:39 ; มก 1:40;5:22;7:25;10:19)เหมือนบรรดาอัครสาวกที่นั่งรายรอบพระเยซูเพื่อฟังพระองค์ตรัส(ลก 10:39)

มีต่อ

[Man of Macedonia]

2.4 บทเทศน์(นั่ง)
2.5 บทข้าพเจ้าเชื่อ=Credo (ยืน)
*ในส่วนนี้ มิสซาจารีตลาตินจะยาวกว่าจะสวดไม่เหมือนกัน
บทข้าพเจ้าเชื่อ (ยืน)
ก่อ ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว
รับ พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ เนรมิตฟ้าดิน ทั้งสิ่งที่เห็นได้และเห็นไม่ได้
ก่อ ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้าพระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า
รับ ทรงบังเกิดจากพระบิดาก่อนกาลเวลา
ก่อ ทรงเป็นพระเจ้าจากพระเจ้า
รับ ทรงเป็นองค์ความสว่าง จากองค์ความสว่าง
ก่อ ทรงเป็นพระเจ้าแท้ จากพระเจ้าแท้
รับ มิได้ทรงถูกสร้าง แต่ทรงบังเกิดร่วมพระธรรมชาติเดียวกับพระบิดา
ก่อ อาศัยพระบุตรนี้ ทุกสิ่งได้รับการเนรมิตขึ้นมา
รับ เพราะเห็นแก่เรามนุษย์ เพื่อทรงช่วยเราให้รอด พระองค์จึงเสด็จจากสวรรค์
ก่อ พระองค์ทรงรับสภาพมนุษย์ จากพระนางมารีย์พรหมจารีด้วยพระอานุภาพของพระจิตเจ้า
รับ และทรงบังเกิดเป็นมนุษย์
ก่อ สมัยปอนทิอัส ปิลาต พระองค์ทรงถูกตรึงกางเขนเพื่อเรา
รับ พระองค์สิ้นพระชนม์และถูกฝังไว้
ก่อ ทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม ตามความในพระคัมภีร์
รับ เสด็จสู่สวรรค์ ประทับเบื้องขวาพระบิดา
ก่อ พระองค์จะเสด็จมาอีกด้วยพระสิริรุ่งโรจน์ เพื่อทรงพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย
รับ รัชสมัยของพระองค์จะไม่สิ้นสุด
ก่อ ข้าพเจ้าเชื่อในพระจิต  พระเจ้าผู้ทรงบันดาลชีวิต
รับ ทรงเนื่องมาจากพระบิดาและพระบุตร
ก่อ ทรงรับการถวายสักการะและพระสิริรุ่งโรจน์ร่วมกับพระบิดา   และพระบุตร
รับ พระองค์ดำรัสทางประกาศก
ก่อ ข้าพเจ้าเชื่อว่า มีพระศาสนจักร หนึ่งเดียว ศักดิ์สิทธิ์ สากลและสืบเนื่อง จากอัครสาวก
รับ ข้าพเจ้าประกาศยืนยันว่า มีศีลล้างบาปหนึ่งเดียวเพื่ออภัยบาป
ก่อ ข้าพเจ้ารอวันที่ผู้ตายจะกลับคืนชีพ
รับ และคอยชีวิตในโลกหน้า  อาแมน

*บทข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า เป็นการกระทำของผู้เข้าร่วมพิธีและพระสงฆ์ซึ่งตอบรับพระวาจาของพระเจ้าที่ได้รับฟังไป"บทข้าพเจ้าเชื่อใช้สวดวันอาทิตย์และวันสมโภช อาจใช้สวดในวันฉลองอื่นที่มีความสง่าเป็นพิเศษได้"(IG44) บทนี้จะเป็นเครื่องหมายที่บ่งบอกถึงความเป็นคริสตชน เป็นสิ่งแสดงให้เห็นถึงการที่เราเป็นส่วนหนึ่งของพระศาสนจักรที่กำลังแผ่ขยายไปทั่วโลก เป็นหนึ่งเดียวกับผู้มีความเชื่อเดียวกัน เราจะเห็นได้ว่า โครงสร้างของบทข้าพเจ้าเชื่อนี้ กล่าวถึงลักษณะทางเทววิทยาของพระตรีเอกภาพ พระบิดาคือพระผู้ทรงสร้าง พระบุตรคือพระมหาไถ่ พระจิตเป็นผู้บันดาลความศักดิ์สิทธิ์

2.6บทภาวนาเพื่อมวลชน (ยืน)
P: พี่น้องที่รัก ให้เราร่วมกันวิงวอนต่อพระเป็นเจ้า......................
ผู้แทนสัตบุรุษกล่าว:(ยกตัวอย่าง)
เพื่อสมเด็จพระสันตะปาปา...(ออกพระนาม).... พระสังฆราช ..(ออกนาม)... บรรดาพระสังฆราช คณะพระสงฆ์ คณะนักบวช และผู้แพร่ธรรมทุกท่าน ได้รับปรีชาญาณของพระองค์ จะได้แสดงความรักและความเสียสละต่อประชากรของ พระเป็นเจ้า  ที่พวกท่านได้รับมอบหมายให้ดูแลด้วยความซื่อสัตย์   เพื่อนำทุกคน ไปสู่ความรอดตลอดนิรันดร์ ให้เราภาวนา 
S:โปรดสดับฟังเถิดพระเจ้าข้า
(จากนั้น ตั้งใจฟัง และพนมมือรับ ขานว่า โปรดสดับฟังเถิดพระเจ้าข้า)
P:(ตัวอย่าง)ข้าแต่พระเป็นเจ้า  อาศัยคำเสนอวิงวอนของพระนางพรหมจารีมารีอา  ขอพระองค์โปรดรับคำภาวนาของข้าพเจ้าทั้งหลายด้วยเทอญ  ทั้งนี้ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้า  พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย   
S:อาแมน

*บทภาวนาเพื่อมวลชนนี้เป็นการแสดงออกที่สอดคล้องกับคำกล่าวที่ว่า"พระศาสนจักรเราคือผู้รับใช้" เป็นการเงี่ยหูฟังความต้องการ ทุกข์ร้อนของโลก เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงการวอนขอเพื่อผู้อื่น เสนอความต้องการของมนุษย์(ไม่จำกัดศาสนา)แด่พระเป็นเจ้าผู้ทรงมีพระทัยกรุณา นับว่าเป็นการเปิดใจมองโลกจากใจกลางพิธีกรรม เพื่อยกจิตใจ(เลียนแบบดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเยซูเจ้า ผู้ทรงกรุณา)

[Man of Macedonia]

3.ภาคบูชาขอบพระคุณ(ภาคศีลศักดิ์สิทธิ์)
3.1เตรียมเครื่องบูชา=Praeparatio donorum (นั่ง)

P:ข้าแต่พระเจ้าแห่งสกลโลก ขอถวายพระพร พระองค์มีพระทัยเมตตา ประทานปังซึ่งข้าพเจ้าทั้งหลายกำลังถวายอยู่นี้อันเป็นผลมาจากแผ่นดินและน้ำพักน้ำแรงของมนุษย์ และจะเปลี่ยนเป็นอาหารบันดาลให้ข้าพเจ้าทั้งหลายมีชีวิต
S:ขอถวายพระพรแด่พระเจ้าตลอดนิรันดร
P:ดั่งน้ำและเหล้าองุ่นที่ผสมเข้าด้วยกัน อันเป็นเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์นี้  ขอพระองค์โปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย
ได้ร่วมในพระเทวภาพของพระคริสตเจ้าผู้ทรงถ่อมองค์มารับสภาพมนุษย์ข้าแต่พระเจ้าแห่งสกลโลก
ขอถวายพระพร พระองค์มีพระทัยเมตตา ประทานเหล้าองุ่น  ซึ่งข้าพเจ้าทั้งหลายกำลังถวายอยู่นี้ 
อันเป็นผลมาจากต้นองุ่นและน้ำพักน้ำแรงของมนุษย์ และจะเปลี่ยนเป็นเครื่องดื่ม ชุบเลี้ยงจิตใจข้าพเจ้าทั้งหลาย
S:ขอถวายพระพรแด่พระเจ้าตลอดนิรันดร
P:ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณายอมรับข้าพเจ้าทั้งหลาย    ผู้ตรมตรอมถ่อมตน และโปรดให้การถวายบูชาของข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้ เป็นที่พอพระทัยเทอญ โปรดชำระล้างความผิด  และบาปของข้าพเจ้าให้หมดสิ้นไปเถิด (ยืน)

P:พี่น้อง  จงภาวนาขอให้พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพทรงรับ  การถวายบูชาของข้าพเจ้าและของท่านทั้งหลายเถิด
S:ขอพระเจ้า ทรงรับการถวายบูชานี้    เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ ทั้งเพื่อประโยชน์ของชาวเรา และพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ด้วยเทอญ อาแมน

*เราสามารถอ้างอิงสังคายนาวาติกันที่2 สมณกฤษฎีกาว่าด้วยการปฏิบัติงานและชีวิตของพระสงฆ์ ข้อ 2 ที่ว่า "ประชากรถวายบูชาโดยอาศัยมือของพระสงฆ์" คำตอบรับวรรคอื่นๆ นั้น บ่งถึงความมุ่งหมาย 2 ประการ ของมหาบูชามิสซา คือ เพื่อเทิดพระเกียรติพระผู้เป็นเจ้า และเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักร (เพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ทั้งเพื่อประโยชน์ของชาวเรา และพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์ด้วยเทอญ)

3.2 บทภาวนาเตรียมเครื่องบูชา=Super oblata (ยืน)

P:ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ ขอทรงพระกรุณาทอดพระเนตรเครื่องบูชาที่นำมาทูลถวาย .........
ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระเยซูคริสตเจ้า ผู้ทรงจำเริญและครองราชย์ตลอดนิรันดร 
S:อาแมน

3.3 บทนำขอบพระคุณ

P:พระเจ้าสถิตกับท่าน(Dominus vobiscum)
S:และสถิตกับท่านด้วย(Et cum spiritu tuo)
P:จงสำรวมใจระลึกถึงพระเจ้า(Sursum corda)
S:เรากำลังระลึกถึงพระองค์(Habemus ad Dominum)
P:ให้เราขอบพระคุณพระเจ้าพร้อมกันเถิด(Gratias agamus Domino Deo nostro)
S:เหมาะสมและชอบยิ่งนัก(Dignum et justum est)

P:(ตัวอย่าง)ข้าแต่พระบิดาเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ สถิตนิรันดร พระเจ้าผู้ทรงสรรพา         นุภาพ เป็นการเหมาะสมถูกต้องแท้จริง และเป็นมิ่งมงคลที่จะขอบพระคุณพระองค์ตลอดกาลทุกสถานแห่งหน เพราะพระองค์ทรงบันดาลให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้รอดพ้น เดชะพระบารมี พระคริสตเจ้า ..................ดังนั้น ข้าพเจ้าทั้งหลายร่วมกันถวายพระเกียรติสดุดี พร้อมกับเทพนิกร และบรรดานักบุญเป็นนิจกาล ว่าดังนี้

3.4บทศักดิ์สิทธิ์(Sanctus)
S:ศักดิ์สิทธิ์  ศักดิ์สิทธิ์  ศักดิ์สิทธิ์ พระเจ้าจอมจักรวาล พระสิริรุ่งโรจน์แผ่ไปทั่วฟ้าดิน  สาธุการพระเจ้าสูงสุด ขอถวายพระพรแด่ผู้เสด็จมาในพระนามพระเจ้า สาธุการพระเจ้าสูงสุด

*เพลงศักดิ์สิทธิ์ นั้นเปรียบเหมือนเพลงสวรรค์ ด้วยเหตุว่า ทั้งสวรรค์และแดนแผ่นดินต่างร่วมแซ่ซ้องสาธุการพระเป็นเจ้า ประกาศความยิ่งใหญ่ของพระผู้เป็นเจ้าสูงสุด เนื้อร้องมักมีธรรมล้ำลึกทั้งในพระธรรมเดิมและพระธรรมใหม่ เช่น ในอิสยาห์ 6:3 ผู้ได้ยินเสียงเหล่าเซราฟิมทรงเสียงว่า "Sanctus Sanctus Sanctus"
*เราถือบทเพลงที่ประชาสัตบุรุษถวายสรรเสริญสดุดีพระผู้เป็นเจ้าบทนี้เป็นเพลงสรรเสริญก็ว่าได้ Lucien Deiss นักแต่งเพลงสวดที่ลือชื่อคนหนึ่งของโลกคาทอลิกปัจจุบันกล่าวว่า "ไม่มีเนื้อเพลงใดที่ดีกว่า เหมาะกว่าบทนี้แล้ว"(จากmariarosa)

จากนั้น คุกเข่า

[Man of Macedonia]

3.5 บทวอนขอพระจิต Epiclesis
P:ข้าแต่พระบิดาเจ้า พระองค์ทรงเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง และทรงเป็นบ่อเกิดอันประเสริฐแห่งความศักดิ์สิทธิ์ทุกประการ โปรดทรงพระกรุณาส่งพระจิตเจ้า มาบันดาลให้ปังและเหล้าองุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์ เปลี่ยนเป็นพระกาย (พระสงฆ์ทำมหากางเขนใหญ่)และพระโลหิตของพระเยซูคริสตเจ้า สำหรับข้าพเจ้าทั้งหลาย
(หยุดพักหนึ่ง)
P:ก่อนที่พระคริสตเจ้า จะทรงมอบพระองค์เพื่อรับทรมานโดยสมัครพระทัย พระองค์ท่านทรงหยิบปัง ขอบพระคุณ บิออก ประทานแก่บรรดาศิษย์ (ถ้ามีพระสงฆ์มากกว่าหนึ่งอีกท่าน จะทำท่าขอปังที่พระแท่นข้างๆประธาน)
ตรัสว่า   

รับ  ปัง  นี้  ไป  กิน  ให้  ทั่ว  กัน
นี่  เป็น  กาย  ของ  เรา  ที่  จะ  มอบ เพื่อ  ท่าน

ในทำนองเดียวกัน  เมื่อการเลี้ยงอาหารค่ำเสร็จแล้วพระองค์ท่านทรงหยิบถ้วยเหล้าองุ่น ขอบพระคุณอีกครั้งหนึ่ง  ประทานแก่บรรดาศิษย์ ตรัสว่า

รับ  ถ้วย  นี้  ไป  ดื่ม  ให้  ทั่ว  กัน
นี่  เป็น  ถ้วย  โลหิต  ของ  เรา
โลหิต  แห่ง พันธสัญญาใหม่  อัน  ยืน  ยง
โลหิต  ซึ่ง  จะ  หลั่ง  ออก  เพื่อ  อภัย  บาป
สำหรับ  ท่าน  และ  มนุษย์  ทั้งหลาย
จง  ทำ  การ นี้  เพื่อ  ระลึก  ถึง  เรา เถิด

P:ให้เราประกาศพระธรรมล้ำลึกแห่งความเชื่อ(พระสงฆ์อาจขับเป็นเพลง)
S:ตอบแบบธรรมดา พระคริสตเจ้าได้สิ้นพระชนม์  พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ
พระคริสตเจ้าจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
S:ตอบแบบเป็นเพลง พระคริสตเจ้าได้สิ้นพระชนม์ พระคริสตเจ้าได้ ทรง กลับ คืน ชีพ พระคริสตเจ้าจะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อยืนยันถึงเกียรติมงคลและอานุภาพ

*ตอนนี้เป็นตอนที่สัตบุรุษมีส่วนในการประกาศโดยตรง สัตบุรุษร้องยืนยันสิ่งที่พระสงฆ์พูดและกระทำในนามของพวกเขา "พระคริสตเจ้าได้สิ้นพระชนม์ พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนชีพ พระคริสตเจ้าจะเสด็จกลับมาอีกครั้งหนึ่ง หรือถ้อยคำอื่นๆ นั้นไม่เพียงแต่เป็นวลีแห่งความเชื่อต่อการประทับของพระคริสตเจ้า ณ ที่นั้นเท่านั้น แต่ยังเป็นการประกาศยืนยันศรัทธาและความหวังใน "ธรรมล้ำลึกแห่งความเชื่อ" ทั้งหมดด้วย กล่าวคือ แผนการกอบกู้โลกทั้งมวลของพระเป็นเจ้า ซึ่งสำเร็จลงในขั้นสุดยอดแห่งพระมหาทรมาน และการกลับคืนพระชนม์ชีพ การเสด็จสู่สวรรค์และการจะเสด็จกลับมาครั้งสุดท้ายของพระคริสตเจ้าอย่างรุ่งโรจน์(จาก Mariarosa)

3.6 Oblatio
P:ข้าแต่พระบิดาเจ้า ข้าพเจ้าทั้งหลายกำลังระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ และการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า ขอน้อมถวายปังอันบันดาลชีวิต กับถ้วยโลหิตอันบันดาลความรอดนี้แด่พระองค์
ขอขอบพระคุณที่ทรงเลือกสรรข้าพเจ้าทั้งหลาย ให้มารับใช้เฉพาะพระพักตร์พระองค์
ข้าพเจ้าทั้งหลายกราบวอนขอ โปรดให้พระจิตเจ้าทรงรวบรวมทุกคน ที่รับพระกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้าแล้วให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
(หยุดนิดหนึ่ง กล่าวว่า)
โปรดทรงระลึกถึงพระศาสนจักรที่แผ่ขยายไปทั่วโลก ให้มีความรักสมบูรณ์ เป็นหนึ่งเดียวกับสมเด็จพระสันตะปาปา

[Man of Macedonia]

3.8 บทมอบสันติสุข(Ritus pacis)
P:ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า พระองค์ตรัสกับอัครสาวกว่า         

[Man of Macedonia]

3.9 ขั้นตอนการรับศีลP:นี่คือลูกแกะพระเจ้านี่คือผู้ทรงลบล้างบาปของโลกผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกมาร่วมงานเลี้ยงของพระองค์  ย่อมเป็นสุข
S:พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่สมควรจะรับเสด็จมาประทับอยู่กับข้าพเจ้าโปรดตรัสเพียงพระวาจาเดียว แล้วจิตใจข้าพเจ้าก็จะบริสุทธิ์
(พระสงฆ์รับศีล)
P:ขอพระกายพระคริสตเจ้า คุ้มครองและนำข้าพเจ้า ไปสู่ชีวิตนิรันดร
  ขอพระโลหิตพระคริสตเจ้า คุ้มครองและนำข้าพเจ้า ไปสู่ชีวิตนิรันดร

>>
*เป็นเพลงที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในบูชามิสซา
"การมาร่วมมิสซาถ้าไม่รับศีลมหาสนิท ก็เปรียบเสมือนผู้มางานเลี้ยงแต่ไม่รับประทานอาหารนั่นเอง "
(ทั้งนี้ เราต้องตระหนักในบาปของเราด้วย พิจารณาทางมโนธรรม เช่น ถ้ามีบาปหนักต้องรับศีลอภัยบาปก่อน)
การรับศีลมหาสนิทให้ความหมายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
- เป็นการร่วมสนิทเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระคริสตเจ้า
- เป็นการมีส่วนร่วมในการกอบกู้ของพระคริสตเจ้า
- เป็นการร่วมสนิทสัมพันธ์กับพี่น้องคริสตศาสนิกชนด้วยกัน
(พระสงฆ์ส่งศีลให้สัตบุรุษ)
P:พระกายพระคริสตเจ้า
S:อาแมน
(ภาวนาขณะล้างถ้ายกาลิกส์)

P:ข้าแต่พระเจ้า  ขอให้ข้าพเจ้าทั้งหลายรับของประทานนี้ไว้ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์  ให้เป็นการคุ้มครองบำบัดรักษาทั้งกายและใจ บัดนี้และตลอดไปด้วยเถิด
P:ให้เราภาวนา
P:(ตัวอย่าง)ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงพระกรุณาโปรดให้พระอานุภาพแห่งศีลศักดิ์สิทธิ์นี้ บันดาลให้ผู้รับใช้ของพระองค์ตั้งมั่นอยู่ในความเชื่อแท้จริง และทรงโปรดให้แสดงความเชื่อนี้ด้วยวาจาและกิจการ .................
ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้า  พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย อาแมน
S:อาแมน

3.10 การรับพร(การก้มศรีษะรับพร) ในกรณีมีการอวยพร
P:(มีหลายยทผมชอบบทนี้)ขอพระคริสตเจ้าสถิตกับท่านเพื่อป้องกัน อยู่ในตัวท่านเพื่อคุ้มครอง อยู่ข้างหน้าท่านเพื่อนำทาง อยู่ข้างหลังเพื่อเฝ้าพิทักษ์ อยู่เหนือท่านเพื่อประทานพระพร (พระสงฆ์ทำมหากางเขนใหญ่)เดชะพระนามพระบิดา พระบุตร และพระจิต
S:อาแมน

*การก้มศรีษะรับพร และ พระสงฆ์ปกมือเหนือที่ชุมนุม ในวันพิเศษที่มีการอวยพรอย่างสง่า เป็นเครื่องหมายของการน้อมรับพระพรของพระเจ้า ซึ่งใช้แทนการคุกเข่า และการอวยพรด้วยเครื่องหมายมหากางเขน เป็นการแสดงถึงความต่อเนื่องไปในชีวิตพิธีกรรม ซึ่งผู้เข้าร่วมพิธีกลับออกจากวัดไปพร้อมกับพระพรของความรอด

3.11 ประกาศปิดพิธี
P:พิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณจบแล้ว จงไปปฏิบัติตามพระวาจา ของพระเจ้าเถิด
S:ขอขอบพระคุณพระเจ้า(Deo gratias)

[Man of Macedonia]

อ้างอิง การศึกษาทางเทววิทยา คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพิธีกรรม

เครื่องหมายของศีลศักดิ์สิทธิ์ในพิธีขอบพระคุณ:ปังและเหล้าองุ่น

................คำว่า"ศีลศักดิ์สิทธิ์" หมายถึง เครื่องหมายซึ่งทำให้ธรรมล้ำลึกของพระคริสตเจ้ากลับเป็นปัจจุบันและทำให้ผู้ร่วมได้เข้าร่วมดำรงอยู่ในพระธรรมล้ำลึก(ยืนยันความจริง ผ่านการประกาศ) เพื่อความกระชับเราจะกล่าวว่า ศีลศักดิ์สิทธิ์ คือ เครื่องหมายที่มีประสิทธิภาพของธรรมล้ำลึกของความรอดที่พระคริสตเจ้าทรงทำให้สำเร็จ สำหรับศีลในพิธีบูชาขอบพระคุณ เครื่องหมายที่ใช้คือ ปังและเหง้าองุ่น

................มาบัดนี้ ในเทศกาลมหาพรตนี้เอง พระเป็นเจ้าได้ทรงพระกรุณาส่งพระบุตรมาช่วยมนุษยชาติให้คืนดีกับพระองค์ ให้เราได้รับแสงสว่างแห่งความเชื่อ(บังเกิดใหม่ผ่านศีลล้างบาป) ให้เราตระหนักถึงมรรคาศักดิ์สิทธิ์แห่งพระเยซูเจ้า และปลุกเสียงเรียกศักดิ์สิทธิ์ในใจเรา ให้ตื่นเฝ้าระวังระไวที่จะเดินเข้าสู่ ปัสกา อย่างมีความหมาย และเป็นผู้หมดจดจากมลทินความบาป ผ่านสนนวิงวอนของพระแม่มารีย์ผู้ประทานพระคุณการุณย์ ทูตสวรรค์ เทพนิกร นักบุญทั้งหลาย

................ขอให้พี่น้อง ได้อิ่มหนำในพิธีบูชาขอบพระคุณ ขอเชิญชวนให้พี่น้องทุกคน ทั้งที่ อยู่ในร่มความรอดแห่งพระคริสตเยซู ไม่ว่าจะผ่านทางพระศาสนจักรคาทอลิก ออร์โทดอกซ์ หรือคริสตจักรอื่นใด และที่ไม่ได้อยู่ในพระศาสนจักร หากแต่ศาสนาอื่น เชิญชวนมาใช้โทษบาปเข้าเฝ้าพระบิดาเจ้า ณ สถานที่อันพระองค์จะทรงมาสถิตและจำเริญ(วัด) ผ่านปังอันบันดาลชีวิตและถ้วยโลหิตอันบันดาลความรอด จงมาเฝ้าชื่นชมยินดีเถิด และสนองพระกรุณาธิคุณตามความเชื่อและวัฒนธรรมของตน

พระเป็นเจ้าทรงอวยพร,

[Man of Macedonia]

"พระองค์โปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายละเว้นสิ่งฟุ่มเฟือย เป็นการขอบพระคุณ เพื่อปราบความเห็นแก่ตัว รู้จักเจือจุนผู้ขัดสน บำเพ็ญตนมีเมตตากรุณาเยี่ยงพระองค์"

ธรรมล้ำลึกของเทศกาลมหาพรต:การเดินทางสู่ปัสกา
(สำหรับพระศาสนจักร)

- มหาพรตเป็นเวลาของการกลับใจ ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบฃีวิตกับพระคริสตเจ้า ผู้ทรงเป็นพระวาจาที่เผยแสดงตัวเราให้กับตนเอง เป็นพระวาจาที่เรียกร้องให้พิจารณาตัว(ดู หญิงชาวสะมาเรีย)และการกลับใจคือการปล่อยให้พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรมายังเราและช่วยให้เรารอด ในการดำเนินชีวิตเพื่อการกลับใจนี้ พระศาสนจักรผูกมัดตัวเองที่จะกระทำให้สิ่ง 3 สิ่งคือ

1.สร้างความสำนึกถึงความเชื่อมากขึ้น
...............แรงดลใจที่ได้มาจากมิติของศีลล้างบาปเตือนให้ทุกคนหันกลับมาดำเนินชีวิต อย่างเข้มข้นด้วยการฟังพระวาจาของพระเป็นเจ้า ขณะที่พระสงฆ์โปรยเถ้าในวันพุธรับเถ้า จะกล่าวคำพูดของพระเยซูเจ้าว่า "จงกลับใจ และเชื่อในพระวรสาร" การกลับใจ หมายถึง การพิสูจน์ตัวเองกับพระบุคคลและกับพระวาจาของพระเยซูเจ้านั่นเอง

2.ฟังพระวาจาของพระเจ้าอย่างไม่รู้เหนื่อย
...............นี่เป็นหนทางของก้าวหน้าในความเชื่อ เมื่อทรงอยู่ในทะเลทราย พระเยซูเจ้าทรงเอาชนะปีศาจด้วยพระวาจา และเมื่อพระองค์ทรงจำแลงพระกายต่อหน้าสาวกสามคนบนภูเขาทาบอร์ด พวกเขาได้ยินพระสุรเสียงของพระเจ้าตรัสบอกพวกเขาให้เชื่อฟังพระเยซู

3.สวดภาวนาอย่างร้อนรน
...............บทอ่านของสองอาทิตย์แรกกล่าวถึง พระเยซูเจ้าผู้ภาวนา ด้วยวิธีนี้พระศาสนจักร เตือนทุกคนให้ตระหนักถึงข้อเรียกร้องภายใน นั่นคือ การภาวนา การภาวนาเป็นการซึมซาบพระวาจาของพระเจ้าเข้าในตนเอง เพื่อพระวาจานั้นจะได้เป็นพระวาจาที่พระเจ้าตรัสกับแต่ละคนในปัจจุบัน เพื่อแต่ละคนจะได้สนองตามน้ำพระทัย

อ้างอิง คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพิธีกรรม ผลการศึกษาทางเทววิทยา

[:: ทั่ น เ บ เ น ดิ๊ ก โ ต ::]

วัดมหาไถ่มีจุ๊บๆกันด้วย แต่ถ้าแบบโต้งกับมิว คงจะฮือฮา ไม่น้อย***  555+


รักแห่งสยามยังมาได้อีกแนอะ 555+  โห ถ้าข้างๆเป็นมาเซอร์อะ!!!

[Man of Macedonia]

วัดมหาไถ่มีจุ๊บๆกันด้วย แต่ถ้าแบบโต้งกับมิว คงจะฮือฮา ไม่น้อย***   555+


รักแห่งสยามยังมาได้อีกแนอะ 555+  โห ถ้าข้างๆเป็นมาเซอร์อะ!!!

ก็.........

[อันตน]

วัดมหาไถ่มีจุ๊บๆกันด้วย แต่ถ้าแบบโต้งกับมิว คงจะฮือฮา ไม่น้อย***   555+


รักแห่งสยามยังมาได้อีกแนอะ 555+  โห ถ้าข้างๆเป็นมาเซอร์อะ!!!

ก็.........

ก็.... อย่าทะลึ่งไปจุ๊บแกสิ

[Man of Macedonia]

วัดมหาไถ่มีจุ๊บๆกันด้วย แต่ถ้าแบบโต้งกับมิว คงจะฮือฮา ไม่น้อย***   555+


รักแห่งสยามยังมาได้อีกแนอะ 555+  โห ถ้าข้างๆเป็นมาเซอร์อะ!!!

ก็.........

ก็.... อย่าทะลึ่งไปจุ๊บแกสิ

มิกล้า

[Mobster]

คิดถึงมิสซาคาทอลิกจัง สงสัยวันเสาร์เย็นต้องแวะไปซักวัดแล้ว

[King Zadin]

ละเอียด มากมาย

[:: ทั่ น เ บ เ น ดิ๊ ก โ ต ::]

สุดยอด