มีอะไรใน"สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์(Hebdomada Sancta)"

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 11:30 am

หมายเหตุ.กระทู้นี้จะใช้เค้าโครงบางอย่างคล้ายกับของคุณ Prod Pran เพื่อสะดวกต่อการอ่าน

ปฏิทินสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์และสมโภชปัสกา ปี 2008

16 มีนาคม : อาทิตย์พระทรมานของพระคริสตเจ้า(Passion Sunday)
17 มีนาคม : วันจันทร์สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ (อสย 42:1-7,ยน 12:1-11)
18 มีนาคม : วันอังคารสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์(อสย 49:1-6,ยน 13:21-33,36-38)
19 มีนาคม : วันพุธสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ (อสย 50:4-9,มธ 26:14-25)

20 มีนาคม : วันพฤหัสฯสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์(Maundy Thursday) มิสซาเช้า:พิธีเสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์ ; มิสซาค่ำ:ระลึกถึงพระเยซูเจ้าตั้งศีลมหาสนิท
ตรีวารปัสกา( Paschal Triduum)
21 มีนาคม : วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์:ระลึกถึงพระมหาทรมานของพระคริสตเจ้า(Good Friday)
22 มีนาคม : วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์:พิธีตื่นเฝ้าปัสกา,เสกน้ำล้างบาป-เสกไฟ(Holy Saturday)
23 มีนาคม : สมโภชปัสกา พระเยซูเจ้าทรงกลับคืนพระชนมชีพ(Pascha)

กำหนดการของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพ
20 มีนาคม : 9.30 พิธีเสกน้ำมัน และรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งการเป็นพระสงฆ์ โดย พระคาร์ดินัล ไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู

รูปภาพ
แก้ไขล่าสุดโดย Man of Macedonia เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 4:41 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 12:19 pm

อาทิตย์พระทรมานของพระคริสตเจ้า(Passion Sunday)
.............................หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ "วันแห่ใบลาน" วันนี้มีการแห่เนื่องจากเป็นวันรำลึกถึงการที่"พระเยซูคริสตเจ้าได้เสด็จเข้านครศักดิ์สิทธิ์เยรูซาแลม อย่างผู้พิชิต"ทั้งๆที่เราทราบดีกว่าการเสด็จมาถึงกรุงเยรูซาแลมของพระองค์จะนำไปสู่"การรับทรมานแสนสาหัส และการสิ้นพระชนมชีพบนไม้กางเขน"แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญนั่นคือ การกลับคืนพระชนมชีพ การแห่ในวันอาทิตย์ใบลานจึงเป็นการแสดงถึง"การสิ้นพระชนม์แห่งชัยชนะ"ไม่ใช่ความพ่ายแพ้แต่ประการใด
*วันนี้สีของอาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์เป็นสีแดง
*ใบลาน หรือ ใบปาล์ม ถูกนำมาระลึกเนื่องจากเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะของผู้ที่ทนทุกข์ทรมานเพราะความชอบธรรม และพบในยอห์น 12:13"จึงถือใบปาล์ม ออกไปรับเสด็จ พลางร้องว่า โฮซันนา ขอถวายพระพรแด่พระองค์ผู้เสด็จมาในนามของพระเจ้า ขอถวายพระพรแด่กษัตริย์ของชาวอิสราเอล"

ขั้นตอนพิธีคร่าวๆ(สำหรับพี่น้องคริสตชนมือใหม่จะได้ร่วมพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์นี้อย่างสมควร)
1.เพลงลำนำ
2.พี่น้องมาชุมนุมกันที่ลานข้างหน้าโบสถ์หรือที่เหมาะสม
3.เสกใบลานและใช้น้ำเสกพรมใบลาน
4.บทอ่านจากพระวรสารใช้ บทอ่านพระวรสารนักบุญมัทธิว 21:1-11:ขอให้ผู้เสด็จมาในนามของพระเจ้าจงทรงพระเจริญ(ปีA)
5."พี่น้องทั้งหลาย ให้เราทำตามอย่างประชาชนที่โห่ร้องรับเสด็จพระองค์ ให้เราเดินทางไปในวิถีแห่งสันติสุข"
6.แห่เข้าโบสถ์อย่างสง่า

ตัวอย่างเพลง
เพลงสรรเสริญพระคริสตกษัตริย์
(ก่อ)
1.พระคือขัตติยาอิสราแอล  ดาวิดวงศ์เด่าจรัสศรี
เสด็จมาในนามจอมโลกีย์    เป็นกษัตริย์ปฐพีครองวิญญาณ์
2.เทวัญทุกชั้นสรวงสวรรค์  มนุษย์สัตว์สารพันทุกราศี
พร้อมกันสรรเสริญพระภูมี  สุขเกษมเปรมปรีดิ์น้อมวันทา
3.ชาวชนฮีบรู รู้กันวิ่ง        ชูกิ่งปาล์มชัยในรัศมี
ฝ่ายเราเข้าเฝ้า ณ บัดนี้      จงรักภักดีภาวนา
4.พวกเขาเหล่านั้นร้องสรรเสริญ  พระใกล้เผชิญมรณ์วิถี
ฝ่ายเราถวายสดุดี              เฉลิมราชย์สุธีพระราชา
5.พวกเราเป็นที่สบพระทัย    ศรัทธาข้าไซร้สมศักดิ์ศรี
วอนจอมราชัยได้ปราณี        ประทานสิ่งดีทรงเมตตา
(รับ)
ข้าแต่พระคริสตราชา...ผู้ไถ่โลกานำวิถี
โปรดสดับรับคำสดุดี....เฉลิมพระเกียรติรุจีกษัตรา
เยาวชนฮีบรูผู้มีบุญ.....ห้อมล้อมเจ้าพระคุณด้วยหรรษา
แห่แหนโห่ร้องซ้องศรัทธา...ชื่นชมทั่วหน้าสู่ธานี

สามบทอ่าน
(1) ข้าพเจ้าไม่ได้ปิดหน้าเพื่อหนีการสบประมาท เพราะข้าพเจ้าจะไม่ได้รับความอับอาย(อสย 50:4-7)
(2) พระองค์ทรงถ่อมพระวรกายรับสภาพมนุษย์ พระบิดาเจ้าจึงยกพระขึ้นสูงเด่น(ฟป 2:6-11)
(3) พระวรสารนักบุญมัทธิว 26:14-27:66

หมายเหตุ.เนื่องจากเป็นเทศกาลสำคัญวันนี้จะมีการปกมืออวยพร(เราต้องก้มศีรษะรับพรด้วย ตามธรรมเนียม)
ดูกิจกรรมของปีที่แล้ว
http://www.catholic.or.th/events/news/n ... ws078.html
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 12:42 pm

20 มีนาคม : วันพฤหัสฯสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์(Maundy Thursday)
มิสซาเช้า:พิธีเสกน้ำมันศักดิ์สิทธิ์
.............................เป็นพิธีที่พระสังฆราชของแต่ละสังฆมณฑลเท่านั้นเป็นผู้อภิเษกน้ำมัน เป็นวันที่พูดกันภาษาชาวบ้านว่า"คุณพ่อมารวมกันมากที่สุด"เพราะ คุณพ่อต้องรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งการเป็นพระสงฆ์ ต้องร่วมมิสซา รับศีลมหาสนิททั้งพระกายและพระโลหิตทั้งครบ อีกนัยหนึ่งเป็นการแสดงถึงเอกภาพแห่งสังฆมณฑลนั้น
รูปภาพ
สามบทอ่าน
บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์
พระจิตของพระเจ้าสถิตเหนือข้าพเจ้า เพราะพระองค์ได้ทรงเจิมข้าพเจ้าไว้
พระองค์ทรงใช้ข้าพเจ้าไปประกาศข่าวดีแก่คนอนาถา
ปลอบโยนคนที่ชอกช้ำ ระกำใจ และป่าวประกาศอิสรภาพแก่เชลย
เป็นการปลดปล่อยแก่ผู้ถูกคุมขัง ประกาศปีแห่งความโปรดปรานจากพระเจ้า
ประกาศวันที่พระเจ้าของเราจะทรงแก้แค้น เพื่อบรรเทาใจทุกคนที่ร่ำไห้
ให้ผู้ถูกคร่ำครวญอยู่บนเขาศิโยน สวมมงกุฎแทนโรยเถ้าบนศีรษะ
ชโลมน้ำมันหอมแสดงความยินดีแทนการไว้ทุกข์
ถวายพระพรแทนที่จะสิ้นหวัง
ส่วนพวกท่าน เขาจะเรียกท่านว่า
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 1:36 pm

20 มีนาคม : วันพฤหัสฯสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์(Maundy Thursday)
มิสซาเย็น:ระลึกถึงการเลี้ยงพระกระยาหารค้ำมื้อสุดท้ายของพระคริสตเจ้า
.............................พิธีในช่วงเย็นนี่แหละ,ที่เรียกได้ เราก้าวสู่ตรีวารปัสกาอย่างแท้จริง หลังจากช่วงเช้า พระสงฆ์ศาสนบริกรของพระองค์ได้รื้อฟื้นคำสัญญาและบทอ่านได้แจ้งให้เราทราบอีกครั้งว่า"ท่านเหล่านี้เป็นสงฆ์ของพระเจ้า"และ"พระจิตแห่งพระเจ้าสถิตเหนือท่านเหล่านั้น" ดังนั้น เราจึงสามารถประกอบพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ในช่วงเย็นนี่ได้อย่างเข้าถึงในธรรมล้ำลึกและสุภาพสมควรเพื่อระลึกถึงก้าวที่นำไปสู่พระมหาทรมานอันรุ่งโรจน์ของพระองค์

โครงสร้างพิธีในวันนี้
(1)พิธีมิสซาตั้งศีลมหาสนิท
(2)พิธีล้างเท้า
(3)พิธีแห่ศีลมหาสนิท

(1)พิธีตั้งศีลมหาสนิท
สามบทอ่าน
บทอ่านที่ 1:อพยพ 12:1-4 บทบัญญัติเกี่ยวกับการเลี้ยงปัสกา
.............................ลูกแกะที่ชาวฮีบรูเลี้ยง ถวาย และกิน เป็นการระลึกถึงการที่พระยาห์เวห์ได้ช่วยให้เขารอดพ้นจากภัยพิบัติประการที่ 10 (เลือดลูกแกะที่เอาไปทาที่กรอบประตู) ซึ่งนำไปสู่การหลุดพ้นจากความเป็นทางของฟาโรห์ในทวีปอียิปต์ พระศาสนจักรเล็งเห็นความสำคัญตรงจุดนี้ จึงได้ทำให้พิธีระลึกการตั้งศีลเป็นจารีตที่ต้องปฏิบัติ เพื่อสัญลักษณ์แห่งอำนาจความรอดจะได้คงอยู่กับคริสตชนทุกสมัย และเราได้ทราบดีว่า ลูกแกะยังหมายถึงพระเยซูเจ้า(Agnus Dei)ผู้ทรงถวายองค์ทั้งครบแด่พระบิดาเจ้า มอบพระกายและพระโลหิตเพื่อไถ่เรา เป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาซึ่งทำให้เราได้รับอิสรภาพแท้จริง และป้องกันชีวิตเราให้พ้นจากบาปความตาย
บทอ่านที่ 2:1โครินทร์ 11:23-26 การกินและดื่มนี้เป็นการประกาศถึงการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้า
.............................ในพระศาสนจักรได้ใช้จดหมายนักบุญเปาโลนี้ เป็นหลักฐานเรื่องการเลี้ยงอาหารค่ำครั้งสุดท้าย นั่นคือ"พระองค์บันดาลให้ปังและเหล้าองุ่นนี้ศักดิ์สิทธิ์ เปลี่ยนเป็นพระกายและพระโลหิตของพระองค์เอง"ซึ่งเราจะพบช่วงนี้ในบทมิสซาขอบพระคุณ เน้นอีกครั้งคือ
P:ก่อนที่พระคริสตเจ้า จะทรงมอบพระองค์เพื่อรับทรมานโดยสมัครพระทัย พระองค์ท่านทรงหยิบปัง ขอบพระคุณ บิออก ประทานแก่บรรดาศิษย์ ตรัสว่า 

รับ  ปัง  นี้  ไป  กิน  ให้  ทั่ว  กัน
นี่  เป็น  กาย  ของ  เรา  ที่  จะ  มอบ เพื่อ  ท่าน

ในทำนองเดียวกัน  เมื่อการเลี้ยงอาหารค่ำเสร็จแล้วพระองค์ท่านทรงหยิบถ้วยเหล้าองุ่น    ขอบพระคุณอีกครั้งหนึ่ง  ประทานแก่บรรดาศิษย์ ตรัสว่า

รับ  ถ้วย  นี้  ไป  ดื่ม  ให้  ทั่ว  กัน
นี่  เป็น  ถ้วย  โลหิต  ของ  เรา
โลหิต  แห่ง พันธสัญญาใหม่  อัน  ยืน  ยง
โลหิต  ซึ่ง  จะ  หลั่ง  ออก  เพื่อ  อภัย  บาป
สำหรับ  ท่าน  และ  มนุษย์  ทั้งหลาย
จง  ทำ  การ นี้  เพื่อ  ระลึก  ถึง  เรา เถิด

บทอ่านที่ 3:ยอห์น 13:1-15 การล้างเท้า
.............................ถ้าเราสังเกตให้ดี ในพระวรสารยอห์นจะไม่ได้เน้นเรื่อง"ปังและเหล้าองุ่น"แต่จะเน้นถึง"การล้างเท้า"ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความเป็นผู้รับใช้ของพระเยซูเจ้า และพระองค์สอนเราว่า"ท่านเข้าใจไหมว่าเราทำอะไรให้ท่าน ท่านทั้งหลายเรียกเราว่าอาจารย์และองค์พระผู้เป็นเจ้าก็ถูกแล้ว เพราะเราเป็นอย่างนั้นจริงๆ ในเมื่อเราซึ่งเป็นทั้งองค์พระผู้เป็นเจ้าและอาจารย์ยังล้างเท้าให้ท่าน ท่านก็ต้องล้างเท้าให้กันและกันด้วย เราวางแบบอย่างนี้ไว้ให้แล้ว ท่านจะได้ทำเหมือนกับที่เราทำกับท่าน"(ยอห์น 13:12-14)
.............................มองให้ลึกลงไปท่านจะเห็น ความสุภาพถ่อมตนและการรับใช้ ในอีกแง่หนึ่งพระองค์ถ่อมตนมารับใช้เราคนบาป พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์ด้วยเพราะคนบาป ทรงเป็นผู้รับใช้อย่างแท้จริง ดังนั้นเราจะได้ยินคำกล่าวในยุคหนึ่งว่า"พระศาสนจักรคือผู้รับใช้โลก และพระสงฆ์คือศาสนบริกรของโลก"ที่เน้นดังนี้เพราะไม่ใช่ว่าสงฆ์คือศาสนบริกรของคริสตศาสนาไม่ใช่ แต่เป็นศาสนบริกรของโลก ไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา นิสัย ด้วยเพราะเราต้องเลียนแบบพระหฤทัยอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งของพระองค์ที่พลีพระองค์เพื่อคนบาปไม่ได้พลีให้คนชอบธรรม ดังในบทอ่านอาทิตย์มหาพรตเตรียมทางให้เราทราบแล้ว

(2)พิธีล้างเท้าเริ่มหลังบทเทศน์
หมายเหตุ,ในสมัยนั้น ทาสจะมีหน้าที่ล้างเท้าให้แขก การกระทำนี้จึงเน้นย้ำเรื่อง"ความรักอันไม่มีขอบเขตของพระเยซูเจ้า"เดิมที่ต้องล้างเท้า 12 คนเพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนอัครสาวกทั้ง 12
รูปภาพ

(3)พิธีแห่ศีลมหาสนิท
.............................เป็นสิ่งที่พระศาสนจักรเรียกว่าการนมัสการอย่างสง่า เป็นการนมัสการการประอยู่ของพระองค์ โดยพระสงฆ์ใส่กำยานในเต้าคุกเข่าถวายกำยาน รับผ้าคลุมบ่า(เป็นสัญลักษณ์การนมัสการสง่านัยหนึ่ง) หยิบผอบศีลเอาชายผ้าคลุมบ่าทั้งสองคลุมไว้ เพลงที่ใช้ในช่วงนี้มี Pange Lingua กับ Tantun Ergo(ซึ่งคงรู้จักกันเป็นอย่างดี?)
รูปภาพ

ขอขอบคุณภาพปีที่แล้วเช่นเคย
http://www.catholic.or.th/events/news/n ... thu07.html
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 6:09 pm

Chrism Mass at the Vatican - Holy Thursday
http://www.youtube.com/watch?v=7DaAKZor ... re=related
Pange Langua Tantum Ergo
http://www.laus.or.kr/Music/gregorianus ... Domine.mp3
ระหว่างรอ
แก้ไขล่าสุดโดย Man of Macedonia เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 6:11 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Lord Kan Warrock
โพสต์: 31
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 10, 2008 6:12 pm
ที่อยู่: 48/89

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 7:31 pm

ประเทศไทยก็จัดใช่มั้ยครับ
:: ทั่ น เ บ เ น ดิ๊ ก โ ต ::
โพสต์: 574
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 02, 2007 12:52 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 7:42 pm

สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ หรอครับ อืม....
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 7:43 pm

21 มีนาคม : วันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์:ระลึกถึงพระมหาทรมานของพระคริสตเจ้า(Good Friday)
*วันนี้ ตามประเพณีดั้งเดิม จะไม่มีการประกอบพิธีที่เกี่ยวกับศีลศักดิ์สิทธิ์ใดๆเลย หมายเหตุ.วันนี้จะมีการเดินรูป 14 ภาคครั้งสุดท้าย
วันนี้ถือเป็นวันแรกของตรีวารปัสกา จะไม่มีพิธีมิสซา(ในส่วนการขอบพระคุณ)แต่จะมีจารีตเฉพาะ แบ่งเป็น 3 ภาค
(1)ภาควจนพิธีกรรม=การประกาศพระมหาทรมานอย่างสง่าผ่านบทอ่านและการวิงวอนขอผ่านบทภาวนาเพื่อมวลชนโดยอาศัยรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
(2)ภาคเคารพกางเขน=การแสดงความเคารพทั้งครบ(กาย วาจา ใจ)แด่พระมหาทรมาน
(3)ภาครับศีลมหาสนิท=เป็นการแสดงถึงความ"สนิทแนบชิด"ในพระมหาทรมานของพระองค์

วันนี้ธรรมล้ำลึกเน้นพิเศษเรื่อง"กางเขน"บรรยากาศของพิธีจะเข้มขลังในรูปแบบความสงบเงียบและสำรวม ก่อนจะเคารพกางเขนจะมีการเดินมรคาศักดิ์สิทธิ์(เดินรูป 14 ภาคครั้งสุดท้าย)เพื่อให้เราซึมซับในธรรมล้ำลึกมากขึ้น"เหตุด้วยพระองค์ได้ทรงไถ่โลก ด้วยกางเขนศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์"

วันนี้
อาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์จะเป็นสีแดง เป็นเครื่องหมายของ พระโลหิตที่หลั่งลงมาจากกางเขน
พระแท่นจะว่างเปล่า ไม่มีกางเขน ไม่มีเทียน ไม่มีผ้าปูพระแท่น
ความเงียบเป็นการเริ่มพิธี ทั้งหมดคุกเข่าภาวนา รำพึงถึงพระมหาทรมานของพระเยซูคริสตเจ้า
การแสดงอิริยาบทหมอบกราบ,คุกเข่า ของพระสงฆ์ เป็นเครื่องหมายของ ความต้อยต่ำของมนุษย์เรา และความเป็นทุกข์เสียใจของพระศาสนจักร

.............................วันนี้ ไม่มีพิธีบูชาขอบพระคุณ เพราะพระศาสนจักรเน้นถึงความสัมพันธ์ที่เชื่อมต่อกันระหว่างวันพฤหัสฯกับศุกร์ กล่าวคือวันพฤหัสฯเป็นการเตรียมทางให้วันศุกร์ โดยที่วันศุกร์นี่เองเป็น"ภาคบูชาปัสกา"และฉลองพระมหาทรมาน การรับศีลที่เราได้เสกมิสซาของวันพฤหัสฯเป็นเครื่องหมายแสดงว่าเรานั่นมีส่วนร่วมอยู่ในพระคริสตองค์ และได้ถวายตนเองเป็นบูชาไปพร้อมกับพระองค์ด้วย  พิธีกรรมวันศุกร์ เป็นการแสดงคุณธรรม"เชื่อฟัง"และ"ไว้ใจ"ว่า พระเยซูได้ชนะบาปและความตายในการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ นี้คือความหมายของการเคารพกางเขน อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความเสียสละ การให้อภัย ความรัก และการคืนดีกัน

สามบทอ่าน
(1)บทอ่านจากหนังสือประกาศกอิสยาห์(อสย 52:13-52,12) ท่านคือผู้รับใช้ของพระเจ้า ท่านถูกแทงเพราะบาปของเรา
.............................สาเหตุที่ยกบทอ่านนี้มาเพราะ นี้คือเครื่องหมายของการพยากรณ์ ประกาศกอิสยาห์ชี้ให้เราเห็น ความสุภาพตรอมตรมถ่อมตนที่สุดที่คนใช้ของพระยาห์เวห์ทรงยอมรับ
เพราะเหตุว่า รอยแผลของท่านจะทำให้เราหายเป็นปรกติ การที่ผู้รับใช้พระเจ้าทนทุกข์ทรมานจะทำให้เราเห็นแผนการณ์อันน่าพิศวง(อันมนุษย์ไม่เคยได้ยิน และ ได้คิด)ที่พระเจ้าทรงมีต่อมนุษย์ ในคำบรรยายของประกาศกอิสยาห์จะทำให้เราเห็นชัดเจนถึงความเป็น"พระเยซูเจ้า" เราเห็นได้จาก"ถูกโบยตีให้ได้รับความอัปยศ ท่านถูกแทงเพราะบาปของเรา ถูกขยี้เพราะความผิดของเรา โทษที่ช่วยให้เราได้รับสันติสุขนั้นแหละตกอยู่กับท่าน"

เพลงสดุดี(ยกมาหนึ่งตอน)
*ความทุกข์นั้นบั่นทอนชีพอ่อนล้า.........กระดูกข้ากร่อนลึกแทบสึกสลาย
พวกศัตรูเย้ยข้าให้น่าอาย..................เพื่อนบ้านหมายหมิ่นนักผอกพักตรา
*คนรู้จักเห็นข้ามาตามทาง................รีบถอยห่างหลบลี้รีบหนีหน้า
เหมือนตายจากเช่นธุลีเศษชีวา.............เขาลืมข้าสิ้นสูญอาดูรครัน  (เชิญรับ)      
*แต่กระนั้นข้าก็ยังไว้ใจ...................พระองค์ไซร้เป็นพระเจ้าของเราแน่
โปรดช่วยข้าพ้นศัตรูผู้รังแก...............ทางดูแลข้าไว้ไม่เว้นวาย     (เชิญรับ)

(2)บทอ่านจากจดหมายถึงชาวฮีบรู(ฮบ 4:14-16;5:7-9) พระองค์เปี่ยมด้วยคุณธรรม"เชื่อฟัง" ทรงเป็นท่อธารแห่งความรอดสำหรับผู้ที่เชื่อฟัง
.............................บทนี้เป็นการยกย่องพระเยซูเจ้าในฐานะเป็นศาสนบริกรพระสงฆ์และเป็นผู้ทูลถวายชีวิตเป็นพลีบูชาแด่พระเจ้า ซึ่งเป็นต้นเหตุของความรอดสำหรับทุกคนที่นบนอบในพระองค์ เราจะได้ว่าในบทอ่านนี้มีการเรียนรู้ที่สอนใจเราเกิดขึ้น"ในฐานะที่พระองค์ทรงแบกรับเอาสภาพมนุษย์ พระองค์ประสบมหาทรมาน แต่ทรงเรียนรู้จากความทุกข์ทรมานนั้น ทรงเลือกจะซื่อสัตย์ต่อความรักของพระบิดา" การสิ้นพระชนม์ของพระองค์บนไม้กางเขนเป็นสัญลักษณ์แสดงความรักสูงสุด เป็นการมอบพระหรรษทานผ่านรอยแผลทางสีข้าง ดังที่เราเคยได้ยินว่า"ผู้ภักดีพระองค์จะไม่มีวันพินาศ"

(3)พระวรสารนักบุญยอห์น(ยน 18:1-19,42) ความสงบลึกในพระทรมาน
.............................เมื่อเทียบกับพระวรสารอื่น นักบุญยอหเน้นเรื่องสันติสุขในจิตวิญญาณของพระเยซูเจ้า ท่ามกลางความกลัว ความวุ่นวาย เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งพระหฤทัยที่จะทำภาระกิจนี้ให้ลุล่วงสำเร็จเพื่อความรอดของมนุษย์ทุกคน เป็นชัยชนะที่ตระหง่านอยู่ต่อหน้าบาปของโลก ซึ่งทำให้เราตระหนักชัดถึงความเป็น"พระมหาไถ่"แห่งมวลมนุษย์

(มีต่อ)
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 7:44 pm

Lord Kan Warrock เขียน: ประเทศไทยก็จัดใช่มั้ยครับ
จัดสิครับ
สำหรับพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก และสำหรับพี่น้องอีกนิกายเชิญที่นี่
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=397.0
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 8:02 pm

Man of Macedonia เขียน: Pange Langua Tantum Ergo
http://www.laus.or.kr/Music/gregorianus ... Domine.mp3
เคยแปลความหมายไว้ ดังนี้

__________________

Tantum ergo Sacramentum
ศีลแสนศักดิสิทธิ์ มหาสนิท
Veneremur cernui:
ขอ ก้มเกล้านมัสการ
Et antiquum documentum
จาก เรื่องเล่าเก่าแก่แต่โบราณ
Novo cedat ritui:
ทรงนำ มาสู่ พิธีนี้
Praestet fides supplementum
เพื่อเสริม ศรัทธา ให้เต็มทวี
Sensuum defectui.
เชิญมา มาสัมผัสเถิด

Genitori, Genitoque
โอ้พระผู้สร้าง พระผู้บังเกิด
Laus et jubilatio,
ขอ สรร(ะ)เสริญ ด้วยยินดี
Salus, honor, virtus quoque
พระผู้ ทรงไถ่ ทรงบุญ ทรงฤทธิ์
Sit et benedictio:
เชิญมา สถิตและอวยพร
Procedenti ab utroque
เชิญมาประทับอยู่ท่ามกลางเรา
Compar sit laudatio.
เราทั้งหลายกราบไหว้วิงวอน
Amen.อาแมน
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 8:13 pm

เข้ามาแสดงตัวรอดูรายละเอียดของวันเสาร์ครับ กำลังสนใจพิธี Exultet อยากทราบรายละเอียด  :azn:
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 8:19 pm

บทภาวนาเพื่อมวลชนอย่างสง่า
ดูโครงสร้างบทภาวนาเพื่อมวลชนว่าอยู่ตอนใดของพิธีและอธิบายคร่าวๆได้ที่นี่
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=7806.0

.............................โดยปรกติแล้วบทภาวนาเพื่อมวลชนที่เราได้ยินกันในมิสซาวันอาทิตย์ตามปรกติจะครอบคลุมจุดประสงค์กว้างๆคือ (ก)ความต้องการของพระศาสนจักร (ข)ผู้กำลังประสบทุกข์ (ค)ผู้ปกครองบ้านเมือง (ง)ชุมชนวัด(เช่น คริสตชนที่ห่างวัด) แต่ในบทภาวนาเพื่อมวลชนอย่างสง่านี้จะยาวกว่านั้นและเจาะจงลงไปโดยพระสงฆ์ โดยแบ่งเป็นโครงดังนี้

4 บทแรก:ความต้องการของพระศาสนจักร
(1)สำหรับพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์(เพื่อความสงบสุขและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันทั่วโลก)
(2)สำหรับสมเด็จพระสันตะปาปา=ผู้สืบทอดมาจากอัครสาวกนักบุญเปโตร(เพื่อประชากรที่อยู่ในความปกครองของพระองค์ จะได้มีความเชื่อทวียิ่งขึ้น โดยมีพระองค์เป็นผู้นำ)
(3)สำหรับบรรดาพระคาร์ดินัล พระสังฆราช และประชากรของพระเจ้าทุกคน
(4)สำหรับผู้เตรียมตัวรับศีลล้างบาป(ในวันพรุ่งนี้)

2 บทต่อไป:เอกภาพของคริสตชนและสำหรับชาวยิว(ผลพลอยได้จาก สังคายนาวาติกันครั้งที่ 2 เป็นการเปิดกว้างและย้ำชัดว่าเราคือผู้รับใช้โลก อย่างน้อยก็ด้วยคำภาวนา)
(5)สำหรับเอกภาพของคริสตศาสนิกชน
(6)สำหรับชาวยิว
.............................ให้เราภาวนาเพื่อชาวยิว พระเป็นเจ้ามีพระดำรัสกับเขาเป็นพวกแรก ขอพระองค์โปรดให้เขามีความรักต่อพระนาม และประพฤติตนซื่อสัตย์ต่อพันธสัญญาของพระองค์ยิ่งๆขึ้นไป ข้าแต่พระผู้ทรงสรรพานุภาพสถิตนิรันดร พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้กับท่านอับราฮัมและเผ่าพันธุ์ของท่าน ขอทรงพระเมตตาสดับฟังคำภาวนาของพระศาสนจักร โปรดให้ประชากรที่ได้ทรงเรียกเขามาเป็นพวกแรก ได้รับผลการกอบกู้อย่างสมบูรณ์ด้วยเถิด ทั้งนี้ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย อาแมน

2 บทต่อไป : สำหรับผู้ที่อยู่นอกพระศาสนจักร รวมถึงผู้ไม่เชื่อพระองค์(ผลจากสังคายวาติกันครั้งที่ 2 เช่นกัน)
(7)สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อถึงพระคริสตเจ้า(ให้เราภาวนาเพื่อผู้ที่ไม่เชื่อถึงพระคริสตเจ้า ขอให้เขาได้รับความสว่างของพระจิต จะได้เข้ามาเดินในหนทางแห่งความรอด)
(8)สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อถึงพระเจ้า(ให้เราภาวนาเพื่อผู้ที่ไม่ยอมรับนับถือพระเจ้า เพื่อให้เขาแสวงหาสิ่งที่ถูกต้องโดยจริงใจ จะได้สามารถเข้าถึงพระองค์ได้)

(9)สำหรับผู้ปกครองบ้านเมือง
(10)สำหรับผู้มีความเดือดร้อนต่างๆ

(จบภาควจนพิธีกรรม-มีต่อ)
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 8:30 pm

ยศิยล:ผู้แสวงหาพระเจ้า เขียน:
Man of Macedonia เขียน: Pange Langua Tantum Ergo
http://www.laus.or.kr/Music/gregorianus ... Domine.mp3
เคยแปลความหมายไว้ ดังนี้

__________________

Tantum ergo Sacramentum
ตานตูม แอรฺโก ซากราแมนตูม
ศีลแสนศักดิสิทธิ์ มหาสนิท

Veneremur cernui:
เวเนเรมูรฺ แชรฺนูอี
ขอ ก้มเกล้านมัสการ

Et antiquum documentum
แอ็ต อันติกุม  โดกูแมนตุม
จาก เรื่องเล่าเก่าแก่แต่โบราณ

Novo cedat ritui:
โนโว เชดัด รีตูอี
ทรงนำ มาสู่ พิธีนี้

Praestet fides supplementum
แปรสแตส ฟีแดส ซุปเปลฺแมนตุม
เพื่อเสริม ศรัทธา ให้เต็มทวี

Sensuum defectui.
แซนซุอุม เดแฟ็กตูอี
เชิญมา มาสัมผัสเถิด

Genitori, Genitoque
เยนีโตรี เยนีโตเกว
โอ้พระผู้สร้าง พระผู้บังเกิด

Laus et jubilatio,
เลาส์ แอ๊ค ยูบีลาซีโอ
ขอ สรร(ะ)เสริญ ด้วยยินดี

Salus, honor, virtus quoque
ซัลลูส ออนอรฺ วีรฺตูส โกวเกว
พระผู้ ทรงไถ่ ทรงบุญ ทรงฤทธิ์

Sit et benedictio:
ซิต แอ๊ต เบเนดิกซิโอ
เชิญมา สถิตและอวยพร

Procedenti ab utroque
โปรฺเชแดนตี อับ อูโตรเกว
เชิญมาประทับอยู่ท่ามกลางเรา

Compar sit laudatio.
กอมปารฺซิด เลาดาซิโอ
เราทั้งหลายกราบไหว้วิงวอน

Amen.อาแมน
ไหนๆก็ไหนๆ ผมแทรกคำอ่านด้วยเลย
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 8:55 pm

(2)ภาคเคารพกางเขน=การแสดงความเคารพทั้งครบ(กาย วาจา ใจ)แด่พระมหาทรมาน
ในหนังสือพิธีกรรมมีกำหนดการแสดงกางเขนไว้ 2 แบบ

(1)แบบที่หนึ่ง
ให้ผู้ช่วยพิธีถือกางเขนมีผ้าคลุม อีกสองคนถือเทียนที่จุดแล้ว(รูปภาพคล้ายมรคาศักดิ์สิทธิ์)มายังพระแท่น พระสงฆ์รอรับ
(1.1)เปิดผ้าตอนบนออกเล็กน้อย และร้องเพลง"นี่คือไม้กางเขน"
นั่นคือ (ก่อ) นี่คือไม้กางเขนที่พระผู้ไถ่โลกได้ตรึงแขวนอยู่ (รับ) เชิญมากราบนมัสการร่วมกันเถิด เมื่อร้องจบ คุกเข่าเคารพเงียบๆ(พระสงฆ์ยืน)
(1.2)เปิดผ้าคลุมแขนขวาของไม้กางเขน และร้องเพลง"นี่คือไม้กางเขน"
นั่นคือ (ก่อ) นี่คือไม้กางเขนที่พระผู้ไถ่โลกได้ตรึงแขวนอยู่ (รับ) เชิญมากราบนมัสการร่วมกันเถิด เมื่อร้องจบ คุกเข่าเคารพเงียบๆ(พระสงฆ์ยืน)
นั่นคือ (ก่อ) นี่คือไม้กางเขนที่พระผู้ไถ่โลกได้ตรึงแขวนอยู่ (รับ) เชิญมากราบนมัสการร่วมกันเถิด เมื่อร้องจบ คุกเข่าเคารพเงียบๆ(พระสงฆ์ยืน) (1.3)เปิดผ้าคลุมไม้กางเขนออกทั้งหมด และร้องเพลง"นี่คือไม้กางเขน"

(มีต่อ)
(2)แบบที่สอง
คุณพ่อ/สังฆานุกรไปที่ประตูโบสถ์เพื่อรับกางเขนที่ไม่มีผ้าปิด และผู้ช่วยพิธี(อาจเป็นสังฆานุกร)รับเทียนที่จุดแล้วแห่ผ่านกลางโบสถ์ไปที่ Sanctuary(เอ่อ บริเวณรอบๆพระแท่นที่มีรั้วกั้น)
ผู้ถือกางเขนจะต้องชูกางเขนขึ้นเมื่อใกล้ประตูครั้งหนึ่ง
รูปภาพ
กลางโบสถ์ครั้งหนึ่ง และแห่ไป จนถึงบริเวณที่รับศีล(วันนั้นจะมีโต๊ะรับศีล)ชูอีกครั้งหนึ่ง พลางร้องเพลง"นี่คือไม้กางเขน"
นั่นคือ (ก่อ) นี่คือไม้กางเขนที่พระผู้ไถ่โลกได้ตรึงแขวนอยู่ (รับ) เชิญมากราบนมัสการร่วมกันเถิด เมื่อร้องจบ คุกเข่าเคารพในแต่ละครั้ง
รูปภาพ
(จากนั้นนำกางเขนไปวางไว้ที่โต๊ะรับศีลพร้อมเชิงเทียน)
ต่อจากนั้น
พระสงฆ์ คณะสงฆ์ และสัตบุรุษ จะเดินเข้ามานมัสการกางเขน อาจจะแค่ย่อเข่าอย่างสุภาพ ไหว้ หรือจูบ
รูปภาพ
(สำหรับระหว่างนี้จะมีเพลงนมัสการกางเขนให้เหล่านักขับร้องมาเสริมดีกว่าครับ)

(มีต่อ)
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 9:09 pm

(3)ภาครับศีลมหาสนิท=เป็นการแสดงถึงความ"สนิทแนบชิด"ในพระมหาทรมานของพระองค์
.............................วันนี้ไม่มีการเสกแผ่นศีล แต่ให้นำแผ่นศีลมาจากที่พักศีล(อันเราได้เฝ้าไว้)ขึ้นไปยังแท่นบูชา จากนั้น ก็ลัดเข้าสู่ขั้นตอน
(1)ตามที่พระอาจารย์เจ้าได้ทรงสอนและกำชับไว้ เราจึงกล้าภาวนาว่า(บทข้าแต่พระบิดา)
รูปภาพ
(2)พระสงฆ์ภาวนา
P:โปรดเถิด พระเจ้าข้า โปรดช่วยข้าพเจ้าทั้งหลายให้พ้นภยันตรายทั้งสิ้น โปรดประทานสันติสุขทุกวันนี้ ทรงพระกรุณาให้พ้นบาป และปลอดภัยจากความวุ่นวาย ใด ๆ ตลอดไปขณะที่หวังจะได้รับความสุข และรอรับเสด็จพระเยซูคริสตเจ้าพระผู้กอบกู้ข้าพเจ้าทั้งหลาย
S:เหตุว่า พระอาณาจักร พระอานุภาพ และพระสิริรุ่งโรจน์เป็นของพระองค์ตลอดนิรันดร
(ไม่มีบทมอบสันติสุข ตัดมาที่รับศีลเลย)
P:นี่คือลูกแกะพระเจ้านี่ คือผู้พลีชนม์เพื่อยกบาปของโลก เป็นบุญของผู้ที่พระเจ้าทรงเรียกมาร่วมงานเลี้ยงของพระองค์
P+S:พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าไม่สมควรจะรับเสด็จมาประทับอยู่กับข้าพเจ้าโปรดตรัสเพียงพระวาจาเดียว แล้วจิตใจข้าพเจ้าก็จะบริสุทธิ์
(พระสงฆ์รับศีล)
จากนั้นพระสงฆ์ลงมาแจกศีล
และ
จะมีการขอพรเพื่อประชากร เมื่อเสร็จพิธีแล้ว พระแท่นจะต้องว่างเปล่าเหมือนเดิม
เป็นอันจบภาระกิจวันนี้
ไม่ต้องทำวัตรเย็น

รูปภาพ
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 9:41 pm

22 มีนาคม : วันเสาร์ศักดิ์สิทธิ์:พิธีตื่นเฝ้าปัสกา,เสกน้ำล้างบาป-เสกไฟ(Holy Saturday)

.............................วันนี้มีชื่อเป็นภาษาลาตินว่า"Sabbatum Sanctum" แปลว่า งานฉลองศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งหมายถึง การฉลองปัสกานั่นเอง พระศาสนจักรได้ทำการตื่นเฝ้าและสรุปการระลึกถึงปัสกาด้วยการฉลองธรรมล้ำลึกแห่งการกลับคืนพระชนมชีพ คืนนี้เป็นคืนที่สำคัญมากที่สุดคืนหนึ่ง เราจะเห็นได้จาก การเตรียมหนทางตั้งแต่ เทศกาลมหาพรต เรื่อยจนมาถึง สัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ โดยมีเป้าหมาย(ตามคณะกรรมทางเทววิทยาพิธีกรรม)ว่าดังนี้
(1)เป็นการเฝ้ารอคอยการกลับคืนพระชนมชีพของพระเยซูคริสตเจ้า โดยอยู่บนพื้นฐานที่ว่า พระองค์ทรงเป็นแสงสว่างส่องนานาชาติ ขจัดความมืดทั้งหลาย(ดูบทอ่านในมหาพรต)
(2)เป็นการระลึกถึง"งานของพระบิดาเจ้า" โดยจะเป็นภาคสรุปเรา เป็นจุดบรรจบของสามบทอ่าน ว่าด้วย"ไฟ" และ น้ำ" และ"พระเจ้า"
(3)เป็นการทำพิธีล้างบาป เสมือนว่า ท่านจากความมืดมาเข้าหาแสงสว่าง เกิดใหม่และได้รับความรอด ผ่านความตายศักดิ์สิทธิ์
(4)เป็นการขอบพระคุณพระเป็นเจ้าอย่างสง่า

โครงสร้างหลักๆของพิธีกรรมในวันนี้
(1)พิธีเสกไฟและประกาศแสงสว่าง
(2)วจนพิธีกรรมที่สง่า
(3)การเสกน้ำ ที่จะนำไปสู่ การรับศีลล้างบาป
(4)พิธีบูชาขอบพระคุณและศีลมหาสนิท

(มีต่อแน่นอน)
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 10:15 pm

(1)พิธีเสกไฟและประกาศแสงสว่าง
.............................คืนนี้ ถือได้ว่าเป็นคืนพิเศษโดยความสำคัญระบุไว้เชิงสัญลักษณ์ใน ลูกา 12:35-38,อพยพ 12:42 ในวันนี้พระสงฆ์และผู้ช่วยทุกคนใส่อาภรณ์ศักดิ์สิทธิ์สีขาว
(1)ไฟทุกดวงจะปิดหมด เตรียมกองไฟไว้ เมื่อพร้อมแล้ว พระสงฆ์ภาวนา จากนั้นจะเสกไฟ
รูปภาพ
"ให้เราภาวนา ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระองค์ได้ประทานไฟอันสว่างสุกใสของพระองค์ ให้แก่สัตบุรุษโดยทางพระบุตร ขอได้โปรด + ประทานความศักดิ์สิทธิ์ให้แก่ไฟใหม่นี้ และโปรดให้งานสมโภชปัสกาบันดาลให้ข้าพเจ้าทั้งหลายมีใจเร่าร้อนไปด้วยความปรารถนาถึงสิ่งของในสวรรค์ทั้งชั่วนิรันดรด้วยจิตใจบริสุทธิ์ ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย"(อาแมน)
จากนั้น ใช้เหล็กแหลมขีด เป็นรูปกางเขนบนเทียน เขียน อัลฟา ด้านบน และ โอเมกา ด้านล่าง และเขียนเลขสี่ตัวเพื่อบอกคริตศักราชปัจจุบัน พลางกล่าวว่า
รูปภาพ
(1)พระคริสตเจ้าในอดีตและปัจจุบัน(ใต้ A)
(2)ทรงเป็นปฐมอวสาน(มาทางซ้าย)
(3)ทรงเป็นอัลฟา(เหนือ A)
(4)และโอเมกา(ข้างล่างสุด)
(5)ทรงเป็นเจ้าของกาลเวลา(ในรูปคือเลข 2)
(6)และศตวรรษทั้งสิ้น(ในรูปคือเลข 0)
(7)ขอพระองค์จงได้รับพระเกียรติรุ่งโรจน์และอำนาจเกรียงไกร(ในรูปคือเลข 0 ล่างซ้าย)
(8)ตลอดชั่วอายุขัยและตลอดนิรันดร อาแมน(เติม คศ ปัจจุบัน)
จากนั้น อาจนำกำยานไปติด แล้วก็เสมือนทำกางเขน ขนาดพอดีกับกางเขนที่วาด กล่าวว่า
"ขอพระคริสตเจ้า(1) ทรงพิทักษ์(2) และรักษาข้าพเจ้าทั้งหลายไว้(3) ด้วยรอยแผลศักดิ์สิทธิ์(4)อันทรงเกียรติของพระองค์ อาแมน(5)
รูปภาพ
จากนั้นเสกว่า
"ขอให้ความสว่างของพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนชีพอย่างทรงเกียรติรุ่งโรจน์ขจัดความมืดในจิตใจของเราให้หมดสิ้นไปเทอญ"
เอารูปขั้นตอนจากต่างประเทศมาให้ดู
(1)พระสงฆ์เสกไฟ
รูปภาพ
(2)เริ่มขีดเสกเทียน
รูปภาพ
(3)ปักเม็ดกำยานแทนรอยแผลศักดิ์สิทธิ์ทั้ง5
รูปภาพ
(มีต่อ)
แก้ไขล่าสุดโดย Man of Macedonia เมื่อ ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 10:17 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 10:30 pm

ผมขออนุญาตยกเรื่องรากศัพท์ประวัติความเป็นมาและเทววิทยาไว้เสริมนอกรอบนะครับ(คืนนี้ผมจะลงบท พิธี Exultet เต็มไหวมั้ยนะ)
จากนั้น จะมีการจุดเทียนต่อจากเทียนปัสกาและเริ่มขบวนแห่
สังฆานุกรจับเทียนปัสกาชูไว้และร้องว่า"พระคริสตเจ้า องค์ความสว่างของเรา"(Lumen Christi)
รูปภาพ
S:ขอขอบพระคุณพระเป็นเจ้า
จากนั้นแห่เข้าไปในโบสถ์ มีสังฆานุกรถือเทียนปัสกานำหน้า ถึงประตูโบสถ์ ร้องอีกครั้งว่า"พระคริสตเจ้า องค์ความสว่างของเรา"
S:ขอขอบพระคุณพระเป็นเจ้า
ต่อจากนั้นไปต่อเทียนจากเทียนปัสกา(เป็น symbolic ขอละไว้ก่อน)
จากนั้น
ร้องอีกครั้งว่า"พระคริสตเจ้า องค์ความสว่างของเรา"
S:ขอขอบพระคุณพระเป็นเจ้า
จึงเปิดไฟได้

เอาล่ะต่อจากนี้คือบท Exultet ขอยืดเส้นยืดสายแปปหนึ่ง
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

ศุกร์ มี.ค. 14, 2008 10:31 pm

เย้ๆ รอด้วยความใจจดใจจ่อ... ::014::
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 15, 2008 2:40 am

การประกาศสมโภชปัสกา
เมื่อมาถึงพระแท่นบูชาแล้ว พระสงฆ์จะมีการให้พรสังฆานุกร
"ขอพระคริสตเจ้าสถิตอยู่กับใจและริมฝีปากของท่าน ท่านจะได้ประกาศสมโภชปัสกาของพระองค์อย่างเหมาะสม เดชะพระนามพระบิดา พระบุตรและพระจิต"(อาแมน)
จากนั้นประกาศด้วยบท Exultet ที่อธิบายความหมายแห่งความสว่าง
จะมีโครงสร้างคร่าวๆดังนี้

(1)เชิญทูตสวรรค์ พระศาสนจักรทั้งมวล และทุกคน มาร่วมยินดี เพราะชัยชนะในการคืนพระชนม์
(2)การขอบพระคุณ พระคริสตเจ้า:พระคริสตเจ้าทรงใช้หนี้ที่อาดัมทำไว้
(3)การรื้อฟื้นปัสกาของการอพยพในภาพกว้าง
(4)ประกาศความรักยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า
(5)การกลับคืนดีและความรอด
(6)พระคริสตเจ้า ผู้ทรงกลับเป็นขึ้นมาจากความตาย ทำให้ความสว่างของพระองค์ฉายแสงอยู่ในมนุษย์

"บัดนี้ ขอให้บรรดาเทพนิกรในสวรรค์ชื่นชมโสมนัส ขอให้ชาวสวรรค์ร่าเริงยินดีเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ให้แตรสัญญาณนำความรอดส่งเสียงก้องกังวาน
ฉลองชัยชนะแห่งพระมหากษัตราธิราช ขอให้แผ่นดินได้รับแสงสว่างเจิดจ้านี้มีความชื่นชม ขอให้แสงรุ่งโรจน์แห่งพระราชาผู้ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร
แสดงให้ทั่วโลกทราบว่า ตนได้พ้นจากความมืดแล้ว ขอให้พระศาสนจักร มารดาศักดิ์สิทธิ์ของเรา ชื่นชมยินดี ส่องแสงโชติช่วงแห่งพระผู้ไถ่
ขอให้ประชากรของพระเจ้าเปล่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีดังกึกก้องไปทั่วสักการสถานแห่งนี้"

"ฉะนั้น พี่น้องที่รักทั้งหลาย ซึ่งชุมนุมกันอยู่ที่นี่ ท่ามกลางแสงสว่างศักดิ์สิทธิ์อันเจิดจ้า จงร่วมใจกับข้าพเจ้า วอนขอพระเมตตาแห่งพระผู้ทรงสรรพานุภาพ
ที่ได้ทรงพระกรุณาเลือกข้าพเจ้า ผู้หาบุญกุศลมิได้ ให้เข้าอยู่ในคณะสงฆ์ของพระองค์ ขอพระองค์โปรดให้ข้าพเจ้า ผู้รับใช้ต่ำต้อย
ได้รับพระหรรษทานให้สามารถขับร้องสรรเสริญเทียนปัสกานี้อย่างเหมาะสมด้วยเถิด"

P:พระเจ้าสถิตกับท่าน(Dominus vobiscum)
S:และสถิตกับท่านด้วย(Et cum spiritu tuo)
P:จงสำรวมใจระลึกถึงพระเจ้า(Sursum corda)
S:เรากำลังระลึกถึงพระองค์(Habemus ad Dominum)
P:ให้เราขอบพระคุณพระเจ้าพร้อมกันเถิด(Gratias agamus Domino Deo nostro)
S:เหมาะสมและชอบยิ่งนัก(Dignum et justum est)

"เป็นการถูกต้องเหมาะสมแท้จริง ที่จะเปล่งเสียงขับร้องด้วยสุดจิตใจอย่างไพเราะ สรรเสริญพระเยซูคริสต์ พระเจ้าของเรา พระบุตรแต่องค์เดียวของพระองค์"

"พระคริสตเจ้าได้ทรงใช้หนี้ที่อาดัมได้ทำไว้สำหรับเรา ต่อพระบิดาผู้สถิตนิรันดร ทรงหลั่งพระโลหิตชำระโทษทัณฑ์ดั้งเดิมของชาวเรา"

(ม่ต่อ)
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ มี.ค. 15, 2008 9:36 am

ขอบคุณพี่หนุ่มมาซิโดเนีย :afro: พี่เป็นคุณพ่อฝ่ายจารีตเปล่าคร้าบ :wink:
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 15, 2008 2:56 pm

(ต่อเนื่อง)
.............................บัดนี้ เป็นงานสมโภชปัสกา วันที่พระคริสตเจ้า ลูกแกะปัสกาที่แท้จริงถูกประหาร บันดาลความศักดิ์สิทธิ์ให้แก่บ้านพักอาศัยของคริสตชนผู้มีความเชื่อ คืนนี้เป็นคืนที่พระองค์ได้ทรงนำชาวอิสราเอล บรรพบุรุษของข้าพเจ้าทั้งหลายออกจากอียิปต์ พ้นจากการเป็นทาส เดินบนทางแห้งความทะเลแดง คืนนี้จึงเป็นคืนที่เสาเพลิงได้ทำลายความมืดมนแห่งบาปให้สูญสิ้นไป คืนนี้เป็นคืนของผู้ที่เชื่อในพระคริสตเจ้าทั่วโลกได้หลุดพ้นจากความชั่วช่าแห่งโลกีย์และบาป มารับพระหรรษทาน มีส่วนในความศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งหนึ่ง

.............................คืนนี้แหละ เป็นคืนที่พระคริสตเจ้าได้ทรงทำลายพันธะแห่งความตายกลับคืนชีพจากแดนผู้ตายอย่างทรงมีชัย ชีวิตของชาวเราคงจะไม่มีประโยชน์อันใดหากว่าพระคริสตเจ้ามิได้ทรงไถ่กู้ไว้ พระทัยกรุณาของพระองค์ต่อข้าพเจ้าทั้งหลายช่างน่าพิศวงเสียนี่กระไร ความรักของพระองค์ก็เหลื้อล้นสุดจะพรรณนา พระองค์ถึงกับประทานพระบุตรมาเป็นค่าไถ่ เพื่อจะไถ่ทาสให้เป็นอิสระ

.............................บาปของอาดัมช่างมีความจำเป็นเสียจริง ที่จะต้องถูกทำลายด้วยการสิ้นพระชนม์ของพระคริสตเจ้า ความผิดนี้ช่างมีโชคอย่างเหลือล้น ที่มีบุญได้มีพระผู้ไถ่ยิ่งใหญ่เพียงนี้ คืนนี้ช่างเป็นคืนสุขแท้ เป็นคืนเดียวที่ทราบถึงกำหนดเวลาที่พระคริสตเจ้าทรงกลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย คืนนี้เป็นคืนที่พระคัมภีร์ได้กล่าวไว้ว่า"กลางคืนจะสว่างไสวดุจกลางวัน เป็นคืนนำแสงสว่างแจ่มจ้า นำความชื่นชมยินดีมาให้ข้าพเจ้า"

.............................ความศักดิ์สิทธิ์ของคืนนี้เอง ขับไล่ความชั่วให้สูญไป ชำระล้างความผิดนำความบริสุทธิ์มาคืนในคนบาป นำความชื่นชมยินดีมาให้ผู้ที่โศกเศร้า ทั้งยังขจัดความเกลียดชัง นำสันติ ปราบอำนาจโลกีย์

.............................เหตุฉะนี้ พระบิดาเจ้าผู้ศักดิ์สิทธิ์ โปรดรับคำสดุดีสรรเสริญนี้เป็นบูชายามเย็น ที่ข้าพเจ้าทั้งหลายถวายแด่พระองค์ในคืนที่น่าชื่นชมนี้ ในโอกาสที่พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์มีบัญชาให้ศาสนบริกรประกอบพิธีอันสง่าถวายเทียนอันเป็นผลงานของเหล่าภุมรินทร์ เป็นสัญลักษณ์แห่งความสว่างนี้ ข้าพเจ้าทั้งหลายทราบถึงคำสรรเสริญ เทียนซึ่งมีเปลวเพลิงลุกโชติช่วง ถวายเกียรติแด่พระเป็นเจ้าอยู่ขณะนี้แล้ว  เปลวเพลิงนี้แม้จะแบ่งแยกกันออกไปแต่ก็มิได้ลดความโชติช่วงลงเลย

.............................คืนนี้ เป็นคืนสุขแท้ ในคืนนี้เอง แผ่นดินสัมพันธ์กับสวรรค์ มนุษย์กับพระเจ้าคืนดีกัน

.............................ดังนั้น ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าทั้งหลายกราบวอนพระองค์ ได้โปรดให้เทียนซึ่งถวายเป็นเกียรติแด่พระนามของพระองค์ เพื่อขจัดความมืดแห่งราตรีนี้ ลุกโชติช่วงต่อไปอย่าได้มอด ขอให้เปลวเพลิงนี้พลุ่งสูงขึ้นเบื้องบนดุจควันเครื่องหอม ไปรวมกับแสงสว่างแห่งดวงดาราบนท้องฟ้า ขอให้เทียนนี้ลุกสว่างอยู่จนดาวประจำรุ่งโผล่ขึ้นเวลาเช้า ดาวประจำรุ่งที่ไม่มีวันดับดวงนี้ คือ พระคริสตเจ้า พระบุตรของพระองค์ ซึ่งเสด็จกลับคืนชีพจากแดนผู้ตาย ส่องแสงนำสันติภาพมาให้มนุษยชาติ พระองค์ท่านทรงจำเริญและครองราชย์ตลอดนิรันดร

S:อาแมน
(จบภาคประกาศปัสกาด้วยบท Exultet)
มีต่อภาควจนพิธีกรรม

*เชิญทุกท่านไปนพวารยังวัดใกล้บ้านที่มีนพวารในวันเสาร์
พระเจ้าอวยพร
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 15, 2008 2:59 pm

Jeab Agape เขียน:
ขอบคุณพี่หนุ่มมาซิโดเนีย :afro: พี่เป็นคุณพ่อฝ่ายจารีตเปล่าคร้าบ :wink:
ไม่ใช่หรอก
คุณพ่อด้านพิธีกรรมนี่ รู้สึก คุณพ่อประชาชาติ(วัดแม่พระกุหลาบทิพย์) จะจบเรื่องนี้มาโดยตรงนะ
ตอนนี้เป็น ผจก.ดนตรีและศิลปะศักดิ์สิทธิ์อยู่ ถ้าจำไม่ผิด

แค่พิมพ์บทโต้ตอบ,บทอ่านยังเหนื่อยเลย พิธีกรรมนี่
:angel:
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 15, 2008 3:42 pm

นำเพลง Veni Sancte Spiritus มาฟังระหว่างรอ
(1566-1572) ลูกแกะปัสกาถูกฆ่าบูชายัญ

http://beemp3.com/go_r.php?url=18%2B-%2 ... uk=7033328

Veni, Sancte Spiritus,
et emitte caelitus
lucis tuae radium.

Veni, pater pauperum,
veni, dator munerum
veni, lumen cordium.

Consolator optime,
dulcis hospes animae,
dulce refrigerium.

In labore requies,
in aestu temperies
in fletu solatium.

O lux beatissima,
reple cordis intima
tuorum fidelium.

Sine tuo numine,
nihil est in homine,
nihil est innoxium.

Lava quod est sordidum,
riga quod est aridum,
sana quod est saucium.

Flecte quod est rigidum,
fove quod est frigidum,
rege quod est devium.

Da tuis fidelibus,
in te confidentibus,
sacrum septenarium.

Da virtutis meritum,
da salutis exitum,
da perenne gaudium.
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 15, 2008 10:16 pm

การอธิบาย:(1)พิธีเสกไฟและประกาศแสงสว่าง

.............................จุดสำคัญของส่วนนี้คือคำสว่าง(Lumen)หรือการใช้สัญลักษณ์ของไฟ ไฟนั้นเป็นเครื่องหมายที่แสดงถึงความมีชีวิต(ความเชื่อนี้เป็นความเชื่อเก่าแก่โบราณ เป็นความเชื่อในลักษณะองค์รวมของโลกเลยก็ว่าได้) ในยามค่ำคืนถ้ามีคนหมู่มากมาชุมนุมก็ย่อมต้องมีการจุดไฟ ให้คนสามารถร่วมกิจกรรมกันได้ กลุ่มคริสตชนใช้การจุดไฟเป็นนัยยะถึง"ที่ประชุม"(ซึ่งในหลายความเชื่อกลุ่มยุโรปใช้สัญลักษณ์แบบเดียวกันนี้)แต่ของคริสตชนเรามีความพิเศษกว่าตรงที่ ให้แสงสว่างแทนที่ไฟของพระเป็นเจ้า เหมือนชาวฮีบรูในทะเลทรายที่มีเสาเพลิงนำทางยามค่ำคืน
.............................การเสกไฟใหม่เพื่อใช้จุดเทียนและแสงที่ได้จากเทียนที่ถูกจุดใหม่ เป็นเครื่องหมายบอกเราว่า เราอยู่ในค่ำคืนมืดมิดที่ทุกอย่างจะได้รับการฟื้นฟูในพระองค์ผู้ทรงบันดาลให้ทุกสิ่งเกิดขึ้นใหม่(เพราะพระองค์องค์เป็นอัลฟา และโอเมก้า) มีการประดับเทียนปัสกาด้วยกำยาน 5 เม็ด เป็นสื่อแทนว่าเทียนนี้คือ พระเยซูเจ้า ผู้ทรงกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตายและมาเป็นความแสงสว่างส่องนานาชาติ เป็น"เสาไฟ"แห่งพันธสัญญาใหม่อันยืนยง

พิธีเสกไฟเป็นพิธีเริ่มต้นเพื่อเตรียมไปสู่"การตื่นเฝ้า"ประกอบด้วย

(1)"บทภาวนาเสกไฟ"เป็นลักษณะการวอนขอ กล่าวคือ (1.1)เชิญชวนสัตบุรุษทุกคน"ให้เราภาวนา" (1.2)การวอนขอ"ข้าแต่พระเจ้า" เป็นการวอนขอเพื่อให้เรามีส่วนร่วมในแสงสว่างนิรันดร(Ilumina)โดยทางพระคริสตเจ้าองค์ความสว่าง(Lumen Christi)

(2)สัญลักษณ์และคำพูดสำหรับเตรียมเทียนปัสกาบ่งถึงพระคริสตเจ้าอย่างชัดเจน ซึ่งจะต่อเนื่องกับประกาศปัสกาที่ว่า
""บัดนี้ ขอให้บรรดาเทพนิกรในสวรรค์ชื่นชมโสมนัส ขอให้ชาวสวรรค์ร่าเริงยินดีเฉพาะพระพักตร์พระเจ้า ให้แตรสัญญาณนำความรอดส่งเสียงก้องกังวาน
ฉลองชัยชนะแห่งพระมหากษัตราธิราช ขอให้แผ่นดินได้รับแสงสว่างเจิดจ้านี้มีความชื่นชม ขอให้แสงรุ่งโรจน์แห่งพระราชาผู้ดำรงอยู่ชั่วนิรันดร
แสดงให้ทั่วโลกทราบว่า ตนได้พ้นจากความมืดแล้ว ขอให้พระศาสนจักร มารดาศักดิ์สิทธิ์ของเรา ชื่นชมยินดี ส่องแสงโชติช่วงแห่งพระผู้ไถ่
ขอให้ประชากรของพระเจ้าเปล่งเสียงโห่ร้องแสดงความยินดีดังกึกก้องไปทั่วสักการสถานแห่งนี้"

*จากนั้นจะเป็นการแห่เข้าวัด จากจุดนี้เราจะเห็นสัญลักษณ์จากการกระทำนี้ว่า ความมืดในโบสถ์ถูกแสงสว่างแทนทีทีละน้อยๆและหายไปพร้อมกับการปรากฎมาของขบวนแห่พระคริสตเจ้าโดยมีเทียนปัสกาเป็นเครื่องหมายของพระองค์ ขบวนแห่เป็นการเดินทางของพระศาสนจักรเอง ประชากรใหม่ของพระเจ้า (เป็นการเลียนประชากรในพันธสัญญาเดิม) นัยหนึ่งสื่อถึง การส่องสว่างของศีลล้างบาป ที่จะได้รับเพื่อเข้าเป็นบุตรแห่งความสว่าง(เทียบ บทอ่านอาทิตย์มหาพรต)

ต่อจากนั้น เมื่อพระคริสตเจ้าทรงสถิตอยู่ในเสาเพลิง(เทียน)ก็จะมีการประกาศสมโภชปัสกาตามลำดับ

เพลง Exultet แบบสั้น(ที่ผมโพสนี่แบบยาว)
http://tyniec.benedyktyni.pl/pl/wspolcz ... _songs.asp
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

เสาร์ มี.ค. 15, 2008 11:40 pm

(2)วจนพิธีกรรมที่สง่า
.............................ในส่วนนี้เป็นการเร้าให้เรารำลึกถึง"ประวัติศาสตร์ความรอด"โดยเลือกหยิบเอาตอนที่เน้นให้เห็นถึงมิติแห่ง"พระคริสตเจ้า"และความสำเร็จไปในแผนการณ์ของพระบิดาเจ้า(ในพิธีตื่นเฝ้านี้ นับเป็นการตื่นเฝ้าที่สำคัญที่สุด การเลือกบทอ่าน 9 บทให้เลือกจากพระธรรมเก่า 7 และพระธรรมใหม่ 2) บทอ่านที่ยกมาจะนำไปสู่"มิติของศีลล้างบาป"และที่สำคัญ บทอ่านเหล่านี้ยังเป็นคำสอนสำคัญว่าด้วยประวัติศาสตร์ความรอด ควรฟังอย่างตั้งใจ

ความสำคัญของวจนพิธีกรรมอย่างสง่า
(1)เป็นการระลึกอย่างต่อเนื่องจากการประกาศความสว่างโดยผ่านทางบทอ่าน(นี่คือพระวาจาของพระเจ้า)
(2)เป็นการรื้อฟื้นเหตุการณ์ที่เป็นวัฒนธรรมของชาวยิวในสมัยโบราณ (เปรียบเหมือน นิทานรอบกองไฟในวันเฉลิมฉลองสำคัญที่มีการชุมนุม)

การเตือนใจก่อนบทอ่าน
.............................พี่น้องที่รักยิ่ง เราได้เริ่มพิธีตื่นเฝ้าเตรียมฉลองอย่างสง่าแล้ว บัดนี้ให้เราตั้งใจฟังพระวาจาของพระเป็นเจ้า ให้รำพึงว่า ในอดีตกาลพระเป็นเจ้าได้ทรงกอบกู้ประชากรของพระองค์อย่างไร และเมื่อถึงเวลาที่กำหนด พระองค์ได้ทรงใช้พระบุตรมาไถ่เราอย่างไร ให้เราภาวนาขอพระเป็นเจ้าได้ทรงบันดาลให้ผลงานปัสกาอันนำความรอดนี้ บังเกิดผลกอบกู้อย่างสมบูรณ์สำหรับชาวเราด้วยเถิด

บทอ่านทั้ง 9

(1)พระเป็นเจ้าทรงสร้างโลกและมนุษย์(ปฐมกาล 1:1-2:2)
.............................ให้เราภาวนา ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระองค์ได้ทรงสร้างมนุษย์อย่างน่าพิศวง และได้ทรงไถ่กู้อย่างน่าพิศวงยิ่งขึ้น ข้าพเจ้าทั้งหลายขอกราบวอนขอให้ทรงพระกรุณาโปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลาย มีความเข้าใจแจ่มแจ้งถึงความรักของพระองค์ สามารถหยัดยืนต่อสู้กับมายาแห่งบาป เพื่อจะได้สามารถบรรลุถึงความสุขนิรันดรในสวรรค์ ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย(อาแมน)
เพลงที่เกี่ยวข้อง:แผ่นดินของเรา
http://n.1asphost.com/holypicture/sadudee/i013.html

(2)อับราฮัมถวายอิสอัคเป็นศีลบูชา(ปฐมกาล 22:1-18)
*อิสอัคเป็นคำใบ้บอกถึงพระเยซูเจ้า พระบุตรผู้ทรงมอบถวายชีวิตเป็นพลีบูชาแด่พระบิดาเจ้า
.............................ให้เราภาวนา ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระบิดาของผู้ที่เชื่อในพระองค์ พระองค์ได้ทรงสัญญากับท่านอับราฮัมผู้รับใช้ ว่าจะให้ท่านเป็นบิดาของประชาชาติ และได้ทรงบันดาลให้พระสัญญานี้สำเร็จไป ให้มนุษย์ทั่วโลก กลับเป็นบุตรบุญธรรมของพระองค์ โดยอาศัยการสิ้นพระชนม์และการกลับคืนพระชนมชีพของพระคริสตเจ้า ขอได้โปรดให้ประชาชาติทั้งหลายเข้ามารับพระพรนี้อย่างสมควรด้วยเถิด ทั้งนี้ขอพึ่งพระบารมีของพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย(อาแมน)
ตัวอย่างบทสร้อย:ข้าพเจ้าพร้อมแล้วพระเจ้าข้า ข้าพระองค์ยินดีทำตามน้ำพระทัย

(3)การอพยพออกจากอียิปต์(อพยพ 14:15-15:1) เป็นบทอ่านสำคัญห้ามเว้น(ในกรณีที่มีเหตุผลด้านงานอภิบาลสัตบุรุษอาจเว้นบางบทได้)
.............................ให้เราภาวนา ข้าแต่พระเป็นเจ้าพระองค์ได้ทรงเผยมหัศจรรย์ต่างๆที่ได้ทรงกระทำในกาลก่อน ให้เป็นที่เข้าใจแจ่มแจ้งในพันธสัญญาใหม่ กล่าวคือ ทะเลแดงเป็นรูปหมายถึงอ่างน้ำศีลล้างบาป และชนชาติที่ได้ทรงช่วยให้หลุดพ้นจากการเป็นทาส เป็นรูปหมายถึงประชากรคริสตชน ขอโปรดให้ชนชาติทุกชาติได้รับอภิสิทธิ์ของชนชาติอิสราเอลด้วยความเชื่อ และบังเกิดใหม่เข้ามามีส่วนรับพระจิตด้วยเถิด ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย(อาแมน)
ตัวอย่างสร้อย:จงร้องเพลงบทใหม่ถวายแด่พระเจ้า
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

อาทิตย์ มี.ค. 16, 2008 12:26 am

(4)พระผู้สร้างเป็นพระผู้ทรงรักเราทั้งครบ(อิสยาห์ 54:5-14)
.............................ให้เราภาวนา ข้าแต่พระผู้ทรงสรรพานุภาพสถิตนิรันดร ขอได้ทรงเพิ่มพูนพระเกียรติพระนามของพระองค์ โดยปฏิบัติตามที่ได้ทรงสัญญาไว้กับบรรพบุรุษ และทวีจำนวนบุตรบุญธรรมแห่งพระสัญญาให้มากขึ้น เพื่อข้าพเจ้าทั้งหลายจะได้ทราบว่า พระสัญญาที่บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ในกาลก่อนได้มีความมั่นใจว่าจะเป็นมานั้น ได้สำเร็จไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ในพระศาสนจักร ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย(อาแมน)
ตัวอย่างบทสร้อย:พระยาห์เวห์ทรงเป็นพละกำลังและบทเพลงของข้าพเจ้า

(5)ผู้ที่หิวกระหายจงมาหาเราเถิด(อิสยาห์ 55:1-11)
*การเชิญชวนให้กลับใจ หลังจากเราตระหนักในรักของพระองค์ใน 3 บทอ่านแรก และสรุปชัดในบทอ่านที่ 4
.............................ให้เราภาวนา ข้าแต่พระผู้ทรงสรรพานุภาพสถิตนิรันดร พระองค์ทรงเป็นความหวังอันเดียวของโลก ได้ทรงใช้บรรดาประกาศกให้ประกาศธรรมล้ำลึกแห่งปัสกาซึ่งพระศาสนจักรกำลังระลึกอยู่นี้ ขอได้ทรงพระกรุณาโปรดให้ประชากรของพระองค์มีศรัทธาทวีขึ้น เพราะหากพระองค์มิได้ทรงดลใจแล้ว ก็จะไม่มีผู้ใดเจริญก้าวหน้าในคุณธรรมได้ ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย(อาแมน)
ตัวอย่างบทสร้อย:ความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงนิจนิรันดร์

(6)จงเชื่อฟังพระบัญญัติที่นำสู่ชีวิต(บารุค 3:9-15,32-4:4)
.............................ให้เราภาวนา ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระองค์ทรงเรียกประชาชาติให้เข้ามาเพิ่มจำนวนสมาชิกพระศาสนจักรอยู่เสมอ ขอทรงพระกรุณาคุ้มครองป้องกัน ผู้ที่พระองค์ได้ทรงใช้น้ำศีลล้างบาปชำระล้างให้บริสุทธิ์แล้วไว้ตลอดไป ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย(อาแมน)
ตัวอย่างบทสร้อย:พระยาห์เวห์เป็นความสว่าง และเป็นความรอดของข้าพเจ้า

(7)พันธสัญญาใหม่ผ่านน้ำบริสุทธิ์(บ่งถึงการโปรดศีลล้างบาป)(เอเสเคียล 36:16-17,18-28)
.............................ให้เราภาวนา ข้าแต่พระผู้ทรงสรรพานุภาพสถิตนิรันดร โปรดประทับอยู่กับศีลศักดิ์สิทธิ์ที่แสดงพระกรุณาอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ ขอได้ประทานพระจิตของพระองค์ มารับผู้บังเกิดใหม่ด้วยน้ำศีลล้างบาปนี้เป็นบุตรบุญธรรม เพื่อภารกิจที่ข้าพเจ้าทั้งหลายผู้รับใช้ต่ำต้อยจะต้องปฏิบัตินั้นจะได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยอำนาจแห่งพระเดชานุภาพของพระองค์ ทั้งนี้ ขอพึ่งพระบารมีพระคริสตเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย(อาแมน)
ตัวอย่างบทสร้อย:จิตใจข้าพเจ้ากระหายหาพระเจ้าผู้ทรงชีวิต เมื่อใดเล่าจะได้ประสบ พระพักตร์ของพระองค์
*จากนั้น คุณพ่อจะก่อบทสิริรุ่งโรจน์(และมีการย่ำระฆัง)ดู http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=7806.7

จากนั้นจะเป็นบทภาวนาของประธาน

(8)ศีลล้างบาปในพระคริสตเจ้า ได้ทำให้เรามีส่วนร่วมกับการสิ้นพระชนม์ของพระองค์(โรม 6:3-11)
บทเพลง:ร้องอัลเลลูยาแด่พระเจ้า  ร้องอัลเลลูยาแด่พระเจ้า ร้องอัลเลลูยา  ร้องอัลเลลูยา  ร้องอัลเลลูยาแด่พระเจ้า ร้องอัลเลลูยาสรรเสริญ  ร้องอัลเลลูยาสรรเสริญ  ร้องอัลเลลูยา ร้องอัลเลลูยา ร้องอัลเลลูยาสรรเสริญ ร้องอัลเลลูยาสรรเสริญ (จบ )

(9)บทอ่านจากพระวรสารนักบุญมัทธิว(28:1-10) พระคูหาว่างเปล่าข่าวดีจากทูตสวรรค์

(จบภาควจนพิธีกรรม)
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 17, 2008 10:57 pm

(3)การเสกน้ำ ที่จะนำไปสู่ การรับศีลล้างบาป
.............................หลังจากได้ฟังบทอ่านทั้งเก้า ที่เสนอเกี่ยวกับ"ประวัติศาสตร์ความรอด"แล้ว เราจึงมีความเข้าใจมากเกี่ยวกับ"ความรอด"และ"การเป็นประชากรภายใต้ความรอดพ้นในร่มแห่งพระคริสตเยซู" ดังนั้น คริสตชน(ส่วนหนึ่ง)ที่เตรียมตัวมาเป็นอย่างดีผ่านการไตร่ตรองและเรียนคำสอน พร้อมแล้วที่จะเข้าใจธรรมล้ำลึกแห่งศีลล้างบาป นั่นคือ พร้อมที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของพระศาสนจักร เป็นประชากรใหม่ของพระเยซูเจ้าเสาเพลิงใหม่ ในส่วนนี้หลายท่านนิยามว่าเป็น"ปัสกาของพระศาสนจักร" เพราะอาศัยการรับศีลล้างบาป มนุษย์จึงรอดพ้นเป็นประชากรของพระเป็นเจ้า

.............................การเสกน้ำนี้ เป็นการบ่งให้เราเข้าใจในธรรมล้ำลึกแห่ง"น้ำ" เช่น น้ำอันเป็นสัญลักษณ์แห่งความรอด ชาวยิวต้องข้ามทะเลแดงจึงได้รับอิสรภาพ และต้องข้ามแม่น้ำจอร์แดนกับโยชูวา เพื่อจะเข้าสู่ดินแดนแห่งพระสัญญา ดังนั้นพระศาสนจักรใช้"น้ำ"นี้ใช้ในพิธีล้างบาปเพื่อแสดงอิสรภาพของผู้ที่จะได้ชื่อเป็นบุตรพระเป็นเจ้า และละทิ้งกิจการของปีศาจเข้าสู่พระอาณาจักรของพระองค์

.............................มากไปกว่านั้น การศึกษาทางเทววิทยา(โดยคณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพิธีกรรม) บอกว่า "การรินน้ำและกลับขึ้นจากน้ำใหม่ในนามของพระบิดา พระบุตรและพระจิต"เปรียบได้กับพระเยซูเจ้าเอง ทรงถูกฝังในพระคูหาและกลับคืนพระชนมชีพจากบรรดาผู้ตาย คริสตชนที่ได้รับศีลล้างบาปเหมือนว่าตายพร้อมกับพระเยซูเจ้าและกลับขึ้นมาจากน้ำเป็นคนใหม่ เป็นบุตรของพระบิดา(เพราะพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเชษฐาที่แสนดีของเรา) ในคืนวันเสาร์นี้ เราจึงมีสันติสุขด้วยความชื่นชมยินดีที่ได้รับประชากรใหม่ของพระศาสนจักร

.............................เพราะฉะนั้นในคืนนี้ หลังจากการรื้อฟื้นประวัติศาสตร์แห่งความรอดผ่านบทอ่านทั้งเก้า และได้ประกาศการกลับคืนพระชนม์ของพระคริสตเจ้า(ผ่านประกาศปัสกา) จึงเป็นเวลาเหมาะสมที่สุด เพื่อจะได้โปรดศีลล้างบาปสำหรับคริสตชนใหม่ และเป็นโอกาสที่เหมาะสมอีกเช่นกัน ที่จะให้พวกเราผู้รับการล้างบาปแล้วระลึกถึงคำสัญญาของชีวิตคริสตัง และยืนยันความเชื่อ

ขั้นตอน
(1)คุณพ่อกล่าว
"ให้เราพร้อมใจกันภาวนาค้ำจุนความหวังของพี่น้องเราเพื่อพระบิดาทรงสรรพานุภาพจะได้ทรงพระเมตตาช่วยเหลือทุกคน ที่กำลังเข้ามายังอ่างน้ำที่ทำให้บังเกิดใหม่นี้"
(2)นักขับร้องขับบทร่ำวิงวอน(เป็นบทภาวนาที่อยู่ในประเภท Litany คือ บทภาวนาแบบโต้ตอบ เช่น วันทาราชินี)
(3)จากนั้นจะเป็นพิธีเสกน้ำล้างบาป

(มีต่อ)
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 17, 2008 11:03 pm

บทเสกน้ำ
.............................ข้าแต่พระเป็นเจ้า ด้วยพระอานุภาพอันไม่ปรากฏแก่ตา พระองค์ทรงใช้เครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์ของศีลศักดิ์สิทธิ์ทำให้บังเกิดผลอันน่าพิศวง และได้จัดเตรียมน้ำด้วยวิธีหลายประการ เพื่อแสดงให้เห็นพระหรรษทานของศีลล้างบาป
.............................ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระจิตของพระองค์ได้ร่อนอยู่เหนือน้ำตอนแรกที่สร้างโลก เพื่อให้น้ำเริ่มมีฤทธิ์ที่จะบันดาลความศักดิ์สิทธิ์ได้ตั้งแต่เวลานั้น
.............................ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระองค์ได้โปรดให้น้ำวินาศเป็นเครื่องหมายถึงการบังเกิดใหม่ด้วยศีลล้างบาป เพื่อให้น้ำนี้เองเป็นจุดจบของความชั่วช้า และเป็นการเริ่มต้นของคุณธรรมทั้งปวง
.............................ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระองค์ได้โปรดให้บุตรหลานของอับราฮัมเดินผ่านทะเลแดงบนทางแห้ง เพื่อให้ชนชาติที่หลุดพ้นจากการเป็นทาสของพระเจ้าฟาโรห์เป็นเครื่องหมายของประชากรที่ได้รับศีลล้างบาป
.............................ข้าแต่พระเป็นเจ้า พระบุตรของพระองค์ เมื่อทรงรับพิธีล้างจากนักบุญยอห์นในแม่น้ำจอร์แดนแล้ว ได้รับการเจิมจากพระจิต เมื่อพระองค์ท่านถูกตรึงอยู่บนไม้กางเขน ได้มีน้ำไหลออกจากสีข้างของพระองค์พร้อมพระโลหิต และเมื่อกลับคืนพระชนมชีพแล้ว พระองค์ท่านได้ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

จันทร์ มี.ค. 17, 2008 11:13 pm

พิธีรื้อฟื้นคำสัญญาแห่งศีลล้างบาป

P:พี่น้อง โดยธรรมล้ำลึกแห่งเทศกาลปัสกา เราทุกคนได้ถูกฝังร่วมกับพระคริสตเจ้าเมื่อรับศีลล้างบาป เพื่อจะได้ดำเนินชีวิตใหม่กับพระองค์ ฉะนั้น เมื่อการถือกิจปฏิบัติในเทศกาลมหาพรตสิ้นสุดลงแล้ว ให้เรารื้อฟื้นคำสัญญา ที่เราให้ไว้เมื่อเรารับศีลล้างบาป ว่าจะละทิ้งปีศาจและกิจการของมัน

P:ท่านละทิ้งปีศาจหรือ
S:ข้าพเจ้าละทิ้ง
P:ท่านละทิ้งกิจการทั้งสิ้นของมันด้วยหรือ
S:ข้าพเจ้าละทิ้ง
P:ท่านละทิ้งความโออ่า ฟุ้งเฟ้อทั้งสิ้นของมันด้วยหรือ
S:ข้าพเจ้าละทิ้ง
P:ท่านละทิ้งบาปเพื่อเจริญชีวิตอย่างบุตรพระเจ้าหรือ
S:ข้าพเจ้าละทิ้ง
P:ท่านละทิ้งความยั่วยวนของความชั่ว เพื่อมิให้บาปครอบงำท่านหรือ
S:ข้าพเจ้าละทิ้ง
P:ท่านละทิ้งปีศาจ ซึ่งเป็นจอมมารและต้นเหตุของบาปหรือ
S:ข้าพเจ้าละทิ้ง
P:ท่านเชื่อถึง พระเป็นเจ้า พระบิดาทรงสรรพานุภาพสร้างฟ้าดินหรือ
S:ข้าพเจ้าเชื่อ
P:ท่านเชื่อถึงพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรแต่องค์เดียวของพระองค์พระเจ้าของเราทรงบังเกิดจากพระนางมารีอาพรหมจารี รับทรมานและถูกฝังไว้ กลับคืนชีพจากบรรดาผู้ตาย ประทับเบื้องขวาพระบิดาหรือ
S:ข้าพเจ้าเชื่อ
P:ท่านเชื่อพึงพระจิต พระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์สากล สหพันธ์นักบุญ การยกบาป การคืนชีพของเนื้อหนัง และชีวิตนิรันดรหรือ
S:ข้าพเจ้าเชื่อ
P:ข้าแต่พระเป็นเจ้า ผู้ทรงสรรพานุภาพ พระบิดาของพระเยซูคริสตเจ้า ได้โปรดให้เราบังเกิดใหม่ด้วยน้ำและพระจิต และได้ทรงอภัยบาปของเราแล้ว ขอพระองค์ประทานพระหรรษทานทรงปกปักรักษาเราไว้ในองค์พระเยซูคริสตเจ้า เพื่อชีวิตนิรันดร
S:อาแมน

จากนั้น คุณพ่อเอาน้ำเสกพรม และให้ข้ามการสวดบทข้าพเจ้าเชื่อ(เพราะยืนยันไปแล้ว) เริ่มด้วยบทภาวนาเพื่อมวลชนเลย
(มีต่อ)
ตอบกลับโพส