+ My Life My Story My God : part#5 " เด็กหนุ่มกับช่างตีดาบ " +
"บทความนี้ผมได้เขียนใวเน hi5 ของผม เวลาผมได้เจอเรื่องราวหรือประสบการ์ณอะไรในชีวิตผมก็จะกลับมาเขียนใว้ในนั้น เผื่อว่าวันไหนเกิดท้อใจหรือสับสนหาทางออกไม่ได้ผมก็จะกลับมาอ่านเพื่อเป็นกำลังใจต่อไป และจะยิ่งดีกว่านั้นถ้าได้มีใครที่เกิดท้อใจหรือต้องการกำลังใจหรือกำลังหาคำตอบอะไรสักอย่างมาอ่านแล้วได้อะไรกลับไปบ้างก็คงจะดีไม่น้อย"

********
เด็กหนุ่มกับช่างตีดาบ
********
เรื่องราวเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมแต่งขึ้นเอง ก็ลองอ่านดูนะครับ
นานมาแล้วมีเด็กชายหนุ่มคนหนึ่งใฝ่ฝันอยากเป็นอัศวินที่เก่งกาจมาก จึงวิ่งไปหาช่างตีดาบที่เก่งกาจที่สุดในจักรวรรดิแล้วบอกกับเขาว่า"ท่านักตีดาบ ท่านช่วยตีดาบที่ยอดเยี่ยมที่สุดในจักวรรดิให้ผมหน่อย เพื่อที่ว่าผมจะได้เป็นอัศวินที่เก่งกาจที่สุด" ช่างตีดาบก็เงียบและครุ่นคิดสักพักแล้วก็ตอบตกลง ชายหนุ่มคนนั้นก็ตื่นเต้นและดีใจเป็นที่สุ แต่ก็ต้องผิดหวังเมื่อช่างตีดาบคนนั้นกลับยื่นดาบไม้หนึ่งอันมาให้ "นี่มันอะไรกัน?" เด็กหนุ่มถามขึ้นมา "ดาบที่เจ้าขอไงละ" ช่างตีดาบตอบ เด็กหนุ่มโกรธมากพร้อมกับตวาดใส่ช่างตีดาบว่า "ไร้สาระสิ้นดี ข้านี่หลงผิดเอามากที่คิดว่าท่านคือช่างตีดาบมือ 1 แห่งจักวรรดินี้" ว่าแล้วก็จ่ายเงินจำนวนหนึ่งคว้าดาบไม้นั้นเดินออกไปพร้อมกับคิดในใจว่า "ข้านี่ไม่น่าเสียเงินไอ้ไอ้แก่นั่นเลย "
แต่ทว่าจะโยนทิ้งก็เสียดายเด็กหนุ่มก็เลยต้องทนใช้ดาบไม้นั้นฝึกฝนไป แรกๆก็ดูเหมือนจะไม่ได้เรื่อง หกล้มบ้าง ดาบไม้ฟาดหัวบ้าง แต่แล้วเวลาผ่านไป 1 ปี เด็กหนุ่มเริ่มเบื่อกับดาบไม้นั้นแล้วเพราะเริ่มรู้สึกว่าน้ำหนักมันเบาและก็ใช้มันจนคล่องตัว จึงอยากได้ดาบอันใหม่ที่เป็นดาบจริงๆก็ได้นึกถึงคุณลุงช่างตีดาบนั้นขึ้นมา ในใจแล้วไม่อยากไปหาแต่ทว่าในจักวรรดินี้มีคนนี้เท่านั้นที่ตีดาบเก่งกาจที่สุดก็เลยต้องยอมไป พอไปถึงทันทีที่ช่างตีดาบเห็นหน้าหนุ่มคนนี้ก็จำได้ทันทีและก่อนที่ชายหนุ่มคนนั้จะพูดอะไร ช่างตีดาบก็พูดว่า "โอ้ 1 ปีที่ผ่านมา ดูเจ้าโตขึ้นเยอะเลยนี่ เป็นยังไงบ้าง ใช้ดาบไม้นั่นจนคล่องแล้วละสิ ข้ากำลังเตรียมบางอย่างให้เจ้าอยู่พอดี" "นี่ท่านจำข้าได้ด้วยหรือ แล้วที่ท่านว่าเตรียมบางอย่างให้ข้า...หมายความว่าท่านรู้ว่าข้าจะมาหาท่านงั้นสิ?" ชายชราผู่เป็นเบอร์ 1 แห่งนักตีดาบยิ้มพร้อมกับหันหลังไปหยิบบางสิ่งมาให้ชายหนุ่ม "เปิดออกสิ" ช่างตีดาบกล่าว เด็กหนุ่มเปิดออกพร้อมกับคิดว่าเบื้องหน้านั้นคือดาบที่ตนได้ขอใว้เมื่อปีก่อน แต่กลับต้องผิดหวังเพราะมันคือดาบเหล็กที่อัศวินทั่วไปใช้กัน "อะไรกัน! นี่ท่านเล่นตลกกับข้าอีกแล้วหรือ" ชายช่างตีดาบผู้นั้นยิ้มแล้วตอบเพียงสั้นๆว่า "ข้ากำลังตีดาบให้เจ้าอยู่แต่เจ้ามองไม่เห็นเอง" เด็กหนุ่มโกรธแค้นมากเพราะคิดว่าตาแก่คนนั้นพูดจาล้อเลียนและเยาะเย้ย จึงเดินออกจากร้านไปแล้วใช้ดาบนั้นกวัดแกว่งระบายอารมณ์ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น "ฉึบ!"พร้อมกับเสียงร้องอันเจ็บปวดตามมา เด็กหนุ่มก็คนนั้นตวัดดาบแรงไปหน่อยดาบเลยบาดเอาตรงขาขวาทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้ไปหลายวัน ในขณะที่นอนพักรักษาตัวอยู่นั้นก็พลางนึกขึ้นได้ว่า "นี่ถ้าฉันไม่เคยได้ลองฝึกดาบไม้นั่นมาก่อนละก็ป่านนี้ขาฉันคงขาดไปแล้ว เพราะกล้ามแขนก็จะไม่มีกำลังพอจะหยุดดาบ หรือถ้าตาแก่นั่นให้ดาบนี้ก่อนดาบไม้นั่นมา ป่านนี้หัวข้าคงขาดไปแล้ว"พอคิดได้ดังนี้ก็เริ่มรู้สึกเป็นหนีบุญคุณตาแก่ช่างตีเหล็กนั้นขึ้นมาซะแล้ว พอขาหายดีชายหนุ่มก็เริ่มฝึกซ้อมดาบได้อีกครั้ง จนกระทั่งวันเวลาผ่านไปเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี แต่ละปีนั้นเด็กหนุ่มก็จะกลับไปหาช่างตีดาบเพื่อให้ช่างตีดาบนั้นตีดาบใหม่ให้ ในใจก็คงเริ่มหวังว่าสักวันจะได้ดาบที่สุดยอดของจักรวรรดิ์นี้เสียที จนรวมเวลาทั้งสิ้น 9 ปีได้ล่วงเลยไป ก็ไม่มีทีท่าว่าช่างตีเหล็กชราผู้นั้นจะให้ดาบอันเป็นสุดยอดของแผ่นดินแห่งนี้เสียที ในปีที่ 10 นั้นเด็กหนุ่มซึ่งตอนนี้ได้โตเป็นหนุ่มแล้วก็เดินไปหาช่างตีเหล็กผู้นั้นพร้อมกับถามว่า "ข้าได้วิงวอนให้ท่านตีดาบที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้ข้า แต่นี่เวลผ่านไป 10 ปีแล้ว ข้าก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าท่านจะให้ข้าเสียที" ช่างตีดาบซึ่งตอนนี้ชรามากแล้วหัวเราะลั่นแล้วตอบว่า" ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าหนุ่มน้อย วันนี้และเป็นวันที่เจ้าจะได้ดาบนั้นเสียที แต่ก่อนที่ข้าจะให้เจ้านั้นเจ้าจงเอาสิ่งนี้ไปเสียก่อน" ว่าแล้วชายชราก็หยิบสิ่งหนึ่งที่มีผ้าห่อใว้ให้ชายหนุ่มนั้น ทันทีที่ชายหนุ่มนั้นเปิดออกก็ต้องตกใจอย่างยิ่ง เพราะว่ามันคือดาบสีทองและเงินขนาดใหญ่ ตรงด้ามจับนั้นทำด้วยอัญมณีที่ฝังอย่างปราณีตลงไปในทองคำ และคมดาบนั้นก้แหลมคมมาก ใบดาบเป็นเหล็กชั้นดีที่สุดเท่าที่จะหาใด้ในโลกนี้ที่ว่ากันว่ามีเพียงแต่กษัติริย์เท่านั้นที่จะครองดาบที่ทำจากเหล็กชนิดนี้ได้ ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังตะลึงใลเพลิดเพลินนความงามและความแข็งแกร่งของดาบนี้ชายชราก็พูดแทรกขึ้นมาว่า "เอาละ ทีนี้ก็ถึงเวลาที่เจ้าจะได้ดาบเสียที" ความเพลิดเพลินของชายหนุ่มที่กำลังชื่นชมกับของในมือราวกับชื่นชมสมบัติล้ำค่านั้นหมดลงพร้อมกับถามด้วยเสียงชวนสงสัยว่า "ดาบ?...ท่านหมายถึง ที่อยู่ในมือข้านี่ไม่ใช่ดาบที่ดีที่สุดในจักวรรดินี้หรอกรึ?" คราวนี้ชายชราเปล่งเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น ""
ฮ่าๆๆๆ นี่ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้เจ้าก็ยังคงมองไม่เห็นอยู่ดีสินะ" ว่าแล้วชายชราก็หยิบสิ่งของสิ่งหนึ่งยื่นให้ชายหนุ่ม สิ่งของสิ่งนั้นรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมมีด้ามจับตรางปลายยื่นออกมา แต่รูปทรงดูอย่างไรก็ไม่ใช่ดาบ หรือถ้าใช่ ก็คงเป็นดาบที่รูปทรงแปลกประหลาดมากทีเดียว "เปิดออกสิ ถึงเวลาแล้ว" ชายหนุ่มก็เปิดออก พร้อมกับพบว่าสิ่งที่อยุ่เบื้องหน้านั่นคือกระจกใบเก่าๆหนึ่งใบที่สะท้อนรูปหน้าของเขาอยู่บนนั้น "ท่านหมายความว่า.." พูดยังไม่ทันจบประโยค ชายชราก็พูดแทรกขึ้นมาว่า "ถูกแล้ว ดาบที่ข้าตีให้เจ้านั้นก็คือตัวเจ้าเอง ส่วนดาบในมือของเจ้าตอนนี้ก็เป็นกระจกที่สะท้อนดาบในตัวเจ้าออกมาให้ตาเจ้าเห็น ถ้าข้าให้ดาบสีทองที่ดีที่สุดตอนนี้แก่เจ้าไปในวัยเด็ก ข้าเกรงว่าแม้แต่เจ้าจะยกมันออกจากร้านเจ้าก็จะไม่มีแรงพอ ถึงต่อให้ยกออกไปได้ข้าก็เกรงว่าความหนักและความคมของมันจะทำให้เจ้าได้รับอันตราย ข้าจึงให้ดาบไม้เจ้าไปฝึกเพื่อให้มีกำลังแขนเสียก่อน แล้วจึงให้ดาบที่ดีขึ้นใหญ่ขึ่น สวยงามขึ้นและหนักขึ้นคมขึ้นแก่เจ้าไปเรื่อยๆในเวลาต่อมาซึ่งเจ้าก้ได้อดทนไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค์ที่เจอ และพอมาจนบัดนี้เจ้าได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเจ้าสามารถที่จะกวัดแกว่งดาบนี้ได้โดยที่ไม่ป็นอันตรายแก่ตนเองและต่อผู้อื่น ข้าจึงมอบดาบนี้ให้เจ้าเพื่อเป็นกระจกที่สะท้อนดาบที่แท้จริงในตัวเจ้าออกมา ขอให้เจ้าจงใช้มันเพื่อปกป้องเพื่อพี่น้องและบ้านเมืองด้วยเถิด"
พระเจ้าทรงมีแผนการ์ณสำหรับมนุษย์ทุกคน เราไม่มีทางรู้ว่าพระองค์ทรงคิดเช่นเรา แต่สามารถวางใจได้อย่างแน่วแน่ว่า พระองค์จะประทานสิ่งที่ดีที่สุดให้เราเสมอไม่ว่าเราจะรับรู้หรือไม่ก็ตาม