ใครเคยที่ความเชื่อเริ่มเลือนหายบ้างคับ
-
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
คือขอเริ่มเรื่องราวก่อนนะคับ แรกเริ่มผมอยู่ต่างจังหวัด อยู่ทางใต้ เคยเป็นเด็กคนหนึ่งที่มีชีวิตบ้าๆบอๆไร้สาระ แค่คิดวา แผ่นปังที่เค้ากินกันคือ ขนมปังปอนด์ และเหล้าองุ่นคือน้ำองุ่น แล้วแบบมากินเลี้ยงกันแบบ พบปะสังสรรค์อะไรแบบเนี้ยอ่ะครับแบบทีนี้ พอจะขึ้นมัธยม(ขอไม่บอกนะคับวว่ามอ.อะไร) ก็ต้องย้ายมาอยู่กทม. และได้เข้าไปโรงเรียนคาทอลิก โรงเรียนหนึ่งซึ่งถือว่าค่อยข้างหรู(ค่อนข้าง ก็คือไม่หรูนะและ) และเริ่มรู้จักว่า แม่พระคือใครจากที่ไม่เคยรู้ว่า คาทอลิกมีแม่พระ และเริ่มเก็บเรื่องราวต่างๆมา เพราะโรงเรียนมีสิซาบ้าง ฉลองโรงเรียนบ้าง ก็เริ่มเก็บสะสมความเชื่อ เป็นเวลาเกือบ2ปีที่ตัดสินใจ จนได้มีโอกาสที่จะเปลี่ยน และเมื่อเรื่องราว เริ่มเดินไปตามกาลเวลา และด้วยปัจจัยต่างๆ เริ่มบั่นทอนความเขชื่อ บั่นทอนไปเรื่อยๆ จน ณ เวลานี้เริ่มสูญสิ้นในความเชื่อไปแล้วหลายส่วน เหตุที่บั่นทอยก็มีเยอะ เยอะจนไม่มีวันจะมานั่งไร่รายการได้ อาทิ เพื่อนมด่าว่า เป็นพุทธแล้วเ-อกกระเดะเป็นคิด(ที่ใช้คำว่า คิดเพราะมันพูดว่าคิด เลยจะใช้คำที่ใกล้เคืองที่สุด) มันมีคนนับ10 ไม่สิร่วม 30 คนที่มาว่าเรื่องนี้ และมีประเด็นอื่นมากมาย ที่ไมรถพูดได้เพราะเรื่องร้ายๆ ใครจะอยากจำจริงป่ะคับ? และถึงกระนั้นความเชื่อก็บั่นทอนไปเรื่อยๆจนใกล้กลับสู่จุดเริ่มต้น
เมื่อก่อนนานมาแล้วผมเกือบเคย ไม่ไม่ถึงขั้นสูญหายความเชื่อ .... แค่จืดจาง อาการคล้ายกับคนที่คิดจะนอกใจคนอื่น แต่ไม่ได้ทำ (ยกตัวอย่างเฉยๆ ไม่เคยนอกใจเลย เพราะไม่มีแฟน 555)
เหตที่ 1 ที่เชื่อถึงพระองค์เพราะทรงเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต และพระองค์ทรงยืนยันด้วนตนเองแล้วว่าพระองค์เป็นพระบุตร ,พระเจ้า และมนุษย์ด้วยและทรงมาทำหน้าที่ไถ่กู้เราจากบาปกลับคืนหาพระองค์ ซึ่งหาคำอ้างเหล่านี้มิได้ในหลักจารึกของศาสนาหรือศาสดาอื่นๆ (ไม่ได้โจมตีศาสนาอื่นเน้อ แค่บอกเล่า)
เหตุที่ 2 เพราะชาวคริสตชนแท้ส่วนใหญ่ เป็นคนดีและยังเผื่อแผ่ความดีแก่ผู้อื่น และไม่ค่อยเบียดเบียนใคร ทำให้ผมตระหนักได้ว่า ...ต้นไม้พันธ์ดีย่อมให้ผลดีวันยังค่ำ แสดงว่ากิจกรรมที่ดีนั้นย่อมเกิดจากคนดีด้วย
เหตุที่ 3 พระเจ้าเป็นความรัก ทรงมีพระเมตตา ทรงรักเรา แม้เราทำบาป ก็ให้อภัยเรา(หากเราสำนึกผิดจริงๆ) ทรงช่วยเหลือเราตลอดเวลาไม่ทอดทิ้ง (บางครั้งเราเหมือนเดินตัวคนเดียวตัวคนเดียว เหงาใจ แต่แท้ที่จริงแล้วทรงอุ้มเราไว้ในอ้อมอก และเดินแทนเรามากกว่า "จึงทำให้เห็นแค่รอยเท้าของพระองค์ไม่ใช่ของเรา")
เหตุที่ 4 เราต่างมีพระบิดา พระบุตร พระจิต แม่พระ นักบุญต่างๆ เทวดา พระสันตะปาปา พระสงฆ์ นักบวชชายหญิง ฆราวาส ต่างมีความรักและสามัคคีกัน
เหตุที่ 5 เรามีความรักเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เหตที่ 1 ที่เชื่อถึงพระองค์เพราะทรงเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต และพระองค์ทรงยืนยันด้วนตนเองแล้วว่าพระองค์เป็นพระบุตร ,พระเจ้า และมนุษย์ด้วยและทรงมาทำหน้าที่ไถ่กู้เราจากบาปกลับคืนหาพระองค์ ซึ่งหาคำอ้างเหล่านี้มิได้ในหลักจารึกของศาสนาหรือศาสดาอื่นๆ (ไม่ได้โจมตีศาสนาอื่นเน้อ แค่บอกเล่า)
เหตุที่ 2 เพราะชาวคริสตชนแท้ส่วนใหญ่ เป็นคนดีและยังเผื่อแผ่ความดีแก่ผู้อื่น และไม่ค่อยเบียดเบียนใคร ทำให้ผมตระหนักได้ว่า ...ต้นไม้พันธ์ดีย่อมให้ผลดีวันยังค่ำ แสดงว่ากิจกรรมที่ดีนั้นย่อมเกิดจากคนดีด้วย
เหตุที่ 3 พระเจ้าเป็นความรัก ทรงมีพระเมตตา ทรงรักเรา แม้เราทำบาป ก็ให้อภัยเรา(หากเราสำนึกผิดจริงๆ) ทรงช่วยเหลือเราตลอดเวลาไม่ทอดทิ้ง (บางครั้งเราเหมือนเดินตัวคนเดียวตัวคนเดียว เหงาใจ แต่แท้ที่จริงแล้วทรงอุ้มเราไว้ในอ้อมอก และเดินแทนเรามากกว่า "จึงทำให้เห็นแค่รอยเท้าของพระองค์ไม่ใช่ของเรา")
เหตุที่ 4 เราต่างมีพระบิดา พระบุตร พระจิต แม่พระ นักบุญต่างๆ เทวดา พระสันตะปาปา พระสงฆ์ นักบวชชายหญิง ฆราวาส ต่างมีความรักและสามัคคีกัน
เหตุที่ 5 เรามีความรักเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
แปลกตรงไหนที่เราจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตเรา เมื่อเราเลือกจะเชื่อทางนี้ เราก็ศึกษาให้เข้าใจถ่องแท้ ผมเองก็เคยเป็นพุทธแล้วตอนนี้ก็เป็นคาทอลิคเต็มตัวครับ ที่บ้านก็เคยว่าแต่ผมก็ยังคงยืนยันเพราะผมทราบว่าสิ่งที่ผมกำลังจะเป็นนั้นคือความจริงและสิ่งนี้ดีที่สุดสำหรับผมครับ
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
เลือนได้แต่อย่าหายค่ะ หมั่นไปวัดบ่อย ๆ
ถ้าหนักจริง ๆ วิ่งเข้าหาคุณพ่อเลย
คุณพ่อเป็นคนของพระต้องช่วยเราให้มั่นคงในพระ
ขอให้ความเชื่อกลับมามั่นคงโดยไวค่ะ
สวัสดี
ถ้าหนักจริง ๆ วิ่งเข้าหาคุณพ่อเลย
คุณพ่อเป็นคนของพระต้องช่วยเราให้มั่นคงในพระ
ขอให้ความเชื่อกลับมามั่นคงโดยไวค่ะ
สวัสดี
แบบนี้ผมก็เคยเจอนะครับ แบบว่าเพื่อนมาด่าเหมือนกัน แต่ตัวมันไม่เห็นจะเอาพุทธตรงไหนเลย แล้วยังมาด่าเราอีก แบบว่า เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไปเลยครับตอนนั้น ถ้าความเชื่อเริ่มสั่นคลอน ลองปรึกษาคุณพ่อดูนะครับ แล้วก็สวดสายประคำมากๆ(อันนี้ลองกับตัวมา ใช้ได้ผลดีครับ)fefa_w เขียน: คือขอเริ่มเรื่องราวก่อนนะคับ แรกเริ่มผมอยู่ต่างจังหวัด อยู่ทางใต้ เคยเป็นเด็กคนหนึ่งที่มีชีวิตบ้าๆบอๆไร้สาระ แค่คิดวา แผ่นปังที่เค้ากินกันคือ ขนมปังปอนด์ และเหล้าองุ่นคือน้ำองุ่น แล้วแบบมากินเลี้ยงกันแบบ พบปะสังสรรค์อะไรแบบเนี้ยอ่ะครับแบบทีนี้ พอจะขึ้นมัธยม(ขอไม่บอกนะคับวว่ามอ.อะไร) ก็ต้องย้ายมาอยู่กทม. และได้เข้าไปโรงเรียนคาทอลิก โรงเรียนหนึ่งซึ่งถือว่าค่อยข้างหรู(ค่อนข้าง ก็คือไม่หรูนะและ) และเริ่มรู้จักว่า แม่พระคือใครจากที่ไม่เคยรู้ว่า คาทอลิกมีแม่พระ และเริ่มเก็บเรื่องราวต่างๆมา เพราะโรงเรียนมีสิซาบ้าง ฉลองโรงเรียนบ้าง ก็เริ่มเก็บสะสมความเชื่อ เป็นเวลาเกือบ2ปีที่ตัดสินใจ จนได้มีโอกาสที่จะเปลี่ยน และเมื่อเรื่องราว เริ่มเดินไปตามกาลเวลา และด้วยปัจจัยต่างๆ เริ่มบั่นทอนความเขชื่อ บั่นทอนไปเรื่อยๆ จน ณ เวลานี้เริ่มสูญสิ้นในความเชื่อไปแล้วหลายส่วน เหตุที่บั่นทอยก็มีเยอะ เยอะจนไม่มีวันจะมานั่งไร่รายการได้ อาทิ เพื่อนมด่าว่า เป็นพุทธแล้วเ-อกกระเดะเป็นคิด(ที่ใช้คำว่า คิดเพราะมันพูดว่าคิด เลยจะใช้คำที่ใกล้เคืองที่สุด) มันมีคนนับ10 ไม่สิร่วม 30 คนที่มาว่าเรื่องนี้ และมีประเด็นอื่นมากมาย ที่ไมรถพูดได้เพราะเรื่องร้ายๆ ใครจะอยากจำจริงป่ะคับ? และถึงกระนั้นความเชื่อก็บั่นทอนไปเรื่อยๆจนใกล้กลับสู่จุดเริ่มต้น
สิ่งที่เพื่อนเปรยๆมา ถ้าไม่เสริมสร้างสันติสุขในจิตในของเรา ก็ไม่ต้องสนใจทุกเรื่องก็ได้ค่ะ
อยากพูดก็พูดไป ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน....หากไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
การที่คุณเปลี่ยนมาเป็นคริสต์ เชื่อว่าคงไม่ทำให้เพื่อนเดือดร้อนใช่ป่าวคะ หึหึหึ
"ผู้ถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา" มัทธิว 5:10
อยากพูดก็พูดไป ฉันจะทำอะไรก็เรื่องของฉัน....หากไม่ทำให้ใครเดือดร้อน
การที่คุณเปลี่ยนมาเป็นคริสต์ เชื่อว่าคงไม่ทำให้เพื่อนเดือดร้อนใช่ป่าวคะ หึหึหึ
"ผู้ถูกเบียดเบียนข่มเหงเพราะความชอบธรรม ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา" มัทธิว 5:10
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
ฉันก็เคยกลัวจะเกิดปัญหาแบบเพื่อนปากเสีย พูดให้เราเสียหาย โดยที่ไม่รู้เหตุผลของเรา
ฉันก็เลยไม่บอกใครเลย จะบอกก็แต่คนที่สนิทกันและเข้าใจเรา
ตอนเที่ยง หรือ เวลาว่างก็แอบไปเรียนคำสอนกับครูอภิบาล
อย่าไปฟังค่ะ พวกเพื่อนของคุณอะ เพราะเขาอยู่กับคุณแค่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่พระเป็นเจ้าอยู่กับคุณตลอดไป
เข้มแข็งไว้ค่ะ
ฉันก็เลยไม่บอกใครเลย จะบอกก็แต่คนที่สนิทกันและเข้าใจเรา
ตอนเที่ยง หรือ เวลาว่างก็แอบไปเรียนคำสอนกับครูอภิบาล
อย่าไปฟังค่ะ พวกเพื่อนของคุณอะ เพราะเขาอยู่กับคุณแค่ช่วงเวลาหนึ่ง แต่พระเป็นเจ้าอยู่กับคุณตลอดไป
เข้มแข็งไว้ค่ะ
-
- โพสต์: 1042
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
- ที่อยู่: Ether23@hotmail.com
แม้ผู้คนจะไร้เหตุผล เห็นแก่ตัวบ้าง
ก็จงให้อภัยเขา
แม้เมื่อท่านใจดี จะมีคนมาปรักปรำว่าท่านมีเจตนาแอบแฝง
ก็จงใจดีต่อไป
แม้เมื่อท่านประสบความสำเร็จ ท่านจะพบมิตรจอมปลอมกับศัตรูที่แท้จริง
ก็จงแสวงหาความสำเร็จต่อไป
แม้เมื่อท่านซื่อสัตย์จริงใจ เขาก็โกงท่าน
ก็จงซื่อสัตย์จริงใจต่อไป
แม้สิ่งที่ท่านสร้างสมมานานหลายปี เขาก็ทำลายเพียงชั่วข้ามคืน
ก็จงสร้างสมต่อไป
แม้เมื่อท่านหาความสงบสุข แล้วจะพบแต่ความริษยา
ก็จงหาความสุขต่อไป
แม้ความดีที่ท่านทำในวันนี้ จะถูกลืมในวันพรุ่ง
ก็จงทำดีต่อไป
แม้จะทำดีที่สุด ก็ไม่เพียงพอสำหรับโลก
ก็จงทำดีให้ถึงที่สุด
ดูเถิด ในวันพิพากษา สิ่งเหล่านี้จะอยู่ต่อหน้าท่านและพระเจ้า
มิใช่พวกเขา
ขอท่านจงก้าวเดินต่อไป
บุญราศี คุณแม่เทเรซา แห่งกัลกัตตา
ก็จงให้อภัยเขา
แม้เมื่อท่านใจดี จะมีคนมาปรักปรำว่าท่านมีเจตนาแอบแฝง
ก็จงใจดีต่อไป
แม้เมื่อท่านประสบความสำเร็จ ท่านจะพบมิตรจอมปลอมกับศัตรูที่แท้จริง
ก็จงแสวงหาความสำเร็จต่อไป
แม้เมื่อท่านซื่อสัตย์จริงใจ เขาก็โกงท่าน
ก็จงซื่อสัตย์จริงใจต่อไป
แม้สิ่งที่ท่านสร้างสมมานานหลายปี เขาก็ทำลายเพียงชั่วข้ามคืน
ก็จงสร้างสมต่อไป
แม้เมื่อท่านหาความสงบสุข แล้วจะพบแต่ความริษยา
ก็จงหาความสุขต่อไป
แม้ความดีที่ท่านทำในวันนี้ จะถูกลืมในวันพรุ่ง
ก็จงทำดีต่อไป
แม้จะทำดีที่สุด ก็ไม่เพียงพอสำหรับโลก
ก็จงทำดีให้ถึงที่สุด
ดูเถิด ในวันพิพากษา สิ่งเหล่านี้จะอยู่ต่อหน้าท่านและพระเจ้า
มิใช่พวกเขา
ขอท่านจงก้าวเดินต่อไป
บุญราศี คุณแม่เทเรซา แห่งกัลกัตตา
-
- โพสต์: 719
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 08, 2008 5:47 am
- ที่อยู่: กาญจนบุรี
โดนใจมากๆครับHoly เขียน: แม้ผู้คนจะไร้เหตุผล เห็นแก่ตัวบ้าง
ก็จงให้อภัยเขา
แม้เมื่อท่านใจดี จะมีคนมาปรักปรำว่าท่านมีเจตนาแอบแฝง
ก็จงใจดีต่อไป
แม้เมื่อท่านประสบความสำเร็จ ท่านจะพบมิตรจอมปลอมกับศัตรูที่แท้จริง
ก็จงแสวงหาความสำเร็จต่อไป
แม้เมื่อท่านซื่อสัตย์จริงใจ เขาก็โกงท่าน
ก็จงซื่อสัตย์จริงใจต่อไป
แม้สิ่งที่ท่านสร้างสมมานานหลายปี เขาก็ทำลายเพียงชั่วข้ามคืน
ก็จงสร้างสมต่อไป
แม้เมื่อท่านหาความสงบสุข แล้วจะพบแต่ความริษยา
ก็จงหาความสุขต่อไป
แม้ความดีที่ท่านทำในวันนี้ จะถูกลืมในวันพรุ่ง
ก็จงทำดีต่อไป
แม้จะทำดีที่สุด ก็ไม่เพียงพอสำหรับโลก
ก็จงทำดีให้ถึงที่สุด
ดูเถิด ในวันพิพากษา สิ่งเหล่านี้จะอยู่ต่อหน้าท่านและพระเจ้า
มิใช่พวกเขา
ขอท่านจงก้าวเดินต่อไป
-
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
ขอบคุณนะคับาหรับกำลังใจดีๆที่มีให้ แต่ ณ เวลานี้อยากรู้ว่า หมอรักษาความเชื่อ คือใคร เหมือนเคยได้ยินมาจากที่ไหนอ่ะคับ เมื่อคืนเหมือนมีอะไรสักอย่างมาดลใจให้นุกถึงคำๆนี้ขึ้นมา เพราะก่อนนอนนั่งสวดวันทามารีอาจบก็สลบเลย ไม่รู้เรื่องจนมีคำๆนี้พุดมาในสมอง แต่เหมือนว่าผมอ่ะ จะต้องตามหาคน นี้ให้เจอ ทั้งๆที่ผมไม่รู้อะไรเลยคับ
-
- โพสต์: 199
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 02, 2008 8:19 pm
ใช่พระสงฆ์ป่าวค่ะ ไม่แน่ใจนะ ลองคิดไปเอง
เพราะพระสงฆ์ต้องช่วยให้เรามีความมั่นคงในพระเป็นเจ้า
ให้เรามีความเชื่อและความไว้วางใจในพระองค์ตลอด
เพราะพระสงฆ์ต้องช่วยให้เรามีความมั่นคงในพระเป็นเจ้า
ให้เรามีความเชื่อและความไว้วางใจในพระองค์ตลอด
fefa_w เขียน: ขอบคุณนะคับาหรับกำลังใจดีๆที่มีให้ แต่ ณ เวลานี้อยากรู้ว่า หมอรักษาความเชื่อ คือใคร เหมือนเคยได้ยินมาจากที่ไหนอ่ะคับ เมื่อคืนเหมือนมีอะไรสักอย่างมาดลใจให้นุกถึงคำๆนี้ขึ้นมา เพราะก่อนนอนนั่งสวดวันทามารีอาจบก็สลบเลย ไม่รู้เรื่องจนมีคำๆนี้พุดมาในสมอง แต่เหมือนว่าผมอ่ะ จะต้องตามหาคน นี้ให้เจอ ทั้งๆที่ผมไม่รู้อะไรเลยคับ
1.หมอรักษาความเชื่อ ก็คือตัวเราเองครับ ต้องเข้มแข็ง ไม่ย่อท้อต่อการผจญและความยากลำบาก(ทั้งทางกายและใจ) จากการดำรงชีวิต และความเชื่อ
2.หมอรักษาความเชื่อ ก็คือตัวเราเองครับ ต้องหมั่นภาวนา และคิดถึงพระเสมอเมื่อเกิดการผจญ พระจะช่วย(และรับฟัง)ได้อย่างไร หากเราไม่ภาวนาและคิดถึงพระ
3.หมอรักษาความเชื่อ ก็คือตัวเราเองครับ พระสงฆ์เพียงแค่ชี้แนะ พี่น้องคอยให้กำลังใจ เพื่อนฝูงคอยปลอบใจครับ และพระเจ้าคอยดูแลคุณครับ
4.หมอรักษาความเชือ ก็คือตัวเราเองครับ เพราะพระเจ้า จะไม่ช่วยคนที่ไม่ยอมช่วยตัวเองก่อน
ขอบคุณครับ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ความเชื่อเป็นพระหรรษทาน เราสามารถสวดขอพระได้ พระเป็นเจ้าให้เราเชื่อใคร ก็คือ เชื่อพระองค์ พระองค์รักเรา และทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้ความรักเรามา และพระองค์จะทำทุกอย่าง ให้เราไว้ใจ วางใจ และเชื่อในพระองค์ ถ้าเรารู้สึกว่า ความเชื่อเราขาดหาย เราก็บอกพระองค์ได้ สวดขอพระองค์ และมีความสัมพันธ์กับพระองค์
ความเชื่อขาดหาย ก็คือ ความสัมพันธ์กับพระของเราจางลง การจะทำให้กลับมา ก็ต้องทำด้วยการพัฒนาความสัมพันธ์กับพระ ถ้าเราไม่ได้ร้อนรนขนาดนั้น ก็อาจจะต้องฝืนๆก่อนนิดนึง เหมือนเวลาเบื่อๆที่บ้าน ไม่อยากไปไหนกับที่บ้าน เบื่อเพื่อน เบื่อแฟน แต่เราก็รู้ว่า เราก็อยากมีความสัมพันธ์กับเค้าอยู่ เราก็ต้องฝืนๆไปเที่ยว ไปคุยกับเค้า แรกๆก็ฝืน แต่ต่อมา มันก็จะมีอะไรซักอย่างที่เราดึงเรากลับและทำให้เราร้อนรนขึ้น แต่ก่อนจะถึงตรงนั้น เราต้องลงแรงนิดนึง
สนใจรับสายจำพวกเขียวมั้ยคะ ตามนี้นะคะ http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=3908.30
ความเชื่อขาดหาย ก็คือ ความสัมพันธ์กับพระของเราจางลง การจะทำให้กลับมา ก็ต้องทำด้วยการพัฒนาความสัมพันธ์กับพระ ถ้าเราไม่ได้ร้อนรนขนาดนั้น ก็อาจจะต้องฝืนๆก่อนนิดนึง เหมือนเวลาเบื่อๆที่บ้าน ไม่อยากไปไหนกับที่บ้าน เบื่อเพื่อน เบื่อแฟน แต่เราก็รู้ว่า เราก็อยากมีความสัมพันธ์กับเค้าอยู่ เราก็ต้องฝืนๆไปเที่ยว ไปคุยกับเค้า แรกๆก็ฝืน แต่ต่อมา มันก็จะมีอะไรซักอย่างที่เราดึงเรากลับและทำให้เราร้อนรนขึ้น แต่ก่อนจะถึงตรงนั้น เราต้องลงแรงนิดนึง
สนใจรับสายจำพวกเขียวมั้ยคะ ตามนี้นะคะ http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=3908.30
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
ใครจะเป็นยังไงก็ช่างผมขอกอดเสาเรือไว้แน่นพร้อมจะไปตามเข้มทิศที่ต้องการสวรรค์เบื่องหน้า
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
บูเคยจืดจาง ถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตายงับ
แย่มากๆ
แย่มากๆ
ไม่เคยเสื่อมความศรัทธาค่ะ
BouQueT*Mary Mag เขียน: บูเคยจืดจาง ถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตายงับ
แย่มากๆ
เรียนน้องบู น้องไม่ได้แย่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แค่น้องรู้สึกว่ามันไม่ดี ไม่ถูกต้อง พระก็เข้าใจแล้ว ดีกว่าบางพวก ดูเผินๆเหมือนจะศรัทธา แต่พฤติกรรมดูถูก เหยียดหยาม ลบหลู่ ดูหมิ่น และไร้ความเมตตา ปรานีต่อผู้อ่อนแอและผู้ถูกทอดทึ้ง ทั้งๆที่ปากตนเองบอกว่าร้กพระ แบบนี้ แย่กว่าเยอะครับ สวดภาวนาง่ะ พระท่านฟัง แต่แม่ค้าขายข้าว เราจ่ายเขาเป็นคำภาวนาเพื่อแลกอาหารไม่ได้หรอกนะ และคำหวานและคำภาวนา มันปลดปล่อยโซ่ตรวนคนไร้ความผิดไม่ได้หรอกนะ พัสดีและตำรวจไม่รับฟัง(ใช่ไหม)
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
-
- โพสต์: 973
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
- ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
- ติดต่อ:
เวลามีอะไร ที่เหมือนจะทำให้ความเชื่อเลือนได้
ผมมักท่องคำพูดของสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์นที่ 23
"เราไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลัว ความกลัวมาจากการขาดความเชื่อ"
ความเชื่อเลยแจ่มตลอด
พร้อมเป็น ลูกแกะห่มหนังหมาป่า พร้อมตะลุย
ผมมักท่องคำพูดของสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์นที่ 23
"เราไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลัว ความกลัวมาจากการขาดความเชื่อ"
ความเชื่อเลยแจ่มตลอด
พร้อมเป็น ลูกแกะห่มหนังหมาป่า พร้อมตะลุย
เวลาเกิดปัญหา...ไม่เข้าใจ ท้อใจ เหนื่อยใจ เศร้าใจ
ก็จะนึกถึงวันที่รับศีลล้างบาปวันแรกในชีวิต
นึกถึงวันที่เราเดินไปเข้าแถวรอรับพระกายของพระคริสตเจ้า
นึกถึงเวลาที่แผ่นศีล พระกายของพระองค์ที่ค่อยซึมซับมาอยู่ในตัวเรา
พอนึกถึงตอนนี้...ก็รู้สึกว่าชุ่มชื่นใจ
ที่ขุ่นใจ ท้อใจ ไม่สบายใจ ก็...
ค่อยๆจางลง
เหลือแต่นำ้ตาและความสำนึกว่า
พระองค์รักเรามากเหลือเกิน
พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดพ้นมิใช่เพราะกิจการชอบธรรมใดๆที่เรากระทำ
แต่เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ ทรงใช้นำ้ชำระเราให้สะอาด
เราจึงเกิดใหม่ และได้รับการฟื้นฟูโดยพระจิตเจ้า
พระองค์ทรงหลั่งพระจิตเจ้าลงเหนือเราอย่างอุดม
โดยทางพระเยซูคริสตเจ้าพระผู้ไถ่ของเรา
เพื่อพระหรรษาทานของพระองค์ จะบันดาลให้เรากลับเป็นผู้ชอบธรรม
และเป็นทายาทในความหวังว่าจะได้ชีวิตนิรันดร " (ทต.3:5-7)
ก็จะนึกถึงวันที่รับศีลล้างบาปวันแรกในชีวิต
นึกถึงวันที่เราเดินไปเข้าแถวรอรับพระกายของพระคริสตเจ้า
นึกถึงเวลาที่แผ่นศีล พระกายของพระองค์ที่ค่อยซึมซับมาอยู่ในตัวเรา
พอนึกถึงตอนนี้...ก็รู้สึกว่าชุ่มชื่นใจ
ที่ขุ่นใจ ท้อใจ ไม่สบายใจ ก็...
ค่อยๆจางลง
เหลือแต่นำ้ตาและความสำนึกว่า
พระองค์รักเรามากเหลือเกิน
พระองค์ทรงช่วยเราให้รอดพ้นมิใช่เพราะกิจการชอบธรรมใดๆที่เรากระทำ
แต่เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ ทรงใช้นำ้ชำระเราให้สะอาด
เราจึงเกิดใหม่ และได้รับการฟื้นฟูโดยพระจิตเจ้า
พระองค์ทรงหลั่งพระจิตเจ้าลงเหนือเราอย่างอุดม
โดยทางพระเยซูคริสตเจ้าพระผู้ไถ่ของเรา
เพื่อพระหรรษาทานของพระองค์ จะบันดาลให้เรากลับเป็นผู้ชอบธรรม
และเป็นทายาทในความหวังว่าจะได้ชีวิตนิรันดร " (ทต.3:5-7)
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
อ่านะพี่แก้ว แต่มันก้อแย่ในระดับนึงPry-Kaew เขียน:BouQueT*Mary Mag เขียน: บูเคยจืดจาง ถึงขั้นพยายามฆ่าตัวตายงับ
แย่มากๆ
เรียนน้องบู น้องไม่ได้แย่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แค่น้องรู้สึกว่ามันไม่ดี ไม่ถูกต้อง พระก็เข้าใจแล้ว ดีกว่าบางพวก ดูเผินๆเหมือนจะศรัทธา แต่พฤติกรรมดูถูก เหยียดหยาม ลบหลู่ ดูหมิ่น และไร้ความเมตตา ปรานีต่อผู้อ่อนแอและผู้ถูกทอดทึ้ง ทั้งๆที่ปากตนเองบอกว่าร้กพระ แบบนี้ แย่กว่าเยอะครับ สวดภาวนาง่ะ พระท่านฟัง แต่แม่ค้าขายข้าว เราจ่ายเขาเป็นคำภาวนาเพื่อแลกอาหารไม่ได้หรอกนะ และคำหวานและคำภาวนา มันปลดปล่อยโซ่ตรวนคนไร้ความผิดไม่ได้หรอกนะ พัสดีและตำรวจไม่รับฟัง(ใช่ไหม)
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม