†วิกฤตศรัทธาในฝรั่งเศส และการประจักษ์ของพระเยซูเจ้า†
หลายๆคนอาจเคยได้ยิน การขนานนามฝรั่งเศส ในชื่อว่าธิดาหัวปีของพระศาสนจักร
เพราะฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกที่นับถือคริสตศาสนา คาทอลิคเป็นศาสนาประจำชาติ และนอกจากนี้ เรายังพบนักบุญ และการประจักษ์+การอัศจรรย์มากมาย ในประเทศนี้ และแม้แต่ในกรณีถูกยึดครอง สวรรค์ยังส่งนักบุญ วีรสตรีมาช่วยเหลือ จึงเห็นได้ว่า ฝรั่งเศสนี้ เป็นประเทศที่พระเจ้าเมตตามาก และการประจักษ์ที่สำคัญมากๆทั้งหลายเช่น ลูรด์ เหรียญแม่พระอัศจรรย์ และพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ก็เกิดขึ้นที่ประเทศนี้
แต่เราอาจเคยทราบข่าวว่าปัจจุบันนี้ ได้มีการละทิ้งศาสนาอย่างมากมาย และความเฉยชามากมายในประเทศนี้ ผมเคยได้ฟังคุณพ่อมิชชันนารีชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่ง เล่าถึงความทิ้งศรัทธาในประเทศของท่านด้วยน้ำตา เพราะว่า แม้จะมีวัดมากมาย แต่ในเมืองไทยยังมีคนไปวัดมากกว่าฝรั่งเศส วัดในฝรั่งเศสแทบจะไม่เคยมีวัดไหนคนเต็มในมิซซาแล้ว
---
ย้อนหลังไป เมื่อปี 1673 ที่ประเทศฝรั่งเศสนี้ ได้มีการประจักษ์ที่เรียกได้ว่าเป็น1ในการประจักษ์ที่สำคัญที่สุดของพระศาสนจักร คือ การประจักษ์มาของพระหฤทัยพระเยซูเจ้า ต่อซิสเตอร์ มาคาร์รีตา มารีอา
หญิงชนบทซื่อๆคนหนึ่ง ได้รับนิมิตยิ่งใหญ่ ของ ความรักสุดหัวใจขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเธอ
และเป็นที่มาของภาพพระหฤทัย ที่คาทอลิคทั่วโลกให้ความศรัทธามาจนถึงปัจจุบัน
การประจักษ์นี้ นอกจากจะยิ่งใหญ่ด้วยว่าเป็นการเสด็จมาสำแดงองค์ของ องค์ความรัก เองแล้ว ยังมีจุดที่น่าสนใจมาก ที่คล้ายกับกรณีของฟาติมา
คือข้อเสนอที่พระเจ้าจะพลิกประเทศ!
ที่ฟาติมา แม่พระได้ขอร้อง ให้ถวายรัสเซียแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่ และแม่พระยังทำนายไว้ว่า หากกระทำตาม การล่มสลายของระบอบคอมมูนิสต์ ระบอบที่ย่ำยีศาสนาไปทั่วโลกจะหมดลง และเมื่อพระสันตะปาปา หลายพระองค์ และเจ้าหญิงหลายประเทศ ได้พยายามปฏิบัติตามนั้น ก็สมจริงดังคำทำนายของแม่ ในยุคสมัยของเราเองที่รัสเซียได้ฟื้นขึ้นจากความตาย
ส่วนที่ฝรั่งเศสในการประจักษ์มาของพระหฤทัยฯ นอกจากเราจะได้บทสวด พระสัญญา พระรูป และ ฯลฯ แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้พูดถึง เพราะมันเป็นคำขอจากองค์พระผู้ไถ่ถึงประเทศฝรั่งเศสเป็นการเฉพาะ
นั่นคือสารของพระองค์ ต่อพระเจ้าหลุยส์ที่14 กษัตริย์ฝรั่งเศส ให้ถวายพระองค์เอง และข้าราชบริพารทั้งหมด ต่อดวงพระหฤทัยศักดิ์ของพระเยซูเจ้า และพระองค์จะนำชัยชนะแห่งพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ไปยังผู้ยิ่งใหญ่ทั่วโลกผ่านทางกษัตริย์ฝรั่งเศสผู้นี้ และยังขอให้พระเจ้าหลุยส์ที่14 ขออณุญาติกรุงโรม ในการทำพิธีมิซซาของพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นการพิเศษ และขอเอกสิทธิ์ในการช่วยเหลือพิเศษ ต่อการเผยแพร่พระหฤทัยไปทั่วโลก พระเยซูเจ้า ยังทรงเมตตา จะประทาน"พระหรรษทาน"ความศักดิ์สิทธิ์และความรอดเป็นพิเศษ แก่พระเจ้าหลุยส์ด้วย
และผลตอบรับคือ..........
ไม่มีการปฏิบัติใดๆตามที่พระเยซูเจ้าขอจากกษัตริย์ฝรั่งเศสผู้นี้
หลังจากนั้นไม่นาน การปฎิวัติฝรั่งเศสก็เริ่มขึ้น และกลียุคที่ล่มสลายราชวงค์ของกษัตริย์ฝรั่งเศสก็บังเกิดอย่างโหดร้าย พระศาสนจักรรับผลกระทบอย่างรุนแรง และพระศาสนจักรฝรั่งเศสก็เริ่มเสื่อมลงตามลำดับ จนปัจจุบัน มีสภาพดังที่เราท่านบางคนได้ทราบ
ในพระธรรมเก่า บาปของผู้นำจะกลายเป็นบาปของประชาชาติ คือทุกคนที่อยู่ในประเทศจะได้รับผลบาปนั้น และพระพรที่ลงมาสู่ผู้นำก็เป็นพระพรสู่ประชาชาติ ส่งผลให้ชาติทั้งหมดเจริญรุ่งเรือง
ในช่วงเวลาการประจักษ์อันประจวบเหมาะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงทราบสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต? และทรงพระเมตตายื่นข้อเสนอเป็น "ทางรอด" พิเศษให้ แต่ดูเหมือนว่าความเขลาของมนุษย์ เรียกร้องชะตากรรมเดิม มากกว่า ชีวิตใหม่
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าธิดาหัวปีของพระศาสนจักรผู้นี้ ตอบรับพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า? พระเยซูเจ้าจะทำอะไรกับโลกใบนี้ถ้าธิดาหัวปียอมรับเสียงเรียกจากบิดาของเธอ? ความศรัทธาของประเทศคาทอลิคประเทศแรกของโลก จะมีสภาพเป็นอย่างไรในปัจจุบัน จะต่างกับที่เราทราบทุกวันนี้แค่ไหนหนอ?
และโลกจะเป็นอย่างไร ในพระหฤทัยเปี่ยมรักของพระเยซูเจ้า?
ฮบ 3:7
วันนี้ ถ้าท่านทั้งหลายได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ จงอย่าทำใจแข็งกระด้างเลย
เพราะฝรั่งเศสเป็นประเทศแรกที่นับถือคริสตศาสนา คาทอลิคเป็นศาสนาประจำชาติ และนอกจากนี้ เรายังพบนักบุญ และการประจักษ์+การอัศจรรย์มากมาย ในประเทศนี้ และแม้แต่ในกรณีถูกยึดครอง สวรรค์ยังส่งนักบุญ วีรสตรีมาช่วยเหลือ จึงเห็นได้ว่า ฝรั่งเศสนี้ เป็นประเทศที่พระเจ้าเมตตามาก และการประจักษ์ที่สำคัญมากๆทั้งหลายเช่น ลูรด์ เหรียญแม่พระอัศจรรย์ และพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ก็เกิดขึ้นที่ประเทศนี้
แต่เราอาจเคยทราบข่าวว่าปัจจุบันนี้ ได้มีการละทิ้งศาสนาอย่างมากมาย และความเฉยชามากมายในประเทศนี้ ผมเคยได้ฟังคุณพ่อมิชชันนารีชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่ง เล่าถึงความทิ้งศรัทธาในประเทศของท่านด้วยน้ำตา เพราะว่า แม้จะมีวัดมากมาย แต่ในเมืองไทยยังมีคนไปวัดมากกว่าฝรั่งเศส วัดในฝรั่งเศสแทบจะไม่เคยมีวัดไหนคนเต็มในมิซซาแล้ว
---
ย้อนหลังไป เมื่อปี 1673 ที่ประเทศฝรั่งเศสนี้ ได้มีการประจักษ์ที่เรียกได้ว่าเป็น1ในการประจักษ์ที่สำคัญที่สุดของพระศาสนจักร คือ การประจักษ์มาของพระหฤทัยพระเยซูเจ้า ต่อซิสเตอร์ มาคาร์รีตา มารีอา
หญิงชนบทซื่อๆคนหนึ่ง ได้รับนิมิตยิ่งใหญ่ ของ ความรักสุดหัวใจขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเธอ
และเป็นที่มาของภาพพระหฤทัย ที่คาทอลิคทั่วโลกให้ความศรัทธามาจนถึงปัจจุบัน
การประจักษ์นี้ นอกจากจะยิ่งใหญ่ด้วยว่าเป็นการเสด็จมาสำแดงองค์ของ องค์ความรัก เองแล้ว ยังมีจุดที่น่าสนใจมาก ที่คล้ายกับกรณีของฟาติมา
คือข้อเสนอที่พระเจ้าจะพลิกประเทศ!
ที่ฟาติมา แม่พระได้ขอร้อง ให้ถวายรัสเซียแด่ดวงหทัยนิรมลของแม่ และแม่พระยังทำนายไว้ว่า หากกระทำตาม การล่มสลายของระบอบคอมมูนิสต์ ระบอบที่ย่ำยีศาสนาไปทั่วโลกจะหมดลง และเมื่อพระสันตะปาปา หลายพระองค์ และเจ้าหญิงหลายประเทศ ได้พยายามปฏิบัติตามนั้น ก็สมจริงดังคำทำนายของแม่ ในยุคสมัยของเราเองที่รัสเซียได้ฟื้นขึ้นจากความตาย
ส่วนที่ฝรั่งเศสในการประจักษ์มาของพระหฤทัยฯ นอกจากเราจะได้บทสวด พระสัญญา พระรูป และ ฯลฯ แต่มีสิ่งหนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้พูดถึง เพราะมันเป็นคำขอจากองค์พระผู้ไถ่ถึงประเทศฝรั่งเศสเป็นการเฉพาะ
นั่นคือสารของพระองค์ ต่อพระเจ้าหลุยส์ที่14 กษัตริย์ฝรั่งเศส ให้ถวายพระองค์เอง และข้าราชบริพารทั้งหมด ต่อดวงพระหฤทัยศักดิ์ของพระเยซูเจ้า และพระองค์จะนำชัยชนะแห่งพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ไปยังผู้ยิ่งใหญ่ทั่วโลกผ่านทางกษัตริย์ฝรั่งเศสผู้นี้ และยังขอให้พระเจ้าหลุยส์ที่14 ขออณุญาติกรุงโรม ในการทำพิธีมิซซาของพระหฤทัยของพระเยซูเจ้าเป็นการพิเศษ และขอเอกสิทธิ์ในการช่วยเหลือพิเศษ ต่อการเผยแพร่พระหฤทัยไปทั่วโลก พระเยซูเจ้า ยังทรงเมตตา จะประทาน"พระหรรษทาน"ความศักดิ์สิทธิ์และความรอดเป็นพิเศษ แก่พระเจ้าหลุยส์ด้วย
และผลตอบรับคือ..........
ไม่มีการปฏิบัติใดๆตามที่พระเยซูเจ้าขอจากกษัตริย์ฝรั่งเศสผู้นี้
หลังจากนั้นไม่นาน การปฎิวัติฝรั่งเศสก็เริ่มขึ้น และกลียุคที่ล่มสลายราชวงค์ของกษัตริย์ฝรั่งเศสก็บังเกิดอย่างโหดร้าย พระศาสนจักรรับผลกระทบอย่างรุนแรง และพระศาสนจักรฝรั่งเศสก็เริ่มเสื่อมลงตามลำดับ จนปัจจุบัน มีสภาพดังที่เราท่านบางคนได้ทราบ
ในพระธรรมเก่า บาปของผู้นำจะกลายเป็นบาปของประชาชาติ คือทุกคนที่อยู่ในประเทศจะได้รับผลบาปนั้น และพระพรที่ลงมาสู่ผู้นำก็เป็นพระพรสู่ประชาชาติ ส่งผลให้ชาติทั้งหมดเจริญรุ่งเรือง
ในช่วงเวลาการประจักษ์อันประจวบเหมาะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงทราบสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต? และทรงพระเมตตายื่นข้อเสนอเป็น "ทางรอด" พิเศษให้ แต่ดูเหมือนว่าความเขลาของมนุษย์ เรียกร้องชะตากรรมเดิม มากกว่า ชีวิตใหม่
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าธิดาหัวปีของพระศาสนจักรผู้นี้ ตอบรับพันธสัญญาขององค์พระผู้เป็นเจ้า? พระเยซูเจ้าจะทำอะไรกับโลกใบนี้ถ้าธิดาหัวปียอมรับเสียงเรียกจากบิดาของเธอ? ความศรัทธาของประเทศคาทอลิคประเทศแรกของโลก จะมีสภาพเป็นอย่างไรในปัจจุบัน จะต่างกับที่เราทราบทุกวันนี้แค่ไหนหนอ?
และโลกจะเป็นอย่างไร ในพระหฤทัยเปี่ยมรักของพระเยซูเจ้า?
ฮบ 3:7
วันนี้ ถ้าท่านทั้งหลายได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ จงอย่าทำใจแข็งกระด้างเลย
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อาทิตย์ ส.ค. 24, 2008 10:06 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
น่าสงสารพระองค์นะครับ ทรงประทานความรอดให้แล้ว ยังไม่ยอมรับพระองค์
น่าเสียใจเช่นกัน แต่ก็น่ายินดีที่พระศาสนจักรเติบโตในเอเชีย
เพื่อนคิรสเตียนเคยพูดไว้ว่า เรากำลังจะถึงยุคสุดท้ายแล้ว ใกล้วันที่พระเยซุเจ้าใกล้กลับมาทุกที เริ่มกลัวๆแล้วแฮะ><
เพื่อนคิรสเตียนเคยพูดไว้ว่า เรากำลังจะถึงยุคสุดท้ายแล้ว ใกล้วันที่พระเยซุเจ้าใกล้กลับมาทุกที เริ่มกลัวๆแล้วแฮะ><
ในความคิดของแดน สิ่งที่ทิ่มแทงดวงหทัยของพระองค์ คือบาปของเรา
แล้วสิ่งที่หลั่งออกมา
พระโลหิตของพระองค์ คือยืนยันว่าพระองค์เป็นมนุษย์แท และพระเป็นเจ้าแท้
น้ำคือบาปของเรา ถูกชำระหมดสิ้น
แต่บาปของเรายังไม่หยุด กลับตอบสนองพระองค์ดุจเปลวไฟในดวงหทัยของพระองค์อีก
ข้าพเจ้าเป็นคน บาป ข้าพเจ้า ยอมรับว่าเป็นคนบาป
เนื่องด้วยรายการที่พิธีกรหญิงที่อ้างตัวว่าเคร่งคาทอลิค แต่ทิ้งพระเพราะ เคร่งแต่อภัยและมีความรักโดยปราศจากเงื่อนไขและไม่จดจำความผิดไม่ได้? นำเสนอเรื่องความเสื่อมของประเทศฝรั่งเศสในเชิงที่เธอต้องการ จึงทำให้คิดถึงกระทู้นี้ขึ้นมาเลยดันขึ้นมาเผื่อคนที่อาจยังไม่ได้อ่านครับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
จริงๆแล้ว พิธีกร หญิงคนนั้น น่าจะไปทำรายการ ฉลองแม่พระเมืองลูด ครบ 150 ปีนะครับ และจะได้รับการอภัยบาป แบบ ปีพระคุณการุณHoly เขียน: เนื่องด้วยรายการที่พิธีกรหญิงที่อ้างตัวว่าเคร่งคาทอลิค แต่ทิ้งพระเพราะ เคร่งแต่อภัยและมีความรักโดยปราศจากเงื่อนไขและไม่จดจำความผิดไม่ได้? นำเสนอเรื่องความเสื่อมของประเทศฝรั่งเศสในเชิงที่เธอต้องการ จึงทำให้คิดถึงกระทู้นี้ขึ้นมาเลยดันขึ้นมาเผื่อคนที่อาจยังไม่ได้อ่านครับ
พอดีเมื่อเช้ามืด ได้ตื่นดู รายการพระเจ้าสถิตกับท่าน ทางช่อง NBT พิธีกรรับเชิญ คือ "พ่อเล็ก" บาทหลวง ดร.สุรชัย ชุ่มศรีพันธุ์ ในฐานะ
ไปแสวงบุญที่ลูด กว่า 10 ครั้งแล้ว มาเล่าให้ฟัง
ตุลาคม นี้ ท่านจะเป็นผู้นำแสวงบุญ ไปที่ลูด พรรคพวกนิวมานาใครไปบ้างครับ
ฟังแล้ว อยากไปจัง
Holy เขียน: เนื่องด้วยรายการที่พิธีกรหญิงที่อ้างตัวว่าเคร่งคาทอลิค แต่ทิ้งพระเพราะ เคร่งแต่อภัยและมีความรักโดยปราศจากเงื่อนไขและไม่จดจำความผิดไม่ได้? นำเสนอเรื่องความเสื่อมของประเทศฝรั่งเศสในเชิงที่เธอต้องการ จึงทำให้คิดถึงกระทู้นี้ขึ้นมาเลยดันขึ้นมาเผื่อคนที่อาจยังไม่ได้อ่านครับ
หากการประพฤติ และปฎิบัติ ในความเชื่อคริสตัง รวมทั้งกิจศรัทธาของพิธีกรคนดังกล่าว ถือว่าตัวเองเคร่งแล้ว ดูท่าแล้วนะ พี่น้องในบอรด์นี้ คงจะได้เป็นนักบุญกันหมดแน่ๆเลย เพราะท่านพิธีกรหมูอ้วนทั้งทึ้งวัด ทึ้งความเชื่อ ไม่ให้เกียริต์ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเอาความเชื่อมาพูดแบบเสียๆหายๆ ยังถือว่าตัวเองเป็นคนเคร่งเลย แบบนี้ เป็นคริสตังแบบปากกัดตีนถีบ เป็นด้วยน้ำตา และไม่ขาดวัด รวมทั้งยังสวดภาวนา คงจะได้เป็นนักบุญกันหมดเลยเนอะ
ให้มันได้แบบนี้สิ คริสตังยืนหลายคน ต้องเป็นด้วยน้ำตาและความชอกช้ำ เพื่อความเป็นคริสตังอันเป็นที่รัก อยู่ใกล้พระแต่ยอมเจ็บก็ยอม แต่.......นังพิธีกรหมูอ้วน ทึ้งวัด ทึ้งความเชื่อ ดันผ่าบอกตัวเองเคร่ง ตัวเขาเองเคยต้องถูกทดลองและลำบากเพราะการเป็นคริสตัง เท่ากับน้องโอ๊ตและผมหรือเปล่ายังไม่รู้เลย หากพิธีกรคนดังกล่าวถือว่าเคร่งแล้ว น้องโอ๊ตคงได้เป็นนักบุญอย่างแน่นอนเลยล่ะ ท่านผู้ชม
-
- โพสต์: 1042
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
- ที่อยู่: Ether23@hotmail.com
ผมว่าตอนนี้ ต้องแทบ แอฟริกาคับ สุดยอดมาก ดูใน
โอลิมปิค เปล่า พวก จาเมก้า งี้ ไนจีเรีย งี้ บราซิลงี้
สุดยอดคับผมว่าแผ่นดินไม่สิ้นคนเชื่อพระเยซูคริสต์คับ
โอลิมปิค เปล่า พวก จาเมก้า งี้ ไนจีเรีย งี้ บราซิลงี้
สุดยอดคับผมว่าแผ่นดินไม่สิ้นคนเชื่อพระเยซูคริสต์คับ
น่าเสียดายมหาวิหารอันตระการตานับร้อย นับพันแห่งในประเทศฝรั่งเศสนะครับ สถานการณ์ทางศาสนาในฝรั่งเศสตอนนี้ก้อคงคล้ายกับศาสนาพุทธใน
ประเทศไทย ประเทศไทยมีวัดวาอารามที่ใหญ่โต สวยงาม เก่าแก่มากมาย แต่คนที่ไปวัดก้อมีแต่พวกวัยกลางคนขึ้นไป จำนวนพระ นักบวชลดลงเรื่อยๆ พระ
ที่ประพฤติผิดศีลธรรมก้อมีมากขึ้นเรื่อยๆจนประชาชนถอยห่างจากศาสนา แต่ประชาชนชาวไทยพุทธก้อยังมีสำนึกในศาสนามากกว่าชาวยุโรปนะครับ สังเกต
ได้เลยว่าเวลาแต่งงานกับฝรั่ง ชาวไทยน้อยมากที่จะเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ แถมยังชักชวนฝรั่งเหล่านั้นให้มานับถือศาสนาพุทธอีกด้วย แล้วคนไทยที่
ไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศทั้งยุโรป อเมริกาก้อจะมีการรวมตัวกันที่วัดไทยอย่างแข็งขัน เวลามีวันสำคัญทางศาสนาจะมีการจัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่า
คนไทยอยู่ในสังคมตะวันตกที่คนส่วนมากนับถือคริสต์ แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ยังคงความมั่นคงในศาสนาพุทธอยู่ไม่เสื่อมคลาย ผิดกับชาวตะวันตกที่ไม่มีความ
มั่นคงทางศาสนา พอแต่งงานกับคนไทยปุ๊บ ส่วนมากก้อจะเปลี่ยนมานับถือพุทธทันทีโดยไม่ลังเล หรือบางท่านแค่มาเที่ยวเมืองไทย แล้วสนใจปฏิบัติธรรม
นั่งสมาธิเลยก้อมี อาจจะเป็นไปได้ไหมครับว่าชาวยุโรปส่วนมากโดนบังคับให้ศรัทธาในศาสนาเพราะอิทธิพลของศาสนจักรในยุคกลาง มากกว่าเกิดความ
ศรัทธาที่มาจากประสบการณ์ส่วนตัวกับพระผู้เป็นเจ้าโดยแท้จริง บางทีการสอนศาสนาในยุคกลางอาจจะส่งผลกระทบถึงปัจจุบันรึป่าวคับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
ศาลทางศาสนา การลงโทษและเกิดสงครามหลายคร้งกับนิกายโปรเตสแตนท์ อำนาจที่มากจนเกินพอดีของพระสันตะปาปา ความรำรวยของนักบวช สถาบัน
สงฆ์ แนวคิดเหตุผลนิยม ยุค Enlightenment ความก้าวหน้าทางวิทยาการ รวมถึงการล่าอาณานิคม ทำให้คาทอลิกยุคใหม่ในยุโรปที่นับถือแบบทะเบียน
บ้านที่ไม่ได้แสวงหาพระเจ้าด้วยตนเอง และครอบครัวก้อเรื่อยๆเปื่อยๆเกิดความเคลือบแคลงทางศาสนามาก มองเห็นว่านิกายคาทอลิกมีสิ่งเลวร้ายมากมาย
ในอดีต และเห็นว่าสถาบันพระ นักบวชไม่ได้เป็นที่พึ่งของประชาชน ทำให้พวกเขาเหล่านั้นออกห่างจากศาสนาได้อย่างง่ายดาย และมองเห็นมหาวิหาร
อันตระการตาในประเทศตนเองเป็นแค่สถานที่ท่องเที่ยวมากกว่าเป็นที่สงบทางจิตใจ
ประเทศไทย ประเทศไทยมีวัดวาอารามที่ใหญ่โต สวยงาม เก่าแก่มากมาย แต่คนที่ไปวัดก้อมีแต่พวกวัยกลางคนขึ้นไป จำนวนพระ นักบวชลดลงเรื่อยๆ พระ
ที่ประพฤติผิดศีลธรรมก้อมีมากขึ้นเรื่อยๆจนประชาชนถอยห่างจากศาสนา แต่ประชาชนชาวไทยพุทธก้อยังมีสำนึกในศาสนามากกว่าชาวยุโรปนะครับ สังเกต
ได้เลยว่าเวลาแต่งงานกับฝรั่ง ชาวไทยน้อยมากที่จะเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ แถมยังชักชวนฝรั่งเหล่านั้นให้มานับถือศาสนาพุทธอีกด้วย แล้วคนไทยที่
ไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศทั้งยุโรป อเมริกาก้อจะมีการรวมตัวกันที่วัดไทยอย่างแข็งขัน เวลามีวันสำคัญทางศาสนาจะมีการจัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่า
คนไทยอยู่ในสังคมตะวันตกที่คนส่วนมากนับถือคริสต์ แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ยังคงความมั่นคงในศาสนาพุทธอยู่ไม่เสื่อมคลาย ผิดกับชาวตะวันตกที่ไม่มีความ
มั่นคงทางศาสนา พอแต่งงานกับคนไทยปุ๊บ ส่วนมากก้อจะเปลี่ยนมานับถือพุทธทันทีโดยไม่ลังเล หรือบางท่านแค่มาเที่ยวเมืองไทย แล้วสนใจปฏิบัติธรรม
นั่งสมาธิเลยก้อมี อาจจะเป็นไปได้ไหมครับว่าชาวยุโรปส่วนมากโดนบังคับให้ศรัทธาในศาสนาเพราะอิทธิพลของศาสนจักรในยุคกลาง มากกว่าเกิดความ
ศรัทธาที่มาจากประสบการณ์ส่วนตัวกับพระผู้เป็นเจ้าโดยแท้จริง บางทีการสอนศาสนาในยุคกลางอาจจะส่งผลกระทบถึงปัจจุบันรึป่าวคับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
ศาลทางศาสนา การลงโทษและเกิดสงครามหลายคร้งกับนิกายโปรเตสแตนท์ อำนาจที่มากจนเกินพอดีของพระสันตะปาปา ความรำรวยของนักบวช สถาบัน
สงฆ์ แนวคิดเหตุผลนิยม ยุค Enlightenment ความก้าวหน้าทางวิทยาการ รวมถึงการล่าอาณานิคม ทำให้คาทอลิกยุคใหม่ในยุโรปที่นับถือแบบทะเบียน
บ้านที่ไม่ได้แสวงหาพระเจ้าด้วยตนเอง และครอบครัวก้อเรื่อยๆเปื่อยๆเกิดความเคลือบแคลงทางศาสนามาก มองเห็นว่านิกายคาทอลิกมีสิ่งเลวร้ายมากมาย
ในอดีต และเห็นว่าสถาบันพระ นักบวชไม่ได้เป็นที่พึ่งของประชาชน ทำให้พวกเขาเหล่านั้นออกห่างจากศาสนาได้อย่างง่ายดาย และมองเห็นมหาวิหาร
อันตระการตาในประเทศตนเองเป็นแค่สถานที่ท่องเที่ยวมากกว่าเป็นที่สงบทางจิตใจ
canon เขียน: น่าเสียดายมหาวิหารอันตระการตานับร้อย นับพันแห่งในประเทศฝรั่งเศสนะครับ สถานการณ์ทางศาสนาในฝรั่งเศสตอนนี้ก้อคงคล้ายกับศาสนาพุทธใน
ประเทศไทย ประเทศไทยมีวัดวาอารามที่ใหญ่โต สวยงาม เก่าแก่มากมาย แต่คนที่ไปวัดก้อมีแต่พวกวัยกลางคนขึ้นไป จำนวนพระ นักบวชลดลงเรื่อยๆ พระ
ที่ประพฤติผิดศีลธรรมก้อมีมากขึ้นเรื่อยๆจนประชาชนถอยห่างจากศาสนา แต่ประชาชนชาวไทยพุทธก้อยังมีสำนึกในศาสนามากกว่าชาวยุโรปนะครับ สังเกต
ได้เลยว่าเวลาแต่งงานกับฝรั่ง ชาวไทยน้อยมากที่จะเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ แถมยังชักชวนฝรั่งเหล่านั้นให้มานับถือศาสนาพุทธอีกด้วย แล้วคนไทยที่
ไปอาศัยอยู่ในต่างประเทศทั้งยุโรป อเมริกาก้อจะมีการรวมตัวกันที่วัดไทยอย่างแข็งขัน เวลามีวันสำคัญทางศาสนาจะมีการจัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ แม้ว่า
คนไทยอยู่ในสังคมตะวันตกที่คนส่วนมากนับถือคริสต์ แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ยังคงความมั่นคงในศาสนาพุทธอยู่ไม่เสื่อมคลาย ผิดกับชาวตะวันตกที่ไม่มีความ
มั่นคงทางศาสนา พอแต่งงานกับคนไทยปุ๊บ ส่วนมากก้อจะเปลี่ยนมานับถือพุทธทันทีโดยไม่ลังเล หรือบางท่านแค่มาเที่ยวเมืองไทย แล้วสนใจปฏิบัติธรรม
นั่งสมาธิเลยก้อมี อาจจะเป็นไปได้ไหมครับว่าชาวยุโรปส่วนมากโดนบังคับให้ศรัทธาในศาสนาเพราะอิทธิพลของศาสนจักรในยุคกลาง มากกว่าเกิดความ
ศรัทธาที่มาจากประสบการณ์ส่วนตัวกับพระผู้เป็นเจ้าโดยแท้จริง บางทีการสอนศาสนาในยุคกลางอาจจะส่งผลกระทบถึงปัจจุบันรึป่าวคับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
ศาลทางศาสนา การลงโทษและเกิดสงครามหลายคร้งกับนิกายโปรเตสแตนท์ อำนาจที่มากจนเกินพอดีของพระสันตะปาปา ความรำรวยของนักบวช สถาบัน
สงฆ์ แนวคิดเหตุผลนิยม ยุค Enlightenment ความก้าวหน้าทางวิทยาการ รวมถึงการล่าอาณานิคม ทำให้คาทอลิกยุคใหม่ในยุโรปที่นับถือแบบทะเบียน
บ้านที่ไม่ได้แสวงหาพระเจ้าด้วยตนเอง และครอบครัวก้อเรื่อยๆเปื่อยๆเกิดความเคลือบแคลงทางศาสนามาก มองเห็นว่านิกายคาทอลิกมีสิ่งเลวร้ายมากมาย
ในอดีต และเห็นว่าสถาบันพระ นักบวชไม่ได้เป็นที่พึ่งของประชาชน ทำให้พวกเขาเหล่านั้นออกห่างจากศาสนาได้อย่างง่ายดาย และมองเห็นมหาวิหาร
อันตระการตาในประเทศตนเองเป็นแค่สถานที่ท่องเที่ยวมากกว่าเป็นที่สงบทางจิตใจ
เห็นด้วยกับพี่ท่านล้านเปอร์เซนต์ครับ ตอบได้โดนใจจริงๆครับผม เอาไว้ผมว่างก่อน จะอธิบายเสริม(ในแต่ละข้อ)เป็นหมวดหมู่ไป ว่าทำไม เพราะอะไร เหตุใด สิ่งที่พี่พูดจึงเป็นความจริง โดยผมนี้แหละ จะอธิบายเสริม(พร้อมยกตัวอย่าง และให้เหตุผล) ทั้งทางด้านศาสนา ด้านสังคม และด้านจิตใจครับผม รอไว้ตอนกลางคืนครับ จะมาตอบเสริม สิ่งที่พี่พูดถูกต้องทั้งหมดครับ ความจริงก็คือความจริง ขอบคุณครับ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
พี่วินคร้าบ จาไมก้า เป็นประเทศแถบคาริบเบี้ยน บราซิล อยู่ในทวีปละตินอเมริกา ครับWin St.Matthew เขียน: ผมว่าตอนนี้ ต้องแทบ แอฟริกาคับ สุดยอดมาก ดูใน
โอลิมปิค เปล่า พวก จาเมก้า งี้ ไนจีเรีย งี้ บราซิลงี้
สุดยอดคับผมว่าแผ่นดินไม่สิ้นคนเชื่อพระเยซูคริสต์คับ
คนผิวสี (ผิวดำ ) จะเก่งเรื่องวิ่ง นะครับ อย่างมาราธอน 3 คนสุดท้ายที่รับเหรียญตอนปิดโอลิมปิก มาจาก ทวีปอัฟริกันทั้งนั้น หือ สีเสื้อ กับสีตัว ขับผ่องจริง :laugh:
-
- โพสต์: 960
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm
อืมใช่นะ แอฟริกา ไม่มีบราซิลเน้อ ตามเจี๊ยบบอกเลย แล้วอีกอย่าง แถบแอฟริกา หรือ แทบแอฟริกา แถบ กะ แทบ มันคนละความหมายเลยนะ อ่านแล้ว แอบ งง นิดๆ เสริมนิดนึง แถบนี้ นักกีฬาจะมีร่างกายที่แข็งแรงมาก ดูง่ายๆก็ฟุตบอล นักเตะ แถบแอฟริกา จะอึดมากๆJeab Agape เขียน:พี่วินคร้าบ จาไมก้า เป็นประเทศแถบคาริบเบี้ยน บราซิล อยู่ในทวีปละตินอเมริกา ครับWin St.Matthew เขียน: ผมว่าตอนนี้ ต้องแทบ แอฟริกาคับ สุดยอดมาก ดูใน
โอลิมปิค เปล่า พวก จาเมก้า งี้ ไนจีเรีย งี้ บราซิลงี้
สุดยอดคับผมว่าแผ่นดินไม่สิ้นคนเชื่อพระเยซูคริสต์คับ
คนผิวสี (ผิวดำ ) จะเก่งเรื่องวิ่ง นะครับ อย่างมาราธอน 3 คนสุดท้ายที่รับเหรียญตอนปิดโอลิมปิก มาจาก ทวีปอัฟริกันทั้งนั้น หือ สีเสื้อ กับสีตัว ขับผ่องจริง :laugh:
น่าเสียดายที่เป็นประเทศคาทอลิกแห่งแรกของโลก
น่าเสียดายมหาวิหารอันตระการตา ป่านนี้บรรพบุรุษของประเทศเขาที่มองฝรั่งเศสในยุคปัจจุบันจากสวรรค์พวกท่านเหล่านั้นจะรู้สึกอย่างไรหนอ
น่าเสียใจแทนบรรดานักบุญมากมายนับร้อยองค์ในประเทศแห่งนี้
แม่พระเองก็คงเสียพระทัยมากเช่นกัน ที่พระนางทรงมาประจักษ์ที่ประเทศแห่งนี้นับสิบครั้ง
พระเยซูเจ้าก้อคงเสียพระทัยมากเช่นกันที่พระองค์ทรงลงมาประจักษ์ที่ประเทศนี้ด้วยพระองค์เอง
น่าเสียดายมหาวิหารอันตระการตา ป่านนี้บรรพบุรุษของประเทศเขาที่มองฝรั่งเศสในยุคปัจจุบันจากสวรรค์พวกท่านเหล่านั้นจะรู้สึกอย่างไรหนอ
น่าเสียใจแทนบรรดานักบุญมากมายนับร้อยองค์ในประเทศแห่งนี้
แม่พระเองก็คงเสียพระทัยมากเช่นกัน ที่พระนางทรงมาประจักษ์ที่ประเทศแห่งนี้นับสิบครั้ง
พระเยซูเจ้าก้อคงเสียพระทัยมากเช่นกันที่พระองค์ทรงลงมาประจักษ์ที่ประเทศนี้ด้วยพระองค์เอง
โอ้ว เพิ่งรู้ ... ขนาดนี้แล้วเหรอ
บาทหลวงอันโตนิโอ รุนจิ แห่งโมดรากอน แดนอิตาลี บอกว่า ริเริ่มจัดการประกวดความงาม "มิสแม่ชี" เปิดซิงเป็นครั้งแรก
แม่ชีทั่วอิตาลีที่สนใจ สามารถสมัครลงแข่งขันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ โดยส่งรูปถ่ายในชุดแม่ชี พร้อมบรรยายประวัติส่วนตัว คาดว่าจะมีผู้สมัครนับพัน
"แม่ชีมีคุณสมบัติเหนือสตรีทั้งมวลและได้รับพรแห่งความงามจากพระเจ้า ท่านอาจคิดว่าแม่ชีต้องเป็นคนแก่ ไร้อารมณ์ และเศร้าตลอดเวลา แต่เรื่องจริงมิใช่เช่นนั้น เพราะทุกวันนี้ในอิตาลีมีแม่ชีวัยเยาว์และงดงามจากหลายชาติเข้ามาปฏิบัติธรรม" บาทหลวงรุนจิกล่าว
มีรอบประกวด "ชุดว่ายน้ำ" ด้วยรึเปล่าครับทั่น!??
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
แม่ชีทั่วอิตาลีที่สนใจ สามารถสมัครลงแข่งขันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ โดยส่งรูปถ่ายในชุดแม่ชี พร้อมบรรยายประวัติส่วนตัว คาดว่าจะมีผู้สมัครนับพัน
"แม่ชีมีคุณสมบัติเหนือสตรีทั้งมวลและได้รับพรแห่งความงามจากพระเจ้า ท่านอาจคิดว่าแม่ชีต้องเป็นคนแก่ ไร้อารมณ์ และเศร้าตลอดเวลา แต่เรื่องจริงมิใช่เช่นนั้น เพราะทุกวันนี้ในอิตาลีมีแม่ชีวัยเยาว์และงดงามจากหลายชาติเข้ามาปฏิบัติธรรม" บาทหลวงรุนจิกล่าว
มีรอบประกวด "ชุดว่ายน้ำ" ด้วยรึเปล่าครับทั่น!??
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ทำแบบนี้จะเป็นที่ "สะดุด" หรือเปล่าหนอ :huh:canon เขียน: บาทหลวงอันโตนิโอ รุนจิ แห่งโมดรากอน แดนอิตาลี บอกว่า ริเริ่มจัดการประกวดความงาม "มิสแม่ชี" เปิดซิงเป็นครั้งแรก
แม่ชีทั่วอิตาลีที่สนใจ สามารถสมัครลงแข่งขันออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ โดยส่งรูปถ่ายในชุดแม่ชี พร้อมบรรยายประวัติส่วนตัว คาดว่าจะมีผู้สมัครนับพัน
"แม่ชีมีคุณสมบัติเหนือสตรีทั้งมวลและได้รับพรแห่งความงามจากพระเจ้า ท่านอาจคิดว่าแม่ชีต้องเป็นคนแก่ ไร้อารมณ์ และเศร้าตลอดเวลา แต่เรื่องจริงมิใช่เช่นนั้น เพราะทุกวันนี้ในอิตาลีมีแม่ชีวัยเยาว์และงดงามจากหลายชาติเข้ามาปฏิบัติธรรม" บาทหลวงรุนจิกล่าว
มีรอบประกวด "ชุดว่ายน้ำ" ด้วยรึเปล่าครับทั่น!??
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
เหล่านักบวชถูก "กระแสโลก" ดึงมากไปรึเปล่า???
การประชันความงามในหมู่นักบวช ไม่เคยพบในจิตตารมณ์ของคณะนักบวชคณะไหนสักคณะเดียว
ไม่รู้สิ ในความคิดเท็น เท็นว่าการกระทำแบบนี้มันไม่สร้างสรรค์นะ
"เสน่ห์เป็นของหลอกลวงและความงามก็เปล่าประโยชน์ แต่สตรียำเกรงพระเจ้าสมควรได้รับคำสรรเสริญ" (สุภาษิต 31:30)
(ขอบคุณพี่ฟีมทีทำให้ข้าพเจ้าระลึกถึงประโยคนี้ได้เจ้าค่ะ )
30 August 2011
ฟาติมาสาร - คาทอลิกฝรั่งเศส ... วิกฤติสุดสุด (4 ก.ย. 2011)
http://www.popereport.com/2011/08/4-2011.html
ฟาติมาสาร - คาทอลิกฝรั่งเศส ... วิกฤติสุดสุด (4 ก.ย. 2011)
http://www.popereport.com/2011/08/4-2011.html
คนฝรั่งเศสทอดทิ้งพระเจ้า ถ้าไม่กลับมารักพระองค์ทำกิจศรัทธาต่างๆ ดังบรรพบุรุตของเขา..
สักวันหนึ่งไม่แน่ถ้ามุสลิมได้แพร่พันธุ์ เต็มฝรั่งเศส วัดวาอารามต้องขายให้มุสลิมทำเป็นสุเหร่าแน่ๆ
จะน่าเสียดายที่ศักสิทธิ์ต่างๆเพียงไร.....เศ้ราใจ
......................... ..................
สักวันหนึ่งไม่แน่ถ้ามุสลิมได้แพร่พันธุ์ เต็มฝรั่งเศส วัดวาอารามต้องขายให้มุสลิมทำเป็นสุเหร่าแน่ๆ
จะน่าเสียดายที่ศักสิทธิ์ต่างๆเพียงไร.....เศ้ราใจ
......................... ..................
-
- โพสต์: 48
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ย. 17, 2010 5:06 pm
วิกฤตินี้เกิดขึ้นเกือบทุกประเทศในยุโรป กระแสเรียกนักบวช พระสงฆ์ น้อยลงมากๆ จนถึงกับขาดแคลน ต้องนำเข้าจากประเทศอัฟริกา เอเซีย สำหรับผม คิดว่าพระศาสนจักรต้องคิด ตีโจทย์ให้แตกว่าสาเหตุเกิดจากอะไร แล้วแก้ไขไปตามสถานการณ์ ไม่ช้าก็เร็วผมคิดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกฏ กติกา มารยาท ของการเป็นนักบวชพระสงฆ์แน่นอน