คือว่า คนที่เป็นลูกพระ เวลาตายไปก็ไปอยู่กับพระใช่ไหมคะ
ทีนี้ เรายังไม่ได้เข้ารับศีล อะไรเลยอะคะ
แล้ววันนี้เราก็นั่งคิดตอนนั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างมาโรงเรียนว่า ถ้าเกิดรถชนตายตอนนี้ เราจะไปอยู่ไหน จะได้ไปอยู่กับพระมั้ย หรือต้องไปลงนรกของพุทธ
สาเหตุที่คิด เพราะทุกวัน คนขับรถมอไซด์ ขับได้น่ากลัวมากๆคะ ปาดไปปาดมา หัวใจจะวายตายก่อน
รอดมาได้จนถึงตอนนี้ก็นับว่พระเจ้าคุ้มครองและคะ
เคยอ่านกระทู้นึงในนี้จำไม่ได้ว่า กระทู้ไหนนะคะ ที่เวลาบาทหลวงคนนี้เค้าไล่ผี เค้าจะบอกว่า ผ้าคลุมของพระแม่มารีอาจะปกคลุมคุ้มครองลูก และลูกจะปลอดภัย ประมาณนี้มั้งคะ
ก็ท่องก่อนออกไปทำงานทุกวัน
เราว่าได้ผลนะคะ
อ่าว นอกเรื่องไปซะแล้ว ที่นี้ วกกลับเข้ามาใหม่ เราก็ยังค้างคาใจอยู่ ช่วยบอกด้วยนะคะ ขอบคุณคะ
ขอถามหน่อยคะ
หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก
ข้อที่ 1258
พระศาสนจักรเชื่อมั่นคงเสมอมาว่า ผู้ที่ทนรับความตายอันเนื่องมาจากความเชื่อโดยมิได้รับศีลล้างบาป
ก็ได้รับศีลล้างบาปโดยทางความตายของเขา เพื่อเเละพร้อมกับพระคริสตเจ้า
การรับศีลล้างบาปด้วยโลหิต นี้ก่อให้เกิดผลของศีลล้างบาป เสมือนเป็นความต้องการรับศีลล้างบาปด้วย
โดยปราศจากการเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์
ข้อที่ 1281
บรรดาผู้ตายอันเนื่องมาจากความเชื่อนั้น ผู้เตรียมรับศีลล้างบาปเเละมนุษย์ทุกคนซึ่ง
เเสวงหาพระเจ้าด้วยความจริงใจ ภายใต้เเรงกระตุ้นของพระหรรษทานโดยปราศจากการรู้จักพระศาสนจักร
เเละมีความพยายามที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ก็ได้รับความรอดด้วยเเม้่เขายังไม่ได้รับศีลล้างบาป (เทียบพิธีกรรม ข้อ 16)
เรื่องนรก
ข้อ 1034
พระเยซูเจ้าตรัสบ่อยครั้งถึง "นรก" เเละ "ไฟที่ไม่รู้ดับ" ซึ่งสำรองไว้สำหรับผู้ที่ปฏิเสธจนสิ้นชีวิตที่จะเชื่อเเละกลับใจ
นรกอันเป็นเเหล่งซึ่งทั้งวิญญาณเเละกายอาจพินาศไปได้ (เทียบ มธ 5:22,29; 10:28; 13:42,50 มก 9:43-48)
พระเยซูเจ้าทรงประกาศล่วงหน้าด้วยถ้อยคำรุนเเรง หนักหน่วงว่า พระองค์ "จะทรงส่งเทวทูตของพระองค์มากวาดล้าง
ผู้ที่ก่อให้เกิดความผิดความชั่ว เเละจะโยนพวกเขาลงไปในเตาไฟอันลุกโชน" (มธ 13:41-42) เเละพระองค์จะทรงกล่าว
คำพิพากษาลงโทษ "พวกเจ้าที่ถูกสาบเเช่ง จงไปให้พ้นจากเรา ไปอยู่ในไฟนิรันดร" (มธ 25:41)
ข้อ 1037
พระเจ้ามิได้ทรงกำหนดชะตากรรมไว้ล่วงหน้าให้ผู้ใดต้องไปนรก
ในการที่จะตกนรกนั้น“จำต้องมีความเกลียดชังพระเจ้าโดยสมัครใจ (บาปหนัก) และเป็นอยู่อย่างนั้นจนถึงที่สุด
ในพิธีกรรมศีลมหาสนิท และในบทภาวนาประจำวันของสัตบุรุษ พระศาสนจักรวิงวอนขอพระเมตตาขากพระเจ้า
ผู้ “ไม่ประสงค์ที่จะให้ผู้หนึ่งผู้ใดพินาศเลย แต่ทรงปรารถนาที่จะให้คนทั้งปวงกลับใจเสียใหม่” (2ปต 3:9)
นี่คือของถวายที่เรานำมาเสนอต่อพระพักตร์พระองค์ เราซึ่งเป็นผู้รับใช้และเป็นครอบครัวทั้งหมดของพระองค์
โปรดทรงพระกรุณารับไว้ด้วยพระทัยเอื้ออารี โปรดทรงเป็นหลักประกันให้เราได้รับสันติสุขในชีวิต
โปรดทรงดึงเราออกมาให้พ้นโทษในนรก และโปรดทรงรับเราไว้ในบรรดาผู้ได้รับเลือกสรรของพระองค์ด้วยเถิด (มิสซาโรมัน EP I 88)
ดังนั้นถ้าเราไม่ได้ปฏิเสธพระเจ้า, ความดี หรือความรักเเบบหัวชนฝา ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนรกหรอกค่ะ
ข้อที่ 1258
พระศาสนจักรเชื่อมั่นคงเสมอมาว่า ผู้ที่ทนรับความตายอันเนื่องมาจากความเชื่อโดยมิได้รับศีลล้างบาป
ก็ได้รับศีลล้างบาปโดยทางความตายของเขา เพื่อเเละพร้อมกับพระคริสตเจ้า
การรับศีลล้างบาปด้วยโลหิต นี้ก่อให้เกิดผลของศีลล้างบาป เสมือนเป็นความต้องการรับศีลล้างบาปด้วย
โดยปราศจากการเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์
ข้อที่ 1281
บรรดาผู้ตายอันเนื่องมาจากความเชื่อนั้น ผู้เตรียมรับศีลล้างบาปเเละมนุษย์ทุกคนซึ่ง
เเสวงหาพระเจ้าด้วยความจริงใจ ภายใต้เเรงกระตุ้นของพระหรรษทานโดยปราศจากการรู้จักพระศาสนจักร
เเละมีความพยายามที่จะทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ก็ได้รับความรอดด้วยเเม้่เขายังไม่ได้รับศีลล้างบาป (เทียบพิธีกรรม ข้อ 16)
เรื่องนรก
ข้อ 1034
พระเยซูเจ้าตรัสบ่อยครั้งถึง "นรก" เเละ "ไฟที่ไม่รู้ดับ" ซึ่งสำรองไว้สำหรับผู้ที่ปฏิเสธจนสิ้นชีวิตที่จะเชื่อเเละกลับใจ
นรกอันเป็นเเหล่งซึ่งทั้งวิญญาณเเละกายอาจพินาศไปได้ (เทียบ มธ 5:22,29; 10:28; 13:42,50 มก 9:43-48)
พระเยซูเจ้าทรงประกาศล่วงหน้าด้วยถ้อยคำรุนเเรง หนักหน่วงว่า พระองค์ "จะทรงส่งเทวทูตของพระองค์มากวาดล้าง
ผู้ที่ก่อให้เกิดความผิดความชั่ว เเละจะโยนพวกเขาลงไปในเตาไฟอันลุกโชน" (มธ 13:41-42) เเละพระองค์จะทรงกล่าว
คำพิพากษาลงโทษ "พวกเจ้าที่ถูกสาบเเช่ง จงไปให้พ้นจากเรา ไปอยู่ในไฟนิรันดร" (มธ 25:41)
ข้อ 1037
พระเจ้ามิได้ทรงกำหนดชะตากรรมไว้ล่วงหน้าให้ผู้ใดต้องไปนรก
ในการที่จะตกนรกนั้น“จำต้องมีความเกลียดชังพระเจ้าโดยสมัครใจ (บาปหนัก) และเป็นอยู่อย่างนั้นจนถึงที่สุด
ในพิธีกรรมศีลมหาสนิท และในบทภาวนาประจำวันของสัตบุรุษ พระศาสนจักรวิงวอนขอพระเมตตาขากพระเจ้า
ผู้ “ไม่ประสงค์ที่จะให้ผู้หนึ่งผู้ใดพินาศเลย แต่ทรงปรารถนาที่จะให้คนทั้งปวงกลับใจเสียใหม่” (2ปต 3:9)
นี่คือของถวายที่เรานำมาเสนอต่อพระพักตร์พระองค์ เราซึ่งเป็นผู้รับใช้และเป็นครอบครัวทั้งหมดของพระองค์
โปรดทรงพระกรุณารับไว้ด้วยพระทัยเอื้ออารี โปรดทรงเป็นหลักประกันให้เราได้รับสันติสุขในชีวิต
โปรดทรงดึงเราออกมาให้พ้นโทษในนรก และโปรดทรงรับเราไว้ในบรรดาผู้ได้รับเลือกสรรของพระองค์ด้วยเถิด (มิสซาโรมัน EP I 88)
ดังนั้นถ้าเราไม่ได้ปฏิเสธพระเจ้า, ความดี หรือความรักเเบบหัวชนฝา ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนรกหรอกค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Dis volentibus เมื่อ อังคาร ก.พ. 24, 2009 3:17 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi


55555+:+: seraphim :+: เขียน:ขอบคุณมาเซอร์เจนนี่ คะ
![]()

"มาเซอร์เจนนี่ แห่งคณะลูกแกะระห่ำ"
------------------------------------------------------
มาช่วยสรุปของมาเซอร์เจนนี่ให้กระชับขึ้นอีกนิด

232. จะเอาตัวรอดไปสวรรค์โดยปราศจากศีลล้างบาปได้หรือ
พระคริสตเจ้าได้ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อความรอดของมนุษย์ทุกคน ดังนั้น ผู้ที่ตายพร้อมความเชื่อ (การับศีลล้างบาปด้วยเลือด) โดยไม่ได้รับศีลล้างบาปก็เอาตัวรอดไปสวรรค์ได้ รวมถึงผู้เตรียมเป็นคริสตชนและทุกคน (ที่อยู่ในสถานะพระหรรษททาน) แม้ไม่รู้จักพระคริสตเจ้าและพระศาสนจักร แต่แสวงหาพระเป็นเจ้าด้วยความจริงใจ และพยายามที่จะกระทำตามพระประสงค์ของพระองค์ (ศีลล้างบาปด้วยความปรารถนา) ส่วนเด็กที่ตายไปโดยที่ไม่ได้รับศีลล้างบาปนั้น พระศาสนจักรมอบพวกเขาไว้ในพระเมตตาของพระเจ้า
(ที่มา : ประมวลคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก (กรุงเทพฯ : ศูนย์คริสตศาสนธรรมอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ, 2550), 174-175.)
ดังนั้น ผู้ที่สมัครใจรับศีลล้างบาปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ขณะที่กำลังเตรียมตัวอยู่นั้นเกิดมีเหตุถึงแก่กรรมลงโดยมิได้ทันรับศีลล้างบาปด้วยน้ำ ก็ถือว่าได้รับศีลล้างบาปด้วยความปรารถนาแล้ว และถือว่าเป็นสมาชิกของพระศาสนจักรแล้วด้วย
(ที่มา : กีรติ บุญเจือ, หลักปฏิบัติของชาวคริสต์คาทอลิก (คริสตศาสนาภาคหลัง) (กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพาณิชย์, 2530), 18.)