อยากทราบอ่ะค่ะ ( มะกี้ตั้งกระทู้ผิดบอร์ด )

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Starry Night
โพสต์: 133
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2008 11:42 am
ที่อยู่: > <" Xiah Junsu Fightingg g!!!

อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 9:18 pm

วันนี้อ่าน พระคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาใหม่ที่เคยขอมานานแสนนาน 

แล้วก็อ่าน ระเบียบในศาสนพิธี หน้า 379( 1โครินธ์ 11:16 )อ่ะค่ะ 

เวลาเข้าโบสถ์ต้องเอาผ้าคลุมศรีษะด้วยหรอค่ะ
หรือ ว่า ผ้าที่พูดนี่หมายถึง ผม ? 

แล้วก็ไม่เข้าใจตรงที่ว่า
" ..... เพราะชายไม่ได้มาจากหญิง แต่หญิงมาจากชาย นอกจากนั้น ชายไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อหญิง แต่หญิงถูกสร้างขึ้นเพื่อชาย ...... "

ชายไม่ได้มาจากหญิง ?... คืออะไรอ่าค่ะ 
Viridian
โพสต์: 2762
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm

อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 11:13 pm

Starry Night เขียน: แล้วก็ไม่เข้าใจตรงที่ว่า
" ..... เพราะชายไม่ได้มาจากหญิง แต่หญิงมาจากชาย นอกจากนั้น ชายไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อหญิง แต่หญิงถูกสร้างขึ้นเพื่อชาย ...... "

ชายไม่ได้มาจากหญิง ?... คืออะไรอ่าค่ะ  
อันนี้สืบเนื่องมาจากพระคัมภีร์พันธสัญญาเดิม ในหนังสือปฐมกาลค่ะ ::001::

พระยาห์เวห์พระเจ้าตรัสว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Viridian เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 11:18 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Dis volentibus

จันทร์ มี.ค. 09, 2009 1:19 am

1โครินธ์11:16 ถ้าผู้ใดยังต้องการคัดค้านในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าขอพูดว่า
ทั้งเราเเละพระศาสนจักรอื่นๆของพระเจ้า ไม่มีธรรมเนียมเป็นอย่างอื่น


ในสมัยของนักบุญเปาโล การคลุมศีรษะ เป็นธรรมเนียมของพระศาสนจักรค่ะ
เเต่ในสมัยนี้หลายสิ่งได้เปลี่ยนไป
Like a Heaven
.
.
โพสต์: 1739
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
ที่อยู่: In the Christ

จันทร์ มี.ค. 09, 2009 3:16 am

ผมชอบผู้หญิงคลุมผมนะ

ดูดีมากมาย


วัดออทอร์ด้อกรัสเซียเค้าคลุมผมเหมือนกัน สงสัยเปนธรรมเนียมเค้า
siriya
โพสต์: 311
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 26, 2008 9:04 am

จันทร์ มี.ค. 09, 2009 9:37 am

เพราะพระเจ้าสร้างผู้หญิงโดยชักกระดูกซี่โครงมาจากผู้ชาย  เพราะฉะนั้น  หญิงจึงถูกสร้างมาจากชาย

ต้องอ่านหนังสือปฐมกาลค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ มี.ค. 14, 2009 12:50 am

สมัยก่อนธรรมเนียมการคลุมผมร่วมพิธี มีมานาน จนถึงสมัยสังคยนาวาติกันครั้งที่2 ได้ตีความว่า ถ้อยคำนี้ มีที่มาจากธรรมเนียมและประเพณีการแต่งตัวของชาวยิว ร่วมอยู่ด้วย เมื่อคริสตศาสนาเผยแผ่ไปยังชนชาติอื่นๆที่มีธรรมเนียมการแต่งกายต่างออกไป จึงไม่ควรบังคับให้ยึดถือ แต่กระนั้นในหลายๆประเทศเช่นฟิลิปปินส์ หรือเกาหลี ยังคงธรรมเนียมนี้อยู่บ้าง

ส่วนกรณีที่น.เปาโลอ้างอิงมา ก็อ้างอิงมาจากพระธรรมเดิม ดังที่หลายๆท่านได้บอกไปแล้ว ซึ่งท่านก็พยายามให้เหตุผลว่าทำไมชายและหญิงต้องปฏิบัติต่างกันเท่านั้น
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

เสาร์ มี.ค. 14, 2009 8:59 pm

ยุคสมัยคุณยายพี่แล้วก็สมัยคุณแม่พี่ตอนเป็นสาวๆ ก็คลุมครับ ชาวคาทอลิกสมัยรุ่นก่อนๆ ผู้หญิงเวลาเข้าวัดจะคลุ่มศรีษะกันหมดไม่ว่าฝรั่งหรือไทย แต่สังคายนาวาติกันที่ 2 ประมาณ 30 กว่าปีที่ผ่านมาให้สตรีคาทอลิกแต่งชุดอะไรก็ได้แบบเสรีเข้าโบสถ์โดยไม่บังคับ แต่ชุดที่ใส่เข้าโบสถ์ต้องสุภาพและเรียบร้อย

ในปัจจุบันพี่ก็เจอผู้หญิงชาวฟิลิปปินส์หลายท่านเข้าในโบสถ์บ้านเราเห็นเขาก็คลุมกันอยู่ ที่จริงท้องถิ่นไหนจะคลุมหรือเลิกคลุมก็สุดแล้วแต่เพราะสังคายนาวาติกันที่ 2 ไม่ได้ประกาศว่าให้คลุมหรือไม่ให้คลุมเพียงแต่อนุญาติให้แต่งกายได้แบบเสรีเท่านั้น
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ เสาร์ มี.ค. 14, 2009 9:34 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

เสาร์ มี.ค. 14, 2009 9:49 pm

พระคัมภีร์ 1 โครินธ์ 11: 1 - 16

(1) จงยึดถือข้าพเจ้าเป็นแบบอย่างเหมือนกับที่ข้าพเจ้ายึดถือพระคริสตเจ้าเป็นแบบอย่างเถิด  (2) ข้าพเจ้าขอชมเชยท่านทั้งหลายที่ยังคงระลึกถึงข้าพเจ้าในทุกโอกาส และยังคงยึดมั่นอย่างเคร่งครัดในธรรมประเพณีที่ข้าพเจ้าได้มอบหมายแก่ท่าน  (3) ข้าพเจ้าต้องการให้ท่านรู้ว่า พระคริสตเจ้าทรงเป็นศีรษะของมนุษย์ทุกคน ชายเป็นศีรษะของหญิง และพระเจ้าทรงเป็นศีรษะของพระคริสตเจ้า  (4) ชายทุกคนที่อธิษฐานภาวนา หรือประกาศพระวาจาโดยมีผ้าคลุมศีรษะ ก็ลบหลู่ศักดิ์ศรีศีรษะของตน  (5) แต่หญิงที่อธิษฐานภาวนา หรือประกาศพระวาจาโดยไม่คลุมศีรษะก็ลบหลู่ศักดิ์ศรีศีรษะของตน เปรียบเทียบกับการโกนผมนั่นเอง  (6) ดังนั้น ถ้าหญิงใดไม่ยอมใช้ผ้าคลุมศีรษะ ก็ให้นางตัดผมเสียด้วย แต่ถ้านางรู้สึกอับอายที่จะตัดหรือโกนผม ก็ให้นางใช้ผ้าคลุมศีรษะเถิด  (7) ชายไม่ต้องใช้ผ้าคลุมศีรษะ เพราะเขาเป็นภาพลักษณ์และเป็นพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า ส่วนหญิงเป็นสิริรุ่งโรจน์ของชาย  (8) เพราะชายไม่ได้มาจากหญิง แต่หญิงมาจากชาย  (9) นอกจากนั้น ชายไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อหญิง แต่หญิงถูกสร้างขึ้นเพื่อชาย (10) ดังนั้น หญิงจึงต้องสวมเครื่องหมายแสดงอำนาจเหนือเธอไว้บนศีรษะเพราะเคารพทูตสวรรค์  (11) ถึงกระนั้น เฉพาะพระพักตร์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า หญิงอยู่ไม่ได้โดยไม่มีชาย และชายก็อยู่ไม่ได้โดยไม่มีหญิง  (12) เพราะหญิงมาจากชายฉันใด ชายก็เกิดมาจากหญิงฉันนั้น และทุกสิ่งมาจากพระเจ้า  (13) ท่านจงตัดสินด้วยตนเองเถิดว่า เป็นการสมควรหรือไม่ที่หญิงจะอธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้าโดยไม่มีผ้าคลุมศีรษะ  (14) ธรรมชาติไม่ได้สอนท่านหรือว่า ถ้าชายมีผมยาว ก็เป็นการเสียศักดิ์ศรีสำหรับเขา  (15) แต่เมื่อหญิงไว้ผมยาว ก็เป็นศักดิ์ศรีของเธอมิใช่หรือ เพราะผมยาวเป็นของประทานให้เธอประหนึ่งเป็นผ้าคลุมศีรษะ  (16) ถ้าผู้ใดยังต้องการคัดค้านในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าขอพูดว่า ทั้งเราและพระศาสนจักรอื่น ๆ ของพระเจ้าไม่มีธรรมเนียมเป็นอย่างอื่น
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 15, 2009 6:37 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ตอบกลับโพส