ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
			
		
		
			- 
				
																			 Cho
 
- โพสต์: 744
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
- ที่อยู่: Rayong
						
						
													
							
						
									 
								 เสาร์ พ.ค. 30, 2009 1:05 am
			
			
			
			
			ขอบคุณที่หลงเข้ามาตอบกันนะจ๊ะ พี่น้องทั้งหลาย เผอิญฟ้าครึ้ม ทำให้อารมณ์ พาไป
เลยอยากจะถามพี่น้องเล่นๆ (แต่จะเอาคำตอบกันจริงๆ นะจ๊ะ หุๆ  

) กัน สัก 2 ข้อว่า
1. แดนสวรรค์ วิมานนิรันดร บ้านแท้ของพวกเรานั้น  ในจินตนาการของพี่น้อง มีลักษณะอย่างไร?
- ในจินตนาการของผม ผมคิดว่า เป็นทุ่งหญ้าเขียวขจี กว้างสุดลูกหูลูกตา มีดอกไม้ที่มีความสวยงามหลายหลากสี 
ซึ่งเป็นสีที่ไม่เคยเห็นในโลกนี้  
2. ถ้าพี่น้องได้รับชีวิตนิรันดรแล้ว นอกจากการสรรเสริญและรักพระเป็นเจ้าแล้ว พี่น้องจะทำกิจกรรมอื่นๆ ใดๆ กันบ้างในสวรรค์ เพราะว่าเรามีเวลาเป็นนิรันดร (กลัวเซ็งหง่ะ  จริงๆ ผมกะจะวางแผนไว้ก่อนล่วงหน้าน่ะ จะเอาไอเดียของแต่ละคนไปใช้ อิๆ  )
)  
- ตัวผมเอง อยากจะเหาะไป เหาะมา จะไปสำรวจสวรรค์ให้ทั่วเลย (เป็นความฝันวัยเด็ก อยากเหาะได้แบบ superman มากๆเลย)
 
  
 
 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
								Ecclēsia				                
							
 
- โพสต์: 976
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
- ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
- 
				ติดต่อ:
				
			
						
						
													
							
						
									 
								 เสาร์ พ.ค. 30, 2009 1:20 am
			
			
			
			
			ตอบเล่นๆ เพ้อๆ
1. ขอทุ่งหญ้า มีลำธาร มีภูเขา บ้านโทรมๆ1หลัง โรงนาเก่าๆอีก1 อาการเดียวกับออสเตรีย
2. เริ่มจากไม่เซ็งก่อนจ่ะ เพราะต้องอยู่ไปอีกนาน...555  
เอาจริงๆ
1. คิดว่าจะได้พบพี่น้องที่สิ้นชีพไปก่อนเรา บรรดานักบุญ ทูตสวรรค์ เเละที่สำคัญเจอพระเจ้าองค์จริงๆ ใกล้ๆ
2. ข้อนี้ตอบไม่ได้จริงๆค่ะ ไม่มีอยู่ในสารบบความคิดเลย
			
													
					แก้ไขล่าสุดโดย  Anonymous เมื่อ เสาร์ พ.ค. 30, 2009 1:22 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
									
			
									
						 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
	        
			
		
		
			- 
				
								Holy				                
							
- Defender of lawS
  
- โพสต์: 10011
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm
 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
																			 APaladin
 
- โพสต์: 204
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 15, 2009 1:59 am
						
						
													
							
						
									 
								 เสาร์ พ.ค. 30, 2009 3:14 am
			
			
			
			
			สวรรค์ก็คงแบ่งเป็นชั้นๆละมั้งครับ ชั้นบนสุดสำหรับคงได้อยู่กับพระเจ้าและพระเยซู ชั้นถัดมาอยู่กับพระเยซูและพระเจ้ามาเยี่ยมบ่อยๆ
ชั้นถ้ดมาอีกพระเยซูมาเยี่ยมและสั่งสอนพระคำบ่อยๆและพระเจ้ามาเยี่ยมเป็นบางครั้ง ชั้นถ้ดมาพระเยซูมาเยี่ยมบ้างแต่พระเจ้าไม่สามารถมาเยี่ยมได้
ชั้นถัดมาทูตสวรรค์มาเยี่ยมและสังสอนเกี่ยวกับพระเจ้าแต่พระเจ้าเสด็จมาเยี่ยมไม่ได้ และชั้นถัดๆมาก็ลดลั่นลงไป ก็ตามที่เรารู้ๆครับสิ่งที่ไม่สะอาดย่อมอยู่กับพระเจ้าไม่ได้ ถ้าแสงเีพียงน้อยนิดพระเจ้ามาปรากฎให้เห็นคงได้ใหม้เป็นจุลกันละ ส่วนพวกสมุนซาตานคงอยู่ภายนอกอาณาจักรกับซาตานละครับ ขืนเข้าประตูสวรรคไปมีหวังได้ใหม้เป็นจุลเพราะแสงสว่างนั่นเอง  

จามีใครเชื่อใหมหว่าเหอๆ
 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
																			 Viridian
 
- โพสต์: 2762
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ค. 30, 2008 11:40 pm
						
						
													
							
						
									 
								 เสาร์ พ.ค. 30, 2009 8:24 am
			
			
			
			
			ตอบข้อ 1. -- 
อาณาจักรของพระเจ้าไม่ใช่เรื่องการกินการดื่ม แต่เป็นความชอบธรรม สันติและความชื่นชมยินดีในพระจิตเจ้า (โรม 14:17)
ตอบข้อ 2. -- ก็สวดภาวนาให้กับผู้ยังมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ไงคะ พวกเขายังต้องการคำภาวนาอยู่อีกมากมิใช่หรือ 

 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
	        
			
		
		
			- 
				
																			 ~ฮีUโปฟัuxaoxน้ๅโJ™~
 
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
						
						
													
							
						
									 
								 เสาร์ พ.ค. 30, 2009 6:27 pm
			
			
			
			
			สำหรับผมอืมมมมมม เอาเป็นว่า เป็นสถานที่งดงามมมมมมมมมม ที่สุดว่ามนุษย์จะนึกได้ แล้วอยู่แล้วมีความสุขตลอดกาล อะไรแบบนี้ละกันคับ- -
			
									
									
						 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
								Valkyrie Zero Number				                
							
 
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
						
						
													
							
						
									 
								 เสาร์ พ.ค. 30, 2009 10:29 pm
			
			
			
			
			ถ้าเป็นสถานที่ที่ได้พบและอยู่กับคนสำคัญทั้งหมดที่พบและพรากหรืออยู่ห่างไกลกันขณะอยู่บนโลก โดยไม่ต้องทะเลาะเบาะแว้งหรือสู้รบกับใครอื่นอีก ก็ดีแล้ว (จะมีคนเชื่อเรามั้ยเนี่ย)
(แต่ใจจริงมีความปรารถนาอื่น ๆ ด้วยน่ะนะ แต่อยู่ที่พระเจ้าจะยอมให้หรือเปล่านี่สิ แต่บนโลกนี้คงได้สิ่งนั้นยากมาก)
			
									
									
						 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
								Ot@				                
							
- ~@ 
- โพสต์: 989
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:44 pm
						
						
													
							
						
									 
								 เสาร์ พ.ค. 30, 2009 11:44 pm
			
			
			
			
			บังเอิญมากที่ จขกท ถามเรื่องนี้ เพราะวันนี้ผมได้มีประสบการณ์เดี่ยวกับ"สวรรค์"โดยตรง ขอมาแบ่งปันตรงนี้ละกันนะครับ 
 (คำเตือน เรื่องที่เล่าเป็นประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
เรื่องเริ่มขึ้นจาก วันนี้ผมและคุณแม่ได้มีโอกาสไปฝึกมโนมยิทธิ เป็นการนั่งกรรมฐานชนิดหนึ่ง(?) ที่บ้านสายลม สำนักฤาษีลิงดำ
(คำเตือน เรื่องที่เล่าเป็นประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
เรื่องเริ่มขึ้นจาก วันนี้ผมและคุณแม่ได้มีโอกาสไปฝึกมโนมยิทธิ เป็นการนั่งกรรมฐานชนิดหนึ่ง(?) ที่บ้านสายลม สำนักฤาษีลิงดำ
ตัวผมเอง มีความเชื่อเป็นคาทอลิก แต่เมื่อคุณแม่ของผมขอร้องให้ไปเป็นเพื่อน ผมก็ตอบตกลงด้วยความวางใจที่ว่าความเชื่อของเราเข้มแข็งอยู่แล้ว และสนใจที่จะศึกษาวิธีทำสติในแบบต่างๆจากที่เราเคยชิน
 
พอไปถึงก็ผิดคาด เพราะผมได้พบว่า การฝึกมโนมยิทธินั้น มีจุดมุ่งหลักเพื่อพัฒนาจิตเพื่อให้เห็น สวรรค์ นรก และสิ่งต่างๆนอกเหนือธรรมชาตินั่นเอง
ระหว่างที่ฝึก จะมี"อาจารย์" ที่จะคอยพูดนำทาง (เหมือนไกด์) ว่าให้ยกจิตของเราขึ้นสวรรค์ ไปดูซิว่าพระพุทธเจ้า หน้าตาเป็นอย่างไร สวรรค์สวยงามอย่างไร และตัวเรามีร่างจิตอย่างไรบน"ภพนิพพาน"
ระหว่างนั่ง เธอจะคอยถามเหล่าผู้ฝึก (มีประมาณหกคนต่อหนึ่งห้องฝึก) เช็คดูว่าพวกเรา "เห็นจริง" รึเปล่า อาธิเช่น:
"มองหน้าพระพุทธเจ้าซิคะ....พระองค์ หน้าตอบผอม หรือ อิ่มเอมเต็มตึงค่ะ?"
"เห็นปราสาทแก้วด้านหน้าของเราไหมคะ?..ปราสาทสวรรค์นี้สวยไหมค่ะ?"
"ยอดปราสาท กลม หรือ แหลม ค่ะ?"
"พระพุทธเจ้าใส่รองเท้าอยู่ไหมค่ะ?....รองเท้าปลายแหลมสง่า หรือบางแบนค่ะ?"
ส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยได้ไกด์พาเดินทัวร์สวรรค์แบบนี้มาก่อนในชีวิต และมีอารมณ์เหมือนได้ไปเที่ยวปากน้ำ หรือ สระบุรี มากกว่าดินแดนสวรรค์....
ในขณะที่ผมพยายามสงบจิตและทำสมาธิ สวนกระแสการนำทัวร์อันเร้าใจของท่านอาจารย์นั่นเอง....ผมก็ได้อธิฐานขอให้แม่พระอยู่เคียงข้างผม และให้ทุกสิ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์...
ตอนนั่นเอง ผมก็รู้สึกสงบ รู้สึกได้ถึงความอิ่ม ความสุข จนร้องไห้ออกมา...แล้วก็ได้ยินเสียงพูดของสตรีคนหนึ่งว่า "เราคือความเที่ยงแท้"
แค่นี้แหละครับ ผมก็ชัวร์เลยว่า สวรรค์ผมไม่ได้มียอด กลม หรือแบน ไม่จำเป็นต้องดูว่าใส่รองเท้าหรือไม่ใส่รองเท้า ไม่ต้องดูว่าแก้มตอบผอม หรือเต็งตึง...
แต่ สวรรค์ สถิตย์อยู่กับผม นั่นก็เพราะร่างกายของผมคือพระวิหารของพระเจ้า 
ความศักดิ์สิทธิ์ และสันติสุขกำลังลุกโชนดั่งเปลวไฟเดชะพระจิต  
และความอบอุ่นเกินบรรยายที่สัมผัสได้โดยไม่ต้องนั่งทางใน เดชะการวอนขอของพระแม่มารีย์
ทำให้ผมนึกได้ว่า ชีวิตในพระหรรษทานของพระเจ้า ก็คือสวรรค์บนดินดีๆนี่เอง
พอรู้สึกได้แค่นี้ ผมก็ไม่เคยจะกังวลถึงชีวิตหลังความตายอีกเลย....เพราะผมมั่นใจว่า พระองค์จะดูแลวิญญาณของผมอย่างดี และสวรรค์บนฟ้ามันจะสันติสุขมากกว่าสวรรค์บนดินเป็นร้อยพันเท่าทวี
  
(พอนั่งเสร็จแล้ว คุณครูที่ฝึกก็พูดกับผมต่อหน้าทั้งห้องว่า "ครูเห็นเธอไปกับคนอื่นนะ") 

ทำไงได้ครับ ผมมันพวกชอบแตกแถวทัวร์...อีกอย่าง คนนำผมเขาสวย น่าเชื่อถือกว่าครูเยอะนะครับ เฮอๆ
แบ่งปันกันสนุกๆครับ อย่างให่ทุกคนลองสัมผัสสวรรค์บนดินในตัวเราดูนะครับ แล้วจะวางใจเรื่องสวรรค์บนฟ้าหลังชิวิตเนรเทศนี้ได้อีกมากเลยครับ
...ก็บังเอิญดีที่ได้มีโอกาสไป...เลยเรียนรู้อะไรมา ได้แบ่งปันกับพวกเรา...บังเอิญที่มีกระทู้พูดถึงเรื่องนี้ด้วย..
...แต่จริงๆแล้ว ผมเชื่อว่า ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้เป็นเรื่อง "บังเอิญ" หรอกครับ 
ขอพระอวยพรทุกคนครับ 
 

 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
								Holy				                
							
- Defender of lawS
  
- โพสต์: 10011
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm
						
						
													
							
						
									 
								 เสาร์ พ.ค. 30, 2009 11:53 pm
			
			
			
			
			Ot@ เขียน:
ในขณะที่ผมพยายามสงบจิตและทำสมาธิ สวนกระแสการนำทัวร์อันเร้าใจของท่านอาจารย์นั่นเอง....ผมก็ได้อธิฐานขอให้แม่พระอยู่เคียงข้างผม และให้ทุกสิ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์...
ตอนนั่นเอง ผมก็รู้สึกสงบ รู้สึกได้ถึงความอิ่ม ความสุข จนร้องไห้ออกมา...แล้วก็ได้ยินเสียงพูดของสตรีคนหนึ่งว่า "เราคือความเที่ยงแท้"
แค่นี้แหละครับ ผมก็ชัวร์เลยว่า สวรรค์ผมไม่ได้มียอด กลม หรือแบน ไม่จำเป็นต้องดูว่าใส่รองเท้าหรือไม่ใส่รองเท้า ไม่ต้องดูว่าแก้มตอบผอม หรือเต็งตึง...
แต่ สวรรค์ สถิตย์อยู่กับผม นั่นก็เพราะร่างกายของผมคือพระวิหารของพระเจ้า 
ความศักดิ์สิทธิ์ และสันติสุขกำลังลุกโชนดั่งเปลวไฟเดชะพระจิต  
และความอบอุ่นเกินบรรยายที่สัมผัสได้โดยไม่ต้องนั่งทางใน เดชะการวอนขอของพระแม่มารีย์
ทำให้ผมนึกได้ว่า ชีวิตในพระหรรษทานของพระเจ้า ก็คือสวรรค์บนดินดีๆนี่เอง
พอรู้สึกได้แค่นี้ ผมก็ไม่เคยจะกังวลถึงชีวิตหลังความตายอีกเลย....เพราะผมมั่นใจว่า พระองค์จะดูแลวิญญาณของผมอย่างดี และสวรรค์บนฟ้ามันจะสันติสุขมากกว่าสวรรค์บนดินเป็นร้อยพันเท่าทวี
 
ขอพระนามพระเจ้าทรงได้รับการสรรเสริญ 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
	        
			
		
		
			- 
				
																			 วอ
 
- โพสต์: 1153
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. พ.ย. 13, 2008 7:36 pm
						
						
													
							
						
									 
								 อาทิตย์  พ.ค. 31, 2009 12:21 pm
			
			
			
			
			1. อยู่บนเมฆ
2. บินไปบินมา ช่วยเหลือวิญญาณในไฟชำระ และมีชีวิตดุจดังอาดัมและเอวา ก่อนการกินผลไม้  

 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
																			 Cho
 
- โพสต์: 744
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
- ที่อยู่: Rayong
						
						
													
							
						
									 
								 อาทิตย์  พ.ค. 31, 2009 9:50 pm
			
			
			
			
			Ot@ เขียน:
บังเอิญมากที่ จขกท ถามเรื่องนี้ เพราะวันนี้ผมได้มีประสบการณ์เดี่ยวกับ"สวรรค์"โดยตรง ขอมาแบ่งปันตรงนี้ละกันนะครับ 
 (คำเตือน เรื่องที่เล่าเป็นประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
เรื่องเริ่มขึ้นจาก วันนี้ผมและคุณแม่ได้มีโอกาสไปฝึกมโนมยิทธิ เป็นการนั่งกรรมฐานชนิดหนึ่ง(?) ที่บ้านสายลม สำนักฤาษีลิงดำ
(คำเตือน เรื่องที่เล่าเป็นประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
เรื่องเริ่มขึ้นจาก วันนี้ผมและคุณแม่ได้มีโอกาสไปฝึกมโนมยิทธิ เป็นการนั่งกรรมฐานชนิดหนึ่ง(?) ที่บ้านสายลม สำนักฤาษีลิงดำ
ตัวผมเอง มีความเชื่อเป็นคาทอลิก แต่เมื่อคุณแม่ของผมขอร้องให้ไปเป็นเพื่อน ผมก็ตอบตกลงด้วยความวางใจที่ว่าความเชื่อของเราเข้มแข็งอยู่แล้ว และสนใจที่จะศึกษาวิธีทำสติในแบบต่างๆจากที่เราเคยชิน
 
พอไปถึงก็ผิดคาด เพราะผมได้พบว่า การฝึกมโนมยิทธินั้น มีจุดมุ่งหลักเพื่อพัฒนาจิตเพื่อให้เห็น สวรรค์ นรก และสิ่งต่างๆนอกเหนือธรรมชาตินั่นเอง
ระหว่างที่ฝึก จะมี"อาจารย์" ที่จะคอยพูดนำทาง (เหมือนไกด์) ว่าให้ยกจิตของเราขึ้นสวรรค์ ไปดูซิว่าพระพุทธเจ้า หน้าตาเป็นอย่างไร สวรรค์สวยงามอย่างไร และตัวเรามีร่างจิตอย่างไรบน"ภพนิพพาน"
ระหว่างนั่ง เธอจะคอยถามเหล่าผู้ฝึก (มีประมาณหกคนต่อหนึ่งห้องฝึก) เช็คดูว่าพวกเรา "เห็นจริง" รึเปล่า อาธิเช่น:
"มองหน้าพระพุทธเจ้าซิคะ....พระองค์ หน้าตอบผอม หรือ อิ่มเอมเต็มตึงค่ะ?"
"เห็นปราสาทแก้วด้านหน้าของเราไหมคะ?..ปราสาทสวรรค์นี้สวยไหมค่ะ?"
"ยอดปราสาท กลม หรือ แหลม ค่ะ?"
"พระพุทธเจ้าใส่รองเท้าอยู่ไหมค่ะ?....รองเท้าปลายแหลมสง่า หรือบางแบนค่ะ?"
ส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยได้ไกด์พาเดินทัวร์สวรรค์แบบนี้มาก่อนในชีวิต และมีอารมณ์เหมือนได้ไปเที่ยวปากน้ำ หรือ สระบุรี มากกว่าดินแดนสวรรค์....
ในขณะที่ผมพยายามสงบจิตและทำสมาธิ สวนกระแสการนำทัวร์อันเร้าใจของท่านอาจารย์นั่นเอง....ผมก็ได้อธิฐานขอให้แม่พระอยู่เคียงข้างผม และให้ทุกสิ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์...
ตอนนั่นเอง ผมก็รู้สึกสงบ รู้สึกได้ถึงความอิ่ม ความสุข จนร้องไห้ออกมา...แล้วก็ได้ยินเสียงพูดของสตรีคนหนึ่งว่า "เราคือความเที่ยงแท้"
แค่นี้แหละครับ ผมก็ชัวร์เลยว่า สวรรค์ผมไม่ได้มียอด กลม หรือแบน ไม่จำเป็นต้องดูว่าใส่รองเท้าหรือไม่ใส่รองเท้า ไม่ต้องดูว่าแก้มตอบผอม หรือเต็งตึง...
แต่ สวรรค์ สถิตย์อยู่กับผม นั่นก็เพราะร่างกายของผมคือพระวิหารของพระเจ้า 
ความศักดิ์สิทธิ์ และสันติสุขกำลังลุกโชนดั่งเปลวไฟเดชะพระจิต  
และความอบอุ่นเกินบรรยายที่สัมผัสได้โดยไม่ต้องนั่งทางใน เดชะการวอนขอของพระแม่มารีย์
ทำให้ผมนึกได้ว่า ชีวิตในพระหรรษทานของพระเจ้า ก็คือสวรรค์บนดินดีๆนี่เอง
พอรู้สึกได้แค่นี้ ผมก็ไม่เคยจะกังวลถึงชีวิตหลังความตายอีกเลย....เพราะผมมั่นใจว่า พระองค์จะดูแลวิญญาณของผมอย่างดี และสวรรค์บนฟ้ามันจะสันติสุขมากกว่าสวรรค์บนดินเป็นร้อยพันเท่าทวี
  
(พอนั่งเสร็จแล้ว คุณครูที่ฝึกก็พูดกับผมต่อหน้าทั้งห้องว่า "ครูเห็นเธอไปกับคนอื่นนะ") 

ทำไงได้ครับ ผมมันพวกชอบแตกแถวทัวร์...อีกอย่าง คนนำผมเขาสวย น่าเชื่อถือกว่าครูเยอะนะครับ เฮอๆ
แบ่งปันกันสนุกๆครับ อย่างให่ทุกคนลองสัมผัสสวรรค์บนดินในตัวเราดูนะครับ แล้วจะวางใจเรื่องสวรรค์บนฟ้าหลังชิวิตเนรเทศนี้ได้อีกมากเลยครับ
...ก็บังเอิญดีที่ได้มีโอกาสไป...เลยเรียนรู้อะไรมา ได้แบ่งปันกับพวกเรา...บังเอิญที่มีกระทู้พูดถึงเรื่องนี้ด้วย..
...แต่จริงๆแล้ว ผมเชื่อว่า ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้เป็นเรื่อง "บังเอิญ" หรอกครับ 
ขอพระอวยพรทุกคนครับ 
 
 
 
รู้สึกว่าพระภิกษุที่้เป็นเจ้าสำนักนี้ เขาเคยอ้างว่า เคยพบพระเยซูที่สวรรค์ชั้นดุสิตนี่น่ะครับ ผมอ่านแล้วเคืองมากเลย  
 http://www.luangporruesi.com/681.html
http://www.luangporruesi.com/681.html
					แก้ไขล่าสุดโดย  
Cho เมื่อ อาทิตย์  พ.ค. 31, 2009 9:54 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
									
 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
								Holy				                
							
- Defender of lawS
  
- โพสต์: 10011
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm
						
						
													
							
						
									 
								 อาทิตย์  พ.ค. 31, 2009 10:24 pm
			
			
			
			
			Cho เขียน:
Ot@ เขียน:
บังเอิญมากที่ จขกท ถามเรื่องนี้ เพราะวันนี้ผมได้มีประสบการณ์เดี่ยวกับ"สวรรค์"โดยตรง ขอมาแบ่งปันตรงนี้ละกันนะครับ 
 (คำเตือน เรื่องที่เล่าเป็นประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
เรื่องเริ่มขึ้นจาก วันนี้ผมและคุณแม่ได้มีโอกาสไปฝึกมโนมยิทธิ เป็นการนั่งกรรมฐานชนิดหนึ่ง(?) ที่บ้านสายลม สำนักฤาษีลิงดำ
(คำเตือน เรื่องที่เล่าเป็นประสบการณ์และความรู้สึกส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)
เรื่องเริ่มขึ้นจาก วันนี้ผมและคุณแม่ได้มีโอกาสไปฝึกมโนมยิทธิ เป็นการนั่งกรรมฐานชนิดหนึ่ง(?) ที่บ้านสายลม สำนักฤาษีลิงดำ
ตัวผมเอง มีความเชื่อเป็นคาทอลิก แต่เมื่อคุณแม่ของผมขอร้องให้ไปเป็นเพื่อน ผมก็ตอบตกลงด้วยความวางใจที่ว่าความเชื่อของเราเข้มแข็งอยู่แล้ว และสนใจที่จะศึกษาวิธีทำสติในแบบต่างๆจากที่เราเคยชิน
 
พอไปถึงก็ผิดคาด เพราะผมได้พบว่า การฝึกมโนมยิทธินั้น มีจุดมุ่งหลักเพื่อพัฒนาจิตเพื่อให้เห็น สวรรค์ นรก และสิ่งต่างๆนอกเหนือธรรมชาตินั่นเอง
ระหว่างที่ฝึก จะมี"อาจารย์" ที่จะคอยพูดนำทาง (เหมือนไกด์) ว่าให้ยกจิตของเราขึ้นสวรรค์ ไปดูซิว่าพระพุทธเจ้า หน้าตาเป็นอย่างไร สวรรค์สวยงามอย่างไร และตัวเรามีร่างจิตอย่างไรบน"ภพนิพพาน"
ระหว่างนั่ง เธอจะคอยถามเหล่าผู้ฝึก (มีประมาณหกคนต่อหนึ่งห้องฝึก) เช็คดูว่าพวกเรา "เห็นจริง" รึเปล่า อาธิเช่น:
"มองหน้าพระพุทธเจ้าซิคะ....พระองค์ หน้าตอบผอม หรือ อิ่มเอมเต็มตึงค่ะ?"
"เห็นปราสาทแก้วด้านหน้าของเราไหมคะ?..ปราสาทสวรรค์นี้สวยไหมค่ะ?"
"ยอดปราสาท กลม หรือ แหลม ค่ะ?"
"พระพุทธเจ้าใส่รองเท้าอยู่ไหมค่ะ?....รองเท้าปลายแหลมสง่า หรือบางแบนค่ะ?"
ส่วนตัวแล้ว ผมไม่เคยได้ไกด์พาเดินทัวร์สวรรค์แบบนี้มาก่อนในชีวิต และมีอารมณ์เหมือนได้ไปเที่ยวปากน้ำ หรือ สระบุรี มากกว่าดินแดนสวรรค์....
ในขณะที่ผมพยายามสงบจิตและทำสมาธิ สวนกระแสการนำทัวร์อันเร้าใจของท่านอาจารย์นั่นเอง....ผมก็ได้อธิฐานขอให้แม่พระอยู่เคียงข้างผม และให้ทุกสิ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์...
ตอนนั่นเอง ผมก็รู้สึกสงบ รู้สึกได้ถึงความอิ่ม ความสุข จนร้องไห้ออกมา...แล้วก็ได้ยินเสียงพูดของสตรีคนหนึ่งว่า "เราคือความเที่ยงแท้"
แค่นี้แหละครับ ผมก็ชัวร์เลยว่า สวรรค์ผมไม่ได้มียอด กลม หรือแบน ไม่จำเป็นต้องดูว่าใส่รองเท้าหรือไม่ใส่รองเท้า ไม่ต้องดูว่าแก้มตอบผอม หรือเต็งตึง...
แต่ สวรรค์ สถิตย์อยู่กับผม นั่นก็เพราะร่างกายของผมคือพระวิหารของพระเจ้า 
ความศักดิ์สิทธิ์ และสันติสุขกำลังลุกโชนดั่งเปลวไฟเดชะพระจิต  
และความอบอุ่นเกินบรรยายที่สัมผัสได้โดยไม่ต้องนั่งทางใน เดชะการวอนขอของพระแม่มารีย์
ทำให้ผมนึกได้ว่า ชีวิตในพระหรรษทานของพระเจ้า ก็คือสวรรค์บนดินดีๆนี่เอง
พอรู้สึกได้แค่นี้ ผมก็ไม่เคยจะกังวลถึงชีวิตหลังความตายอีกเลย....เพราะผมมั่นใจว่า พระองค์จะดูแลวิญญาณของผมอย่างดี และสวรรค์บนฟ้ามันจะสันติสุขมากกว่าสวรรค์บนดินเป็นร้อยพันเท่าทวี
  
(พอนั่งเสร็จแล้ว คุณครูที่ฝึกก็พูดกับผมต่อหน้าทั้งห้องว่า "ครูเห็นเธอไปกับคนอื่นนะ") 

ทำไงได้ครับ ผมมันพวกชอบแตกแถวทัวร์...อีกอย่าง คนนำผมเขาสวย น่าเชื่อถือกว่าครูเยอะนะครับ เฮอๆ
แบ่งปันกันสนุกๆครับ อย่างให่ทุกคนลองสัมผัสสวรรค์บนดินในตัวเราดูนะครับ แล้วจะวางใจเรื่องสวรรค์บนฟ้าหลังชิวิตเนรเทศนี้ได้อีกมากเลยครับ
...ก็บังเอิญดีที่ได้มีโอกาสไป...เลยเรียนรู้อะไรมา ได้แบ่งปันกับพวกเรา...บังเอิญที่มีกระทู้พูดถึงเรื่องนี้ด้วย..
...แต่จริงๆแล้ว ผมเชื่อว่า ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้เป็นเรื่อง "บังเอิญ" หรอกครับ 
ขอพระอวยพรทุกคนครับ 
 
 
 
รู้สึกว่าพระภิกษุที่้เป็นเจ้าสำนักนี้ เขาเคยอ้างว่า เคยพบพระเยซูที่สวรรค์ชั้นดุสิตนี่น่ะครับ ผมอ่านแล้วเคืองมากเลย  
 http://www.luangporruesi.com/681.html
http://www.luangporruesi.com/681.html
 
เกรียนมาก
หรืออีกทีก็ จิตปรุงแต่งขั้นรุนแรง
มาดูคนเจอพระเยซูตัวจริง ทรงยิ่งกว่าการยืนยันยกบาป แต่ทรงยืนยันว่าทรงยกบาปคนทั้งโลก และมีซิสเตอร์ตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่ถ่อมสุภาพ ไม่โอ้อวดตัวเอง รับการประจักษ์แบบไม่ต้องนั่งทางในสะกดจิตตัวเอง
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=1331.0 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
	        
			
		
		
			- 
				
																			 Starry Night
 
- โพสต์: 133
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2008 11:42 am
- ที่อยู่: > <" Xiah Junsu Fightingg g!!!
						
						
													
							
						
									 
								 จันทร์ มิ.ย. 01, 2009 8:48 pm
			
			
			
			
			Batholomew เขียน:
ขอบใจน้อง Ot@ ที่แบ่งปันนะครับ
ปล.
 ทุเรศสุด ๆ 
 
 
 
เจ็บตัวไม่เท่าไหร่ แต่ เจ็บใจนี่สิ สุดจาท๊นนนนน~~~
 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
																			 Like a Heaven
- .
  
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์  ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
						
						
													
							
						
									 
								 อังคาร มิ.ย. 02, 2009 2:36 am
			
			
			
			
			สำหรับผมเหรอ??
อืม...มม
สวรรค์คงเหมือนเกาะมัลดีฟอ่ะครับ 
ถ้าได้ชีวิตนิรันดร์ ผมจะไปคารวะท่านน.มัทธิวก่อนเลยครับ (ท่านเปนผู้พิทักษ์ผมนิเนอะ อิๆ) แล้วคงชวนคุยเรื่องวิชาชีพสนุกๆ
หลังจากนั้นคงออกไปคารวะท่านน.องค์อื่นๆ แล้วก้อชวนคุยเรื่องต่างๆสมัยท่านอยู่บนโลก การได้ฟังจากปากท่านผมว่าน่าสนุกดีจริงๆ 
 
ช่วยแม่พระภาวนาให้คนบนโลกและไฟชำระ
ที่สำคัญคือ รอพ่อ แม่ น้องชาย น้องสาว เพื่อน แฟน และคนรู้จักผมได้มาอยู่ที่นี่ด้วยกัน ครับ
			
									
									
						 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
								Valkyrie Zero Number				                
							
 
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
						
						
													
							
						
									 
								 อังคาร มิ.ย. 02, 2009 1:03 pm
			
			
			
			
			
นึกๆไป เราคงจะได้อดขึ้นสวรรค์ก็งานนี้
เพราะถ้าขอจากพระเจ้าได้ เราอยากลงไปกระทืบพระท่านนี้และพวกแอนตี้คริสต์คนอื่น ๆ ให้ไม่เหลือซากสักชิ้นเดียวน่ะสิ
(วันนี้หงุดหงิดบอกไม่ถูก)
 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
								Holy				                
							
- Defender of lawS
  
- โพสต์: 10011
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm
						
						
													
							
						
									 
								 พุธ มิ.ย. 03, 2009 2:36 am
			
			
			
			
			อธิษฐานสุ่มเปิดพระคัมภีร์แล้วได้บทเหล่านี้
กท 1:7
อันที่จริงแล้ว  ข่าวดีอื่นนั้นไม่มี แต่มีบางคนก่อความวุ่นวายในหมู่ท่านทั้งหลาย และประสงค์จะบิดเบือนข่าวดีของพระคริสตเจ้า  แต่ถ้าเรา หรือทูตสวรรค์ประกาศข่าวดีขัดแย้งกับที่เราเคยประกาศแก่ท่าน ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด   บัดนี้ ข้าพเจ้าขอพูดย้ำสิ่งที่ข้าพเจ้าเคยพูดไว้ก่อนอีกครั้งหนึ่งว่า ถ้าใครประกาศข่าวดีแก่ท่านขัดแย้งกับข่าวดีที่ท่านเคยรับไว้ ก็ขอให้ผู้นั้นถูกสาปแช่งเถิด    บัดนี้ ข้าพเจ้ากำลังเอาใจมนุษย์หรือพระเจ้า ข้าพเจ้าพยายามเอาใจมนุษย์กระนั้นหรือ หากข้าพเจ้ายังเอาใจมนุษย์ ข้าพเจ้าก็คงไม่เป็นผู้รับใช้ของพระคริสตเจ้า
2คร 11:3 
ข้าพเจ้าเกรงว่างูหลอกลวงนางเอวาด้วยกลอุบายของมันฉันใด ความคิดของท่านอาจถูกหลอกลวงให้หันไปจากความซื่อสัตย์และบริสุทธิ์ ต่อพระคริสตเจ้าฉันนั้น  เพราะถ้าผู้ใดมาประกาศพระเยซูเจ้าอีกองค์หนึ่ง แตกต่างไปจากองค์ที่เราได้ประกาศ  หรือถ้าท่านได้รับพระจิตเจ้าอีกองค์หนึ่งซึ่งต่างไปจากองค์ที่ท่านได้รับ หรือรับข่าวดีแตกต่างไปจากข่าวดีที่ท่านได้รับ  
2คร 11:12 
ข้าพเจ้าทำเช่นนี้และจะทำต่อไป เพื่อตัดโอกาสผู้ที่ต้องการโอ้อวดแสดงตนว่าเท่าเทียมกับเรา คนเหล่านี้เป็นอัครสาวกปลอม เป็นผู้ทำงานหลอกลวงที่ปลอมตนเป็นอัครสาวกของพระคริสตเจ้า  ไม่ต้องแปลกใจ ซาตานก็ยังปลอมเป็นทูตแห่งแสงสว่างได้   จึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด ถ้าคนใช้ของมันจะปลอมเป็นผู้รับใช้ความชอบธรรม จุดจบของเขาจะเป็นไปตามกิจการที่เขากระทำ 
			
									
									
						 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
																			 Buddy
 
- โพสต์: 3057
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
- ที่อยู่: USA
						
						
													
							
						
									 
								 พุธ มิ.ย. 03, 2009 2:49 am
			
			
			
			
			Batholomew เขียน:
ขอบใจน้อง Ot@ ที่แบ่งปันนะครับ
ปล.
 ทุเรศสุด ๆ 
 
 
เคยได้ยินเหมือนกัน เรื่องอยู่ชั้นดุสิตเนี่ย และเคยเชื่อด้วย  ตอนเด็กๆ มีพระมาพาฝึกสมาธิที่โรงเรียน  ก็บอกแบบนี้แหละ 
Ot@ เขียน:
(พอนั่งเสร็จแล้ว คุณครูที่ฝึกก็พูดกับผมต่อหน้าทั้งห้องว่า "ครูเห็นเธอไปกับคนอื่นนะ") 
 
 
แต่เค้าก็เจ๋งที่ว่า เค้ารู้นะว่า เราไม่ได้ไปกับเค้า   

 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
								Ot@				                
							
- ~@ 
- โพสต์: 989
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:44 pm
						
						
													
							
						
									 
								 พุธ มิ.ย. 03, 2009 10:34 am
			
			
			
			
			Buddy เขียน:
Batholomew เขียน:
ขอบใจน้อง Ot@ ที่แบ่งปันนะครับ
ปล.
 ทุเรศสุด ๆ 
 
 
เคยได้ยินเหมือนกัน เรื่องอยู่ชั้นดุสิตเนี่ย และเคยเชื่อด้วย  ตอนเด็กๆ มีพระมาพาฝึกสมาธิที่โรงเรียน  ก็บอกแบบนี้แหละ 
Ot@ เขียน:
(พอนั่งเสร็จแล้ว คุณครูที่ฝึกก็พูดกับผมต่อหน้าทั้งห้องว่า "ครูเห็นเธอไปกับคนอื่นนะ") 
 
 
แต่เค้าก็เจ๋งที่ว่า เค้ารู้นะว่า เราไม่ได้ไปกับเค้า   : xemo017 :
 
คงเป็นเพราะผมไม่ได้ตอบ สีแดง สีเหลืองอะไรตามเขา มากกว่ามั้งครับพี่....
 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
								dark-kanita				                
							
 
- โพสต์: 317
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 18, 2007 2:37 pm
						
						
													
							
						
									 
								 พฤหัสฯ. มิ.ย. 04, 2009 3:13 pm
			
			
			
			
			
 แฮะแฮะ  อณาจักรแห่งสวรรค์เป็นยังไงก็สุดปัญญามนุษนย์จะเดาได้คะ      แต่ในความดิคของหนูนะ  หนูว่าต้องเป็นสถานที่สวยๆ  ไฮโซ......(แบบในเกม L2 กับ GE  มั้ง อุอุ)   และที่สำคัญที่นั่นหนูจะได้พบพระเจ้า  เหล่านักบุญ  และทูตศวรรค์(หล่อๆ)มากมาย
แบบว่าตอนนี้แอบหวังมากมายเลยคะว่า   ถ้าชาตินี้มีปัญญาผ่านไฟชำระได้ละก็   อุอุ 

  หนูตาจะขอลายเซน  ท่านอัครเทวดา ทั้ง7 ให้ได้เลยละคะ  แอบปลื้มมาน้าน นาน: emo010 :   โดยเฉพาะท่าน 
มิคาเอล  และท่านราฟาเอล   หนูจะขอฝากตัวเป็นลูกสิทให้ได้ละ   ก็คิดไว้แบบนี้อะนะ คิคิ
 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
	        
			
		
		
			- 
				
																			 myth
 
- โพสต์: 305
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ม.ค. 17, 2009 1:25 am
						
						
													
							
						
									 
								 ศุกร์ มิ.ย. 12, 2009 1:36 am
			
			
			
			
			เพิ่งเรียนมาอาทิตย์ทีแล้ว /ชูมีอสุดแขน/ ตามความเช้าใจสวรรค์เป็นการที่เราอยู่ใกล้ชิดพระจ้า เป็นการที่เราอยู่ใกล้ชิดพระองค์นั่นหมายถึงสวรรค์แล้ว แม้เราจะอยู่บนโลกก็ตาม ฮิๆ ก็ประมาณนี้ ไม่รุถูกเปล่า ถ้าผิดยังไง รบกวนผู้รู้ช่วยแก้ด้วย
			
									
									
						 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
																			 Batholomew
- ~@ 
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
						
						
													
							
						
									 
								 ศุกร์ มิ.ย. 12, 2009 11:58 am
			
			
			
			
			วอ เขียน:
ตายแล้วเดี๋ยวเราก็จะได้รู้ เหอ เหอ  
 
 
สวรรค์มีไว้สำหรับผู้ที่ปฏิบัติตามน้ำพระทัยพระองค์ด้วยนะครับ 

 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
								Jeanne d'Arc				                
							
 
- โพสต์: 235
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 12, 2009 12:33 pm
						
						
													
							
						
									 
								 ศุกร์ มิ.ย. 12, 2009 8:11 pm
			
			
			
			
			ในจินตนาการผมก็เป็นดินแดนคล้ายโลกเราในยุคก่อนๆ แบ่งเป็นเขตย่อยๆหลายๆเขต แต่ละเขตก็อาจจะอยู่ใกล้กันหรือไกลก็เป็นไปตามพระประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นท้องทะเลทรายที่แสดงความสวยงามของพื้นดิน หุบเขาและผาสูงที่งดงามอันแสดงความยิ่งใหญ่แห่งการสร้างสรรค์ของพระเป็นเจ้า เมืองลอยฟ้า(?)อันวิจิตร รวมไปถึงท้องทะเล เกาะ ป่า ฯลฯ
รวมไปถึง อาณาจักรย่อยในอาณาจักรสวรรค์มากมายที่สถาปัตยกรรมแตกต่างกันไป ทั้งแบบที่เห็นได้บนโลก และแบบที่ไม่เคยมีบนโลก ทุกๆอาณาจักรล้วนรักและปรองดองกันฉันพี่น้องไม่แตกแยก ไม่แย่งชิง เพราะล้วนแต่อยู่ในอาณาจักรสวรรค์อันมีพระเจ้าเป็นผู้ปกครองเช่นเดียวกัน 
ที่ผมชอบมากที่สุดในจินตนาการคงเป็น เนินเขาที่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าและมีเมืองเล็กๆอยู่กระจัดกระจาย มีแม่น้ำไหลผ่าน พืชพันธุ์อุดมสมบูรณ์ สายลมพัดพามาซึ่งอากาศบริสุทธิ์ ผู้คนในเมืองย่อย อาณาจักรย่อยต่างร่วมกันสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า ทุกๆคนต่างได้รับพระพรและบำเหน็จจากพระเจ้าตามความชอบธรรมของเขา ทุกคนรักกัน ไม่มีการหลั่งน้ำตา ไม่มีการหลั่งเลือด ไม่มีความบาปทั้งหลายอยู่ในมนุษย์อีกต่อไป
สิ่งที่อยากทำ ก็คงจะเป็นการท่องเที่ยวไปในอาณาจักรสวรรค์เรื่อยๆกระมังครับ เพราะอาณาจักรสวรรค์นั้นสวยงาม การสร้างของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่และงดงามยิ่ง  ที่สำคัญคือ นมัสการพระเจ้าร่วมกับผู้ได้รับการช่วยให้รอดบนสวรรค์ครับผม
			
									
									
						 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
								billa-bong				                
							
- ~@ 
- โพสต์: 668
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 14, 2006 12:16 pm
- ที่อยู่: thailand
						
						
													
							
						
									 
								 จันทร์ มิ.ย. 22, 2009 5:40 am
			
			
			
			
			ผมสวรรค์คงใหญ่มาก คนเยอะน่าดู คำนวนจากคนที่ตายไปก่อนเรา นักบุญดังๆสงสัย คงต้องคอยวิงวอนขอพรที่พวกเราขอเค้า กับพระเยซูทั้งวันเลยมั่ง ได้นอนมั่งไม๊เนี่ย เทวดาคงบินกันไปมาให้ว่อน แล้วเราจะโป้เหมือนตอนอาดัมไม๊เนี่ย อายน่ะดู 

 ฮะๆๆ อยากให้มีเกม มีฟิทเนส สระว่ายน้ำ แล้วก็ของอร่อยๆๆ กินเยอะๆ เวลาซื้อของก็จ่ายกันเป็นคำภาวนา ซื้อไอโฟนนี่สวดกันกี่สายเนี่ย ฮ่าๆๆๆ คงจะมีสวดแบบผ่อนน่ะ น่าสนุกดีแฮะ อีกอย่างที่นั้นคงมีแต่คนรักกัน คุยกัน ไปมิสซา ด้วยกัน ไปชอบปิ้งด้วย ฟุ้งมากไปไม๊เนี่ยยยย เย้ยยยยยย
พระเจ้าอวยพรครับบ
 
		 
				
		
		 
	 
	        
			
		
		
			- 
				
								Florian				                
							
 
- โพสต์: 1513
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 31, 2006 12:05 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
						
						
													
							
						
									 
								 อังคาร มิ.ย. 23, 2009 12:22 pm
			
			
			
			
			"ถ้าสวรรค์เป็น
สวน ก็ไม่น่าไป เพราะขี้เกียจไปนั่งดายหญ้า"
ส่วนสวรรค์เป็นอย่างไรนั้น ไม่อาจรู้แน่ชัด ที่แน่นอนคือเป็น "สถานที่ที่จะได้อยู่ชิดสนิทเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า"  
