เชื่อเรื่อง กรรม ผิดไหม?
- .::พรั่งพรู::.
- โพสต์: 179
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ค. 25, 2009 1:01 am
- ติดต่อ:
ถ้าเราเชื่อเรื่องกรรมอ่ะครับ ประมาณว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วจะผิดหลักศาสนาไหม? เพราะตอนนี้ผมเชื่อสุดใจเลยครับเจอมากับตัว
เอาแบบง่ายๆ คาทอลิคเชื่อในเรื่องผลของการกระทำครับ แต่ไม่เป็นแบบข้ามภพข้ามชาติเหมือนของพุทธครับ คาทอลิคเชื่อว่ามีชีวิตเดียว ตายไปก็ไปรับคำตัดสิน ถ้ายังไม่สะอาดก็ไปแวะชำระตัวก่อน(นี่ก็อาจจะเข้าข่ายต้องชดใช้สิ่งที่ไม่ดีที่ทำไว้ คล้ายๆเรื่องกรรม แต่สิ้นสุดแค่นั้นครับ ชำระเสร็จแล้วก็ไปอยู่กับพระเจ้าเลย ไม่มีข้ามชาติมาเกิดใช้กรรมต่อแบบชาวพุทธครับผม)
ผมก็ยังคงเชื่อนะครับ เพราะแบบว่าที่ห้องผมมีตัวอย่างให้เห็นอยู่หลายๆคนครับ
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
เชื่อเรื่อง กรรม ไม่ผิดหรอกค่ะ จะทำอะไรจะได้ระวังไม่ไปเบียดเบียนเพื่อนพี่น้องท่่านอื่นเข้า
เพราะมนุษย์ทุกคนต่างก็เป็นลูกของพระเหมือนกันหมด
ทำดี ... พระอวยพร ทำไม่ดี ... พระก็ตีสอน ลูกของพระจะได้รักกันและกัน และไม่เบียดเบียนกันและกัน
เพราะมนุษย์ทุกคนต่างก็เป็นลูกของพระเหมือนกันหมด
ทำดี ... พระอวยพร ทำไม่ดี ... พระก็ตีสอน ลูกของพระจะได้รักกันและกัน และไม่เบียดเบียนกันและกัน
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
กฎแห่งกรรมของพุทธจะเข้าทาง "ตาแทนตา ฟันแทนฟัน" เจ้ากรรมนายเวรจองเวรกันจนกว่าจะหมดเวรหมดกรรม
ต่างกับของคริสต์ที่พระเยซูชดใช้ให้เราหมดแล้วที่กางเขนและเมื่อเราพลาดและสำนึกผิดพระองค์ก็ให้อภัย
เราจึงถือว่า "สิ้นกระแสกรรม" และไม่มีเจ้ากรรมนายเวรที่ไหนจะมาจองเวรเราได้
"ใครจะฟ้องคนเหล่านั้นที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้ พระเจ้าทรงโปรดให้พ้นโทษแล้ว" (รม.8:33)
แต่พระคัมภีร์ก็มีสอนว่า "เพราะว่าผู้ใดหว่านอะไรลง ก็จะเกี่ยวเก็บสิ่งนั้น" (กท.6:7)
แต่นี่ไม่ใช่การตามจองล้างจองผลาญจากใครที่ไหน เพื่อที่จะทำลายล้างกัน
แต่เป็นการเตือนและการตีสอนจากพระเจ้า เพื่อให้สำนึกผิดและกลับใจใหม่
เพื่อจะได้รู้จักน้ำพระทัยของพระเจ้า
ปล. ศาสนาอื่น = ทำดี(เพราะอยาก)ได้ดี (ทำดีก่อนแล้วจึงได้ดี ความดีเป็นผลตอบแทนจากสิ่งที่ทำ)
คริสตชน = ได้ดี(เราจึง)ทำดี (เราอ่อนแอ แต่พระเจ้าทรงรักเราก่อน(1ยน.4:19) เราจึงไม่มีข้ออ้างที่จะไม่ทำดี)
ต่างกับของคริสต์ที่พระเยซูชดใช้ให้เราหมดแล้วที่กางเขนและเมื่อเราพลาดและสำนึกผิดพระองค์ก็ให้อภัย
เราจึงถือว่า "สิ้นกระแสกรรม" และไม่มีเจ้ากรรมนายเวรที่ไหนจะมาจองเวรเราได้
"ใครจะฟ้องคนเหล่านั้นที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้ พระเจ้าทรงโปรดให้พ้นโทษแล้ว" (รม.8:33)
แต่พระคัมภีร์ก็มีสอนว่า "เพราะว่าผู้ใดหว่านอะไรลง ก็จะเกี่ยวเก็บสิ่งนั้น" (กท.6:7)
แต่นี่ไม่ใช่การตามจองล้างจองผลาญจากใครที่ไหน เพื่อที่จะทำลายล้างกัน
แต่เป็นการเตือนและการตีสอนจากพระเจ้า เพื่อให้สำนึกผิดและกลับใจใหม่
เพื่อจะได้รู้จักน้ำพระทัยของพระเจ้า
ปล. ศาสนาอื่น = ทำดี(เพราะอยาก)ได้ดี (ทำดีก่อนแล้วจึงได้ดี ความดีเป็นผลตอบแทนจากสิ่งที่ทำ)
คริสตชน = ได้ดี(เราจึง)ทำดี (เราอ่อนแอ แต่พระเจ้าทรงรักเราก่อน(1ยน.4:19) เราจึงไม่มีข้ออ้างที่จะไม่ทำดี)
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ ส.ค. 14, 2009 8:14 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ขอบคุณครับ ข้อมูลดีมากครับ ผมชอบDeo Gratias เขียน: กฎแห่งกรรมของพุทธจะเข้าทาง "ตาแทนตา ฟันแทนฟัน" เจ้ากรรมนายเวรจองเวรกันจนกว่าจะหมดเวรหมดกรรม
ต่างกับของคริสต์ที่พระเยซูชดใช้ให้เราหมดแล้วที่กางเขนและเมื่อเราพลาดและสำนึกผิดพระองค์ก็ให้อภัย
เราจึงถือว่า "สิ้นกระแสกรรม" และไม่มีเจ้ากรรมนายเวรที่ไหนจะมาจองเวรเราได้
"ใครจะฟ้องคนเหล่านั้นที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้ พระเจ้าทรงโปรดให้พ้นโทษแล้ว" (รม.8:33)
แต่พระคัมภีร์ก็มีสอนว่า "เพราะว่าผู้ใดหว่านอะไรลง ก็จะเกี่ยวเก็บสิ่งนั้น" (กท.6:7)
แต่นี่ไม่ใช่การตามจองล้างจองผลาญจากใครที่ไหน เพื่อที่จะทำลายล้างกัน
แต่เป็นการเตือนและการตีสอนจากพระเจ้า เพื่อให้สำนึกผิดและกลับใจใหม่
เพื่อจะได้รู้จักน้ำพระทัยของพระเจ้า
ปล. ศาสนาอื่น = ทำดี(เพราะอยาก)ได้ดี (ทำดีก่อนแล้วจึงได้ดี ความดีเป็นผลตอบแทนจากสิ่งที่ทำ)
คริสตชน = ได้ดี(เราจึง)ทำดี (เราอ่อนแอ แต่พระเจ้าทรงรักเราก่อน(1ยน.4:19) เราจึงไม่มีข้ออ้างที่จะไม่ทำดี)

คำว่า กรรม ในพระพุทธศาสนานั้น ไม่ได้แปลว่า เป็นกรรมชั่วอย่างเดียวนะครับ
แต่เหมารวมถึงกรรมดีด้วย กล่าวคือ กรรม คือการกระทำครับ
แต่สำหรับผมนั้นเชื่อครับ ผมเชื่อในเรื่องของเหตุผลมากกว่า
ผมเชื่อในการทำความดี ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว หรือ ผู้ใดหว่านอะไรลง ก็จะเกี่ยวเก็บสิ่งนั้นครับ
หากไร้ซึ่งเหตุผล ก็คงไม่เชื่อ หากไร้ซึ่งความศรัทธา แน่นอนว่า จะไม่มีความเชื่อเลย
และที่สำคัญผมไม่เชื่อหรอกครับว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนั้น เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญ
ลูกคงไม่บังเอิญเกิดมาเป็นลูกของแม่
พระยูซูคริสต์แน่นอนว่าไม่บังเอิญเกิดมาในท้องของพระแม่มาลีเหมือนกัน
ฉันใดก็ฉันนั้น ทุกอย่างในโลกมันมีเหตุผลที่มีนเป็นไป ทุกอย่างมีเหตุ ทุกสิ่งเลยมีผลครับ
สวัสดี
พระเจ้าอวยพร
แต่เหมารวมถึงกรรมดีด้วย กล่าวคือ กรรม คือการกระทำครับ
แต่สำหรับผมนั้นเชื่อครับ ผมเชื่อในเรื่องของเหตุผลมากกว่า
ผมเชื่อในการทำความดี ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว หรือ ผู้ใดหว่านอะไรลง ก็จะเกี่ยวเก็บสิ่งนั้นครับ
หากไร้ซึ่งเหตุผล ก็คงไม่เชื่อ หากไร้ซึ่งความศรัทธา แน่นอนว่า จะไม่มีความเชื่อเลย
และที่สำคัญผมไม่เชื่อหรอกครับว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกนั้น เกิดขึ้นเพราะความบังเอิญ
ลูกคงไม่บังเอิญเกิดมาเป็นลูกของแม่
พระยูซูคริสต์แน่นอนว่าไม่บังเอิญเกิดมาในท้องของพระแม่มาลีเหมือนกัน
ฉันใดก็ฉันนั้น ทุกอย่างในโลกมันมีเหตุผลที่มีนเป็นไป ทุกอย่างมีเหตุ ทุกสิ่งเลยมีผลครับ
สวัสดี
พระเจ้าอวยพร
- Ministry Of Men
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
ในบทสวดแก้บาปต่อพระสงฆ์ ก็มีกล่าวไว้นี่ครับ "ทั้งจะอุตส่าห์รับโทษ.." อะไรนั่น จำไม่ได้ครับ พอดี ไม่ใช่คาทอลิก 

- (⊙△⊙)คุณxuู๓้uxoม(⊙△⊙)
- โพสต์: 892
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ต.ค. 10, 2008 12:38 am
จะทำอะไรยังไง ศาสนาไหน ทำผิดก็ต้องรับผิดเจ้าคะ
เพราะงั้น คงไม่ผิดละนะคะ แต่ของคริสเรา ไม่มีเกิดชาติหน้าแล้วตามไปใช้กรรมคะ
ตายไป บาปเยอะ ก็ลงไปไฟชำระอย่างเดียว
เพราะงั้น คงไม่ผิดละนะคะ แต่ของคริสเรา ไม่มีเกิดชาติหน้าแล้วตามไปใช้กรรมคะ
ตายไป บาปเยอะ ก็ลงไปไฟชำระอย่างเดียว
-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
เสาร์ เขียน: เราหว่านอะไรลงไปเราก็จะได้สิ่งนั้นนั่นแหละ เราหว่านข้าวจะได้ผลเป็นแตงกวามันเป็นไปไม่ได้


- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
ทำไมคุณต้องเรียกแยกระหว่างถั่วงอกกับถั่วเขียว ในเมื่อพระองค์กำหนดให้มันเป็น Species เดียวกันกรอกสมบูรณ์ เขียน:เสาร์ เขียน: เราหว่านอะไรลงไปเราก็จะได้สิ่งนั้นนั่นแหละ เราหว่านข้าวจะได้ผลเป็นแตงกวามันเป็นไปไม่ได้แล้ว...หว่านถั่วเขียว ทำไม...ได้ถั่วงอกหล่ะ !!!
![]()

-
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
ก้อ...ชอบผัดถั่วงอกมากกว่าถั่วเขียวต้มนี่Pegasus Valkyrie เขียน:ทำไมคุณต้องเรียกแยกระหว่างถั่วงอกกับถั่วเขียว ในเมื่อพระองค์กำหนดให้มันเป็น Species เดียวกันกรอกสมบูรณ์ เขียน:เสาร์ เขียน: เราหว่านอะไรลงไปเราก็จะได้สิ่งนั้นนั่นแหละ เราหว่านข้าวจะได้ผลเป็นแตงกวามันเป็นไปไม่ได้แล้ว...หว่านถั่วเขียว ทำไม...ได้ถั่วงอกหล่ะ !!!
![]()
![]()

ห้องนี้เป็นห้องศาลาธรรมของชาวคริตส์ แต่ก็มีการพูดถึงพุทธก็ขอเสวนาบ้างนะครับ
พุทธศาสนาเน้นปัจจุบันธรรมครับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย กรรมดี คือบุญ กุศลาธรรมา กรรมชั่วคือ บาป อกุศลาธรรมา แยกกัน กรรมทั้งดีและชั่ว ต้องประกอบด้วยเจตนา ถึงจะสำเร็จเป็นกรรม
อำนาจกรรมชั่ว อาจถูกเจือจางได้ด้วย อำนาจกรรมดี ตราบใดที่ยังมีอวิชชา ก็ยังต้องมีการปรุงแต่งด้วยบุญ และบาป
และกรรมจะเป็นอโหสิกรรม ไม่สามารถจะส่งผลได้ ถ้าหากทำลายอวิชชาได้ หลุดพ้นได้
ส่วนเรื่องการให้อภัย และอภัยทาน ก็เป็นกรรมดีอีกอย่างหนึ่ง เรื่องเจ้ากรรมนายเวร ก็เป็นเรื่องระหว่างบุคคล คนละเรื่องกับการหลุดพ้นจากกรรม
จะหลุดพ้นจากกรรมได้ต้องขัดเกลาพัฒนาตนเองควบคู่ไปกับอานุภาพพระรัตนะตรัย ต้องมีศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญาและเหตุปัจจัย(ไม่ใช่แค่เหตุผล)จึงจะถึงความหลุดพ้นได้
ทางพุทธ ทำความดี เพื่อความดี คือเพื่อการขัดเกลา กาย วาจา ใจ ตนเอง ไม่ใช่เพื่อเอาใจหรือหวังสิ่งตอบแทนจากอะไรๆ ไม่ได้ทำดีเพราะกลัวปาบ (หิริ โอตตัปปะ ก็อีกเรื่องหนึ่ง)
คำว่าบุญ บาป เวรกรรม จิต กิเลส ของคนไทยเป็นความหมายที่เข้าใจกันมาจากภาษาบาลีทางพุทธศาสนา และศาสนาพุทธสอนเรื่องเหล่านี้ไว้ชัดเจน เป็นเรื่องเป็นราว จึงทำให้เวลามีคำถามเกี่ยวกับเวรกรรม บาป บุญ กิเลส จิต ก็มักนึกถึงศาสนาพุทธเป็นอันดับต้นๆ
แต่ถ้าเราจะเทียบเคียงกับศาสนาอื่นๆก็ต้องดูให้ดีว่าความหมายเดิมของภาษาและศาสนานั้นๆคืออะไร ไม่ใช่เทียบกันตรงๆเกินไปครับ แม้แต่คำว่าศีล สงฆ์ พระ หรือคำอื่นๆก็เช่นเดียวกัน(ควรเทียบเคียงได้ แต่ไม่ควรเทียบให้เหมือน)
กมฺมุนา วตฺตตี โลโก.
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ขุ.สุ. ขุททกนิกาย สุตตนิบาต
สุโข ปุญญสฺส อุจฺจโย.
ความสั่งสมขึ้นซึ่งบุญ นำสุขมาให้
ขุ.ธ. ขุททกนิกาย ธรรมบท
ยาทิสัง วปเต พีชัง ตาทิสัง ลภเต ผลัง
กัลยาณการี กัลยาณัง ปาปการี จ ปาปกัง
บุคคลหว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น
ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว
สัง.ส. สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
และยังมีอีกมากมายนัก ส่วนที่ปรากฎข้อความคล้ายๆกัน ในพันธสัญญาใหม่ก็ควรดูใจความด้วยว่า บุญ บาป ตามความหมายของไบเบิ้ลคืออย่างไรครับ
ศาสนาทุกศาสนาก็มีหลักคำสอนที่ดีๆกันทั้งนั้นครับ ช่วยๆกันนำคำสอนมาเพื่อสันติภาพของตนเอง และผู้อื่นครับ
ถ้าแบบที่คุณเข้าใจ เขาเรียกว่า ลัทธิกรรมเก่านะครับ(คือทำกรรมต้องมาชดใช้) ไม่ใช่กรรมในทางพุทธDeo Gratias เขียน: กฎแห่งกรรมของพุทธจะเข้าทาง "ตาแทนตา ฟันแทนฟัน" เจ้ากรรมนายเวรจองเวรกันจนกว่าจะหมดเวรหมดกรรม
ต่างกับของคริสต์ที่พระเยซูชดใช้ให้เราหมดแล้วที่กางเขนและเมื่อเราพลาดและสำนึกผิดพระองค์ก็ให้อภัย
เราจึงถือว่า "สิ้นกระแสกรรม" และไม่มีเจ้ากรรมนายเวรที่ไหนจะมาจองเวรเราได้
"ใครจะฟ้องคนเหล่านั้นที่พระเจ้าได้ทรงเลือกไว้ พระเจ้าทรงโปรดให้พ้นโทษแล้ว" (รม.8:33)
แต่พระคัมภีร์ก็มีสอนว่า "เพราะว่าผู้ใดหว่านอะไรลง ก็จะเกี่ยวเก็บสิ่งนั้น" (กท.6:7)
แต่นี่ไม่ใช่การตามจองล้างจองผลาญจากใครที่ไหน เพื่อที่จะทำลายล้างกัน
แต่เป็นการเตือนและการตีสอนจากพระเจ้า เพื่อให้สำนึกผิดและกลับใจใหม่
เพื่อจะได้รู้จักน้ำพระทัยของพระเจ้า
ปล. ศาสนาอื่น = ทำดี(เพราะอยาก)ได้ดี (ทำดีก่อนแล้วจึงได้ดี ความดีเป็นผลตอบแทนจากสิ่งที่ทำ)
คริสตชน = ได้ดี(เราจึง)ทำดี (เราอ่อนแอ แต่พระเจ้าทรงรักเราก่อน(1ยน.4:19) เราจึงไม่มีข้ออ้างที่จะไม่ทำดี)
พุทธศาสนาเน้นปัจจุบันธรรมครับ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย กรรมดี คือบุญ กุศลาธรรมา กรรมชั่วคือ บาป อกุศลาธรรมา แยกกัน กรรมทั้งดีและชั่ว ต้องประกอบด้วยเจตนา ถึงจะสำเร็จเป็นกรรม
อำนาจกรรมชั่ว อาจถูกเจือจางได้ด้วย อำนาจกรรมดี ตราบใดที่ยังมีอวิชชา ก็ยังต้องมีการปรุงแต่งด้วยบุญ และบาป
และกรรมจะเป็นอโหสิกรรม ไม่สามารถจะส่งผลได้ ถ้าหากทำลายอวิชชาได้ หลุดพ้นได้
ส่วนเรื่องการให้อภัย และอภัยทาน ก็เป็นกรรมดีอีกอย่างหนึ่ง เรื่องเจ้ากรรมนายเวร ก็เป็นเรื่องระหว่างบุคคล คนละเรื่องกับการหลุดพ้นจากกรรม
จะหลุดพ้นจากกรรมได้ต้องขัดเกลาพัฒนาตนเองควบคู่ไปกับอานุภาพพระรัตนะตรัย ต้องมีศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญาและเหตุปัจจัย(ไม่ใช่แค่เหตุผล)จึงจะถึงความหลุดพ้นได้
ทางพุทธ ทำความดี เพื่อความดี คือเพื่อการขัดเกลา กาย วาจา ใจ ตนเอง ไม่ใช่เพื่อเอาใจหรือหวังสิ่งตอบแทนจากอะไรๆ ไม่ได้ทำดีเพราะกลัวปาบ (หิริ โอตตัปปะ ก็อีกเรื่องหนึ่ง)
คำว่าบุญ บาป เวรกรรม จิต กิเลส ของคนไทยเป็นความหมายที่เข้าใจกันมาจากภาษาบาลีทางพุทธศาสนา และศาสนาพุทธสอนเรื่องเหล่านี้ไว้ชัดเจน เป็นเรื่องเป็นราว จึงทำให้เวลามีคำถามเกี่ยวกับเวรกรรม บาป บุญ กิเลส จิต ก็มักนึกถึงศาสนาพุทธเป็นอันดับต้นๆ
แต่ถ้าเราจะเทียบเคียงกับศาสนาอื่นๆก็ต้องดูให้ดีว่าความหมายเดิมของภาษาและศาสนานั้นๆคืออะไร ไม่ใช่เทียบกันตรงๆเกินไปครับ แม้แต่คำว่าศีล สงฆ์ พระ หรือคำอื่นๆก็เช่นเดียวกัน(ควรเทียบเคียงได้ แต่ไม่ควรเทียบให้เหมือน)
กมฺมุนา วตฺตตี โลโก.
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ขุ.สุ. ขุททกนิกาย สุตตนิบาต
สุโข ปุญญสฺส อุจฺจโย.
ความสั่งสมขึ้นซึ่งบุญ นำสุขมาให้
ขุ.ธ. ขุททกนิกาย ธรรมบท
ยาทิสัง วปเต พีชัง ตาทิสัง ลภเต ผลัง
กัลยาณการี กัลยาณัง ปาปการี จ ปาปกัง
บุคคลหว่านพืชเช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั้น
ผู้ทำกรรมดี ย่อมได้ผลดี ผู้ทำกรรมชั่ว ย่อมได้ผลชั่ว
สัง.ส. สังยุตตนิกาย สคาถวรรค
และยังมีอีกมากมายนัก ส่วนที่ปรากฎข้อความคล้ายๆกัน ในพันธสัญญาใหม่ก็ควรดูใจความด้วยว่า บุญ บาป ตามความหมายของไบเบิ้ลคืออย่างไรครับ
ศาสนาทุกศาสนาก็มีหลักคำสอนที่ดีๆกันทั้งนั้นครับ ช่วยๆกันนำคำสอนมาเพื่อสันติภาพของตนเอง และผู้อื่นครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Happiness เมื่อ อาทิตย์ ส.ค. 23, 2009 2:11 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 1042
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
- ที่อยู่: Ether23@hotmail.com
คิดดูดีดีซี่คับ คาทอลิกเรา เชื่อใน ศีลล้างบาป
คำว่า ล้างบาป ไง ลองนึกดูดีดีนะครับ
พระเจ้าทรงตายแทนเราบนกางเขน
รับความบาปผิดทั้งหมดของเราบนกางเขน
พระเจ้าทรงอวยพร
คำว่า ล้างบาป ไง ลองนึกดูดีดีนะครับ
พระเจ้าทรงตายแทนเราบนกางเขน
รับความบาปผิดทั้งหมดของเราบนกางเขน
พระเจ้าทรงอวยพร
ถ้ากล่าวถึงกรรมในพุทธศาสนา กรรมจะต้องประกอบด้วยปัจจัยสองอย่าง คือ เจตนา และ/หรือ การกระทำ
ซึ่งความเข้มของกรรมนั้นจะมากขนาดไหน ก็จะพิจารณาขึ้นอยู่กับปัจจัยสองอย่างข้างต้นนี้
ไม่ใช่ตาต่อตาฟันต่อฟันเสียทีเดียว รายละเอียดของคำคำเดียวว่า "กรรม" นี้มีรายละเอียดค่อนข้างมาก
---------------------------------------------
ในคริสตศาสนา พระเจ้าจะตัดสินทุกคนตามมโนธรรมของเค้าเอง
คือตัดสินเท่าที่เค้าเข้าใจ เกี่ยวกับสิ่งไหนดีหรือไม่ดี เป็นเรื่องภายในจิตใจของเค้าครับ
มาตรฐานในการตัดสินจึงเป็นตัวแปรตามของมโนธรรมในจิตใจของแต่ละคน ไม่มีนิยามแน่นอน
กล่าวรวมๆอาจจะได้ว่า ศาสนาคริสต์เน้นที่จิตใจภายใน มากกว่าการกระทำครับ
ฉะนั้นคนสองคนที่ทำผิดสิ่งเดียวกันที่เหมือนกันทุกประการ โทษนั้นเบื้องหน้าพระบัลลังก์จะไม่เท่ากัน
เนื่องจากว่ามโนธรรมของคนสองคนนั้นแตกต่างกัน มีความเห็นดีเห็นผิดไม่เท่ากัน
พระเจ้าสามารถยกโทษบาปผิดให้ทุกคนที่เชื่อได้ แต่เราก็สมควรที่สำนึกผิดกลับตัวกลับใจ
ไม่ใช่ว่ากระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยคิดว่าเดี๋ยวไปสารภาพบาป แล้วก็กลับไปทำใหม่ โดยไม่สำนึก
นั้นจะยิ่งเลวร้ายกว่าเก่าเพราะว่ามโนธรรมของเค้ายิ่งชัดเจนมากแล้ว เพราะรู้ว่าสิ่งนั้นผิด แต่ก็ยังกลับไปทำใหม่
บุคคลที่ทำเช่นนี้จะมีโทษมากขึ้นเรื่อยๆ ตามมโนธรรมที่เค้ารู้ผิดรู้ชอบครับ
ซึ่งความเข้มของกรรมนั้นจะมากขนาดไหน ก็จะพิจารณาขึ้นอยู่กับปัจจัยสองอย่างข้างต้นนี้
ไม่ใช่ตาต่อตาฟันต่อฟันเสียทีเดียว รายละเอียดของคำคำเดียวว่า "กรรม" นี้มีรายละเอียดค่อนข้างมาก
---------------------------------------------
ในคริสตศาสนา พระเจ้าจะตัดสินทุกคนตามมโนธรรมของเค้าเอง
คือตัดสินเท่าที่เค้าเข้าใจ เกี่ยวกับสิ่งไหนดีหรือไม่ดี เป็นเรื่องภายในจิตใจของเค้าครับ
มาตรฐานในการตัดสินจึงเป็นตัวแปรตามของมโนธรรมในจิตใจของแต่ละคน ไม่มีนิยามแน่นอน
กล่าวรวมๆอาจจะได้ว่า ศาสนาคริสต์เน้นที่จิตใจภายใน มากกว่าการกระทำครับ
ฉะนั้นคนสองคนที่ทำผิดสิ่งเดียวกันที่เหมือนกันทุกประการ โทษนั้นเบื้องหน้าพระบัลลังก์จะไม่เท่ากัน
เนื่องจากว่ามโนธรรมของคนสองคนนั้นแตกต่างกัน มีความเห็นดีเห็นผิดไม่เท่ากัน
พระเจ้าสามารถยกโทษบาปผิดให้ทุกคนที่เชื่อได้ แต่เราก็สมควรที่สำนึกผิดกลับตัวกลับใจ
ไม่ใช่ว่ากระทำผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยคิดว่าเดี๋ยวไปสารภาพบาป แล้วก็กลับไปทำใหม่ โดยไม่สำนึก
นั้นจะยิ่งเลวร้ายกว่าเก่าเพราะว่ามโนธรรมของเค้ายิ่งชัดเจนมากแล้ว เพราะรู้ว่าสิ่งนั้นผิด แต่ก็ยังกลับไปทำใหม่
บุคคลที่ทำเช่นนี้จะมีโทษมากขึ้นเรื่อยๆ ตามมโนธรรมที่เค้ารู้ผิดรู้ชอบครับ
ผมเชื่อนะครับ ว่าคนเราทำอะไรก็จะได้อย่างนั้น ถ้าเราผิดแล้วยอมรับผิด ไปขอโทษพระซะก็โอเคนะครับ แต่ถ้าผิดแล้วยังดื้อ พระก็คงต้องมีบทลงโทษเราบ้างเป็นธรรมดา ผมเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้บัลดาลให้เกิดการสนองของกรรมนั้นครับไม่ใช่ว่าอยู่ๆก็มาบอกว่ากรรมตามสนอง
- ^_^Matthew^_^
- โพสต์: 354
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ค. 10, 2008 2:03 am
- ที่อยู่: 125 ม.7 ถ.ชัยภูมิ-สีคิ้ว ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 36000
- ติดต่อ:
เรื่องกรรมผมไม่เชื่ออ่า
เชื่อว่าถ้าทำถูกก็ได้รับพระพร ทำผิดพระเจ้าก็ตีสอน
เรื่องข้ามภพข้ามชาติ คริสเตียนเชื่อว่ามีชาติเดียวครับ
เชื่อว่าถ้าทำถูกก็ได้รับพระพร ทำผิดพระเจ้าก็ตีสอน
เรื่องข้ามภพข้ามชาติ คริสเตียนเชื่อว่ามีชาติเดียวครับ
-
- โพสต์: 605
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 05, 2009 3:19 pm
- ที่อยู่: พเนจร
- ติดต่อ:
ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไปปป
อันนี้ล้อเล่นน่า -*-
ไม่ว่าศาสนาไหนก็มีเรื่องกรรมเหมือนกันแหล่ะครับ
อย่างถ้าเป็นพุทธก้ออาจจะเป็น เดี๋ยวกรรมจะตามสนองนะ
แต่ถ้าเป็นคริสต์ก้ออาจจะเป็น เดี๋ยวพระเจ้าจะลงโทษนะ
อะไรประมาณนี้
ทุกศาสนากล่าวการทำดีเป็นสิ่งดี การทำชั่วเป็นสิ่งชั่วเหมือนกันไม่ใช่หรอฮะ
^
^
^
^
กรรมคือการกระทำนะฮะ
มีกุศลกรรม คือ การกระทำที่ดี
อกุศลกรรม คือ การกระทำที่ชั่ว
อัพยากฤตกรรม คือ การกระทำที่ไม่ดี ไม่ชั่ว เพราะเป็นธรรมชาติ
(เช่น การหายใจเป็นกรรม เพราะเป็นการกระทำเหมือนกัน แต่เป็นไปโดยธรรมชาติ จึงเป็นอัพยากฤตกรรมฮะ ^ ^)
อันนี้ล้อเล่นน่า -*-
ไม่ว่าศาสนาไหนก็มีเรื่องกรรมเหมือนกันแหล่ะครับ
อย่างถ้าเป็นพุทธก้ออาจจะเป็น เดี๋ยวกรรมจะตามสนองนะ
แต่ถ้าเป็นคริสต์ก้ออาจจะเป็น เดี๋ยวพระเจ้าจะลงโทษนะ
อะไรประมาณนี้
ทุกศาสนากล่าวการทำดีเป็นสิ่งดี การทำชั่วเป็นสิ่งชั่วเหมือนกันไม่ใช่หรอฮะ
^
^
^
^
กรรมคือการกระทำนะฮะ
มีกุศลกรรม คือ การกระทำที่ดี
อกุศลกรรม คือ การกระทำที่ชั่ว
อัพยากฤตกรรม คือ การกระทำที่ไม่ดี ไม่ชั่ว เพราะเป็นธรรมชาติ
(เช่น การหายใจเป็นกรรม เพราะเป็นการกระทำเหมือนกัน แต่เป็นไปโดยธรรมชาติ จึงเป็นอัพยากฤตกรรมฮะ ^ ^)
เห็นด้วยครับ พระเจ้าต่างหากที่ลงโทษเราถ้าเราทำความผิดบาป ไม่ใช่เป็นแบบที่ชาวพุทธในไทยเชื่อกันgodlike เขียน: ผมเชื่อนะครับ ว่าคนเราทำอะไรก็จะได้อย่างนั้น ถ้าเราผิดแล้วยอมรับผิด ไปขอโทษพระซะก็โอเคนะครับ แต่ถ้าผิดแล้วยังดื้อ พระก็คงต้องมีบทลงโทษเราบ้างเป็นธรรมดา ผมเชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้บัลดาลให้เกิดการสนองของกรรมนั้นครับไม่ใช่ว่าอยู่ๆก็มาบอกว่ากรรมตามสนอง