ถ้ามีคนต่างศาสนามาถามคุณอย่างนี้ จะตอบเค้าว่าอย่างไร??
มันอาจเป็นเรื่องธรรมดา ที่วิถีการใช้ชีวิตของพวกเราคริสตชนต่างจากคนธรรมดาทั่วไปในสังคม
พอไปวัดวันอาทิตย์ ก็จะมีเพื่อนถามคำถาม ซึ่งเป็นคำถามทั่วไปมากๆ แต่ไม่รู้จะตอบอย่างไรให้เค้าเข้าใจง่ายๆดี
ยกตัวอย่างเช่น
1. ไปโบสถ์วันอาทิตย์ ไปทำไม ไปทำอะไรบ้าง
2. รับศีลอภัยบาป ทำให้บาปหายไปได้จริงๆหรอ อย่างงี้ทำบาปอีกก็ได้น่ะซิ
3. ศีลมหาสนิทคืออะไร ต่างกะศีล 5 ยังไง
แหะๆ คือคำถามมันเป็นคำถามที่เรารู้คำตอบแหละค่ะ แต่อยากได้คำแนะนำในการตอบที่ให้เพื่อนๆเข้าใจง่ายๆ
และตอบไปแบบไม่ให้เค้าดูถูก ลบหลู่ศาสนาเรา ^^
ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ
			
									
									
						พอไปวัดวันอาทิตย์ ก็จะมีเพื่อนถามคำถาม ซึ่งเป็นคำถามทั่วไปมากๆ แต่ไม่รู้จะตอบอย่างไรให้เค้าเข้าใจง่ายๆดี
ยกตัวอย่างเช่น
1. ไปโบสถ์วันอาทิตย์ ไปทำไม ไปทำอะไรบ้าง
2. รับศีลอภัยบาป ทำให้บาปหายไปได้จริงๆหรอ อย่างงี้ทำบาปอีกก็ได้น่ะซิ
3. ศีลมหาสนิทคืออะไร ต่างกะศีล 5 ยังไง
แหะๆ คือคำถามมันเป็นคำถามที่เรารู้คำตอบแหละค่ะ แต่อยากได้คำแนะนำในการตอบที่ให้เพื่อนๆเข้าใจง่ายๆ
และตอบไปแบบไม่ให้เค้าดูถูก ลบหลู่ศาสนาเรา ^^
ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ
คิดว่า มันไม่เกี่ยวกับที่เค้าจะลบหลู่หรือไม่หรอกค่ะ ถ้าเค้าจะลบหลู่ ตอบยังไงก็ลบหลู่ค่ะNuSaiy เขียน:
1. ไปโบสถ์วันอาทิตย์ ไปทำไม ไปทำอะไรบ้าง
2. รับศีลอภัยบาป ทำให้บาปหายไปได้จริงๆหรอ อย่างงี้ทำบาปอีกก็ได้น่ะซิ
3. ศีลมหาสนิทคืออะไร ต่างกะศีล 5 ยังไง

ความเชื่อที่มีนั่นล่ะค่ะ คือคำตอบที่ดีที่สุด : xemo026 :
พระอวยพรนะคะ : xemo026 :
					แก้ไขล่าสุดโดย  Buddy เมื่อ อังคาร ก.ย. 22, 2009 5:57 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
									
			
									
						วิธีตอบให้คนต่างศาสนาเข้าใจง่ายๆ ดังนี้นะคะ
1. การไปโบสถ์วันอาทิตย์ เป็นการรำลึกถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า, รำลึกถึงอาหารค่ำมื้อสุดท้ายกับเหล่าอัครสาวก ฯลฯ
2. ศีลอภัยบาปไม่ทำให้บาปที่เคยทำหายไป แต่ที่เราไปสารภาพบาปนั้น เป็นการช่วยให้เราได้สำนึกถึงบาปที่เราได้กระทำไป และสัญญากับพระว่าเราจะไม่ทำบาปนั้นอีก
3. ศีลมหาสนิท ทำให้เราได้ใกล้ชิดกับพระเยซูเจ้ามากขึ้น ฯลฯ (ตามคำถามแล้ว รู้สึกว่าต่างจากศีล 5 นะ แต่อธิบายไม่เป็น อิอิ)
อันนี้เป็นวิธีตอบแบบคร่าวๆ นะคะ ถ้าเค้าสงสัยอีก ก็ลองชวนเค้าเข้าวัด+เรียนคำสอนดูค่ะ จะได้เพิ่มเพื่อนใหม่ไปในตัว ..
			
									
									
						1. การไปโบสถ์วันอาทิตย์ เป็นการรำลึกถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า, รำลึกถึงอาหารค่ำมื้อสุดท้ายกับเหล่าอัครสาวก ฯลฯ
2. ศีลอภัยบาปไม่ทำให้บาปที่เคยทำหายไป แต่ที่เราไปสารภาพบาปนั้น เป็นการช่วยให้เราได้สำนึกถึงบาปที่เราได้กระทำไป และสัญญากับพระว่าเราจะไม่ทำบาปนั้นอีก
3. ศีลมหาสนิท ทำให้เราได้ใกล้ชิดกับพระเยซูเจ้ามากขึ้น ฯลฯ (ตามคำถามแล้ว รู้สึกว่าต่างจากศีล 5 นะ แต่อธิบายไม่เป็น อิอิ)
อันนี้เป็นวิธีตอบแบบคร่าวๆ นะคะ ถ้าเค้าสงสัยอีก ก็ลองชวนเค้าเข้าวัด+เรียนคำสอนดูค่ะ จะได้เพิ่มเพื่อนใหม่ไปในตัว ..
1.ก็ฟังเทศน์ ร้องเพลง ชำระจิตใจ 
2.การสารภาพบาป เหมือนการ "กล่าวคำขอโทษ"ต่อพระเจ้า
เพระาเมื่อเราทำผิดต่อพี่น้องเพื่อนมนุษย์หรือตนเอง เราก็ทำผิดต่อพระเจ้าเช่นกัน
แต่เช่นเดียวกัน เมื่อเราสารภาพบาปเสร็จ
เราก็ยังมี"กิจใช้โทษบาป" ที่ต้องไปกระทำเพื่อชดใช้ความผิดนั้นด้วย
3.ศีล ของคริสต์กับพุทธ มีความหมายที่ต่างกันนะครับ
ศีลของพุทธหมายถึง "ข้อปฎิบัติที่ห้ามล่วงละเมิด"
ศีลของคริสต์ "คือพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์(ซึ่งห้ามละเมิด/ทุราจารย์)"
			
									
									
						2.การสารภาพบาป เหมือนการ "กล่าวคำขอโทษ"ต่อพระเจ้า
เพระาเมื่อเราทำผิดต่อพี่น้องเพื่อนมนุษย์หรือตนเอง เราก็ทำผิดต่อพระเจ้าเช่นกัน
แต่เช่นเดียวกัน เมื่อเราสารภาพบาปเสร็จ
เราก็ยังมี"กิจใช้โทษบาป" ที่ต้องไปกระทำเพื่อชดใช้ความผิดนั้นด้วย
3.ศีล ของคริสต์กับพุทธ มีความหมายที่ต่างกันนะครับ
ศีลของพุทธหมายถึง "ข้อปฎิบัติที่ห้ามล่วงละเมิด"
ศีลของคริสต์ "คือพิธีกรรมอันศักดิ์สิทธิ์(ซึ่งห้ามละเมิด/ทุราจารย์)"
อยากให้ตอบเองนะคะ เพราะเชื่อนะคะว่า จะมีคำตอบที่ดี พระจิตเจ้าจะนำค่ะ : emo045 :NuSaiy เขียน: อยากตอบให้เค้าเข้าใจค่ะ
จะได้เป็นการแบ่งปันความรักของพระให้กับเค้าไปในตัวด้วย
บางทีที่เค้าถามก็คืออยากรู้จริงๆ ไม่ใช่ลบหลู่หรอกค่ะ ^^

ถ้าอยากแบ่งปันความรัก ก็ตอบด้วยความรัก ถึงเอาหนังสือคำสอนมาเปิดตอบ แต่ถ้าเราไม่ได้ตอบด้วยความรัก เค้าก็ไม่ได้สัมผัสอะไร
 และแถมไม่รู้เรื่องด้วย
 และแถมไม่รู้เรื่องด้วย    ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาแห่งความรัก ไม่มีใครอธิบายความรักให้ใครเข้าใจได้หรอกค่ะ  เราต้องรักเค้า แล้วเค้าจะเข้าใจค่ะ
   ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาแห่งความรัก ไม่มีใครอธิบายความรักให้ใครเข้าใจได้หรอกค่ะ  เราต้องรักเค้า แล้วเค้าจะเข้าใจค่ะ   
แต่ถ้าเรานึกไม่ออก อันนั้นก็ต้องพิจารณาแล้วค่ะ ไม่ได้แปลว่า เป็นความผิดอะไรนะคะ แต่เป็นคำเชิญจากพระเป็นเจ้า ให้เราได้รู้จักพระองค์มากขึ้น อะไรก็ตามที่มาทำให้เรา อึ้ง ชะงัก หรือแม้แต่โมโหอย่างไม่มีเหตุผล ส่วนใหญ่จะเป็นคำเชื้อเชิญจากพระองค์ (Invitation from God) ให้เราได้หยุด และเข้าไปไตร่ตรอง พิจารณาความสัมพันธ์ รำพึงพิจารณาวิญญาณ เพื่อให้ได้มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น : xemo026 :
ส่วนตัวแล้ว พี่เชื่อว่า คำถามทั้งหมดที่ได้มานั้น เป็นคำถามที่พระเป็นเจ้า กำลังถามน้องนะคะ และพระองค์ให้เพื่อนน้องมาถามค่ะ
 เค้าจะได้สัมผัสพระองค์ ได้เข้าใจ ก็ต่อเมื่อน้องได้เข้าใจความเชื่อตัวเอง และตอบเค้าไปด้วยความรักและความเชื่อที่มีค่ะ
  เค้าจะได้สัมผัสพระองค์ ได้เข้าใจ ก็ต่อเมื่อน้องได้เข้าใจความเชื่อตัวเอง และตอบเค้าไปด้วยความรักและความเชื่อที่มีค่ะ  พระอวยพรนะคะ : emo045 :
1. ไปฟังมิสซา ซึ่งเป็นพิธีบูชาขอบพระคุณ ทำเพื่อระลึกถึงการไถ่กู้มนุษยชาติของพระเยซู ซึ่งเป็นพระเจ้า
2. ไปสารภาพบาป ถ้าทำอย่างถูกต้องสมควร บาปจะถูกยกไป แต่โทษของบาปจะยังมีอยู่ซึ่งอาจจะหายไปทั้งหมดหรือบางส่วน อันนี้ต้องอธิบายดีๆว่าการที่บาปจะถูกยกก็ต่อเมื่อผู้ไปสารภาพมีความสำนึกผิดอย่างจริงใจ คือสำนึกผิดเพราะรักพระเจ้าที่เป็นองค์ความรัก ไม่ใช่เพราะความกลัวจะถูกลงโทษ ถ้าไปสารภาพบาปโดยคิดไว้ก่อนแต่แรกว่าจะไปทำอีกก็ไม่ได้ครับ ส่วนโทษของบาปอันนี้ถ้าเป็นโทษที่สามารถทำชดใช้เป็นรูปธรรมได้ เช่นขโมยของมาก็เอาไปคืนเจ้าของเขาเสีย
3. ต้องอธิบายก่อนว่าคำว่าศึลในความหมายของคาทอลิกไทยเป็นการยืมเอาคำที่ทางพุทธใช้ซึ่งแปลว่าข้อห้ามมาเท่านั้น เรียกให้ถูกความหมายน่าจะเรียกว่าเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์มากกว่า ศีลมหาสนิทก็คือเพิ่มความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าคือพระเยซู คือรับเอาพระกายของพระองค์เข้าในกายเรา
			
									
									
						2. ไปสารภาพบาป ถ้าทำอย่างถูกต้องสมควร บาปจะถูกยกไป แต่โทษของบาปจะยังมีอยู่ซึ่งอาจจะหายไปทั้งหมดหรือบางส่วน อันนี้ต้องอธิบายดีๆว่าการที่บาปจะถูกยกก็ต่อเมื่อผู้ไปสารภาพมีความสำนึกผิดอย่างจริงใจ คือสำนึกผิดเพราะรักพระเจ้าที่เป็นองค์ความรัก ไม่ใช่เพราะความกลัวจะถูกลงโทษ ถ้าไปสารภาพบาปโดยคิดไว้ก่อนแต่แรกว่าจะไปทำอีกก็ไม่ได้ครับ ส่วนโทษของบาปอันนี้ถ้าเป็นโทษที่สามารถทำชดใช้เป็นรูปธรรมได้ เช่นขโมยของมาก็เอาไปคืนเจ้าของเขาเสีย
3. ต้องอธิบายก่อนว่าคำว่าศึลในความหมายของคาทอลิกไทยเป็นการยืมเอาคำที่ทางพุทธใช้ซึ่งแปลว่าข้อห้ามมาเท่านั้น เรียกให้ถูกความหมายน่าจะเรียกว่าเครื่องหมายศักดิ์สิทธิ์มากกว่า ศีลมหาสนิทก็คือเพิ่มความสนิทสัมพันธ์กับพระเจ้าคือพระเยซู คือรับเอาพระกายของพระองค์เข้าในกายเรา
1. ไปทำบุญสิ ไอ้คนที่ถามนี่แสวงว่าเป็นขี้เกียจทำบุญหรือไง อย่างน้อยศาสนาคริสต์เองก็ไปโบสถ์ทุกอาทตย์ทำบุญทุกอาทิตย์ ไม่เหมือนบางศาสนา มีบุญให้ทำไม่ทำ แล้วยังจะมาด่าศาสนาอื่นอีกว่าเลว ดูตนเองก่อนเถอะ บุญไม่ทำยังจะมาด่าศาสนาอื่นอีก
2. ศีลล้างบาปรับได้ครั้งเดียว ผิดต่อไปกรุณาไปแก้บาป สารภาพบาป ที่เคยทำไว้ให้นักบวช แล้วสำนึกบาปว่าจะไม่ทำอีกแล้วท่านล่ะ ทำบาปไม่เคยสารภาพ ไม่สำนึก นี่น่ะหรือศาสนาท่านสอนอย่างนี้เหรอทำผิดไม่สำนึก
3. ศีลของศาสนาพุทธคือข้อห้าม ศีลในศาสนาคริสต์คือข้อปฏิบัติ
*** 2 ข้อแรก คือตอบใส่ พวกศาสนากชนศาสนาอื่นที่เลวๆ ศาสนาตนไม่บำรุงช่วยเหลือยังมาด่าศาสนาเราอีก มันชอบมาแนวๆ นี้อ่ะ เคยเจอกะตัวเอง
			
									
									
						2. ศีลล้างบาปรับได้ครั้งเดียว ผิดต่อไปกรุณาไปแก้บาป สารภาพบาป ที่เคยทำไว้ให้นักบวช แล้วสำนึกบาปว่าจะไม่ทำอีกแล้วท่านล่ะ ทำบาปไม่เคยสารภาพ ไม่สำนึก นี่น่ะหรือศาสนาท่านสอนอย่างนี้เหรอทำผิดไม่สำนึก
3. ศีลของศาสนาพุทธคือข้อห้าม ศีลในศาสนาคริสต์คือข้อปฏิบัติ
*** 2 ข้อแรก คือตอบใส่ พวกศาสนากชนศาสนาอื่นที่เลวๆ ศาสนาตนไม่บำรุงช่วยเหลือยังมาด่าศาสนาเราอีก มันชอบมาแนวๆ นี้อ่ะ เคยเจอกะตัวเอง
เค้าก็เลิกเข้าวัดเราพอดีสิเธอ...เฮ้อ..นึกว่าหายแล้วซะอีกวอ เขียน: 1. ไปทำบุญสิ ไอ้คนที่ถามนี่แสวงว่าเป็นขี้เกียจทำบุญหรือไง อย่างน้อยศาสนาคริสต์เองก็ไปโบสถ์ทุกอาทตย์ทำบุญทุกอาทิตย์ ไม่เหมือนบางศาสนา มีบุญให้ทำไม่ทำ แล้วยังจะมาด่าศาสนาอื่นอีกว่าเลว ดูตนเองก่อนเถอะ บุญไม่ทำยังจะมาด่าศาสนาอื่นอีก
2. ศีลล้างบาปรับได้ครั้งเดียว ผิดต่อไปกรุณาไปแก้บาป สารภาพบาป ที่เคยทำไว้ให้นักบวช แล้วสำนึกบาปว่าจะไม่ทำอีกแล้วท่านล่ะ ทำบาปไม่เคยสารภาพ ไม่สำนึก นี่น่ะหรือศาสนาท่านสอนอย่างนี้เหรอทำผิดไม่สำนึก
3. ศีลของศาสนาพุทธคือข้อห้าม ศีลในศาสนาคริสต์คือข้อปฏิบัติ
*** 2 ข้อแรก คือตอบใส่ พวกศาสนากชนศาสนาอื่นที่เลวๆ ศาสนาตนไม่บำรุงช่วยเหลือยังมาด่าศาสนาเราอีก มันชอบมาแนวๆ นี้อ่ะ เคยเจอกะตัวเอง

ไม่เอาแบบนี้่สิน้องวอวอ เขียน: 1. ไปทำบุญสิ ไอ้คนที่ถามนี่แสวงว่าเป็นขี้เกียจทำบุญหรือไง อย่างน้อยศาสนาคริสต์เองก็ไปโบสถ์ทุกอาทตย์ทำบุญทุกอาทิตย์ ไม่เหมือนบางศาสนา มีบุญให้ทำไม่ทำ แล้วยังจะมาด่าศาสนาอื่นอีกว่าเลว ดูตนเองก่อนเถอะ บุญไม่ทำยังจะมาด่าศาสนาอื่นอีก
2. ศีลล้างบาปรับได้ครั้งเดียว ผิดต่อไปกรุณาไปแก้บาป สารภาพบาป ที่เคยทำไว้ให้นักบวช แล้วสำนึกบาปว่าจะไม่ทำอีกแล้วท่านล่ะ ทำบาปไม่เคยสารภาพ ไม่สำนึก นี่น่ะหรือศาสนาท่านสอนอย่างนี้เหรอทำผิดไม่สำนึก
3. ศีลของศาสนาพุทธคือข้อห้าม ศีลในศาสนาคริสต์คือข้อปฏิบัติ
*** 2 ข้อแรก คือตอบใส่ พวกศาสนากชนศาสนาอื่นที่เลวๆ ศาสนาตนไม่บำรุงช่วยเหลือยังมาด่าศาสนาเราอีก มันชอบมาแนวๆ นี้อ่ะ เคยเจอกะตัวเอง
จริงอยู่เรารู้ว่าเขาทำอะไรไม่ดีไม่งามบ้าง แต่ถ้าไม่ตักเตือน ก็ไม่ควรที่จะไปด่าไปว่า เพราะเขา่เลือกที่จะเป็นเช่นนั้นด้วยชีวิตของเขาเอง
เราเห็นไม่ถูกไม่ควรก็ควรตักเตือน ไม่ใช่ด่า เขาจะฟังไม่ฟังก็ช่าง ถ้าไม่เตือน ก็เงียบดีกว่าครับ
- Ministry Of Men
 
- โพสต์: 3972
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm
บรึ้ยย คม ชัด เฉียบ แตกหัก รึเปล่าวอ เขียน: 1. ไปทำบุญสิ ไอ้คนที่ถามนี่แสวงว่าเป็นขี้เกียจทำบุญหรือไง อย่างน้อยศาสนาคริสต์เองก็ไปโบสถ์ทุกอาทตย์ทำบุญทุกอาทิตย์ ไม่เหมือนบางศาสนา มีบุญให้ทำไม่ทำ แล้วยังจะมาด่าศาสนาอื่นอีกว่าเลว ดูตนเองก่อนเถอะ บุญไม่ทำยังจะมาด่าศาสนาอื่นอีก
2. ศีลล้างบาปรับได้ครั้งเดียว ผิดต่อไปกรุณาไปแก้บาป สารภาพบาป ที่เคยทำไว้ให้นักบวช แล้วสำนึกบาปว่าจะไม่ทำอีกแล้วท่านล่ะ ทำบาปไม่เคยสารภาพ ไม่สำนึก นี่น่ะหรือศาสนาท่านสอนอย่างนี้เหรอทำผิดไม่สำนึก
3. ศีลของศาสนาพุทธคือข้อห้าม ศีลในศาสนาคริสต์คือข้อปฏิบัติ
*** 2 ข้อแรก คือตอบใส่ พวกศาสนากชนศาสนาอื่นที่เลวๆ ศาสนาตนไม่บำรุงช่วยเหลือยังมาด่าศาสนาเราอีก มันชอบมาแนวๆ นี้อ่ะ เคยเจอกะตัวเอง
ใจเย็นๆๆๆ -.-
- 
				Like a Heaven
- . 
- โพสต์: 1739
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ต.ค. 28, 2007 5:58 pm
- ที่อยู่: In the Christ
1. ไปโบสถ์วันอาทิตย์ ไปทำไม ไปทำอะไรบ้าง
- ไปปฏิบัติศาสนกิจ เยี่ยงศาสนิกชนคนนึงพึงกระทำ
2. รับศีลอภัยบาป ทำให้บาปหายไปได้จริงๆหรอ อย่างงี้ทำบาปอีกก็ได้น่ะซิ
- ก้อเหมือนพูด ขอโทษ แบบส่งๆแต่ไม่สำนึกไง โลจิกเดียวกัน
3. ศีลมหาสนิทคืออะไร ต่างกะศีล 5 ยังไง
- พระกายพระคริสตเจ้าจริงๆ ที่ยอมแตกหักเพื่อคนบาปอย่างเรา พอรุแล้วใช่มั้ยว่าต่างกับศีลห้ายังไง
ทั้งสามคำถามนี้ ผมเคยโดนถามแล้วครับ แล้วก้อตอบไปตามที่กล่าวมานี่แหละครับ
			
									
									
						- ไปปฏิบัติศาสนกิจ เยี่ยงศาสนิกชนคนนึงพึงกระทำ
2. รับศีลอภัยบาป ทำให้บาปหายไปได้จริงๆหรอ อย่างงี้ทำบาปอีกก็ได้น่ะซิ
- ก้อเหมือนพูด ขอโทษ แบบส่งๆแต่ไม่สำนึกไง โลจิกเดียวกัน
3. ศีลมหาสนิทคืออะไร ต่างกะศีล 5 ยังไง
- พระกายพระคริสตเจ้าจริงๆ ที่ยอมแตกหักเพื่อคนบาปอย่างเรา พอรุแล้วใช่มั้ยว่าต่างกับศีลห้ายังไง
ทั้งสามคำถามนี้ ผมเคยโดนถามแล้วครับ แล้วก้อตอบไปตามที่กล่าวมานี่แหละครับ
- Ecclēsia
 
- โพสต์: 976
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
- ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
- ติดต่อ:
1. ไปโบสถ์วันอาทิตย์ ไปทำไม ไปทำอะไรบ้าง---
ไปพิธีมิสซานมัสการพระเจ้า, ไปร้องเพลง, ไปเรียนคำสอน พบปะเพื่อนๆที่โบสถ์ ลองมาป๊ะ? จะได้รู้ไงว่าเขาทำอะไรกัน
2. รับศีลอภัยบาป ทำให้บาปหายไปได้จริงๆหรอ อย่างงี้ทำบาปอีกก็ได้น่ะซิ---
บาปน่ะหาย เเต่โทษของบาปนั้นยังอยู่จ่ะ ยิ่งทำบาปมากโทษบาปก็ยิ่งมากน๊ะจ๊ะ
นอกจากนั้นศีลอภัยบาป จะได้พระหรรษทานในการต่อสู้กับบาปที่เคยทำด้วยน๊ะจ๊ะ...
3. ศีลมหาสนิทคืออะไร ต่างกะศีล 5 ยังไง---
ศีล5 เป็นเเนวทางปฏิบัติ เเต่ศีลมหาสนิทใช้เรียก เเผ่นปัง เเละเหล้าองุ่น ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็น พระกาย-พระโลหิตของพระเยซูในพิธีมิสซา ตามความเชื่อของเรา คาทอลิก
อยากรู้รายละเอียด มาเรียนคำสอนกันจ่ะ
			
									
									
						ไปพิธีมิสซานมัสการพระเจ้า, ไปร้องเพลง, ไปเรียนคำสอน พบปะเพื่อนๆที่โบสถ์ ลองมาป๊ะ? จะได้รู้ไงว่าเขาทำอะไรกัน
2. รับศีลอภัยบาป ทำให้บาปหายไปได้จริงๆหรอ อย่างงี้ทำบาปอีกก็ได้น่ะซิ---
บาปน่ะหาย เเต่โทษของบาปนั้นยังอยู่จ่ะ ยิ่งทำบาปมากโทษบาปก็ยิ่งมากน๊ะจ๊ะ
นอกจากนั้นศีลอภัยบาป จะได้พระหรรษทานในการต่อสู้กับบาปที่เคยทำด้วยน๊ะจ๊ะ...
3. ศีลมหาสนิทคืออะไร ต่างกะศีล 5 ยังไง---
ศีล5 เป็นเเนวทางปฏิบัติ เเต่ศีลมหาสนิทใช้เรียก เเผ่นปัง เเละเหล้าองุ่น ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็น พระกาย-พระโลหิตของพระเยซูในพิธีมิสซา ตามความเชื่อของเรา คาทอลิก
อยากรู้รายละเอียด มาเรียนคำสอนกันจ่ะ
- 
				~ฮีUโปฟัuxaoxน้ๅโJ™~
 
- โพสต์: 1653
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ย. 10, 2007 9:22 pm
- ที่อยู่: ไม่ใกล้ไม่ใกล้จากวัดอัสสัม-0-
†Ecclēsia เขียน: 1. ไปโบสถ์วันอาทิตย์ ไปทำไม ไปทำอะไรบ้าง---
ไปพิธีมิสซานมัสการพระเจ้า, ไปร้องเพลง, ไปเรียนคำสอน พบปะเพื่อนๆที่โบสถ์ ลองมาป๊ะ? จะได้รู้ไงว่าเขาทำอะไรกัน
2. รับศีลอภัยบาป ทำให้บาปหายไปได้จริงๆหรอ อย่างงี้ทำบาปอีกก็ได้น่ะซิ---
บาปน่ะหาย เเต่โทษของบาปนั้นยังอยู่จ่ะ ยิ่งทำบาปมากโทษบาปก็ยิ่งมากน๊ะจ๊ะ
นอกจากนั้นศีลอภัยบาป จะได้พระหรรษทานในการต่อสู้กับบาปที่เคยทำด้วยน๊ะจ๊ะ...
3. ศีลมหาสนิทคืออะไร ต่างกะศีล 5 ยังไง---
ศีล5 เป็นเเนวทางปฏิบัติ เเต่ศีลมหาสนิทใช้เรียก เเผ่นปัง เเละเหล้าองุ่น ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็น พระกาย-พระโลหิตของพระเยซูในพิธีมิสซา ตามความเชื่อของเรา คาทอลิก
อยากรู้รายละเอียด มาเรียนคำสอนกันจ่ะ
ทำไมพี่เจนดูพยา่ม จะให้เค้ามาเรียนคำสอนจัง- -;
- Ecclēsia
 
- โพสต์: 976
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
- ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
- ติดต่อ:
คนเขาอยากรู้ ก็เเนะนำสถานที่ที่จะทำให้เขา"ได้รู้" ไง จิงป๊ะล่ะ? จะมาหรือเปล่าก็เเล้วเเต่เขา ถือว่าเราชวนเเย้วน๊ามู๋กระป๋อง เขียน:†Ecclēsia เขียน: 1. ไปโบสถ์วันอาทิตย์ ไปทำไม ไปทำอะไรบ้าง---
ไปพิธีมิสซานมัสการพระเจ้า, ไปร้องเพลง, ไปเรียนคำสอน พบปะเพื่อนๆที่โบสถ์ ลองมาป๊ะ? จะได้รู้ไงว่าเขาทำอะไรกัน
2. รับศีลอภัยบาป ทำให้บาปหายไปได้จริงๆหรอ อย่างงี้ทำบาปอีกก็ได้น่ะซิ---
บาปน่ะหาย เเต่โทษของบาปนั้นยังอยู่จ่ะ ยิ่งทำบาปมากโทษบาปก็ยิ่งมากน๊ะจ๊ะ
นอกจากนั้นศีลอภัยบาป จะได้พระหรรษทานในการต่อสู้กับบาปที่เคยทำด้วยน๊ะจ๊ะ...
3. ศีลมหาสนิทคืออะไร ต่างกะศีล 5 ยังไง---
ศีล5 เป็นเเนวทางปฏิบัติ เเต่ศีลมหาสนิทใช้เรียก เเผ่นปัง เเละเหล้าองุ่น ซึ่งถูกเปลี่ยนเป็น พระกาย-พระโลหิตของพระเยซูในพิธีมิสซา ตามความเชื่อของเรา คาทอลิก
อยากรู้รายละเอียด มาเรียนคำสอนกันจ่ะ
ทำไมพี่เจนดูพยา่ม จะให้เค้ามาเรียนคำสอนจัง- -;
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS 
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
พี่แนะนำว่า  ให้ไปซื้อ หนังสือ 50 คำถาม 
ที่พระคุณเจ้า วีระแปลนะคะ
มีทุกคำตอบให้ทุกคำถามที่น้องถามมาเลย
			
									
									
						ที่พระคุณเจ้า วีระแปลนะคะ
มีทุกคำตอบให้ทุกคำถามที่น้องถามมาเลย
ที่ร้านศาสนภัณฑ์ อัสสัมชัญ บางรัก ซอยเจริญกรุง 40NuSaiy เขียน:หาซื้อได้ที่ไหนมั่งคะ?~@Little lamb@~ เขียน: พี่แนะนำว่า ให้ไปซื้อ หนังสือ 50 คำถาม
ที่พระคุณเจ้า วีระแปลนะคะ
มีทุกคำตอบให้ทุกคำถามที่น้องถามมาเลย
มหาไถ่ ซอยร่วมฤดี ที่ร้านเปาลีเน่ ในโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ก็มีขายคะ
ว่าแต่ว่าอยู่ที่ไหนคะ จะได้แนะนำร้านใกล้บ้านให้น่ะคะ

บ้านอยู่นครปฐมค่ะ แหะๆ แต่เรียนอยู่จุฬาฯignatius เขียน:ที่ร้านศาสนภัณฑ์ อัสสัมชัญ บางรัก ซอยเจริญกรุง 40NuSaiy เขียน:หาซื้อได้ที่ไหนมั่งคะ?~@Little lamb@~ เขียน: พี่แนะนำว่า ให้ไปซื้อ หนังสือ 50 คำถาม
ที่พระคุณเจ้า วีระแปลนะคะ
มีทุกคำตอบให้ทุกคำถามที่น้องถามมาเลย
มหาไถ่ ซอยร่วมฤดี ที่ร้านเปาลีเน่ ในโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ ก็มีขายคะ
ว่าแต่ว่าอยู่ที่ไหนคะ จะได้แนะนำร้านใกล้บ้านให้น่ะคะ
หอพักปัจจุบัน อยู่ถนนสี่พระยา แต่อนาคตอันใกล้นี้ (เทอมหน้า) จะย้ายไปอยู่หอในล่ะค่ะ
ข้างๆมาบุญครองเลย

งั้นไปที่ร้านที่มาบุญครองคะ อ่านได้ตามลิงค์นี้เลยคะ
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=10791.0
ขอให้พบในสิ่งที่ต้องการนะคะ รับรองที่นี้ อาจได้มากกว่าหนังสืออีก..
			
									
									
						http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=10791.0
ขอให้พบในสิ่งที่ต้องการนะคะ รับรองที่นี้ อาจได้มากกว่าหนังสืออีก..

ค่ะๆ เดี๋ยวจะลองไปหาดู ขอบคุณนะคะ ^^ignatius เขียน: งั้นไปที่ร้านที่มาบุญครองคะ อ่านได้ตามลิงค์นี้เลยคะ
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=10791.0
ขอให้พบในสิ่งที่ต้องการนะคะ รับรองที่นี้ อาจได้มากกว่าหนังสืออีก..
- Ecclēsia
 
- โพสต์: 976
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
- ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
- ติดต่อ:
อยากจะบอกว่า อยู่สี่พระยา ใกล้วัดอัสสัมชัญมากๆเลยค่ะ เเวะมาสิคะหนังสือเพียบ
วันธรรมดา 8.30-17.00 วันเสาร์ครึ่งวันเช้า วันอาทิตย์ปิดค่ะ
อยู่ซ. เจริญกรุง 40 อ่าค่ะ (เคยเดินเเล้ว)
ปล. ถ้าถนน สี่พระยา คืออันเดียวกับท่าน้ำสี่พระยานะคะ
			
									
									
						วันธรรมดา 8.30-17.00 วันเสาร์ครึ่งวันเช้า วันอาทิตย์ปิดค่ะ
อยู่ซ. เจริญกรุง 40 อ่าค่ะ (เคยเดินเเล้ว)
ปล. ถ้าถนน สี่พระยา คืออันเดียวกับท่าน้ำสี่พระยานะคะ

ค่ะ ถนนเดียวกัน คือปกติจะไปวัดที่กาลหว่าร์อ่ะค่ะ†Ecclēsia เขียน: อยากจะบอกว่า อยู่สี่พระยา ใกล้วัดอัสสัมชัญมากๆเลยค่ะ เเวะมาสิคะหนังสือเพียบ
วันธรรมดา 8.30-17.00 วันเสาร์ครึ่งวันเช้า วันอาทิตย์ปิดค่ะ
อยู่ซ. เจริญกรุง 40 อ่าค่ะ (เคยเดินเเล้ว)
ปล. ถ้าถนน สี่พระยา คืออันเดียวกับท่าน้ำสี่พระยานะคะ
เพราะนั่งรถเมล์ หรือรถตู้ไปสุดสาย สะดวกที่สุด
อยากจะลองไปที่วัดอัสสัมชัญเหมือนกันค่ะ แต่.. ไปไม่ถูก แหะๆ

- Ecclēsia
 
- โพสต์: 976
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 27, 2009 9:25 pm
- ที่อยู่: อาสนวิหารอัสสัมชัญ เขต1 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ
- ติดต่อ:
เลยมาท่าเรือเดียวเองค่าๆๆ อยู่ท่าเรือโอเล็นเต็ล วัดจะอยู่ข้างๆกับโรงเเรมเลยค่ะ : emo038 :NuSaiy เขียน: ค่ะ ถนนเดียวกัน คือปกติจะไปวัดที่กาลหว่าร์อ่ะค่ะ
เพราะนั่งรถเมล์ หรือรถตู้ไปสุดสาย สะดวกที่สุด
อยากจะลองไปที่วัดอัสสัมชัญเหมือนกันค่ะ แต่.. ไปไม่ถูก แหะๆ : xemo017 :
ปล. วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม เจอกันวันฉลองวัดกาลหว่าร์นะคะ
หุหุ ไว้มีโอกาสจะลองไปดูนะคะ†Ecclēsia เขียน:เลยมาท่าเรือเดียวเองค่าๆๆ อยู่ท่าเรือโอเล็นเต็ล วัดจะอยู่ข้างๆกับโรงเเรมเลยค่ะ : emo038 :NuSaiy เขียน: ค่ะ ถนนเดียวกัน คือปกติจะไปวัดที่กาลหว่าร์อ่ะค่ะ
เพราะนั่งรถเมล์ หรือรถตู้ไปสุดสาย สะดวกที่สุด
อยากจะลองไปที่วัดอัสสัมชัญเหมือนกันค่ะ แต่.. ไปไม่ถูก แหะๆ : xemo017 :
ปล. วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม เจอกันวันฉลองวัดกาลหว่าร์นะคะ
ส่วนวันอาทิตย์ที่ 4 ตุลา สอบเสร็จแล้วอ่ะค่ะ อาจกลับมาบ้าน
ไม่แน่ใจว่าจะได้ไปฉลองวัดรึป่าว

- 
				กรอกสมบูรณ์
 
- โพสต์: 1413
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 02, 2008 11:18 am
- ที่อยู่: ต.กรอกสมบูรณ์ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
มองหน้าคนถามก่อนเลยNuSaiy เขียน:
1. ไปโบสถ์วันอาทิตย์ ไปทำไม ไปทำอะไรบ้าง
2. รับศีลอภัยบาป ทำให้บาปหายไปได้จริงๆหรอ อย่างงี้ทำบาปอีกก็ได้น่ะซิ
3. ศีลมหาสนิทคืออะไร ต่างกะศีล 5 ยังไง
 มาดีมาร้ายกันเนี่ย คำตอบก็จะประเมินเอาจากหน้าตาของผู้ถามเป็นหลัก
  มาดีมาร้ายกันเนี่ย คำตอบก็จะประเมินเอาจากหน้าตาของผู้ถามเป็นหลักถ้าสีหน้าท่าทางกวนๆ ก้อจะตอบแบบกวนๆ
 "อยากรู้จิงป่ะ?"
  "อยากรู้จิงป่ะ?"ถ้าถามเพราะอยากรู้จริงๆ ก็จะตอบแบบมีสาระแนววิชาการ.com ให้ฟังเป็นเรื่องเป็นราว
แต่ต้องมีเวลาฟังคำตอบกันหน่อยนะ เรื่องอย่างนี้มันอธิบายสั้นๆ...ม่ายด้าย

คำตอบก็จะเหมือนกับที่พี่น้องในบอร์ดนิวมานาตอบกันไว้นั่นแหละค่ะ
- 
				PeterCartoon
 
- โพสต์: 141
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 03, 2006 12:17 pm
1.ไปวัดทำไม
ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาแบบครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้าอยู่ในฐานะ พ่อกับลูก หรือแม่กับลูก
ต้องเริ่มด้วย ความเชื่อ ก่อนว่า มนุษย์เรามีพระเจ้าเป็นผู้ให้กำเนิด(ในฝ่ายวิญญาณและพ่อแม่ในโลกมนุษย์เป็นผู้ให้กำเนิดฝ่ายร่างกาย) เราจึงสามารถเรียกพระเจ้าว่าเป็น
			
									
									
						ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาแบบครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้าอยู่ในฐานะ พ่อกับลูก หรือแม่กับลูก
ต้องเริ่มด้วย ความเชื่อ ก่อนว่า มนุษย์เรามีพระเจ้าเป็นผู้ให้กำเนิด(ในฝ่ายวิญญาณและพ่อแม่ในโลกมนุษย์เป็นผู้ให้กำเนิดฝ่ายร่างกาย) เราจึงสามารถเรียกพระเจ้าว่าเป็น





 
 




