ในที่สุดวันนั้นมาถึง...

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
Holy Bible
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm

ศุกร์ ต.ค. 16, 2009 11:33 am

ผมแปลกใจมากเลย ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ ก็ตอนนั้นผมคุยกับพ่อแม่เรื่องนี้เรียบร้อยแล้วนี่ แล้วทำไมมันเป็นแบบนี้ได้
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

ศุกร์ ต.ค. 16, 2009 11:47 am

ตอนนี้สิ่งที่จะช่วยได้มาก คือ พลังแห่งการสวดภาวนา นะจ๊ะ

ใช้สิ่งที่มีเหลือให้เป็นประโยชน์  สวดให้คุณพ่อและคุณแม่เยอะๆ

อดทนรอคอยนะคะ นักบุญมอนิกา ยังใช้เวลาสวดเกินกว่า 20 ปี จนลูกกลับใจ

ทำให้เราได้นักบุญที่ยิ่งใหญ่อีกองค์นึงทีเดียว คือนักบุญออกัสตินไงคะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ  พี่เชื่อว่าน้องทำได้ อดทนนะคะ : xemo026 : : xemo026 : : emo045 :
Holy Bible
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm

ศุกร์ ต.ค. 16, 2009 12:24 pm

sinner เขียน: ตอนนี้สิ่งที่จะช่วยได้มาก คือ พลังแห่งการสวดภาวนา นะจ๊ะ

ใช้สิ่งที่มีเหลือให้เป็นประโยชน์  สวดให้คุณพ่อและคุณแม่เยอะๆ

อดทนรอคอยนะคะ นักบุญมอนิกา ยังใช้เวลาสวดเกินกว่า 20 ปี จนลูกกลับใจ

ทำให้เราได้นักบุญที่ยิ่งใหญ่อีกองค์นึงทีเดียว คือนักบุญออกัสตินไงคะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ  พี่เชื่อว่าน้องทำได้ อดทนนะคะ : xemo026 : : xemo026 : : emo045 :
พี่ช่วยสวดให้ผมด้วยได้มั้ยครับ

ป.ล. พี่ชื่ออะไรหรอครับ
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

ศุกร์ ต.ค. 16, 2009 1:18 pm

พี่หน่อยค่ะ : emo045 : : xemo026 : ::036::

จะสวดให้นะคะ : xemo026 : ::022::


ปล.ทุกวันนี้พี่ก็พยายามสวดให้คุณพ่อ คุณแม่ และน้องๆ ได้กลับใจเหมือนกันค่ะ

เห็นตัวอย่างจากเพื่อนๆ พี่น้องหลายๆ ท่านที่ทำสำเร็จ ก็อยากให้เกิดกับครอบครัวเราเหมือนกัน สู้ สู้ นะคะ ::031::
แก้ไขล่าสุดโดย sinner เมื่อ ศุกร์ ต.ค. 16, 2009 1:22 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

ศุกร์ ต.ค. 16, 2009 8:21 pm

Holy Bible เขียน: ผมแปลกใจมากเลย ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ได้ ก็ตอนนั้นผมคุยกับพ่อแม่เรื่องนี้เรียบร้อยแล้วนี่ แล้วทำไมมันเป็นแบบนี้ได้
เพราะโลกนี้มีปีศาจจ้า เป็นเรื่องปกติของคนที่เดินตามพระ ต้องเจอแบบนี้แหละ อีกหน่อยก็จะเข้าใจจ้ะ  : emo045 :
sansrepos
โพสต์: 460
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 6:23 pm

เสาร์ ต.ค. 17, 2009 8:29 am

พี่ว่าบางทีอาจจไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นก็ได้นะครับ ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ของน้องยังไม่ได้มีความเชื่อถือศรัทธาในคริสตศาสนา บางทีท่านอาจจะเห็นว่าหนังสือคำสอนหรือประวัตินักบุญที่น้องตั้งใจจะอ่านเป็นเพียงหนังสืออ่านเล่น หรือหนังสือที่ไม่มีสาระในสายตาของท่านก็ได้ ดังนั้นจึงทิ้งแต่สายประคำกะน้ำเสกไว้ให้

คุณพ่ออาจจะไม่อยากให้น้องเสียเวลาที่น่าจะเอาไปเรียนหนังสือมากกว่าก็ได้ครับ

ชนชั้นกลางไทยจำนวนมากยังมีค่านิยมอยากจะให้ลูกๆเรียนหนังสือในหลักสูตรให้เก่งสุดๆสอบเข้ามหาลัยชื่อดังให้ได้ โดยแทบจะไม่สนใจชีวิตด้านอื่นๆ หรือความรู้รอบตัวเอาซะเลย อันนี้ก็มีออกมากครับ พี่เรียนแพทย์มานี่เจอพวกคนเรียนเก่งประเภทอย่างอื่นแทบไม่รู้เรื่อง หรือไม่เคยจับงานบ้านเลยนี่เยอะครับ

ถ้าน้องไปวัดเซนต์จอนห์นบ่อยเราอาจจะเคยเจอกันก็ได้นะครับ คุณพ่อของพี่เคยดูแลกลุ่มเยาวชนของวัดเหมือนกัน และท่านเป็นสมาชิกสภาอภิบาลสัตบุรุษมาหลายปีแล้วด้วยครับ หลังๆมานี่ก็ช่วยงานแปลหนังสือให้กับคุณพ่อวิจิตรครับ แต่พี่อยู่ต่างจังหวัดจะเข้าวัดที่โคราชเป็นส่วนใหญ่

คุณพ่อของพี่บอกว่าที่วัดเซนต์จอห์นของเรามีเยาวชนคนหนึ่งเปลี่ยนมานับถือคาทอลิกจากเดิมที่เป็นชาวมุสลิมด้วยครับ ซึ่งก็ถูกต่อต้านจากทางบ้านอยู่บ้างเหมือนกันด้วยนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
mew
โพสต์: 383
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 15, 2009 1:46 pm
ที่อยู่: บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

เสาร์ ต.ค. 17, 2009 9:10 am

มิวขอให้มาร์ค เข้มแข็งไวมากๆ สู้ๆคับ
แก้ไขล่าสุดโดย mew เมื่อ เสาร์ ต.ค. 17, 2009 9:18 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Holy Bible
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm

เสาร์ ต.ค. 17, 2009 7:26 pm

ทำไงดีครับ คือพ่อผมเขาไม่ให้ไปวัดเซนต์จอห์นแล้ว ทำไงดีครับ
sansrepos เขียน: พี่ว่าบางทีอาจจไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นก็ได้นะครับ ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ของน้องยังไม่ได้มีความเชื่อถือศรัทธาในคริสตศาสนา บางทีท่านอาจจะเห็นว่าหนังสือคำสอนหรือประวัตินักบุญที่น้องตั้งใจจะอ่านเป็นเพียงหนังสืออ่านเล่น หรือหนังสือที่ไม่มีสาระในสายตาของท่านก็ได้ ดังนั้นจึงทิ้งแต่สายประคำกะน้ำเสกไว้ให้

คุณพ่ออาจจะไม่อยากให้น้องเสียเวลาที่น่าจะเอาไปเรียนหนังสือมากกว่าก็ได้ครับ

ชนชั้นกลางไทยจำนวนมากยังมีค่านิยมอยากจะให้ลูกๆเรียนหนังสือในหลักสูตรให้เก่งสุดๆสอบเข้ามหาลัยชื่อดังให้ได้ โดยแทบจะไม่สนใจชีวิตด้านอื่นๆ หรือความรู้รอบตัวเอาซะเลย อันนี้ก็มีออกมากครับ พี่เรียนแพทย์มานี่เจอพวกคนเรียนเก่งประเภทอย่างอื่นแทบไม่รู้เรื่อง หรือไม่เคยจับงานบ้านเลยนี่เยอะครับ

ถ้าน้องไปวัดเซนต์จอนห์นบ่อยเราอาจจะเคยเจอกันก็ได้นะครับ คุณพ่อของพี่เคยดูแลกลุ่มเยาวชนของวัดเหมือนกัน และท่านเป็นสมาชิกสภาอภิบาลสัตบุรุษมาหลายปีแล้วด้วยครับ หลังๆมานี่ก็ช่วยงานแปลหนังสือให้กับคุณพ่อวิจิตรครับ แต่พี่อยู่ต่างจังหวัดจะเข้าวัดที่โคราชเป็นส่วนใหญ่

คุณพ่อของพี่บอกว่าที่วัดเซนต์จอห์นของเรามีเยาวชนคนหนึ่งเปลี่ยนมานับถือคาทอลิกจากเดิมที่เป็นชาวมุสลิมด้วยครับ ซึ่งก็ถูกต่อต้านจากทางบ้านอยู่บ้างเหมือนกันด้วยนะครับ
ส่วนตัวแล้วผมชอบคุณพ่อวิจิตรมากเลยครับ ท่านเป็นคนใจดีมากเลย แต่ท่าชอบมีงานเยอะ แ้ล้วก็พี่ที่เขาเคยเป็นมุสลิมแล้วมาเป็นคาทอลิก ผมก็รู้จักพี่เขาครับ พ่อของเขาให้แต่แม่ไม่ให้ ก็เลยต้องแอบ
ภาพประจำตัวสมาชิก
mew
โพสต์: 383
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ต.ค. 15, 2009 1:46 pm
ที่อยู่: บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

เสาร์ ต.ค. 17, 2009 7:40 pm

เราว่านายต้องเชื่อฟังพ่อกับแม่นะ เราไม่อยากให้นายกับครอบครัวต้องมาขัดใจกันเพราะเรื่องศาสนา

เราว่านายตั้งใจเรียนดีกว่า ส่วนเรื่องศาสนาคริสต์ที่นายศรัทธา เราว่ารอให้นายมีอายุบรรลุนิติภาวะก่อน

เพราะว่าถ้านายมีอายุบรรลุนิติภาวะแล้ว พ่อกับแม่ท่านคงไม่ว่าอะไรนายหรอก เพราะท่านเห็นว่านายโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว

เราขอให้นายสมหวังในสิ่งที่นายปรารถนานะ
sansrepos
โพสต์: 460
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 6:23 pm

อาทิตย์ ต.ค. 18, 2009 10:44 pm

คริสตศาสนาไม่ว่าจะนิกายอะไรสอนเน้นเรื่องความรักและการเป็นแบบอย่างที่ดี น้องยังไม่จำเป็นจะต้องรีบรับศีลล้างบาปตราบเท่าที่สถานการณ์ยังไม่เอื้ออำนวย และอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งเพราะนั่นอาจจะขัดกับหลักความรัก

เท่าที่ฟังมาน้องเล่ามาน้องน่าจะเรียนระดับ ม.ปลาย แล้วนะครับ คุณพ่อคุณแม่ของน้องอาจจะยังเห็นน้องเป็นวัยรุ่นที่อาจจะใจร้อนและหลงเชื่อคนง่ายก็ได้ และการที่พวกท่านห้ามปรามเรื่องการไปเข้ารีตเป็นคริสต์ก็น่าจะเป็นความหวังดี (แต่อาจจะมีความเข้าใจผิดผสมอคติ และอาจจะยังมีความคาดหวังผิดๆที่อยากให้ลูกเป็นแบบที่ตัวเองต้องการ)

ถ้าถึงขั้นสั่งห้ามไม่ให้ไปฟังมิสซาพี่ว่าน้องต้องคุยเปิดอกกับคุณพ่อน้องแล้วหละว่าเพราะเหตุผลอะไร และน้องจะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่คุณพ่อถึงจะอนุญาต เช่นเข้าเรียนในมหาลัย อายุครบ 20 ปี เรียนจบมีรายได้เป็นของตัวเอง หรือว่าต้องให้น้องแต่งงานแยกครอบครัวออกไปอะไรประมาณนี้


ต้องชี้แจงตรงๆ (ด้วยความสุภาพนะ) ว่าคุณพ่อหรือคุณแม่ไม่อาจจะบังคับหรือจำกัดเสรีภาพในการเลือกนับถือหรือไม่นับถือศาสนาอะไรได้ไปตลอด
Holy Bible
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm

จันทร์ ต.ค. 19, 2009 11:05 am

sansrepos เขียน: คริสตศาสนาไม่ว่าจะนิกายอะไรสอนเน้นเรื่องความรักและการเป็นแบบอย่างที่ดี น้องยังไม่จำเป็นจะต้องรีบรับศีลล้างบาปตราบเท่าที่สถานการณ์ยังไม่เอื้ออำนวย และอาจจะนำไปสู่ความขัดแย้งเพราะนั่นอาจจะขัดกับหลักความรัก

เท่าที่ฟังมาน้องเล่ามาน้องน่าจะเรียนระดับ ม.ปลาย แล้วนะครับ คุณพ่อคุณแม่ของน้องอาจจะยังเห็นน้องเป็นวัยรุ่นที่อาจจะใจร้อนและหลงเชื่อคนง่ายก็ได้ และการที่พวกท่านห้ามปรามเรื่องการไปเข้ารีตเป็นคริสต์ก็น่าจะเป็นความหวังดี (แต่อาจจะมีความเข้าใจผิดผสมอคติ และอาจจะยังมีความคาดหวังผิดๆที่อยากให้ลูกเป็นแบบที่ตัวเองต้องการ)

ถ้าถึงขั้นสั่งห้ามไม่ให้ไปฟังมิสซาพี่ว่าน้องต้องคุยเปิดอกกับคุณพ่อน้องแล้วหละว่าเพราะเหตุผลอะไร และน้องจะต้องรอไปถึงเมื่อไหร่คุณพ่อถึงจะอนุญาต เช่นเข้าเรียนในมหาลัย อายุครบ 20 ปี เรียนจบมีรายได้เป็นของตัวเอง หรือว่าต้องให้น้องแต่งงานแยกครอบครัวออกไปอะไรประมาณนี้


ต้องชี้แจงตรงๆ (ด้วยความสุภาพนะ) ว่าคุณพ่อหรือคุณแม่ไม่อาจจะบังคับหรือจำกัดเสรีภาพในการเลือกนับถือหรือไม่นับถือศาสนาอะไรได้ไปตลอด
เขาไม่ให้ไปฟังมิสซาด้วยครับ พึ่งไปขอมาเมื่อวันเสาร์นี้เอง เขาบอกว่าเขาห้ามที่จะให้ผมมีศรัทธาไม่ได้ แต่เรื่องนี้"ไม่สนับสนุน"ครับ ผมก็เสียใจเหมือนกันนะที่พ่อแม่ห้ามถึงขนาดนี้
ภาพประจำตัวสมาชิก
ชิปโป
โพสต์: 184
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 03, 2006 4:17 am

จันทร์ ต.ค. 19, 2009 2:12 pm

อีกกี่ปีถึงจะ20ครับ
sansrepos
โพสต์: 460
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 6:23 pm

จันทร์ ต.ค. 19, 2009 2:36 pm

ไม่สนับสนุนกับสั่งห้ามมันไม่เหมือนกันนะครับ

น้องเป็นวัยรุ่นอยู่ในช่วงของการค้นหาตัวเอง และเรียนหนังสือเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการไปประกอบอาชีพพึ่งตนเองในอนาคต

ถ้าใช้คำว่าไม่สนับสนุนมันหมายความว่าถ้าน้องให้คุณพ่อขับรถพาไปส่งที่วัดแล้วคุณพ่อไม่ยอมพาไปอันนี้ก็ไม่แปลก ถ้าไม่ออกเงินให้น้องเอาไปซื้อหนังสือเกี่ยวกับคาทอลิกหรือทำบุญในศาสนาคาทอลิกอันนี้คือไม่สนับสนุน

แต่ถ้าสั่งห้ามมันก็เป็นการบังคับไม่ให้ทำ มันไม่ใช่แค่เพียงไม่สนับสนุน

บางทีน้องอาจจะต้องแสดงความตั้งใจจริงต่อรองกับคุณพ่อเช่นน้องจะขอลดเงิน pocket money หรืองดไปสังสรรค์หรือทำกิจกรรม (ที่ไม่ใช่การเรียนอื่นๆ รวมทั้งการเที่ยวเตร่เป็นครั้งคราว) เพื่อแลกกับสิทธิในการแสดงออกทางศาสนาและการปฏิบัติศาสนกิจ

และก็ควรจะถามท่านไปตรงๆเลยว่าการไปเข้าคาทอลิกมันไม่ดีตรงไหน ศาสนาคริสต์มีบทบัญญัติให้นับถือบิดามารดา ให้ใช้หลักความรัก และการให้อภัยเพื่อสลายความขัดแย้ง นอกจากเน้นเรื่องพระเจ้าและการไถ่บาปแล้ว หลักศีลธรรมพื้นฐานแทบไม่มีอะไรแตกต่างจากพุทธศาสนาเลยด้วยซ้ำ นอกจากคุณพ่ออาจจะกลัวว่าน้องจะไม่ยอมบวชเป็นภิกษุเมื่ออายุครบบวชตามธรรมเนียมไทย

คือต้องพูดกันให้เข้าใจไปเลยครับ ไอ้เรื่องบรรลุนิติภาวะหรือพึ่งตัวเองได้มันก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่พี่ไม่คิดว่านี่ควรจะเป็นประเด็นหลักที่เราจะเน้นย้ำ ถ้าน้องยังเรียนไม่จบถึงจะอายุแค่ไหนก็ยังน่าจะต้องพึ่งพาครอบครัวอยู่ แล้วถ้าน้องเรียนจบมีงานทำเลี้ยงตัวเองได้ น้องอยากจะตัดพ่อตัดแม่กับพวกท่านเลยหรือ

และพีไม่คิดว่าพ่อแม่ของน้องจะรังเกียจศาสนาคาทอลิกถึงกับจะตัดลูกด้วยครับ
Holy Bible
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm

จันทร์ ต.ค. 19, 2009 5:16 pm

sansrepos เขียน: ไม่สนับสนุนกับสั่งห้ามมันไม่เหมือนกันนะครับ

น้องเป็นวัยรุ่นอยู่ในช่วงของการค้นหาตัวเอง และเรียนหนังสือเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการไปประกอบอาชีพพึ่งตนเองในอนาคต

ถ้าใช้คำว่าไม่สนับสนุนมันหมายความว่าถ้าน้องให้คุณพ่อขับรถพาไปส่งที่วัดแล้วคุณพ่อไม่ยอมพาไปอันนี้ก็ไม่แปลก ถ้าไม่ออกเงินให้น้องเอาไปซื้อหนังสือเกี่ยวกับคาทอลิกหรือทำบุญในศาสนาคาทอลิกอันนี้คือไม่สนับสนุน

แต่ถ้าสั่งห้ามมันก็เป็นการบังคับไม่ให้ทำ มันไม่ใช่แค่เพียงไม่สนับสนุน

บางทีน้องอาจจะต้องแสดงความตั้งใจจริงต่อรองกับคุณพ่อเช่นน้องจะขอลดเงิน pocket money หรืองดไปสังสรรค์หรือทำกิจกรรม (ที่ไม่ใช่การเรียนอื่นๆ รวมทั้งการเที่ยวเตร่เป็นครั้งคราว) เพื่อแลกกับสิทธิในการแสดงออกทางศาสนาและการปฏิบัติศาสนกิจ

และก็ควรจะถามท่านไปตรงๆเลยว่าการไปเข้าคาทอลิกมันไม่ดีตรงไหน ศาสนาคริสต์มีบทบัญญัติให้นับถือบิดามารดา ให้ใช้หลักความรัก และการให้อภัยเพื่อสลายความขัดแย้ง นอกจากเน้นเรื่องพระเจ้าและการไถ่บาปแล้ว หลักศีลธรรมพื้นฐานแทบไม่มีอะไรแตกต่างจากพุทธศาสนาเลยด้วยซ้ำ นอกจากคุณพ่ออาจจะกลัวว่าน้องจะไม่ยอมบวชเป็นภิกษุเมื่ออายุครบบวชตามธรรมเนียมไทย

คือต้องพูดกันให้เข้าใจไปเลยครับ ไอ้เรื่องบรรลุนิติภาวะหรือพึ่งตัวเองได้มันก็เป็นส่วนหนึ่ง แต่พี่ไม่คิดว่านี่ควรจะเป็นประเด็นหลักที่เราจะเน้นย้ำ ถ้าน้องยังเรียนไม่จบถึงจะอายุแค่ไหนก็ยังน่าจะต้องพึ่งพาครอบครัวอยู่ แล้วถ้าน้องเรียนจบมีงานทำเลี้ยงตัวเองได้ น้องอยากจะตัดพ่อตัดแม่กับพวกท่านเลยหรือ

และพีไม่คิดว่าพ่อแม่ของน้องจะรังเกียจศาสนาคาทอลิกถึงกับจะตัดลูกด้วยครับ
แม่บอกผมเรื่องนี้ว่า "ไม่ว่าอะไรยังไงจะเกิดขึ้นกับผมในอนาคต แม่ยอมรับได้ แต่ไม่ใช่เวลานี้ ทุกวันนี้ที่แม่อดทนเรื่องนี้ได้ก็เพราะว่ารักผม แม่ถึงยอมทนได้" ผมเชื่อว่าแม่ผมคงรักผมมากเลย เมื่อมีสิ่งใดแปลกปลอมเข้ามาหาผม พ่อแม่ก็ต้องเป็นด่านแรกก่อน เหมือนเวลามีแฟนแม่ก็จะคอยมาตรวจดูว่าผู้หญิงที่ผมคบเค้าเป็นยังไงนะ นิสัยดีหรือเปล่า นี่ล่ะคือความรักของแม่ผม สิ่งที่ผมต้องทำตอนนี้ก็คือต้องรอ รอเวลาให้มันผ่านไป พร้อมกับทำตัวเป็นคนดี อ่านพระคัมภีร์เยอะๆหน่อย เื่พื่อจะได้เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่เหมือนที่พระเยซูทรงเป็นบุตรที่ดีของพระนางมารีย์ ผมจะยึดพระเยซูเป็นแบบอย่าง ในครั้งที่พระเยซูยังทรงพระเยาว์ พระองค์ยังทรงมิได้แสดงพระองค์ให้คนอื่นรู้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า ผมว่าช่วงเวลานั้นพระองค์ก็คงรู้สึกคล้ายๆผม เพราะว่าพระองค์ทรงอดทนที่จะไม่เปิดเผยพระองค์เป็นเวลาหลายสิบปี อยากจะบอกว่าพระองค์ทรงมีความอดทนมากกว่าผมอีก ทั้งๆที่ผมรอจนถึงเวลานั้น แล้วทุกอย่างก็จบกันไป แต่ว่าเมื่อถึงเวลาที่พระองค์ทรงเปิดเผยพระองค์กลับไม่มีคนเชื่อ แถมยังมีคนมาขู่ฆ่าพระองค์อีก

ผมคิดว่า..ผมต้องทนให้ได้...ต้องทนให้ได้  แต่ยังไงผมก็ยังทำใจเรื่องไปวัดไม่ได้อยู่ดี อยากไปร่วมงานคริสต์มาส อยากจะไปร่วมฉลองวัด.....
Isolation
โพสต์: 1042
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 22, 2008 11:37 am
ที่อยู่: Ether23@hotmail.com

จันทร์ ต.ค. 19, 2009 6:03 pm

"จงใช้ความรักเอาชนะความรัก" ...อเล็กซานเดอร์ บาร์เคลย์...  : xemo017 :
สู้ๆนะคร้าบ คุณมาร์ค  ::050::
ภาพประจำตัวสมาชิก
เลย์
โพสต์: 1845
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 05, 2009 12:27 am
ที่อยู่: ในอ้อมพระหัตถ์พระเป็นเจ้า
ติดต่อ:

จันทร์ ต.ค. 19, 2009 8:12 pm

วัยรุ่นสู้สสสสสสสสสสสสสสสส  ::047::
bookcosmo
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ส.ค. 08, 2009 8:01 pm

อังคาร ต.ค. 20, 2009 1:17 am

ขอเป็นกำลังใจให้น้องมาร์คนะครับ อย่าท้อถอย พี่จะ่ช่วยภาวนาให้อีกแรง
sansrepos
โพสต์: 460
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 6:23 pm

อังคาร ต.ค. 20, 2009 9:13 am

ถ้าพี่เป็นน้องคงเครียดเหมือนกันนะ

ท่าทางน้องจะมีความอดทนมากกว่าพี่สมัยอายุเท่ากับน้องตอนนี้อีกด้วย

ขอพระเป็นเจ้าทรงอวยพระพรให้ครอบครัวของน้อง ให้พบกันสันติสุขและความปรองดองตามน้ำพระทัยของพระองค์

ว่าแต่น้องไปมิสซาเวลาอื่นที่พ่อแม่น้องจะไม่อาจทราบได้เลยเหรอครับ ไม่ใช่พี่จะมาสอนให้หัดโกหกนะ แต่บางครั้งกับเรื่องดีๆบางเรื่องเราไม่จำเป็นต้องเล่าให้พ่อแม่ฟังทั้งหมดนี่ครับว่าเราไปทำอะไรมาบ้าง โดยเฉพาะเวลาที่ยังไม่เหมาะสมที่ท่านจะรับได้
Holy Bible
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm

อังคาร ต.ค. 20, 2009 11:37 am

ไปตอนไหนได้บ้างครับ ถ้าเป็นตอนเย็นก็ไม่ได้อยู่ดีครับ เพราะพ่อแม่จะอยู่บ้านในช่วงนี้ ก็ไปได้ในวันอาิทิตย์ตอนเช้าอ่ะครับ ผมต้องเรียนพิเศษด้วย ถ้าจะไปก็ต้องโดดเรียนเอา(เพราะปกติจะโดดเรียนในวันอาทิตย์เสมอ)
sansrepos
โพสต์: 460
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 6:23 pm

อังคาร ต.ค. 20, 2009 12:33 pm

เท่าที่พี่จำได้นะครับ มิสซาวันอาทิตย์ของเซนต์จอห์นจะมีมิสซาแทนในเย็นวันเสาร์ 18 น.

วันอาทิตย์จะมี 6.30 7.45 9 และ 18 น.

และมีมิสซาภาษาอังกฤษเวลา 10 น.

จริงๆน้องลองเช็คเวลาของวัดอื่นๆดูด้วยก็ดีนะครับ เผื่อว่าเป็นทางผ่านที่จะแวะไปได้โดยไม่ต้องเสียธุระหรือต้องโดดเรียน

เท่าที่ฟังมาพี่ว่าพ่อแม่น้องน่าจะมีอคติรุนแรงพอสมควรคงต้องใช้เวลาครับ และที่สำคัญตัวเราต้องแสดงออกถึงการเป็นคาทอลิกที่ดี ถ้าน้องเป็นเด็กเกเร เอาแต่ใจ ไม่รับผิดชอบหรือก้าวร้าว นี่จะให้พ่อแม่ยอมรับก็ยิ่งยากครับ

เรื่องเรียนพิเศษก็พยายามจัดเวลาดูครับ ถ้าหาคนสอนเคมี มาเรียนกับน้องสาวพี่ก็ได้ครับ แกเป็นครูที่รร.มาแตร์ฯ บ้านอยู่ลาดพร้าวซอย 1 แต่ไม่รู้ว่าตารางเวลาเต็มหรือยังนะครับเพราะมีลูกศิษย์เยอะอยู่เหมือนกัน
Memory
โพสต์: 390
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 06, 2009 1:52 pm
ที่อยู่: Rayong

อังคาร ต.ค. 20, 2009 12:49 pm

แต่ล่ะครอบครัวไม่เหมือนกัน อย่างครอบครัวผมไม่เข้มมากเรื่องการสอบ เพราะเค้ามั่นใจว่าถึงผมจะเล่นๆอะไรยังไง เวลาสอบผมก็เอาจริงตลอด ดังนั้น คุณลองแสดงว่าคุณสนใจเรียน ตั้งใจเรียน ( ไม่ต้องแสร้งทำน่ะครับ ทำไปจริงๆเลย หรือ ถ้าตั้งใจอยู่แล้ว อาจจะเป็นที่อคติอันนี้ต้องสวดเยอะๆแล้วครับ) ส่วนเรื่องมิซซา ที่พี่ sansrepos  ก็ถูกน่ะครับ ลองหาเวลาที่เหมาะกับเราดู แรกๆ อาจจะแอบไปบ้าง  : emo036 : ตั้งใจเรียน ตั้งใจสอบ สวดภาวนาเยอะ ได้ผลแน่นอนครับ

จะช่วยอีกแรงครับ!! Fighting : emo107 :
ปล. อาจจะนอกเรื่องแต่ผมเห็นบางครอบครัวเข้มมากครับ เรียกว่าเรียนเช้ายันเย็น คอมถ้าไม่ได้ทำงานห้ามเปิด ทีวีรายการไร้สาระห้ามดู น้องคนนั้นเครียดมาก  แต่พอผลสอบออกมา สอบติดมหาลัยตอนนี้แล้ว จะทำอะไรก็ทำไป เค้าปล่อยแล้วนั่นเอง
Holy Bible
โพสต์: 690
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm

พุธ ต.ค. 21, 2009 11:49 am

ไปอ่านหนังสือประวัติศาสตร์มาเล่มนึงครับเมื่อวานนี้ ชื่อเรื่อง: เล่าเรื่องกรุงสยาม เขียนโดย มงเซญอร์ ปาลเลกัวซ์

เกี่ยวกับชีวิตของเด็กคริสตังในสมัยกรุงสยามครับ คือเมื่อสมัยก่อนก็มีครอบครัวคริสตังหลายคนที่ไปติดหนี้คนอื่นเขาจนไม่มีอะไรจ่าย ก็เลยต้องเอาลูกไปเป็นทาส ซึ่งนายทาสเขาโหดมาก คือเขาพยายามที่จะทำให้เด็กพวกนี้เลิกนับถือคริสตศาสนา เช่น เวลาอยู่ในเรือนก็ห้ามสวดภาวนาให้เห็นไม่เช่นนั้นก็จะโดนเฆี่ยน ห้ามไปโบสถ์ในวันอาทิตย์ ถ้าเห็นว่าแอบไปก็ต้องโดนล่ามโซ่ไว้กับเสาบ้าน เมื่อโตขึ้น ถ้าเป็นผู้ชายก็จะบอกว่าให้บวชเป็นพระซัก2-3พรรษา แล้วจะปล่อยให้เป็นอิสระ ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะให้ไปเป็นเมียน้อยคนที่เขารวยๆ ซึ่งตอนนั้นมิสซังพยายามไถ่เด็กพวกนี้ให้เป็นอิสระ แต่ก็ได้ไม่หมด เพราะว่ามีมากเหลือเกิน เห้อ โหดกันจริงๆ
sansrepos
โพสต์: 460
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 6:23 pm

พุธ ต.ค. 21, 2009 11:52 am

พวกโหดๆขาดขันติธรรมทางศาสนามีให้เห็นในหน้าประวัติศาสตร์มากมายครับ

แม้แต่รัฐคาทอลิกบางแห่งในอดีตก็มีการเบียดเบียนศาสนาอื่นรวมถึงคริสต์นิกายอื่นๆเช่นกันครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

พุธ ต.ค. 21, 2009 2:40 pm

พี่แนะนำว่า  ให้น้องบอกแม่ว่า
น้องจะพิสูจน์ให้ดูว่า  การเชื่อพระเจ้า  ไม่ได้ทำให้น้องย่ำแย่ หรือ เลวร้ายลง
ตรงกันข้าม  น้องจะเป็นเด็กดี เป็นคนดี  และ ไม่เสียการเรียน

แล้วก็ทำให้ได้ตามที่พูด  ขยันเรียน ตั้งใจทำงานบ้าน 
อดทน ทำไป  เพื่อพ่อแม่จะได้ไม่มาว่าตามหลังได้ว่า
พระเจ้าทำให้น้องนิสัยแย่ และ เสียเด็กค่ะ

ลองเอาความดีชนะดู 

ขอพระเจ้าอวยพร 
Kobkit
โพสต์: 2
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 19, 2009 11:39 pm

พฤหัสฯ. ต.ค. 22, 2009 4:39 pm

เห็นด้วยกับ Little Lamb  ระหว่างที่ยังอยู่ในปกครองของพ่อแม่ ก็คิดว่าควรทำตามท่านไปก่อนหากสิ่งนั้นไม่ผิดศีลธรรมหรือความยุติธรรม เช่นเดียวกับพระเยซูเจ้าเมื่ออายุ 12 ปี แม้ว่าจะทรงมีพระภารกิจที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังคงตามแม่พระและนักบุญยอแซฟกลับบ้าน  ระหว่างนี้เราสามารถไปวัดได้ด้วยความปรารถนา เช่นเดียวกับเราสามารถรับศีลมหาสนิทได้ด้วยความปรารถนา ขณะเดียวกันก็พิสูจน์ให้ท่านเห็นว่า การนับถือศาสนาคาทอลิกมีแต่สิ่งที่ดีงาม และไม่เสียหายในเรื่องฝ่ายกาย โดยเฉพาะเรื่องการเรียนและความประพฤติ  แสดงให้ท่านเห็นว่าเรารักท่านทั้งสองด้วยกาย, วาจาและใจ... สวดให้ท่าน และเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์  เป็นกำลังใจและสวดให้ครับ
ตอบกลับโพส