พระอาณาจักรจงมาถึง....
พระอาณาจักรจงมาถึง ขอให้ทุกสิ่งเป็นไปตามน้ำพระืัทัย ในแผ่นดินเหมือนดังในสวรรค์
สวรค์เป็นอย่างไร จากพระคัมภีร์ และคำพยาน
วว 4:1-11 พระเจ้าทรงมอบอนาคตของโลกไว้กับ “ลูกแกะของพระเจ้า”
หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นนิมิต ประตูสวรรค์เปิดบานหนึ่ง และข้าพเจ้าได้ยินเสียงที่เคยได้ยินก่อนนั้นดังดุจเสียงแตร พูดกับข้าพเจ้าว่า “จงขึ้นมาข้างบนนี้เถิด ฉันจะชี้ให้ท่านเห็นเหตุการณ์ที่จะต้องเกิดขึ้นหลังจากนี้” ทันใดนั้น ข้าพเจ้าก็ตกอยู่ในภวังค์และเห็นพระบัลลังก์องค์หนึ่งตั้งอยู่ในสวรรค์ ผู้หนึ่งประทับอยู่บนพระบัลลังก์นั้น พระผู้ประทับอยู่บนพระบัลลังก์ ทรงมีลักษณะเหมือนเพชรและทับทิมแดง มีรุ้งลักษณะเหมือนมรกต ล้อมรอบพระบัลลังก์ พระบัลลังก์มีบัลลังก์อีกยี่สิบสี่องค์ล้อมอยู่ ผู้อาวุโสยี่สิบสี่คนนั่งอยู่บนบัลลังก์เหล่านั้น แต่ละคนสวมเสื้อขาว มีมงกุฎทองคำบนศีรษะ ฟ้าแลบฟ้าร้องและเสียงดังออกมาจากพระบัลลังก์ มีตะเกียงเจ็ดดวงจุดสว่างอยู่หน้าพระบัลลังก์ ตะเกียงเหล่านี้คือจิตทั้งเจ็ดของพระเจ้า ตรงหน้าพระบัลลังก์มีทะเลใสดุจแก้วผลึก ตรงกลางและรอบ ๆ พระบัลลังก์มีผู้มีชีวิตสี่ตนซึ่งมีตาเต็มตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลังอยู่ตรงกลางและรอบ ๆ พระบัลลังก์ ผู้มีชีวิตตนแรกคล้ายสิงโต ตนที่สองคล้ายโค ตนที่สามใบหน้าเหมือนมนุษย์และตนที่สี่คล้ายนกอินทรีกำลังบิน ผู้มีชีวิตทั้งสี่ตนต่างมีปีกหกปีก ตาอยู่รอบตัวและอยู่ใต้ปีก ต่างร้องสรรเสริญตลอดวันตลอดคืนโดยไม่หยุดเลยว่า
ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ
ผู้ทรงดำรงอยู่ในอดีต ผู้ทรงดำรงอยู่ในปัจจุบันและผู้เสด็จมา
เมื่อผู้มีชีวิตทั้งสี่ตนถวายคำสรรเสริญ ถวายพระเกียรติ และขอบพระคุณแด่พระองค์ผู้ประทับอยู่บนพระบัลลังก์และทรงพระชนม์ตลอดนิรันดรนั้น (บรรดาผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่คนจะกราบลงเฉพาะพระพักตร์พระผู้ประทับบนพระบัลลังก์ และนมัสการพระองค์ผู้ทรงพระชนม์ตลอดนิรันดร และจะวางมงกุฎไว้หน้าพระบัลลังก์ พลางทูลว่า
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย
พระองค์ทรงสมควรจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ พระเกียรติและพระอานุภาพ
เพราะพระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่ง
และทุกสิ่งถูกสร้างและดำรงอยู่
ตามพระประสงค์ของพระองค์
สวรค์เป็นอย่างไร จากพระคัมภีร์ และคำพยาน
วว 4:1-11 พระเจ้าทรงมอบอนาคตของโลกไว้กับ “ลูกแกะของพระเจ้า”
หลังจากนั้น ข้าพเจ้าเห็นนิมิต ประตูสวรรค์เปิดบานหนึ่ง และข้าพเจ้าได้ยินเสียงที่เคยได้ยินก่อนนั้นดังดุจเสียงแตร พูดกับข้าพเจ้าว่า “จงขึ้นมาข้างบนนี้เถิด ฉันจะชี้ให้ท่านเห็นเหตุการณ์ที่จะต้องเกิดขึ้นหลังจากนี้” ทันใดนั้น ข้าพเจ้าก็ตกอยู่ในภวังค์และเห็นพระบัลลังก์องค์หนึ่งตั้งอยู่ในสวรรค์ ผู้หนึ่งประทับอยู่บนพระบัลลังก์นั้น พระผู้ประทับอยู่บนพระบัลลังก์ ทรงมีลักษณะเหมือนเพชรและทับทิมแดง มีรุ้งลักษณะเหมือนมรกต ล้อมรอบพระบัลลังก์ พระบัลลังก์มีบัลลังก์อีกยี่สิบสี่องค์ล้อมอยู่ ผู้อาวุโสยี่สิบสี่คนนั่งอยู่บนบัลลังก์เหล่านั้น แต่ละคนสวมเสื้อขาว มีมงกุฎทองคำบนศีรษะ ฟ้าแลบฟ้าร้องและเสียงดังออกมาจากพระบัลลังก์ มีตะเกียงเจ็ดดวงจุดสว่างอยู่หน้าพระบัลลังก์ ตะเกียงเหล่านี้คือจิตทั้งเจ็ดของพระเจ้า ตรงหน้าพระบัลลังก์มีทะเลใสดุจแก้วผลึก ตรงกลางและรอบ ๆ พระบัลลังก์มีผู้มีชีวิตสี่ตนซึ่งมีตาเต็มตัวทั้งด้านหน้าและด้านหลังอยู่ตรงกลางและรอบ ๆ พระบัลลังก์ ผู้มีชีวิตตนแรกคล้ายสิงโต ตนที่สองคล้ายโค ตนที่สามใบหน้าเหมือนมนุษย์และตนที่สี่คล้ายนกอินทรีกำลังบิน ผู้มีชีวิตทั้งสี่ตนต่างมีปีกหกปีก ตาอยู่รอบตัวและอยู่ใต้ปีก ต่างร้องสรรเสริญตลอดวันตลอดคืนโดยไม่หยุดเลยว่า
ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์ ศักดิ์สิทธิ์
องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ
ผู้ทรงดำรงอยู่ในอดีต ผู้ทรงดำรงอยู่ในปัจจุบันและผู้เสด็จมา
เมื่อผู้มีชีวิตทั้งสี่ตนถวายคำสรรเสริญ ถวายพระเกียรติ และขอบพระคุณแด่พระองค์ผู้ประทับอยู่บนพระบัลลังก์และทรงพระชนม์ตลอดนิรันดรนั้น (บรรดาผู้อาวุโสทั้งยี่สิบสี่คนจะกราบลงเฉพาะพระพักตร์พระผู้ประทับบนพระบัลลังก์ และนมัสการพระองค์ผู้ทรงพระชนม์ตลอดนิรันดร และจะวางมงกุฎไว้หน้าพระบัลลังก์ พลางทูลว่า
ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของข้าพเจ้าทั้งหลาย
พระองค์ทรงสมควรจะได้รับพระสิริรุ่งโรจน์ พระเกียรติและพระอานุภาพ
เพราะพระองค์ทรงสร้างสรรพสิ่ง
และทุกสิ่งถูกสร้างและดำรงอยู่
ตามพระประสงค์ของพระองค์
วว 21:9-27 นครเยรูซาเล็มของพระเมสสิยาห์
ทูตสวรรค์องค์หนึ่งในเจ็ดองค์ซึ่งถือขันเจ็ดใบบรรจุภัยพิบัติสุดท้ายทั้งเจ็ดประการมาและกล่าวกับข้าพเจ้าว่า “มาเถิด ข้าพเจ้าจะให้ดูสตรีที่เป็นเจ้าสาวของลูกแกะ”
ทูตสวรรค์นำข้าพเจ้าเดชะพระจิตเจ้าไปบนภูเขาสูงใหญ่ลูกหนึ่ง ชี้ให้ข้าพเจ้าเห็นนคร เยรูซาเล็ม นครศักดิ์สิทธิ์ซึ่งกำลังลงมาจากสวรรค์ มาจากพระเจ้า นครนี้มีพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า มีความสุกใสเหมือนเพชรพลอยล้ำค่า คล้ายแก้วมณีโชติช่วงเป็นผลึกสดใส มีกำแพงสูงใหญ่ ประตูสิบสองประตู แต่ละประตูมีทูตสวรรค์ประจำอยู่และมีชื่อจารึกไว้ คือชื่อตระกูลอิสราเอลสิบสองตระกูล ทางทิศตะวันออกมีสามประตู ทางทิศเหนือมีสามประตู ทางทิศใต้มีสามประตูและทางทิศตะวันตกมีสามประตู กำแพงเมืองตั้งอยู่บนฐานศิลา สิบสองฐาน บนฐานศิลานั้นมีชื่อของบรรดาอัครสาวกทั้งสิบสององค์ของลูกแกะ ทูตสวรรค์ที่พูดกับข้าพเจ้าถือไม้รังวัดทองคำเพื่อจะใช้วัดนคร ประตูและกำแพง นครนี้มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวเท่ากัน ทูตสวรรค์ใช้ไม้วัดนครได้ 12,000 สตาดีอา กว้างยาวและสูงเท่ากัน ทูตสวรรค์วัดกำแพงได้ 144 ศอก ตามมาตราวัดของมนุษย์ที่ทูตสวรรค์ใช้ กำแพงนี้สร้างด้วยแก้วมณีและนครนี้เป็นทองคำบริสุทธิ์เหมือนแก้วผลึกสุกใส ฐานของกำแพงประดับด้วยรัตนชาติมีค่าทุกชนิด ฐานที่หนึ่งเป็นเพชร ฐานที่สองเป็นไพลิน ฐานที่สามเป็นรัตนชาติสีคราม ฐานที่สี่เป็นมรกต ฐานที่ห้าเป็นโกเมน ฐานที่หกเป็นทับทิม ฐานที่เจ็ดเป็นไพฑูรย์ ฐานที่แปดเป็นเพทาย ฐานที่เก้าเป็นบุษราคัม ฐานที่สิบเป็นหยก ฐานที่สิบเอ็ดเป็นนิล และฐานที่สิบสองเป็นพลอยสีม่วง ประตูทั้งสิบสองประตูเป็นไข่มุกสิบสองเม็ด แต่ละประตูเป็นไข่มุกเม็ดเดียว ลานเมืองเป็นทองคำบริสุทธิ์ สุกใสเหมือนแก้ว ข้าพเจ้าไม่เห็นพระวิหารใดในนครนี้ เพราะพระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสรรพานุภาพและลูกแกะทรงเป็นพระวิหารของนครนี้
นครนี้ไม่ต้องการดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์เพื่อส่องสว่าง เพราะพระสิริ รุ่งโรจน์ของพระเจ้าส่องแสงเหนือนคร และลูกแกะทรงเป็นตะเกียงของนคร นานาชาติจะดำเนินในแสงสว่างของนคร บรรดากษัตริย์ของแผ่นดินจะนำความรุ่งเรืองของตนมาสู่นครนี้ ประตูของนครจะไม่ปิดในเวลากลางวันและจะไม่มีกลางคืนในนครนี้อีกเลย นานาชาติจะนำความรุ่งเรืองและทรัพย์สมบัติมาสู่นครนี้ สิ่งที่เป็นมลทินหรือผู้ที่มีความประพฤติน่ารังเกียจหรือผู้พูดเท็จจะไม่เข้าในนครนี้เลย จะเข้าไปได้ก็เฉพาะผู้มีชื่อบันทึกไว้ในหนังสือแห่งชีวิตของลูกแกะเท่านั้น
ทูตสวรรค์องค์หนึ่งในเจ็ดองค์ซึ่งถือขันเจ็ดใบบรรจุภัยพิบัติสุดท้ายทั้งเจ็ดประการมาและกล่าวกับข้าพเจ้าว่า “มาเถิด ข้าพเจ้าจะให้ดูสตรีที่เป็นเจ้าสาวของลูกแกะ”
ทูตสวรรค์นำข้าพเจ้าเดชะพระจิตเจ้าไปบนภูเขาสูงใหญ่ลูกหนึ่ง ชี้ให้ข้าพเจ้าเห็นนคร เยรูซาเล็ม นครศักดิ์สิทธิ์ซึ่งกำลังลงมาจากสวรรค์ มาจากพระเจ้า นครนี้มีพระสิริรุ่งโรจน์ของพระเจ้า มีความสุกใสเหมือนเพชรพลอยล้ำค่า คล้ายแก้วมณีโชติช่วงเป็นผลึกสดใส มีกำแพงสูงใหญ่ ประตูสิบสองประตู แต่ละประตูมีทูตสวรรค์ประจำอยู่และมีชื่อจารึกไว้ คือชื่อตระกูลอิสราเอลสิบสองตระกูล ทางทิศตะวันออกมีสามประตู ทางทิศเหนือมีสามประตู ทางทิศใต้มีสามประตูและทางทิศตะวันตกมีสามประตู กำแพงเมืองตั้งอยู่บนฐานศิลา สิบสองฐาน บนฐานศิลานั้นมีชื่อของบรรดาอัครสาวกทั้งสิบสององค์ของลูกแกะ ทูตสวรรค์ที่พูดกับข้าพเจ้าถือไม้รังวัดทองคำเพื่อจะใช้วัดนคร ประตูและกำแพง นครนี้มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวเท่ากัน ทูตสวรรค์ใช้ไม้วัดนครได้ 12,000 สตาดีอา กว้างยาวและสูงเท่ากัน ทูตสวรรค์วัดกำแพงได้ 144 ศอก ตามมาตราวัดของมนุษย์ที่ทูตสวรรค์ใช้ กำแพงนี้สร้างด้วยแก้วมณีและนครนี้เป็นทองคำบริสุทธิ์เหมือนแก้วผลึกสุกใส ฐานของกำแพงประดับด้วยรัตนชาติมีค่าทุกชนิด ฐานที่หนึ่งเป็นเพชร ฐานที่สองเป็นไพลิน ฐานที่สามเป็นรัตนชาติสีคราม ฐานที่สี่เป็นมรกต ฐานที่ห้าเป็นโกเมน ฐานที่หกเป็นทับทิม ฐานที่เจ็ดเป็นไพฑูรย์ ฐานที่แปดเป็นเพทาย ฐานที่เก้าเป็นบุษราคัม ฐานที่สิบเป็นหยก ฐานที่สิบเอ็ดเป็นนิล และฐานที่สิบสองเป็นพลอยสีม่วง ประตูทั้งสิบสองประตูเป็นไข่มุกสิบสองเม็ด แต่ละประตูเป็นไข่มุกเม็ดเดียว ลานเมืองเป็นทองคำบริสุทธิ์ สุกใสเหมือนแก้ว ข้าพเจ้าไม่เห็นพระวิหารใดในนครนี้ เพราะพระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงสรรพานุภาพและลูกแกะทรงเป็นพระวิหารของนครนี้
นครนี้ไม่ต้องการดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์เพื่อส่องสว่าง เพราะพระสิริ รุ่งโรจน์ของพระเจ้าส่องแสงเหนือนคร และลูกแกะทรงเป็นตะเกียงของนคร นานาชาติจะดำเนินในแสงสว่างของนคร บรรดากษัตริย์ของแผ่นดินจะนำความรุ่งเรืองของตนมาสู่นครนี้ ประตูของนครจะไม่ปิดในเวลากลางวันและจะไม่มีกลางคืนในนครนี้อีกเลย นานาชาติจะนำความรุ่งเรืองและทรัพย์สมบัติมาสู่นครนี้ สิ่งที่เป็นมลทินหรือผู้ที่มีความประพฤติน่ารังเกียจหรือผู้พูดเท็จจะไม่เข้าในนครนี้เลย จะเข้าไปได้ก็เฉพาะผู้มีชื่อบันทึกไว้ในหนังสือแห่งชีวิตของลูกแกะเท่านั้น
วว 19:6
แล้วข้าพเจ้าได้ยินเสียงเหมือนเสียงประชาชนจำนวนมาก เหมือนเสียงน้ำไหลเชี่ยวหมือนเสียงฟ้าร้องกึกก้องว่า “อัลเลลูยา องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา ผู้ทรงสรรพานุภาพ ทรงครองราชย์แล้ว เราจงชื่นชมและร่าเริงเถิด เราจงถวายพระเกียรติแด่พระองค์ เพราะงานวิวาห์มงคลของลูกแกะมาถึงแล้ว และเจ้าสาวของพระองค์เตรียมพร้อมแล้ว เธอได้รับเสื้อผ้าป่านเนื้อละเอียดสีขาวสุกใสเพื่อสวมใส่ ผ้าป่านเนื้อละเอียดนี้คือกิจการดีของบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์” ทูตสวรรค์กล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “จงบันทึกลงไปว่า ผู้ที่ได้รับเชิญมาในงานวิวาห์มงคลของลูกแกะย่อมเป็นสุข” เขายังเสริมอีกว่า “ถ้อยคำเหล่านี้เป็นพระวาจาแท้จริงของพระเจ้า”
แล้วข้าพเจ้าได้ยินเสียงเหมือนเสียงประชาชนจำนวนมาก เหมือนเสียงน้ำไหลเชี่ยวหมือนเสียงฟ้าร้องกึกก้องว่า “อัลเลลูยา องค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของเรา ผู้ทรงสรรพานุภาพ ทรงครองราชย์แล้ว เราจงชื่นชมและร่าเริงเถิด เราจงถวายพระเกียรติแด่พระองค์ เพราะงานวิวาห์มงคลของลูกแกะมาถึงแล้ว และเจ้าสาวของพระองค์เตรียมพร้อมแล้ว เธอได้รับเสื้อผ้าป่านเนื้อละเอียดสีขาวสุกใสเพื่อสวมใส่ ผ้าป่านเนื้อละเอียดนี้คือกิจการดีของบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์” ทูตสวรรค์กล่าวแก่ข้าพเจ้าว่า “จงบันทึกลงไปว่า ผู้ที่ได้รับเชิญมาในงานวิวาห์มงคลของลูกแกะย่อมเป็นสุข” เขายังเสริมอีกว่า “ถ้อยคำเหล่านี้เป็นพระวาจาแท้จริงของพระเจ้า”
วว 21:1
แล้วข้าพเจ้าเห็นฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่ เพราะฟ้าและแผ่นดินเดิม สูญหายไป ไม่มีทะเลอีกต่อไป ข้าพเจ้าเห็นนครศักดิ์สิทธิ์ คือนครเยรูซาเล็มใหม่ลงมาจากสวรรค์ ลงมาจากพระเจ้า เตรียมพร้อมเหมือนกับเจ้าสาวที่แต่งตัวรอเจ้าบ่าว ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากพระบัลลังก์ว่า “นี่คือที่พำนักของพระเจ้าในหมู่มนุษย์ พระองค์จะทรงพำนักอยู่ในหมู่เขา เขาจะเป็นประชากรของพระองค์ และพระองค์จะทรงเป็นพระเจ้าของเขา ทรงเป็น “พระเจ้าสถิตกับเขา” พระองค์จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากนัยน์ตาของเขา จะไม่มีความตายอีกต่อไป จะไม่มีการคร่ำครวญ การร้องไห้ และความทุกข์อีกต่อไป เพราะโลกเดิมผ่านพ้นไปแล้ว พระองค์ผู้ประทับบนพระบัลลังก์ตรัสว่า “ดูซิ เราทำทุกสิ่งขึ้นใหม่ และทรงเสริมว่า จงบันทึกลงไปว่า “ถ้อยคำเหล่านี้สัตย์จริง เชื่อถือได้” แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าอีกว่า “สำเร็จแล้ว เราคืออัลฟาและโอเมก้า เป็นปฐมเหตุและอวสาน ผู้ใดกระหายเราจะให้ผู้นั้นดื่มจากธารน้ำแห่งชีวิตโดยไม่คิดราคา” ผู้ใดมีชัยชนะจะได้รับสิ่งเหล่านี้เป็นมรดก และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา เขาจะเป็นบุตรของเรา
แล้วข้าพเจ้าเห็นฟ้าใหม่และแผ่นดินใหม่ เพราะฟ้าและแผ่นดินเดิม สูญหายไป ไม่มีทะเลอีกต่อไป ข้าพเจ้าเห็นนครศักดิ์สิทธิ์ คือนครเยรูซาเล็มใหม่ลงมาจากสวรรค์ ลงมาจากพระเจ้า เตรียมพร้อมเหมือนกับเจ้าสาวที่แต่งตัวรอเจ้าบ่าว ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากพระบัลลังก์ว่า “นี่คือที่พำนักของพระเจ้าในหมู่มนุษย์ พระองค์จะทรงพำนักอยู่ในหมู่เขา เขาจะเป็นประชากรของพระองค์ และพระองค์จะทรงเป็นพระเจ้าของเขา ทรงเป็น “พระเจ้าสถิตกับเขา” พระองค์จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากนัยน์ตาของเขา จะไม่มีความตายอีกต่อไป จะไม่มีการคร่ำครวญ การร้องไห้ และความทุกข์อีกต่อไป เพราะโลกเดิมผ่านพ้นไปแล้ว พระองค์ผู้ประทับบนพระบัลลังก์ตรัสว่า “ดูซิ เราทำทุกสิ่งขึ้นใหม่ และทรงเสริมว่า จงบันทึกลงไปว่า “ถ้อยคำเหล่านี้สัตย์จริง เชื่อถือได้” แล้วพระองค์ตรัสกับข้าพเจ้าอีกว่า “สำเร็จแล้ว เราคืออัลฟาและโอเมก้า เป็นปฐมเหตุและอวสาน ผู้ใดกระหายเราจะให้ผู้นั้นดื่มจากธารน้ำแห่งชีวิตโดยไม่คิดราคา” ผู้ใดมีชัยชนะจะได้รับสิ่งเหล่านี้เป็นมรดก และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา เขาจะเป็นบุตรของเรา
สวรรค์
เทวดาพาพ่อผ่านอุโมงค์สีขาวสว่างจ้า พ่อไม่เคยรู้สึกสุขสงบเท่านี้มาก่อนในชีวิต ทันใดนั้นสวรรค์ได้เปิดออก พ่อได้ยินเสียงเพลงที่ไพเราะที่สุดเท่าที่พ่อได้ยินมา พ่อเห็นบรรดานักบุญ โดยเฉพาะ แม่พระและนักบุญโยเซฟ อีกทั้งบรรดาพระสังฆราช พระสงฆ์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ ต่างส่องสว่างดุจดวงดาว และแล้วพ่อได้อยู่เบื้องพระพักตร์พระเป็นเจ้า พระเยซูตรัสว่า “เราต้องการให้เจ้ากลับไปยังโลก ในชีวิตครั้งที่2นี้ เจาจะเป็นเครื่องมือแห่งสันติ เยียวยาประชากรของเรา เจ้าจะได้เดินทางไปยังต่างแดนและพูดภาษาอื่น ทุกสิ่งจะเป็นไปแก่เจ้าโดยอาศัยพระหรรษทานของเรา” จากนั้นแม่พระได้ตรัสว่า “จงทำทุกสิ่งที่พระองค์บอกลูก แล้วแม่จะช่วยในกิจการของลูก”
ไม่มีคำใดจะบรรยายความงามของสวรรค์ได้ เราพบสันติสุขและความสงบสุขเหลือล้นได้ที่นี่ ซึ่งมากกว่าที่เราจะจินตนาการออกมาได้เป็นล้านเท่า องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทรงงามเกินกว่ารูปใดๆจะสื่อได้ พระพักตร์ทรงเปล่งรัศมีและส่องสว่างงามยิ่งกว่าพันรุ่งอรุณ พระรูปต่างๆที่เราเห็นในโลกนี้เป็นได้เพียงเงาของความสง่างามของพระองค์ ถัดจากพระเยซูเจ้าคือแม่พระ พระนางทรงงดงามและเปล่งรัศมี ไม่มีรูปใดในโลกที่จะเทียบได้กับความงามที่แท้จริงของพระนาง สวรรค์คือบ้านแท้ของเรา เราทุกคนถูกสร้างมาเพื่อไปให้ถึงสวรรค์ร่วมสุขสำราญกับพระเจ้าตลอดกาล และแล้วพ่อก็กลับมายังโลกพร้อมกับทูตสวรรค์
เป็นการยากที่พ่อจะบรรยายความงามของอารักขเทวดาของพ่อ ท่านเปี่ยมด้วยรัศมีส่องสว่าง ท่านเป็นเพื่อนที่คอยช่วยเหลือพ่อในทุกเวลาและทุกเรื่อง โดยเฉพาะด้านการรักษา พ่อรับรู้การดำรงของท่านในทุกที่ที่พ่อไป แล้วพ่อรู้สึกอิ่มเอมกับการดูแลของท่านในชีวิตแต่ละวันของพ่อ
คำพยานของคุณพ่อ โจเซ่ มาณีญาณกาต
http://www.newmana.com/phpbb/viewtopic.php?f=2&t=8496
พบพระองค์ในสวรรค์?
สแตนเล่ย์จึงระลึกได้ว่าเขายืนอยู่ในทุ่งหญ้า ในสวนที่งดงาม หอม เย็นสบาย เบื้องหลังพระเยซูเจ้า
ดารดาษไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ รวมถึงกุหลาบดอกใหญ่ ใหญ่มาก สารพัดสีเท่าที่พึงจินตนาการได้
(คาร์ดินัลวีดัลบอกสแตนเล่ย์ว่านั่นคือสวรรค์)
คำพยาน สแตนเล่ย์ วิลลาวีเซนซีโอ
http://www.newmana.com/phpbb/viewtopic.php?f=35&t=11023
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ขอบคุณที่แบ่งปันครับ
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
สถานที่แบบนี้แหละค่ะ ที่เราอยากอยู่กับเพื่อน ๆ ทุกคนของเรามากที่สุด
-
- โพสต์: 124
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ก.ย. 30, 2009 5:18 pm
- ที่อยู่: ขอนแก่น
†ลูกแกะพระเจ้า...
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ใว้เจอกันที่นั่นนะทุกคน รอผมด้วยผมอาจจะตามไปช้าหน่อย 555+
- ~*Little`Child*~
- ~@
- โพสต์: 202
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 21, 2007 11:52 pm
เห็นภาพแล้วขนลุก...เลยคะ...
ช่างเป็นสถานที่...ที่จิตวิญญาณโหยหาจริงๆเลยนะคะ
อันมรสุมที่ซัดซวนเซ....
ชำระข้าพเจ้าจนขาวผ่อง...
พระสิริแสงส่องจากฟากฟ้า
เสียงพ่อขานหาลูก ตามเรามา..
ยังฟากฟ้าเกล็ดทองละอองมณี..
อัน ณ ที่สูงส่งอันไกลริบ
ลูกขอยิบตาสู้ไม่ยอมนี้
เพื่อสักวันลูกจะพบองค์พระตรี
มีชีวียังดินแดง...แห่งองค์ธรรม
ขอบคุณพี่ปอสำหรับบทความ
และรูปภาพสวยงามมากคะ
ช่างเป็นสถานที่...ที่จิตวิญญาณโหยหาจริงๆเลยนะคะ
อันมรสุมที่ซัดซวนเซ....
ชำระข้าพเจ้าจนขาวผ่อง...
พระสิริแสงส่องจากฟากฟ้า
เสียงพ่อขานหาลูก ตามเรามา..
ยังฟากฟ้าเกล็ดทองละอองมณี..
อัน ณ ที่สูงส่งอันไกลริบ
ลูกขอยิบตาสู้ไม่ยอมนี้
เพื่อสักวันลูกจะพบองค์พระตรี
มีชีวียังดินแดง...แห่งองค์ธรรม
ขอบคุณพี่ปอสำหรับบทความ
และรูปภาพสวยงามมากคะ
- ~*Little`Child*~
- ~@
- โพสต์: 202
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 21, 2007 11:52 pm
ภาพน่ากลัวได้ที่เลยคะ
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
ทูตสวรรค์ปีกในขาวนอกดำนั่นเป็นใครกันคะ?
ภาพอื่น ๆ เห็นแล้วนึกถึง Dante's Inferno
ภาพอื่น ๆ เห็นแล้วนึกถึง Dante's Inferno
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
ท่านอัครเทวดามีคาเอลเคยมีประวัติไม่ดีด้วยหรอครับ?Holy เขียน:อัครเทวดามีคาเอล ในเวลาที่ท่านแยกบุญบาปของคนValkyrie Zero Number เขียน:ทูตสวรรค์ปีกในขาวนอกดำนั่นเป็นใครกันคะ?
ภาพอื่น ๆ เห็นแล้วนึกถึง Dante's Inferno
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
แปลก เราไม่คิดว่านี่ถือเป็นประวัติไม่ดีเลยนะHoly Bible เขียน:ท่านอัครเทวดามีคาเอลเคยมีประวัติไม่ดีด้วยหรอครับ?Holy เขียน:อัครเทวดามีคาเอล ในเวลาที่ท่านแยกบุญบาปของคนValkyrie Zero Number เขียน:ทูตสวรรค์ปีกในขาวนอกดำนั่นเป็นใครกันคะ?
ภาพอื่น ๆ เห็นแล้วนึกถึง Dante's Inferno
(ยอมรับว่าทีแรกก็ตกใจเหมือนกัน เพราะไม่นึกว่านั่นคือท่านมิคาเอล)
เพราะถ้าิคิดว่าการตัดสินพิพากษาชีวิตคนเป็นประวัติไม่ดีแล้วล่ะก็ แล้วการที่พระเยซูเจ้าต้องมาพิพากษาการกระทำของคนในช่วงเวลาสุดท้าย ดังที่กล่าวในวิวรณ์ (ยังไม่นับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่พระเจ้ากระทำแต่ละอย่างในแต่ละบทด้วยนะ แต่วิวรณ์นี่เด่นชัดสุด ๆ )
แต่จะกลัวจนคิดว่าเป็นเรื่องไม่ดีก็ไม่แปลก เพราะคนส่วนใหญ่เห็นแล้วก็มักจะคิดแบบนี้ จึงสื่อพระเจ้ากับทูตสวรรค์ของชาวคริสต์ออกมาในบทตัวร้ายได้บ่อย ๆ ไงล่ะ (บางเรื่องเถียงยากด้วย)
เช่นถ้าในมังงะญี่ปุ่นล่ะก็ มีเพียบเลย มิคาเอล(เก๊)ที่ประวัติไม่ดี
(แต่แน่นอน ทีพวกพระเอกไล่ปราบผู้ร้ายไปทั่ว ยุ่งกับเขาไปทุกสารทิศ หรือบางเรื่องทำยิ่งกว่า ดันมีแต่คนชม ไหงเป็นซะงั้น)
ไม่ดีตรงไหนครับHoly Bible เขียน:ท่านอัครเทวดามีคาเอลเคยมีประวัติไม่ดีด้วยหรอครับ?Holy เขียน:อัครเทวดามีคาเอล ในเวลาที่ท่านแยกบุญบาปของคนValkyrie Zero Number เขียน:ทูตสวรรค์ปีกในขาวนอกดำนั่นเป็นใครกันคะ?
ภาพอื่น ๆ เห็นแล้วนึกถึง Dante's Inferno
อัครเทวดามีคาแอล เป็นอัครเทวดาที่มีชื่อปรากฎในพระคัมภีร์และตำนานธรรมต่างๆของชาวยิวมานานมากและเก่าแก่มากที่สุดองค์หนึ่ง และตลอดมาไม่เคยมีประวัติด้านลบหรือเสียหายใดๆ
จะมีก็แต่คนสมัยนี้ พวกการ์ตูนและหนังตลอดจนลัทธิซาตานสมัยใหม่ ที่ชอบกุประวัติท่านมั่วๆเสียๆหายๆ ซึ่งอันนี้ไม่น่าแปลกใจ เพราะพระวิวรณ์ทำนายไว้แล้วว่า ในยุคสุดท้ายซาตาน และสัตว์ร้ายของมันจะล้อเลียนนามของท่าน ผีปีศาจก็แค่ให้ผู้รับใช้ของมัน ทำงานของมันตามวาระ แต่ขณะเดียวกันเมื่อวาระของท่านมาถึง ซาตาน และสมุนของมันที่ไม่ยอมกลับใจก็จะรับโทษของตน
- ~*Little`Child*~
- ~@
- โพสต์: 202
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 21, 2007 11:52 pm
ไม่ดีตรงไหนครับ
อัครเทวดามีคาแอล เป็นอัครเทวดาที่มีชื่อปรากฎในพระคัมภีร์และตำนานธรรมต่างๆของชาวยิวมานานมากและเก่าแก่มากที่สุดองค์หนึ่ง และตลอดมาไม่เคยมีประวัติด้านลบหรือเสียหายใดๆ
จะมีก็แต่คนสมัยนี้ พวกการ์ตูนและหนังตลอดจนลัทธิซาตานสมัยใหม่ ที่ชอบกุประวัติท่านมั่วๆเสียๆหายๆ ซึ่งอันนี้ไม่น่าแปลกใจ เพราะพระวิวรณ์ทำนายไว้แล้วว่า ในยุคสุดท้ายซาตาน และสัตว์ร้ายของมันจะล้อเลียนนามของท่าน ผีปีศาจก็แค่ให้ผู้รับใช้ของมัน ทำงานของมันตามวาระ แต่ขณะเดียวกันเมื่อวาระของท่านมาถึง ซาตาน และสมุนของมันที่ไม่ยอมกลับใจก็จะรับโทษของตน
ถูกของพี่ปอคะ.... การ์ตูน สมัยนี้ แต่งเรื่องปนเปเต็มไปหมด...
จนบางคนแยกแยะไม่ออก ว่าอะไรเป็นอะไร...
ถ้ายิ่งอ่านพระคัมภีร์น้อย...ก็คงยิ่งไขว้เขวได้ง่ายมาก
เพราะสื่อสมัยนี้จะมีเรื่องราวของพระเจ้าเข้ามาเกี่ยวข้องหรือใช้ชื่อที่เกี่ยวข้องเยอะมากคะ...
ไม่ว่าจะเป็นบรรดาอัครเทวดาทั้งหลาย...ยังรวมถึงลูซิเฟอร์...ที่มีจิตใจอ่อนหวาน
ใครที่อ่านแล้ว... แยกแยะ ได้ก็เป็นเรื่องดีนะคะ
ขอบคุณที่แบ่งปันคะ พี่ปอ