มีคำถามครับ: ทำไมต้อง "วอนขอ" เมื่อเรา "วางใจ"
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
มีคนถามมาหน่ะครับว่า
ทำไมต้อง "วอนขอ" เมื่อเรา "วางใจ" ในพระเจ้า
โดยส่วนตัว ยังไม่ได้ตอบคำถามกับผู้ถามครับ เพราะยังไม่เจอกัน
แต่อยากฟังความคิดเห็นของทุกคนครับ
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
ทำไมต้อง "วอนขอ" เมื่อเรา "วางใจ" ในพระเจ้า
โดยส่วนตัว ยังไม่ได้ตอบคำถามกับผู้ถามครับ เพราะยังไม่เจอกัน
แต่อยากฟังความคิดเห็นของทุกคนครับ
ขอพระเจ้าอวยพรครับ
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
เคยคิดเหมือนกันครับ ว่าทำไมเราต้องขอด้วย เพราะพระองค์ทรงประทานสิ่งต่างๆมาให้เราเสมอ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
การวอนขอ ก็เหมือนเป็นการแสดงความสัมพันธ์ของเรากับพระเจ้า
การวอนขอ เพราะเราวางใจว่าพระจะให้ เราถึงกล้าของัย
การวอนขอ แสดงออกถึงความภาคเพียรขอเรา ที่อยากจะได้สิ่งนั้น ๆ
การวอนขอ เป็นการแสดงออกถึงความอ่อนน้อมของเรา ทำให้เราสำนึกว่า เราไม่มีอะไรเลย
ในชีวิตจริง บรรดาคนที่มีแล้ว คนที่ไม่ขาด คนที่มีศักดิ์ศรีค้ำคอ คนที่อีโก้บวม
มักจะไม่วอนขอหรอก เพราะมันเสียหน้า
การที่เราไม่วอนขอ คิดเอาแต่ว่า พระรู้อยู่แล้ว
ีระวังไว้ว่า มันอาจจะกลายเป็นการจองหองโดยไม่รู้ตัว
มธ 9:35-37 ความทุกข์ของประชาชน
(35)พระเยซูเจ้าเสด็จไปตามเมืองและตามหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนในศาลาธรรม ทรงประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักร ทรงรักษาโรคและความเจ็บไข้ทุกชนิด
(36)เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชน ก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ประดุจฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง (37)แล้วพระองค์ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด”
พระเยซูยังสอนเองเลยว่า "จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด”
ถามว่า เจ้าของนารู้มั๊ยว่าคนงานไม่พอ รู้~~~
แล้วทำไมต้องให้เรามาร้องขอคนงานอีกล่ะ ?
มธ 18:19-20 การอธิษฐานภาวนาร่วมกัน
(19)“เราบอกความจริงแก่ท่านอีกว่า ถ้าท่านสองคนในโลกนี้พร้อมใจกันอ้อนวอนขอสิ่งหนึ่งสิ่งใด พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จะประทานให้ (20)เพราะว่า ที่ใดมีสองหรือสามคนชุมนุมกันในนามของเรา เราอยู่ที่นั่นท่ามกลางพวกเขา”
นี่เป็นการชี้ว่า การวอนขอ มันมีฤทธิ์กุศล อยู่ในตัวของมันเอง งัยล่ะ
ลูกคนที่ 1....ลูกไม่ขออะไรจากพ่อ เพราะมั่นใจว่าพ่อรู้ว่าเราขาดอะไร เดี๋ยวพ่อก็หามาให้
เลยรออยู่เฉย ๆ
....กับอีกทาง...
ลูกคนที่ 2 พ่อรู้ว่าลูกต้องการอะไร แต่พอลูกเข้ามา พ่อจ๊ะ พ่อจ๋า พ่อก็เอ็นดู รักและ ใจอ่อนทู๊กที
....
...........
...............
ไม่ต้องถามหรอกว่า ทำไมต้องวอนขอ ถ้าเราวางใจ
ก็ถ้าพ่ออยากให้ลูกมาอ้อนพ่อบ้าง มันผิดตรงไหนล่ะ
การวอนขอ เพราะเราวางใจว่าพระจะให้ เราถึงกล้าของัย
การวอนขอ แสดงออกถึงความภาคเพียรขอเรา ที่อยากจะได้สิ่งนั้น ๆ
การวอนขอ เป็นการแสดงออกถึงความอ่อนน้อมของเรา ทำให้เราสำนึกว่า เราไม่มีอะไรเลย
ในชีวิตจริง บรรดาคนที่มีแล้ว คนที่ไม่ขาด คนที่มีศักดิ์ศรีค้ำคอ คนที่อีโก้บวม
มักจะไม่วอนขอหรอก เพราะมันเสียหน้า
การที่เราไม่วอนขอ คิดเอาแต่ว่า พระรู้อยู่แล้ว
ีระวังไว้ว่า มันอาจจะกลายเป็นการจองหองโดยไม่รู้ตัว
มธ 9:35-37 ความทุกข์ของประชาชน
(35)พระเยซูเจ้าเสด็จไปตามเมืองและตามหมู่บ้าน ทรงสั่งสอนในศาลาธรรม ทรงประกาศข่าวดีเรื่องพระอาณาจักร ทรงรักษาโรคและความเจ็บไข้ทุกชนิด
(36)เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชน ก็ทรงสงสาร เพราะเขาเหล่านั้นเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้ประดุจฝูงแกะที่ไม่มีคนเลี้ยง (37)แล้วพระองค์ตรัสแก่บรรดาศิษย์ว่า “ข้าวที่จะเก็บเกี่ยวมีมาก แต่คนงานมีน้อย จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด”
พระเยซูยังสอนเองเลยว่า "จงวอนขอเจ้าของนาให้ส่งคนงานมาเก็บเกี่ยวข้าวของพระองค์เถิด”
ถามว่า เจ้าของนารู้มั๊ยว่าคนงานไม่พอ รู้~~~
แล้วทำไมต้องให้เรามาร้องขอคนงานอีกล่ะ ?
มธ 18:19-20 การอธิษฐานภาวนาร่วมกัน
(19)“เราบอกความจริงแก่ท่านอีกว่า ถ้าท่านสองคนในโลกนี้พร้อมใจกันอ้อนวอนขอสิ่งหนึ่งสิ่งใด พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จะประทานให้ (20)เพราะว่า ที่ใดมีสองหรือสามคนชุมนุมกันในนามของเรา เราอยู่ที่นั่นท่ามกลางพวกเขา”
นี่เป็นการชี้ว่า การวอนขอ มันมีฤทธิ์กุศล อยู่ในตัวของมันเอง งัยล่ะ
ลูกคนที่ 1....ลูกไม่ขออะไรจากพ่อ เพราะมั่นใจว่าพ่อรู้ว่าเราขาดอะไร เดี๋ยวพ่อก็หามาให้
เลยรออยู่เฉย ๆ
....กับอีกทาง...
ลูกคนที่ 2 พ่อรู้ว่าลูกต้องการอะไร แต่พอลูกเข้ามา พ่อจ๊ะ พ่อจ๋า พ่อก็เอ็นดู รักและ ใจอ่อนทู๊กที
....
...........
...............
ไม่ต้องถามหรอกว่า ทำไมต้องวอนขอ ถ้าเราวางใจ
ก็ถ้าพ่ออยากให้ลูกมาอ้อนพ่อบ้าง มันผิดตรงไหนล่ะ
การวอนขอนั้น แสดงออกถึงการถ่อมใจของเราครับ
พระเจ้ารู้ดีกว่าเราต้องการอะไร แต่ถ้าพระองค์ต้องให้เอง ก็เหมือนให้ตามหน้าที่ และแสดงออกในการให้ความรักอยู่ฝ่ายเดียว
แต่การวอนขอนั้น แสดงคือการแสดงออกของเราว่า เรายอมรับว่าต้องการความรักนั้น และยอมสละศักดิ์ศรี ที่คิดว่าเราทำได้เองไม่ต้องพึ่งใครทิ้งไปจนหมด
เหมือนเด็กทารกที่แม่รู้ว่าคนต้องกินเวลาไหน แต่การที่ลูกร้องขึ้นมา แล้วแม่ป้อนนม ก็เป็นความรู้สึกที่ดีกว่า การที่เด็กนอนนิ่งๆ หิวก็ทน แล้วแม่เอานมมาป้อนตามเวลา แม่คงเซ็ง เหมือนเลี้ยงตุ๊กตามากกว่าเลี้ยงคนที่มีจิตวิญญาณ
ถ้าถามว่าทำไมเราต้องขอ ตอบสั้นๆว่า
เพราะพระบิดาพอพระทัยเมื่อเราทำเช่นนั้นครับ
ในทางกลับกัน ผมว่าคนส่วนมากไม่ได้มีปัญหาว่าไม่ขอ แต่มีปัญหาด้านไม่ขอบคุณ และไม่สำนึกบุญคุณ เวลาได้อะไรดีๆ ดีใจ ลืมพระ คิดว่าโชคดีบ้าง ผลงานตัวเองบ้าง ไม่เคยคิดจะสรรเสริญโมทนาคุณพระเจ้า แต่เวลาเสียหาย มีปัญหา เกิดเรื่องไม่ดี ขอแล้วไม่ได้ดั่งใจ จะรีบโทษพระ ด่าพระ งอนพระ ทำตัวเฮงซวยประชดพระ ทิ้งพระ
ดังที่เราจะเห็นจากดาราทิ้งพระบางคน ตอนที่ดีๆ เจริญรุ่งเรือง โด่งดัง ร่ำรวยไม่เคยออกทีวีสรรเสริญว่า เพราะตนเป็นคริสต์ พระเจ้าช่วย พระเจ้าอวยพร ฯลฯ แต่พอมีปัญหาชีวิต คราวนี้กลับออกทีวีมาประกาศโพทนากล่าวหาว่าพระเจ้าไม่ช่วย หรือศาสนาคริสต์ไม่ช่วย เปลี่ยนศาสนาแล้ว ศาสนาเดิมไม่ดี พระเจ้าๆไม่เจ๋ง ช่วยอะไรตนไม่ได้ จึงเปลี่ยนศาสนาใหม่
พระเจ้ารู้ดีกว่าเราต้องการอะไร แต่ถ้าพระองค์ต้องให้เอง ก็เหมือนให้ตามหน้าที่ และแสดงออกในการให้ความรักอยู่ฝ่ายเดียว
แต่การวอนขอนั้น แสดงคือการแสดงออกของเราว่า เรายอมรับว่าต้องการความรักนั้น และยอมสละศักดิ์ศรี ที่คิดว่าเราทำได้เองไม่ต้องพึ่งใครทิ้งไปจนหมด
เหมือนเด็กทารกที่แม่รู้ว่าคนต้องกินเวลาไหน แต่การที่ลูกร้องขึ้นมา แล้วแม่ป้อนนม ก็เป็นความรู้สึกที่ดีกว่า การที่เด็กนอนนิ่งๆ หิวก็ทน แล้วแม่เอานมมาป้อนตามเวลา แม่คงเซ็ง เหมือนเลี้ยงตุ๊กตามากกว่าเลี้ยงคนที่มีจิตวิญญาณ
ถ้าถามว่าทำไมเราต้องขอ ตอบสั้นๆว่า
เพราะพระบิดาพอพระทัยเมื่อเราทำเช่นนั้นครับ
ในทางกลับกัน ผมว่าคนส่วนมากไม่ได้มีปัญหาว่าไม่ขอ แต่มีปัญหาด้านไม่ขอบคุณ และไม่สำนึกบุญคุณ เวลาได้อะไรดีๆ ดีใจ ลืมพระ คิดว่าโชคดีบ้าง ผลงานตัวเองบ้าง ไม่เคยคิดจะสรรเสริญโมทนาคุณพระเจ้า แต่เวลาเสียหาย มีปัญหา เกิดเรื่องไม่ดี ขอแล้วไม่ได้ดั่งใจ จะรีบโทษพระ ด่าพระ งอนพระ ทำตัวเฮงซวยประชดพระ ทิ้งพระ
ดังที่เราจะเห็นจากดาราทิ้งพระบางคน ตอนที่ดีๆ เจริญรุ่งเรือง โด่งดัง ร่ำรวยไม่เคยออกทีวีสรรเสริญว่า เพราะตนเป็นคริสต์ พระเจ้าช่วย พระเจ้าอวยพร ฯลฯ แต่พอมีปัญหาชีวิต คราวนี้กลับออกทีวีมาประกาศโพทนากล่าวหาว่าพระเจ้าไม่ช่วย หรือศาสนาคริสต์ไม่ช่วย เปลี่ยนศาสนาแล้ว ศาสนาเดิมไม่ดี พระเจ้าๆไม่เจ๋ง ช่วยอะไรตนไม่ได้ จึงเปลี่ยนศาสนาใหม่
แอ๋วแอ๋วตอบเจ๋ง
ส่วนที่โฮลี่ตอบผมว่าคงไม่ได้หมายถึงเธอผู้นั้นคนเดียวหรอกครับ มีอีกหลายคนเลยที่เป็นแบบนั้น ส่วนที่เป็นแบบนั้นแต่ไม่ได้เป็นดาราก็มาก สังเกตุคนที่ไปวัดดูสิ พระเครื่องห้อยคู่กับกางเขน ผูกสายสิญน์ที่ข้อมือแต่ออกไปรับศีล หรือหนึ่งปีไปวัดครั้งเดียวคือคริสตมาส (ปัศกาพี่แกก็ไม่ไป)
ส่วนที่โฮลี่ตอบผมว่าคงไม่ได้หมายถึงเธอผู้นั้นคนเดียวหรอกครับ มีอีกหลายคนเลยที่เป็นแบบนั้น ส่วนที่เป็นแบบนั้นแต่ไม่ได้เป็นดาราก็มาก สังเกตุคนที่ไปวัดดูสิ พระเครื่องห้อยคู่กับกางเขน ผูกสายสิญน์ที่ข้อมือแต่ออกไปรับศีล หรือหนึ่งปีไปวัดครั้งเดียวคือคริสตมาส (ปัศกาพี่แกก็ไม่ไป)
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ขอบคุณ ท่านเจ้าคณะ นาน ๆ จะชมเค้าที อิอิ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
อูยพี่เจ้าคณะ...ชมตั้งแต่ 360 องศาแล้วไงตะเอง~@Little lamb@~ เขียน:ขอบคุณ ท่านเจ้าคณะ นาน ๆ จะชมเค้าที อิอิ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
-
- โพสต์: 690
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 09, 2009 12:00 pm
มีคนประเภทอย่างนั้นด้วยหรอครับ แล้วยังจะออกไปรับศีลอีก....อันตน เขียน:แอ๋วแอ๋วตอบเจ๋ง
ส่วนที่โฮลี่ตอบผมว่าคงไม่ได้หมายถึงเธอผู้นั้นคนเดียวหรอกครับ มีอีกหลายคนเลยที่เป็นแบบนั้น ส่วนที่เป็นแบบนั้นแต่ไม่ได้เป็นดาราก็มาก สังเกตุคนที่ไปวัดดูสิ พระเครื่องห้อยคู่กับกางเขน ผูกสายสิญน์ที่ข้อมือแต่ออกไปรับศีล หรือหนึ่งปีไปวัดครั้งเดียวคือคริสตมาส (ปัศกาพี่แกก็ไม่ไป)
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
Holy Bible เขียน:มีคนประเภทอย่างนั้นด้วยหรอครับ แล้วยังจะออกไปรับศีลอีก....อันตน เขียน:แอ๋วแอ๋วตอบเจ๋ง
ส่วนที่โฮลี่ตอบผมว่าคงไม่ได้หมายถึงเธอผู้นั้นคนเดียวหรอกครับ มีอีกหลายคนเลยที่เป็นแบบนั้น ส่วนที่เป็นแบบนั้นแต่ไม่ได้เป็นดาราก็มาก สังเกตุคนที่ไปวัดดูสิ พระเครื่องห้อยคู่กับกางเขน ผูกสายสิญน์ที่ข้อมือแต่ออกไปรับศีล หรือหนึ่งปีไปวัดครั้งเดียวคือคริสตมาส (ปัศกาพี่แกก็ไม่ไป)
มียิ่งกวานั้นอีก
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
บางครั้งถ้าไม่วอนขอ พระองค์จะเห็นความตั้งใจของเราเหรอคะ
ไปสอบงาน ขอพระเจ้าให้ได้ แต่ไม่ได้ ไม่โทษท่าน ไม่โกรธ ไม่เคือง ไม่ผิดหวัง ไม่น้อยใจ
เวลาอยากจะได้อ่ะไร ขอแล้วได้ ขอคุณพระเจ้า ขอบคุณทุกๆอย่างแม้แต่ลมหายใจ
เพราะสิ่งที่พระองค์เตรียมให้ มีอยู่แล้ว ที่เหมาะกับเรา แต่จะช้ารึจะเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับพระองค์
ทางที่เราเดินไปพร้อมกับพระองค์ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เราก็ไม่ได้เดินตัวคนเดียว
ออกจะนอกประเด็นจากหัวข้อ แต่อยากคนที่เคยคิดน้อยใจพระเจ้า มาลองอ่านแล้วคิดดู
เวลาอยากจะได้อ่ะไร ขอแล้วได้ ขอคุณพระเจ้า ขอบคุณทุกๆอย่างแม้แต่ลมหายใจ
เพราะสิ่งที่พระองค์เตรียมให้ มีอยู่แล้ว ที่เหมาะกับเรา แต่จะช้ารึจะเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับพระองค์
ทางที่เราเดินไปพร้อมกับพระองค์ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่เราก็ไม่ได้เดินตัวคนเดียว
ออกจะนอกประเด็นจากหัวข้อ แต่อยากคนที่เคยคิดน้อยใจพระเจ้า มาลองอ่านแล้วคิดดู