ลูกที่รัก ลูกมาวัด เพื่อฟังมิสซา จบแล้วก็กลับออกไป โดยไม่ได้พูดคุยกับเราเลย…เราอยากคุยกับลูก แต่ลูกก็ไม่พูดกับเรา เราออกจากตู้ศีลลงไปหาลูกที่ม้านั่งในวัด แต่ลูกก็คิดว่า เราอยู่แต่ในตู้ศีลเท่านั้น
ที่จริง เราออกไปต้อนรับลูก ตั้งแต่ลูกเดินอยู่หน้าวัด แล้วเดินเคียงข้างลูกเข้ามาในวัด นั่งเบียดกับลูกอยู่ติดกับหัวใจของลูกเลยล่ะ
ก่อนเริ่มมิสซา เราเห็นลูกท่องบทสวดลูกประคำแข่งกันใหญ่ พยายามให้จบเร็วๆ ไม่เห็นลูกพูดกับเราเลย ลูกไม่รู้ตัวว่าลูกสวดคำอะไรออกไปบ้าง กำลังพูดอยู่กับใคร เขาอยู่ตรงไหน อยู่ห่างจากลูกกี่ก้าว เขาแต่งตัวอย่างไร รูปร่างเขาเป็นอย่างไร กำลังฟังลูกอยู่หรือเปล่า ลูกไม่รู้คำสวดของลูกด้วยซ้ำไป ก้มหน้าก้มตาร่ายเวทมนต์…เดี๋ยวก็อาแมน…เดี๋ยวก็อาแมน…วนเวียนท่องบทสวดอวดกันใหญ่ เราเวทนาลูก สงสารลูกจริงๆ
พอถึงพิธีมิสซา ลูกก็ผุดลุกยืน ลุกนั่งตามที่คนในวัดเขาทำกัน พระสงฆ์พูด ลูกก็พูดโต้ตอบ ไปตามตัวบท กฎข้อบังคับทำไปตามธรรมเนียมประเพณีของศาสนา ลูกไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่า เราได้เสด็จมาบนแท่นบูชา เราตาย…และกลับคืนชีพ…ต่อหน้าลูกขณะนั้นจริงๆ และเราได้ประทับอยู่ในศีลมหาสนิทก็เพื่อลูกเท่านั้น
เมื่อจบมิสซา เราเห็นหลายคนดีใจ รีบออกจากวัด เหมือนคนพ้นโทษ ทิ้งเราไว้ในวัดอย่างเคย ยังดีที่หันมาร่ำลาเราบ้างที่ตู้ศีล…ที่จริง…เราอกมายืนรออยู่นอกตู้ศีลแล้ว เราแต่งตัวเสียใหม่ ใส่ชุดออกนอกบ้าน เพราะรู้ว่า ประเดี๋ยวจะต้องมีคนมาชวนเราออกจากวัดไปกับเขา…เขาจะพาเราไปเยี่ยมบ้าน…เยี่ยมญาติของเขา ที่ป่วยอยู่ที่บ้าน…เขาอยากให้เห็นความทุกข์ ความยากจนของเขา…
แน่นอนเขาต้องการให้เราช่วย
ดังนั้น เขาจะต้องพาเราไปกับเขาแน่ๆ…เราจึงไปยืนคอยอยู่กลางวัด…คนแล้ว…คนเล่า ต่างคนต่างเดินออกจากวัดไป…ไม่มีใครพูดกับเราเลย…จริงๆหรือนี่…ไม่แน่นะ…คนมาวัดตั้งแยะ คงต้องมีสัก 10 คน ที่คิดถึงเราบ้าง
โอ…ตอนนี้ เหลือคนในวัดอีก 5 คน เท่านั้น เรา…ชักหน้าถอดสี…ปลอบใจตัวเองว่า คงไม่แต่งตัวมารอเก้อนะ แต่แล้วอีก 4 คน ก็เดินคุยกันพ้นประตูวัดไป…เรารีบก้าวไปหาคนสุดท้ายที่เหลืออยู่ เขาเดินจ้ำไปเกือบถึงประตูออกแล้ว เขาเอาหนังสือสวดไปเก็บ แล้วก็ไปคุกเข่าสวดที่รูปปั้นพระแม่ของเรา เราแอบอวยพรเขาอยู่ข้างหลัง เขาลุกขึ้นกลับหลังโค้งไหว้งามๆมายังตู้ศีลอีกครั้งหนึ่ง เราถลาไปยืนรับไหว้เบื้องหน้าเขาทันที ด้วยรหัสธรรมล้ำลึก ที่เราแฝงพระวรกายกำบังมิให้ใครเห็น เหมือนกับที่ซ่อนเร้นพระกายของเราในศีลมหาสนิทนั่นแหละ เขาจึงมองไม่เห็นเรา
เขาจุ่มน้ำเสก..แล้วก็…เดินออกจากวัดไป…คนสุดท้าย…เราน้ำตาคลอ…แต่งตัวมาคอยเก้อ…ไม่มีใครพูดกับเราเลย…เรารู้สึกอับอาย ต่อหน้าเทวดาทั้งหลายที่รายล้อมอยู่รอบตู้ศีล มีนักบุญหลายองค์และพระแม่ของเราก็อยู่ที่นั่นด้วย
บรรยากาศรอบตู้ศีลเงียบเหงาเหมือนเคย เราเดินก้มหน้า กลับเข้าไปขังตัวเองในตู้ศีลอย่างเดิม…
พลันได้ยินเสียงของพระแม่ของเราปลอบใจว่า…ทนรอ…อีกหน่อยลูกแม่…
อาทิตย์หน้าแม่จะพา… "คนที่ไม่ใจดำ" …มาหาลูก…
เอามาแบ่งปันกันครับ จำที่มาของบทความไม่ได้แล้ว
แต่คงมาจากความรู้สึกขององค์พระเยซูเจ้าของเรา ดลใจผ่านทางผู้เขียนบทความแน่นอน
เงียบเหงา....เหมือนเคย
-
- โพสต์: 279
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 31, 2010 7:14 pm
เศร้า หลายๆคนคิดแต่ให้มิสซาจบๆ สวดๆ พูดๆ เหมือนทำไปงั้นๆ
ศรัทธาหาย
ศรัทธาหาย
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
อ่านกี่ทีก็ร้าว
เคยอยากจะแต่งภาคต่อของเรื่องนี้นะคะ
คิดเอาไว้ แต่ยังไม่มีเวลาพิมพ์เลย
เคยอยากจะแต่งภาคต่อของเรื่องนี้นะคะ
คิดเอาไว้ แต่ยังไม่มีเวลาพิมพ์เลย
-
- โพสต์: 1029
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm
เป็นความรู้สึกเดียวกันตอนที่ไปเห็นมิสซาวัดใหญ่ค่ะ เกิดคำถามมากมาย
- ทำไมบางคนไม่ปิดมือถือ
- ทำไมบางคนคุยกันไม่หยุดในวัด
- ทำไมรีบสวดสายประคำเร็วมาก
- ทำไมต่างคนต่างนั่งไม่มียิ้มทักกันเลย
- ทำไมบางคนยืนกอดอกทั้งที่เขาบอกให้พนมมือรับพระวาจา
- ทำไมบางคนเข้ามาตอนที่สั่นกระดิ่ง
- ทำไมตอนไหว้เขากราดไหว้ไม่เต็มใจไหว้กับเราเหรอ
- ทำไมบางคนรีบออกไปเลยไม่รอฟังพ่อพูดตอนจบ
- ทำไมพอเราเข่าคุกคุึยกับพระ เขาจ้องหน้าเราเห็นเราเป็นตัวประหลาด
- ทำไมพอเราร้องไห้ตอนร้องเพลงหรือหลังรับพร เขาก็จ้องหน้าเราอีก
- ทำไมพอเราเริ่มนั่งเฝ้าศีล เขาปิดโบสถ์ไล่เราออกจากโบสถ์เลย
- ทำไมบางคนออกจากวัดก็กินข้าวเลย เรียนมาบอกห้ามกินก่อนหลังรับศีลไม่ใช่เหรอ
เจอหลายอาทิตย์เริ่มอึดอัด สารภาพวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดดเรียนคำสอนและไปวัด
กำลังทำใจว่าไม่เกี่ยวกับพระ เป็นที่ตัวบุคคล เหนื่อยอย่างไม่สาเหตุ
- ทำไมบางคนไม่ปิดมือถือ
- ทำไมบางคนคุยกันไม่หยุดในวัด
- ทำไมรีบสวดสายประคำเร็วมาก
- ทำไมต่างคนต่างนั่งไม่มียิ้มทักกันเลย
- ทำไมบางคนยืนกอดอกทั้งที่เขาบอกให้พนมมือรับพระวาจา
- ทำไมบางคนเข้ามาตอนที่สั่นกระดิ่ง
- ทำไมตอนไหว้เขากราดไหว้ไม่เต็มใจไหว้กับเราเหรอ
- ทำไมบางคนรีบออกไปเลยไม่รอฟังพ่อพูดตอนจบ
- ทำไมพอเราเข่าคุกคุึยกับพระ เขาจ้องหน้าเราเห็นเราเป็นตัวประหลาด
- ทำไมพอเราร้องไห้ตอนร้องเพลงหรือหลังรับพร เขาก็จ้องหน้าเราอีก
- ทำไมพอเราเริ่มนั่งเฝ้าศีล เขาปิดโบสถ์ไล่เราออกจากโบสถ์เลย
- ทำไมบางคนออกจากวัดก็กินข้าวเลย เรียนมาบอกห้ามกินก่อนหลังรับศีลไม่ใช่เหรอ
เจอหลายอาทิตย์เริ่มอึดอัด สารภาพวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดดเรียนคำสอนและไปวัด
กำลังทำใจว่าไม่เกี่ยวกับพระ เป็นที่ตัวบุคคล เหนื่อยอย่างไม่สาเหตุ
น้อง LL แต่งเองหรือครับ เก่งมากเลย~@Little lamb@~ เขียน:อ่านกี่ทีก็ร้าว
เคยอยากจะแต่งภาคต่อของเรื่องนี้นะคะ
คิดเอาไว้ แต่ยังไม่มีเวลาพิมพ์เลย
บทความนี้ผมได้มาตอนไปอบรมคูร์ซิลโลครับ เค้านำมาแบ่งปันให้ผู้อบรมทุกคน
ผมอ่านแล้วน้ำตาคลอเลย... แล้วจะรออ่านภาคต่อนะครับ
มีทุกวัดเลยครับ เราคงต้องทำใจและสวดภาวนาให้พวกเขาครับlittleseal เขียน:เป็นความรู้สึกเดียวกันตอนที่ไปเห็นมิสซาวัดใหญ่ค่ะ เกิดคำถามมากมาย
- ทำไมบางคนไม่ปิดมือถือ
- ทำไมบางคนคุยกันไม่หยุดในวัด
- ทำไมรีบสวดสายประคำเร็วมาก
- ทำไมต่างคนต่างนั่งไม่มียิ้มทักกันเลย
- ทำไมบางคนยืนกอดอกทั้งที่เขาบอกให้พนมมือรับพระวาจา
- ทำไมบางคนเข้ามาตอนที่สั่นกระดิ่ง
- ทำไมตอนไหว้เขากราดไหว้ไม่เต็มใจไหว้กับเราเหรอ
- ทำไมบางคนรีบออกไปเลยไม่รอฟังพ่อพูดตอนจบ
- ทำไมพอเราเข่าคุกคุึยกับพระ เขาจ้องหน้าเราเห็นเราเป็นตัวประหลาด
- ทำไมพอเราร้องไห้ตอนร้องเพลงหรือหลังรับพร เขาก็จ้องหน้าเราอีก
- ทำไมพอเราเริ่มนั่งเฝ้าศีล เขาปิดโบสถ์ไล่เราออกจากโบสถ์เลย
- ทำไมบางคนออกจากวัดก็กินข้าวเลย เรียนมาบอกห้ามกินก่อนหลังรับศีลไม่ใช่เหรอ
เจอหลายอาทิตย์เริ่มอึดอัด สารภาพวันอาทิตย์ที่ผ่านมาโดดเรียนคำสอนและไปวัด
กำลังทำใจว่าไม่เกี่ยวกับพระ เป็นที่ตัวบุคคล เหนื่อยอย่างไม่สาเหตุ
แต่เพื่อปลอบประโลมพระองค์ เราต้องรักพระองค์ให้มากขึ้นเพื่อชดเชยแทนบรรดาผู้ที่ไม่รักพระองค์
เพราะถ้าเราทิ้งพระองค์ไปอีกคนนึง พระองค์ก็จะทรงเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิม
และผมเชื่อว่า คนที่จ้องหน้าตอนที่น้อง littleseal ร้องไห้ อีกไม่นานเค้าจะกลับใจครับ
ความร้อนรนและรักพระของน้อง จะสามารถละลายหัวใจของผู้ที่เย็นชาได้ครับ
เพราะฉะนั้น ขอให้น้องได้ร่วมมิสซาด้วยหัวใจที่แท้จริงต่อไปนะครับ
ให้พ่อรู้ว่า อย่างน้อยพ่อก็ยังมีลูกคนนี้อีกคน ที่ยังรักพ่ออย่างแท้จริง ไม่ทิ้งพ่อไปเหมือนลูกคนอื่นๆ
-
- โพสต์: 1029
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มิ.ย. 13, 2010 9:53 pm
ขอบคุณที่ช่วยเตือนและแนะนำค่ะ
-
- โพสต์: 407
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 28, 2010 12:03 am
อ่านแล้วต้องยอมรับว่าจริงครับ
ผมต้องกลับมาทบทวนใหม่เสียแล้วว่าผมเคยคุยแบบเป็นเรื่องเป็นราวในวัด
กับพระบ้างไหม
ผมต้องกลับมาทบทวนใหม่เสียแล้วว่าผมเคยคุยแบบเป็นเรื่องเป็นราวในวัด
กับพระบ้างไหม
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ที่พี่Cho เอามาลง ไม่ได้เป็นคนแต่งค่ะ
แค่บอกว่า อยากแต่งภาคต่อของบทนี้ ในอีกแง่มุมนึงอ่ะค่ะ
แค่บอกว่า อยากแต่งภาคต่อของบทนี้ ในอีกแง่มุมนึงอ่ะค่ะ
- Valkyrie Zero Number
- โพสต์: 2081
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am
สารภาพว่าโดนตัวเองเต็ม ๆ เหมือนกันค่ะ แม้จะเป็นโบสถ์โปรฯ ก็เถอะ
งั้นจะรออ่านนะครับ~@Little lamb@~ เขียน:ที่พี่Cho เอามาลง ไม่ได้เป็นคนแต่งค่ะ
แค่บอกว่า อยากแต่งภาคต่อของบทนี้ ในอีกแง่มุมนึงอ่ะค่ะ
ผมเองก็เคยเย็นชากับพระองค์เหมือนกัน ตอนนี้กำลังชดเชยให้พระองค์อยู่ครับ โดยพยายามรักพระองค์ให้มากขึ้นๆ ทุกวันValkyrie Zero Number เขียน:สารภาพว่าโดนตัวเองเต็ม ๆ เหมือนกันค่ะ แม้จะเป็นโบสถ์โปรฯ ก็เถอะ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
จะพยายามหาเวลามานั่งพิมพ์จ้า