อยากทราบคำจำกัดความที่แน่ชัดของคำว่า บาป

[mayya01]

คือ ทราบมาว่า พระเยซูทรงไม่มีบาปเลย เราเลยลองคิดๆดู เราคิดได้เช่นนี้ ที่พระเยซูไม่มีบาป(ทั้งนี้รวมถึงบาปกำเนิด)เพราะไม่ใช่เชื้อสายของอาดัมกับ เอวา เกิดจากพระนางมารีย์ที่ยังทรงเป็นพรหมจรรย์ แต่ พระนางมารีย์เป็นมนุษย์ธรรมดา ย่อมมีความบาปกำเนิดถูกไหมคะ? หากพระเยซูทรงกำเนิดจาก พระนางมารีย์ย่อมได้รับความบาป ผ่านทางเชื้อสายถูกหรือไม่?

แล้วพระองค์ เคยโกรธใครหรือไม่พอใจใครหรือไม่? นั่นนับว่าเป็นบาปไหมคะ? เพราะ ลองย้อนดูเลยว่า ก่อนอาดัมกับเอวา กินผลไม้นั้น ทั้งคู่ ไม่รู้ัจักความสุข เนื่องจากไม่มีความทุกข์ ไม่รู้จัก ความสบายเนื่องจากไม่เคยลำบาก และอื่นๆอีกมาก ที่ไม่รู้จัก นั่นนับเป็นความรู้สึกชนิดหนึ่ง

พูดไปพูดมา งงเอง เพิ่มเริมศึกษาคริสต์ค่ะ งงมากๆ สับสนจริงจัง
เอาเป็นว่า ขอทราบนิยาม ของความบาป จริงๆเลยว่ามันคืออะไรกันแน่

บาปคือความตายเท่านั้น?
เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย โรม 6:23

บาปคือความลำบาก ของมนุษย์อีกหลายๆอย่าง?
บาปคือการลงโทษจากพระเจ้า?

บาปคืออะไรกันแน่??????

[taiyo]

พระสันตะปาปาปีโอได้ประกาศว่า พระแม่มารีทรงปฏิสนธินิรมลครับ หมายความว่า พระแม่มารีได้รับการยกเว้นจากบาปกำเนิด เพราะพระเจ้าได้ทรงเลือกพระนางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ต่อมาพระนางมารีย์ได้มาประจักษ์แก่เด็กหญิงคนหนึ่งชื่อ แบร์นาแด๊ต และได้ยืนยันว่า เราคือผู้ปฏิสนธินิรมล ครับ


ความตายของบาป มี 2 แบบมั้ง ถ้าจำไม่ผิด คือความตายฝ่ายกายและฝ่ายวิญญาณครับ

[aqua-alta]

1.พระคัมภีร์บอกว่าความบาปคือการละเมิดกฎของพระเจ้า (1 ยอห์น 3:4) และการกบฏต่อพระเจ้า (เฉลยธรรมบัญญัติ 9:7; โยชูวา 1:18) ความบาปเกิดขึ้นโดยลูซีเฟอร์ - “ดวงดาวที่ส่องสว่าง, โอรสแห่งรุ่งอรุณ” - ทูตสวรรค์ที่งามและมีฤทธิ์เดชมากที่สุด แต่มันก็ยังไม่พอใจในสิ่งที่มันมีอยู่ และอยากเป็นเหมือนพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด นั่นคือความหายนะของมันและจุดเริ่มต้นแห่งความบาป (อิสยาห์ 14:12-15) ส่วนผลของความบาปที่แสดงออกทางพฤติกรรมทุกอย่างของมนุษย์ คือ

"แล้วการงานของเนื้อหนังนั้นเห็นได้ชัด คือการเล่นชู้ การล่วงประเวณี การโสโครก การลามก
การนับถือรูปเคารพ การนับถือพ่อมดหมอผี การเป็นศัตรูกัน การวิวาทกัน การอิจฉาริษยากัน การโกรธกัน การทุ่มเถียงกัน การใฝ่สูง การแตกก๊กกัน
การอิจฉากัน การฆาตกรรม การเมาเหล้า การเล่นเป็นพาลเกเร และการอื่นๆในทำนองนี้อีก เหมือนที่ข้าพเจ้าได้เตือนท่านมาก่อน บัดนี้ข้าพเจ้าขอเตือนท่านเหมือนกับที่เคยเตือนมาแล้วว่า คนที่ประพฤติเช่นนั้นจะไม่ได้รับอาณาจักรของพระเจ้าเป็นมรดก"(กาลาเทีย 5:19-21)ฯลฯ

2.พระเยซูผู้เป็นมนุษย์แท้เป็นผู้ไม่มีบาป
เหตุ
-บาปจะถูกถ่ายทอดทางการสืบสายเลือด เหมือนพันธุกรรมถูกถ่ายทอดทางสายเลือด
-พันธุกรรมถูกถ่ายทอดต่อเมื่อมีการปฏิสนธิ โดยเซลล์ของทั้งเพศชายและหญิง
-ประกอบครับ "ดูเถิด ข้าพระองค์ถือกำเนิดมาในความชั่วช้า และมารดาตั้งครรภ์ข้าพระองค์ในบาป"(สดุดี 51:5)
-แต่สำหรับพระเยซู "ก่อนที่จะได้อยู่กินด้วยกันก็ปรากฏว่า มารีย์มีครรภ์แล้วด้วยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์"(มัทธิว 1:18),"หญิงพรหมจารีคนหนึ่งจะตั้งครรภ์"(มัทธิว 1:23)
-พระเยซูทรงเป็นเผ่าพันธุ์ของหญิงครับ ไม่ใช่เผ่าพันธุ์ของชายอย่างเราๆ "เราจะให้เจ้ากับหญิงนี้เป็นปฏิปักษ์กัน ทั้งเผ่าพันธุ์ของเจ้ากับเผ่าพันธุ์ของนาง เผ่าพันธุ์ของนางจะกระทำให้หัวของเจ้าฟกช้ำ และเจ้าจะกระทำให้ส้นเท้าของท่านฟกช้ำ"(ปฐมกาล 3:15)
ผล
-พระองค์จึงทรงปราศจากบาป100%ครับ
ส่วนความโกรธของพระองค์ก็มีครับ แต่ไม่ใช่บาป (ไม่ใช่ว่าพระองค์ทำอะไรก็ไม่ผิดนะครับ แต่พระจริยวัตรของพระองค์บริสุทธิ์ตั้งแต่กำเนิดจนทำภาระกิจของพระบิดาเจ้าสำเร็จเลยครับ) เพราะต้องดูที่สาเหตุ เช่น ตอนพระเยซูทรงขับไล่คนค้าขายออกจากพระวิหาร พระองค์ทรงโกรธจริงครับ แต่โกรธเพราะความรักที่มีต่อพระวิหารของพระเจ้า "และตรัสกับเขาว่า "มีพระวจนะเขียนไว้ว่า `นิเวศของเราเขาจะเรียกว่าเป็นนิเวศอธิษฐาน' แต่เจ้าทั้งหลายมากระทำให้เป็น `ถ้ำของพวกโจร'"(มัทธิว 21:13)
ขนาดพระเยซูถูกตรึงกางเขนแบบไร้สาเหตุ ไม่มีความผิด พระองค์ยังทรงอธิษฐานต่อพระบิดาให้ทรงอภัยพวกเขาเหล่านั้นเลยครับ บอกว่าเขาไม่รู้ว่าทำอะไรอยู่ เป็นต้น
ส่วนเรื่องที่พระนางมารีย์ปราศจากบาป อันนี้ผมไม่ใช่คาทอลิกผมก็ไม่แน่ใจนะครับ รู้แต่ พระคริสตธรรมคัมภีร์ไม่เคยมีปรากฏเหตุการณ์การยกเว้นบาปกำเนิดของมนุษย์ผู้ใดเลยตั้งแต่อาดัมเป็นต้นมา นอกจากองค์พระเยซูครับ
แต่อย่างไรก็ดี พระองค์ก็ทรงปราศจากบาปครับ
ใครมีคำตอบที่เคลียร์กว่านี้ ก็กรุณาด้วยครับ
ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ

[taiyo]

อย่าทราบเรื่องแนวความคิดนี้ รวมถึงการตีความลอง search คำว่า immaculate conception ดูครับ ใน Wiki ก็อธิบายได้ละเอียดพอควรครับ

[taiyo]

ง่ะ พิมพ์ผิด
แก้ อย่า เป็น อยาก

[taiyo]

มันคล้ายๆกับ บาปกำเนิด ที่ไม่มีบอกอย่างชัดเจนในไบเบิ้ล ทำให้คริสตชนบางกลุ่มมองเรื่อง บาปกำเนิด ต่างออกไป

ลองอ่านเรื่อง Original sin ใน Wiki ดูครับ มีทั้ง 2 ส่วน ในเรื่องนี้

[†ผู้แบกพระคริสต์]

คือ ทราบมาว่า พระเยซูทรงไม่มีบาปเลย เราเลยลองคิดๆดู เราคิดได้เช่นนี้ ที่พระเยซูไม่มีบาป(ทั้งนี้รวมถึงบาปกำเนิด)เพราะไม่ใช่เชื้อสายของอาดัมกับ เอวา เกิดจากพระนางมารีย์ที่ยังทรงเป็นพรหมจรรย์ แต่ พระนางมารีย์เป็นมนุษย์ธรรมดา ย่อมมีความบาปกำเนิดถูกไหมคะ? หากพระเยซูทรงกำเนิดจาก พระนางมารีย์ย่อมได้รับความบาป ผ่านทางเชื้อสายถูกหรือไม่?

แล้วพระองค์ เคยโกรธใครหรือไม่พอใจใครหรือไม่? นั่นนับว่าเป็นบาปไหมคะ? เพราะ ลองย้อนดูเลยว่า ก่อนอาดัมกับเอวา กินผลไม้นั้น ทั้งคู่ ไม่รู้ัจักความสุข เนื่องจากไม่มีความทุกข์ ไม่รู้จัก ความสบายเนื่องจากไม่เคยลำบาก และอื่นๆอีกมาก ที่ไม่รู้จัก นั่นนับเป็นความรู้สึกชนิดหนึ่ง

พูดไปพูดมา งงเอง เพิ่มเริมศึกษาคริสต์ค่ะ งงมากๆ สับสนจริงจัง
เอาเป็นว่า ขอทราบนิยาม ของความบาป จริงๆเลยว่ามันคืออะไรกันแน่

บาปคือความตายเท่านั้น?
เพราะว่าค่าจ้างของความบาปคือความตาย โรม 6:23

บาปคือความลำบาก ของมนุษย์อีกหลายๆอย่าง?
บาปคือการลงโทษจากพระเจ้า?

บาปคืออะไรกันแน่??????

+กราบสวัสดีพี่น้องร่วมโลกทั้งหลายและสหายในพระคริสต์ทุกท่าน+

จากคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ฉบับ คริสตศักราช 1992 ย่อหน้าที่ 1849 ถึง 1868 และ 1871 ถึง 1876 บอกได้ว่า..

บาป เป็น "ถ้อยคำ การกระทำ หรือความต้องการที่ตรงข้ามกับธรรมบัญญัตินิรันดร" (น.ออกัสติน) เป็นการกระทำผิดต่อพระเป็นเจ้าด้วยการไม่ยอมนบนอบต่อความรักของพระองค์ บาปทำร้ายธรรมชาติของมนุษย์ และทำลายความเป็นปึกแผ่นของมนุษย์ พระคริสตเจ้าในพระทรมานของพระองค์ ทรงเปิดเผยให้เราทราบอย่างเต็มที่ถึงความรุนแรงของบาปและเอาชนะได้ด้วยพระเมตตาของพระองค์

ความหลายหลายของบาปนั้นมีหลายประการ สามารถที่จะแยกได้ตามเจตนาที่กระทำ หรือตามคุณธรรม หรือตามพระบัญญัติที่ละเมิด อาจมุ่งตรงถึงพระเป็นเจ้า เพื่อนมนุษย์หรือตนเองก็ได้ นอกนั้ง ยังสามารถที่จะแยกแยะออกเป็นบาปด้วยความคิด คำพูด การกระทำ หรือการละเลิย

เราสามารถแยกบาปออกเป็น บาปหนัก (mortal) และบาปเบา (venial)

การกระทำบาปหนักคือ การกระทำผิดในเรื่องที่หนัก รู้ตัวอย่างเต็มที่และเต็มใจกระทำ บาปชนิดนี้ทำลายความรักตัวเรา ทำให้เราขาดพระหรรษทานที่จะทำให้ศักดิ์สิทธิ์ และหากเราไม่เป็นทุกข์กลับใจ จะนำไปสู่ความตายนิรันดรในนรก
จะได้รับการให้อภัยตามวิธีปกติคือ อาศัยศีลล้างบาปและศีลอภัยบาปหรือศีลแห่งการคืนดี

บาปเบาต่างจากบาปหนักอย่างสิ้นเชิง คือการกระทำผิดในเรื่องที่เบา อาจเป็นเรื่องหนักก็ได้ แต่ไม่รู้ตัวอย่างเต็มที่ หรือขาดความเต็มใจที่สมบูรณ์ บาปเบาไม่ได้ทำลายพันธสัญญากับพระเป็นเจ้า แต่ทำให้ความรักอ่อนแอ และแสดงให้เห็นถึงความรักที่ไร้ระเบียบต่อสิ่งดีงามที่พระเป็นเจ้าทรงสร้างมา เป็นอุปสรรคต่อความก้าวหน้าของวิญญาณในการฝึกฝนคุณธรรม และในการปฏิบัติสิ่งดีงามทางศีลธรรม บาปเบาสมควรได้รับโทษชั่วคราว

บาปก่อให้เกิดความโอนเอียงในทางชั่ว ก่อให้เกิดพยศชั่วด้วยการทำสิ่งเดียวกันซ้ำซาก

พยศชั่วเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับคุณธรรม จึงเป็นความประพฤติที่ผิดปกติ ที่ทำให้มโนธรรมมืดบอด และมีความโน้มเอียงทางชั่ว พยศชั่วอาจนำมาเชื่อมโยงเข้ากับบาปที่ถือว่าเป็นบาปต้น(หรือต้นเหตุแห่งความบาปทั้งหลาย)เจ็ดประการ คือ จองหอง ตระหนี่ อิจฉา โมโห อุลามก โลภอาหาร เกียจคร้านหรือความเฉื่อยชา

เราจะต้องรับผิดชอบต่อบาปของผู้อื่นด้วย หากเราให้ความร่วมมือในการกระทำผิด

จากคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ฉบับ คริสตศักราช 1992 ย่อหน้าที่ 1846 ถึง 1848 และ 1870 บอกได้ว่า..

เพื่อจะได้รับพระเมตตาของพระเป็นเจ้า เราต้องยอมรับผิดและเป็นทุกข์ถึงบาปของเรา พระเป็นเจ้าทรงเปิดเผยบาปของเรา ประทานความจริงแห่งมโนธรรม และความหวังในการให้อภัยแก่เรา โยทางพระวาจาและพระจิตของพระองค์

[†ผู้แบกพระคริสต์]

เรื่องบาปของพระนางมารีย์..

จากคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิก ฉบับ คริสตศักราช 1992 ย่อหน้าที่ 487 ถึง 492 และ 508 บอกได้ว่า..

พระเป็นเจ้าได้ทรงเลือกพระนางมารีย์ ให้เป็นพระมารดาของพระบุตรของพระองค์ด้วยความสมัครพระทัยตั้งแต่นิรันดร เพื่อทรงทำให้พันธกิจนั้นสำเร็จไปพระนางทรงปฏิสนธินิรมล หมายความว่า อำนาจแห่งพระหรรษทานของพระเป็นเจ้า และอำนาจแห่งพระบารมีล่วงหน้าของพระเยซูคริสตเจ้า พระนางมารีย์จึงได้รับการรักษาไว้ ให้พ้นจากบาปกำเนิดนับตั้งแต่การปฏิสนธิของพระนาง