คุณพ่อแป๋
เมื่อพูดถึงโหราศาสตร์ในชีวิตคาทอลิกแล้ว ดูเหมือนว่าสำหรับคาทอลิกไทยเราจะมีปัญหาที่ค้างคาใจมากหน่อย เพราะเราได้รับการพูดกรอกใส่หูเสมอว่าการเชื่อโชคลาง ดูหมอดูดวงนั้นเป็นการผิดพระบัญญัติของพระเป็นเจ้าในข้อที่ 1 ที่ว่า "จงนมัสการพระเป็นเจ้าผู้เดียวของเจ้า" และที่เราได้ยินกันเสมอๆ ก็คือ "ดูหมอแค่สนุกๆไม่ถืออะไรจริงจัง"
จะอย่างไรก็ตาม ให้เรามาดูคำสอนของพระศาสนจักรในเรื่องนี้กันดีกว่า โดยเฉพาะในหนังสือคำสอนคาทอลิก ข้อ 2115-2116 ซึ่งพูดถึงเรื่องการดูโชคลางและการกระทำทุกวิถีทางเพื่อจะหยั่งรู้อนาคต มีความว่าดังนี้
"พระเป็นเจ้าสามารถที่จะเปิดเผยอนาคตให้แก่บรรดาประกาศกและนักบุญของพระองค์ และด้วยเหตุนี้ ท่าทีของคริสตชนจึงมีความวางใจในพระญาณสอดส่องของพระเป็นเจ้าในสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และงดเว้นในการสงสัยอันเกินควรในอนาคต แต่ความเลินเล่อในชีวิตก็ถือว่าเป็นการขาดความรับผิดชอบ
ให้ละเว้นจากการถือฤกษ์ยามและโชคลางทั้งหลาย รวมทั้งการเรียกหาหรือขอความช่วยเหลือจากปีศาจซาตาน การเข้าทรงหรือการปฏิบัติอันใดเพื่อจะนำมาซึ่งการรู้ถึงอนาคต การไปหาหมอดู โหราศาสตร์หรือนักทำนายลายมือ การเสี่ยงทายต่างๆ นักตีความเหตุการณ์ ทำนายฝัน หรือขอความช่วยเหลือจากใครก็ตามที่ประกาศตนว่ามีความสามารถเป็นคนกลางที่มีอำนาจเหนือกาลเวลา ประวัติศาสตร์และมีพลังอำนาจลึกลับ การกระทำเช่นนี้เป็นการปฏิบัติที่ขัดกับความเคารพ การนมัสการและความรักที่เรามีต่อพระเป็นเจ้าแต่ผู้เดียว"
จากข้อความที่คัดมาจากหนังสือคำสอนคาทอลิกนี้ เราจะเห็นว่าการพูดทำนายถึงอนาคตนั้นเป็นสิ่งที่พระเป็นเจ้าได้ทรงกระทำแล้ว ดังที่เราได้ยินเรื่องราวหลายครั้งหลายตอนในพระคัมภีร์ โดยเฉพาะในเรื่องของประกาศกและในบรรดานักบุญต่างๆก็มีอัศจรรย์เกี่ยวกับการทำนายอนาคตโดยอาศัยฤทธิ์อำนาจของพระเป็นเจ้า ซึ่งกิจการเหล่านั้นล้วนแต่เป็นไปเพื่อแผนการของพระเป็นเจ้า และผู้ที่ล่วงรู้อนาคตที่เป็นผู้อยู่เหนือกาละและเทศะก็มีแต่พระเป็นเจ้าเท่านั้น ดังที่ในหนังสือประกาศกเยเรมีย์มีกล่าวไว้ว่า
"อย่ายอมให้ผู้เผยพระวจนะของเจ้าทั้งหลายหรือผู้ทำนายผู้อยู่ท่ามกลางเจ้าหลอกลวงเจ้า และอย่าเชื่อความฝันซึ่งเขาทั้งหลายได้ฝันเห็น เพราะที่เขาเผยพระวจนะแก่เจ้าในนามของเรานั้นเป็นความเท็จ เรามิได้ใช้เขาไป" (ยรม. 29:8-9)
ดังนั้น การที่เราดูหมอและโหราศาสตร์จึงเป็นการไม่เหมาะสม เพราะเท่ากับว่าเป็นการมอบตนและเชื่อในผู้อื่นว่ามีอำนาจเท่ากับหรือเหนือกว่าพระเป็นเจ้า แต่จะอย่างไรก็ตามพระเป็นเจ้าไม่ทรงปรารถนาให้เราดำเนินชีวิตโดยปราศจากการวางแผนถึงอนาคต แต่ให้เรามีความรอบคอบและดำเนินชีวิตตามความรู้และการคาดการณ์ที่เราได้รับมาในชีวิตของเรา จึงไม่ใช่เรื่องจำเป็นที่จะมาถกเถียงว่า "โหราศาสตร์" เป็นศาสตร์ที่แท้จริงและเชื่อถือได้หรือไม่ เพราะสำหรับคริสตชน เรื่องนี้เป็นเรื่องของความเชื่อและความไว้วางใจในพระเป็นเจ้าในชีวิตของเรา สำหรับคริสตชน สิ่งที่เราควรจะรู้นั้นไม่ใช่อนาคตจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งที่เราควรจะต้องรู้ก็คือว่าสิ่งใดที่เป็นน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าในชีวิตของเรา และเราจะตอบสนองสิ่งเหล่านั้นด้วยชีวิตแห่งความเชื่อของเราอย่างไร
พระเยซูทรงเป็นแบบอย่างแก่เราในเรื่องนี้ ในชีวิตของพระองค์ หลายครั้งที่ทรงพูดเป็นนัยๆว่าพระองค์ทรงทราบถึงอนาคตของพระองค์ "พระองค์กล่าวแก่สาวกว่า บุตรมนุษย์จะต้องทนทุกข์ทรมานหลายประการ...จะต้องถูกถึงประหารชีวิต" (มก.8:3)
แต่สิ่งที่พระองค์กระทำก็คือก้าวเข้าไปหาอนาคต ทั้งที่รู้ว่าเป็นความทุกข์ทรมาน เพราะพระองค์ตระหนักเสมอว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพระองค์ในอนาคตนั้นเป็นน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้า สิ่งที่พระองค์แสวงหาไม่ใช่อนาคตที่สดใสของพระองค์ แต่เป็นอนาคตที่เป็นน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าในชีวิตพระองค์เอง
"พระบิดาเจ้าข้า ถ้าพระองค์พอพระทัย ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนพ้นไปจากข้าพระองค์เถิด แต่อย่างไรก็ตามอย่าให้เป็นไปตามใจข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์เถิด" (ลก.22:42)
จะมีประโยชน์อะไร หากว่าเราสามารถหยั่งรู้อนาคตของชีวิตตน แต่เราไม่เคยจะตระหนักถึงแผนการของพระเป็นเจ้าในชีวิตของเราแต่ละวัน
http://library.uru.ac.th/webdb/images/015.htm
