ไขปริศนาการลงทัณฑ์ สารแม่พระแห่งการาบันดัล

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

อังคาร ก.ย. 28, 2010 11:08 pm

อ่านแล้วน่ากลัวมากครับ หรือนี่จะเป็นเหตุการณ์ที่พระเป็นเจ้าทรงเตือนเรามาตลอดครับ
ต้องเร่งสวดภาวนาเพื่อคนบาปกันให้มากๆ แล้วครับ

ที่มา http://www.ryt9.com/s/tpd/875825

ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- เสาร์ที่ 3 เมษายน 2553 00:00:00 น.

1.เครื่องหมายในโลกและสังคมในปัจจุบัน ที่สำคัญๆ คือ
ภัยพิบัติในธรรมชาติ เช่น พายุ ฝนตกหนัก น้ำท่วม แผ่นดินไหว ดินถล่ม ฯลฯ สังคม และครอบครัวกำลังล่มสลาย เพราะขาดจิตสำนึกในบาป ไร้ศีลธรรม ขาดความรับผิดชอบ เห็นแก่ตัว ทะเลาะวิวาท สงคราม เศรษฐกิจถดถอยและกำลังจะล่มสลาย ฯลฯ ความศรัทธา และการปฏิบัติศาสนกิจของคาทอลิกก็เสื่อมลงอย่างน่าใจหาย ในยุโรปและอเมริกาวัดจำนวนมากถูกปิด หรือขายทอดตลาดเพราะสัตบุรุษมาวัดกันน้อยมาก ประกอบกับขาดแคลนพระสงฆ์ บ้านเณร และอารามนักบวชหลายแห่ง ไม่มีกระแสเรียก (ไม่มีใครสมัครใจเป็นนักบวช) หรือมีน้อยมาก ฯลฯ

2.สัญญาณเตือนและอัศจรรย์ใหญ่จะเกิดขึ้นก่อนมืด 3 วัน 3 คืน
ดังได้กล่าวไว้แล้ว

3.เครื่องหมายแสดงว่า ภัยมืด 3 วัน 3 คืน มาถึงคือ
คืนนั้นจะหนาวผิดปกติ เสียงลมหวีดหวิวน่ากลัว สายฟ้าแลบและเสียงฟ้าผ่าจะดังกัมปนาทไปทั่ว ดวงดาวบนท้องฟ้าจะแกว่งไกว จะเกิดแผ่นดินไหวมากผิดปกติ แล้วบัดดลแสงสว่างจะหดหายไปอย่างฉับพลัน จะเหลือแต่ความมืดมิดทั่วทั้งโลก

4.การลงทัณฑ์จะเกิดขึ้นระหว่าง มืด 3 วัน 3 คืน
ปีศาจจะออกจากขุมนรกจนหมดเกลี้ยง ตระเวนไปทั่วโลกเพื่อทำลายวิญญาณ พวกมันจะมาในรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัวมาก ปล่อยพิษในอากาศ และพ่นแก๊สพิษไปทั่ว หลายคนจะตายเพราะตกใจกลัวและหมดหวัง แต่คนชั่วทั้งหลายจะได้เห็นดวงพระหฤทัยของพระเยซูเจ้า (นี่คือพระเมตตาสุดท้าย)

นอกจากนี้ฝนไฟจะตกจากฟ้าลงมาบนโลก ทุกคนจะอกสั่นขวัญแขวนร้องระงม คนที่ไม่ยอมเชื่อในพระเจ้าจำนวนมากจะถูกไฟเผาเหมือนหญ้าแห้ง พระพิโรธของพระเจ้าจะพุ่งลงสู่โลก มันเป็นการลงทัณฑ์ที่น่ากลัวที่สุด ไม่มีครั้งใดเหมือน

ซาตานจะหยิ่งผยองสุดๆ เพราะชัยชนะเป็นของมัน ดูเหมือนโลกทั้งโลกอยู่ในกำมือของมันแล้ว แต่พระเป็นเจ้าจะทรงปราบมันและสมุนของมันทันที พระองค์จะทรงสั่งเทวดานักรบมาเป็นกองทัพ โดยมีพระแม่มารีย์เป็นจอมทัพนำร่อง การเสด็จมาครั้งที่ 2 ของพระเยซูเจ้าในช่วงภัยมืดนั้น ก่อนอื่นเพื่อพิฆาตคนที่เยาะเย้ยพระเยซู พระบุตรของพระองค์ และคนที่ไม่เชื่อในธรรมวิวรณ์ของพระองค์ แล้วบรรดาเทวดานักรบจะจับซาตานวางไว้ใต้พระบาทของพระแม่มารีย์ พระแม่จะเหยียบหัวมันเป็นครั้งที่ 2 แล้วจะทรงบัญชาให้เทวดานักรบเหล่านั้นขับไล่เจ้าซาตานและสมุนของมันทั้งหมดลงสู่ขุมนรก เอาโซ่ล่ามประตูนรก ปิดตายเป็นเวลา 1 พันปี เพื่อมิให้พวกมันออกจากขุมนรกมาล่อลวงมนุษย์อีกต่อไป

พวกเราพึงสังเกตว่าพระเยซูเจ้าไม่ทรงขอให้เราสวดภาวนาวอนขอเพื่อมิให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เพราะนี่เป็นพระเมตตาอันยิ่งใหญ่ของพระเป็นเจ้า มันจำเป็นต้องเกิด พระองค์ทรงขอให้เราสวดเพื่อความรอดของตัวเอง และของผู้อื่นให้มากๆ และทรงขอให้เราสวดเพื่อวันแห่งการลงทัณฑ์นั้นสั้นลง
แก้ไขล่าสุดโดย Cho เมื่อ อังคาร ก.ย. 28, 2010 11:13 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

อังคาร ก.ย. 28, 2010 11:10 pm

5.สิ่งที่จะเกิดขึ้น หลังจากมืด 3 วัน 3 คืน
คนชั่วที่ไม่นับถือพระเจ้า และคนบาปที่ไม่ยอมกลับใจจะถูกทำลายหมดสิ้น มนุษย์ 75% จะพินาศ (ชายมากกว่าหญิง) คนที่เหลือ 25% จะเชื่อในพระเจ้าอย่างสุดหัวใจ จะมีศรัทธาร้อนรนเหมือนคริสตชนรุ่นแรกๆ ทันใดนั้นดวงอาทิตย์จะฉายแสงขึ้นมาอีก ทุกสิ่งจะเริ่มสดใสสวยงามดุจฤดูใบไม้ผลิอีกครั้งหนึ่ง

บางประเทศจะหายไปจากผืนแผ่นดินโลก ผู้คนที่เหลือจะเดินทางกลับแผ่นดินบ้านเกิดของตน คุกเข่าลงสวดภาวนาขอบคุณพระเป็นเจ้า พระแม่มารีย์ และเทวดาทั้งหลายที่ได้ทรงพระเมตตาปกป้องคุ้มครองพวกเขาให้ปลอดภัยอย่างอัศจรรย์

อนึ่ง อัครเทวดาราฟาแอลเคยให้สาส์นแก่นางมาร์การีตา ซัมปาอีร์ ว่า เมื่อมหาวิปโยคเกิดขึ้นบนโลก ทั้งก่อนและหลังการเสด็จมาครั้งที่ 2 ของพระเยซูเจ้า ผู้คนเป็นจำนวนมากจะตายไป พวกเขาที่ตายจะเป็นมรณสักขี (ผู้พลีชีพเพื่อพระศาสนา) เพื่อยืนยันความเชื่อ จะถูกปลุกให้ฟื้นโดยพระเยซู แล้วจะมีชีวิตบนโลกที่ถูกเนรมิตขึ้นมาใหม่ โดยพระจิตเจ้าตามแผนของพระเป็นเจ้าแต่นิรันดร์ (เทียบ วว.22:1-21)

ณ ที่นี้ขอเกริ่นเรื่องการเสด็จมาครั้งที่ 2 ของพระเยซูเจ้าสักเล็กน้อย กล่าวคือ นายเปียโร มันโตเร ผู้รวบรวมสาส์นเบื้องบนจากหลายๆ แห่งเผยให้เราทราบถึงการเสด็จมาครั้งที่ 2 ของพระเยซูเจ้าว่า "การเสด็จมาครั้งที่ 2 ของเราจะเหมือนครั้งแรก คือประสูติในเวลากลางคืน เมื่อโลกเชื่อกันว่ากำลังอยู่ในความปลอดภัย เราจะมาเหมือนขโมยยามค่ำคืน... และแล้วเมื่อท้องฟ้าเปิดพวกเจ้าจะเห็นเรา เราจะเสด็จมาในพระสิริรุ่งโรจน์เหนือเมฆบนท้องฟ้า ด้วยมหิทธิเดชานุภาพแห่งพระมหากษัตริย์พร้อมกับพระแม่ของเรา โดยมีทวยเทพเทวาเป็นบริวารพร้อมกับกองทัพสวรรค์ เราจะไม่มาเมื่อพิพากษาโลก แต่จะมาเพื่อทำให้โลกกลับใจ เพราะว่าจะต้องพิสูจน์คำทำนายที่ว่าจะมีฝูงแกะฝูงเดียว และนายชุมพาบาลแต่ผู้เดียว"

เมื่อรวมสาส์นของนางมาร์การีตาและนายเปียโรแล้ว เราน่าจะสรุปได้ว่า พระเยซูเจ้าจะเสด็จลงมาบนโลกใบนี้ในเวลาค่ำคืน ระหว่างมืด 3 วัน 3 คืนนั้น พร้อมกับพระแม่มารีย์ และกองทัพเทวดา เพื่อปราบปีศาจ ซาตาน และคนบาปที่ไม่ยอมกลับใจทั้งหลายลงสู่ขุมนรก ต่อมาเมื่อท้องฟ้าเปิดพระองค์จะแสดงองค์บนท้องฟ้าด้วยพระสิริรุ่งโรจน์แห่งการเป็นจอมราชัน ทุกคน ทุกชาติ ทุกภาษา ที่ถูกเลือกสรรจะเห็นพระองค์พร้อมกับพระแม่มารีย์ คนเหล่านั้นที่รอดจากการลงทัณฑ์ เพราะเป็นคริสตชนที่จงรักภักดีต่อพระองค์ หรือเป็นคนต่างศาสนาที่เป็นคนดี มีใจเปิด เมื่อเห็นพระองค์แล้วจะเชื่อ กลับใจมาเป็นคริสตชน พลเมืองของอาณาจักรของพระคริสต์บนโลกฟ้าใหม่ แผ่นดินใหม่ 1 พันปี (อาณาจักรแห่งสันติสุข)
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

อังคาร ก.ย. 28, 2010 11:11 pm

6.เราควรเตรียมตัวอย่างไร และควรปฏิบัติตนอย่างไร ในช่วงมืด 3 วัน 3 คืน
6.1 เมื่อคืนอันหนาวเหน็บนั้นเกิดขึ้น จงรีบเข้าบ้าน ปิดประตูหน้าต่างให้หมด ดึงม่านมาปิดให้มิดชิด หากบ้านท่านมีฝาบ้านเป็นช่องโหว่ ให้นำเทปสีดำหรือสีเทาปิดให้หมด กันแก๊สพิษรอดเข้ามา อย่าอยู่ใกล้ประตูหรือหน้าต่าง อย่ามองออกไปข้างนอกหรือออกนอกบ้านเป็นอันขาด และอย่าโต้ตอบเสียงที่มาจากนอกบ้าน เพราะเจ้าปีศาจมันจะเลียนแบบเสียงญาติหรือเพื่อนของท่านเพื่อหลอกล่อให้ท่านออกจากบ้าน มันจะตะครุบและฆ่าท่านทันที

6.2 เตรียมเทียนเสกเอาไว้ (เทียนที่ทำจากขี้ผึ้ง 51% ขึ้นไป) เทียนเสกเท่านั้นที่จะจุดติด และให้แสงสว่างในบ้านของผู้ที่เชื่อในพระเจ้า หรือพร้อมที่จะเชื่อในพระองค์ ส่วนคนที่ใจแข็งกระด้างไม่ยอมเชื่อในพระเจ้า หรือเยาะเย้ยคำทำนายของพระองค์ แม้จะจุดเทียนเสกในบ้านของเขา เทียนนั้นก็จะจุดไม่ติด ให้เตรียมน้ำเสกเอาไว้ประพรมประตู หน้าต่าง และส่วนต่างๆ ของบ้าน จงจุ่มน้ำเสกทำสำคัญมหากางเขน ดื่ม ทา หู จมูก ปาก แขนขา และส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันการจู่โจมของปีศาจมารร้ายด้วย

6.3 เตรียมอาหาร น้ำ และผ้าห่มสำหรับทุกคนในบ้าน อย่าหวังพึ่งไฟฟ้า น้ำประปา มันจะถูกทำลายหมดสิ้น

6.4 ถ้าท่านมีสัตว์เลี้ยง จงเตรียมอาหารเผื่อไว้ให้พวกมันนอกบ้าน ส่วนสัตว์เลี้ยงในบ้าน เช่น สุนัขและแมวให้เก็บรักษาไว้ในบ้านได้

6.5 ที่สำคัญที่สุด ต้องรวมตัวกันสวดภาวนาโดยกางเขน หรือหมอบกราบหรือคุกเข่าภาวนาเพื่อความปลอดภัยของทุกคนในบ้าน เพื่อนบ้าน และญาติพี่น้อง ให้สวดบทแสดงความเชื่อ ความวางใจ และความรัก วิงวอนขอรับศีลมหาสนิทด้วยความปรารถนา อ่านหนังสือศรัทธา สวดสายประคำ รำพึงถึงพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า ร้องหาดวงหทัยนิรมลอันเปี่ยมด้วยความทุกข์ระทมของแม่พระมารีย์ ท่านจะปลอดภัย อีกทั้งวิงวอนขอความช่วยเหลือจากอัครเทวดามีคาแอล เทวดารักษาตัว และนักบุญประจำตัวท่าน

6.6 คนที่กำลังเดินทางยังไม่ถึงบ้านหรือที่พัก จะตายเป็นมรณสักขี ได้ไปสวรรค์ถ้าเขาเป็นคนดี นอกจากนี้เด็กๆ ผู้ใหญ่จำนวนหนึ่งจะถูกรับไปสวรรค์ก่อนมืด 3 วัน 3 คืนนี้ ทั้งนี้ด้วยพระเมตตาของพระเป็นเจ้า เพื่อป้องกันมิให้พวกเขาต้องเผชิญกับความน่าหวาดกลัวของการลงทัณฑ์อันยิ่งใหญ่นี้

อนึ่ง ผู้ใดที่เหยียดหยามและไม่เชื่อสิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ จะถูกลงโทษให้ตายอย่างปุบปับ ช่วยไม่ทัน
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

อังคาร ก.ย. 28, 2010 11:12 pm

สรุป ท้ายที่สุดผู้เป็นเจ้าของบทความนี้เปิดเผยว่า ภัยมืด 3 วัน 3 คืนนี้เคยถูกเลื่อนมาหลายครั้งแล้ว เพราะคำภาวนา และการพลีกรรมใช้โทษบาปของหลายๆ คน โดยเฉพาะอาศัยคำเสนอวิงวอนของพระแม่มารีย์ แต่ ณ บัดนี้จะถูกยับยั้งต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะโลกเต็มไปด้วยบาปสุดจะประมาณได้ จำเป็นต้องถูกชำระในเร็วๆ นี้ พระเจ้าจะเสด็จมาดั่งขโมยในเวลาที่พวกเราไม่นึกไม่ฝัน

ดังนั้น จงเตรียมตัวให้พร้อมทั้งกาย และวิญญาณ การเตรียมตัวทางกาย อาทิเช่น เตรียมเทียนขี้ผึ้งแท้อย่างน้อย 51% และให้พระสงฆ์ที่มีความเชื่อ ความศรัทธาแบบเก่า (TRADITIONALIST PRIEST) เสกเทียน น้ำ ผลองุ่น อาหารแห้ง รูปพระ จงสวมสายจำพวกพระแม่แห่งคาร์แมล ติดรูปกางเขน และรูปดวงหทัยคู่ไว้ที่ประตูบ้าน ทั้งด้านนอกและด้านใน ใช้ชีวิตอย่างสมถะไม่ฟุ่มเฟือย พลีกรรมอดอาหารบ่อยๆ เท่าที่สามารถ

ส่วนการเตรียมตัวทางวิญญาณนั้นสำคัญที่สุด คือ รักษาชีวิตพระหรรษทานไว้ (ชีวิตที่บริสุทธิ์ผุดผ่อง) ตลอดเวลา หมั่นสวดภาวนา แก้บาป รับศีล เป็นทุกข์ถึงบาปบ่อยๆ ทุกคืนก่อนนอน เข้ากลุ่มภาวนาเซนาเกิล ซึ่งเป็นกองทัพสวรรค์ของพระแม่เพื่อจะได้มีส่วนร่วมในชัยชนะแห่งดวงหทัยนิรมลของพระแม่ และเป็นสาวกหรือธรรทูตของพระแม่ ในช่วงท้ายๆ ของยุคสุดท้ายนี้ เพื่อช่วยกันขยายกลุ่มภาวนาเซนาเกิลทุกระดับในพระศาสนจักร นับตั้งแต่ระดับพระคาร์ดินัล พระสังฆราช พระสงฆ์ นักบวช และฆราวาสในครอบครัว และออกไปเป็นธรรมทูตเผยแพร่สาส์นเซนาเกิลของพระแม่ ผ่านทางคุณพ่อก็อบบี (1973-1997) สอนคำสอนให้คนต่างศาสนาได้รู้จักพระเจ้า พระผู้สร้างฟ้าดิน พระเยซูพระผู้ไถ่โลก พระแม่มารีย์และพระศาสนจักรคาทอลิก รวมทั้งเผยแพร่เหตุการณ์สำคัญ 3 อย่างที่ใกล้จะเกิดขึ้น คือ สัญญาณเตือน อัศจรรย์ และการลงทัณฑ์ (มืด 3 วัน 3 คืน) อย่ากลัวที่จะถูกคนเยาะเย้ยและเหยียดหยาม เหตุว่าประกาศกในอดีตถูกเบียดเบียน และถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก จงจำไว้ว่า "ไม่มีศิษย์ของพระคริสต์คนใดพ้นจากการถูกเยาะเย้ยและเบียดเบียนได้" (NO DISCIPLE OF CHRIST CAN ESCAPE SCORN OR EVEN PERSECUTION)

ความบรรเทาใจอันยิ่งใหญ่ของพวกเรา คือ ยุคแห่งสันติสุข 1 พันปี กำลังรอเราอยู่ข้างหน้า

Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

อังคาร ก.ย. 28, 2010 11:13 pm

ขอคัดสาส์นบรรเทาใจจากเบื้องบน ดังนี้

1. "ในไม่ช้าพวกท่านจะเห็นอวสานกาลของยุคปัจจุบัน เรากำลังอยู่ในยุคอพยพครั้งที่ 2 อพยพจากดินแดนแห่งบาป และความชั่วร้ายไปสู่ดินแดนแห่งสวนเอเดนใหม่" (สาส์นเบื้องบน โดยนายเปียโร มันเตโร)

2.สิ่งสารพัดที่พระเจ้าทรงสร้างมานี้ก็ยังมีความหวัง เช่นเดียวกับพวกเราว่าจะพ้นจากการเป็นทาส ต่อสภาพที่จะต้องเน่าเปื่อยผุพัง เพื่อจะได้มีเสรีภาพและเกียรติมงคล เช่นเดียวกับที่บรรดาบุตรของพระเป็นเจ้าจะได้รับ (รม.8:21-22)

เสริม ในบทภาวนาเดินรูป 14 ภาค เราสวดว่า "เหตุด้วยพระองค์ได้ทรงไถ่โลกด้วยกางเขนอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์" หมายความว่าพระเยซูเจ้าทรงไถ่โลกทั้งหมด มิใช่มนุษย์เท่านั้น แต่ทุกสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างมา และถูกสาปเสียไปหรือเสื่อมไปเพราะบาปของมนุษย์นั้นจะได้รับการเนรมิตขึ้นมาใหม่ให้มีสภาพสวยงาม อิสระสมบูรณ์ในสวนเอเดนใหม่ 1 พันปี (เทียบ วว.22.1-20)

3. "ซาตานมองข้ามกลุ่มความเชื่อที่แท้จริง และซ่อนเร้น มันมองหาวัดต่างๆ ที่รวบรวมคนเป็นกลุ่มเป็นก้อน เป็นคริสตชนกลุ่มใหญ่ที่หลับใหล ซึ่งเดินตามพระสังฆราช และพระสงฆ์เหมือนลูกแกะซื่อๆ เพื่อจะได้ชื่อว่าเป็นพระศาสนจักรใหม่ทันสมัย" (เสียงของอัครเทพราฟาแอล ผ่านนางมาร์การีตา ซัมปาอีร์)

4. "พวกท่านจะรู้ว่า การชำระล้างแผ่นดินจะจบลงเมื่อการเป่าลมแห่งชีวิต การเป่าลมของพระจิตจะทำให้ชีวิตฟื้นขึ้นมาใหม่ อีกไม่ช้าโลกใหม่จะมาถึง พระจิตของพระเจ้าจะเสด็จมาบนแผ่นดิน เพื่อสถาปนาอาณาจักรแห่งสันติสุข" (สาส์นเบื้องบน โดยนายเปียโร มันเตโร)

5. "ท่านถามว่า คริสตชนมากน้อยแค่ไหนจะไปถึงยุคสันติสุข? เราขอตอบว่า ทุกคนที่สามารถรักษาเนื้อ รักษาตัว ยึดมั่นในความเชื่อแท้และไม่ยอมแพ้ต่อปีศาจมารร้าย หรือสมุนของมัน (สมณซอน ฟรีเมซอน และคอมมิวนิสต์เมซอน) จะไปถึงยุคแห่งสันติสุขอย่างแน่นอน" (สาส์นเบื้องบนโดยนายเปียโร มันเตโร)

6. "พระแม่มารีย์ คือพาสปอร์ตของลูกสำหรับเข้าแผ่นดินใหม่ ซึ่งจะโผล่มาจากกองขี้เถ้าแห่งแผ่นดินเก่า... บรรดาเทวดาจะปราบเจ้าซาตานก่อนเมื่อหมดแล้วจึงจะไปจัดการกับมนุษย์ชั่วช้าทั้งหลาย เมื่อพระองค์จะเสด็จลงมาครั้งใหม่พระองค์จะพบความเชื่อบนโลก เหมือนกับพระองค์จะพบผู้คนเป็นล้านๆ คน คุกเข่าสวดสายประคำด้วยความศรัทธา เฝ้าคอยจะต้อนรับพระองค์ กราบนมัสการพระองค์ ผู้จะเสด็จมาในฐานะกษัตริย์ แห่งกษัตริย์ทั้งหลาย" (สาส์นของแม่พระผ่านนางมาร์การีตา ซัมปาอีร์)

คำคม Nullum esse librum tam malum, ut non in aliqua parte prodesset.

นุลลุม เอสเซ ลีบรุม ตำ มาลุม, อุต น็อน อิน อาลีกวา ปารฺเต โปรเดสเซ็ต
ไม่มีหนังสืออะไรที่เลวมากๆ จนหาส่วนดีไม่ได้เลย.
Happy Easter!
Buona Pasqua!
สุขสันต์วันอิสเตอร์!
มารีครุส, คอนชิตาและมารีโลลี กำลังตอบคำถามจากบาทหลวงท่านหนึ่งในระยะแรกๆ ที่แม่พระปรากฏมาพบที่หมู่บ้านการาบันดัล
ภาพประจำตัวสมาชิก
Valkyrie Zero Number
โพสต์: 2081
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 27, 2007 4:11 am

พุธ ก.ย. 29, 2010 4:20 am

พระเจ้า โปรดปกป้องเพื่อน ๆ ทุกคนของข้าพระองค์ด้วย :s008:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ ก.ย. 29, 2010 8:55 am

ทำไมต้องให้พระสงฆ์แนวอนุรักษ์นิยม (TRADITIONALIST PRIEST) เสกน้ำ เสกเที่ยน ฯลฯ ด้วยหละครับ แบบนี้คาทอลิกไทยคงแย่แน่ ๆ เพราะไม่มีพระสงฆ์กลุ่มนี้สักองค์ พระสงฆ์ทั่วไปเสกแล้วไม่ศักดิ์สิทธิ์หรอครับ
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

พุธ ก.ย. 29, 2010 9:35 am

Andreas เขียน:ทำไมต้องให้พระสงฆ์แนวอนุรักษ์นิยม (TRADITIONALIST PRIEST) เสกน้ำ เสกเที่ยน ฯลฯ ด้วยหละครับ แบบนี้คาทอลิกไทยคงแย่แน่ ๆ เพราะไม่มีพระสงฆ์กลุ่มนี้สักองค์ พระสงฆ์ทั่วไปเสกแล้วไม่ศักดิ์สิทธิ์หรอครับ
หลายอย่าง ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกันครับว่าเป็นอย่างไร เช่น เตรียมเทียนขี้ผึ้งแท้อย่างน้อย 51% (ผมจะหาซื้อที่ไหนได้มั่งครับ) และก็บทภาวนาแบบเซนาเกิล ก็เพิ่งเคยได้ยินเหมือนกันครับ

เท่าที่อ่านจากหนังสือ ชีวิตแท้ในพระเจ้า พระเยซูเจ้าและแม่พระได้ยืนยันว่า การประจักษ์ที่การาบันดัลเป็นเรื่องจริง แต่ผมหาอ่านสารเต็มๆ ที่เป็นภาษาไทยไม่ได้เลยครับ

เจอแต่เวปทางการภาษาปะกิด :s008: http://www.garabandal.org/index.shtml
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ ก.ย. 29, 2010 11:38 am

ผมเห็นว่า เราต้องระวังการนำเสนอเกี่ยวกับการเผยแสดงส่วนตัวซึ่งพระศาสนจักรยังไม่ได้รับรอง เพราะถ้ามีการเรียกร้องให้ทำบางสิ่งซึ่งขัดกับคำสอนของพระศาสนจักรในปัจจุบัน ก็อาจจะโดนเพ่งเล็งได้ครับ
sansrepos
โพสต์: 460
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 6:23 pm

พุธ ก.ย. 29, 2010 4:29 pm

มีญาติของผมท่านหนึ่งแกอ่านหนังสือและ internet มาพอสมควรเหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าหลักๆเป็นสารแม่พระฉบับที่ว่านี่หรือไม่นะครับ แต่มีการพูดถึงฟรีเมซอนกะคอมมิวนิสต์อะไรพวกนี้ด้วย และแกเชื่ออีกว่าแม้แต่พระศาสนจักรคาทอลิกทุกวันนี้เองก็ยังถูกอิทธิพลของซาตานครอบงำอยู่ แกบอกว่าพิธีมิสซาหลังการสังฆายนาวาติกันครั้งล่าสุดใช้ไม่ได้ เพราะพระสงฆ์ผู้ทำพิธีหันหลังให้กับไม้กางเขนแต่หันหน้ามาหาสัตบุรุษแทน

ความเห็นส่วนตัวนะครับอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ถ้าพระเจ้าประสงค์ให้อะไรเกิดมันก็จะเกิด ผมเชื่อว่าพระองค์ไม่ทรงพลาดและไม่รู้จักหลงแน่ๆ แต่หลายๆอย่างที่อ่านดูถ้าให้ตีความด้วยความคิดประสามนุษย์ธรรมดาอย่างผมก็มีหลายส่วนที่ไม่เข้าใจ และไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่

กางลงโทษมืด 3 วัน 3 คืน ไม่ใช่การสิ้นพิภพ หมายความว่าโลกเรายังมีต่อไปอีก พระเจ้าจะปิดประตูนรกไม่ใช่ซาตานออกมาได้อีกพันปี อย่างนั้นจะต่างอะไรกับสิ้นพิภพในเมื่อเหลือแต่คนดีๆในโลก โลกที่ไม่เหลือคนชั่ว ไม่มีซาตานคอยล่อลวง แล้วมีแต่คนดีจะยังเป็นโลกซึ่งเป็นสถานที่ทดลองตามคำสอนที่เราเรียนมาได้อย่างไรกัน
sansrepos
โพสต์: 460
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 6:23 pm

พุธ ก.ย. 29, 2010 4:35 pm

ถ้ามันน่ากลัวและเชื่อได้ว่าจริงอย่างนั้นพระศาสนจักรน่าจะให้การรับรองไปแล้วนะครับ

และหากพระศาสนจักรยังไม่ให้การรับรองจะมีคาทอลิกสักกี่คนกันครับที่เชื่อ คนที่รอดหลังจากนั้นอาจจะไม่ถึง 25% อย่างที่บอกก็ได้

การแยกข้าวสาลีออกจากข้าวละมานหมายถึงการพิพากษาซึ่งทำหลังจากทุกคนตายไปแล้ว และทำใหม่อีกครั้งเมื่อสิ้นพิภพเท่านั้นไม่ใช่หรือครับ
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

พุธ ก.ย. 29, 2010 6:18 pm

โดยส่วนตัวผมเอง ผมเชื่อนะครับ เพราะว่าทุกวันนี้ มีบาปมากมายและร้ายแรงขึ้นทุกวัน
ความรักแทบจะหายไปหมดสิ้น พร้อมกับความไม่มีพระเจ้าและการล่วงเกินพระองค์
จอกแห่งพระยุติธรรมของพระองค์กำลังจะล้นอยู่แล้ว

และจากการที่ได้อ่านหนังสือ ชีวิตแท้ในพระเจ้า ซึ่งพระเยซูเจ้าและแม่พระทรงแสดงความเจ็บปวดที่การประจักษ์ที่การาบันดัลยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทรงเรียกร้องให้เรามีความเชื่อ-ประสาเด็ก แบบเด็กๆ ทรงปวดร้าวที่คนของพระองค์เองกลับไม่เชื่อเหมือนที่สมัยที่พวกฟาริสีไม่เชื่อพระองค์!

นอกจากนี้ จากที่ได้อ่านสารของพระแม่ที่ลำไทรมาตลอด ซึ่งพระแม่ได้เตือนให้เราสวดภาวนาเพื่อ
ป้องกันภัยพิบัติร้ายแรงที่จะเกิดขึ้นเพราะผลแห่งบาปของเราเอง

ผมเชื่อเพราะว่าเนื้อหาในสาร ยังคงเป็นเรื่องการเรียกร้องให้มนุษย์สวดภาวนา กลับใจมาหาพระเป็นเจ้า ครับ ส่วนตัวผมเลยคิดว่า จะเกิดขึ้นจริงไว้ก่อนครับ กันไว้ดีกว่าแก้น่ะครับ :s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 7:54 am

ความถูกต้องและศักดิ์สิทธิ์ของพิธีมิสซาไม่ใช่อยู่ที่การหันหลังหรือหันหน้าของพระสงฆ์หรอกครับ เพราะเวลาอาหารค่ำมื้อสุดท้าย พระเยซูเจ้าทรงร่วมโต๊ะกับบรรดาอัครสาวก ทรงหันหน้าหาพวกเขา ไม่ได้ทรงหันหน้าเข้ากำแพงแล้วเสวยคนเดียว เวลาที่บรรดาสาวกประกอบพิธีนี้เพื่อระลึกถึงพระองค์ก็ทำแบบเดียวกัน จนมาถึงสมัยยุคกลางถึงเพิ่งหันหน้าเข้าหาตู้ศีลซึ่งตั้งอยู่บนพระแท่น พระศาสนจักรหลังสังคายนาวาติกันที่ 2 ต้องการทำให้พิธีมิสซาเป็นเหมือนการชุมนุมของศิษย์ของพระเยซูในยุคแรก ๆ

ส่วนการเผยแสดงส่วนตัวนั้น พระศาสนจักรต้องมีความรอบคอบ ถ้าเป็นเรื่องจริงสักวันต้องได้รับการรับรองแน่นอนครับ ไม่อย่างนั้น คงมั่วน่าดูเพราะมีคนอ้างว่าได้รับการเผยแสดงจากพระเจ้ามากมาย ส่วนมากก็มาในแนวแปลก ๆ และสร้างความแตกแยก
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

พฤหัสฯ. ก.ย. 30, 2010 8:11 am

Andreas เขียน: ส่วนการเผยแสดงส่วนตัวนั้น พระศาสนจักรต้องมีความรอบคอบ ถ้าเป็นเรื่องจริงสักวันต้องได้รับการรับรองแน่นอนครับ ไม่อย่างนั้น คงมั่วน่าดูเพราะมีคนอ้างว่าได้รับการเผยแสดงจากพระเจ้ามากมาย ส่วนมากก็มาในแนวแปลก ๆ และสร้างความแตกแยก
อืม จริงด้วยสิครับ คงต้องใช้เวลามากทีเดียว แต่ถ้ามาจากพระเจ้าจริง มนุษย์ก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้ :s012:
tach
โพสต์: 200
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 22, 2009 9:53 pm

จันทร์ ต.ค. 18, 2010 10:43 pm

เเม่พระประจักษ์ที่ไหนหรอ เเล้วใครเป็นผู้ได้รับการประจักษ์
ภาพประจำตัวสมาชิก
yuki
โพสต์: 681
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 01, 2006 5:02 am

อาทิตย์ พ.ย. 21, 2010 5:07 pm

Andreas เขียน:ทำไมต้องให้พระสงฆ์แนวอนุรักษ์นิยม (TRADITIONALIST PRIEST) เสกน้ำ เสกเที่ยน ฯลฯ ด้วยหละครับ แบบนี้คาทอลิกไทยคงแย่แน่ ๆ เพราะไม่มีพระสงฆ์กลุ่มนี้สักองค์ พระสงฆ์ทั่วไปเสกแล้วไม่ศักดิ์สิทธิ์หรอครับ
พระของ Orthodox จัดอยู่ในกลุ่ม Traditionalist priest มั้ยครับ :s030:
kay-su
โพสต์: 68
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 17, 2012 7:04 am

อังคาร พ.ค. 15, 2012 1:50 pm

เป็นหนังสือที่พระเยซูพูดกับเรา ที่น่าประทับใจมาก อยากให้ทุกคนลองอ่านดูนะค่ะ พระเลือกวาสสุลา ให้เป็นผู้เผยแพร่สาสน ทำให้ดิฉันซาบซึ้งใจ เพราะดิฉันเองกังวลว่าฉันเป็นคนบาป ทำให้ไม่กล้าหลายอย่างเวลาสวดภาวนา แต่ความรักที่พระเยซูให้เราแม้เราเป็นคนบาปมากมาย ทำให้ฉันชื่นชมยินดีมากค่ะ
ตอบกลับโพส