ชีวิตเเท้ในพระเจ้า จาก วาสุลา ไรเดน เอามาเล่าสู่กันฟังค่ะ

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
kay-su
โพสต์: 68
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 17, 2012 7:04 am

อาทิตย์ มิ.ย. 10, 2012 7:30 am

จากเอกสารกล่าวนำการบรรยายของวาสสุลา
ฉันได้รับศีลล้างบาปเป็นกรีกออร์โธด๊อกซ์ บิดามารดาเป็นชาวกรีก เราเกิดในอียิปต์ทั้งหมด สามีของฉันเป็นชาวสวีเดน ถือนิกายลูเธรัน ฉันมีบุตรสองคน ตัวเองเป็นแม่บ้าน ไม่เคยได้ร่ำเรียนคำสอน ฉันทิ้งวัดไปโดยเฉพาะหลังแต่งงาน ฉันไม่เคยได้ยินเลยว่าองค์พระผู้เป็นฯเจ้าประทานความช่วยเหลือที่เหนือธรรมดาแก่เราได้ เช่นให้คำพูดในวิญญาณหรือให้นิมิตทางปัญญา หรือส่องสว่างให้เราเข้าใจ
วันหนึ่งช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ปี 1985 พระเป็นเจ้าทรงจู่โจมมาหาฉัน ในครั้งแรกพระองค์ทรงส่งเทวดามาก่อน เทวดามาหาฉันขณะจดรายการของที่ต้องซื้ออยู่ แนะนำตัวว่าท่านชื่อดาเนียล ง่ายขนาดนั้นทีเดียว! ท่านคงเดาได้ว่าฉันทั้งประหลาดใจระคนปิติขนาดไหน ฉันได้ยินเสียงท่านในใจและฉันก็จดตามไปเหมือนจดบันทึก
หลังจากสัปดาห์แรก เทวดาก็ขอให้ฉันศึกษาพระคัมภีร์ แต่ฉันไม่เคยมีพระคัมภีร์ติดบ้าน ท่านจึงบอกให้ฉันไปหามาสักเล่ม ฉันก็ทำตาม แต่พอฉันเปิดอ่านตามที่ท่านบอก ฉันเปิดไปที่เพลงสดุดี แล้วฉันก็ไม่เข้าใจอะไรเลยถึงจะเป็นภาษาอังกฤษก็ตาม นั่นเป็นเพราะพระเป็นเจ้าทรงพยายามชี้ให้ฉันเป็นว่าฉันมืดบอดและอยู่กลางความมืด ฉันจึงไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองอ่าน
เทวดามอบการชำระวิญญาณให้บริสุทธิ์แก่ฉัน ท่านเริ่มชี้ให้ฉันเห็นบาปทั้งหมดที่ฉันไม่เคยสำนึกผิดด้วยวิธีที่พิเศษมาก เพราะเหมือนกันเรามองเห็นบาปต่างๆ ของตัวเราด้วยสายพระเนตรของพระเป็นเจ้า ต่างกันลิบลับกับเวลาเรามองด้วยสายตาของเราเอง ฉันทุกข์ทรมานมาก ทั้งเกลียดตัวเอง และเกลียดบาปที่ฉันทำมาทั้งหมด
เทวดาบอกให้ฉันไปบ้านเณรซึ่งบังเอิญอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านพักของเราในบังคลาเทศ ฉันได้พบกับพระสงฆ์องค์หนึ่งก็เลยให้ท่านดูบันทึกและเล่าเรื่องทั้งหมดให้ท่านฟัง ท่านตะลึงแล้วก็ไม่เชื่อฉัน ฉันหัวเสีย เนื่องจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของฉัน ทำให้ฉันหลงคิดไปว่าท่านจะเชื่อเพราะท่านก็ติดต่อกับพระเป็นเจ้ากับทูตสวรรค์เป็นประจำทั้งวันทั้งคืนอยู่แล้ว จากนั้นมาท่านก็ปฏิบัติต่อฉันราวกับฉันเป็นคนไข้โรคจิต แล้วท่านก็ส่งฉันไปให้พระสงฆ์อีกองค์ ซึ่งก็เหมาเอาว่าฉันกำลังคบค้าสมาคมกับซาตาน จึงลงเอยตรงที่ว่าพระสงฆ์องค์หนึ่งคิดว่าฉันบ้า อีกองค์เข้าใจว่าฉันเหมือนซาตาน
สองสามสัปดาห์ต่อมา แทนที่จะเป็นการมาเยือนของเทวดาตามปกติ กลับเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมาด้วยพระองค์เอง สภาพของฉันตอนนั้นไม่ได้ตื่นเต้นยินดีเท่าไหร่ เพราะฉันไม่รู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้า ก็เลยถือว่าผู้ที่ลงมาจากสวรรค์นั้นก็เหมือน ๆ กัน เรื่องแรกที่องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสก็คือ “เราพระผู้เป็นเจ้า รักลูก รักเราเถิด” แล้วพระองค์ก็รับสั่งให้ฉันสวดบทข้าแต่พระบิดาฯให้พระองค์ฟัง
kay-su
โพสต์: 68
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 17, 2012 7:04 am

อาทิตย์ มิ.ย. 10, 2012 7:31 am

ไม่กี่วันต่อมา พระเยซูเจ้าตรัสถามฉันเรื่องหนึ่งว่า “บ้านลูกหรือบ้านเราคัญกว่ากัน ? “ ฉันทูลว่า “บ้านของพระองค์พระเจ้าข้า” พระองค์ทรงอวยพรฉัน ตรัสต่อว่า “บ้านเรากำลังพินาศ จงซ่อมแซมเถิด” ฉันแทบร้องให้ ตอบไปว่า “ซ่อมได้อย่างไรกันพระเจ้าข้า?” ลูกจะทำอะไรได้ ลูกไม่รู้เรื่องวัดเรื่องวา แล้วก็ไม่รู้เรื่องคำสอนด้วย ไม่รู้เรื่องอะไรสักอย่าง พระองค์ทรงขอในสิ่งที่ลูกทำให้ไม่ได้”
ระหว่างนั้น พระสงฆ์องค์แรกซึ่งเคยคิดว่าฉันเป็นโรคจิตฟุ้งซ่านก็เริ่มเอะใจว่าเรื่องทั้งหมดอาจมาจากพระเป็นเจ้าก็ได้ เลยบอกฉันว่า “วาสสุลา พ่อเสียใจกับเธอด้วยนะ เพราะปกติแล้วพระเป็นเจ้าไม่เสด็จมาหาใครต่อใครแล้วก็ประทานพระหรรษาทานให้มากมายแบบนี้โดยที่ไม่ต้องการอะไร”
จริงดังท่านว่า วันหนึ่งพระเยซูตรัสถามฉันว่า “ลูกอยากรับใช้เราไหม? ฉันไม่ได้ตอบเพราะกลัว เนื่องจากฉันบันทึกตามไปอยู่ ฉันก็เลยถอนมือขึ้นจากกระดาษเพื่อไม่ต้องจดเรื่องตรงนี้ลงไป คำถามนี้ทำให้ฉันขวัญหายจริงๆ คิดไม่ตกว่าพระเป็นเจ้าทรงขออะไรจากฉันกันแน่ นึกไปว่าพระองค์อาจขอให้ฉันทิ้งครอบครัวไปบวชเป็นชีที่อารามคาร์เมลก็ได้ ฉันไม่สะดวก จึงผละจากพระองค์ไป แต่ตลอดวันตลอดคืนนั้นฉันไม่สามารถทำใจให้สงบได้เลย เพราะพระองค์ตรัสต่อจากนั้นว่า “เราอยู่ในลูกได้ถึงลูกนะมีจุดอ่อนร้ายแรงก็ตาม” ครั้นแล้วฉันก็เสียใจเอามากๆ ฉันจึงตัดสินใจอย่างกะทันหัน พอรุ่งขึ้น ฉันเท้าความถึงคำถามพระองค์ว่า “พระองค์อยากให้ลูกรับใช้พระองค์หรือ?” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะสร้างลูกเพื่อทำให้พระยุติธรรมของเราสงบลง เราจะสร้างลูกเพื่อให้ความสุขใจแด่เรา ลูกไม่มีบุญกุศลอะไรเลย ไม่มีสักนิด แต่เราก็โปรดปรานลูก ทั้งๆ ที่ลูกแสนจะอาภัพ เพราะความซื่อสัตย์และความสุภาพอ่อนโยนของเรานั้นมิอาจประมาณค่าได้”
kay-su
โพสต์: 68
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 17, 2012 7:04 am

อาทิตย์ มิ.ย. 10, 2012 7:31 am

บทสวดที่พระเยซูเจ้าและแม่พระมารีย์สอน
“จงออกไปยังนานาประชาชาติและสอนพวกเขาให้สวดภาวนานี้ถวายพระบิดาเจ้า”
ข้าแต่พระบิดาเจ้า ผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา
ขอพระองค์ทรงโปรดดลบันดาลให้ผู้ที่เคยฟังแล้วฟังเล่าแต่ไม่เคยเข้าใจ
ให้พวกเขาได้ยินพระสุรเสียงของพระองค์ในครั้งนี้และได้รู้จักพระองค์พระผู้ศักดิ์สิทธิ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
ขอพระองค์ทรงโปรดเบิกนัยน์ตาของผู้ที่เคยมองแล้วมองเล่า แต่ไม่เคยแลเห็นให้พวกเขาได้แลเห็นพระพักตร์ศักดิ์สิทธิ์และพระสิริเรืองโรจน์ของพระองค์ในครั้งนี้
ขอพระองค์ทรงโปรดสัมผัสดวงใจของพวกเขา ให้เปิดกว้างและรับรู้ถึงความซื่อสัตย์ของพระองค์
ข้าแต่พระบิดาผู้ทรงธรรม ลูกวอนขอดังนี้เพื่อให้ชนทุกชาติกลับใจและได้รับการเยียวยารักษา อาศัยบารมีรอยแผลศักดิ์ สิทธิ์ของพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรสุดที่รักของพระองค์ อาเมน”
kay-su
โพสต์: 68
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 17, 2012 7:04 am

อาทิตย์ มิ.ย. 10, 2012 7:33 am

“.พระเยซูเจ้าตรัสว่าเมื่อเราอ่านสารนี้ให้ตัดชื่อวาสสุลาออกเสีย แล้วนำชื่อเราใส่ลงไป”

Notbook 1-6
สันติสุขจงดำรงอยู่กับลูก
-ลูกขออยู่กับพระองค์ได้หรือไม่พระเจ้าข้า?
ลูกอยู่กับเราแล้ว เราเป็นองค์ความสว่าง
-ลูกขออยู่ใกล้พระองค์ได้หรือไม่พระเจ้าข้า?
ลูกอยู่ใกล้เราแล้ว ลูกอยู่ในเรา เราเป็นองค์ความสว่าง
-ขอพระองค์ทรงคุ้มครองลูกได้หรือไม่พระเจ้าข้า?
ลูกได้รับการคุ้มครองจากเราแล้ว
-ลูกขอพึ่งพาพระองค์ได้หรือไม่พระเจ้าข้า?
ลูกสามารถพึ่งพาเรา
-ลูกขอพละกำลังจากพระองค์เพื่อถือรักษาความเชื่อของลูกไว้
ลูกได้รับพละกำลังแล้ว
-ลูกต้องการความรักจากพระองค์
ลูกเป็นที่รักของเรา
เราเป็นองค์ความสว่างและทอแสงให้ทุกคนได้เห็น อย่ากลัวไปเลย วิถีทางของเราทอดตรง วิถีทางของเราจะนำลูกมาหาเรา เราจะรอพบลูกและลูกจะจำเราได้ ด้วยเราแผ่สันติสุขและความรักไปทั่วทุกทิศทาง
มาหาเราสิ ลูกเห็นเราไหม? ลูกได้ยินเราไหม? อย่ากลัวไปเลย อย่ายืนในที่มืดนั้นเลย เห็นไหม แขนขาของลูกหายดีแล้ว (พระเยซูเจ้าตรัสเป็นภาษาสัญลักษณ์) ลูกกลับเดินเหินได้อีก เห็นไหมว่าสายตาของลูกกลับดีดังเดิมแล้ว เราได้รักษาลูกให้หาย เราได้ล้างความอัปยศและบาปของลูกแล้ว ใช้ขาของลูกเดินมาหาเราสิ ใช้สองตาของลูกมองเราสิ ใช้ความเชื่อมั่นของลูกมาพบเราสิ เราคือพระมหาไถ่ของลูก เราคือสันติสุขของลูก เราพระเยซูเจ้า รักลูกทุกคน
kay-su
โพสต์: 68
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 17, 2012 7:04 am

อาทิตย์ มิ.ย. 10, 2012 7:34 am

เราคือพระมหาไถ่ของลูก
สันติสุขจงดำรงอยู่กับลูก วาสสุลา มาหาเราสิ เราคือพระมหาไถ่ของลูก เราคือสันติสุขของลูก เราเคยดำรงสภาพมนุษย์อยู่ท่ามกลางลูกบนโลก เราคือพระบุตรผู้ทรงบังเกิดจากพระเป็นเจ้า มาหาเราและเอนศีรษะอิงเราเถิด เราคือผู้ปลอบโยนลูก ยามลูกเป็นทุกข์ รำลึกไว้ว่าเราอยู่ใกล้ลูก มาสวดภาวนาบทนี้กับเราเถิด
โปรดเถิดพระบิดาเจ้าข้า โปรดนำลูกไปยังทุ่งหญ้าแห่งความสงบ
ณ ที่ซึ่งธารน้ำบริสุทธิ์นิรันดรไหลริน
ขอทรงเป็นแสงสว่างส่องนำทางลูก
ลูกจะเดินเคียงพระองค์ไป
ลูกจะพูดด้วยการส่องสว่างของพระองค์
พระบิดาที่รักยิ่ง โปรดทรงดำรงอยู่ภายในลูก
เพื่อให้ลูกมีสันติสุข และได้สัมผัสซึ่งความรักของพระองค์
ลูกจะตามรอยพระยุคลบาทของพระองค์ไป
ลูกจะอยู่กับพระองค์
โปรดประทานการส่องสว่างแก่ลูก โปรดทรงรักลูก
โปรดทรงสถิตอยู่กับลูก ทั้งบัดนี้และจากนี้ไปชั่วนิรันดรเทอญ อาเมน
kay-su
โพสต์: 68
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 17, 2012 7:04 am

อาทิตย์ มิ.ย. 10, 2012 7:35 am

เราคือหนทาง
วันนี้พระเยซูเจ้าทรงให้ฉันเห็นภาพนิมิต (ทางปัญญา) ที่แจ่มชัดของตัวฉันเองในสถานที่ลี้ลับ ฉันเหมือนอยู่กลางที่ลุ่มร้างผู้คน ฉันรู้สึกอ้างว้าง ฉันเห็นพระเยซูเจ้ากำลังตามหาฉันอยู่กลางดงไม้แล้ง
เราอยู่ที่นี่ เป็นเราเอง พระเยซูเจ้า เราพบลูกแล้ว มาสิ ให้เราบอกทางกลับแก่ลูกเถิด ฟังเรานะ เรา พระเยซูเจ้าคือหนทาง ทุกครั้งที่ลูกหลงทางจงเรียกหาเรา เราจะมาหาลูกและนำลูกกลับ เราคือหนทาง
เรา พระเป็นเจ้า ดำรงอยู่จริง สันติสุขจงดำรงอยู่กับลูก ลูกรัก
-โปรดเถิดพระเจ้าข้า โปรดประทานความสว่างให้ลูกสามารถสัมผัสพระองค์และเขียนเถิด
เรา พระเป็นเจ้า ดำรงอยู่จริง สันคติสุขจงดำรงอยู่กับลูก ลูกรัก
-โปรดเถิดพระเจ้าข้า โปรดประทานความสว่างให้ลูกสามารถสัมผัสพระองค์และเขียนเถิด
วาสสุลา การดีแต่พูดเป็นคำของร้องที่ไร้ความหมาย
ฉันสำนึกผิดในความไม่บังควรของฉัน ฉันได้ขอความกรุณาจากพระองค์โดยปราศจากความรัก ปราศจากความรู้จักคิด ปราศจากความรู้สึกเช่นนั้นจริง ฉันทูลขอพระองค์อีกครั้ง คราวนี้ฉันหมายความตามนั้นทุกคำ และยกจิตใจขั้นหาพระองค์
เรารับรู้คำร้องขอถึงเราเหมือนคราวนี้ เรา พระเป็นเจ้ารับรู้ได้ เรารับรู้ทุกเรื่องราว! เราจำต้องได้รับความรักจากการร้องขอของลูก เป็นความรักจากส่วนลึกของวิญญาณ เป็นความรักที่ต้องการเรา รักเรา และหมายความตามที่ลูกขอมาทุกคำ เรา ผู้เป็นพระเป็นเจ้านั้นดำรงอยู่จริง และเรารับรู้ได้! คำร้องขอใดๆ ที่ดีแต่พูดนั้นไม่เป็นที่สนใจ เป็นเสียงร้องขอที่คำรามจากหลุมผังศพ ขอให้ลูกจำไว้ว่า เราดำรงอยู่จริง และ เรารับรู้ได้ เราหวังให้ลูกทุกคนของเราคืบหน้า ทำให้เราปิติยินดี! เราไม่ได้อยู่ไกลเกินเอื้อม
kay-su
โพสต์: 68
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 17, 2012 7:04 am

อาทิตย์ มิ.ย. 10, 2012 7:37 am

ฉันกำลังอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่ผู้คนมากมายได้รายงานไว้เรื่อง “ประสบการณ์กับพระเป็นเจ้า” แต่ “ผู้รู้” ทั้งหลายบอกคนเหล่านี้ว่าพวกเขาควรจะลืมเสีย เพราะสิ่งที่เขาพบมานั้นไม่ได้มาจากพระเป็นเจ้า แถมบอกพวกเขาด้วยว่า วิญญาณที่สูงส่งเท่านั้นถึงจะพบพระเป็นเจ้าได้
รวมความแล้วหนังสือเล่มนี้อธิบายว่า การที่คนเราจะบรรลุถึงพระเป็นเจ้าได้นั้นต้องเป็นคนบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ และเนื่องจากฉันรู้ตัวดีว่าฉันไม่เพียงแต่ไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น หากยังไม่ได้เป็นคนดีด้วย ฉันจังตัดสินใจยุติการพบปะกับพระเป็นเจ้าด้วยการเขียนสารเหล่านี้กับพระองค์และพวกเขาทำให้ฉันเชื่อว่าพระเป็นเจ้าทรงอยู่แสนไกล ดังนั้นฉันจะวางมือทุกเรื่องนี้ ปล่อยให้มือฉันเขียนสิ่งที่ต้องการเขียนเป็นครั้งสุดท้ายไปตามแต่ “พลัง” ของที่เขียนมาตลอดหลายเดือนนี้จะพาไป
วาสสุลา อย่าทอดทิ้งเราเลยลูกรัก จงมาเยี่ยมเยียนเรา และเรียนรู้กับเรา จำไว้ว่า เราอยู่เคียงข้างลูกทุกเวลานาที เรา พระเป็นเจ้า ดำรงอยู่ในลูก เชื่อเราเถิด เราคือพระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ
ไม่นะเป็นไปไม่ได้ เป็นพระเป็นเจ้าไม่ได้ “ผู้รู้” จะพิสูจน์ให้เห็นเองว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่พระเป็นเจ้า พระเป็นเจ้าทรงสื่อพระองค์แต่กับวิญญาณที่ทรงศักดิ์และบริสุทธิ์สะอาดวิญญาณที่คู่ควร เพื่อประทานพระกรุณาดังกล่าวให้แก่เขาเหล่านั้น
เรามิได้อยู่ไกลเกินเอื้อมนะวาสสุลา! เราไม่ปฏิเสธใคร เราตำหนิผู้ขัดขวางการอุปถัมภ์ของเรา ต่อลูกของเรา ไม่ให้ลูกของเรามาหาเราได้ ใครก็ตามที่สอนว่า ผู้ที่บริสุทธิ์และครบครันเท่านั้นถึงจะพบเราได้ หรือถึงจะเป็นที่ยอมรับของเราได้นั่นแหละคือ พวกเดียวกับผู้ที่ทำลายศาสนาของเราอยู่ มนุษย์ผู้ใดได้พบเราแต่แล้วกลับถูกผู้อื่นกีดดัน เราผู้เป็นพละกำลังเหลือคณานับจักค้ำจุนเขาไว้ด้วยการมอบพละกำลังของเราให้แก่เขา ทำไมหนอ ทำไมเราถึงต้องมีพวกมนุษย์ที่เรียกตนเองว่าผู้รู้มาคอยตัดสินตัวเราว่าเป็นอะไรหรือไม่เป็นอะไร กีดกันความเป็นไปได้ทุกเรื่อง ปล่อยให้ลูกๆ ของเราหดหู่ อ่อนแอและสิ้นหวัง ด้วยการละเลยพระหรรษาทานทุกประการของเรา ดึงลูกๆ ของเราไปเสียจากเรา เหตุไฉนพระประทานทุกประการของเราที่มอบให้นั้นจึงถูกปฎิเสธ เราคือโภคทรัพย์เหลือคณานับ
ลูกรัก เราสุดแสนเบิกบานใจเมื่อลูกหาเราจนพบ เราเฝ้าระวังมิให้ลูกเตลิดหนีไปจากเรา เราประคับประคองลูกเยงมารดาอุ้มชูทารกในอุทร เราดลให้ลุกเข้าใกล้เรา เราสุดแสนเบิกบานใจที่ได้เรียกหาลูกและพบกับลูกมีลูกอยู่ใกล้เรา ร่วมปันทุกสิ่งที่เรามี ลูกรัก และมาบัดนี้ลูกกลับมาบอกเราว่า ลูกคิดจะจากเราไป เพราะเรา พระเป็นเจ้าไม่มีทางบรรลุถึง และบอกเราว่า ลูกได้รับข้อมูลมาว่ามีแต่วิญญาณที่คู่ควรเท่านั้นที่สามารถบรรลุถึงเราได้ ส่วนตัวลูกนั้นต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด! เราไม่เคยปฏิเสธวิญญาณดวงใดเลย เรามอบพระหรรษาทานของเราให้แม้กระทั่งผู้น่าเวทนาไม่มีดี ทำให้เราสบายใจและมาพบเราแบบนี้เถิด ลูกเอ๋ย เราขออวยพรลูก เรานำทางลูกอยู่ ลูกกำลังรับอาหารจากเรา วาสสุลา วันนี้ขอให้ลูกตั้งใจอ่าน “จดหมายของนักบุญเปโตรฉบับที่ 1” ในพระคัมภีร์ แล้วเราจะอธิบายให้ลูกฟังเอง อ่านบทแรก จงดำรงชีวิตด้วยความเชื่อ เปโตรสอนให้ลูกมีความเชื่อ
พระเยซูเจ้าทรงสอนให้ฉันเข้าใจความหมายของคำว่าความเชื่อหลายต่อหลายเรื่องว่า คนเราสามารถเคลื่อนภูเขาได้ด้วยความเชื่อ คนเราต้องเชื่อให้สนิทใจหากเรามุ่งหวัง
kay-su
โพสต์: 68
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 17, 2012 7:04 am

อาทิตย์ มิ.ย. 10, 2012 7:38 am

ฉันกำลังอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่ผู้คนมากมายได้รายงานไว้เรื่อง “ประสบการณ์กับพระเป็นเจ้า” แต่ “ผู้รู้” ทั้งหลายบอกคนเหล่านี้ว่าพวกเขาควรจะลืมเสีย เพราะสิ่งที่เขาพบมานั้นไม่ได้มาจากพระเป็นเจ้า แถมบอกพวกเขาด้วยว่า วิญญาณที่สูงส่งเท่านั้นถึงจะพบพระเป็นเจ้าได้
รวมความแล้วหนังสือเล่มนี้อธิบายว่า การที่คนเราจะบรรลุถึงพระเป็นเจ้าได้นั้นต้องเป็นคนบริสุทธิ์ศักดิ์สิทธิ์ และเนื่องจากฉันรู้ตัวดีว่าฉันไม่เพียงแต่ไม่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น หากยังไม่ได้เป็นคนดีด้วย ฉันจังตัดสินใจยุติการพบปะกับพระเป็นเจ้าด้วยการเขียนสารเหล่านี้กับพระองค์และพวกเขาทำให้ฉันเชื่อว่าพระเป็นเจ้าทรงอยู่แสนไกล ดังนั้นฉันจะวางมือทุกเรื่องนี้ ปล่อยให้มือฉันเขียนสิ่งที่ต้องการเขียนเป็นครั้งสุดท้ายไปตามแต่ “พลัง” ของที่เขียนมาตลอดหลายเดือนนี้จะพาไป
วาสสุลา อย่าทอดทิ้งเราเลยลูกรัก จงมาเยี่ยมเยียนเรา และเรียนรู้กับเรา จำไว้ว่า เราอยู่เคียงข้างลูกทุกเวลานาที เรา พระเป็นเจ้า ดำรงอยู่ในลูก เชื่อเราเถิด เราคือพระเป็นเจ้าผู้ทรงสรรพานุภาพ
ไม่นะเป็นไปไม่ได้ เป็นพระเป็นเจ้าไม่ได้ “ผู้รู้” จะพิสูจน์ให้เห็นเองว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่พระเป็นเจ้า พระเป็นเจ้าทรงสื่อพระองค์แต่กับวิญญาณที่ทรงศักดิ์และบริสุทธิ์สะอาดวิญญาณที่คู่ควร เพื่อประทานพระกรุณาดังกล่าวให้แก่เขาเหล่านั้น
เรามิได้อยู่ไกลเกินเอื้อมนะวาสสุลา! เราไม่ปฏิเสธใคร เราตำหนิผู้ขัดขวางการอุปถัมภ์ของเรา ต่อลูกของเรา ไม่ให้ลูกของเรามาหาเราได้ ใครก็ตามที่สอนว่า ผู้ที่บริสุทธิ์และครบครันเท่านั้นถึงจะพบเราได้ หรือถึงจะเป็นที่ยอมรับของเราได้นั่นแหละคือ พวกเดียวกับผู้ที่ทำลายศาสนาของเราอยู่ มนุษย์ผู้ใดได้พบเราแต่แล้วกลับถูกผู้อื่นกีดดัน เราผู้เป็นพละกำลังเหลือคณานับจักค้ำจุนเขาไว้ด้วยการมอบพละกำลังของเราให้แก่เขา ทำไมหนอ ทำไมเราถึงต้องมีพวกมนุษย์ที่เรียกตนเองว่าผู้รู้มาคอยตัดสินตัวเราว่าเป็นอะไรหรือไม่เป็นอะไร กีดกันความเป็นไปได้ทุกเรื่อง ปล่อยให้ลูกๆ ของเราหดหู่ อ่อนแอและสิ้นหวัง ด้วยการละเลยพระหรรษาทานทุกประการของเรา ดึงลูกๆ ของเราไปเสียจากเรา เหตุไฉนพระประทานทุกประการของเราที่มอบให้นั้นจึงถูกปฎิเสธ เราคือโภคทรัพย์เหลือคณานับ
ลูกรัก เราสุดแสนเบิกบานใจเมื่อลูกหาเราจนพบ เราเฝ้าระวังมิให้ลูกเตลิดหนีไปจากเรา เราประคับประคองลูกเยงมารดาอุ้มชูทารกในอุทร เราดลให้ลุกเข้าใกล้เรา เราสุดแสนเบิกบานใจที่ได้เรียกหาลูกและพบกับลูกมีลูกอยู่ใกล้เรา ร่วมปันทุกสิ่งที่เรามี ลูกรัก และมาบัดนี้ลูกกลับมาบอกเราว่า ลูกคิดจะจากเราไป เพราะเรา พระเป็นเจ้าไม่มีทางบรรลุถึง และบอกเราว่า ลูกได้รับข้อมูลมาว่ามีแต่วิญญาณที่คู่ควรเท่านั้นที่สามารถบรรลุถึงเราได้ ส่วนตัวลูกนั้นต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด! เราไม่เคยปฏิเสธวิญญาณดวงใดเลย เรามอบพระหรรษาทานของเราให้แม้กระทั่งผู้น่าเวทนาไม่มีดี ทำให้เราสบายใจและมาพบเราแบบนี้เถิด ลูกเอ๋ย เราขออวยพรลูก เรานำทางลูกอยู่ ลูกกำลังรับอาหารจากเรา วาสสุลา วันนี้ขอให้ลูกตั้งใจอ่าน “จดหมายของนักบุญเปโตรฉบับที่ 1” ในพระคัมภีร์ แล้วเราจะอธิบายให้ลูกฟังเอง อ่านบทแรก จงดำรงชีวิตด้วยความเชื่อ เปโตรสอนให้ลูกมีความเชื่อ
พระเยซูเจ้าทรงสอนให้ฉันเข้าใจความหมายของคำว่าความเชื่อหลายต่อหลายเรื่องว่า คนเราสามารถเคลื่อนภูเขาได้ด้วยความเชื่อ คนเราต้องเชื่อให้สนิทใจหากเรามุ่งหวัง
kay-su
โพสต์: 68
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 17, 2012 7:04 am

อาทิตย์ มิ.ย. 10, 2012 7:39 am

เราคือสันติสุข
เราคือองค์ความสว่าง เรา พระเยซูเจ้า อยากเตือนลูกว่า อย่าได้พลัดตกลงไปในกับที่ปีศาตวางดักไว้ อย่าเชื่อถือสารใดที่ทำให้ลูกวุ่นวายใจ จำเป็นที่ลูกต้องรู้ว่า เหตุใดปีศาจถึงเพียรพยายามที่จะหยุดลูกให้ได้ ปีศาจพยายามอย่างหนักที่จะหยุดลูกและขัดขวางลูกอีกครั้ง เรา ผู้เป็นพระมหาไถ่ของลูก ขอยืนยันกับลูกว่าสารทุกฉบับที่นำเสียงเพรียกแห่งความรักและสันติสุขไป เพื่อนำผู้หลงทางไปให้พบทางกลับมาหาเรานั้น ล้วนเป็นสารจากพระบิดาของเราและของเราทั้งสิ้น จึงอย่าได้ท้อใจไปเลย จงเชื่อในเราเถิด จำไว้ว่า อย่าไปเชื่อสารฉบับใดที่ทำให้ลูกกังวลใจ เราคือสันติสุขและลูกควรลิ้มรสความสงบสุขนั้น
ตอบกลับโพส