....ในหนังสือประวัติศาสตร์ของพระศาสนาจักรได้บันทึกเรื่องราวของมรณะสักขี หรือผู้ที่
ยอมตายเพื่อความเชื่อไว้มากมาย เช่นดาเนียล สเทเฟน ฯลฯ
....หนึ่งในบุคคลซึ่งเรารู้จักคือ "นักบุญโปลิคาร์ป" แห่งศตวรรษที่1 ท่านเป็นพระสังฆราช
ผู้ดูแลพระศาสนาจักรสเมอร์นาในแคว้นเอเซีย ในขณะที่ศาสนาคริสต์เป็นศาสนานอกกฎหมาย
ผู้เชื่อพระเยซูเจ้าจำนวนมากถูกรังแก ถูกจับเฆี่ยนและถูกขังคุก หรือให้ต่อสู้กับสิงโต และอีก
หลายคนถูกฆ่าตายอย่างทารุณ มีผู้หวังดี เตือนโปลิคาร์ปให้หนีไปซ่อนตัวในถ้ำ แต่ท่านกลับ
ตอบว่า "คนอย่างข้าพเจ้าจะไม่ยอมหนีเอาตัวรอดเด็ดขาด"
....แล้ววันหนึ่งท่านก็ถูกจับในข้อหาประกาศเรื่องของพระเยซูคริสต์ ตอนนั้นโปลิคาร์ปมีอายุ
แปดสิบปีแล้ว ท่านถูกจับมัดติดกับเสากลางแจ้ง รายล้อมด้วยฟืนที่ราดด้วยน้ำมันสน ซึ่งพร้อม
ที่จะถูกจุดขึ้นทุกเมื่อ พวกทหารได้บังคับให้ท่านปฎิเสธความเชื่อ "ถ้าเจ้าเพียงแต่พูดว่าพระเยซู
ไม่ได้เป็นพระเจ้า และแช่งด่าเราก็จะปล่อยเจ้าทันทีและเจ้าจะได้กลับบ้านไปพบหน้าคนในครอบครัว"
แต่โปลิคาร์ปตอบว่า "ข้าพเจ้าได้ปรนนิบัติพระคริสต์มาเป็นเวลาหกสิบแปดปีแล้ว พระองค์ไม่เคย
ทำผิดต่อข้าพเจ้าเลย ข้าพเจ้าจะปฎิเสธและหมิ่นประมาทพระองค์ได้อย่างไร"
.....พวกทหารจึงจะจับท่านตอกตรึงหลักเพื่อเผาไฟทั้งเป็น แต่โปลิคาร์ปบอกว่า
"ไม่ต้องตอกตะปู ข้าพเจ้าจะยอมถูกเผา โดยไม่ต้องถูกตอกตะปู" ขณะที่ไฟกำลังลุกท่วมร่าง ท่านได้
อธิฐานเพื่อคนที่จับท่าน บางช่วงลมพัดแรงทำให้เปลวไฟพุ่งไปทางอื่นโปลิคาร์ปจึงมีเวลาอธิฐานมากขึ้น
ท่านได้อธิฐานว่า "ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ ขอบพระคุณพระองค์ที่ให้ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่เพื่อการนี้ "
......

.....ข้อคิด....
.....ถ้ามีคนหนึ่งยอมตายบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปของเรา
.....ก็ไม่มากเกินไปที่เราจะยอมสละชีวิตเพื่อเขาคนนั้น
..................................................
ชีวิตของบรรดานักบุญเหมือนหน้าต่าง ที่พระปรีชาญาณของพระเจ้าได้ทอแสงมาสู่โลกมนุษย์
ท่านมาช่วยขับไล่ความมืด และช่วยส่องสว่างหนทางเดินให้กับคนเดินทางที่ไม่มั่นใจในการเดินทาง
จาริกอยู่บนโลกใบนี้
บรรดานักบุญเป็นเหมือนหน้าต่าง ที่ความอบอุ่นแห่งความรักของพระเจ้าทอรัศมีมายังโลก
ท่านช่วยขับไล่ความหนาวเหน็บและ ทำให้หัวใจของผู้คนที่ท้อแท้ในชีวิตอบอุ่นขึ้น
บรรดานักบุญเป็นเหมือนหน้าต่าง ที่บันดาลให้เราสามารถมองเห็นภาพลางๆแห่งโลกหน้า
ที่ให้ความบรมสุขนิรันดร์
......
