คาทอลิกมอบปฎิทินให้กับโลก

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ย. 11, 2012 1:52 am

ความยุ่งยากของระบบปฏิทิน
กีรติ บุญเจือ
คัดย่อ และเรียบเรียง WWW.mylovelyjesus.com

ความนำ

เรารู้กันอยู่ว่าปฏิทินจันทรคติกำหนดให้เดือนคู่มี 30 วัน และเดือนคี่มี 29 วัน รวม 2 เดือนมี 59 วัน รวม 12 เดือนมี 354 วัน ขาดไปปีละ 11 วัน 3 ปีก็จะคลาดเคลื่อนไป 33 วัน เพราะฉะนั้นในราว 2-3 ปีต้องมีเดือน 8 ซ้ำ 2 เสียครั้งหนึ่งเพื่อมิให้วันสงกรานต์และวันลอยกระทงคลาดเคลื่อนผิดฤดูกาลไป

ปฏิทินสุริยคติแบ่งปีออกเป็น 365 วัน และ 12 เดือน ซึ่งก็ไม่ลงตัว จึงต้องให้เดือนกุมภาพันธ์เป็นตัวแปร มี 28 วันบ้าง เพื่อมิให้หลงฤดูเช่นกัน ทำไม

เรากำหนดให้ 1 เดือนมี 28-29-30-31 วัน แต่ดวงจันทร์โคจรรอบโลกใช้เวลา 29.53059 วัน หรือ 29 วันครึ่ง

ซึ่งการไม่พอดีวันเช่นนี้ทำให้ปฎิทินที่ใช้ไม่อาจตายตัวเหมือนกันหมดได้ทุกปี

ชนชาติโบราณทั้งหลายเริ่มด้วยปฏิทินจันทรคติทั้งสิ้น เพราะสะดวกและง่ายเพียงแต่รู้วิธีชดเชยให้ปีหนึ่งมี 12 เดือนบ้าง 13 เดือนบ้างก็ไปรอดแล้ว


ผู้ริเริ่มใช้ปฏิทินสุริยคติเป็นรายแรกของโลกเท่าที่รู้คือ กษัตริย์องค์แรกของกรุงโรมนามว่า โรมิวเลิศ (Romulus ก.ค.ศ. 753-715) ผู้ก่อตั้งกรุงโรมเป็นราชอาณาจักรขึ้นในปีก่อน ค.ศ. 753

รูปภาพ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ย. 11, 2012 1:55 am

ปฏิทินกรีก

ตั้งแต่สมัยโฮเมอร์หรือก่อนนั้น ชาวกรีกใช้ปฏิทินจันทรคติ คือ ให้เดือนหนึ่งมี 29 และ 30 วันสลับกันไป ซึ่งขาดไปปีละ 11 วัน เมื่อเห็นว่าฤดูกาลคลาดเคลื่อนไปก็เพิ่มเดือนที่ 13 เสียทีหนึ่งซึ่งแต่ละนครรัฐจัดการเองโดยไม่มีการตกลงเกณฑ์กลางร่วมกัน ตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 ก.ค.ศ. เป็นต้นมาจึงได้มีการตกลงใช้เกณฑ์ร่วมกันว่าทุก 8 ปีให้เพิ่ม 3 เดือนเพื่อให้ฤดูกาลกลับมาสู่จุดเริ่มต้น ปีที่ 8 ทุกครั้งได้ชื่อว่า Octennial Year แปลว่าปีที่ 8 เหมือนที่ชาวยิวเรียกทุกปีที่ 7 ของตนว่า Sabbatical Year

รูปภาพ

มาถึงปี ก.ค.ศ.433 เมททัน (Meton) นักดาราศาสตร์จึงพบว่า การใช้ระบบ 8 ปีเพิ่ม 3 เดือน ใช้ไปนานๆ เข้าก็ทำให้ฤดูกาลคลาดเคลื่อนไปมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะคำนวณแล้วพบว่า 19 ปีจะเพิ่มเกินไป 1 เดือน ดังนั้นทุกปีที่ 19 ให้เรียกว่าปีทอง (Golden Year) คือเป็นปีที่ฟรีจากการทดใดๆ ดั้งนั้นปีที่ถึงระบบ 8 ถัดไปให้เพิ่มเพียง 2 เดือนแทน 3 เดือน หรือพูดได้อีกอย่างว่า เมื่อโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ได้ 19 รอบ ดวงจันทร์จะโคจรรอบโลกได้ 235 รอบไม่ใช่ 236 รอบ จึงต้องหาวิธีลดเสีย 1 เดือน ชาวเอเธนส์ได้แกะสลักผังการโคจรดังกล่าวบนแผ่นทองคำเก็บไว้ในวิหารเทวีอเธนา เพื่อเป็นเกียรติแด่นักปราชญ์ยิ่งใหญ่ของตน ต่อมาในปี ก.ค.ศ.130 ฮิพพาร์เคิส (Hipparchus) จึงไดพบว่าการคำนวณของเมททันที่พบว่าโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์รอบละ 365.25 รอบหรือวันนั้นยังคลาดเคลื่อนอยู่อีกนิดหน่อยเพราะที่จริงควรเป็นรอบละ 365.242199 รอบหรือวัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ย. 11, 2012 1:59 am

ปฏิทินโรมัน

เดิมใช้ปฏิทินจันทรคติเหมือนชาติโบราณอื่นๆ กษัตริย์โรมิวเลิส (Romulus ก.ค.ศ.753-715) ปฐมกษัตริย์ผู้ก่อตั้งกรุงโรมและราชอาณาจักรโรมัน หลังจากได้ขึ้นครองราชย์ 15 ปี ได้กำหนดชื่อเดือนให้โดยนับเดือนมีนาคมเป็นเดือนต้นปี จบลงที่เดือน 10 คือ December (Decem แปลว่า 10) เหลือช่วงว่าง 2 เดือนไม่มีชื่อเรียกเป็นทางการ เพราะอากาศหนาว ไม่มีงานทำ เป็นเวลาพักผ่อน ต่อมากษัตริย์องค์ที่ 2 นามว่า นิวเมอ เพิมพีเลียส (Numa Pompilius) ทรงตั้งชื่อ 2 เดือนพักผ่อนให้คือ เดือนมกราคม และเดือนกุมภาพันธ์ แต่ก็ยังเป็นปฏิทินจันทรคติอยู่ ปีหนึ่งจึงมีเพียง 354 วัน จึงต้องคอยเพิ่มเดือนที่ 13 อยู่เป็นประจำโดยไม่มีหลักเกณฑ์แน่นอน

รูปภาพ

ในปี ก.ค.ศ.46 จีวเลียส ซีซาร์ จอมทัพโรมัน ผู้มีอำนาจเต็มเห็นว่าถึงเวลาอันควรที่จะจัดการให้เรียบร้อยเสียที ได้เชิญนักดาราศาสตร์เสอซี เจอนิส (Sosigenes) นักดาราศาสตร์จากอเล็กแซนเดรียมมาดำเนินการ ซีซาร์จึงประกาศตามข้อเสอซี เจอนิส ให้กลางเดือนมีนาคมปี ก.ค.ศ.46 เป็นวันที่ 1 มกราคม ก.ค.ศ. 45 นับเป็นวันขึ้นต้นปีใหม่แห่งปฏิทินใหม่ ซึ่งจะได้ชื่อต่อมาว่าปฏิทินจีวเลียน (Julian Calendar) ตามชื่อของจอมทัพจีวเลียส ซีซาร์ โดยปรับปฏิทินจันทรคติเดิมของชาวโรมันมาเป็นปฏิทินสุริยคติ โดยใช้ชื่อเดือนตามเดิม คือ มกราคม – ธันวาคม เดือนหนึ่งให้มี 30-31 วัน ยกเว้นเดือนกุมภาพันธ์ให้มี 28 วัน ปีหนึ่งจึงมี 365 วัน ซึ่งขาดไป ¼ หรือ 0.25 วัน ดังนั้น 4 ปี จึงให้เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วันเสีย 1 ครั้ง เพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนในระยะยาว ปฏิทินนี้ใช้ได้ราบรื่นต่อมาเป็นเวลาประมาณ 1600 ปี จนถึงสมัยของสมเด็จพระสันตะปาปาเกรโกรี ที่ 13 จึงพบว่าใช้ไม่ได้
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ย. 11, 2012 2:05 am

ปฏิทินเกรโกเรียน

รูปภาพ

มาถึงปี ค.ศ.1522 ระหว่างการประชุมสังคายนาแห่งเทรนท์ได้มีผู้ให้ข้อสังเกตว่า ปฏิทินจีวเลียนได้ทำให้ฤดูกาลคลาดเคลื่อนล้ำหน้าไปกว่า 10 วันแล้ว หากปล่อยไว้เช่นนี้ก็จะล้ำหน้ามากขึ้นไปเรื่อยๆ ที่ประชุมได้มอบหมายให้สมเด็จพระสันตะปาปาเปาโล ที่ 3 ดำเนินการแก้ปัญหา แต่เรื่องก็หายเงียบไปจนถึงปี ค.ศ.1572 สมเด็จพระสันตะปาปาเกรโกรีที่ 13 ได้นักดาราศาสตร์จากคณะเยสุอิตนามว่า คริสโตเฟอร์ เคลเวียส (Christopher Clavius, SJ) ที่คำนวณพบว่าปฏิทินจีวเลียนยังคำนวณไม่ละเอียดพอ คือคำนวณว่าโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ 1 รอบใช้เวลา 365.25 วันแต่การคำนวณของเคลเวียสพบว่า จริงๆเป็น 365.2411 จึงเกินไปปีละ 0.0078 วัน ใช้กันมา 1600 ปี จึงเกินไปเป็นเวลาประมาณ 10 วันแล้วดังนั้นสมเด็จพระสันตะปาปาเกรโกรี ที่ 13 จึงประกาศให้วันพฤหัสที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 1578 วันฉลองนักบุญฟรังซิสอัสซีซี แทนที่จะขึ้นวันที่ 5 ในวันต่อมา ก็ให้กระโดดข้ามไปเป็นวันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม ฤดูกาลก็จะคืนสู่เวลาปกติตามแสงอาทิตย์


รูปภาพ
คริสโตเฟอร์ เคลเวียส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ย. 11, 2012 2:08 am

ปัญหาที่ 2 ที่จะต้องจัดการก็คือ ทำอย่างไรในอนาคตจะไม่คลาดเคลื่อนอีก นักดาราศาสตร์เยสุอิตก็ต้องคำนวณดู ได้ข้อมูลต่อไปนี้

1. โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ใช้เวลา 365,2422 วัน หรือ 365 วัน 5 ชั่วโมง 48 นาที 46 วินาที

2. ปฏิทินที่แบ่งปีออกเป็น 365 วัน ก็ย่อมให้เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วันทุกปีโดยไม่มีการยกเว้นซึ่งก็จะขาดไปปีละประมาณ 6 ชั่วโมง ดังนั้นทุก 4 ปี จะขาดไป 1 วัน

3. ปฏิทินจีวเลียนแก้ไขโดยให้เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน 4 ปีครั้ง คือ ทุกปี ค.ศ. ทีหารด้วยเลข 4 ลงตัวให้เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน แต่ก็จะเกินไปปีละ 11 นาที คือ คิดเพิ่มเต็ม 6 ชั่วโมงแทน 5 ชั่วโมง 49 นาที ดังนั้น 100 ปีจะเกินไป 1100 นาที ซึ่งเท่ากับ 18 ชั่วโมง

4. ปฏิทินเกรโกเรียนแก้ไขโดยให้เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน 4 ปีครั้ง คือ ทุก ค.ศ. ที่หารด้วยเลข 4 ลงตัว ให้เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน แต่ถ้า ค.ศ. ใดลงท้ายด้วย “00” (เช่น ค.ศ. 1600, 1700, 1800, …) แม้จะหารด้วยเลข 4 ลงตัว ก็ให้เดือนกุมภาพันธ์มีเพียง 28 วัน เพื่อลดส่วนเกิน 18 ชั่วโมงที่เกินไปทุกๆ 100 ปี แต่ก็ลดเกินไป 6 ชั่วโมงทุกๆ 100 ปี เพราะลด 60 นาที แทน 49 นาที จึงต้องทดเพิ่ม 1 วัน ทุกๆ 400 ปี


รูปภาพ

5. ปฏิทินเกรโกเรียนแก้ไข่ต่อไปโดยให้เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน ยกเว้นปี ค.ศ. ใดสองหลักหลังหารด้วยเลข 4 ลงตัวให้เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน ยกเว้นปี ค.ศ. ใดลงท้ายด้วย “00” ให้เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วันยกเว้นปี ค.ศ. ใดลงท้ายด้วย “00” แต่เลขสองหลักแรกหารด้วย 4 ลงตัวให้เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วันดังตัวอย่างต่อไปนี้

ค.ศ.1595 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน
ค.ศ.1596 เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน เพราะ 2 หลักหลังหาร 4 ลงตัว
ค.ศ.1597 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน
ค.ศ.1598 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน
ค.ศ.1599 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน
ค.ศ.1600 เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน เพราะ 2 หลักหลังหาร 4 ลงตัว
และหน้าหลัก 100 หาร 4 ลงตัว
ค.ศ.1601 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน
ค.ศ.1602 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน
ค.ศ.1603 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน
ค.ศ.1604 เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน เพราะ 2 หลักหลังหาร 4 ลงตัว
ค.ศ.1605 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน
ค.ศ.1700 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน เพราะ 2 หลักหลังหาร 4 ลงตัว
แต่หน้าหลัก 100 หาร 4 ไม่ลงตัว
ค.ศ.1800 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน เพราะ 2 หลักหลังหาร 4 ลงตัว
หน้าหลัก 100 หาร 4 ไม่ลงตัว
ค.ศ.1900 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน เพราะ 2 หลักหลังหาร 4 ลงตัว
แต่หน้าหลัก 100 หาร 4 ไม่ลงตัว
ค.ศ.1999 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน
ค.ศ.2000 เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน เพราะ 2 หลักหลังหาร 4 ลงตัว
และหน้าหลัก 100 หาร 4 ลงตัว
ค.ศ.2001 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน
ค.ศ.2002 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน
ค.ศ.2003 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน
ค.ศ.2004 เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน เพราะ 2 หลักหลังหาร 4 ลงตัว
ค.ศ.2008 เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน เพราะ 2 หลักหลังหาร 4 ลงตัว
ค.ศ.2009 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน
ค.ศ.2010 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน
ค.ศ.2012 เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน เพราะ 2 หลักหลังหาร 4 ลงตัว
ค.ศ.2100 เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน เพราะ 2 หลักหลังหาร 4 ลงตัว
แต่หน้าหลัก 100 หาร 4 ไม่ลงตัว
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ก.ย. 11, 2012 2:11 am

ถามว่าลงตัวที่สุดแล้วหรือยัง ก็ต้องตอบว่ายัง เพราะทุกปียังเกินไป 14 วินาที (คือเพิ่ม 60 วินาที แทน 46 วินาที) ดังนั้น 4 ปีจะเกินไป 1 นาที 240 ปีจะเกินไป 1 ชั่วโมง และ 5760 ปีและเกินไป 1 วันไว้รอถึงตอนนั้นก่อนค่อยประกาศลดเสีย 1 วัน โดยหาปีไหนที่เดือนกุมภาพันธ์ควรมี 29 วัน ก็ให้ลดเหลือ 28 วัน ก็จะหมดปัญหา อีกนานมากยังไม่ต้องเป็นห่วง

ถ้าคิดให้ละเอียดจริงๆ ก็มีปัญหาต่อไปอีก เพราะที่หักออก 1 วันใน 5760 ปีนั้นลดเกินไป 4 วินาทีต่อ 4 ปี หรือลดเกินไปปีละ 1 วินาที หรอ 60 ปีลดเกินไป 1 นาที หรือ 3600 ปีลดเกินไป 1 ชั่วโมง หรือ 86400 ปีลดเกินไป 1 วัน เพราะฉะนั้นเมื่อใช้ปฏิทินเกรโกเรียนไปได้ 86400 ปีเมื่อใด ก็ต้องเพิ่มชดเชยให้ 1 วัน ณ ปีใดก็ได้ที่เดือนกุมภาพันธ์มี 28 วัน ก็เพิ่มเป็น 29 วันเสียครั้งหนึ่งก็หมดเรื่อง

ครับใครอยู่ถึงตอนนั้นก็ช่วยจำไว้ด้วยก็แล้วกันครับ และเมื่อทำตามที่แนะนำไว้เช่นนี้แล้วก็อย่าลืมเริ่มต้นนับ 1 ใหม่นะครับ เมื่อไรได้ 86400 ปีก็ช่วยเพิ่ม 1 วันอีกสักครั้งหนึ้งด้วยครับ


อ้างอิง-อุดมศาสนต์ กันยายน 2012 หน้า 28-31
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

อังคาร ก.ย. 11, 2012 10:17 pm

:s007: :s007:
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

พุธ ก.ย. 12, 2012 8:01 pm

::036:: ::024:: ::024:: ::039:: ::056:: เหมือนนั่งเรียนวิชาดาราศาสตร์ :s023:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

พุธ ก.ย. 12, 2012 8:36 pm

:s007: :s007:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

พุธ ก.ย. 12, 2012 8:36 pm

:s007: :s007:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6665
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พุธ ก.ย. 19, 2012 10:42 am

เอ ...แล้วปฎิทินของชาวมายันเป็นอย่างไร พอจะทราบไหมคะ
เห็นข่าวบอก นักโบราณคดีพบ ปฎิทินของชาวมายัน บอกถึงการสิ้นยุค
สิ้นโลกอะไรทำนองนี้แหละค่ะ
...แต่เราชาวคริสต์ไม่เชื่อค่ะ พระเยซูบอกว่ามีแต่พระบิดาเท่านั้นที่รู้...
:s015:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

พุธ ก.ย. 19, 2012 5:05 pm

ม๊า ผมรู้มาว่าปฎิทินของมายันพูดถึงการสิ้นยุคสมัยแต่จะเริ่มยุคสมัยใหม่ ผู้คนใหม่ๆ สิ่งใหม่ๆ แต่คนต่างชาติตีความกันไปเองว่าจะสิ้นโลก :s015:
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

พุธ ก.ย. 19, 2012 6:22 pm

มี้ เค้าบอกว่าเป็นว่าปฎิทินของชาวมายา วันสุดท้ายของปฎิทินคือวันสิ้นโลกอ่ะค่ะ ::014::
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

พุธ ก.ย. 19, 2012 7:07 pm

ม่ายช่าย ชาวมายาบอกว่าแค่สิ้นยุคสมัยเดิม
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

พุธ ก.ย. 19, 2012 7:17 pm

ม่ายรู้สิ :s013:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

พุธ ก.ย. 19, 2012 7:20 pm

:s013: :s013:
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

พุธ ก.ย. 19, 2012 7:29 pm

โอป้าก็ลองไปถามชาวมายาดูจะได้รู้กันไปเลย :s013:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

พุธ ก.ย. 19, 2012 8:10 pm

:s004: ไม่ถาม
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

พุธ ก.ย. 19, 2012 8:12 pm

ถามเองกะได้ ::003::
ตอบกลับโพส