พระิดำรัสของ สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2 เกี่ยวก

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

จันทร์ ต.ค. 01, 2012 7:18 pm

 
พระิดำรัสของ สมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2

เกี่ยวกับ "คุณค่าชีวิตพิศเพ่ง ภาวนา ของบรรดานักพรตสตรี ที่ปิดขังตนอยู่ในอาราม"
 
 

        ชีวิตนักพรตสตรีที่ปิดขังตนในอาราม  สมควรได้รับความใส่ใจเป็นพิเศษสำหรับความยกย่องเป็นอย่างสูง  ซึ่งขุมนุม
ชาวคริสต์หล่อเลี้ยงไว้ต่อชีวิตประเภทนี้   อันเป็นเครื่องหมายแห่งความสนิทเป็นหนึ่งเดียวอันเป็นสิทธิโดยเฉพาะระหว่าง
พระศาสนจักรผู้เป็นคู่วิญญาณกับองค์พระผู้เป็นเจ้าของตน ซึ่งเป็นที่รักเหนืออื่นใด   แท้จริง ชีวิตนักพรตสตรีที่ปิดขังตนอยู่
ในอารามและอุทิศตนให้แก่การภาวนา  การบำเพ็ญพรตและการก้าวหน้าอย่างร้อนรนในชีวิตจิตเป็นสำคัญนั้น  
"มิใช่อื่นใดนอกจากหนทางไปสู่เยรูซาเล็มในสรวงสวรรค์"  และการคาดหมายล่วงหน้าถึงพระศาสนจักรในยุคสุดท้าย  
ซึ่งมีพระเจ้าไว้เป็นสมบัติในกรรมสิทธิ์ และได้มีโอกาสพินิจพิศเพ่งพระองค์อยู่ตลอดเวลา  เมื่อมองจากแง่มุมของกระแสเรียก
และพันธกิจที่ได้รับมาจากพระศาสนจักร   การปิดขังตนเองก็ถือได้ว่าเป็นการตอบสนองข้อเรียกร้องซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่า
มีความสำคัญเป็นอันดับแรกที่จะอยู่กับพระผู้เป็นเจ้า    โดยการเลือกพื้นที่อันจำกัดให้เป็นแหล่งดำเนินชีวิต  นักพรตหญิง
ที่ปิดขังตัวอยู่ในอารามก็มีส่วนร่วมใน "การสลายพระองค์"   ของพระคริสต์ในความยากจนถึงที่สุด  ซึ่งแสดงออกโดยการ
ตัดสละ มิเพียงสิ่งของเชิงวัตถุเท่านั้น  แต่ยังสละแม้กระทั่ง "พื้นที่"  สละการติดต่อสัมพันธ์และประโยชน์สุขอีกเป็นจำนวน
มากจากสิ่งสร้างวิธีพิเศษในการมอบ "กายตน" แบบนี้ ช่วยชักนำนักพรตสตรีให้เข้าถึงธรรมล้ำลึกแห่งศีลมหาสนิท
ได้อย่างซาบซึ้งยิ่งขึ้นพวกเขาถวายตนเองร่วมกับพระเยซูเจ้าเพื่อช่วยโลกให้รอด  นอกเหนือจากมิติด้านการเสียสละและ
การใช้โทษบาปแล้ว การถวายตนเองของพวกเขายังมีความหมาย  เป็นการโมทนาคุณขององค์พระบุตรสุดที่รักของพระบิดา

        เมื่อหยั่งรากลึกอยู่ในพลังที่เคลื่อนไหวฝ่ายจิตดังกล่าวนี้   การปิดขังตนเองจึงมิเพียงเป็นวิธีการบำเพ็ญพรตแบบหนึ่ง
ที่ทรงคุณค่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้เท่านั้น   แต่ยังเป็นวิธีการดำเนินชีวิตตามธรรมล้ำลึกแห่งปาสกาของพระคริสต์อีกด้วย
จากประสบการณ์ด้าน "ความตาย"   การปิดขังตนเองจึงกลายเป็นความอุดมสมบูรณ์อย่างล้นเหลือของชีวิตและปรากฏ
เป็นเสมือนการป่าวประกาศอย่างชืนชม   และการคาดหวังเชิงประกาศกของความเป็นไปได้ี่ที่เสนอมายังบุคคลทุกคน   และ
มนุษยชาติทั้งมวล  ที่จะดำเนินชีวิตอยู่เพียงเพื่อพระผู้เป็นเจ้าแต่อย่างเดียว ในองค์พระเยซูคริสต์   (เทียบ รม.6:11) 

        การปิดขังตน ชวนให้คิดถึง ห้องน้อยในหัวใจ  ซึ่ง ณ ที่นั้นแต่ละคนได้รับการเรียกให้มาำดำเนินชีวิต สนิทเป็นหนึ่ง
เดียวกับองค์พระผู้เป็นเจ้า   เมื่อการปิดล้อมตนอยู่ในอาราม เป็นที่ต้อนรับเสมือนของประทาน และเลือกสรรไว้ในฐานะเป็น
การตอบสนองด้วยความรักอย่างอิสระ   อารามจึงกลายเป็นแหล่งของความสนิทสัมพันธ์ทางจิตวิญญาณกับพระเจ้าและกับ
พี่น้องชายหญิง   ซึ่งคับแคบจำกัดด้วยพื้นที่และเข้มงวดในการติดต่อ กลายเป็นเครื่องส่งเสริม เอื้ออำนวยได้รับค่านิยมใน
พระวรสารไว้ในชีวิตภายใน    (เทียบ ยน.13:34, มธ.5:3-8)

        นักพรตที่ปิดขังตนอยู่ในอาราม ซึ่งตั้งประดุจนครบนภูเขาประหนึ่งดวงประทีปบนโคมระย้า    (เทียบ มธ.5:14-15)
แม้จะใช้ชีวิตอยู่อย่างราบเรียบ ก็ชวนให้นึกถึงจุดหมายซึ่งชุมชนพระศาสนจักรทั้งหมดกำลังดำเนินไปสู่อย่างเห็นได้ชัด
"ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยความร้อนรนที่จะปฏิบัติงาน  และอุทิศตนให้แก่การพิศเพ่งภาวนา"   ชุมชนพระศาสนจักรก็ก้าวเิดิน
ไปบนเส้นทางแห่งกาลเวลา ด้วยสายตาที่เพ่งจับอยู่ที่การทบทวนทุกสิ่งทุกอย่าง ในอนาคต ในองค์พระคริสต์    ในขณะที่
พระศาสนจักร "จะปรากฏพร้อมกับพระองค์ในพระสิริรุ่งโรจน์"   (เทียบ คส.3:1-4)   และองค์พระคริสต์   "และทรงมอบ
พระอาณาจักรให้แก่พระเจ้า พระบิดา  หลังจากที่ได้ทำลายการปกครอง อำนาจ และอานุภาพ ทั้งหลาย    เพื่อว่าพระเจ้า
จะได้ทรงเป็น ทุกสิ่งในทุกคน

        ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงขอแสดงความรู้คุณ ต่อภคินีผู้เป็นที่น่ารักยิ่งทั้งหลาย  ซึ่งข้าพเจ้าขอให้กำลังใจยังคงซื่อสัตย์ต่อชีวิต
ที่ปิดขังตนอยู่ในอารามตามพระพรพิเศษของพวกเธอ  อาศัยแบบฉบับของบุคคลเหล่านี้ชีิวตบำเพ็ญพรตในอารามก็ยังมี
กระแสเรียกอยู่เป็นจำนวนมาก   ซึ่งได้รับการชักนำเข้ามา อาศัยรากฐานอันลึกซึ้งของชีวิตการเป็น "คู่วิญญาณ"  ซึ่งอุิทศ
ตนแด่พระผู้เป็นเจ้าโดยสิ้นเชิง   ในการพิศเพ่งภาวนา ในฐานะเป็็นการแสดงออกถึงความรักอันบริสุทธิ์ ซึ่งทรงคุณค่ายิ่ง
กว่าภารกิจใดๆ   ชีวิตพิศเพ่งภาวนามีประสิทธิภาพอยู่ในตนอย่างน่าประหลาดมหัศจรรย์ ทั้งในด้านการแพร่ธรรมและ
การเป็นธรรมทูต

                                                          ( VIA CONSECRATA 59 )


                                                    ให้ไว้ เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1996
                                                     ณ กรุงโรม   ใกล้มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์
                                           ในวันสมโภชพระนางมารีรับสารจากอัครเทวดากาเบรียล :s015: :s012:
ตอบกลับโพส