
...ในแต่ละปีมีผู้แสวงบุญหลายหมื่นคนไปเยี่ยมสักระสถานพระเมตตา ในสต็อกบริดจ์
แมสซาชูเซ็ท หนึ่งในนั้นคือครอบครัวของจิมและโรส ชิฟเล็ตต์ ที่มาแบ่งปัน เรื่องราว
เกี่ยวกับพลังของการสวดสายประคำพระเมตตาให้เราฟัง
...."ผมไม่รู้จักนักบุญโฟตินามาก่อน" จิมกล่าว แม้เขาจะทราบประวัตินักบุญ
องค์อุปถัมภ์ของวัดในเคลียร์มอนต์ ฟลอริดาและนักบุญอีกหลายต่อหลายองค์ก็ตาม
" มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมบอกตัวเองว่าผมจะศึกษาเรื่องราวของนักบุญโฟตินา
ผมจึงนั่งอ่านเรื่องของเธอทั้งหมอตลอดสองอาทิตย์ในช่วงมหาพรตที่ผ่านมา "
... ต่อมา วันจันทร์ในสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ จิมกับโรส -ภรรยาของเขา ก็ได้รับโทรศัพย์
ที่พ่อแม่ทุกคนไม่อยากได้ยินที่สุด เสียงตามสายแจ้งมาว่าไบรอันลูกชายคนกลาง
ป่วยขั้นวิกฤติ อยู่ห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
...ไบรอันตกจากแท่นลำเลียงสินค้าตอนทำงาน ปรากฎว่าปอดที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียว
ของไบรอันเกิดฟกช้ำ เขามีอาการย่ำแย่ลงในช่วงไม่กี่วันถัดมา จนถึงขั้นหายใจไม่ออก
ตอนตีสามของเช้าวันนั้น และเกิดภาวะการหายใจล้มเหลวตามมา " ลูกสะไภ้กับเพื่อน
บ้านจึงช่วยกันผายปอดให้เขาฟื้นคืนสติ แต่ไบรอันขาดออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมองนาน
ถึง12 นาที ก่อนหน่วยกู้ชีพจะมาถึง เขาต้องอยู่ห้องไอซียู 17 วัน
...จิมเล่าว่า " เราจับเครื่องบินมาบัลติมอร์ทันที ลืมแม้กระทั่งเสื้อผ้า แต่สิ่งที่ผมไม่ลืม
นำไปด้วยก็คือบทสวดสายประคำพระเมตตาและนักบุญโฟตินา เราถึงที่นั่นกลางดึก
คืนวันจันทร์ พอเช้าวันอังคาร เราก็ได้รับโทรศัพย์ให้รีบไปที่โรงพยาบาลทันทีเพราะอาการ
ของไบรอันเข้าขั้นตรีทูตแล้ว แพทย์ที่นั่นประกาศว่าเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว เพราะสมองเขา
ตายหมดแล้วทุกส่วน... หมอเชิญพวกเราเข้ามาคุยในห้องทำงาน แจ้งว่าแพทย์พร้อมจะ
ถอดเครื่องช่วยหายใจแล้ว "
...เราจึงเชิญพระสงฆ์ที่วัดนักบุญมาร์กาเร็ตมาทำพิธีโปรดศิลเจิม ส่วนพ่อตา-แม่ยายของ
ไบรอันก็เชิญพระสงฆ์จากวัดนักบุญอิกญาซีโอมาด้วย ส่วนผมก็สวดสายประคำพระเมตตา
ที่ผมนำติดตัวมา "
...โรสเสริม " ฉัน จิมกับจิมมี่-ลูกชายคนเล็ก เริ่มสวดสายประคำพระเมตตาให้เขา "