เลือกนักบุญอุปถัมภ์

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
mimmim
โพสต์: 21
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 04, 2014 4:12 pm

จันทร์ ก.ย. 15, 2014 12:34 am

มีคำถามอีกแล้วครับ

นักบุญอุปถัมภ์ เวลาเราเลือกท่านต้องจำกัดไหมครับว่า สมมติว่า เราทำอาชีพหมอ นักบุญองค์อุปถัมภ์จะต้องเกี่ยวกับหมอไหมครับ ? โปรดอธิบายด้วยนะครับ?

คือตอนนี้ผมมีโอกาสเป็นเด็กช่วยมิสซา ซึ่งมีความรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งเหมือนได้ใกล้ชิดพระองค์ และ อยากถามว่ามีนักบุญองค์ไหนที่เป็นองค์อุปถัมภ์เด็กช่วยมิสซาไหมครับ

เพราะหาไม่ค่อยเจอส่วนมากที่อ่านประวัติเหล่านักบุญ จะอุปถัมภ์ด้านอาชีพ ช่างไม้ ประมง หมอ ไม่ก็นักปราชน์

ขอบคุณครับ :s030: :s030:
ภาพประจำตัวสมาชิก
Dominic
โพสต์: 50
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ย. 13, 2012 8:19 pm

จันทร์ ก.ย. 15, 2014 7:40 am

นักบุญโดมินกีโต เดล วาล
Santo Dominguito del Val
ฉลองในวันที่ : 31 สิงหาคม
องค์อุปถัมภ์ : เด็กช่วยมิสซา

ณ มุมเล็กๆของวัดในตอนเย็นในวันนี้ ภาพที่เราพบคือภาพชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่คนเดียวกับน้ำตาที่ไหลมาไม่หยุดจากความเป็นทุกข์ที่หลอกหลอนเขามาหลายปี ภาพวันนั้นยังอยู่ในความทรงจำของเขาได้ทุกฉาก แม้กาลเวลาจะผ่านมานานแค่ไหน ภาพที่เขาได้ลงมือฆ่าเด็กผู้บริสุทธิ์ผู้หนึ่งซึ่งไร้ทางสู้อย่างโหดร้าย เพียงเพราะความเกลียดชัง




โดมินโก เด วาลเกิดที่เมืองซาราโกซา ประเทศสเปนในปี ค.ศ.1243 เป็นบุตรชายของซานโช เด วาล ทนายความ กับ อิซาเบล และได้รับศีลล้างบาปในวันเดียวกัน หลังจากนั้นท่านก็เติบโตขึ้นมาท่ามกลางความศรัทธา ไปมิสซาทุกวันอาทิตย์ซึ่งนำความประทับใจมาสู่วิญญาณน้อยๆของท่าน โดยเฉพาะเด็กช่วยมิสซา ท่านคอยเฝ้าดูพวกเขาตลอดมิสซา ท่านพยายามจดจำบทตอบรับของพวกเขาแล้วนำกลับมาปฏิบัติที่บ้าน ว่างๆท่านก็ชอบไปเรียนรู้พิธีกรรมในวัด

“ผมปรารถนาที่จะช่วยมิสซาเช่นพวกเขา ได้ใกล้ชิดตู้ศีลเช่นพวกเขา ที่สถิตของพระเจ้า ได้ช่วยพระสงฆ์และถวายความเสียสละอันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์” และเมื่อเจริญวัยขึ้นมาท่านก็เริ่มเป็นเด็กช่วยมิสซาในอาสนวิหารและนักขับด้วยคุณสมบัติที่เปี่ยมด้วยความยำเกรง ความบริสุทธิ์และน้ำเสียงที่ไพเราะ ดังนั้นในแต่ละวันท่านจะเดินทางไปช่วยมิสซาที่วัดด้วยความกระตือรือร้น ก่อนเรียนเพลงต่างๆในพิธีและเรียนหนังสือตามปกติในโรงเรียน ท่านสวมชุดเด็กช่วยมิสซาด้วยความภาคภูมิและทุกๆครั้งก่อนเข้าวัดท่านจะหยุดอยู่ที่ประตู สำรวจที่เท้า หลังจากนั้นท่านจึงเข้าไปแตะน้ำเสก ก่อนไปคุกเข่าภาวนาต่อหน้าตู้ศีลเพื่อเตรียมพร้อมจะไปช่วยมิสซา




แต่ในระหว่างทางท่านต้องเดินผ่านตรอกของชาวยิว ที่ไม่ชอบท่านเพราะท่านและเพื่อนชอบร้องเพลงสรรเสริญพระเยซูคริสต์ไประหว่างทาง ทำให้พวกเขาตัดสินจะฆ่าท่านเสีย และตามคำพูดของหมอดูชาวยิวที่อ้างว่าถ้าโยนแผ่นศีลและหัวใจของคริสตชนลงในแม่น้ำจะทำให้คริสตชนที่ได้ดื่มน้ำนั้นตาย แผนจึงเริ่มขึ้นโดยมีสตรีคนหนึ่งแสร้งทำไปเป็นรับศีล ก่อนลักเก็บไว้ที่ผ้าเช็ดหน้าของหล่อน หลังจากนั้นพวกเขาจึงเดินไปยังไปหาพวกคริสตชนที่ยากจนและหิวโหย เพื่อเสนอเงินแลกกับหัวใจของหนึ่งในบรรดาลูกๆของเขา แต่ด้วยชายผู้นั่นเป็นคริสตชนที่ดี เขาจึงแกล้งรับข้อเสนอแล้วจัดการให้ลูกคนหนึ่งของเขาหวีดร้องอย่างทรมาน ส่วนเขาก็ไปผ่าเอาหัวใจหมูมาให้พวกชาวยิวกลุ่มนั้น

ตามตำนานเล่าต่อว่าเมื่อพวกเขาโยนสองสิ่งลงไปในแม่น้ำโรคระบาดก็แพร่ไป แต่ไม่ใช่ในคนแต่เป็นพวกหมูที่ต่างติดโรคและล้มตายเป็นจำนวนมาก ทำให้ชาวยิวกลุ่มนั้นตระหนักได้ว่าพวกเขาเสียรู้เสียแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะลงมือทำเอง หัวใจของเด็กคริสตชน




กระทั้งในวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์ในปี ค.ศ.1250 ขณะกลับจากร่วมงานท่านในวัย 7 ปี ก็ถูกกลุ่มชาวยิวกลุ่มนั้นเข้าล็อกคอ ก่อนใช้ผ้าปิดปากท่านและลากท่านไป พวกเขาเย้ยหยันท่านเช่นปรากฏในพระวรสารมีหนึ่งคนเล่นเป็นปิลาต , อีกคนเป็นคายาฟาส และถามท่านว่าท่านจะเป็นคริสตชนอยู่ไหม ถ้าไม่เป็นจะปล่อยไป ท่านตอบอย่างแน่วแน่ว่า “ครับ ผมชอบที่จะตายมากกว่าต้องทรยศต่อศาสนาแห่งพระเยซูเจ้าของเรา”

พวกเขาจึงจับท่านสวมมงกฎหนามแล้วตรึงกางเขนกับผนัง ระหว่างนั้นท่านร้องแต่พระนามพระเยซูเจ้า แม่และแม่พระจนกระทั้งก่อนจบชีวิตลง ท่านก็ได้พูดว่า “พระบิดาเจ้าข้า โปรดประทานการอภัย เพระพวกเขาไม่รู้ถึงสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป” หลังจากนั้นพวกเขาเอาหัวใจท่านออกมา และกระชากศพท่านลงไปฝังในหลุมทรายริมฝั่งของแม่น้ำเอโบร




การหายตัวไปของท่านยังความเศร้าโศกแก่บิดามารดาที่นับวันยิ่งหมดหวังที่จะพบท่าน จนไม่กี่สัปดาห์ถัดมา ชาวประมงก็ได้เห็นแสงสว่างที่ตลิ่งแม่น้ำ และเมื่อแสงหายไปเขาก็พบร่างของท่าน หลังจากนั้นร่างของท่านก็ถูกนำไปฝังอย่างสงบในวัดซาน เอกิดิโอ ก่อนถูกย้ายไปไว้ในวัดที่สร้างเพื่อท่าน

ใช่แล้ว ชายผู้นั้นคือหนึ่งในฆาตกรที่ลงมือฆ่าท่าน เย็นนี้เขามาวอนขอพระหรรษทานจากท่านด้วยใจ และเป็นดังนั้นเขามีพลังที่จะลุกไปสารภาพถึงเรื่องทุกอย่าง พร้อมขอรับศีลล้างบาปกลายมาเป็นคริสตชน เขาเป็นคนเดียวที่รอดจากการถูกตัดสินประหารชีวิตเพราะเขาสารภาพความจริง เมื่อถูกจับได้




“ไม่มีเหตุผลใดที่จะต้องละอายต่อข่าวดี” (โรม 1:16) แบบฉบับของท่านคือการยืนยันถึงความเชื่อที่ว่าพระเยซูเจ้าผู้ทรงบังเกิดและทรงรับทรมานบนกางเขนคือพระผู้ไถ่กู้ที่ทุกคนรอคอย ท่านจึงอายหรือกลัวที่จะกล่าวต่อผู้จะทำร้ายท่านว่า “ครับ ผมชอบที่จะตายมากกว่าต้องทรยศต่อศาสนาแห่งพระเยซูเจ้าของเรา” และไม่อายที่จะกล่าวเช่นพระเยซูเจ้าบนไม้กางเขนว่า “พระบิดาเจ้าข้า โปรดประทานการอภัย เพระพวกเขาไม่รู้ถึงสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป” การยืนยันความเชื่อของเราไม่จำเป็นว่าเราต้องมีอายุมากก่อน แต่มันอยู่ที่จิตใจ ใจที่ไม่ละอายต่อความจริงที่ว่าพระเยซูเจ้าคืออิมมานูเอล นั่นแหละคือ ดวงใจของผู้เป็นธรรมสักขีแห่งความเชื่อ การช่วยมิสซาก็เป็นการยืนยันถึงความเชื่อเช่นกัน เพราะ เป็นการยืนยันว่ามิสซาที่ถวายนั้นเป็นบูชาเดียวกันกับพระคริสตเจ้าที่กางเขน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Dominic
โพสต์: 50
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ย. 13, 2012 8:19 pm

จันทร์ ก.ย. 15, 2014 7:49 am

ลองอ่านประวัติท่านดู แล้วประทับใจ หรือตรงกับเราไหมว่า นี่แหละคือแบบอย่างของเราได้ สวดขอพระครับ แล้วพระจะเลือกสรรให้เราเอง

ลองอ่านประชุตินักบุญหลายๆท่านดู ว่าชีวะประวัติ ของท่าน แบบไหน ตรงตามที่เราต้องการมากที่สุด คนไหนที่เราประทับใจ

น่าแปลก หลังจากเลือกนักบุญแล้ว หลายๆหลายๆคนมักมีบุคลิกคล้ายกับนักบุญอุปถัมภ์ของเขา
mimmim
โพสต์: 21
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 04, 2014 4:12 pm

จันทร์ ก.ย. 15, 2014 7:22 pm

ขอบคุณมากครับผม
เป็นข้อมูลที่เอื้ออำนวยมากเลยครับ :s015: :s024:
ตอบกลับโพส