บทอ่าน พระวรสาร บทเทศน์เด็ด ของคุณพ่อ อัลเลน บาวส์ (รับเชิญ จากรัฐฟลอริด้า) วัดพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ( Father Allen, Sacred Heart Parish, Lacey ,WA, U.S.A.)
บทอ่านที่หนึ่ง อพยพ 16:2-4, 12-15
มานนาและนกคุ่ม
ชุมชนชาวอิสราเอลต่างต่อว่าโมเสสและอาโรนในถิ่นทุรกันดาร ชาวอิสราเอลพูดกับเขาทั้งสองว่า “พระหัตถ์ของพระยาห์เวห์ประหารชีวิตพวกเราในแผ่นดินอียิปต์เมื่อนั่งอยู่รอบหม้อเนื้อและกินอิ่มยังดีกว่าที่ท่านพาพวกเราออกมาในถิ่นทรุกันดารนี้ เพื่อให้พวกเราทุกคนอดตาย” พระยาห์เวห์จึงตรัสกับโมเสสว่า “ดูซิ เราจะบันดาลให้มีอาหารตกลงมาจากฟ้าเหมือนฝนให้ท่านทั้งหลายกิน ทุกวันประชากรต้องออกไปเก็บอาหารให้พอกินในวันนั้น เราจะได้ทดลองดูว่าเขาปฏิบัติตามบัญญัติของเราหรือไม่ “เราได้ยินคำต่อว่าของชาวอิสราเอลแล้ว จงบอกเขาดังนี้ว่า เวลาพลบค่ำ ท่านทั้งหลายจะมีเนื้อกิน และเวลาเช้า ท่านจะมีอาหารกินจนอิ่ม แล้วท่านทั้งหลายจะรู้ว่า เราคือพระยาห์เวห์ พระเจ้าของท่าน” เย็นวันนั้น ฝูงนกคุ่มบินมาจนเต็มค่าย ในเวลาเช้า มีน้ำค้างแผ่กระจายทั่วไปรอบค่ายพัก เมื่อน้ำค้างระเหยแล้ว ก็เห็นมีเกล็ดเป็นเม็ดเล็กๆบนผิวดินในถิ่นทุรกันดาร เหมือนน้ำค้างที่จับแข็ง เมื่อชาวอิสราเอลเห็น เขาไม่รู้ว่าเป็นอะไร จึงถามกันว่า “นี่เป็นอะไร”โมเสสบอกเขาว่า “นี่แหละอาหารที่พระยาห์เวห์ประทานให้ท่านกิน
บทอ่านที่สอง เอเฟซัส 4:17, 20-24
ชีวิตใหม่ในพระคริสตเจ้า
ข้าพเจ้าขอพูดและย้ำเตือนท่านทั้งหลายในองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า อย่าดำเนินชีวิตโดยไร้ความคิดดังที่คนต่างศาสนาทำ แต่ท่านมิได้มารู้จักพระคริสตเจ้าเช่นนั้น ท่านได้ฟังเรื่องราวและรู้จักองค์พระคริสตเจ้าตามความจริงที่ปรากฏอยู่ในพระเยซูเจ้าแล้ว ท่านจงถอดสภาพมนุษย์เก่า เลิกประพฤติเลวทรามตามราคตัณหาที่หลอกให้หลงไป จงมีจิตใจและความรู้สึกนึกคิดอย่างใหม่ จงสวมใส่สภาพมนุษย์ใหม่ซึ่งพระเจ้าทรงเนรมิตให้เหมือนพระองค์ มีความชอบธรรมและความศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากความจริง
พระวรสาร โดยนักบุญยอห์น 6:24-35
พระเยซูเจ้าทรงเทศน์สอนในศาลาธรรมที่เมืองคาเปอรนา
เมื่อประชาชนเห็นว่าทั้งพระเยซูเจ้า และบรรดาศิษย์ไม่อยู่ที่นั่นแล้ว ก็ลงเรือ มุ่งไปที่เมืองคาเปอรนาอุมเพื่อตามหาพระเยซูเจ้า เมื่อพบพระองค์ที่ฝั่งตรงข้าม จึงทูลถามว่า “พระอาจารย์ ท่านมาที่นี่เมื่อไร” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านแสวงหาเรา มิใช่เพราะได้เห็นเครื่องหมายอัศจรรย์ แต่เพราะได้กินขนมปังจนอิ่ม อย่าขวนขวายหาอาหารที่กินแล้วเสื่อมสลายไป แต่จงหาอาหารที่คงอยู่และนำชีวิตนิรันดรมาให้ อาหารนี้บุตรแห่งมนุษย์จะประทานให้ท่าน เพราะพระเจ้าพระบิดาทรงประทับตรารับรองบุตรแห่งมนุษย์ไว้แล้ว” เขาเหล่านั้นจึงทูลว่า “พวกเราจะต้องทำอะไรเพื่อให้กิจการของพระเจ้าสำเร็จ” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “กิจการของพระเจ้าคือให้ท่านทั้งหลายเชื่อในผู้ที่พระองค์ทรงส่งมา” ประชาชนจึงทูลถามว่า “ท่านกระทำเครื่องหมายอัศจรรย์ใดเพื่อพวกเราจะได้เห็น และจะได้เชื่อในท่าน ท่านทำอะไร บรรพบุรุษของเราได้กินมานนาในถิ่นทุรกันดาร ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า พระองค์ประทานขนมปังจากสวรรค์ให้เขากิน” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า มิใช่โมเสสที่ให้ขนมปังจากสวรรค์แก่ท่าน แต่เป็นพระบิดาของเราที่ประทานขนมปังแท้จากสวรรค์ให้ท่าน เพราะขนมปังของพระเจ้า คือขนมปังซึ่งลงมาจากสวรรค์ และประทานชีวิตให้แก่โลก’ ประชาชนจึงทูลว่า “นายขอรับ โปรดให้ขนมปังนี้แก่พวกเราเสมอเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า เราเป็นปังแห่งชีวิต ผู้ที่มาหาเราจะไม่หิว และผู้ที่เชื่อในเราจะไม่กระหายอีกเลย
คุณพ่ออัลเลน: พ่อขอบใจคุณพ่อไบรอันเจ้าอาวาสที่เปิดโอกาสให้พ่อได้มาทํามิสซาและชวนเชิญผู้มีจิตศรัทธาให้บริจาคเงินสนับสนุนองค์กรไม้กางเขนคาทอลิกยื่นช่วยเหลือ ( Cross Catholic Outreach) พ่อเป็นอดีตนายทหารเรือและเป็นพระสงฆ์ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา
หลายสิบปีมาแล้ว เครื่องบินที่พ่อนั่งบินผ่านคล้าก แอร์เบส ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ( Clark Airbase Philippines
ทุกคนคงจําพระวรสารโดยนักบุญมัทธิว ได้ดีนะครับ (มท 25: 31-46 “เมื่อบุตรแห่งมนุษย์จะเสด็จมาในพระสิริรุ่งโรจน์พร้อมกับบรรดาทูตสวรรค์ พระองค์จะประทับเหนือพระบัลลังก์อันรุ่งโรจน์ บรรดาประชาชาติจะมาชุมนุมกันเฉพาะพระพักตร์ พระองค์จะทรงแยกเขาออกเป็นสองพวก ดังคนเลี้ยงแกะแยกแกะออกจากแพะ ให้แกะอยู่เบื้องขวา ส่วนแพะอยู่เบื้องซ้าย แล้วพระมหากษัตริย์จะตรัสแก่ผู้ที่อยู่เบื้องขวาว่า ‘เชิญมาเถิด ท่านทั้งหลายที่ได้รับพระพรจากพระบิดาของเรา เชิญมารับอาณาจักรเป็นมรดกที่เตรียมไว้ให้ท่านแล้วตั้งแต่สร้างโลกเพราะว่า เมื่อเราหิว ท่านให้เรากิน เรากระหาย ท่านให้เราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ต้อนรับ เราไม่มีเสื้อผ้า ท่านก็ให้เสื้อผ้าแก่เรา เราเจ็บป่วย ท่านก็มาเยี่ยม เราอยู่ในคุก ท่านก็มาหา’ “บรรดาผู้ชอบธรรมจะทูลถามว่า ‘พระเจ้าข้า เมื่อใดเล่าข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงหิว แล้วถวายพระกระยาหาร หรือทรงกระหาย แล้วถวายให้ทรงดื่ม เมื่อใดเล่าข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงเป็นแขกแปลกหน้า แล้วต้อนรับ หรือทรงไม่มีเสื้อผ้า แล้วถวายให้ เมื่อใดเล่าข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นพระองค์ประชวรหรือทรงอยู่ในคุกแล้วไปเยี่ยม’ พระมหากษัตริย์จะตรัสตอบว่า ‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านทำสิ่งใดต่อพี่น้องผู้ต่ำต้อยที่สุดของเราคนหนึ่ง ท่านก็ทำสิ่งนั้นต่อเรา’ แล้วพระองค์จะตรัสกับพวกที่อยู่เบื้องซ้ายว่า ‘ท่านทั้งหลายที่ถูกสาปแช่ง จงไปให้พ้น ลงไปในไฟนิรันดรที่ได้เตรียมไว้ให้ปีศาจและพรรคพวกของมัน เพราะว่า เมื่อเราหิว ท่านไม่ให้อะไรเรากิน เรากระหาย ท่านไม่ให้อะไรเราดื่ม เราเป็นแขกแปลกหน้า ท่านก็ไม่ต้อนรับ เราไม่มีเสื้อผ้า ท่านก็ไม่ให้เสื้อผ้า เราเจ็บป่วยและอยู่ในคุก ท่านก็ไม่มาเยี่ยม’ พวกนั้นจะทูลถามว่า ‘พระเจ้าข้า เมื่อใดเล่าที่ข้าพเจ้าทั้งหลายเห็นพระองค์ทรงหิว ทรงกระหาย ทรงเป็นแขกแปลกหน้า หรือไม่มีเสื้อผ้า เจ็บป่วย หรืออยู่ในคุก และไม่ได้ช่วยเหลือ’ พระองค์จะตรัสตอบว่า ‘เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านไม่ได้ทำสิ่งใดต่อผู้ต่ำต้อยของเราคนหนึ่งท่านก็ไม่ได้ทำสิ่งนั้นต่อเรา’ แล้วพวกนี้ก็จะไปรับโทษนิรันดร ส่วนผู้ชอบธรรมจะไปรับชีวิตนิรันดร”)
พวกที่ถูกลงโทษนิรันดรนั้น ไม่ได้ทําบาปร้ายแรงทําร้ายหรือฆ่าผู้ใด แต่ถูกลงโทษเพราะความใจจืดใจดํา! เมื่อเราตายแล้วยืนต่อหน้าพระองค์ พระองค์ไม่ถามว่า มีปริญญากี่ใบ มีเงินกี่ล้าน...
มีคนตายทั่วโลกเพราะความหิวทุกวัน วันละ 25,000 คน และในจํานวนนี้ มีเด็กตายมากกว่า 10,000 คน มากกว่าโรคเอดส์ มาลาเรีย วัณโรค รวมกัน นํ้าที่ประเทศเราไม่ถือเป็นเรื่องใหญ่ แต่หนึ่งในสามของโลก นํ้าเป็นปัจจัยสําคัญของชีวิตที่บางคนต้องแบกตามหาจากบ่อ จากลําธาร จากแม่น้ำ เป็น ระยะทาง 4-5 กิโลเมตร
องค์กรไม้กางเขนคาทอลิกยื่นช่วยเหลือเป็นองค์กรที่เงิน 94.03% (บริหารและระดมทุน 5.97%) ถูกส่งไปให้กับสังฆราช พระสงฆ์ ซิสเตอร์ ของท้องถิ่นที่เราได้ไปพบ เห็นกับตา ปรึกษาหารือร่วมกัน เราจะอยู่จนกว่าทุกอย่างได้ทําสําเร็จสมความตั้งใจ: 1) อาหาร 2) ที่อยู่อาศัย 3) การดูแลรักษาสุขภาพ 4) การศึกษา 5) การมีงานทำ
คุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา ผู้ที่พ่อชื่นชอบและถือเป็นตัวอย่างทําตาม ได้พูดว่า: เราต้องร่วมเจ็บปวดกับพวกเขาที่ยากจนข้นแค้น ร่วมกับความเจ็บปวดทรมานของพระเยซูเจ้า ไม่ใช่เฉพาะแต่ทางร่างกายแต่ผู้ที่ยากจนทางจิตใจด้วย
พ่อขอบอกกับพวกคุณทุกคนว่า: จงทําตามความหวังความตั้งใจให้ดีที่สุดแต่ขณะเดียวกันจงเปิดตาเปิดใจฟังเสียงพระเป็นเจ้าแล้วทําตามความปรารถนาของพระองค์
ลูกวัด: ตบมือสนั่นหวั่นไหว
เมื่อจบมิสซา ผมนั่งในวัดแล้วรําลึกถึงคําเทศน์ของคุณพ่อไบรอันที่ผมเองไม่เคยนึกเคยฟังจากผู้ใดมาก่อนเพราะท่านบอกว่าพระสังฆราชของท่านได้ให้แง่มุมคิดอีกมุนเกี่ยวกับอาณาจักรสวรรค์ ที่พระเยซูเจ้าทรงค้นพบ ทรงขายทุกอย่าง ทรงยอมสิ้นพระชนม์เพื่อจะได้ครอบครอง
พระวรสารโดยนักบุญมัทธิว 13:44-46 “อาณาจักรสวรรค์เปรียบได้กับขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในทุ่งนา คนที่พบก็ฝังซ่อนสมบัตินั้น และยินดีกลับไปขายทุกสิ่งที่มีมาซื้อนาแปลงนั้น” “อาณาจักรสวรรค์ยังเปรียบได้อีกกับพ่อค้าที่แสวงหาไข่มุกเม็ดงาม เมื่อได้พบไข่มุกที่มีค่าสูง เขาจะไปขายทุกสิ่งที่มีมาซื้อไข่มุกเม็ดนั้น”
พระเยซูเจ้า พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครสาวก นักบุญ มรณสักขี ผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกของเรา ในอดีตและปัจจุบัน ได้ค้นพบอาณาจักรสวรรค์นี้และได้ขายทุกสิ่ง รวมทั้งการสิ้นชีพเพื่อจะได้ครอบครองอาณาจักรสวรรค์นี้...
( อ่านจบ: อยากอ่านอีกหรืออยากอ่านบทเทศน์ด็ดแทรกอารมณ์ขันของอาทิตย์ต่างๆที่ผ่านมา อ่านที่ www.newmana.com เวปบอร์ด สนทนาธรรม สามัคคีธรรม และสารของแม่พระผู้เห็นอกเห็นใจฯ
http://www.newmana.com/phpbb/viewforum.php?f=8 ใต้หัวข้อ บทเทศน์เด็ดแทรกอารมณ์ขันของมิสซาวันอาทิตย์ โพสต์โดย Yan Agape)
อ้างอิง ขอบคุณ: bible.usccb.org, พระคัมภีร์คาทอลิก kamsornbkk.com, www.google.com , CrossCatholic.org/outreach
กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน