นักบุญโอลกาแห่งเคียฟ (Saint Olga of Kiev) โดย Emily Woodham

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Arttise
โพสต์: 1197
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.พ. 19, 2017 3:45 pm

เสาร์ ก.ค. 27, 2024 4:02 pm

นักบุญโอลกาแห่งเคียฟ (Saint Olga of Kiev) โดย Emily Woodham

รูปภาพ

เรื่องราวความศรัทธาของราชินีม่าย นักบุญโอลกาแห่งเคียฟ (ประเทศยูเครน🇺🇦) มีความคล้ายคลึงกับเรื่องราวของนักบุญผู้เป็นราชวงศ์คนอื่นๆ ท่านใช้ความมั่งคั่งและอิทธิพลของท่านในการสร้างวัด , เลี้ยงดูคนยากจน และเผยแพร่พระวรสาร อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ของนักบุญโอลกาโดดเด่นก็คือ ความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับชีวิตของท่านก่อนกลับใจมาเป็นคริสตชน

เรื่องราวที่เชื่อถือได้มากที่สุดเกี่ยวกับนักบุญโอลกามาจาก “Primary Chronicle of Kyivan Rus” ซึ่งเป็นการรวบรวมเรื่องราวปากต่อปากที่เขียนขึ้นในศตวรรษที่ 12 อย่างไรก็ตาม ด้วยสงครามในยูเครนในปัจจุบัน การถกเถียงเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ จึงมีความโดดเด่นมากขึ้น เรื่องราวของนักบุญโอลกานี้ เป็นไปตามการตีความพงศาวดารแบบดั้งเดิมมากขึ้น

เนื่องมาจากการสู้รบกับจักรวรรดิไบแซนไทน์ (Byzantine Empire) ในศตวรรษที่ 9 ชนเผ่าต่างๆ ในยุโรปตะวันออกจึงขอความช่วยเหลือจากชาวไวกิ้งสแกนดิเนเวีย (Scandinavian Viking) ซึ่งเรียกกันว่า “ชาวรุส (The Rus)” Kyiv (บางครั้งสะกดว่า “Kiev - เคียฟ”) กลายเป็นศูนย์กลางการปกครองของชาวไวกิ้ง (Viking) ของจักรวรรดิ Kyivan Rus Empire จักรวรรดินี้ครอบคลุมถึงประเทศยูเครน🇺🇦 , ประเทศเบลารุส🇧🇾 และบางส่วนของประเทศรัสเซีย🇷🇺 ในปัจจุบัน

นักบุญโอลกามาจากเมืองปัสคอฟ (Pskov - Псков) ซึ่งปัจจุบันอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศรัสเซีย ไม่ทราบว่า ท่านเกิดที่นั่นหรือไม่ แต่เชื่อกันว่า ท่านเป็นขุนนางไวกิ้ง วันเกิดของท่านก็ไม่เป็นที่ทราบเช่นกัน เนื่องจากวันที่ในบันทึกประวัติศาสตร์ไม่ตรงกับวันที่ทางประวัติศาสตร์อื่นๆ อย่างไรก็ตาม นักประวัติศาสตร์หลายคนระบุว่า ท่านเกิดในราวปีค.ศ. 925 เมื่อท่านมีพระชนมายุ 15 ปี ท่านได้อภิเษกสมรสกับ กษัตริย์อิกอร์แห่งเคียฟ (Igor of Kiev) กษัตริย์ไวกิ้งผู้สืบทอดจักรวรรดิ Kyivan Rus

รูปภาพ
👑 กษัตริย์อิกอร์แห่งเคียฟ (Igor of Kiev) กษัตริย์ไวกิ้งผู้สืบทอดจักรวรรดิ Kyivan Rus

ในปีค.ศ. 945 อิกอร์ได้เดินทางไปยังชนเผ่าสลาฟ (Slavic) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเคียฟ ซึ่งเรียกว่า เผ่าเดรฟเลียน (Drevlians) เพื่อเรียกร้องภาษีจำนวนมหาศาล ชาวเดรฟเลียนไม่ต้องการสงคราม จึงยอมจ่ายภาษีทั้งหมดเท่าที่ขอ อย่างไรก็ตาม ขณะเดินทางกลับเคียฟ อิกอร์ตัดสินใจว่า ต้องการเงินจากชาวเดรฟเลียนมากกว่านี้ เนื่องจากเขาไม่ค่อยมีความรู้มากนัก เขาจึงกลับไปยังชนเผ่าและเรียกร้องให้พวกเขาเพิ่มภาษีให้ ชนเผ่าจึงก่อกบฏ และสังหารอิกอร์ด้วยการฉีกร่างของเขาออกเป็นชิ้นๆ

เนื่องจากลูกชายคนเดียวของพวกเขา Sviatoslav อายุเพียง 3 ขวบ นักบุญโอลกาจึงได้กลายมาเป็น “ราชินีนาถ (Queen Regent)” ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มอบให้กับราชวงศ์จนกว่าผู้สืบทอดบัลลังก์จะมีอายุมากพอที่จะปกครองได้ เจ้าชาย Mal แห่งเดรฟเลียนมองเห็นโอกาสที่จะแต่งงานกับนักบุญโอลกา และยึดครองจักรวรรดิเคียฟรุส เขาคิดว่า ท่านคงจะกลัวและไม่เต็มใจที่จะปกครองจักรวรรดิที่กว้างใหญ่และอันตรายเช่นนี้ตามลำพัง เขาเชื่อว่า ท่านจะยินดีต้อนรับเขาในฐานะพระสวามีคนต่อไปที่จะปกครองแทนท่าน และหลังจากแต่งงานกับท่านแล้ว เขาก็สามารถกำจัดลูกชายของเธอได้อย่างง่ายดาย

รูปภาพ
🤴 Sviatoslav ลูกชายของนักบุญโอลกา กับ กษัตริย์อิกอร์แห่งเคียฟ (Igor of Kiev)

เจ้าชาย Mal ส่งหัวหน้าเผ่า 20 คนไปเสนอขอแต่งงานกับนักบุญโอลกา ท่านกริ้วมากกับคำขอที่ไร้ซึ้งความเกรงใจเช่นนี้ แต่ก็ปิดบังความรู้สึกของตัวท่านเอาไว้ ท่านต้อนรับบรรดาหัวหน้าเผ่าเข้าไปในราชสำนักด้วยความประจบประแจง ท่านยืนกรานว่า พวกเขาควรกลับไปที่เรือของพวกเขาเอง และในเช้าวันรุ่งขึ้น ประชาชนของท่านจะพาพวกเขาไปด้วยเรือล่องตามถนนในเมือง โดยรับรองว่า จะเคารพความปรารถนาของเจ้าชาย Mal บรรดาหัวหน้าเผ่าคิดว่า นักบุญโอลกาทำด้วยความจริงใจ จึงทำตามที่ท่านต้องการ

ตลอดเวลาของคืนนั้น นักบุญโอลกาทรงรับสั่งให้คนของท่านขุดคูน้ำขนาดใหญ่แบบลับๆ เมื่อฟ้าสว่างขึ้น หัวหน้าเผ่าเดรฟเลียนก็ถูกยกขึ้นด้วยเรือและแห่ไปรอบเมืองในขณะที่คนต่างตะโกนแสดงความเห็นชอบ เมื่อพวกเขามาถึงศาล เรือก็ถูกวางไว้ในคูน้ำ ชาวเดรฟเลียนตกใจมากเมื่อรู้ว่า พวกตนถูกทรยศ นักบุญโอลกาได้ออกคำสั่ง และพวกเขาทั้งหมดถูกฝังทั้งเป็น

นักบุญโอลกายังคงวางแผนร้ายต่อชาวเดรฟเลียน จนกระทั่งท่านสามารถบดขยี้เผ่านี้ได้หมดสิ้น ไม่นานข่าวคราวเกี่ยวกับความฉลาดหลักแหลมของท่านก็แพร่กระจายออกไป แม้ว่าท่านจะโหดร้ายกับบรรดาศัตรู แต่ท่านก็เป็นผู้ปกครองที่ยุติธรรมเหนือประชาชนของท่าน ท่านรวมอำนาจ รวมถึงจัดระเบียบรัฐบาล และทำให้ขุนนางต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของพวกเขามากขึ้น

ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 950 ท่านเสด็จไปยังกรุงคอนสแตนติโนเปิล (Constantinople) และเข้าเฝ้าจักรพรรดิไบแซนไทน์ กษัตริย์คอนสแตนตินที่ 7 - Constantine VII (ค.ศ. 913-959) เมื่อทรงเห็นโอกาสที่จะยึดครองจักรสรรดิ Kyivan Rus ได้โดยสันติ กษัตริย์คอนสแตนตินจึงขออภิเษกสมรส แต่ท่านทรงปฏิเสธอย่างมีน้ำใจ โดยทรงชี้แจงให้กษัตริย์คอนสแตนตินทราบว่า พระองค์ยังคงเป็นลัทธิเพแกน ดังนั้น กษัตริย์คอนสแตนตินจึงทรงสอนศาสนาแก่ท่าน และกลายมาเป็นพ่อทูนหัวของท่าน กษัตริย์คอนสแตนตินขออภิเษกสมรสกับท่านอีกครั้ง แต่พระนางปฏิเสธ โดยทรงยืนยันว่า ในพระศาสนจักร พระองค์ไม่สามารถแต่งงานกับพ่อทูนหัวของพระนางได้ แทนที่จะโกรธที่เขาถูกหลอก เขากลับประทับใจในความเฉลียวฉลาดของท่าน เนื่องจากความสัมพันธ์ครั้งใหม่นี้ อาณาจักรของท่านจึงยังคงสงบสุข

รูปภาพ
👑 กษัตริย์คอนสแตนตินที่ 7 - Constantine VII (ค.ศ. 913-959) จักรพรรดิไบแซนไทน์

แม้ว่าแรงจูงใจของนักบุญโอลกา ที่จะรับศีลล้างบาป อาจเป็นเพื่อปกป้องอำนาจของท่าน แต่ด้วยพระหรรษทานที่ได้รับจากการรับศีลล้างบาปนั้นได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของท่าน ท่านกลายเป็นผู้ศรัทธาอย่างแท้จริง มีความรักอย่างแรงกล้าต่อพระเยซูและพระศาสนจักร (การกลับใจของท่านเกิดขึ้นก่อนการสังฆเภทคาทอลิกและอีสเทิร์นออร์โธด็อกซ์ ค.ศ.1054 (Great Schism of 1054) ซึ่งแบ่งแยกไบแซนไทน์ (Byzantine) จากคาทอลิก (Catholic) บางครั้งนี่อาจเป็นจุดโต้แย้งในคำวิจารณ์ปัจจุบัน แต่ก็ชัดเจนว่า พระศาสนจักรไม่ได้ถูกแบ่งแยกในช่วงชีวิตของท่าน นั่นหมายความว่า นักบุญโอลกา เป็นเหมือนกับคริสตชนทุกคนในสมัยนั้นคือ เป็นคริสตชนคาทอลิก)

รูปภาพ
⚡️ การสังฆเภทคาทอลิกและอีสเทิร์นออร์โธด็อกซ์ ค.ศ.1054 (Great Schism of 1054) ซึ่งแบ่งแยกไบแซนไทน์ (Byzantine) จากคาทอลิก (Catholic)

ท่านเดินทางกลับมายังเคียฟด้วยใจที่อยากจะนำพระวรสารมาบอกเล่าแก่ประชาชนของท่าน โดยเฉพาะกับ Sviatoslav ลูกชายของท่าน อย่างไรก็ตาม ลูกของท่านกลับดูถูกความเชื่อใหม่ของนักบุญโอลกา โดยกล่าวว่า ท่านเป็นคนโง่เขลา เขาปฏิเสธที่จะนับถือศาสนาคริสต์ เพราะกลัวว่า คนอื่นจะคิดอย่างไร หากเขาเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเขาจะไม่ได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ แต่เขาก็ตกลงที่จะไม่ข่มเหงคริสตชนเมื่อขึ้นเป็นกษัตริย์

นักบุญโอลกาไม่คิดที่จะเลิก หรือปฏิเสธศรัทธาของท่าน แม้ว่า Sviatoslav จะดูถูกศาสนาคริสต์ ท่านเป็นคนยุติธรรมและซื่อสัตย์ในกิจการของบ้านเมือง รับใช้คนยากจน และสร้างวัด ท่านขอร้องให้กษัตริย์ Frankish (ซึ่งต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ - Holy Roman Emperor) กษัตริย์ออทโทมหาราช - Otto the Great (ค.ศ. 936-973) ส่งมิชชันนารีไปที่เคียฟ ท่านผิดหวังที่มิชชันนารีเหล่านั้นไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม ความซื่อสัตย์และคุณธรรมของท่านทำให้ทุกคนที่รู้จักท่านประทับใจ โดยเฉพาะบรรดาพระราชนัดดา (หลาน) ของท่าน

รูปภาพ
👑 กษัตริย์ Frankish (ซึ่งต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ - Holy Roman Emperor) กษัตริย์ออทโทมหาราช - Otto the Great (ค.ศ. 936-973)

นักบุญโอลกาสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 969 วลาดิมีร์ที่ 1 (Vladimir I) พระราชนัดดาของท่านขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 980 ประมาณ 10 ปีต่อมา และเมื่อพระศาสนจักรยังคงรวมเป็นหนึ่ง พระองค์ก็ทรงกลับใจไปนับถือศาสนาคริสต์ พระวรสารถูกเผยแพร่หลายไปทั่วจักรวรรดิ Kyivan Rus

นักบุญโอลกาเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของผู้กลับใจเปลี่ยนศาสนาและบรรดาหญิงม่าย ท่านได้รับการเคารพนับถือเป็นพิเศษในประเทศยูเครน วันฉลองของท่าน คือ วันที่ 11 กรกฎาคม ของทุกปี

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

CR. : https://www.catholicidaho.org/post/saint-olga-of-kyiv

ปล. หากมีการแปลผิดพลาดประการใด หรือข้อมูลผิดพลาด แอดมินก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #นักบุญโอลกาแห่งเคียฟ #นักบุญโอลกา #เคียฟ #ยูเครน #ชีวประวัติ #ประวัติศาสตร์ #จักรวรรดิไบแซนไทน์ #ไบแซนไทน์ #เบลารุส #รัสเซีย #ชาวรุส #ไวกิ้งสแกนดิเนเวีย #ไวกิ้ง #สลาฟ #จักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ #สังฆเภทคาทอลิกและอีสเทิร์นออร์โธด็อกซ์ #พระวรสาร #กลับใจ #ศาสนาคริสต์ #แม่หม้าย #หญิงหม้าย #หม้าย #พระศาสนจักร #catholic #SaintOlgaOfKiev #SaintOlga #kiev #ukraine #ByzantineEmpire #byzantine #belarus #russia #ScandinavianViking #viking #slavic #drevlians #HolyRomanEmperor #GreatSchismOf1054

CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/BFHLih ... tid=WC7FNe
Yan Agape
โพสต์: 1516
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

พุธ ส.ค. 07, 2024 1:54 am

ขอบคุณครับ 😊👍👏
ตอบกลับโพส