เมื่อมีคนบอกว่า “การสวดภาวนาให้ผู้เสียชีวิตตามธรรมเนียมของคาทอลิกนั้นไม่เป็นไปตามหลักพระคัมภีร์”
การปฏิบัตินี้ไม่เพียงแต่เป็นของนิกายโรมันคาทอลิกเท่านั้น แต่ยังเป็นไปตามหลักพระคัมภีร์อีกด้วย
ประการแรก ไม่ใช่แค่คริสตชนคาทอลิกเท่านั้นที่สวดภาวนาผู้เสียชีวิต ยกเว้นในนิกายโปรเตสแตนต์ การสวดภาวนาขอคนตายเป็นสากลในหมู่คริสตชน ยิ่งไปกว่านั้น ชาวยิวสวดภาวนาให้ผู้เสียชีวิตมาตั้งแต่ก่อนยุคพระคริสต์ และยังคงสวดภาวนาอยู่จนถึงปัจจุบัน
ในพระคัมภีร์ ยูดาส (Judah) , มัคคาบี (Maccabee) และพวกของเขาได้ไปเก็บศพ เมื่อพวกเขาพบว่า ศพเหล่านั้นสวมเครื่องรางรูปเคารพของคนต่างศาสนา ดังนั้น “เขาอธิษฐานภาวนาวอนขอพระเจ้าให้ทรงลบล้างบาปให้หมดสิ้น” (2 มัคคาบี 12:42)
+ เขาอธิษฐานภาวนาวอนขอพระเจ้าให้ทรงลบล้างบาปให้หมดสิ้น ยูดาสผู้ทรงศักดิ์เตือนบรรดาทหารให้รักษาตนให้พ้นจากบาป เขาทั้งหลายได้เห็นกับตาแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้ที่ตายเพราะได้ทำบาป - 2 มัคคาบี 12:42 การถวายบูชาอุทิศแก่ผู้ล่วงลับ
คริสตชนโปรเตสแตนต์อาจไม่ถือว่า ข้อความนี้เป็นพระคัมภีร์ แต่คริสตชนคาทอลิกถือว่าเป็นเช่นนั้น และดังนั้นจึงเป็นเรื่องถูกต้องที่พวกเขาจะอ้างอิงถึงข้อความนี้ได้ ไม่ว่าใครจะมองว่า ข้อความนี้เป็นพระคัมภีร์หรือไม่ก็ตาม ข้อความนี้ถือเป็นหลักฐานของการสวดภาวนาให้ผู้เสียชีวิตในหมู่ชาวยิวก่อนสมัยพระคริสต์ และชาวยิวยังคงสวดภาวนาให้ผู้เสียชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้บทภาวนาที่เรียกว่า “קַדִּישׁ יָתוֹם (คัดดิชของผู้ไว้ทุกข์ - Mourner’s Kaddish)”
ในพันธสัญญาใหม่ยังมีตัวอย่างที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับการสวดภาวนาให้ผู้เสียชีวิต หลังจากสวดภาวนาเผื่อครอบครัวของชายคนหนึ่งชื่อ “โอเนสิโฟรัส (Onesiphorus)” แล้ว “นักบุญเปาโล (Saint Paul)” ก็สวดภาวนาต่อไปว่า “ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดให้เขาได้รับพระเมตตาของพระองค์ในวันนั้นเถิด” (2 ทิโมธี 1:18) นักบุญเปาโลกล่าวถึง “ครอบครัวของโอเนสิโฟรัส” 2 ครั้ง (2 ทิโมธี 1:16, 4:19) แต่ไม่ได้ทักทายเขาพร้อมกับคนอื่นๆในครอบครัว และพูดถึงเขาเพียงในรูปอดีตกาลเท่านั้น นักวิชาการหลายคนสรุปว่า โอเนสิโฟรัสได้เสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นนักบุญเปาโลจึงกำลังสวดภาวนาให้ผู้เสียชีวิต
+ ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดให้เขาได้รับพระเมตตาของพระองค์ในวันนั้นเถิด ท่านรู้ดีว่า เขาช่วยเหลือข้าพเจ้ามากเพียงใดเมื่ออยู่ที่เมืองเอเฟซัส - 2 ทิโมธี 1:18 พระพรพิเศษที่ทิโมธีได้รับ
+ ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานพระเมตตาต่อครอบครัวของโอเนสิโฟรัส เพราะเขาให้กำลังใจข้าพเจ้าบ่อยๆ และเขาไม่เคยอายเลยที่ข้าพเจ้าต้องถูกจองจำ - 2 ทิโมธี 1:16 พระพรพิเศษที่ทิโมธีได้รับ
+ ขอฝากความคิดถึงปริสคา อาควิลลา และครอบครัวของโอเนสิโฟรัส - 2 ทิโมธี 4:19 คำอำลาและคำอวยพร
คริสตชนโปรเตสแตนต์จำนวนมากก็สวดภาวนาขอพระเจ้าให้ผู้เสียชีวิตที่ไปอย่างไม่ตั้งใจเช่นกัน นักปกป้องศาสนานิกายโปรเตสแตนต์ “ไคลฟ์ สเตเปิลส์ ลูอิส (Clive Staples Lewis)” เขียนไว้ว่า “แน่นอนว่า ข้าพเจ้าสวดภาวนาให้คนตาย การกระทำนี้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ แทบจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย จนกระทั่งมีเพียงเหตุผลทางศาสนศาสตร์ (เทววิทยา) ที่หนักแน่นที่สุดเท่านั้นที่จะยับยั้งข้าพเจ้าได้... ในยุคสมัยของเรา คนที่เรารักที่สุดส่วนใหญ่ก็ตายไปแล้ว ข้าพเจ้าจะมีปฏิสัมพันธ์กับพระเจ้าได้อย่างไร หากสิ่งที่ข้าพเจ้ารักที่สุดกลับไม่ทรงเอ่ยถึง” (จดหมายถึงมัลคอล์ม (Letters to Malcolm): หลักสำคัญว่าด้วยการอธิษฐาน (Chiefly on Prayer), 107)
เป็นสัญชาตญาณตามธรรมชาติของมนุษย์ที่จะอธิษฐานให้คนที่เรารัก แม้ว่าพวกเขาจะจากโลกนี้ไปแล้วก็ตาม
#คริสต์ #คาทอลิก #คริสต์ศรัทธา #สวดภาวนา #ผู้เสียชีวิต #ผู้ล่วงหลับ #ผู้ตาย #พระคัมภีร์ #คริสตชน #คริสตัง #คริสเตียน #catholic
CR. : คริสต์ศรัทธา
https://www.facebook.com/share/p/1CXkTZkgds/

